ผู้เขียน หัวข้อ: เปลี่ยนวาวล์น้ำใหม่ให้มีอุณหภูมิลดลงมีผลดีไหม  (อ่าน 51301 ครั้ง)

ออฟไลน์ Rombax

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 206
    • อีเมล์
จากเดิม วาวล์น้ำติดรถที่ให้มา 82 

เปลี่ยนใหม่เป็น 76  จะมีผลดีกับความร้อนใช่ไหมครับ คือวาวล์น้ำจะเปิดเร็วขึ้นจะลดความร้อนในเครื่องยนต์ใช่ไหมครับ

แล้วข้อเสียมีไหมครับ

**รถที่ใช้เป็น Vios 2010 ปกติเปิดที่ 82  แต่เปลี่ยนเป็นวาวล์ของ Vios Turbo เปิดที่ 76 ครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 22, 2017, 11:27:33 โดย Rombax »
ถ้ากล้าเดินออกนอกกรอบ ก็จะพบกับชีวิตใหม่

ออฟไลน์ kez

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,591

 ไม่ควร  เค้า set อุณหภูมิที่เหมาะสม สำหรับเครื่องยนต์ไว้แล้ว

  การทำให้เครื่องเย็นลงไม่เป็นผลดี  เพราะเครื่องจะทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ

ออฟไลน์ เต๋า AV

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,390
การระบายควมร้อนทำได้ดีขึ้น ประสิทธิภาพเครื่องยนต์ก็จะดีตาม
ชิ้นส่วนที่เกียวข้องก็จะมีอายุการใช้งานนานขึ้นอีกหน่อย
ยิ่งลดอุณหภูมิน้ำระบายความร้อนได้มากยิ่งดี

อ้างถึง
ความร้อนที่สะสมถายในเครื่องยนต์จจากการจุดระเบิดในห้องเผาไหม้ ถ้าหากมีมากเกินความสามารถที่ชิ้นส่วนต่างๆถายในเครื่องยนต์จะทนได้ ทำให้เกิดการขยายตัว ช่องว่างระหว่างชิ้นส่วนจะแคบลง การเสียดสีของผิวโลหะจะมีมากขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เครื่องยนต์ร้อนจัดและหมดสภาพการหล่อลื่น ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้สมรรถนะและประสิทธิภาพในการสร้างพลังงานเพื่อถ่ายเทมาล้อหลังลดลง

ออฟไลน์ pladaek

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,016
  • FF1.5SMG
82 ผมว่ามันต่ำอยู่แล้วนะครับ
ผมใช้เฟียสต้า ปกติของเฟียสต้าอยู่ 88-92 เลยนะครับ
เห็นหลายคันเปลี่ยนวาล์วน้ำแล้วลดลงเหลือแค่ 82-84 เอง
ไม่ได้ขับรถเพื่อทำเวลาที่ดีที่สุด.. แต่ขับรถเพื่อเจอช่วงเวลาที่ดีที่สุด..

ออฟไลน์ apinui

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,896
    • อีเมล์
การระบายควมร้อนทำได้ดีขึ้น ประสิทธิภาพเครื่องยนต์ก็จะดีตาม
ชิ้นส่วนที่เกียวข้องก็จะมีอายุการใช้งานนานขึ้นอีกหน่อย
ยิ่งลดอุณหภูมิน้ำระบายความร้อนได้มากยิ่งดี

อ้างถึง
ความร้อนที่สะสมถายในเครื่องยนต์จจากการจุดระเบิดในห้องเผาไหม้ ถ้าหากมีมากเกินความสามารถที่ชิ้นส่วนต่างๆถายในเครื่องยนต์จะทนได้ ทำให้เกิดการขยายตัว ช่องว่างระหว่างชิ้นส่วนจะแคบลง การเสียดสีของผิวโลหะจะมีมากขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เครื่องยนต์ร้อนจัดและหมดสภาพการหล่อลื่น ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้สมรรถนะและประสิทธิภาพในการสร้างพลังงานเพื่อถ่ายเทมาล้อหลังลดลง

เข้าใจผิดแล้วครับ ......

อุณหภูมิที่เครื่องยนต์แต่ละรุ่นทำงานได้มีประสิทธิภาพ ต่างกันครับ ไม่ใช่ยิ่งเย็นยิ่งดี .....

บางรุ่น 82 บางรุ่น 85 บางรุ่น 90 องศา ... ขึ้นอยู่กับสเป็กของเครื่องยนต์นั้นๆว่ามีเหล็กและอลูมิเนียมผสมอยู่มากน้อยแค่ไหน ซึ่งก็มีผลต่อการขยายตัวและความร้อนที่เหมาะสมของน้ำมันเครื่อง กระบอกสูบ และระบบวาวล์ต่างๆด้วย ....

ถ้าอุณหภูมิยิ่งเย็นยิงดี แล้วทำไม เวลาสต๊าทเครื่องยนต์ตอนเช้า เครื่องยนต์ถึงดีดสุงไปที่ 1000รอบ ก่อนเพื่อวอมเครื่องยนต์ให้อยู่ในอุณหภูมิที่เหมาะสมก่อน ที่จะใช้งานในรอบสุง 

การทำงานของวาวล์น้ำ คือ ถ้าวาวล์น้ำ 82องศา ถ้าอุณหภูมิน้ำที่วนอยู่ในเครื่องยนต์(ในเครื่องยนต์นะ ไม่ใช่ในหม้อน้ำ) สูงกว่า 82องศา วาวล์น้ำจะเปิด และวนเอาน้ำออกมา และนำน้ำที่เย็นกว่าในหม้อน้ำไหลเข้าไป .... ซึ่งสเป็กตรงนี้ ผู้ผลิตได้คำนวนมาเหมาะสมแล้ว ดังนั้น ถ้าเราไปใส่ 76องศา ทำให้เปิดเร็วกว่าเดิม ความร้อนในเครื่องยนต์ไม่เหมาะสม บางทีเย็นไป การขยายตัวในห้องเครื่องก็ต่างออกไป ก็ทำให้เครื่องยนต์สึกหรอกว่าปรกติได้เช่นกัน ....

วาวล์น้ำมีหน้าที่คุมอุณหภูมิในเครื่องยนต์ให้อยู่ในอุณหภูมิที่เหมาะสมครับ .... ไม่ใช่ตัวระบายความร้อน ส่วนที่เครื่องยนต์ร้อนขึ้นกว่าปรกติถ้าอ่านจากมาตรวัด เวลาใช้งานหนัก นั่นแปลว่า หม้อน้ำระบายความร้อนของน้ำที่ออกมาจากเครื่อยนต์ไม่ทัน ต้องไปแก้ที่หม้อน้ำครับ ไม่ใช่ไปเปลี่ยนวาวล์น้ำ ....

ออฟไลน์ off_033

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,259
    • อีเมล์
ใน fiesta เปลี่ยนกันเยอะ เป็นของ toyota

แต่ผมเปลี่ยนของเดิมศูนย์นี่แหละ อุณหภูมิก็ยังอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน รถติดอยู่ 90-93 รถวิ่ง 87-90 (บางคนบอกว่ายังสูง - -")

บางคนเปลี่ยนแล้วอุณหภูมิลงเยอะ  อาจจะเป็นที่อื่นเผอิญเปลี่ยนตัวนี้แล้วมันช่วยได้เยอะเป็นวิธีง่ายสุดของช่างละ

 

ออฟไลน์ Peet Sayumpoo

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,002
การระบายควมร้อนทำได้ดีขึ้น ประสิทธิภาพเครื่องยนต์ก็จะดีตาม
ชิ้นส่วนที่เกียวข้องก็จะมีอายุการใช้งานนานขึ้นอีกหน่อย
ยิ่งลดอุณหภูมิน้ำระบายความร้อนได้มากยิ่งดี

อ้างถึง
ความร้อนที่สะสมถายในเครื่องยนต์จจากการจุดระเบิดในห้องเผาไหม้ ถ้าหากมีมากเกินความสามารถที่ชิ้นส่วนต่างๆถายในเครื่องยนต์จะทนได้ ทำให้เกิดการขยายตัว ช่องว่างระหว่างชิ้นส่วนจะแคบลง การเสียดสีของผิวโลหะจะมีมากขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เครื่องยนต์ร้อนจัดและหมดสภาพการหล่อลื่น ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้สมรรถนะและประสิทธิภาพในการสร้างพลังงานเพื่อถ่ายเทมาล้อหลังลดลง

เข้าใจผิดแล้วครับ ......

อุณหภูมิที่เครื่องยนต์แต่ละรุ่นทำงานได้มีประสิทธิภาพ ต่างกันครับ ไม่ใช่ยิ่งเย็นยิ่งดี .....

บางรุ่น 82 บางรุ่น 85 บางรุ่น 90 องศา ... ขึ้นอยู่กับสเป็กของเครื่องยนต์นั้นๆว่ามีเหล็กและอลูมิเนียมผสมอยู่มากน้อยแค่ไหน ซึ่งก็มีผลต่อการขยายตัวและความร้อนที่เหมาะสมของน้ำมันเครื่อง กระบอกสูบ และระบบวาวล์ต่างๆด้วย ....

ถ้าอุณหภูมิยิ่งเย็นยิงดี แล้วทำไม เวลาสต๊าทเครื่องยนต์ตอนเช้า เครื่องยนต์ถึงดีดสุงไปที่ 1000รอบ ก่อนเพื่อวอมเครื่องยนต์ให้อยู่ในอุณหภูมิที่เหมาะสมก่อน ที่จะใช้งานในรอบสุง 

การทำงานของวาวล์น้ำ คือ ถ้าวาวล์น้ำ 82องศา ถ้าอุณหภูมิน้ำที่วนอยู่ในเครื่องยนต์(ในเครื่องยนต์นะ ไม่ใช่ในหม้อน้ำ) สูงกว่า 82องศา วาวล์น้ำจะเปิด และวนเอาน้ำออกมา และนำน้ำที่เย็นกว่าในหม้อน้ำไหลเข้าไป .... ซึ่งสเป็กตรงนี้ ผู้ผลิตได้คำนวนมาเหมาะสมแล้ว ดังนั้น ถ้าเราไปใส่ 76องศา ทำให้เปิดเร็วกว่าเดิม ความร้อนในเครื่องยนต์ไม่เหมาะสม บางทีเย็นไป การขยายตัวในห้องเครื่องก็ต่างออกไป ก็ทำให้เครื่องยนต์สึกหรอกว่าปรกติได้เช่นกัน ....

วาวล์น้ำมีหน้าที่คุมอุณหภูมิในเครื่องยนต์ให้อยู่ในอุณหภูมิที่เหมาะสมครับ .... ไม่ใช่ตัวระบายความร้อน ส่วนที่เครื่องยนต์ร้อนขึ้นกว่าปรกติถ้าอ่านจากมาตรวัด เวลาใช้งานหนัก นั่นแปลว่า หม้อน้ำระบายความร้อนของน้ำที่ออกมาจากเครื่อยนต์ไม่ทัน ต้องไปแก้ที่หม้อน้ำครับ ไม่ใช่ไปเปลี่ยนวาวล์น้ำ ....

+1 ตามท่านนี้ครับ

อุณหภูมิทำงานดีที่สุดหม้อน้ำส่วนมากโดยเฉลี่ยรถหลายๆรุ่นจะอยู่ประมาณ 85-95องศา C' ครับ ไม่ใช่ยิ่งเย็นยิ่งดีนะครับ
ที่ยื่งเย็นยิ่งดีน่าจะเป็น"ไอดี"ที่เข้าเครื่องมากกว่า ไม่ใช่น้ำในหม้อน้ำครับ...

จากการวิจัยของผู้ผลิตน้ำมันเครื่อง พบว่าเครื่องรถจะสึกหรอมากที่สุดตอนสตาร์ทเย็นครับ
รู้สึกจะสึกหรอมากกว่าการเร่งรอบสูงสุดตอนที่เครื่องอยู่ในอุณหภูมิทำงานปกติ(90 C') ด้วยนะครับ...

ออฟไลน์ Trafalgar

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 819
ตายละ ผมก็เพิ่งเปลี่ยนวาล์วน้ำใหม่เอง เปิดที่ 76
- 1994 Toyota Corolla AE101 1.6 4A-FE MT
- 1995 Honda Civic EG 1.5 D15Z7 MT
- 1996 Mitsubishi Lancer Evolution IV 2.0 4G63T MT
- 2005 Toyota Hilux Vigo Cab 2.5G 2KD-FTV MT
- 2005 Toyota Fortuner 3.0V 1KD-FTV AT
- 2005 Toyota Fortuner 3.0G 1KD-FTV MT
- 2013 Honda City 1.5 L15A7 AT

ออฟไลน์ DiKiBoyZ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,190
    • อีเมล์
การระบายควมร้อนทำได้ดีขึ้น ประสิทธิภาพเครื่องยนต์ก็จะดีตาม
ชิ้นส่วนที่เกียวข้องก็จะมีอายุการใช้งานนานขึ้นอีกหน่อย
ยิ่งลดอุณหภูมิน้ำระบายความร้อนได้มากยิ่งดี

อ้างถึง
ความร้อนที่สะสมถายในเครื่องยนต์จจากการจุดระเบิดในห้องเผาไหม้ ถ้าหากมีมากเกินความสามารถที่ชิ้นส่วนต่างๆถายในเครื่องยนต์จะทนได้ ทำให้เกิดการขยายตัว ช่องว่างระหว่างชิ้นส่วนจะแคบลง การเสียดสีของผิวโลหะจะมีมากขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เครื่องยนต์ร้อนจัดและหมดสภาพการหล่อลื่น ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้สมรรถนะและประสิทธิภาพในการสร้างพลังงานเพื่อถ่ายเทมาล้อหลังลดลง

งั้นเขาจะมีวาวล์น้ำไว้ทำไมครับ ปล่อยให้น้ำหมุนวนตลอดเวลาก็สิ้นเรื่อง ไม่ดีกว่าเหรอ

อย่างที่บางท่านบอก เข้าใจผิดอย่างมหันต์!!!!!!!!

ออฟไลน์ sukhontha

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,463
ถูกอย่างที่หลาย ๆ ท่านบอก  อุณหภูมิทำงานของรถที่ดีและเหมาะสม  จะอยู่ที่  85-95 

แต่อย่าตกใจ  ผม  เปลี่ยน เอ็กซ์เทรล ตั้งแต่ป้ายแดง  จาก 82 มาเป็น 76  เช่นกัน  ผ่านมา 7 ปี แล้ว....ยังไม่มีอะไรเสียหาย 

เมืองไทย  เมืองร้อน  รถผมทำงานที่ 82-85  องศาพอ  ไม่เอามาตรฐาน  ที่ต้องให้พลังงานสูงสุด เต็มประสิทธิภาพ  เอาพอประมาณ  แถม

เกียร์รถผมแม้เป็นซีวิีที  ก็ทำงานได้ดีด้วยโดยไม่ต้องมีออยล์เกียร์ด้วย..  และ   ถนอมชิ้นส่วนประกอบในเครื่องยนต์ ให้ทนนาน  ผมพอใจ 

แล้วครับ   แต่ถ้าถอดวาล์วน้ำ  อุณหภูมิ  บางคันต่ำกว่า   70  องศา  การสึกหรอสูงเกินไป  ไม่ควรทำ...


jaesz

  • บุคคลทั่วไป
ไม่รู้ว่ารถอะไร ขอตอบกลางๆไว้ก่อน

วาวล์น้ำรถยุโรปจะมีหลายเบอร์ในเครื่องเดียวกัน ปล้วแต่ว่าขายที่ไหนในโลกนี้

เช่น M43TU, M52 มีตั้งแต่ 76 องศาไปถึง104องศาครับ

ถ้าเอาไปขายโซนหนาวๆ 104บางทีไม่พอ ต้องใช้ 108

ถ้าเอาไปขายโซนร้อน 104ก็ร้อนไป พัดลมทำงานแรงแทบจะตลอดเวลา พังเร็ว ลดมาใช้87 79 ก็มี

แต่รถบางคันมันก็เปลี่ยนไม่ได้เลยถ้าไม่ไปปรับโปรแกรมตัดต่อพัดลมใหม่ อันนี้คงต้องลงละเอียดในแต่ละรุ่นไป ไม่ขอกล่าว

ออฟไลน์ Tonge

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 670
CRVที่บ้านผม เมื่อถึงอายุวาวล์น้ำจะปิดไม่สนิด ทำให้อุณหภูมิเย็นกว่าที่กล่องต้องการ เลยจะลากเกียร์หน่อยๆ และLock upของเกียร์4ไม่ยอมทำงาน ทำให้วิ่งรอบสูงกว่าปกติ

ออฟไลน์ Rombax

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 206
    • อีเมล์
ถูกอย่างที่หลาย ๆ ท่านบอก  อุณหภูมิทำงานของรถที่ดีและเหมาะสม  จะอยู่ที่  85-95 

แต่อย่าตกใจ  ผม  เปลี่ยน เอ็กซ์เทรล ตั้งแต่ป้ายแดง  จาก 82 มาเป็น 76  เช่นกัน  ผ่านมา 7 ปี แล้ว....ยังไม่มีอะไรเสียหาย 

เมืองไทย  เมืองร้อน  รถผมทำงานที่ 82-85  องศาพอ  ไม่เอามาตรฐาน  ที่ต้องให้พลังงานสูงสุด เต็มประสิทธิภาพ  เอาพอประมาณ  แถม

เกียร์รถผมแม้เป็นซีวิีที  ก็ทำงานได้ดีด้วยโดยไม่ต้องมีออยล์เกียร์ด้วย..  และ   ถนอมชิ้นส่วนประกอบในเครื่องยนต์ ให้ทนนาน  ผมพอใจ 

แล้วครับ   แต่ถ้าถอดวาล์วน้ำ  อุณหภูมิ  บางคันต่ำกว่า   70  องศา  การสึกหรอสูงเกินไป  ไม่ควรทำ...

รถที่ใช้เป็น Vios ปกติ 82  แต่เปลี่ยนเป็นวาวล์ของ Vios Turbo ตัวเก่าที่ 76 ครับ
ถ้ากล้าเดินออกนอกกรอบ ก็จะพบกับชีวิตใหม่

ออฟไลน์ apinui

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,896
    • อีเมล์
ถูกอย่างที่หลาย ๆ ท่านบอก  อุณหภูมิทำงานของรถที่ดีและเหมาะสม  จะอยู่ที่  85-95 

แต่อย่าตกใจ  ผม  เปลี่ยน เอ็กซ์เทรล ตั้งแต่ป้ายแดง  จาก 82 มาเป็น 76  เช่นกัน  ผ่านมา 7 ปี แล้ว....ยังไม่มีอะไรเสียหาย 

เมืองไทย  เมืองร้อน  รถผมทำงานที่ 82-85  องศาพอ  ไม่เอามาตรฐาน  ที่ต้องให้พลังงานสูงสุด เต็มประสิทธิภาพ  เอาพอประมาณ  แถม

เกียร์รถผมแม้เป็นซีวิีที  ก็ทำงานได้ดีด้วยโดยไม่ต้องมีออยล์เกียร์ด้วย..  และ   ถนอมชิ้นส่วนประกอบในเครื่องยนต์ ให้ทนนาน  ผมพอใจ 

แล้วครับ   แต่ถ้าถอดวาล์วน้ำ  อุณหภูมิ  บางคันต่ำกว่า   70  องศา  การสึกหรอสูงเกินไป  ไม่ควรทำ...

อันนี้ ก็เข้าใจผิดนะครับ ... เมืองไทยเมืองร้อน .... คือ อุณหภูมิภายนอก กับ อุณหภูมิในเครื่องยนต์ มันวัดกันไม่ได้ครับ

เช่นถ้ารถคุณใส่วาวล์น้ำ 76องศา แล้วขับรถ ขึ้นดอย ที่มีอุณหภูมิ 9องศา เข็มวัดความร้อนก็ยังอยู่ตำแหน่งเดิมคือ กลางมาตรวัด ... หรือ 76 องศาตามวาวล์น้ำ ... และถ้าขับมา กทม ที่มีอุณหภูมิ 40องศา มาตราวัดในรถคุณ ก็เท่าเดิม ..... ถูกป่าวครับ

ดังนั้น อุณหภูมิภายนอก ไม่มีผลกับ เครื่องยนต์ครับ แต่มันจะมีผลกับการระบายความร้อนของหม้อน้ำแทน ซึ่งถ้ารถใครใช้พัดลมไฟฟ้า พัดลมไฟฟ้าก็จะทำงานน้อยลง เพราะอากาศเย็น ระบายความร้อนได้ดี .... เท่านั้น ....

ใช้มานาน ไม่พัง ... ครับมันไม่พังหรอก ให้ถอดวาล์น้ำออกวิ่งตั้งแต่ป้ายแดงมันก็ไม่พังครับ ... แต่กำลังอัด การสึกหรอภายใน มีไม่เท่าคนอื่นแน่ๆ และมันอยู่ข้างใน ..... เราไม่รู้หรอกครับว่ามันไปถึงไหนแล้ว ... ซึ่งขึ้นอยู่กับระยะทางที่ใช้ด้วย

ออฟไลน์ sukhontha

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,463
ถูกอย่างที่หลาย ๆ ท่านบอก  อุณหภูมิทำงานของรถที่ดีและเหมาะสม  จะอยู่ที่  85-95 

แต่อย่าตกใจ  ผม  เปลี่ยน เอ็กซ์เทรล ตั้งแต่ป้ายแดง  จาก 82 มาเป็น 76  เช่นกัน  ผ่านมา 7 ปี แล้ว....ยังไม่มีอะไรเสียหาย 

เมืองไทย  เมืองร้อน  รถผมทำงานที่ 82-85  องศาพอ  ไม่เอามาตรฐาน  ที่ต้องให้พลังงานสูงสุด เต็มประสิทธิภาพ  เอาพอประมาณ  แถม

เกียร์รถผมแม้เป็นซีวิีที  ก็ทำงานได้ดีด้วยโดยไม่ต้องมีออยล์เกียร์ด้วย..  และ   ถนอมชิ้นส่วนประกอบในเครื่องยนต์ ให้ทนนาน  ผมพอใจ 

แล้วครับ   แต่ถ้าถอดวาล์วน้ำ  อุณหภูมิ  บางคันต่ำกว่า   70  องศา  การสึกหรอสูงเกินไป  ไม่ควรทำ...

อันนี้ ก็เข้าใจผิดนะครับ ... เมืองไทยเมืองร้อน .... คือ อุณหภูมิภายนอก กับ อุณหภูมิในเครื่องยนต์ มันวัดกันไม่ได้ครับ

เช่นถ้ารถคุณใส่วาวล์น้ำ 76องศา แล้วขับรถ ขึ้นดอย ที่มีอุณหภูมิ 9องศา เข็มวัดความร้อนก็ยังอยู่ตำแหน่งเดิมคือ กลางมาตรวัด ... หรือ 76 องศาตามวาวล์น้ำ ... และถ้าขับมา กทม ที่มีอุณหภูมิ 40องศา มาตราวัดในรถคุณ ก็เท่าเดิม ..... ถูกป่าวครับ

ดังนั้น อุณหภูมิภายนอก ไม่มีผลกับ เครื่องยนต์ครับ แต่มันจะมีผลกับการระบายความร้อนของหม้อน้ำแทน ซึ่งถ้ารถใครใช้พัดลมไฟฟ้า พัดลมไฟฟ้าก็จะทำงานน้อยลง เพราะอากาศเย็น ระบายความร้อนได้ดี .... เท่านั้น ....

ใช้มานาน ไม่พัง ... ครับมันไม่พังหรอก ให้ถอดวาล์น้ำออกวิ่งตั้งแต่ป้ายแดงมันก็ไม่พังครับ ... แต่กำลังอัด การสึกหรอภายใน มีไม่เท่าคนอื่นแน่ๆ และมันอยู่ข้างใน ..... เราไม่รู้หรอกครับว่ามันไปถึงไหนแล้ว ... ซึ่งขึ้นอยู่กับระยะทางที่ใช้ด้วย

  ตรงที่คุณอธิบายมา  ผมเข้าใจ  แต่...
   
  ถามนิดหนึ่ง  ท่านเคยดูอุณหภูมิในเครื่องยนต์ท่านในหน้าร้อนหรือไม่  มันสวิงขนาดไหน  ระหว่างต่ำสุด-สูงสุด...แล้วพัดลมไฮ  ทำงานนานแค่ไหน  (รถผมอีกคัน  ทำงานตั้งแต่ 90  ยัน 110  เข็มมันก็ชี้ที่จุดเดิมนั่นแหละ)  และวาล์วผมเปลี่ยนไม่ใช่ของเทียบด้วย  เป็นของแท้  แต่ออกแบบสำหรับเมืองร้อน..ผมจึงไล่เปลี่ยนคันอื่น ๆตามมา..

ปล.  รถผม  ติดรถมาประมาณ  88 องศา   เป็นมาตรฐาน  แต่อะไหล่แท้ที่ส่งมาไทยในล็อตหลัง ๆ(หลังปี 50)  เป็น  76.5 องศา..ส่วนเจ้าคันนี้ไม่เปลี่ยนเพราะ  การควบคุมอุณหภูมิดีมาก  คงที่ตลอดเวลา  93-95 องศา  ไม่ว่าร้อนหรือเย็น ไม่ว่าจะวิ่งเบา ๆ  หรืออัด ๆ และพัดลมหม้อน้ำมี ประมาณ  5 ระดับ  ..
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 22, 2017, 13:38:00 โดย sukhontha »

ออฟไลน์ Darkart

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,191
    • อีเมล์
เปลี่ยนวาล์วน้ำเปิด 82 องศา เปลี่ยนมาใช้วาล์วน้ำ 76 องศา วาล์วน้ำเปิดไวกว่าเดิมแค่นั้้น
วาล์วน้ำทำงานปิดและเปิดเต็มที่ ปั้มน้ำสภาพใบพัดเต็มใบเปลี่ยนถ่ายน้ำยาหม้อน้ำตามระยะ หม้อน้ำไม่ตัน อุณหภูมิลดลงมากกว่าครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 22, 2017, 16:16:26 โดย Darkart »
ผู้ไม่มีแผลเป็น คือ ผู้ไม่มีประสบการณ์

ออฟไลน์ No Trespassing

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,616
    • อีเมล์
วีออสโฉมนี้ วาล์วน้ำ 82 ก็จริง แต่พัดลมทำงานที่ 84-85 (ผมวัดจาก OBD นะครับ)
สูงสุดที่เคยขึ้นไปถึง 95 ก็มี แต่นั้นคือซัดในสนาม แล้วมาจอดนิ่งๆ จากนั้นพัดลมระบายก็เหลือ 84 เหมือนเดิม

ส่วนออสโบ ต้องบังคับให้ 76 เพราะหอยมันร้อน ต้องเผื่อไว้ระบายด้วย

เอามาใส่ได้ไหม ได้ครับ .... แต่ NA เครื่องนี้ชอบร้อนๆมากกว่า วาล์วน้ำเดิมจึงเหมาะสุดครับ

ออฟไลน์ U9WS

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,180
  • slower is better
ส่วนใหญ่ชอบบอกกันว่า 90c + เป็นที่อุณหภูมิสูงไป เพราะไปชินกับรถญี่ปุ่น

ออฟไลน์ meeuwarn

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 938
ต่างกันนิดเดียวแทบไม่มีผลอะไร 6องศา

เลือกอันที่ถูกกว่าและทนกว่า

ออฟไลน์ BigCat

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,178
    • อีเมล์
ผมว่า วิศวะเค้าคงคำนวณมาดีแล้วนะครับ  ::)
Audi TT MK 3FL
BMW z4 e85
GLA 250 FL 2017
Nissan Teana L33 2014
Slk 200 R172 2014
Camry 2.4 2009
Civic dimension MT 1.7
Civic 3 doors รถคันแรก

TheRealMeaw

  • บุคคลทั่วไป
เอางี้ครับ ถามงี้ดีกว่า รถของคุณอายุ 20 ปี ผ่านเจ้าของมาแล้ว 9 มือ มูลค่าเหลือประมาณ 3 หมื่นบาท หรือเปล่า?

ถ้าเกิดรถของคุณมันบุโรทั่งขนาดนั้น ระบบความร้อนไม่แน่ใจว่ามันจะดีไหม วาล์วน้ำที่เย็นขึ้นอาจจะช่วยต่อชีวิตรถของคุณให้มันยาวขึ้นด้วยซ้ำ แต่นั่นก็ถ้าเกิดการขับขี่ส่วนมากคุณขับแรงเร็วทะลุนรกตลอดนะ มันเป็นสิ่งที่เขาแนะนำกันในวงการแข่งรถราคาถูกครับ เพราะงั้นถามว่าวาล์วน้ำเย็นมันไร้ค่าหรือเปล่า ก็ไม่

แต่ถ้ารถของคุณมันดูแลมาเป๊ะ ความร้อนไม่มี หม้อน้ำแน่น ไม่มีรั่ว วิ่งปกติความร้อนไม่เคยมีปัญหา วาล์วน้ำเดิมมันก็ไม่ร้อนเกินไปหรอก ยกเว้นรุ่นไหนมันจะออกแบบมาไม่คำนึงถึงการใช้งานระยะยาวจริงๆอันนั้นก็อีกเรื่อง มันมีรถบางรุ่นเหมือนกันที่เปลี่ยนวาล์วน้ำเย็นลงแล้ว ความเสถียรต่างกันคนละเรื่องเลย มันก็แล้วแต่กรณีครับ

ส่วนมากรถญี่ปุ่นไม่ค่อยมีปัญหานี้หรอกครับ วาล์วน้ำเดิมมันได้อยู่ละ โดยเฉพาะลูกพี่เฮียโอะยานยนต์ทำมาเย็นเผื่อทั้งนั้น พวกรถยุโรปต่างหากที่จะมีปัญหาให้ถกเถียงกันอยู่เรื่อยๆครับ

ออฟไลน์ Highway Star

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,934
รถทำอะไรมามั่งครับ ถ้าเดิมสนิทเลยใช้ของเดิมดีแล้วครับเพราะเครื่องแต่ละตัวอุณหภูมิที่ทำงานที่ดีคือแรงและประหยัดที่สุดไม่เหมือนกัน ถึงแม้จะบลอคเดียวกับเทอร์โบก็จริง  ถ้าจะเปลี่ยนนน่าจะเหมาะกับรถที่ทำมาเยอะระดับนึงอันนนี้ค่อยน่าเปลี่ยนให้เหมาะกับอุณหภูมิ

ออฟไลน์ shikimaru

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,313
    • อีเมล์
จริงๆ เอาแค่เมืองไทยผมว่าไม่เห็นน่าซีเรียสเลยนะครับ จะ 82 76 มันก็ไม่ต่าง เพราะท้ายที่สุดแล้วพอเครื่องทำงานเต็มที่มันก็ขึ้นไป 85+ แทบจะทุกคันแล้วรึเปล่า อย่างฮอนด้านี่ก็ทำงานแถวๆ 90 ตลอด+ สุดท้ายมันก็เปิดตลอดเวลาอยู่ดี ส่วนป้องกันการสึกหลอ เอาดีดีคือหาน้ำมันเครื่องสังเคราะห์ใส่ สตาร์ทรถตอนเช้าก็รอน้ำมันเครื่องวนๆซัก 2 นาที แล้วค่อยๆขยับๆไปเรื่อยก็โอเคแล้ว อย่าไปซัดตั้งแต่สตาร์แค่นั้นเอง

ออฟไลน์ tarahlm

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 920
คงได้ทราบจากท่านข้างบนแล้วว่าอุณหภูมิที่เหมาะสม อยู่ในช่วง 85-95องศาC
(บริษัทผู้ผลิตรถยนต์มักไม่ได้มีให้ข้อมูลให้เราทราบว่ามีค่าปกติเท่าไร)

นั่นคือที่เรียกกันว่าอุณหภูมิทำงานเครื่องยนตฺ์(Operating Temperature) สำหรับรถรุ่นใหม่ๆในปัจจุบันทำงานที่อุณหภูมิสูงขึ้น
ถือว่าค่าปกติอุณหภูมิทำงานถึง 104/105 องศาC (220องศาF)

ดังนั้นเป้าหมายคือ การทำให้ถึงอุณหภูมิทำงานโดยไว แล้วควบคุมให้อยู่ในช่วงอุณหภูมิทำงานไว้ตลอดเวลา

หลังการสตาร์ทรถในขณะเครื่องเย็น ระยะนี้เป็นระยะที่สิ้นเปลืองเชื้อเพลิง การทำงานเครื่องยนต์เรียกว่าอยู่ในสภาวะOpen loop
แต่เมื่อเข้าถึงอุณหภูมิทำงานแล้ว การทำงานของเครื่องยนต์จะเข้าสู่สภาวะ Closed loop ที่การทำงานมีประสิทธิภาพกว่าคือสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงน้อยกว่าระยะแรก  การสึกหรอน้อยกว่า

ดังนั้นถ้าวาล์วน้ำ(Thermostat)เปิดเร็วเกินไป จะทำให้เครื่องยนต์ถึงอุณหภูมิทำงานได้ช้ากว่า สิ้นเปลืองเชื้อเพลิงมากกว่า การสึกหรอของเครื่องยนต์มากกว่า

ลองดูข้อมูลค่าจำเพาะการทำงานในอุปกรณ์รถคันเก่าของผม ที่เกี่ยวกับการควบคุมอุณหภูมิเครื่องยนต์
  / Thermostat  เปิดที่ 92องศาC     เปิดสุดfully ที่ 106องศาC
  / พัดลมไฟฟ้าสองตัว ทำงานพร้อมกันเสมอ 2 จังหวะความเร็ว ช้้า-เร็ว
         จังหวะช้าทำเริ่มงานที่ 100องศาC  เมื่ออุณหภูมิยังสูงขึ้นเรื่อยจนถึง103องศาC จึงเปลี่ยนเป็นจังหวะเร็ว

(แต่ขาลง ขณะทำงานที่จังหวะเร็ว เมื่อค่อยเย็นลง จนถึง100องศาC จะลดเป็นจังหวะช้า
เมื่อยังเย็นลงอีกจนถึง 93องศาC พัดลมจึงหยุดหมุนหยุดทำงาน)

แต่ถ้าเลือกวาล์วน้ำที่ปิดช้าเกินไปก็อาจจะไม่เหมาะสม เพราะจะทำให้โอกาสที่อุณหภูมิสูงจนพัดลมไฟฟ้าทำงานบ่อยๆ
กว่าเป็นการสิ้นเปลืองกำลังสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงมากกว่า

คงต้องเป็นดั่งกระทุ้ข้างบนที่ว่า ในเบื้องต้นวิศวกรผู้ผลิตคงได้คิดตัดสินใจเลือกวาล์วน้ำที่เหมาะสมสำหรับรถแต่ละคัน

แต่ในความเป็นจริงก็เป็นการยากที่จะพิสูจน์ว่าการใช้วาล์วน้ำที่เปิดเร็ว จะมีผลเสียชัดเจนอย่าง เพราะผลเสียอาจจะเป็นไปอย่างช้าๆ หรือน้อยเกินไป จนอาจไม่เห็นได้ชัดตลอดอายุที่เราใช้รถ หรือว่าอาจจะไม่เกิดอะไรให้เห็นก็ได้? ไม่ได้มีการวิจัยรวบรวมข้อมูลไว้
ในบ้านเราได้ข่าวบางคันถึงขั้นถอดวาล์วน้ำออกก็มี !!

ออฟไลน์ bravo

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,466
    • อีเมล์
ถ้าคิดว่า อุณหภูมิหม้อน้ำ ยิ่งต่ำยิ่งดี
ก็ลองคิดอีกที ว่าเขาใส่วาล์วน้ำมาทำไม เปิดให้น้ำไหลผ่านตลอดโดยไม่มีวาล์วน้ำดีกว่ามั๊ย
หรือใส่วาล์วน้ำรุ่นที่เปิดที่อุณหภูมิต่ำๆ ดีกว่ามั๊ยครับ

เพื่อนๆ ผม ที่โมดิฟายเครื่องยนต์เพิ่มแรงม้า ก็เปลี่ยนวาล์วน้ำกัน
ถ้าจะให้ถูกหลัก ต้องเปลี่ยนหม้อน้ำที่ระบายความร้อนได้ไวขึ้น แต่ใช้วาล์วน้ำตามสเปคโรงงานครับ

ออฟไลน์ ภูมิใจไหม?

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,143
  • SNK vs Playmore
ผมว่าอากาศเข้า intake ต่างหากล่ะครับ ที่ยิ่งเย็นก็ยิ่งดี

ออฟไลน์ NS

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,718
  • การเดินทางครั้งใหม่
มอเตอร์พัดลมทำงานบ่อยขึ้น เสื่อมไวกว่าเดิมครับ
จะเลือกรถหรือเมีย....

...รถสิคร๊าฟ