ผู้เขียน หัวข้อ: อยากทราบปัญหา mazda 2 ดีเซล ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้างครับ  (อ่าน 28148 ครั้ง)

ออฟไลน์ oak_s

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 89
ที่เห็นว่าเครื่องสั่นกันหลายคัน น่าจะหลักร้อยแล้วที่เจอ ตอนแรกเห็นรุ่นที่มีปัญหาคือ 2015-2106 แค่ล่าสุดเหมือนจะมีคนที่เพิ่งออกปี 2017 ก็เจอปัญหาเหมือนกันครับ พี่ๆในนี้ใครมีข้อมูลมาแชร์กันบ้างนะครับ

ปล.ผมก็สนใจตัวดีเซลอยู่มาก ตอนแรกตั้งใจจะออกปีหน้าอยู่เหมือนกัน เลยต้องรออยู่ทรงก่อนละครับ ถามพี่ๆอีกนิดครับ อาการแบบนี้ยังน่าเล่นอยู่มั้ยครับ แล้วควรได้ส่วนลดเท่าไหรดีครับ

ออฟไลน์ boyyyy

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 383
ถ้ารถเก๋งอะไรก็ได้ที่เป็นเครื่องเบ็นซินสบายใจกว่าครับ

ดีเซลแรงเพราะเทอร์โบช่วยแค่นั้นเองครับ

 แต่ถ้าอยู่ ตจว.เอา M2D ไม่ค่อยมีปัญหาครับ

ถ้าใช้ในเมืองอุด EGR หรือ ใช้ดีเซลปั้มนอกไว้ครับ

ออฟไลน์ oak_s

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 89
ถ้ารถเก๋งอะไรก็ได้ที่เป็นเครื่องเบ็นซินสบายใจกว่าครับ

ดีเซลแรงเพราะเทอร์โบช่วยแค่นั้นเองครับ

 แต่ถ้าอยู่ ตจว.เอา M2D ไม่ค่อยมีปัญหาครับ

ถ้าใช้ในเมืองอุด EGR หรือ ใช้ดีเซลปั้มนอกไว้ครับ
ปัญหาจริงๆมันมีแค่เขม่าที่ไปอุดตันเท่านั้นใช่มั้ยครับ? ถ้าแค่นั้นผมไม่มีปัญหาเพราะพอเข้าใจอยู่ว่าต้องทำอย่างไร
ว่าแต่ ดีเซลปั้มนอก คืออะไรหรอครับ?

ออฟไลน์ xman2029

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,350
    • อีเมล์
เติมพวกปั้ม หอย ปั้มดาว ไงครับท่าน
ส่วนตัวมีโครงการจะออก 1.5d เหมือนกันถ้า mazda th ไม่ขยับหรือทำอะไรกับปัญหานี้ก็คงไป 1.3 แทน

ออฟไลน์ Symphonic

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,704
ถ้ารถเก๋งอะไรก็ได้ที่เป็นเครื่องเบ็นซินสบายใจกว่าครับ

ดีเซลแรงเพราะเทอร์โบช่วยแค่นั้นเองครับ

 แต่ถ้าอยู่ ตจว.เอา M2D ไม่ค่อยมีปัญหาครับ

ถ้าใช้ในเมืองอุด EGR หรือ ใช้ดีเซลปั้มนอกไว้ครับ
ปัญหาจริงๆมันมีแค่เขม่าที่ไปอุดตันเท่านั้นใช่มั้ยครับ? ถ้าแค่นั้นผมไม่มีปัญหาเพราะพอเข้าใจอยู่ว่าต้องทำอย่างไร
ว่าแต่ ดีเซลปั้มนอก คืออะไรหรอครับ?

ดีเซลปั๊มนอก น่าจะหมายถึงน้ำมันยี่ห้อที่ไม่ใช่ของไทยแหละครับ

แตว่าเครื่องสกายนี่มันอุด EGR ได้ด้วยเหรอครับ เคยอ่านมาว่า
เครื่องมันกำลังอัดต่ำมาก ต้องเอาไอเสียร้อนๆ กลับมาล่อให้
ไอดีเซลในไซเคิลถัดไปมันร้อนพอที่จะระเบิดเองได้อ่ะครับ

ออฟไลน์ Mos37257

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 682
    • อีเมล์
เหมือนกับเบ้น บีเอ็ม เติมดีเซลปัั้มนอก กระมังครับ

ออฟไลน์ oak_s

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 89
อ่อครับ ผมก็หาดีเซลปั้มนอกในกูเกิ้ล ไปเจอติดปั้มติ๊กเพิ่ม 55555

ออฟไลน์ pingpong

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 49
เป็นผมคงเลี่ยงเครื่องดีเซลของ Mazda ไปก่อน การที่ต้องเติมดีเซล premium ตลอดดูเหมือนเป็นการผลักภาระมาให้คนใช้ไปหน่อย แสดงว่าเครื่องออกแบบไม่เหมาะกับสภาพการใช้งานในไทย อีกอย่างตอนนี้เริ่มคิดว่า Mazda ควรรับผิดชอบมากกว่านี้ด้วย

ออฟไลน์ 12345678910

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 251
ลองไปอ่านในกลุ่มนี้ครับ เป็นกลุ่มที่รบรวบปัญหาของรถมาสด้าครับ

https://www.facebook.com/groups/1850077688582639/?hc_location=ufi

ออฟไลน์ dt9

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 831
    • อีเมล์
ใช้รถเก๋งดีเซล 3 รุ่น ปัญหาเยอะกว่าเพื่อนที่ใช้เบนซินจริงๆ

ออฟไลน์ MyName

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 8,145
  • I'm............................
ตอนนี้กลายเป็นว่า คนยิ่งเจอเรื่อยๆ แต่ MST ยังกลับนิ่งเฉย หนำซ้ำยังออกจดหมายว่าไม่ได้เกิดจากผลิตภัณฑ์​มาอีก (ตอนแรกเป็นแต่สื่อลงไม่มีจั่วหัวใดๆ ก็คิดว่าของปลอม ในกลุ่มเอาของจริงมีตราพร้อมลายเซ็นผู้บริหาร​มาลงเลย)​ แต่ในขณะเดียวกัน​ สิ่งที่ MST พยายามทำอยู่ตอนนี้
- เคลมอะไหล่ที่มีปัญหาเป็นเคสๆ เป็นครั้งคราวไป เสียมาเปลี่ยน เสียมาอีกเปลี่ยนอีก วิเคราะห์​เจออะไรเปลี่ยน ไม่ใช่ก็เปลี่ยนอีก สปริงวาล์วก็ดี หัวฉีดก็ดี อื่นๆ
ก็ดี ไม่จบไม่สิ้น จบสิ้นก็ต่อเมื่อหมดประกัน
- ในจดหมายเดียวกัน บอกเอาไปเช็คได้หากไม่สบายใจ คำถามคือ... ยังไม่เกิดอาการจะให้เช็คอะไร?
- ปล่อยอัพเดตซอฟแวร์ ECU​ เพื่อเหตุผลบางอย่างเกี่ยวกับอาการ ซึ่งมีทั้งคันที่อัพแล้วเจออีก อัพแล้วยังไม่เจอ หรืออัพแล้วรู้สึกขับดีขึ้นก็มีเช่นรถผม
และมีแค่ประมาณ​นี้แหละครับ
ถ้าจะบอกว่ารถแบบไหนเข้าข่ายบ้างที่จะเจอ เมื่อก่อนยังว่าเป็นแต่รถที่ขับในเมือง เขม่าไม่ค่อยได้เผา แต่ตอนนี้เจอเยอะจนจับจุดไม่ถูกแล้วครับ สาเหตุใครฟันธงได้บ้างก็ยังตอบไม่ได้ ทำได้แค่ "เลี้ยงไข้" คือเติมน้ำมันปั๊มคุณภาพดีมาก ซึ่งก็ไม่ใช่วิธีที่ควรทำอีกเพราะไม่ใช่เรื่องเลยที่รถคันนึงจะต้องจุกจิกอะไรกับการทานแต่ของพรีเมี่ยมดีขนาดนั้น หรือการจูนปิด EGR นั่นก็ยังไม่คอนเฟิร์ม 100% ว่าจะหายจริงมั้ย หายจริงแล้วจะเจออะไรอีกมั้ย ถ้าไม่หายหรือเจออาการอื่น MST จะรับผิดชอบมั้ยเพราะดัดแปลง นี่ยังไม่นับเรื่องใหม่ที่ต้องมาเฝ้าระวังน้ำมันเครื่องเกินระดับขีด MAX จนถึง X อีก

ของผม 1 ปี 4 เดือน 35,xxx km. ยังไม่เจออาการสั่น แต่เจออาการอย่างอื่นคือไฟ Engine โชว์พร้อมไฟ TCS แล้วรถเร่งไม่ขึ้นคล้ายกับรอบถูกล็อคไว้ อันนี้จะต่างจากอาการสั่นที่เจอกันคือเหล่านั้นรถสั่นและเร่งไม่ออกประมาณ 100-120 km/h แต่รถผมนี่ ล็อครอบไว้ ความเร็วทำได้ดีสุดก็แค่ 75 km/h แค่นั้นเลย ตอนผ่อนมีกระตุกบ้าง แต่ยังไม่สั่น ศูนย์ก็ยกเครื่องเคลมเทอร์โบ​ไปแล้วรอบนึง ปัจจุบันยังเป็นอีกครับ คงหลังปีใหม่ได้เจอหน้ากันอีกแล้วศูนย์ปีนี้ไม่มีเวลาไปแล้ว

บอกตามตรงว่า พอเจอเคสใหญ่ๆ แบบนี้ ส่วนตัวแอบหมดความเชื่อมั่นในบริการหลังการขายยี่ห้อนี้อยู่บ้างแล้วนะ ทั้งที่ชอบรถมาก อัตราเร่งดี (ข้อนี้ได้ใช้เลย เพราะถ้าไม่ใ้ช้คงเอาเบนซิน 1.3 แต่แรก) คล่องตัว ขับง่าย แต่ handling ก็ดีในระดับที่รถแค่นี้จะให้ได้ และประหยัดมากกกกก ติดที่แคบสำหรับคนหลัง (ที่ไม่ค่อยได้ใช้)​ และพอมาเจออะไรแบบนี้ ก็ไม่กล้าแนะนำ Mazda ให้ใครต่อใครเหมือนกันนะ คนที่มาถามก็ลอกตรงๆ เลยว่ารถดี แต่เจอไรแบบนี้ก็เล่นเอาปวดหัวอยู่ไม่น้อย
Cars
2022 - Nissan Almera 1.0 Turbo VL
2016 - Mazda 2 1.5XD High Plus L
2008 - Mitsubishi Space Wagon 2.4 GLS Ltd. !User'Review Click here!
1997 - Daihatsu Mira

Motorcycles
2023 - Vespa Sprint S 150 i
2012 - Yamaha Mio 125 GTX

ออฟไลน์ Ex_machina

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 721
ไม่ใช่เฉพาะ mazda 2 เท่านั้นครับ
เครื่องตระกูลดีเซล skyactive มีปัญหาทั้งนั้น

ล่าสุด cx-5 ดีเซลที่ญี่ปุ่นวิ่งได้แสนโลก็เกิดปัญหากันเพียบ



เห็น mazda ไทยโทษน้ำมัน
สงสัยน้ำมันที่ญี่ปุ่นก็คงไม่ดีเหมือนกัน  >:( >:(

ออฟไลน์ nl2br

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,019
    • ร้านค้าออนไลน์
ด้วยความเคารพนะครับ อย่าเสี่ยงเลยครับ ถ้าไม่อยากปวดหัวทีหลัง
บล็อกข่าวไอทีกากๆ >> https://thaimobiletricks.blogspot.com/ << ข่าวมือถือ มือถือรุ่นใหม่

ออฟไลน์ gorilla

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,462
ตอนนี้กลายเป็นว่า คนยิ่งเจอเรื่อยๆ แต่ MST ยังกลับนิ่งเฉย หนำซ้ำยังออกจดหมายว่าไม่ได้เกิดจากผลิตภัณฑ์​มาอีก (ตอนแรกเป็นแต่สื่อลงไม่มีจั่วหัวใดๆ ก็คิดว่าของปลอม ในกลุ่มเอาของจริงมีตราพร้อมลายเซ็นผู้บริหาร​มาลงเลย)​ แต่ในขณะเดียวกัน​ สิ่งที่ MST พยายามทำอยู่ตอนนี้
- เคลมอะไหล่ที่มีปัญหาเป็นเคสๆ เป็นครั้งคราวไป เสียมาเปลี่ยน เสียมาอีกเปลี่ยนอีก วิเคราะห์​เจออะไรเปลี่ยน ไม่ใช่ก็เปลี่ยนอีก สปริงวาล์วก็ดี หัวฉีดก็ดี อื่นๆ
ก็ดี ไม่จบไม่สิ้น จบสิ้นก็ต่อเมื่อหมดประกัน
- ในจดหมายเดียวกัน บอกเอาไปเช็คได้หากไม่สบายใจ คำถามคือ... ยังไม่เกิดอาการจะให้เช็คอะไร?
- ปล่อยอัพเดตซอฟแวร์ ECU​ เพื่อเหตุผลบางอย่างเกี่ยวกับอาการ ซึ่งมีทั้งคันที่อัพแล้วเจออีก อัพแล้วยังไม่เจอ หรืออัพแล้วรู้สึกขับดีขึ้นก็มีเช่นรถผม
และมีแค่ประมาณ​นี้แหละครับ
ถ้าจะบอกว่ารถแบบไหนเข้าข่ายบ้างที่จะเจอ เมื่อก่อนยังว่าเป็นแต่รถที่ขับในเมือง เขม่าไม่ค่อยได้เผา แต่ตอนนี้เจอเยอะจนจับจุดไม่ถูกแล้วครับ สาเหตุใครฟันธงได้บ้างก็ยังตอบไม่ได้ ทำได้แค่ "เลี้ยงไข้" คือเติมน้ำมันปั๊มคุณภาพดีมาก ซึ่งก็ไม่ใช่วิธีที่ควรทำอีกเพราะไม่ใช่เรื่องเลยที่รถคันนึงจะต้องจุกจิกอะไรกับการทานแต่ของพรีเมี่ยมดีขนาดนั้น หรือการจูนปิด EGR นั่นก็ยังไม่คอนเฟิร์ม 100% ว่าจะหายจริงมั้ย หายจริงแล้วจะเจออะไรอีกมั้ย ถ้าไม่หายหรือเจออาการอื่น MST จะรับผิดชอบมั้ยเพราะดัดแปลง นี่ยังไม่นับเรื่องใหม่ที่ต้องมาเฝ้าระวังน้ำมันเครื่องเกินระดับขีด MAX จนถึง X อีก

ของผม 1 ปี 4 เดือน 35,xxx km. ยังไม่เจออาการสั่น แต่เจออาการอย่างอื่นคือไฟ Engine โชว์พร้อมไฟ TCS แล้วรถเร่งไม่ขึ้นคล้ายกับรอบถูกล็อคไว้ อันนี้จะต่างจากอาการสั่นที่เจอกันคือเหล่านั้นรถสั่นและเร่งไม่ออกประมาณ 100-120 km/h แต่รถผมนี่ ล็อครอบไว้ ความเร็วทำได้ดีสุดก็แค่ 75 km/h แค่นั้นเลย ตอนผ่อนมีกระตุกบ้าง แต่ยังไม่สั่น ศูนย์ก็ยกเครื่องเคลมเทอร์โบ​ไปแล้วรอบนึง ปัจจุบันยังเป็นอีกครับ คงหลังปีใหม่ได้เจอหน้ากันอีกแล้วศูนย์ปีนี้ไม่มีเวลาไปแล้ว

บอกตามตรงว่า พอเจอเคสใหญ่ๆ แบบนี้ ส่วนตัวแอบหมดความเชื่อมั่นในบริการหลังการขายยี่ห้อนี้อยู่บ้างแล้วนะ ทั้งที่ชอบรถมาก อัตราเร่งดี (ข้อนี้ได้ใช้เลย เพราะถ้าไม่ใ้ช้คงเอาเบนซิน 1.3 แต่แรก) คล่องตัว ขับง่าย แต่ handling ก็ดีในระดับที่รถแค่นี้จะให้ได้ และประหยัดมากกกกก ติดที่แคบสำหรับคนหลัง (ที่ไม่ค่อยได้ใช้)​ และพอมาเจออะไรแบบนี้ ก็ไม่กล้าแนะนำ Mazda ให้ใครต่อใครเหมือนกันนะ คนที่มาถามก็ลอกตรงๆ เลยว่ารถดี แต่เจอไรแบบนี้ก็เล่นเอาปวดหัวอยู่ไม่น้อย

เห็น m2 เจอปัญหาเยอะจริงๆ ก็คงตามจำนวนรถที่ขายเยอะด้วย อยากทรายว่าในรายที่เจอๆปัญหากัน ใช้น้ำมันธรรมดาหรือพรีเมี่ยมกันครับ มีการตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่องหรือเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตรงเวลากันหรือเปล่าครับ เห็นบางรายวิ่งแค่ 2-30000 โล หรือรถใหม่ๆเข้าศูนย์แทบทุกเดือน

ด้ยยความคัน ผมจอง cx-5 ดัเซลไปแล้ว ทั้งๆที่ทราบปัญหา ถ้าปัญหาพอจะแก้ได้ด้วย การเติมพรีเมี่ยม พารถไปวิ่ง เชคระดับน้ำมันเครื่อง + เปลี่ยนถ่ายเร็วขึ่น ผมไม่มีปัญหากับการดูแลตรงนร้เท่าไหร่ครับ ปกติใช้รถน้อย ปีละไม่เกิน 10000 กิโล   ถ้าปัญหามันมาจากอย่างอื่น ผมก็กลัวนะ จะได้ไปเปลี่ยนเป็นเบนซิลแทนครับ

ออฟไลน์ GOBBS

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,033
MST ยังนิ่งอยู่ครับ
จริงๆก็ไม่นิ่งหรอกครับ เล่นออกจดหมายบอกว่า รถไม่มีอะไรนะฮะ ปกติดี ....  >:(
.......
ในฐานะคนใช้อยู่ และยังตามข่าวอยู่เรื่อยๆ
ถ้าคิดเรื่อง ความมั่นใจในการใช้งาน "อย่าพึ่งซื้อ" ไปหารถที่ไม่มีข้อกังวลดีกว่าครับ
แต่ถ้าถามผม มันก็ยังซื้อได้ ถ้าคุณรับเรื่องนี้พอได้นะ
เพราะตอนมันออกมาใหม่ๆ ถ้าดูเรื่องเครื่องหรืออะไรก็แล้วแต่ใน 2 มันมีระบบใหม่ๆ มากมาย ผมว่าถ้าคนที่ชอบรถสเถียร น่าจะไม่สนนะ
เข้าใจรถ เข้าใจการขับของคุณ เลือกรถให้ถูกกับงาน แค่นั้น
...................
น้ำมัน ปั้มท์ไทย ปั้มท์นอก
ตั้งแต่ออกรถมา ผมเติมปั้มท์นอกนับครั้งได้ครับ เติมแต่บางจาก เพราะตอนนั้น บางจาก euro4 ปั้มท์นอกเนี่ย พรีเมื่ยมเท่านั้นถึง euro4
ผมใช้รุ่นแรกสุด ปี 2015 6หมื่นกว่าโล ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น และไม่อยากจะเกิด
ไม่ต้องดูหรอกครับ ว่า ใน นอก .... ดูว่า euro เท่าไหร่ เลือกสูงไว้ก่อน แค่นั้น ตอนนี้มี euro5 ถ้าหาได้ ผมก็เติม euro5
เพราะหลายคนที่มีปัญหา ก็เติมปัมท์นอกด้วยนะครับ จำได้ว่าแก๊งค์ 2 ยุคแรกเนี่ย แทบทุกคนกดพรีเมี่ยมมาตั้งแต่ออกเลยนะ
คนซื้อรถเล็กแต่แตะ 8แสนเนี่ย ไม่แคร์ส่วนต่างเท่าไหร่หรอกครับ(ยกเว้นผม 555)
....................
ส่วนตัว ผมคิดว่าปัจจัยที่เกิด มันไม่ได้เกิดมาจากปัจจัยเดียวหรอกครับ
คน กทม. เจอรถติด เขม่าตัน .... ก็เจอ ทั้งๆที่เติมพรีเมียม
คน ตจว. หาน้ำมันดีๆเติมไม่ได้ เติมพวก euro ต่ำประจำ ถึงจะวิ่งยาว ก็มีปัญหา
บางคน ไปเชื่อพวกกล่องคันเร่ง(ตอนแรกๆในคลับ เห็นเยอะนะ) รถมันจ่ายน้ำมันผิดจากที่คิด ก็มีปัญหา(บางคันตีเนียนนะ เราจำได้)
บางคน สตาร์ทแล้วก็ออก ไม่รออุ่นเครื่อง 2 เป็นรถที่อุ่นเครื่องนานกว่าเก๋งเบนซิน(นานกว่า jazz ที่ผมใช้มากกก) บางคนรีบ เครื่องเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ก่อนใช้บ่อยๆ ก็เยอะ
บางคน ไปอัด ... ก็เหมือนกระบะปลาหมึกละครับ แต่กระบะมันปล่อยออกมา มาสด้าอยู่ข้างใน .... ถ้าไม่ปรับพฤติกรรม รถคันนี้ก็ไม่เหมาะ
น้ำมัน ส่วนนึง การใช้งานส่วนนึง สภาพอากาศ การจราจรส่วนนึง ... ที่ทำให้ mazda 2  อาจจะไม่เหมาะกับใครหลายๆคนครับ
เมื่อหลายอย่างมารวมกัน มันก็เกิดขึ้นนั่นละ...รถมันเรื่องเยอะ รถมันอินดี้ครับ .... ถ้ารับได้ก็รับ(แบบผม555)
ถ้าเอาสบายใจ ไปจ่ายเงินกับค่ายอื่นเถอะครับ
.....2006 honda jazz idsi
.....2015 mazda2 skyD
..ใช้รถเท่าที่จำเป็นกันเถอะครับ...รถมันติด

ออฟไลน์ GOBBS

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,033
อีกอันนึง
อย่าไปรวมปัญหา CX5 กับ 2 นะครับ ถึงจะดีเซลเหมือนกัน
รู้สึกว่าคนละแบบ CX5 เหมือนจะอีกแบบ(ผมไม่ได้ตามคลับ cx5) ส่วน 2 ก็อีกแบบนะ
ถ้าแก้ปัญหา cx5 ได้ ก็ใช่ว่า 2 จบ ... กลับกันก็เช่นกันครับ
แต่แอบแปลกใจ cx5 ได้ยืดระยะประกันดูอาการต่อ แต่ 2 ออกแถลงการว่าปกติหนะ...
.....2006 honda jazz idsi
.....2015 mazda2 skyD
..ใช้รถเท่าที่จำเป็นกันเถอะครับ...รถมันติด

ออฟไลน์ SM.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 27,427
CX-5 เพื่อนใช้อยู่ครับ เป็น lot แรกสุด ในตอนนั้นเลย เลยได้มีโอกาสคุยกันเรื่อยๆ อยากจะบอกว่าเรื่องน้ำมัน ถ้าให้ดีต้องเติม ดีเซลตัวแพง ด้วยนะครับถึงจะดี ซึ่งก็จะแพงกว่า ดีเซลปกติ ราวๆ 3 บาท/ลิตร

แต่เคยไปเติมที่ปั๊มเจ้าตลาด ตจว เนื่องจากหาปั๊มหอยที่เติมประจำหายาก ผลคือรถดับครับ โดนไป 2 ครั้ง จากนั้นเลยต้องลาขาดกันเลยครับ กับปั๊มเจ้าตลาดเมืองไทย

อย่างไรก็ตาม Mazda ก็เคลมให้หมด และขยายระยะรับประกันให้ด้วยครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 20, 2017, 06:55:17 โดย SM. »

ออฟไลน์ NoName__???

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,144
มาสด้าประสบการณ์ยังน้อย เก๋งดีเซลเล่นพวกรถเยอรมันดีกว่า

ออฟไลน์ Ultravistra

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 60
ตอนนี้กลายเป็นว่า คนยิ่งเจอเรื่อยๆ แต่ MST ยังกลับนิ่งเฉย หนำซ้ำยังออกจดหมายว่าไม่ได้เกิดจากผลิตภัณฑ์​มาอีก (ตอนแรกเป็นแต่สื่อลงไม่มีจั่วหัวใดๆ ก็คิดว่าของปลอม ในกลุ่มเอาของจริงมีตราพร้อมลายเซ็นผู้บริหาร​มาลงเลย)​ แต่ในขณะเดียวกัน​ สิ่งที่ MST พยายามทำอยู่ตอนนี้
- เคลมอะไหล่ที่มีปัญหาเป็นเคสๆ เป็นครั้งคราวไป เสียมาเปลี่ยน เสียมาอีกเปลี่ยนอีก วิเคราะห์​เจออะไรเปลี่ยน ไม่ใช่ก็เปลี่ยนอีก สปริงวาล์วก็ดี หัวฉีดก็ดี อื่นๆ
ก็ดี ไม่จบไม่สิ้น จบสิ้นก็ต่อเมื่อหมดประกัน
- ในจดหมายเดียวกัน บอกเอาไปเช็คได้หากไม่สบายใจ คำถามคือ... ยังไม่เกิดอาการจะให้เช็คอะไร?
- ปล่อยอัพเดตซอฟแวร์ ECU​ เพื่อเหตุผลบางอย่างเกี่ยวกับอาการ ซึ่งมีทั้งคันที่อัพแล้วเจออีก อัพแล้วยังไม่เจอ หรืออัพแล้วรู้สึกขับดีขึ้นก็มีเช่นรถผม
และมีแค่ประมาณ​นี้แหละครับ
ถ้าจะบอกว่ารถแบบไหนเข้าข่ายบ้างที่จะเจอ เมื่อก่อนยังว่าเป็นแต่รถที่ขับในเมือง เขม่าไม่ค่อยได้เผา แต่ตอนนี้เจอเยอะจนจับจุดไม่ถูกแล้วครับ สาเหตุใครฟันธงได้บ้างก็ยังตอบไม่ได้ ทำได้แค่ "เลี้ยงไข้" คือเติมน้ำมันปั๊มคุณภาพดีมาก ซึ่งก็ไม่ใช่วิธีที่ควรทำอีกเพราะไม่ใช่เรื่องเลยที่รถคันนึงจะต้องจุกจิกอะไรกับการทานแต่ของพรีเมี่ยมดีขนาดนั้น หรือการจูนปิด EGR นั่นก็ยังไม่คอนเฟิร์ม 100% ว่าจะหายจริงมั้ย หายจริงแล้วจะเจออะไรอีกมั้ย ถ้าไม่หายหรือเจออาการอื่น MST จะรับผิดชอบมั้ยเพราะดัดแปลง นี่ยังไม่นับเรื่องใหม่ที่ต้องมาเฝ้าระวังน้ำมันเครื่องเกินระดับขีด MAX จนถึง X อีก

ของผม 1 ปี 4 เดือน 35,xxx km. ยังไม่เจออาการสั่น แต่เจออาการอย่างอื่นคือไฟ Engine โชว์พร้อมไฟ TCS แล้วรถเร่งไม่ขึ้นคล้ายกับรอบถูกล็อคไว้ อันนี้จะต่างจากอาการสั่นที่เจอกันคือเหล่านั้นรถสั่นและเร่งไม่ออกประมาณ 100-120 km/h แต่รถผมนี่ ล็อครอบไว้ ความเร็วทำได้ดีสุดก็แค่ 75 km/h แค่นั้นเลย ตอนผ่อนมีกระตุกบ้าง แต่ยังไม่สั่น ศูนย์ก็ยกเครื่องเคลมเทอร์โบ​ไปแล้วรอบนึง ปัจจุบันยังเป็นอีกครับ คงหลังปีใหม่ได้เจอหน้ากันอีกแล้วศูนย์ปีนี้ไม่มีเวลาไปแล้ว

บอกตามตรงว่า พอเจอเคสใหญ่ๆ แบบนี้ ส่วนตัวแอบหมดความเชื่อมั่นในบริการหลังการขายยี่ห้อนี้อยู่บ้างแล้วนะ ทั้งที่ชอบรถมาก อัตราเร่งดี (ข้อนี้ได้ใช้เลย เพราะถ้าไม่ใ้ช้คงเอาเบนซิน 1.3 แต่แรก) คล่องตัว ขับง่าย แต่ handling ก็ดีในระดับที่รถแค่นี้จะให้ได้ และประหยัดมากกกกก ติดที่แคบสำหรับคนหลัง (ที่ไม่ค่อยได้ใช้)​ และพอมาเจออะไรแบบนี้ ก็ไม่กล้าแนะนำ Mazda ให้ใครต่อใครเหมือนกันนะ คนที่มาถามก็ลอกตรงๆ เลยว่ารถดี แต่เจอไรแบบนี้ก็เล่นเอาปวดหัวอยู่ไม่น้อย

เรื่องปัจจัยภายนอกเคยย้อนทางmst ไปครั้งนึงว่า ถ้าเป็นปัจจัยภายนอก คุณยกตัวอย่างมาว่าเกิดจากอะไร เช่นน้ำมันปั๊มa เติมแล้วมีปัญหา ก็เอารถยี่ห้ออื่นมาเติมดู ทดสอบปัญหามันเหมือนกันมั้ย ถ้าเป็นเหมือนกัน โอเคยอมรับว่าน้ำมันปั๊มนี้มีปัญหา แต่ถ้าเป็นเฉพาะ mazda  อันนี้ก็เป็นที่ตัว product ทางบริษัทต้องแก้ไข

ถ้าจะต้อนศูนย์รถ ใจเย็นนิดนึง ค่อย ๆ หาคำพูดมาต้อนให้จนมุม อย่าด่ากราด

ถ้าใช้ android แนะนำโปรแกรมCall recorder อัดเสียงสนทนาไว้ด้วย

ออฟไลน์ CHANOM

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,091
ส่วนตัวตอนนี้วิ่งมาแล้ว 15000 กิโลเมตร (ออกมาเดือน พ.ย 2559)

เติม Shell V-Power ตั้งแต่ถังแรก จูนปิด EGR ไปตอน 8000 กิโลเมตร เหลืออุดอย่างเดียว (จูนเนอร์ยังไม่มาอุดให้สักที  ;D) ถามว่าตอนนี้ยังกลัวไหม ก็ในระดับนึง เพราะรถวิ่งในเมือง 95.00% และไม่รู้ว่าการจูนปิดโดยยังไม่อุด จะช่วยอะไรบ้างไหม แต่ราคาขายต่อตอนนี้ตกมาก อะไรจะเกิดก็เกิดละกันค่ะ ขายตอนไหนก็คงค่าเท่ากันแล้วแหละ 5555
In My Garage
2007 MB A180 CDI W169
2007 MB C220 CDI W203
2021 Mazda CX3 Comfort
2023 Honda Civic E-Hev RS

Sold
2016 Mazda 2 Skyactiv-D High Connect
2019 Honda HRV EL
2021 Subaru Forester IS-Eyesight

ออฟไลน์ ซวEจsิJลิJเปulnw

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 126
ของผม MY2017 น่าจะ 7 เดือน 30000 โล
ยังไม่พบปัญหาอะไรครับ

เติม V-Power Diesel ของ Shell ตลอด เคยเติมแบบธรรมดาอยู่ 5 - 6 ถังแต่ไม่ชอบ
เนื่องจากอัตราเร่งดีกว่า ลื่นกว่า ประหยัดน้ำมันกว่า Diedel ธรรมดา
และเข้าใจว่า เขม่าน้อยกว่าด้วย
สังเกตได้จาก ตอนเติม แบบ ธรรมดา ระบบเผาเขม่า จะทำงาน ประมาณถังละ 4-5 ครั้ง/ถัง
แต่ถ้า V-power จะเผาแค่ 2 ครั้ง

วิ่งใน กทม เป็นหลัก ออกต่างจังหวัด เดือนละ 2 ครั้ง
แต่ขับรอบสูงตลอด ขึ้นทางด่วนยืนพื้น 120+ โล่งๆก็ 150+

ออฟไลน์ Stp

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,537
กระทู้เรื่องนี้ผมว่าหลายคนมาช่วยแนะนำวิธีลดโอกาสการเกิดปัญหามาให้แล้วนะครับ แต่หลายคน (อีกเช่นกัน) ที่พยายามจะเลี่ยงโดยโทษแต่ตัวเครื่องยนต์

เครื่องยนต์เขาพยายามพัฒนาไปในทางของ Euro 5,6 คงเพื่อจะขายในยุโรปได้ด้วย ไม่ต้องออกแบบแยกแต่ละโซนประเทศ ทีนี้น้ำมันบ้านเราก็มีทั้งดีและห่วย แม้จะบอกว่าตัวเอง Euro 3-4 เหมือนชาวบ้านเขา แต่ความสะอาดมันไม่ได้ตามที่ควรจะเป็น ประกอบกับ Mazda 2 คนใช้ในเมืองกันเยอะ รถติดมากก็งานเข้าเพิ่มอีก อันนี้เลี่ยงไม่ได้จริงๆ

น้ำมันที่โดนปัญหากันน้อยสุดก็พวกแบรนด์ต่างประเทศ ส่วนแบรนด์ไทยเจ้านึงก็ดีมาก เติมดีเซลยุโรปยังไม่มีปัญหาเลย (รถที่มีระบบเผาเขม่า DPF เติมดีเซล vs พรีเมี่ยมใหม่ Euro 5 นี่รู้สึกได้ด้วยตัวเองเลย) ในขณะที่ไทยอีกแบรนด์ (ซึ่งก็น่าจะรู้กันอยู่) มีแต่ค่ายรถส่ายหน้า ทีนี้ก็เลือกเติมกันสิครับ

ผมไม่ค้านหรอก การซื้อรถราคาราวๆ นี้แล้วต้องเน้นเติมดีเซล Premium คนไทยคงรับไม่ได้ Mazda TH เองก็คงต้องประกาศอะไรสักอย่างให้ชัดเจนกว่านี้ แทนที่จะหวังแต่ยอดขายแล้วผลักความเดือดร้อนไปลงเจ้าหน้าที่ศูนย์บริการรับลูกค้าด่ากันไป
:D ;D ร่วมรณรงค์รักการอ่านหนังสือ แทนการถามตลอดเวลา ;D :D

ออฟไลน์ Nyquist

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,031
ก็มัันมีปัญหาที่เครื่องยนต์จริงๆนี่นา จะให้โทษแต่น้ำมันได้ไง จะไปปกป้องบริษัทรถทำไมเนี่ยไม่เข้าใจ

ออฟไลน์ Newhang

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,338
ก็มัันมีปัญหาที่เครื่องยนต์จริงๆนี่นา จะให้โทษแต่น้ำมันได้ไง จะไปปกป้องบริษัทรถทำไมเนี่ยไม่เข้าใจ
ผมเห็นด้วยกับเม้นนี้นะ
คือหลายๆคนปักใจเชื่อว่าเพราะน้ำมัน100% อย่างเดียว ทั้งที่ก็ไม่ได้ใช้รถเอง เป็นเอง เจอเอง แล้วถ้ามันไม่ใช่เพราะน้ำมันล่ะ คุณคิดว่าคนที่เจอปัญหาอยู่ตอนนี้จะรู้สึกยังไง
มันเหมือนเรามองปัญหาในชีวิตคนอื่นว่าง่ายนิดเดียว

ออฟไลน์ Jxxx

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 489

ส่วนตัว ผมคิดว่าปัจจัยที่เกิด มันไม่ได้เกิดมาจากปัจจัยเดียวหรอกครับ
คน กทม. เจอรถติด เขม่าตัน .... ก็เจอ ทั้งๆที่เติมพรีเมียม
คน ตจว. หาน้ำมันดีๆเติมไม่ได้ เติมพวก euro ต่ำประจำ ถึงจะวิ่งยาว ก็มีปัญหา
บางคน ไปเชื่อพวกกล่องคันเร่ง(ตอนแรกๆในคลับ เห็นเยอะนะ) รถมันจ่ายน้ำมันผิดจากที่คิด ก็มีปัญหา(บางคันตีเนียนนะ เราจำได้)
บางคน สตาร์ทแล้วก็ออก ไม่รออุ่นเครื่อง 2 เป็นรถที่อุ่นเครื่องนานกว่าเก๋งเบนซิน(นานกว่า jazz ที่ผมใช้มากกก) บางคนรีบ เครื่องเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ก่อนใช้บ่อยๆ ก็เยอะ
บางคน ไปอัด ... ก็เหมือนกระบะปลาหมึกละครับ แต่กระบะมันปล่อยออกมา มาสด้าอยู่ข้างใน .... ถ้าไม่ปรับพฤติกรรม รถคันนี้ก็ไม่เหมาะ
น้ำมัน ส่วนนึง การใช้งานส่วนนึง สภาพอากาศ การจราจรส่วนนึง ... ที่ทำให้ mazda 2  อาจจะไม่เหมาะกับใครหลายๆคนครับ
เมื่อหลายอย่างมารวมกัน มันก็เกิดขึ้นนั่นละ...รถมันเรื่องเยอะ รถมันอินดี้ครับ .... ถ้ารับได้ก็รับ(แบบผม555)
ถ้าเอาสบายใจ ไปจ่ายเงินกับค่ายอื่นเถอะครับ

เห็นด้วยครับ มันไม่ได้เกิดจากปัจจัยเดียว เพราะหลายอย่างทำให้เกิดเขม่าได้

อีกอันนึง
อย่าไปรวมปัญหา CX5 กับ 2 นะครับ ถึงจะดีเซลเหมือนกัน
รู้สึกว่าคนละแบบ CX5 เหมือนจะอีกแบบ(ผมไม่ได้ตามคลับ cx5) ส่วน 2 ก็อีกแบบนะ
ถ้าแก้ปัญหา cx5 ได้ ก็ใช่ว่า 2 จบ ... กลับกันก็เช่นกันครับ
แต่แอบแปลกใจ cx5 ได้ยืดระยะประกันดูอาการต่อ แต่ 2 ออกแถลงการว่าปกติหนะ...

เท่าที่อ่านดูน่าจะเกี่ยวกับการ regen DPF แล้วน้ำมันดีเซลเข้าไปในอ่าง น้ำมันเครื่องหมดสภาพ ลูกเบี้ยวสึกเป็นรอย กระเดื่องสึก (มันมี VVL ด้วย) แกนเทอร์โบไป ไม่ใช่เกิดจากเขม่าโดยตรงแบบกรณีของ 2

 
กระทู้เรื่องนี้ผมว่าหลายคนมาช่วยแนะนำวิธีลดโอกาสการเกิดปัญหามาให้แล้วนะครับ แต่หลายคน (อีกเช่นกัน) ที่พยายามจะเลี่ยงโดยโทษแต่ตัวเครื่องยนต์

เครื่องยนต์เขาพยายามพัฒนาไปในทางของ Euro 5,6 คงเพื่อจะขายในยุโรปได้ด้วย ไม่ต้องออกแบบแยกแต่ละโซนประเทศ ทีนี้น้ำมันบ้านเราก็มีทั้งดีและห่วย แม้จะบอกว่าตัวเอง Euro 3-4 เหมือนชาวบ้านเขา แต่ความสะอาดมันไม่ได้ตามที่ควรจะเป็น ประกอบกับ Mazda 2 คนใช้ในเมืองกันเยอะ รถติดมากก็งานเข้าเพิ่มอีก อันนี้เลี่ยงไม่ได้จริงๆ

น้ำมันที่โดนปัญหากันน้อยสุดก็พวกแบรนด์ต่างประเทศ ส่วนแบรนด์ไทยเจ้านึงก็ดีมาก เติมดีเซลยุโรปยังไม่มีปัญหาเลย (รถที่มีระบบเผาเขม่า DPF เติมดีเซล vs พรีเมี่ยมใหม่ Euro 5 นี่รู้สึกได้ด้วยตัวเองเลย) ในขณะที่ไทยอีกแบรนด์ (ซึ่งก็น่าจะรู้กันอยู่) มีแต่ค่ายรถส่ายหน้า ทีนี้ก็เลือกเติมกันสิครับ

ผมไม่ค้านหรอก การซื้อรถราคาราวๆ นี้แล้วต้องเน้นเติมดีเซล Premium คนไทยคงรับไม่ได้ Mazda TH เองก็คงต้องประกาศอะไรสักอย่างให้ชัดเจนกว่านี้ แทนที่จะหวังแต่ยอดขายแล้วผลักความเดือดร้อนไปลงเจ้าหน้าที่ศูนย์บริการรับลูกค้าด่ากันไป



เห็นด้วยครับ รถยุโรปเป็นกันเยอะครับ SA เค้ามัักบอกให้ลูกค้าเติมดีเซลพรีเมี่ยมกันครับ

ไม่ต้องเอาอะไรมากครับ ในบอร์ดนี้ยังเคยมีเลยครับ

ขออภัยที่ไม่ได้อัพเดทหลายวันเลยครับ พอดีติดธุระด่วนไม่ได้เปิดคอมเลยครับ

รายละเอียดหลังจากที่ได้เข้าไปคุยกับผู้จัดการศูนย์หัวหมากและคุณ Thomas ตำแหน่ง Automotive Director ของ Volvo

ทาง คุณ Thomas ได้อธิบายขั้นตอนการทำงานของเครื่องดีเซลของ Volvo ให้ผมฟังทั้งระบบ รวมถึงตัวกรองอนุภาคที่อยู่บริเวณท่อไอเสีย (The Diesel Particulate Filter- DPF)

และได้ยกเคสตัวอย่างของรถรุ่นนี้ที่ ประเทศเพื่อนบ้านเรา โดยรถมีอาการควันขาวเหมือนกันกับผม ทางคุณ Thomas ได้เช็คน้ำมันที่เติม พบว่ามีค่ากำมะถันสูงกว่าปกติ

และน้ำมันที่ ประเทศเพื่อนบ้านเรา โดยเฉพาะแถวชายแดน มีคุณภาพต่ำกว่ามาตรฐานที่รถ Volvo ระบุให้ใช้ ส่งผลให้ตัวกรองอนุภาคอากาศ (DPF) ตรวจจับสิ่งปนเปื้อนในน้ำมันได้มากกว่าน้ำมันโดยปกติทั่วไป

เมื่อ ตัว DPF กักเก็บสิ่งปนเปื้อนจนถึงปริมาณที่กำหนด ส่งผลให้แรงดันระหว่างทางเข้าและทางออกใน DPF ต่างกัน เซนเซอร์ก็สั่งการให้มีการฉีดน้ำมันเข้าไปเพื่อเผาไหม้พวกตะกอนหรือสิ่งปน เปื้อนในตัวกรองอนุภาคนี้จนกระทั่งหมด ส่งผลให้เกิดควันสีขาวออกมาอย่างที่ผมเห็น แต่ถ้าน้ำมันมีคุณภาพตามที่ Volvo ระบุให้ใช้ได้ ควันขาวจะน้อยมากหรืออาจแทบมองไม่เห็น

ซึ่ง ทางคุณThomasได้อธิบายเพิ่มว่า เมื่อไหร่กระบวนการเผาไหม้ใน DPF ถึงจะเิกิด โดยปกติแล้วจะเกิดทุกๆ 900 km. ซึ่งระยะอาจมากกว่าหรือน้อยกว่านี้ ขึ้นอยู่ที่ลักษณะการขับขี่และระยะเวลาที่ใช้รถในแต่ละครั้ง

เช่น คนที่ใช้รถในเมือง ที่มีสภาพจราจรหนาแน่นอย่างเดียวอาจจะเกิดกระบวนการเผาไหม้ได้เร็วกว่า ซึ่งกระบวนการเผาไหม้นี้แต่ละครั้งจะใช้เวลาประมาณ 7 นาที ที่ความเร็วมากกว่า 90 กิโลเมตรขึ้นไป โดยขณะที่เกิดกระบวนการเผาไหม้นี้ จะไม่มีข้อความหรือสัญลักษณ์เตือนใดๆที่จะบอกให้ผู้ขับขี่ทราบเลยว่ากระบวน การเผาไหม้ใน DPF ได้ทำงานแล้ว ยกเว้นบางคน ที่อาจจะรู้สึกถึงกำลังเครื่องยนต์ที่อาจจะดร็อปลงบ้างเล็กน้อย

เฉพาะ รถที่ส่วนใหญ่ใช้งานในเมืองหรือสภาพการจราจลติดขัด ใช้ความเร็วไม่มาก (ซึ่งคุณThomas ยกตัวอย่างว่า บริเวณสุขุมวิท) จะทำให้กระบวนการเผาไหม้ไม่เกิดขึ้น ดังนั้นเมื่อตัว DPF เต็ม จะมีข้อความเตือนว่าตัวFilterเต็ม ให้ดูในคู่มือการใช้รถ ขึ้นโชว์ที่หน้าจอข้อความบนหน้าปัท

พอเปิดดูในคู่มือคำแนะนำ เมื่อมีข้อความขึ้นเตือนว่าFilterเต็ม การแก้ไขคือให้ขับรถบนไฮเวย์ที่ความเร็วมากกว่า 90 km/h เพื่อเริ่มกระบวนการเผาไหม้ใน DPF คู่มือบอกอย่างนี้จริงๆครับ

นี่คือสิ่งที่คุณ Thomas อธิบายให้ผมฟัง....

ส่วนรถของผมอาการเกิดขึ้นตอนใช้งานไปประมาณ 700 กว่ากิโล จึงเกิดอาการควันขาวขึ้น ซึ่งทางคุณ Thomas ก็ให้เหตุผลว่าน้ำมันที่ผมได้เติมไปนั้นน่าจะไม่ได้ตามมาตรฐานของปั้มอย่าง ที่ควรจะเป็น ซึ่งเหตุผลก็อย่างที่ได้กล่าวไป

แต่เพื่อความมั่นใจ คุณThomasได้ดูดน้ำมันจากรถของผมไปจำนวน 5 ลิตร เพื่อส่งไปตรวจที่แล็ปของ Volvo ที่สวีเดน ซึ่งคุณThomasบอกว่า ที่สวีเดนนั้นมีแล็ปเฉพาะที่เอาไว้ตรวจน้ำมันจากทุกประเทศที่มีรถ Volvo จำหน่าย ซึ่งกว่าจะทราบผลก็ใช้เวลาประมาณ 2 เดือนครับ ซึ่งผลตรวจนี้จะถูกส่งไปยังปตท.ด้วยครับ

ทั้งทางคุณThomas และผู้จัดการศูนย์ ได้ให้ความมั่นใจกับผมว่า อาการที่เกิดจากรถของผมเป็นอาการปกติของรถดีเซลคอมมอลเรลที่สามารถผ่าน มาตรฐานไอเสียขั้นสูง เพื่อลดปริมาณไอเสียที่จะปล่อยออกมาจากท่อไอเสียซึ่งไม่ใช่ Volvo ยี่ห้อเดียวที่มีตัวกรองไอเสียนี้ รถดีเซลยุโรปเกือบทั้งหมดก็มีFilterแบบนี้อยู่ ซึ่งอาจแตกต่างกันไปตามการออกแบบของรถแต่ละยี่ห้อ

และยังให้ความมั่น ใจกับผมว่า อาการควันขาวและกลิ่นเห็นมไหม้เหล่านี้จะหมดไป ถ้าผมใช้น้ำมันที่มีคุณภาพตามมาตรฐานที่ควรจะเป็น ซึ่งในที่นี้ทางคุณThomasได้แนะนำให้ผมลองใช้ Shell ครับ

ทางVolvo สรุปว่า อาการควันขาวและกลิ่นไหม้ที่ผมเจอนั้น น่าจะเกิดจากการที่ผมเติมน้ำมันที่คุณภาพไม่ได้มาตรฐาน และทางVolvoสวีเดนและ Volvoประเทศไทย ได้รับทราบปัญหาที่เกิดกับรถของผมแล้ว และให้ความมั่นใจว่าผมสามารถใช้งานรถได้ตามปกติและปลอดภัย

ก่อนจบ การพูดคุยผมได้ขอให้ทาง Volvo ออกเอกสารรับรองปัญหาที่เกิดกับรถผม ว่าจะไม่เกิดอันตราย ถ้าผมนำรถไปใช้ ซึ่งทางคุณผู้จัดการก็รับปากว่าจะออกเอกสารให้ครับ

และช่วงเย็นที่ ผ่านมา หลังจากที่ได้โทรศัพท์คุยกับผู้จัดการศูนย์ ว่าผมจะไปรับรถมาลองใช้ในวันพรุ่งนี้ ทางผู้จัดการยังให้ความมั่นใจว่า ถ้าเปลี่ยนน้ำมันที่เติมอาการเหล่านี้จะหายไป แต่ถ้ายังมีอาการเกิดขึ้นอีก ให้นำรถมาจอดทิ้งไว้ที่ศูนย์ได้เลย

พร้อมกันนี้ Volvo ได้เติมน้ำมัน Shell Power Diesel ให้ผมเต็มถัง เพื่อให้ลองนำไปใช้งานเพื่อให้เห็นว่าจะไม่เกิดปัญหาควันขาวและกลิ่นไหม้อีก อันนี้ขอขอบคุณทาง Volvo มา ณ ที่นี้ด้วยครับ

ในระหว่างนี้ทางผมก็ จะลองใช้งานรถในสภาพการใช้งานปกติและจะเติมเฉพาะน้ำมันตามที่คุณ Thomas ได้แนะนำมา ซึ่งผมจะทำการเก็บใบเสร็จการเติมน้ำมัน พร้อมทั้งถ่ายรูปไมล์รถที่ใช้งานคู่กัน ไว้เป็นหลักฐานทุกครั้ง พร้อมทั้งตรียมกล้องวิดีโอติดไว้บนรถตลอดเวลา

ถ้าในกรณีที่เกิดปัญหา เหมือนเดิมอีก ก็จะได้มีวิดีโอไว้เป็นหลักฐาน จนกว่าจะได้รับแจ้งเรื่องผลตรวจสอบคุณภาพน้ำมันจากแล็ปVolvoที่สวีเดน อีกไม่เกิน 2 เดือนคงได้ทราบกันว่า ปัญหาที่แท้จริงนั้นเกิดจากอะไรครับ

ผมจะขออนุญาตรายงานการใช้งานเป็นระยะ และทุกครั้งที่มีการเติมน้ำมันครับ
2 เดือนต่อจากนี้ไปคงต้องวิ่งหาแต่Shellละครับ

ขอบคุณทุกท่านที่ช่วยแนะนำ ให้กำลังใจ และติดตามปัญหามาโดยตลอดนะครับ

และ สุดท้ายขอขอบคุณทาง Volvo Thailand, ผู้จัดการศูนย์ Volvo หัวหมาก, คุณ Thomas และเจ้าหน้าที่Volvoทุกท่าน ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ที่เห็นความสำคัญและใส่ใจปัญหาของลูกค้า และเห็นว่าทุกเรื่องเป็นเรื่องที่สำคัญ ขอบคุณครับ






ออฟไลน์ boyyyy

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 383
ปกติ ดีเซล เป็นน้ำมันที่เกรดต่ำ ที่กลั่นเหลือจาก เบนซิน อยู่แล้ว

การเผาไหม้ไม่สมบูรณ์เป็นธรรมดาครับ ไม่ว่ารถค่ายไหนๆ

เหมาะกับเครื่องดีเซล CC.มากๆ เครื่องใหญ่ๆ ท่อไอดี ไอเสียใหญ่ๆ

รถสมัยก่อนจึงไม่ตัน ไม่สั่น ปัจจุบันรถเก๋งอยากมีดีเซลใช้บ้าง

มารักษ์โลกตอนจะสาย เกิดมีระบบ EGR ขึ้นมา ไม่มีก็ทำรถขายไม่ได้

ปัญหาก็ตามมาเพียบ เอางัยล่ะทีนี้....

ออฟไลน์ Stp

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,537
นี่แหละใช่เลย ปัญหาสำคัญมากเลยคือ Mazda TH กล้าประกาศแบบนี้ไหม เพราะนี่คือ Volvo ซึ่งลูกค้ากลุ่มนี้ + Benz, BMW เขารู้อยู่ว่าตัวเองในรถยุโรป

แล้วลูกค้า Mazda จะยอมรับได้ไหมว่า ตัวเองกำลังใช้เครื่องยนต์เทคโนโลยีเดียวกับรถยุโรป การใช้งานบางอย่างจึงต้องดูแลคล้ายรถยุโรป

เห็นด้วยครับ รถยุโรปเป็นกันเยอะครับ SA เค้ามัักบอกให้ลูกค้าเติมดีเซลพรีเมี่ยมกันครับ

ไม่ต้องเอาอะไรมากครับ ในบอร์ดนี้ยังเคยมีเลยครับ

ขออภัยที่ไม่ได้อัพเดทหลายวันเลยครับ พอดีติดธุระด่วนไม่ได้เปิดคอมเลยครับ

รายละเอียดหลังจากที่ได้เข้าไปคุยกับผู้จัดการศูนย์หัวหมากและคุณ Thomas ตำแหน่ง Automotive Director ของ Volvo

ทาง คุณ Thomas ได้อธิบายขั้นตอนการทำงานของเครื่องดีเซลของ Volvo ให้ผมฟังทั้งระบบ รวมถึงตัวกรองอนุภาคที่อยู่บริเวณท่อไอเสีย (The Diesel Particulate Filter- DPF)

และได้ยกเคสตัวอย่างของรถรุ่นนี้ที่ ประเทศเพื่อนบ้านเรา โดยรถมีอาการควันขาวเหมือนกันกับผม ทางคุณ Thomas ได้เช็คน้ำมันที่เติม พบว่ามีค่ากำมะถันสูงกว่าปกติ

และน้ำมันที่ ประเทศเพื่อนบ้านเรา โดยเฉพาะแถวชายแดน มีคุณภาพต่ำกว่ามาตรฐานที่รถ Volvo ระบุให้ใช้ ส่งผลให้ตัวกรองอนุภาคอากาศ (DPF) ตรวจจับสิ่งปนเปื้อนในน้ำมันได้มากกว่าน้ำมันโดยปกติทั่วไป

เมื่อ ตัว DPF กักเก็บสิ่งปนเปื้อนจนถึงปริมาณที่กำหนด ส่งผลให้แรงดันระหว่างทางเข้าและทางออกใน DPF ต่างกัน เซนเซอร์ก็สั่งการให้มีการฉีดน้ำมันเข้าไปเพื่อเผาไหม้พวกตะกอนหรือสิ่งปน เปื้อนในตัวกรองอนุภาคนี้จนกระทั่งหมด ส่งผลให้เกิดควันสีขาวออกมาอย่างที่ผมเห็น แต่ถ้าน้ำมันมีคุณภาพตามที่ Volvo ระบุให้ใช้ได้ ควันขาวจะน้อยมากหรืออาจแทบมองไม่เห็น

ซึ่ง ทางคุณThomasได้อธิบายเพิ่มว่า เมื่อไหร่กระบวนการเผาไหม้ใน DPF ถึงจะเิกิด โดยปกติแล้วจะเกิดทุกๆ 900 km. ซึ่งระยะอาจมากกว่าหรือน้อยกว่านี้ ขึ้นอยู่ที่ลักษณะการขับขี่และระยะเวลาที่ใช้รถในแต่ละครั้ง

เช่น คนที่ใช้รถในเมือง ที่มีสภาพจราจรหนาแน่นอย่างเดียวอาจจะเกิดกระบวนการเผาไหม้ได้เร็วกว่า ซึ่งกระบวนการเผาไหม้นี้แต่ละครั้งจะใช้เวลาประมาณ 7 นาที ที่ความเร็วมากกว่า 90 กิโลเมตรขึ้นไป โดยขณะที่เกิดกระบวนการเผาไหม้นี้ จะไม่มีข้อความหรือสัญลักษณ์เตือนใดๆที่จะบอกให้ผู้ขับขี่ทราบเลยว่ากระบวน การเผาไหม้ใน DPF ได้ทำงานแล้ว ยกเว้นบางคน ที่อาจจะรู้สึกถึงกำลังเครื่องยนต์ที่อาจจะดร็อปลงบ้างเล็กน้อย

เฉพาะ รถที่ส่วนใหญ่ใช้งานในเมืองหรือสภาพการจราจลติดขัด ใช้ความเร็วไม่มาก (ซึ่งคุณThomas ยกตัวอย่างว่า บริเวณสุขุมวิท) จะทำให้กระบวนการเผาไหม้ไม่เกิดขึ้น ดังนั้นเมื่อตัว DPF เต็ม จะมีข้อความเตือนว่าตัวFilterเต็ม ให้ดูในคู่มือการใช้รถ ขึ้นโชว์ที่หน้าจอข้อความบนหน้าปัท

พอเปิดดูในคู่มือคำแนะนำ เมื่อมีข้อความขึ้นเตือนว่าFilterเต็ม การแก้ไขคือให้ขับรถบนไฮเวย์ที่ความเร็วมากกว่า 90 km/h เพื่อเริ่มกระบวนการเผาไหม้ใน DPF คู่มือบอกอย่างนี้จริงๆครับ

นี่คือสิ่งที่คุณ Thomas อธิบายให้ผมฟัง....

ส่วนรถของผมอาการเกิดขึ้นตอนใช้งานไปประมาณ 700 กว่ากิโล จึงเกิดอาการควันขาวขึ้น ซึ่งทางคุณ Thomas ก็ให้เหตุผลว่าน้ำมันที่ผมได้เติมไปนั้นน่าจะไม่ได้ตามมาตรฐานของปั้มอย่าง ที่ควรจะเป็น ซึ่งเหตุผลก็อย่างที่ได้กล่าวไป

แต่เพื่อความมั่นใจ คุณThomasได้ดูดน้ำมันจากรถของผมไปจำนวน 5 ลิตร เพื่อส่งไปตรวจที่แล็ปของ Volvo ที่สวีเดน ซึ่งคุณThomasบอกว่า ที่สวีเดนนั้นมีแล็ปเฉพาะที่เอาไว้ตรวจน้ำมันจากทุกประเทศที่มีรถ Volvo จำหน่าย ซึ่งกว่าจะทราบผลก็ใช้เวลาประมาณ 2 เดือนครับ ซึ่งผลตรวจนี้จะถูกส่งไปยังปตท.ด้วยครับ

ทั้งทางคุณThomas และผู้จัดการศูนย์ ได้ให้ความมั่นใจกับผมว่า อาการที่เกิดจากรถของผมเป็นอาการปกติของรถดีเซลคอมมอลเรลที่สามารถผ่าน มาตรฐานไอเสียขั้นสูง เพื่อลดปริมาณไอเสียที่จะปล่อยออกมาจากท่อไอเสียซึ่งไม่ใช่ Volvo ยี่ห้อเดียวที่มีตัวกรองไอเสียนี้ รถดีเซลยุโรปเกือบทั้งหมดก็มีFilterแบบนี้อยู่ ซึ่งอาจแตกต่างกันไปตามการออกแบบของรถแต่ละยี่ห้อ

และยังให้ความมั่น ใจกับผมว่า อาการควันขาวและกลิ่นเห็นมไหม้เหล่านี้จะหมดไป ถ้าผมใช้น้ำมันที่มีคุณภาพตามมาตรฐานที่ควรจะเป็น ซึ่งในที่นี้ทางคุณThomasได้แนะนำให้ผมลองใช้ Shell ครับ

ทางVolvo สรุปว่า อาการควันขาวและกลิ่นไหม้ที่ผมเจอนั้น น่าจะเกิดจากการที่ผมเติมน้ำมันที่คุณภาพไม่ได้มาตรฐาน และทางVolvoสวีเดนและ Volvoประเทศไทย ได้รับทราบปัญหาที่เกิดกับรถของผมแล้ว และให้ความมั่นใจว่าผมสามารถใช้งานรถได้ตามปกติและปลอดภัย

ก่อนจบ การพูดคุยผมได้ขอให้ทาง Volvo ออกเอกสารรับรองปัญหาที่เกิดกับรถผม ว่าจะไม่เกิดอันตราย ถ้าผมนำรถไปใช้ ซึ่งทางคุณผู้จัดการก็รับปากว่าจะออกเอกสารให้ครับ

และช่วงเย็นที่ ผ่านมา หลังจากที่ได้โทรศัพท์คุยกับผู้จัดการศูนย์ ว่าผมจะไปรับรถมาลองใช้ในวันพรุ่งนี้ ทางผู้จัดการยังให้ความมั่นใจว่า ถ้าเปลี่ยนน้ำมันที่เติมอาการเหล่านี้จะหายไป แต่ถ้ายังมีอาการเกิดขึ้นอีก ให้นำรถมาจอดทิ้งไว้ที่ศูนย์ได้เลย

พร้อมกันนี้ Volvo ได้เติมน้ำมัน Shell Power Diesel ให้ผมเต็มถัง เพื่อให้ลองนำไปใช้งานเพื่อให้เห็นว่าจะไม่เกิดปัญหาควันขาวและกลิ่นไหม้อีก อันนี้ขอขอบคุณทาง Volvo มา ณ ที่นี้ด้วยครับ

ในระหว่างนี้ทางผมก็ จะลองใช้งานรถในสภาพการใช้งานปกติและจะเติมเฉพาะน้ำมันตามที่คุณ Thomas ได้แนะนำมา ซึ่งผมจะทำการเก็บใบเสร็จการเติมน้ำมัน พร้อมทั้งถ่ายรูปไมล์รถที่ใช้งานคู่กัน ไว้เป็นหลักฐานทุกครั้ง พร้อมทั้งตรียมกล้องวิดีโอติดไว้บนรถตลอดเวลา

ถ้าในกรณีที่เกิดปัญหา เหมือนเดิมอีก ก็จะได้มีวิดีโอไว้เป็นหลักฐาน จนกว่าจะได้รับแจ้งเรื่องผลตรวจสอบคุณภาพน้ำมันจากแล็ปVolvoที่สวีเดน อีกไม่เกิน 2 เดือนคงได้ทราบกันว่า ปัญหาที่แท้จริงนั้นเกิดจากอะไรครับ

ผมจะขออนุญาตรายงานการใช้งานเป็นระยะ และทุกครั้งที่มีการเติมน้ำมันครับ
2 เดือนต่อจากนี้ไปคงต้องวิ่งหาแต่Shellละครับ

ขอบคุณทุกท่านที่ช่วยแนะนำ ให้กำลังใจ และติดตามปัญหามาโดยตลอดนะครับ

และ สุดท้ายขอขอบคุณทาง Volvo Thailand, ผู้จัดการศูนย์ Volvo หัวหมาก, คุณ Thomas และเจ้าหน้าที่Volvoทุกท่าน ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ที่เห็นความสำคัญและใส่ใจปัญหาของลูกค้า และเห็นว่าทุกเรื่องเป็นเรื่องที่สำคัญ ขอบคุณครับ
:D ;D ร่วมรณรงค์รักการอ่านหนังสือ แทนการถามตลอดเวลา ;D :D

ออฟไลน์ xman2029

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,350
    • อีเมล์
นี่แหละใช่เลย ปัญหาสำคัญมากเลยคือ Mazda TH กล้าประกาศแบบนี้ไหม เพราะนี่คือ Volvo ซึ่งลูกค้ากลุ่มนี้ + Benz, BMW เขารู้อยู่ว่าตัวเองในรถยุโรป

แล้วลูกค้า Mazda จะยอมรับได้ไหมว่า ตัวเองกำลังใช้เครื่องยนต์เทคโนโลยีเดียวกับรถยุโรป การใช้งานบางอย่างจึงต้องดูแลคล้ายรถยุโรป

เห็นด้วยครับ รถยุโรปเป็นกันเยอะครับ SA เค้ามัักบอกให้ลูกค้าเติมดีเซลพรีเมี่ยมกันครับ

ไม่ต้องเอาอะไรมากครับ ในบอร์ดนี้ยังเคยมีเลยครับ

ขออภัยที่ไม่ได้อัพเดทหลายวันเลยครับ พอดีติดธุระด่วนไม่ได้เปิดคอมเลยครับ

รายละเอียดหลังจากที่ได้เข้าไปคุยกับผู้จัดการศูนย์หัวหมากและคุณ Thomas ตำแหน่ง Automotive Director ของ Volvo

ทาง คุณ Thomas ได้อธิบายขั้นตอนการทำงานของเครื่องดีเซลของ Volvo ให้ผมฟังทั้งระบบ รวมถึงตัวกรองอนุภาคที่อยู่บริเวณท่อไอเสีย (The Diesel Particulate Filter- DPF)

และได้ยกเคสตัวอย่างของรถรุ่นนี้ที่ ประเทศเพื่อนบ้านเรา โดยรถมีอาการควันขาวเหมือนกันกับผม ทางคุณ Thomas ได้เช็คน้ำมันที่เติม พบว่ามีค่ากำมะถันสูงกว่าปกติ

และน้ำมันที่ ประเทศเพื่อนบ้านเรา โดยเฉพาะแถวชายแดน มีคุณภาพต่ำกว่ามาตรฐานที่รถ Volvo ระบุให้ใช้ ส่งผลให้ตัวกรองอนุภาคอากาศ (DPF) ตรวจจับสิ่งปนเปื้อนในน้ำมันได้มากกว่าน้ำมันโดยปกติทั่วไป

เมื่อ ตัว DPF กักเก็บสิ่งปนเปื้อนจนถึงปริมาณที่กำหนด ส่งผลให้แรงดันระหว่างทางเข้าและทางออกใน DPF ต่างกัน เซนเซอร์ก็สั่งการให้มีการฉีดน้ำมันเข้าไปเพื่อเผาไหม้พวกตะกอนหรือสิ่งปน เปื้อนในตัวกรองอนุภาคนี้จนกระทั่งหมด ส่งผลให้เกิดควันสีขาวออกมาอย่างที่ผมเห็น แต่ถ้าน้ำมันมีคุณภาพตามที่ Volvo ระบุให้ใช้ได้ ควันขาวจะน้อยมากหรืออาจแทบมองไม่เห็น

ซึ่ง ทางคุณThomasได้อธิบายเพิ่มว่า เมื่อไหร่กระบวนการเผาไหม้ใน DPF ถึงจะเิกิด โดยปกติแล้วจะเกิดทุกๆ 900 km. ซึ่งระยะอาจมากกว่าหรือน้อยกว่านี้ ขึ้นอยู่ที่ลักษณะการขับขี่และระยะเวลาที่ใช้รถในแต่ละครั้ง

เช่น คนที่ใช้รถในเมือง ที่มีสภาพจราจรหนาแน่นอย่างเดียวอาจจะเกิดกระบวนการเผาไหม้ได้เร็วกว่า ซึ่งกระบวนการเผาไหม้นี้แต่ละครั้งจะใช้เวลาประมาณ 7 นาที ที่ความเร็วมากกว่า 90 กิโลเมตรขึ้นไป โดยขณะที่เกิดกระบวนการเผาไหม้นี้ จะไม่มีข้อความหรือสัญลักษณ์เตือนใดๆที่จะบอกให้ผู้ขับขี่ทราบเลยว่ากระบวน การเผาไหม้ใน DPF ได้ทำงานแล้ว ยกเว้นบางคน ที่อาจจะรู้สึกถึงกำลังเครื่องยนต์ที่อาจจะดร็อปลงบ้างเล็กน้อย

เฉพาะ รถที่ส่วนใหญ่ใช้งานในเมืองหรือสภาพการจราจลติดขัด ใช้ความเร็วไม่มาก (ซึ่งคุณThomas ยกตัวอย่างว่า บริเวณสุขุมวิท) จะทำให้กระบวนการเผาไหม้ไม่เกิดขึ้น ดังนั้นเมื่อตัว DPF เต็ม จะมีข้อความเตือนว่าตัวFilterเต็ม ให้ดูในคู่มือการใช้รถ ขึ้นโชว์ที่หน้าจอข้อความบนหน้าปัท

พอเปิดดูในคู่มือคำแนะนำ เมื่อมีข้อความขึ้นเตือนว่าFilterเต็ม การแก้ไขคือให้ขับรถบนไฮเวย์ที่ความเร็วมากกว่า 90 km/h เพื่อเริ่มกระบวนการเผาไหม้ใน DPF คู่มือบอกอย่างนี้จริงๆครับ

นี่คือสิ่งที่คุณ Thomas อธิบายให้ผมฟัง....

ส่วนรถของผมอาการเกิดขึ้นตอนใช้งานไปประมาณ 700 กว่ากิโล จึงเกิดอาการควันขาวขึ้น ซึ่งทางคุณ Thomas ก็ให้เหตุผลว่าน้ำมันที่ผมได้เติมไปนั้นน่าจะไม่ได้ตามมาตรฐานของปั้มอย่าง ที่ควรจะเป็น ซึ่งเหตุผลก็อย่างที่ได้กล่าวไป

แต่เพื่อความมั่นใจ คุณThomasได้ดูดน้ำมันจากรถของผมไปจำนวน 5 ลิตร เพื่อส่งไปตรวจที่แล็ปของ Volvo ที่สวีเดน ซึ่งคุณThomasบอกว่า ที่สวีเดนนั้นมีแล็ปเฉพาะที่เอาไว้ตรวจน้ำมันจากทุกประเทศที่มีรถ Volvo จำหน่าย ซึ่งกว่าจะทราบผลก็ใช้เวลาประมาณ 2 เดือนครับ ซึ่งผลตรวจนี้จะถูกส่งไปยังปตท.ด้วยครับ

ทั้งทางคุณThomas และผู้จัดการศูนย์ ได้ให้ความมั่นใจกับผมว่า อาการที่เกิดจากรถของผมเป็นอาการปกติของรถดีเซลคอมมอลเรลที่สามารถผ่าน มาตรฐานไอเสียขั้นสูง เพื่อลดปริมาณไอเสียที่จะปล่อยออกมาจากท่อไอเสียซึ่งไม่ใช่ Volvo ยี่ห้อเดียวที่มีตัวกรองไอเสียนี้ รถดีเซลยุโรปเกือบทั้งหมดก็มีFilterแบบนี้อยู่ ซึ่งอาจแตกต่างกันไปตามการออกแบบของรถแต่ละยี่ห้อ

และยังให้ความมั่น ใจกับผมว่า อาการควันขาวและกลิ่นเห็นมไหม้เหล่านี้จะหมดไป ถ้าผมใช้น้ำมันที่มีคุณภาพตามมาตรฐานที่ควรจะเป็น ซึ่งในที่นี้ทางคุณThomasได้แนะนำให้ผมลองใช้ Shell ครับ

ทางVolvo สรุปว่า อาการควันขาวและกลิ่นไหม้ที่ผมเจอนั้น น่าจะเกิดจากการที่ผมเติมน้ำมันที่คุณภาพไม่ได้มาตรฐาน และทางVolvoสวีเดนและ Volvoประเทศไทย ได้รับทราบปัญหาที่เกิดกับรถของผมแล้ว และให้ความมั่นใจว่าผมสามารถใช้งานรถได้ตามปกติและปลอดภัย

ก่อนจบ การพูดคุยผมได้ขอให้ทาง Volvo ออกเอกสารรับรองปัญหาที่เกิดกับรถผม ว่าจะไม่เกิดอันตราย ถ้าผมนำรถไปใช้ ซึ่งทางคุณผู้จัดการก็รับปากว่าจะออกเอกสารให้ครับ

และช่วงเย็นที่ ผ่านมา หลังจากที่ได้โทรศัพท์คุยกับผู้จัดการศูนย์ ว่าผมจะไปรับรถมาลองใช้ในวันพรุ่งนี้ ทางผู้จัดการยังให้ความมั่นใจว่า ถ้าเปลี่ยนน้ำมันที่เติมอาการเหล่านี้จะหายไป แต่ถ้ายังมีอาการเกิดขึ้นอีก ให้นำรถมาจอดทิ้งไว้ที่ศูนย์ได้เลย

พร้อมกันนี้ Volvo ได้เติมน้ำมัน Shell Power Diesel ให้ผมเต็มถัง เพื่อให้ลองนำไปใช้งานเพื่อให้เห็นว่าจะไม่เกิดปัญหาควันขาวและกลิ่นไหม้อีก อันนี้ขอขอบคุณทาง Volvo มา ณ ที่นี้ด้วยครับ

ในระหว่างนี้ทางผมก็ จะลองใช้งานรถในสภาพการใช้งานปกติและจะเติมเฉพาะน้ำมันตามที่คุณ Thomas ได้แนะนำมา ซึ่งผมจะทำการเก็บใบเสร็จการเติมน้ำมัน พร้อมทั้งถ่ายรูปไมล์รถที่ใช้งานคู่กัน ไว้เป็นหลักฐานทุกครั้ง พร้อมทั้งตรียมกล้องวิดีโอติดไว้บนรถตลอดเวลา

ถ้าในกรณีที่เกิดปัญหา เหมือนเดิมอีก ก็จะได้มีวิดีโอไว้เป็นหลักฐาน จนกว่าจะได้รับแจ้งเรื่องผลตรวจสอบคุณภาพน้ำมันจากแล็ปVolvoที่สวีเดน อีกไม่เกิน 2 เดือนคงได้ทราบกันว่า ปัญหาที่แท้จริงนั้นเกิดจากอะไรครับ

ผมจะขออนุญาตรายงานการใช้งานเป็นระยะ และทุกครั้งที่มีการเติมน้ำมันครับ
2 เดือนต่อจากนี้ไปคงต้องวิ่งหาแต่Shellละครับ

ขอบคุณทุกท่านที่ช่วยแนะนำ ให้กำลังใจ และติดตามปัญหามาโดยตลอดนะครับ

และ สุดท้ายขอขอบคุณทาง Volvo Thailand, ผู้จัดการศูนย์ Volvo หัวหมาก, คุณ Thomas และเจ้าหน้าที่Volvoทุกท่าน ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ที่เห็นความสำคัญและใส่ใจปัญหาของลูกค้า และเห็นว่าทุกเรื่องเป็นเรื่องที่สำคัญ ขอบคุณครับ
อ่านแล้ว อ๋อเลยทีเดียวเรื่องปัญหาเครื่องดีเซล แต่ mazda TH ควรออกมาแก้ไขปัญหาและแสดงอะไรที่เป็นรูปธรรมชัดเจนกว่านี้ ไม่ใช่ส่งจดหมายโง่ๆที่บอกว่าปัญหาไม่ได้เกิดจากตัวรถแต่เกิดจากผู้ใช้ ระวังเถอะจะเจริญรอยถาม ford และ chev ถ้ายังทำตัวลอยตัวเหนือปัญหาแบบนี้ แบบนี้คันต่อไปคงไม่ใช่ mazda อีกแน่นอนทั้งๆที่ อุดหนุน mazda มาตลอดแทบจะทุกรุ่น
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 20, 2017, 13:53:07 โดย xman2029 »

ออฟไลน์ joufo

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,254
เอาจริงๆ มาด้าไทยเองก็คงไม่กล้าประกาศหรอกครับว่า รถเครื่องดีเซลตัวเองเป็นเครื่อง ยูโร 6 แล้ว
ต้องหาน้ำมัน ยูโร 6 หรือ อย่างน้อยก็ต้อง ยูโร 5 เติม
แม้แต่ในคู่มือรถก็ไม่ยอมระบุ
บอกแค่ว่า เครื่องยนต์มาตรฐานไอเสีย ยูโร6 ให้เติมนำมัน "ดีเซล" เฉยๆ
ถ้าบอกแค่ "ดีเซล" เฉยๆ ก็แปลว่าเติมดีเซลอะไรก็ได้ เครื่องยนต์ไม่พังแน่นอน


ถ้ามาสด้าไทยประกาศไปต้องเติมน้ำมันพรีเมี่ยม หรือ อย่างน้อยยูโร 5 นะ ก็ไม่มีใครซื้อแน่นอน
ทุกคนก็จะคิดว่า ซื้อมาก็เปลืองเงินค่าน้ำมัน เพราะต้องหาน้ำมันที่แพงกว่าปกติเติม
รถก็ขายไม่ออก ยอดตก โดนบริษัทแม่ที่ฮิโรชิม่าด่า

ผมไปเดินเล่นมอเตอร์ เอ็กซ์โป ที่ผ่านมา ก็เห็นพริตตี้ พรีเซ็นท์ว่า ใช้เครื่องยนต์เทคโนโลยีเดียวกับรถยุโรปหรู
แต่ก็ไม่ยอมบอกว่า คุณก็ต้องเติมน้ำมันหรูด้วยนะ



ไปดูฝั่งรถยุโรปหรู ผมเห็น E Estate ตัวใหม่ก็ยังใช้เครื่องยนต์ ยูโร 5 กันอยู่เลย (มีช่องเติม Add Blue)
มาสด้าเอง ไม่มีเครื่องยนต์ยูโร 5 อยู่ในมือ ก็คงทำอะไรมากไม่ได้ หรือจะแก้ไขให้มีช่องเติม Add Blue ก็คงไม่ได้
ก็คงได้แต่ตีหน้ามึนไปวันๆ ว่า รถไม่ผิด คนซื้อนั่นแหละผิด ที่ไม่ยอมเติมน้ำมันยูโร 6 เอง

หละมั้งครับ

ออฟไลน์ Stp

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,537
ถ้าเครื่องดีเซล Benz ปัจจุบันทั้ง OM651, OM654 ที่เติม AdBlue ตาม VIN ระบุเป็น Euro 6 ละครับ ก็น่าจะเหมือน Audi หรือเปล่าไม่แน่ใจ

ส่วน BMW เป็นดีเซล Euro 5 มี DPF แต่ยังไม่ต้องเปลืองค่า AdBlue ทาง Volvo ก็น่าจะเหมือน BMW ไม่ต้องมี AdBlue

เอาจริงๆ มาด้าไทยเองก็คงไม่กล้าประกาศหรอกครับว่า รถเครื่องดีเซลตัวเองเป็นเครื่อง ยูโร 6 แล้ว
ต้องหาน้ำมัน ยูโร 6 หรือ อย่างน้อยก็ต้อง ยูโร 5 เติม
แม้แต่ในคู่มือรถก็ไม่ยอมระบุ
บอกแค่ว่า เครื่องยนต์มาตรฐานไอเสีย ยูโร6 ให้เติมนำมัน "ดีเซล" เฉยๆ
ถ้าบอกแค่ "ดีเซล" เฉยๆ ก็แปลว่าเติมดีเซลอะไรก็ได้ เครื่องยนต์ไม่พังแน่นอน


ถ้ามาสด้าไทยประกาศไปต้องเติมน้ำมันพรีเมี่ยม หรือ อย่างน้อยยูโร 5 นะ ก็ไม่มีใครซื้อแน่นอน
ทุกคนก็จะคิดว่า ซื้อมาก็เปลืองเงินค่าน้ำมัน เพราะต้องหาน้ำมันที่แพงกว่าปกติเติม
รถก็ขายไม่ออก ยอดตก โดนบริษัทแม่ที่ฮิโรชิม่าด่า

ผมไปเดินเล่นมอเตอร์ เอ็กซ์โป ที่ผ่านมา ก็เห็นพริตตี้ พรีเซ็นท์ว่า ใช้เครื่องยนต์เทคโนโลยีเดียวกับรถยุโรปหรู
แต่ก็ไม่ยอมบอกว่า คุณก็ต้องเติมน้ำมันหรูด้วยนะ



ไปดูฝั่งรถยุโรปหรู ผมเห็น E Estate ตัวใหม่ก็ยังใช้เครื่องยนต์ ยูโร 5 กันอยู่เลย (มีช่องเติม Add Blue)
มาสด้าเอง ไม่มีเครื่องยนต์ยูโร 5 อยู่ในมือ ก็คงทำอะไรมากไม่ได้ หรือจะแก้ไขให้มีช่องเติม Add Blue ก็คงไม่ได้
ก็คงได้แต่ตีหน้ามึนไปวันๆ ว่า รถไม่ผิด คนซื้อนั่นแหละผิด ที่ไม่ยอมเติมน้ำมันยูโร 6 เอง

หละมั้งครับ
:D ;D ร่วมรณรงค์รักการอ่านหนังสือ แทนการถามตลอดเวลา ;D :D