มันน่าสงสัยว่าทำไม Ranger Australia ไม่ปลดประจำการเครื่อง 3.2 ไปเลย ?

ลุง

เพราะแรงม้าต่างจากเครื่อง Bi Turboแค่ 6% ผมเดาว่าเครื่อง 3.2ลิตรมันปั่น 200 แรงม้าอย่างสบายที่ 3,000 รอบ แต่เจ้าเครื่อง2ลิตรต้องใช้เทอร์โบถึง2ตัวเค้นพลังให้ได้ถึง 213 แรงม้าเพื่อแซงเครื่อง 3.2 ซึ่งปรากฏว่าต้องลากไปถึง 3,750รอบ(ซึ่งมากกว่าถึง 25%) คนออสเตรเลียคงกลัวเรื่องการสึกหรอ และไม่มีกระบะดีเซลในเมืองไทยคันไหนต้องลากรอบขนาดนี้เพื่อเค้นแรงม้าสูงสุด
ในด้านแรงบิดถึงจะสูงกว่า6%(500กับ 470นิวตันเมตร) ปรากฏว่ามาในช่วงแคบเพียง 1,750-2,000รอบในขณะที่เครื่อง 3.2ให้ Flat Torqueที่ 1,750-2,500 รอบ ซึ่งอาจเป็นไปได้ที่ 2,500รอบแรงบิดของเครื่อง 2ลิตรอาจจะน้อยกว่า 470นิวตันเมตร
คนขับเครื่อง2ลิตรจะเจอ Dilemma เพราะต้องลากรอบเพื่อเรียกแรงม้า(แหงล่ะที่ 3,000รอบคงเรียกไม่ได้ถึง200ม้า)แต่ก็เจอแรงบิดที่เหี่ยวปลาย การจะแซงเครื่อง 3.2 ก็ลำบากหน่อย



DiKiBoyZ

เพราะแรงม้าต่างจากเครื่อง Bi Turboแค่ 6% ผมเดาว่าเครื่อง 3.2ลิตรมันปั่น 200 แรงม้าอย่างสบายที่ 3,000 รอบ แต่เจ้าเครื่อง2ลิตรต้องใช้เทอร์โบถึง2ตัวเค้นพลังให้ได้ถึง 213 แรงม้าเพื่อแซงเครื่อง 3.2 ซึ่งปรากฏว่าต้องลากไปถึง 3,750รอบ(ซึ่งมากกว่าถึง 25%) คนออสเตรเลียคงกลัวเรื่องการสึกหรอ และไม่มีกระบะดีเซลในเมืองไทยคันไหนต้องลากรอบขนาดนี้เพื่อเค้นแรงม้าสูงสุด
ในด้านแรงบิดถึงจะสูงกว่า6%(500กับ 470นิวตันเมตร) ปรากฏว่ามาในช่วงแคบเพียง 1,750-2,000รอบในขณะที่เครื่อง 3.2ให้ Flat Torqueที่ 1,750-2,500 รอบ ซึ่งอาจเป็นไปได้ที่ 2,500รอบแรงบิดของเครื่อง 2ลิตรอาจจะน้อยกว่า 470นิวตันเมตร
คนขับเครื่อง2ลิตรจะเจอ Dilemma เพราะต้องลากรอบเพื่อเรียกแรงม้า(แหงล่ะที่ 3,000รอบคงเรียกไม่ได้ถึง200ม้า)แต่ก็เจอแรงบิดที่เหี่ยวปลาย การจะแซงเครื่อง 3.2 ก็ลำบากหน่อย

ส่วนตัว ถ้ามองว่า กระบะดีเซล รอบ 3000 ถือว่าไม่สบายนะครับ ผมว่ามันรอบสูงมากนะ เพราะปกติ ผมใช้กระบะอยู่ 1000 หน่อยๆ ถึง 2000 กลางๆ เองครับ

ส่วนแรงบิด 1,750-2,500 ผมก็ไม่มองว่าเป็น flat-torque นะ มันสั้นไปหน่อย น่าจะต้องแบบ 1500-3000 หรือ 1200-3000 ไรงี้ ถึงจะพอเรียกได้เต็มปากว่า flat-torque ตัวอย่างเช่น 1KD ของ vigo กราฟ torque  มาตั้งแต่ 1400-3200 ถ้าใครเคยขับ จะรู้ว่ามันขับสบายจริงๆ ยิ่งขึ้นเขากดไปเลย รถมันวิ่งขึ้นไปเรื่อยๆ ของมันเอง



Fly to dream

ลูกค้าบางกลุ่มยังมีความนิยมเครื่องยนต์​ความจุเยอะๆก็คงยังมีอยู่ครับ​

ตามนี้ครับ ดูตามเพจฝรั่งยังอยากได้ V8 กันอยู่เลย ขำ 2.0 กันใหญ่  พวกฝรั่งหัวโบราณเยอะครับ
ขยะของโลกออนไลน์​ในปัจจุบั​นคือเชื่อคนโง่ที่มีคำพูดสวยหรู​ หาข้อมูล​ไม่จริงมาโกหกคำโตๆ​ อีกอย่างคือพูดความจริงไม่หมด กับพวก​ Avatar ที่ทำเป็น​เก่ง​แต่เก่งน้อยในโลกความจริง​ซึ่งจะหาได้ง่าย



madboy

เอาจริงๆ 3.2 ปัจจุบัน ที่รอบเครื่อง 2500 ขึ้นไป เรี่ยวแรงมันก็เหี่ยวห้อยหายไปครับ  ;D ;D ;D ;D



SM.

สัดส่วนการขาย 3.2 บ้านเค้าอาจจะเยอะมากก็ได้นะครับ ทำให้ บ.รถ ไม่กล้าถอดออก



SETTHASART

ค่านิยมฝรั่งคงชอบเครื่องใหญ่ๆมั้งครับ พวกอเมกันยิ่งหนัก



tense

จนถึงทุกวันนี้ผมยังสงสัยเรื่องแรงม้าแรงบิดของเครื่อง3.2ที่ฟอร์ดโฆษณาอยู่เลยคับ 147kw 200psที่3000rpm แรงบิด470nmที่1750-2500rpm
การที่จะมีแรงม้า200ที่3000rpm มันต้องมีแรงบิดประมาณ475nmที่3000rpm ซึ่งมันเกินกว่าที่ฟอร์ดบอก แต่ถ้าจะเอาแรงบิดตามที่ฟอร์ดบอกมันก็จะไม่ได้200ม้าที่3000rpm
ส่วนตัวผมคิดว่ากราฟแรงบิดของเครื่อง2.0น่าจะคลุมกราฟของเครื่อง3.2ตั้งแต่1750rpmยันสุดรอบเครื่องคับ
ฝรั่งหลายคนที่ชอบรถลากจูงอะไรหนักๆ ชอบคิดว่าเครื่องใหญ่ๆมันสเตรสน้อยกว่ามั้งคับ :)



InBkk

ค่านิยมฝรั่งคงชอบเครื่องใหญ่ๆมั้งครับ พวกอเมกันยิ่งหนัก

โดยเฉพาะฝั่งออส และอเมริกา ส่วนยุโรปนี่ เล็กก็ชอบ ใหญ่ก็ดี



Smith686

       ถ้าเครื่อง 3.2 ยังขายได้ เขาจะถอดออกไปทำไมครับ  คนที่ชอบเครื่องเล็กแรงเยอะก็มี  คนที่ชอบเครื่องใหญ่ก็คงจะมี  แต่ถ้าเมื่อใดเครื่อง 3.2 ยอดขายต่ำจนไม่คุ้มค่า เขาก็จะเลิกขายไปเอง



Auto

ลูกค้าบางกลุ่มยังมีความนิยมเครื่องยนต์​ความจุเยอะๆก็คงยังมีอยู่ครับ​

ตามนี้ครับ ดูตามเพจฝรั่งยังอยากได้ V8 กันอยู่เลย ขำ 2.0 กันใหญ่  พวกฝรั่งหัวโบราณเยอะครับ
  เค้าก็ขำเราเหมือนกันล่ะที่เอาเครื่องเล็ก  ๆ  มาเค้นให้แรงเท่าเครื่องใหญ่       อารมณ์ในการขับรถเครื่องใหญ่  ๆ  กับเครื่องเล็กแล้วรีดแรงม้าออกมา อารมณ์ฟิลลิ่งในการขับขี่ต่างกัน



Newhang

มันอยู่ที่ความเชื่อครับ ตราบเท่าที่มันขายได้ เค้าก็เอามาขายแหละครับ

จริงๆไม่มีความจำเป็นต้องใช้เครื่องเล็กหรือรถไฟฟ้าเลยถ้าเป็นเจ้าพ่อบ่อน้ำมัน



pladaek

ก็ที่ออสเตรเลียเขาขายเครื่อง 3.2 เป็นหลักๆเลยนะครับ
ไม่ได้ขับรถเพื่อทำเวลาที่ดีที่สุด.. แต่ขับรถเพื่อเจอช่วงเวลาที่ดีที่สุด..



Koong

จะว่าผมโบราณก็ได้นะ
    ยังไงผมก็ยังชอบฟิลลิ่งของเครื่องใหญ่   ที่เครื่องเล็กให้ไม่ได้อยู่ดี (ถึงต้องซอยเกียร์ถี่ยิบ 8-10 สปีด กันส่วนใหญ่)
และ อย่างที ข้างบนบอก    ถ้าไม่ใช่เพื่อความประหยัด (บางช่วงความเร็ว)  และเรื่องปล่อยมลพิษ  บริษัทรถก็ไม่ดาวน์ไซค์เครื่องยนต์กันขนาดนี้    ยังไงเครื่องใหญ่ก็น่าจะปรับจูนให้ตอบสนองดีๆ ได้ง่ายกว่ากราปรับจูนเครื่องเล็กๆ   



JONNY

บ้านเราถ้าไม่ เก็บภาษีตามซีๆ เครื่องใหญ่ก็ยังขายดีนะ วิ่งไกลๆยาวๆ ดีกว่า ซีซีน้อยๆ



rvsmart

แล้วตัว 3.2 นี่ใส่เทอร์โบเพิ่มได้มั๊ยครับ



toffyearn

ผมก็ชอบแรงดึงของทอร์ครอบต่ำๆของเครื่องใหญ่ๆ มาไวลากแบบสมูทๆได้ยาวๆ มากกว่า ยิ่งเวลาขับ MT ถ้าเครื่องเล็กรอรอบกว่าจะมา มาก็มาอย่างแรง แต่แปบๆก็ต้องเปลี่ยนเกียร์ละ
แต่ถ้าออโตคงไม่หนีกันเทาไหร่ เพราะเกียร์จัดการให้หมด ดีที่ค่าน้ำมันที่เซฟกว่าเครื่องใหญ่ๆ เพียงแต่ต้องทนฟังเสียงรอบสูงๆหน่อย



Nismo De Alpina


ประเทศออสเตรเลียนี่ใหญ่ไม่แพ้อเมริกาเลยนะครับ
เทียบง่ายๆเดินทางจากซิดนีย์ไปเพิร์ธนี่พอๆกับ
นิวยอร์คไปแอลเอ. ผมคิดว่าออสเขาคงต้องการเครื่อง
ใหญ่ไว้เผื่อเดินทางยาวๆข้ามเมืองข้ามทวีปประมาณนั้น
ผมไม่เคยอยู่ที่ออสเตรเลียไม่แน่ใจว่าราคาน้ำมันที่นั่นถูกหรือ
แพง แต่ที่อเมริกาอีกเหตุผลที่คนชอบเครื่องยนต์ใหญ่ๆคือ
น้ำมันถูกมาก น้ำมันจึงไม่ใช่ปัญหาเท่าไรนัก ที่สำคัญกว่าคือ
เครื่องใหญ่ความจุมากๆ เวลาขับข้ามเมืองข้ามรัฐนี่สบายกว่า
เครื่องเล็กๆเยอะ ไหนจะเอาไว้ลาก 5th wheel ,Cargo trailer,etc.

ยกตัวอย่างเครื่องเล็กของ F-150 3.5L EcoBoost V6 ยังคงต้องให้เวลาเป็นเครื่อง
พิสูจน์ว่ามันจะทนทานในระยาวแค่ไหน ส่วนความประหยัดกับพละกำลังที่ได้นั้น
มันเห็นๆกันอยู่แล้วว่าไม่เลวเลย เอาจริงๆที่ฟอร์ดเข็นเครื่องตัวนี้ออกมาเพราะ
Ram 1500 3.0l ecodiesel ล้วนๆเลยครับ แต่ยังไงก็ยังโดนฝรั่งก่นด่าว่าถ้าไม่ใช่ V8 เราไม่เอา  ::)
Eventually i've made my home country,Thailand.



bigrocket

มีโอกาสได้เห็นกราฟเปรียบเทียบ ระหว่าง 2.0 Bi กับ 3.2  ทั้งแรงม้า และ แรงบิด ไม่มีอะไรที่ 3.2 สู้ได้เลยซักอย่าง



AkE

เรื่องความเชื่อเรื่องเครื่องใหญ่จะวิ่งดีกว่า สบายกว่า มีคนเชื่อกันทั้งโลกนะครับโดยเฉพาะประเทศใหญ่ๆอย่าง

Us & Australia ที่ขับรถไกลๆบ่อยแต่มันก้แอบจริงบ้างนะครับเครื่องใหญ่ไม่ต้องทำงานหนักแถมทำต่อได้อีกด้วย



coolcarrera

มองว่าเป็นจุดเปลี่ยนผ่านน่ะครับ จะถอดออกตู้มเดียวเลยเหลือ 2.0 ก็ได้ แต่ถ้าไม่ปังล่ะทำไง
ขนาด amarok มาด้วยเครื่อง 2.0 เทอร์โบคู่ลากขายมาหลายปี ตัวเลขแรงม้าแรงบิดเยอะกว่าเครื่องบล็อกโตจากคู่แข่งฝั่งญี่ปุ่น สรุปสุดท้ายยังต้องไปเอา 3.0 v6 turbo diesel มาขายเพิ่มอีก

ไหนจะเจอ merc x-class ที่ก็จะมี v6 3.0 diesel มาเสริมทัพอีก

คิดว่า ford australia เองคงยังไม่อยากทิ้งเดิมพันกับกลุ่มนี้ เลยยังเอา 3.2 ไว้

และอย่างน้อย ลากต่อไปอีกหน่อยให้คุ้มทุน ก็ยังดีกว่าไม่ได้อะไรเลย
E3, D15 Carb, 2E
F22B VTEC, J30A VTEC
1TR, 1NZ
D4CB
1GD, R18