ผู้เขียน หัวข้อ: อยากทราบปัญหา mazda 2 ดีเซล ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้างครับ  (อ่าน 28145 ครั้ง)

ออฟไลน์ meeuwarn

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 938
ตอบแบบตรงๆนะ ถ้าซื้อตอนนี้คงต้องเลื่ยง ดีเซลไปก่อน

ดูอัตราการกินน้ำมันที่ทดสอบโดยทีมงานwebนี้ ดูค่าน้ำมันที่ต้องจ่ายต่อระยะทาง ดีเซล น่าจะจ่ายมากกว่านิดๆหรือพอๆกัน

และส่วนต่างราคาเป็นแสน ถุงลมก็แค่2ใบเท่ากัน

ซื้อ เบนชิล ครับ จบๆ

ออฟไลน์ joufo

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,254
ขอบคุณครับ
ผมเข้าใจผิดว่า รถที่ต้องเติม AdBlue เป็นมาตรฐาน ยูโร5 มาตลอดเลย

ถ้าเครื่องดีเซล Benz ปัจจุบันทั้ง OM651, OM654 ที่เติม AdBlue ตาม VIN ระบุเป็น Euro 6 ละครับ ก็น่าจะเหมือน Audi หรือเปล่าไม่แน่ใจ

ส่วน BMW เป็นดีเซล Euro 5 มี DPF แต่ยังไม่ต้องเปลืองค่า AdBlue ทาง Volvo ก็น่าจะเหมือน BMW ไม่ต้องมี AdBlue

เอาจริงๆ มาด้าไทยเองก็คงไม่กล้าประกาศหรอกครับว่า รถเครื่องดีเซลตัวเองเป็นเครื่อง ยูโร 6 แล้ว
ต้องหาน้ำมัน ยูโร 6 หรือ อย่างน้อยก็ต้อง ยูโร 5 เติม
แม้แต่ในคู่มือรถก็ไม่ยอมระบุ
บอกแค่ว่า เครื่องยนต์มาตรฐานไอเสีย ยูโร6 ให้เติมนำมัน "ดีเซล" เฉยๆ
ถ้าบอกแค่ "ดีเซล" เฉยๆ ก็แปลว่าเติมดีเซลอะไรก็ได้ เครื่องยนต์ไม่พังแน่นอน


ถ้ามาสด้าไทยประกาศไปต้องเติมน้ำมันพรีเมี่ยม หรือ อย่างน้อยยูโร 5 นะ ก็ไม่มีใครซื้อแน่นอน
ทุกคนก็จะคิดว่า ซื้อมาก็เปลืองเงินค่าน้ำมัน เพราะต้องหาน้ำมันที่แพงกว่าปกติเติม
รถก็ขายไม่ออก ยอดตก โดนบริษัทแม่ที่ฮิโรชิม่าด่า

ผมไปเดินเล่นมอเตอร์ เอ็กซ์โป ที่ผ่านมา ก็เห็นพริตตี้ พรีเซ็นท์ว่า ใช้เครื่องยนต์เทคโนโลยีเดียวกับรถยุโรปหรู
แต่ก็ไม่ยอมบอกว่า คุณก็ต้องเติมน้ำมันหรูด้วยนะ



ไปดูฝั่งรถยุโรปหรู ผมเห็น E Estate ตัวใหม่ก็ยังใช้เครื่องยนต์ ยูโร 5 กันอยู่เลย (มีช่องเติม Add Blue)
มาสด้าเอง ไม่มีเครื่องยนต์ยูโร 5 อยู่ในมือ ก็คงทำอะไรมากไม่ได้ หรือจะแก้ไขให้มีช่องเติม Add Blue ก็คงไม่ได้
ก็คงได้แต่ตีหน้ามึนไปวันๆ ว่า รถไม่ผิด คนซื้อนั่นแหละผิด ที่ไม่ยอมเติมน้ำมันยูโร 6 เอง

หละมั้งครับ

ออฟไลน์ yumenowinds

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 226
    • อีเมล์
ซื้อรถทั้งที ยังต้องมาเลือกเติมน้ำมัน ปวดหัว