ผู้เขียน หัวข้อ: วิเคราะห์ทิศทางรถยนต์สองปีข้าง  (อ่าน 6435 ครั้ง)

ออฟไลน์ Eddy5659

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,619
วิเคราะห์ทิศทางรถยนต์สองปีข้าง
« เมื่อ: กรกฎาคม 15, 2010, 14:37:43 »
ต้องเรียนตามตรงเลยครับว่ากำลังมองหารถคันใหม่ (หามาเกือบ 3 เดือนแล้ว) เพื่อเตรียมความพร้อมให้เจ้าตัวน้อยที่วางแผนว่าจะมีปลายปีหน้า

ตอนแรกวางแผนว่าจะซื้อซัก ล้านนิดๆ ต่อมาก็เป็น สองล้าน และตอนนี้ก็เพิ่มไปอีกแล้ว และค่อนข้างสับสนกับความคิดตัวเอง

เพราะอ่านบทความมาเยอะมาก และตามข่าวคราวมาก็เยอะ ทิศทางรถต่อไปมันจะมีรถ ไฟฟ้า และรถประหยัดพลังงาน

ส่วนตัวผมตอนนี้เอนไปทาง prius แต่แฝนผมอยากได้ 5-series มันเป็นปัญหาระดับชาติเลยนะครับ

เพราะแน่นอนเลยว่าหลังซื้อรถแล้ว มีลูกแล้ว คงทุ่มทุกอย่างให้เจ้าตัวน้อยเต็มที่แน่นอน

รถคันนี้เลยถูกคาดการณ์ว่าจะใช้ยาวหน่อย เพราะเราเองก็ไม่ได้มีเงินขนาดจะสะสมรถได้ ดังนั้นเมื่อซื้อแล้วต้องดี และไม่ตกยุค

ผมกลัวว่าเอาเข้าอีก 2-3 ปี รถไฟฟ้ามันจามา และตอนนั้นน้ำมันคงขึ้นเอา ขึ้นเอา  เหมือนราคาทอง

เลยอยากชวนท่าน ซึ่งคงมีแง่คิดที่แตกต่างกันออกไป ว่าอีกปี หรือ สองปีข้างหน้า เราควรหันไปใช้รถแบบไหนดี แบบเดิม หรือเปลี่ยนไปเลย
2007 Toyota Vios
2009 Toyota Hilux Vigo
2010 Toyota Camry
2011 Ford Ranger
2011 Isuzu Dmax
2011 Toyota Hilux Vigo
2015 Ford Ranger
2015 Ford Everest 2.2 Titanium
2015 Ford Everest 3.2 Titanium+
2016 Toyota Hilux Revo 2.4 J m/t (5 คันจะที่รัก)
2017 BMW 320d iconic

ออฟไลน์ Ohmmypp

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,042
Re: วิเคราะห์ทิศทางรถยนต์สองปีข้าง
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กรกฎาคม 15, 2010, 15:35:03 »
ณ วินาทีนี้ ยังไม่มีรถตลาดๆ ที่มี Plug-in Hybrid ในบ้านเราเลยครับ และคาดว่าจะยังไม่มีไปอีกไม่ต่ำกว่า 2 - 3 ปี แน่ๆ
JC TU #54

ออฟไลน์ Dark Overlord

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,804
  • Hail to the darkside
Re: วิเคราะห์ทิศทางรถยนต์สองปีข้าง
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: กรกฎาคม 15, 2010, 16:19:48 »
ใช้รถถูกๆ ไปก่อน เปลี่ยนไปเรื่อยครับ ไม่ต้องจมปลักกับรถแพงๆ คันเดียว 5-6 ปี
เป็น concept ส่วนตัวของผมนะครับ ลองดู Camry Hybrid สิครับ เป็นรถใหญ่ขนาด
กลาง แล้วก็เป็น Hybrid น่าจะเป็นการพบกันครึ่งทาง ระหว่าง Prius กับ BMW 5 series นะครับ

ออฟไลน์ book350

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 290
    • อีเมล์
Re: วิเคราะห์ทิศทางรถยนต์สองปีข้าง
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: กรกฎาคม 15, 2010, 16:31:38 »
ใช้รถถูกๆ ไปก่อน เปลี่ยนไปเรื่อยครับ ไม่ต้องจมปลักกับรถแพงๆ คันเดียว 5-6 ปี
เป็น concept ส่วนตัวของผมนะครับ ลองดู Camry Hybrid สิครับ เป็นรถใหญ่ขนาด
กลาง แล้วก็เป็น Hybrid น่าจะเป็นการพบกันครึ่งทาง ระหว่าง Prius กับ BMW 5 series นะครับ

โอ้ๆ ชอบคห.นี้มากครับ มีเหตุผลมาก

ถ้าเป็นผมคงเอา BMW 5 ครับถ้าจะพูดถึงอนาคต
ความปลอดภัย ความสบาย และหน้าตา ถ้ากำลังซื้อถึงโดยที่สามารถซื้อสดได้ผมเชียร์รถยุโรปครับ
ถ้ากำลังซื้อไม่ถึงขนาดซื้อสดได้ แบบว่าหากซื้อ BMW แล้วเป็นภาระต้องผ่อน ผมแนะนำรถญี่ปุ่นครับ ตามคห.ข้างบนนี้เลย แถมเอาเงินที่เหลือมาซื้อ city car คันเล็กๆแบบ jazz ได้อีกคันเผื่อไปไหนนิดหน่อยในเมืองได้อีกครับ รถญี่ปุ่นคุ้มดี อิอิ

ทางเลือกอีกทาง หากอยากได้รถดี ราคาไม่แพงเกินไป Subaru Legacy ครับ
Way to Itasha!
Honda Accord CM6 (Inspire) V6 3.0L 240HP - K&N - MUGEN - LENSO
VW GTI mk6 2.0L 330HP - APR K04 - VWR - Neuspeed - Defi - Forge - Sendai

ออฟไลน์ J!MMY

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 15,624
    • www.headlightmag.com
    • อีเมล์
Re: วิเคราะห์ทิศทางรถยนต์สองปีข้าง
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: กรกฎาคม 15, 2010, 17:24:39 »
เออ เนาะ เราลืม Legacy กันไปเลย...

ประหยัดน้ำมันได้น่ามอบโล่ห์จริงๆ แต่ การบริการหลังการขายเนี่ยสิ...
อู่นอกน่าจะดีกว่าหรือเปล่าหว่า?

ออฟไลน์ traveller

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 266
Re: วิเคราะห์ทิศทางรถยนต์สองปีข้าง
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: กรกฎาคม 15, 2010, 18:15:21 »
สองปี ข้างหน้า ตลาดรถยนต์เมืองไทย ก็ จะไปตาม ทิศทาง ที่ ญี่ปุ่น และ อเมริกา นิยมครับ
คือ รถไฮบริดเบนซิน
วันนี้ มี คันรี่ ไฮบริด
ปีหน้า คงจะได้เห็น พรีอุส หรือ โคโรล่า ไฮบริด
เพราะ ดู แนวโน้ม โตโยต้า จะ เอาจริง กับ ตลาดประเทศไทย นะ

นายใหญ่ โตโยต้าไทย พูดไทยได้
และ ก่อนเดินทางมาไทย ได้รับ คำแนะนำ จาก ท่าน อาคิโอะ โตโยดะ ว่า ให้ พูดไทยมากมาก
ต่อมา โตโยต้าไทย ก็ เปิดตัว คัมรี่ ไฮบริด ในไทย ก่อน ชาติไหน ใน เอเซีย ยกเว้น จีน ญี่ปุ่น
วิกฤต โตโยต้า ในอเมริกา และ การหดตัว ของ เศรษฐกิจยุโรป
จะ บังคับ ให้ โตโยต้า ยิ่ง ต้อง เพ่ง มอง ตลาดเกิดใหม่ ที่ เคย ละเลยมานาน
ตลาด อาเซียน และ อินเดีย คือ สิ่งที่ โตโยต้า จะบุกใหญ่ ครับ

อาเซียน มีข้อตกลง FTA กับ อินเดีย เรื่อง เครื่องยนต์แล้ว
ดังนั้น เครื่องยนต์ คูโบต้า จากไทย คงจะได้ไป อินเดีย
และ เครื่องยนต์อะไร จากอินเดีย จะมา ไทย บ้าง ละ

ผมเสียดาย ที่ ฟอร์ด ไม่คิดจะ เอา เครื่องดีเซล 1.4TDCI ที่ใช้กับ เฟียสต้า อินเดีย มาไทย นะ
ที่อินเดีย ฟอร์ด ลงทุน ผลิต เครื่องดีเซล ในโรงงานใหญ่ กำลังการผลิต สองแสน เครื่องต่อปี เลย

รถ เบนซิน ไฮบริด จาก โตโยต้า ครับ
ที่จะ กิน ส่วนแบ่ง การตลาด รถในไทย มากขึ้น เรื่อยๆ ใน อีก สองปี ข้างหน้า

วันนี้ ถ้า จำเป็น ต้องซื้อรถ ระดับ สองล้าน
คัมรี่ ไฮบริด คือ ตัวเลือก ตัวแรก ที่ มีเหตุผล ดี ที่สุดครับ

หลังจาก มี คัมรี่ ไฮบริด แล้ว
เกิด ความต้องการ ขับรถ สนุก โดย ไม่สน ศูนย์บริการ
ก็ Subaru Legacy นั่นแหละครับ
เครื่องบ็อกเซอร์ นอนยัน ขับสี่ล้อ ช่วงล่างอิสระทุกล้อแท้ ดิสเบรค4ล้อ
รุ่น 2.0i Sedan 1,988,000 บาท
รุ่น 2.0i Wagon 2,058,000 บาท
ราคาไม่แรง แต่ ออปชั่น อาจไม่มาก แต่ ขับดีจริงๆ นะครับ
ปรับรถ ไว้ ไม่แข็ง ออกแนว นุ่ม
น่าจะถูกใจ คนรักครอบครัว ครับ
ที่สำคัญ คือ รถดีมาก ปลอดภัย เกาะถนน เบรคดี
มองหา คู่แข่ง ที่ดีกว่านี้ ไม่ได้จริงๆ เลย

คิดว่า รุ่น แวกอน น่าจะเหมาะ กับ คนมีลูกเล็กๆ นะ
ภายใน กว้าง พอ ที่ เด็ก จะคลานเล่น
มีที่วาง ของใช้เด็กเล็ก ท้ายรถ จับคว้า มา ทำความสะอาด ตัวเล็ก ได้ง่าย
น่าใช้ครับ ถ้า มีรถหลายคัน
 

ออฟไลน์ Disk™

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,153
  • High Society Sallon Gallery
Re: วิเคราะห์ทิศทางรถยนต์สองปีข้าง
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: กรกฎาคม 15, 2010, 22:25:41 »
ใช้รถถูกๆ ไปก่อน เปลี่ยนไปเรื่อยครับ ไม่ต้องจมปลักกับรถแพงๆ คันเดียว 5-6 ปี
เป็น concept ส่วนตัวของผมนะครับ ลองดู Camry Hybrid สิครับ เป็นรถใหญ่ขนาด
กลาง แล้วก็เป็น Hybrid น่าจะเป็นการพบกันครึ่งทาง ระหว่าง Prius กับ BMW 5 series นะครับ

เห็นด้วยกับ camry hybrid ครับ
User Review : ฟิล์มเซรามิค SolarFX (รีวิวแรกของผมครับ)
http://community.headlightmag.com/index.php?topic=53654.0

User Review : Remap ECU Toyota Fortuner ที่ ECU Thailand by RPT
http://community.headlightmag.com/index.php?topic=71384.0

ออฟไลน์ SignifeR

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,953
  • Impreza Type GDG WRX
    • ร้านหนังสือผ้าสำหรับเด็ก IGGY BOOK
    • อีเมล์
Re: วิเคราะห์ทิศทางรถยนต์สองปีข้าง
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: กรกฎาคม 15, 2010, 22:59:54 »
520D มั๊งครับ...เป็นโจทย์ที่นำเอาสิ่งที่เมียอยากได้ และคุณอยากได้ความประหยัดมาไว้ด้วยกันได้นะ

แต่สำหรับผม ผมพาเมียไปลองนั่งอิมครับ....คุณท่านติดใจ...การออกรถก็ผ่านฉลุย ปลายเดือนนี้รับรถ แฟนบ่นอยากนั่งอิมไวๆ.....
ลองดูนะครับจะลองรถอะไรพาเมียไปด้วย ให้เซลล์เขาถามว่า พกเมียมาด้วยเหรอ พกเมียมาด้วยหรือพี่ มาลองรถแค่นี่ก็พกเมียมาด้วยยยย

แล้วท่านจะสมประสงค์อย่างที่ท่านต้องการทุกอย่างเลยหล่ะครับ

ปล.เชียร์ซูบารุครับ เป็นรถดีที่ถูกลืม แต่ถ้ามองความประหยัดมากๆ อาจจะสู้ 520D ไม่ได้นะ แต่ถ้ามองด้านอื่นๆคือความไม่จุกจิกของมัน
ความแข็งแรงปลอดภัย ช่วงล่างไว้ใจได้ ตัวถังปราการเหล็ก ขุนทรัพย์จากเจแปน อันนี้ก็ตอบโจทย์ได้เลย...

อนาคตเบื่อๆเครื่องเดิมก็วางเครื่องแรงๆไว้ซิ่งพาลูกเที่ยวได้ด้วย

ปล.ผมก็พ่อลูกอ่อนเช่นกันครับ น้องตอนนี้เกือบสองขวบแล้ว ซนชิบ...
In Garage Subaru Impreza GDG WRX  y2008 // Nissan March 1.2E y2011

ออฟไลน์ SignifeR

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,953
  • Impreza Type GDG WRX
    • ร้านหนังสือผ้าสำหรับเด็ก IGGY BOOK
    • อีเมล์
Re: วิเคราะห์ทิศทางรถยนต์สองปีข้าง
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: กรกฎาคม 15, 2010, 23:08:20 »
ตอบเรื่องเทรนด์นิดนึง สไตล์รถยุคถัดไปอีกสองปี ผมมองว่ารถยนต์จะพัฒนาเครื่องยนต์เบนซินไปไม่ได้มากกว่านี้
แล้วหลายๆค่ายจะเริ่มหันสู่ยุคทองของเทอร์โบครับ....เพราะเรื่องการพัฒนาวัสดุในการผลิตเครื่องยนต์ก้าวหน้าไปมาก
ดังนั้นยุคหน้าคือยุคของเครื่องอัดอากาศโดยลักษณะเครื่องยนต์เล็กลงแต่ทรงประสิทธิภาพมากขึ้นครับ มาแน่นอน
เพราะการพัฒนาของเครื่อง N/A มันก็ใกล้ถึงทางตันเต็มทีแล้ว เพราะมีทั้งวาล์วแปรผันทั้งฝั่งไอดี ไอเสีย...จนไม่รู้จะไปแปรอะไรแล้ว
ก็ได้แต่พยายามเค้นประสิทธิภาพเครื่องให้มากขึ้นได้เท่านั้น แต่ถ้ามองเรื่องแรงม้า และแรงบิดที่มากขึ้น ระยะหลังสังเกตมั๊ยว่ารถส่วนมาก
จะเน้นไปที่แรงบิด...ซึ่งถ้าจะเอากันจริงๆ เทอร์โบเท่านั้นที่มันสั่งได้ (ไม่ก็ซุปเปอร์ชาร์ต) แต่รถฝั่งญี่ปุ่นน่าจะเอาเทอร์โบมาเล่นมากกว่า
รถรุ่นใหม่ระยะหลังพยายามทำเครื่องที่มี cc. สูงมากขึ้นเพื่อสร้างแรงบิด แต่..อนาคตมันไม่ใช่ มันต้องหันกลับไปหาเครื่องที่ตัวเล็กลง
แต่สร้างแรงม้า แรงบิดได้เท่าเทียบกับเครื่องใหญ่ๆ รถมันก็วนกันไป วนกันมาแบบนี้แหละครับ เพราะเทรนด์รถรุ่นใหม่ๆที่ครองตลาด
ก็รถเครื่องยนต์ไม่เกิน 2,000 cc. ทั้งนั้น ส่วนรถที่มีความจุมากกว่านี้คนจะกลัวว่ามันจะกินน้ำมันนั่นเองยิ่งยุคน้ำมันแพง คุยกับแฟนก็ต้องมานั่งปิดไฟด้วยสิ
ส่วนเทคโนโลยีไฮบริดก็คงพัฒนาควบคู่กันไปครับ แต่ถ้าจะให้มันเป็นจริงเป็นจังมากกว่าปัจจุบันคงต้องค่อยๆมองต่อไปอีก ห้าปีสิบปีมากกว่าจะสองสามปี

เรื่องเทรนด์สีรถ ผมคิดว่าสองปีก่อนเป็นปีของสีขาวและดำ ส่วนปีนี้จนถึงอีกสองสามปีข้างหน้าวงจรสีรถยนต์จะเทคะแนนไปที่สีเทาครับ
เทาอ่อน เทาเข้ม บรอนท์เงิน จะกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง และอยู่ได้ยาวๆ เลย อีกเฉดที่น่าจะมีแรงคือสีสันสดใสต่างๆนานา แต่คิดเป็น %แล้ว
สีเทาคงสัก 70% และสีสดๆ 30% ครับ

ผมวิเคราะห์มั่วๆนะ พอดีจบศิลปกรรมมา วิเคราะห์ไปตามหลักการ ของวงจรสี(หญิง)
In Garage Subaru Impreza GDG WRX  y2008 // Nissan March 1.2E y2011

ออฟไลน์ SignifeR

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,953
  • Impreza Type GDG WRX
    • ร้านหนังสือผ้าสำหรับเด็ก IGGY BOOK
    • อีเมล์
Re: วิเคราะห์ทิศทางรถยนต์สองปีข้าง
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: กรกฎาคม 15, 2010, 23:23:44 »
ว่าจะต่อให้ตะกี้เล่นในห้องน้ำ แบตดันจะหมดซะนี่....

ทำไมต้อง "สีเทา"  เคยสังเกตุมั๊ยครับว่าเดี๋ยวนี้อะไรก็ แพททินั่ม ไทเทเนี่ยม....อะไรที่มันดูหรูหรา ดูไฮมากๆ ก็มักจะเป็น บัตร..ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด แพททินั่ม
ไม่ก็บัตร...ตู๊ด ตู๊ด ไทเทเนี่ยม แนวๆนี้ ทีนี้ ในการขายรถยนต์ผมก็มองว่าเขาก็ต้องมองบริบทของตลาดในช่วงนั้นๆด้วยว่าอะไรกำลังจะมา อะไรกำลังจะไป
ดังนั้น ผมเลยคิดทึกทักของผมเองว่า ไอ้สีเทานี่แหละ กำลังจะมา แล้วก็สังเกตุว่า สีเทา เทาเข้ม เทาอ่อน ทำนองนี้ก็จะมีในรถแทบจะทุกรุ่นเลยทีเดียว

อีกอย่างคือลักษณะการใช้ชีวิตของคนในสังคมที่เปลี่ยนไป แต่ก่อนทุกคนก็มักจะล้างรถที่บ้าน(ล้างเอง) หรืออย่างมากก็ปั๊มอะไรทำนองนี้ คาร์แคร์ยังไม่เกิดเยอะ
ขนาดในปัจจุบัน ดังนั้น สังคมสมัยก่อนคือเวลาเดินช้าครับ แต่เดี๋ยวนี้ไม่ใช่ สังคมเดินเร็วขึ้น วิถีมันเปลี่ยนผ่านไวขึ้น คนก็มีเวลาให้ตัวเอง และให้รถตัวเองน้อยลง
หลายคนพึ่งคาร์แคร์ ตัวผมเองก็เข้าคาร์แคร์ทุกอาทิตย์คล้ายๆกิจวัตรประจำวันไปแล้ว การที่เวลามีน้อยลง ดังนั้นสีรถที่มันไม่ต้องดูแลมากนักและยังแลดูสะอาด
ดูสวยอยู่ก็คือสีเทาครับ จุดนี้ก็เป็นอีกจุดที่ผมคิดว่าน่าสังเกตุอยู่และรถสีอ่อนหรือสีเทามักจะเจอะเจอบนท้องถนนมากกว่ารถสีเข้ม หรือสีสดๆ

อีกข้อสังเกตุคือลักษณะเศรษฐกิจที่เราต้องพึงพิงคนอื่นมากขึ้น คาร์แคร์...ต้องใช้เงิน กู้ไฟแนนท์ก็เงินเขา....ผ่อนรถอีกไหนจะบ้านอีก ทุกอย่างคือเรื่องของการ
บริหารเงินภาคครัวเรือน ดังนั้น การซื้อรถสักคันที่มันดูแลไม่มากนัก ยังสวยอยู่เสมอ ดูไม่เก่าเร็ว และซื้อขายได้ง่ายก็ยังเป็นอีกช๊อยที่คนมักจะเลือกสีเทาครับ

พวกเทรนด์เซ็ทติ้งพวกนี้ ทำให้มีสีเทาแปลกๆใหม่ๆให้เราได้เห็นเสมอๆไงครับ ทุกอย่างผ่านกระบวนการทางการคิดและกลั่นกรองออกมาเป็นสีรถที่สะท้อน
บริบทของสังคมไทยได้เป็นอย่างดีทีเดียว

ผมวิเคราะห์ัมั่วๆ อย่ามาเชื่อมากนักนะครับ
//อาร์ต//
In Garage Subaru Impreza GDG WRX  y2008 // Nissan March 1.2E y2011

ออฟไลน์ Eddy5659

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,619
Re: วิเคราะห์ทิศทางรถยนต์สองปีข้าง
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: กรกฎาคม 16, 2010, 00:07:05 »
520D มั๊งครับ...เป็นโจทย์ที่นำเอาสิ่งที่เมียอยากได้ และคุณอยากได้ความประหยัดมาไว้ด้วยกันได้นะ

แต่สำหรับผม ผมพาเมียไปลองนั่งอิมครับ....คุณท่านติดใจ...การออกรถก็ผ่านฉลุย ปลายเดือนนี้รับรถ แฟนบ่นอยากนั่งอิมไวๆ.....
ลองดูนะครับจะลองรถอะไรพาเมียไปด้วย ให้เซลล์เขาถามว่า พกเมียมาด้วยเหรอ พกเมียมาด้วยหรือพี่ มาลองรถแค่นี่ก็พกเมียมาด้วยยยย

แล้วท่านจะสมประสงค์อย่างที่ท่านต้องการทุกอย่างเลยหล่ะครับ

ปล.เชียร์ซูบารุครับ เป็นรถดีที่ถูกลืม แต่ถ้ามองความประหยัดมากๆ อาจจะสู้ 520D ไม่ได้นะ แต่ถ้ามองด้านอื่นๆคือความไม่จุกจิกของมัน
ความแข็งแรงปลอดภัย ช่วงล่างไว้ใจได้ ตัวถังปราการเหล็ก ขุนทรัพย์จากเจแปน อันนี้ก็ตอบโจทย์ได้เลย...

อนาคตเบื่อๆเครื่องเดิมก็วางเครื่องแรงๆไว้ซิ่งพาลูกเที่ยวได้ด้วย

ปล.ผมก็พ่อลูกอ่อนเช่นกันครับ น้องตอนนี้เกือบสองขวบแล้ว ซนชิบ...

วันนี้เข้าไปดู 520 d มาเหมือนกันครับ ชอบมากมาย
แต่เดี๋ยวตัวให่จะมาแล้ว เลยบอกเมียว่ารอก่อน เก็บตังค์ ต่อและซื้อสดเลยชักรำคาญมากและ
แต่ว่าผมเห็นผรั่งมัน มั่วๆ 2012 camry
<a href="http://upic.me/show.php?id=1cb9c921666975ee96fc934a84bf87db" target="_blank"><img border="0" src="http://upic.me/i/sq/toyota-camry-2012-pictures2.jpg">[/url]
สวยดี
2007 Toyota Vios
2009 Toyota Hilux Vigo
2010 Toyota Camry
2011 Ford Ranger
2011 Isuzu Dmax
2011 Toyota Hilux Vigo
2015 Ford Ranger
2015 Ford Everest 2.2 Titanium
2015 Ford Everest 3.2 Titanium+
2016 Toyota Hilux Revo 2.4 J m/t (5 คันจะที่รัก)
2017 BMW 320d iconic

ออฟไลน์ Eddy5659

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,619
Re: วิเคราะห์ทิศทางรถยนต์สองปีข้าง
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: กรกฎาคม 16, 2010, 00:09:08 »
กำครับ ก๊อบมาผิดลิ้งค์

2007 Toyota Vios
2009 Toyota Hilux Vigo
2010 Toyota Camry
2011 Ford Ranger
2011 Isuzu Dmax
2011 Toyota Hilux Vigo
2015 Ford Ranger
2015 Ford Everest 2.2 Titanium
2015 Ford Everest 3.2 Titanium+
2016 Toyota Hilux Revo 2.4 J m/t (5 คันจะที่รัก)
2017 BMW 320d iconic

ออฟไลน์ P_Wut

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 866
  • My Sporty Innova
    • อีเมล์
Re: วิเคราะห์ทิศทางรถยนต์สองปีข้าง
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: กรกฎาคม 16, 2010, 13:03:12 »
แค่เรื่องเบื้องต้น ก็ยังไม่ผ่านเลยนะครับ

จะซื้อรถสักคัน งบเท่าไหร่ ตีกรอบให้แน่นอนครับ ถ้ายังคิดข้อนี้ไม่ออก ข้ออื่นๆ เลิกคิด
_____________________________________________________________

แล้วการเริ่มมีครอบครัว มีลูกคนแรก โดยเฉพาะคนฐานะดี ไปไหนมาไหนที

ถ้าพาลูกไปด้วย ไม่ใช่แค่ พ่อแม่ลูก แน่นอนครับ น่าจะต้องมี พี่เลี้ยง (ไม่ว่าจะพี่เลี้ยงจริงๆ หรือพี่เลี้ยงกิตติมศักดิ์)

ดังนั้น มองเป็นพวกรถ 5 ประตูแบบ SUV / รถตู้ MPV ไว้เลยดีกว่าครับ  รถซีดาน 4 ประตู เลิกคิด
 

ออฟไลน์ Sman

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 537
Re: วิเคราะห์ทิศทางรถยนต์สองปีข้าง
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: กรกฎาคม 16, 2010, 13:57:20 »
เห็นด้วยกับคุณ Wut ถ้ามีฐานะดี เวลาไปไหนต้องมีพี่เลี้ยง คงต้องมองไปทาง SUV หรือ MPV มากกว่าครับ

ส่วนพวกรถ 4 ประตู เอาไว้ขับไปทำงานอย่างเดียวดีกว่า