ผู้เขียน หัวข้อ: คิดเหมือนกันมั้ยครับ D-Segment ทุกวันนี้ ในเรื่องอัตราเร่ง ทำดีไม่เเพ้รถยุโรป  (อ่าน 12793 ครั้ง)

ออฟไลน์ Coat145

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 596
สวัสดีปีใหม่ทุกท่านครับ

   เข้าเรื่องเรยนะครับ ในส่วนตัวผม ใช้D-seg มาตลอด10กว่าปีที่ผ่านมา ก็เคยคิดไว้ว่าสักวัน คงได้ขับรถยุโรปบ้าง จนมีโอกาสได้ซื้อจริงๆเมื่อต้นปีที่ผ่านมาไม่กี่วัน ผมยอมรับครับว่า การตกเเต่งภายใน การเบรค มันดีกว่าจริง อันนี้ผมขอเทียบในฐานะ ใช้ ACV50 HV กับL33 เเล้วมาเทียบกับ E350e เเต่สิ่งนึงทีผมว่า เเคมรี่ให้ผมนั้นคืออัตราเร่ง ความไม่จุกจิกเรย ความประหยัดน้ำมัน  เเต่ในส่วนของช่วงล่าง E350e ในเมื่อเทียบกับ เเคมรี่ เทียน่าเเล้ว ผมโอเครนะครับ โอเครพอสมควร เเต่ผมไม่ว้าวเท่าไหร่ คือถามว่า เจ้าเบนซ์คันเเรกของชีวิตผมดีมั้ย ผมก็คงตอบว่า มันดีครับ มันดีกว่าD-seg เเต่มันไม่ได้ดีกว่าจนผมว้าว

    ผมเรยมานึกครับว่า ถ้าเราอยากได้รถเก๋งสักคันมาใช้ ไม่ได้ต้องการภาพลักษณ์ ประหยัดเงินไปได้พอสมควร การใช้D-seg สัก1เจนหรือ4-5 ปีเเล้วเปลี่ยน มันก็ดีนะครับ เเต่ความฝันก็คือความฝันครับ อย่างที่ผมเคยถาม ท่าน สมาชิกหลายๆคนในกระทู้ที่เเล้ว หลายๆท่านก็ตอบว่า ให้ทำตามความฝัน เมื่อเงินถึง ดูเเลบำรุงรักษาโดยมีค่าใช้จ่ายที่มากขึ้น

    สมาชิกทุกท่าน ที่มีความฝันเเบบผม ผมขอเล่าให้ฟังสักนิด ผมโตมาผ่าน30 มา ผมคิดว่าชีวิตผมจะซื้อรถเงินสดมาตลอด เเล้วผมก็ก็ต้องมีเงินเก็บสัก 8หลัก ผมถึงกล้ารถD-segment เเล้วถ้าเป็นรถยุโรปก็คงต้องมีเงินเก็บอีกนิดหน่อย เเต่ผมว่าผมคิดผิดมาตลอดครับ ทุกวันนี้ผมขับเบนซ์อายุ37 ด้วยน้ำพักน้ำเเรงที่สร้างมากับภรรยา อีกไม่กี่ปีผมจะ40 ถึงผมจะขับพอช ผมก็ว่าผมเเก่เเล้วครับ จึงอยากบอกใหุ้ ถ้ามีความฝัน เมื่อเงินเหลือเก็บให้รับซื้อ รับมีเถอะครับ คำพูดจากสมาชิกท่านนึง เคยบอกว่า ขับBMตอนอายุ30 กับตอน 50 มันไม่เหมือนกันนะครับ ดูเหมือนคำนี้ทุกวันนี้ผมว่ามันจริงครับ  ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านครับ

ปล.บอกนิดนึงครับ ขายACV50 HV ตัว DVD รองท็อปไปได้ 800000 รถปี2013 เดือนตุลา นี่ขนาดขายคนรู้จักกัน เพราะขายเต๊นท์ ไม่ได้ราคานี้เเน่ๆครับ บอกเรยว่าเจ็บพอสมควรครับ รถไฮบริดอะไรก็ดีครับ เสียอย่างเดียว ราคาตกได้ใจ  :-X :-X :-X  เเต่ผมก็ยังไม่เข็ดครับ  จะลองกับE350e ไฟปลักเสียบบ้านอีกสักตั้้งครับ  :-* :-* :-* :-*                         
YARIS1.2 G 2013 ขาว
L33 2.0XL 2014 ดำ
Mercedes-Benz E350e Exclusive ดำ 2018
Mercedes-AMG GLC 43 4MATIC Coupé ขาว 2018
FORD RAPTOR 2.0 BI-TURBO 2019

ออฟไลน์ Arado_kung

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,062
    • อีเมล์
เคยใช้ L33 ไม่แปลกที่พอขับ E350e แล้วจะไม่ว้าวครับ L33 ถ้าเปลี่ยนโลโก้เป็นยุโรปผมว่าก็มีคนเชื่อล่ะ อะไรหลายๆใกล้เคียงรถยุโรปมากยกเว้นวัสดุการตกแต่งที่ตามราคาน่ะแหละครับ คือถ้าไม่แคร์ภาพลักษณ์หรือสนองความอยากตัวเองแล้วผมคนนึงยอมรับว่า D-Seg ทุกวันนี้ก็เพียงพอล่ะ

ออฟไลน์ chaithawat

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,540
โดยปกติรถยุโรปมันก็ไม่ได้โดดเด่นเรื่องออกตัวหรืออัตราเร่งหวือหวาเท่าไรหรอกครับด้วยตัวถังที่หนักเทอะทะกว่า แต่มันไปเด่นที่ลอยลำหรือเร่งที่ความเร็วสูงๆไม่ต้องเค้นมาก ความสเตเบิลแบบว่า 140 ยังสบายขับยาวๆแทบหลับในไม่วอกแวกไม่ต้องใช้สมาธิเหมือนทางค่ายญี่ปุ่น เหมือนม้าตีนต้นกับม้าตีนปลายเทียบกัน

ออฟไลน์ raygun

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,050
.
.
ส่วนตัวผมยังไม่เคยขับ D-Segment เลย เพราะไม่ชอบรถคันใหญ่
คันแรก Lancer ต่อมาก็ C class เลย แล้วก็ CLA ผมเลยเห็นความต่างค่อนข้างชัด
โดยเฉพาะอัตราเร่งนี่คนละเรื่องเลย

ส่วนที่บอกว่าให้รีบซื้อ อันนี้เห็นด้วยมากๆครับ อายุคนเราแป๊บๆก็แก่แล้ว
จะไปรอโน่นรอนี่เสียเวลาครับ ถ้าพร้อมก็ลุยเลย

ออฟไลน์ Lucky_suby

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 374
    • อีเมล์
ส่วนตัวขับ 525d F10 M sport.. ถือว่าได้ทำตามความฝันแล้ว แต่บอกตรงๆว่าคันต่อไป รถญี่ปุ่นแน่นอนครับ คือ BMW ไม่ได้มีปัญหาอะไรนะครับ รถดี แรง ประหยัด ขับสนุก Handling ที่รถญี่ปุ่นหรือแม้แต่ยุโรปญี่ห้ออื่นก็ให้ไม่ได้ แต่ถ้าเทียบกับการเป็นลูกจ้าง แล้วเอาเงินมาใช้เกือบ 4 ล้าน ขายต่อราคาตก ดูแลก็แพง...มันไม่ค่อยคุ้มค่าเท่าไหร่ ถ้าเป็นเศรษฐี 100 ล้านคงไม่ต้องคิดมาก

แต่ก็เถอะครับ ให้ย้อนกลับไป ผมก็ซื้อครับ F10 คันนี้ ทำตามความฝันครับ

ปล. ผมก็เคยเจ็บตัวกับ Camry HV ครับ ราคาตกจริงๆ เข็ดเลย รถกินไฟเนี่ย

ออฟไลน์ berm

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 519
d-seg ญี่ปุ่นกับยุโรปนี่มันต่างกันไม่เยอะครับ เคยขับ 5 series มันดีกว่าแต่ไม่ว้าวขนาดนั้น

ถ้าให้ต่างต้องไป s-class 7 series ครับ ผมขับ camry hv 2013 ประจำ ไปขับ 730ld m sport 2017

ของญาติ ต้องบอกว่ามันคนละเรื่อง มันว้าวสุดๆ ดีเกินกว่าที่คาดไว้มาก ช่วงล่างถุงลม มันนุ่ม แต่หนึบดูดถนน

เข้าโค้งนี่ไม่มีเอียงเลย คันเร่งแตะนิดเดียวดึงแบบนุ่มๆ แถมมันเงียบไม่ดูความเร็วนี่แป๊บๆ 140 ต้องยกตลอด

เสียอย่างเดียวคือมันยาวไปหน่อยจอดยากชะมัด

ออฟไลน์ Stp

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,530
เห็นด้วยทุกประการครับ ทั้งเรื่องญี่ปุ่น D-Seg และการเลือกซื้อรถยุโรป
:D ;D ร่วมรณรงค์รักการอ่านหนังสือ แทนการถามตลอดเวลา ;D :D

ออฟไลน์ Mos37257

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 681
    • อีเมล์
ผมเคยคิดเล่นๆว่าสักวัน d seg อาจกลายร่างเป็น e seg  ก็เป็นได้เพราะมันขยายมาเรื่อยๆทุกรุ่น ทั้งราคาเเละอะไรหลายๆอย่าง เเต่ก็อย่างว่าถ้า toyota ก็มี lexus อยุ่เเล้ว เเต่ l33 ผมให้เทียบเท่ารถยุโรป ด้านขับขี่ ส่วนหน้าตากับวัสดุมันสู้รุ่นเก่าไม่ได้เลย มันถึงเป็นรถดีที่ขายไม่ออก เเต่ยังไม่ถึง bm

ออฟไลน์ OXYGEN2

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,490
    • เครื่องปั่น
    • อีเมล์
รถ D-Segment ญี่ปุ่นตั้งแต่ Gen ที่แล้ว ผมคิดว่าขับไม่ได้แย่เลยครับ
2021 - BMW 530e
2023 - Tesla Model Y Performance
2023 - Tesla Model Y RWD

My website~ :) ;) :D 8)

ออฟไลน์ BigCat

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,177
    • อีเมล์
8) ขอบคุณที่แบ่งปันครับ
ผมก็คิดแบบเดียวกับ จขกท
ขยับมาเรื่อยๆ จาก D seg L33 
ขยับมาตราดาว ขยับเพิ่มเปิดประทุน
แน่นอน เป้าหมายต่อไป ก็เจ้ากบเหมือนกันครับ
ดีใจมากที่ได้ทำตาฝัน รู้สึกไปสุด ไม่คาราคาซัง 555

ถึงจะมูลค่าไม่มาก แต่ก็ภูมิใจครับ มันเหมือนเป็นความสุขผู้ชาย

ปล ส่วนตัวผมว่าเอารถใช้งานชีวิตประจำวัน เดินทางตจว  D seg  ก็เหลือพอกับชีวิตละครับ
Audi TT MK 3FL
BMW z4 e85
GLA 250 FL 2017
Nissan Teana L33 2014
Slk 200 R172 2014
Camry 2.4 2009
Civic dimension MT 1.7
Civic 3 doors รถคันแรก

ออฟไลน์ CJ.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,944
เห็นด้วยเรื่องอัตราเร่ง Accord Hybrid ที่เพิ่งขายไปยอมรับว่าอัตราเร่งดีจริงๆครับ
2005 Jaguar XJ Super V8
2005 Mercedes-Benz C230 Kom. Sports Coupe
2011 Aston Martin DBS
2013 Jaguar XJL 5.0 V8 Portfolio
2017 Lexus RX200t Premium
2019 Honda CR-V 2.4S
2019 Bentley Continental GT W12
2021 Lexus IS300h Luxury
2021 Mercedes-Benz GLE 350de 4MATIC Exclusive
2021 Porsche 911 Carrera S

ออฟไลน์ mongolias

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,364
เคยแต่นั่ง D-segment ค่ายญ๊่ปุ่นก็นั่งสบายนะครับ ส่วนตัวเคยขับ L32 ครั้งนึง ก็ดีครับ แต่ไม่ค่อยชอบตอนเลี้ยวหรือตีวงเท่าไหร่ มันอุ้ยอ้ายไปหน่อย ผมว่าผมคงไม่เหมาะกับ D-segment 5555

เห็นด้วยกับข้อความที่ว่า มีเงินก็ซื้อไปเลยครับ ไม่ต้องรีรออะไร ไม่งั้นก็แก่เกินแกงกันพอดี
ผมมองย้อนตัวเอง สมัยก่อน อยากได้ไอโฟน แต่เห็นว่าราคาแพง สอย HTC มาใช้ ถูกกว่าเกือบครึ่ง แต่ก็ยังคาใจ สุดท้ายก็ต้องใช้ไอโฟนอยู่ดี ใช้แล้วก็มีความสุขดี รู้สึกว่าถึงคำว่า รู้งี้ซื้อนานละ

รถก็เหมือนกัน ก่อนออก CX5 ก็ลังเล กับโมบี้, HRV หรือ GS สุดท้ายเลือกที่ชอบที่สุด ตัดสินใจว่าซื้อแพงแต่ใช้ได้นานๆ ดีกว่าซื้อรุ่นประหยัดแล้วก็จะคาใจ ก็ได้เจา CX5 มา แม้จะตกรุ่นแล้ว แต่ทุกครั้งที่ขับก็มีความสุข เวลาครอบครัวไปเที่ยวกัน เห็นเขานอนหลับทั้งภรรยาและลูก แค่นี้ก็มีความสุขแล้วครับ

ปล.ผมอายุใกล้ๆ จขกท อย่าเพิ่งคิดว่าแก่เลยครับ เดี๋ยวจะแก่กันหลายคนครับ

ออฟไลน์ akewizard

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,620
มี D Secment ญี่ปุ่นอยู่รุ่นนึงที่อยากให้ลองครับ...

Subaru Legacy รุ่นที่ใช้เครื่อง Boxer 6 สูบ 3.6 ลิตร NA ม้า 265 ตัว(บล๊อคเครื่องเท่ากับ porsche 911) เสียงเครื่องมาแบบเดียวกับ Porsche เลย
ในบ้านเราไม่มีขาย แต่ระแวกใกล้ๆอย่างที่ Australia มีขายแต่ใช้ชื่อว่า Liberty

ออฟไลน์ V221

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,823
D Segment ญี่ปุ่นถือว่าดีใช้ได้เลยละครับ ตั้งแต่สมัยก่อนตอนผมซื้อMazda Cronos ขอบอกว่าอัตราเร่งดีกว่ารถยุโรปขนาดเดียวกันในเมืองไทยและยังเกาะถนนไม่แพ้กันด้วยซ้ำครับ ขนาดลูกน้องฝรั่งอังกฤษที่ใช้แต่รถยุโรปมาตลอดยังยอมรับว่าMazdaทำรถได้ดีใกล้เคียงกับยุโรปแต่จุกจิกน้อยกว่าอีก Camryตัวปัจจุบันถือว่าอยู่ระดับแถวหน้าในเรื่องสมรรถนะอยู่แล้วครับ ดังนั้นถ้าเทียบการขับขี่กับE Classจึงไม่ได้ว้าวแน่นอน แต่ถ้าคุณมาใช้เรือธงของค่ายยุโรปเหมือนที่ผมใช้อยู่่เช่นBMW 7 Benz S Class Audi A8 ก็จะรู้สึกถึงความหนักแน่นมากขึ้นแบบชัดเจนครับ
BMW 750E M SPORT

ออฟไลน์ IS2000

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,191
    • อีเมล์
ผมว่ารถแนว E-Class กับ ซีรี่ย์ 5 ในปัจจุบันจะออกแบบมาเน้นสบายพวงมาลัยเบาซึ่งก็ไปแนวทางเดียวกับรถ D-Segment ญี่ปุ่นที่พัฒนามาเรื่อยๆครับ ความรู้สึกถึงไม่ต่างกันมาก แต่ตัวอัตราเร่งโดยเฉพาะเบนซ์นี่จะแบบมาเรื่อยๆไม่ดุดัน แต่ผมว่าถ้าเอาเครื่องมาจับเวลาตัวเลขก็น่าจะต่างกันกับรถ D-Segment อยู่ครับ
1 3 5
├┼┼╕
2 4 6 R

ออฟไลน์ NavaneS

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 649
    • อีเมล์
จาก Accord G9 2.4 ----> F10 528i

ต่างกันเยอะพอสมควร ในทุกๆด้าน อัตราเร่ง การทรงตัวทั้งทางตรงและทางโค้ง ความนุ่มนวลหนักแน่น
G9ก้อดีในระดับของมัน ไม่ได้มีอะไรเด่น แต่ก้อไม่มีอะไรให้ติ

สรุปก้อตามราคาครับ

ส่วนเรื่องความฝัน ถ้าทำแล้วไม่เดือดร้อน ไม่กู้หนี้ยืมสินมาซื้อ ก้อลุยเถอะครับ
Peugeot505
BMW 318i
Honda Accord G6
Toyota Wish
Honda City
Honda Accord G9
BMW 528i M Sport
KIA Grand Carnival

ออฟไลน์ maxillofacial surgeon

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 997
    • อีเมล์
ถ้าพูดถึงแค่อัตราเร่ง 
ต้องเอาตัวtop hybrid ไปไล่บี้
ตัวล่าง  นี่ยิ่งต่างเยอะเลย

ออฟไลน์ Sgt_Meen

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 287
ถ้าเอาเฉพาะเรื่องอัตราเร่ง D-segment ญี่ปุ่นจะด้อยกว่าหน่อยๆ มีที่สูสีขึ้นมาคือตัว Hybrid (เทียบจากตารางของคุณจิมมี่ครับ)
-Toyota Vios 1.5 1stGen
-Honda Accord 2.3 G6
-Honda Accord 2.4 G8
+Honda Accord 2.0 G8
-Mercedes-Benz E250CGI W212
+BMW 520d Sport G30
+Mercedes-Benz E300 Coupe C238

ออฟไลน์ TONYP

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 87
ผมขับ DSegment ญี่ปุ่นมาก่อน
เอาจริงๆ ถ้าไม่ใช่ตัว Hybrid อัตตราเร่งยังไงก็ด้อยกว่าเยอะ เพราะเครื่อง 2.0 2.4 NA ไม่มี Turbo
มาเจอเครื่องรถยุโรป 2.0 Turbo 0-100 อย่าไปดู ดู 0-200 มันส์อย่าบอกใคร บวกช่วงล่างย่านความสูงๆ
ถ้าไม่ใช่ L33 หายากที่ DSegment ญี่ปุ่น ตัวไหนให้ความมั่นใจได้ครับ

ออฟไลน์ Nerdys

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 700
เห็นด้วยครับเรื่องอัตราเร่ง คือ Camry Hybrid สร้างมาตรฐานไว้สูงมากสำหรับรถญี่ปุ่น
ถ้าดู 0-100 กับ 80-120 เจ้า Camry hybrid สู้ได้หมดทั้ง 528i 525d 320d 320i E-class 220d
มิน่า Toyota เอาเครื่องตัวนี้ไปวางไว้หลายรุ่นโดยเฉพาะใน Lexus ซึ่งกลายเป็นเครื่องสหกรณ์ไปเลย

แต่ด้วยความที่เมืองไทยไม่มี Autobahn ยาวๆไม่จำกัดความเร็ว ที่การวิ่ง 180-200 กม/ชม เป็นเรื่องปกติ ทำให้รถ Premium ยุโรปไม่ได้แสดงศักยภาพเต็มที่
คือถ้าใช้งานปกติ วิ่งไม่เกิน 120 ผมว่า D-seg ญี่ปุ่นไม่ด้อยกว่าพวก Series 5 หรือ E class เท่าไหร่
แต่ถ้าไวกว่านั้น รถยุโรปจะแสดงให้เห็นความต่างเรื่องความนิ่ง สเถียรภาพที่ความเร็วสูง
การเก็บเสียงลมที่ความเร็วสููงที่เงียบจนรู้สึกว่า วิ่ง 180 เหมือนวิ่งอยู่ที่ 120

ออฟไลน์ Pegasus7700

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,814
ต่างชัดในความเร็วสูง ความเครียดต่างกัน
เทียบกับ w212 กับ G8 ที่ 150 km/h. ทางไกลมืดๆ ต่างจังหวัด
ผมขับ212 สบายใจกว่าเยอะ
...ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป...

MERCEDES BENZ W212 '12
FORD FOCUS 2.0 Gdi '13
HONDA Civic RS '20
VOLVO XC60 Hybrid Inscription '19
FORD EVEREST 2.0 Bi Turbo '22

jaesz

  • บุคคลทั่วไป
อัตราเร่ง รถยุโรป ขนาดDsegเอาเครื่องใกล้เคียงกัน มันถูกจำกัดด้วยน้ำหนักตัว และอัตราสิ้นเปลืองครับ


ออฟไลน์ bodin

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 994
เห็นด้วยกับ จขกท ครับ อายุเท่าๆกัน
คันหน้าผมคงซื้อ camry รุ่นที่กำลังจะออกตัวถูกสุด เงินสด ใช้ยาว10ปีแสนโล 8)
ถ้าเปิดตัวมาไม่นั่งห่วยจนเกินไปนะ(camryบางรุ่นเบาะนั่งไม่สบาย)
ไม่มีเวลาดูแลรถครับ ตอนนี้แค่หาเวลาไปล้างยังลำบากเลย :(

ผมไม่เข้าใจว่าทำไมถึงกลัวระบบ hybrid ของ toyota กันขนาดนั้นจนราคาตกกระหน่ำ
ที่บ้านตอนนี้มีทั้ง priusกับcamry hv ใช้มา7ปีกับ8ปี ไม่เห็นเคยมีอะไรเสียเกื่ยวกับระบบhybridเสีย ราคาอะไหร่ที่แพงๆก็ไม่เคยจ่าย(ใช้น้อย)
จนจะซื้อรถใหม่คงไม่เอาhybridละ :(

จะบอกว่าpriusรุ่นแรกผลิตขายมาถ้าจำไม่ผิดปี2001 ระบบมันเสถียรมากๆแล้ว ไม่ใช่มือใหม่หัดใส่ถ่าน :-\

ออฟไลน์ Peet Sayumpoo

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,001
โดยปกติรถยุโรปมันก็ไม่ได้โดดเด่นเรื่องออกตัวหรืออัตราเร่งหวือหวาเท่าไรหรอกครับด้วยตัวถังที่หนักเทอะทะกว่า แต่มันไปเด่นที่ลอยลำหรือเร่งที่ความเร็วสูงๆไม่ต้องเค้นมาก ความสเตเบิลแบบว่า 140 ยังสบายขับยาวๆแทบหลับในไม่วอกแวกไม่ต้องใช้สมาธิเหมือนทางค่ายญี่ปุ่น เหมือนม้าตีนต้นกับม้าตีนปลายเทียบกัน

+1 กับท่านนี้ครับ

_____________________________________________________________________________________



แล้วก็รถค่ายดาวที่เป็นตัวถังซีดานแบบของ จขกท มันก็ไม่ใช่รถที่เด่นในเรื่องการขับขี่มาตั้งแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้วครับ (แนวเดียวกับ Volvo)
พอเอามาเทียบกับ D seg ที่ขับดีที่สุดอย่าง L33 ถ้ามันจะไม่หนีกันเท่าไหร่ก็ไม่แปลกครับ....ทางฝั่งยุโรป ถ้าจะเอาในเรื่องการขับขี่
ต้องตรา 4ห่วง กับ ใบพัด ครับ ทั้งการตอบสนองของเครื่องที่ไวกว่า เกียร์ที่ทำงานรวดเร็วฉับไวกว่าและฉลาดกว่า ช่วงล่างที่นิ่งแน่นกว่า
ผมไม่ได้ว่าอันไหนดีกว่ากันน่ะครับ เบ๊นซ์กับวอลโว่เค้าก็มีคุณงามความดีในแบบของเค้าครับ อยู่ที่รสนิยมคนใช้ครับ ว่าชอบแบบไหน
แต่ถ้าเอาในเรื่องการขับขี่ล้วนๆ เบ๊นซ์กับวอลโว่นี่ไม่ใช่แน่นอนครับ....เอาจริงๆมันก็เป็นอย่างนี้มานานแล้วน่ะครับ ถ้าสังเกตุ
ย้อนกลับไปเมื่อ พ.ศ 2533-2538 ตอนนั้นยังมี Nissan Cefiro A31 ขายอยู่ ผมได้ติดตามอ่านรีวิวของนิตรสานยานยนต์อยู่หลายเจ้า
เค้าก็บอกเหมือนกันว่าในเรื่องการขับขี่ช่วงล่าง A31 นั้นสู้ Benz E และ Volvo ในสมัยนั้น (ผมจำรหัสรุ่นไม่ได้ครับ) ได้สบายๆ
หรืออาจจจะดีกว่าหน่อยๆด้วย ในสมัยนั้น A31 เป็นรองแค่เพียง BMW e34 เท่านั้น..
**สำหรับคนที่ไม่รู้ A31 นั้นเป็นรถญี่ปุ่น แต่เป็นรถขับเคลื่อนล้อหลัง ช่วงล่างด้านหลัง Multi link เหมือนยุโรปน่ะครับ
โดยมีพื้นฐานรถหลายๆอย่างเหมือนกับ Skyline , Silvia , 200sx ครับ ไม่รู้มันขับดีเพราะงี้รึเปล่า แต่ที่รู้ๆคือ
A31 เวลาวิ่งเกิน 160 ไปแล้ว ช่วงล่างมันนิ่งกว่า Camry acv50 สมัยนี้อีกน่ะครับ จากคนใช้งานจริงครับ


สุดท้าย ผมว่าการจ่ายเงินแพงกว่า 2-3 เท่า เพื่อซื้อรถยุโรปแทน D seg ญี่ปุ่น แล้วมุ่งหวังไปที่เรื่องอัตราเร่งหรือช่วงล่างอย่างเดียว
ว่ามันจะดีกว่า 2-3 เท่าตัวตามราคา ยังงี้ผมว่าไม่คุ้มละครับ หรือทนกว่าก็ไม่ใช่ คือมันไม่ใช่แน่นอนครับ ต้นทุนที่มากกว่าของรถยุโรป
เค้าไม่ได้เอาไปลงที่เครื่องกับช่วงล่างแค่ 2อย่างนะครับ มันก็กระจายไปทั่วคัน ชิ้นส่วนมีเป็นร้อยเป็นพันเบยยย
รถยุโรปเค้าก็มีคุณงามความดีและเสน่ห์ในแบบของเค้าครับ   
ท่านลองไปถามคนที่ซื้อนาฬิกา Rolex เรือนเป็นแสนๆมาใส่สิครับ ท่านว่าเค้าซื้อ Rolex เพราะหวังว่ามันจะดีกว่าหรือทนกว่า CASIO
เรือนละ 2,000 เป็น 100เท่าเลยมั๊ยละครับ? ผมว่าก็คงไม่หน่าครับ

ปล. ถ้ามีตังแล้วไม่เดือดร้อนก็จัดไปครับ ชีวิตคนเราไม่ได้ยาวขนาดนั้นครับ เดินๆอยู่ข้างถนนไม่รู้จะโดนเสาไฟล้มใส่ตายวันไหน
แล้วก็พวกยุโรปทั้งหลาย ถ้ามันไม่มีอะไรที่ดีกว่าญี่ปุ่นจริงๆ แล้วมาขายแพงกว่า 2-3เท่าตัว ผมว่าถ้าเป็นงั้นจริง
Benz BMW Audi Volvo บริษัทมันก็คงเจ๊งไปตั้งแต่รุ่นปู่รุ่นย่าเราแล้วละครับ  ::)
 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 03, 2018, 22:19:57 โดย Peet Sayumpoo »

ออฟไลน์ caton

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 498
    • อีเมล์
ปล. ถ้ามีตังแล้วไม่เดือดร้อนก็จัดไปครับ ชีวิตคนเราไม่ได้ยาวขนาดนั้นครับ เดินๆอยู่ข้างถนนไม่รู้จะโดนเสาไฟล้มใส่ตายวันไหน
แล้วก็พวกยุโรปทั้งหลาย ถ้ามันไม่มีอะไรที่ดีกว่าญี่ปุ่นจริงๆ แล้วมาขายแพงกว่า 2-3เท่าตัว ผมว่าถ้าเป็นงั้นจริง
Benz BMW Audi Volvo บริษัทมันก็คงเจ๊งไปตั้งแต่รุ่นปู่รุ่นย่าเราแล้วละครับ  ::)

+1 ครับ
TESLA Model Y Performance
BMW X1 F48 20D M sport
BMW 320D F30 M sport HIFI Stage 1

ออฟไลน์ HappyCar

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 342
เห็นด้วยครับ โดยเฉพาะ D-Segment ที่เป็นเครื่อง Hybrid นี่ อัตราเร่งสู้รถยุโรปได้เลย

แต่ถ้าพูดกันถึงเรื่องช่วงล่าง และการขับขี่ อันนี้ก็อีกเรื่องนึงนะครับ  ;D

ออฟไลน์ arte

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 456
ไม่แค่อัตราเร่งที่ทำให้ใกล้เคียงกับรถยุโรปแล้ว ราคาก้ใกล้เข้ามาแล้วเหมือนกัน 555

ออฟไลน์ ภูมิใจไหม?

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,147
  • SNK vs Playmore
ความชอบรถของผู้ชายเรา มีรถกี่คันก็ไม่พอ

ผมเคยฝันว่าอยากมีรถทุกแนวอยู่ในโรงรถ อืมม เรียกว่าโกดังเลยดีกว่า

แต่ในชีวิตจริงมันทำไม่ได้ครับ 555

ผมขอแค่ BRZ 1 คัน ไว้ขับเล่น กับ D seg นั่งสบายอะไรก็ได้ที่ราคาไม่ถึง 2 ล้าน ที่แฟนชอบอีกคัน แค่นี้ก็พอกับการใช้ชีวิตแล้วครับ

สำหรับผมไม่จำเป็นต้องเป็นรถยุโรปครับ เพราะผมเป็นขาโมดิฟาย การเอารถยุโรปป้ายแดงมายำเล่น มันไม่ใช่ความคิดที่ดีเลย

ออฟไลน์ Peet Sayumpoo

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,001
ไม่แค่อัตราเร่งที่ทำให้ใกล้เคียงกับรถยุโรปแล้ว ราคาก้ใกล้เข้ามาแล้วเหมือนกัน 555

ลั่นเลยครับ 555+

ออฟไลน์ tvm

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,487
ปล. ถ้ามีตังแล้วไม่เดือดร้อนก็จัดไปครับ ชีวิตคนเราไม่ได้ยาวขนาดนั้นครับ เดินๆอยู่ข้างถนนไม่รู้จะโดนเสาไฟล้มใส่ตายวันไหน
แล้วก็พวกยุโรปทั้งหลาย ถ้ามันไม่มีอะไรที่ดีกว่าญี่ปุ่นจริงๆ แล้วมาขายแพงกว่า 2-3เท่าตัว ผมว่าถ้าเป็นงั้นจริง
Benz BMW Audi Volvo บริษัทมันก็คงเจ๊งไปตั้งแต่รุ่นปู่รุ่นย่าเราแล้วละครับ  ::)

+1 ครับ
+100 ครับ
ถ้ามองมูลค่ารถแค่ความแรงและการเกาะถนนก็คงไม่เก็ทนัก