1. การทดสอบ 1 ครั้ง ต่อ รถ 1 คัน...ค่าใช้จ่าย คร่าวๆ โดยประมาณมีดังนี้
1.1 ค่าน้ำมัน ไม่แน่นอน ขึ้นกับว่า ผู้ผลิตรถยนต์จะเติมน้ำมันในถังมาให้ก่อนส่งมอบเต็มหรือไม่
แต่ถ้าสมมติว่า เติมมาจนเต็มตั้งแต่แรก เติมเข้า ครั้งแรก มันมักจะอยู่ที่ไม่เกิน 100 - 150 บาท
1.2 ค่้าน้ำมันหลังจากขับทดสอบอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเสร็จ มันจะอยู่แถวๆ ตั้งแต่ 5.5 ลิตร จนถึงไม่เกิน 12 ลิตร
ถ้าตี ว่า เป็นเบนซิน 95 ลิตรละ 38 บาท มันจะอยู่ที่แถวๆ 200 - 500 บาท
และค่าน้ำมัน สำหรับเติมกลับให้กับรถทดสอบ ก่อนนำไปคืน มักจะอยู่ที่ 200 - 300 บาท
ตามธรรมเนียมแล้ว ควรจะเติมให้เต็มถัง แต่ ในสภาพราคาน้ำมันแบบนี้
และเราเอง ใช้ค่าใช้จ่ายส่วนตัว บริษัทรถ จึงอะลุ่มอะล่วย ให้เติมน้ำมันกลับ
เอาแค่เพียงพอให้สามารถ นำรถไปเติมน้ำมันส่งต่อให้กับผู้อื่นได้ทดสอบต่อไปได้ ก็เพียงพอ
ค่าน้ำมัน รวมแล้ว ต่ำสุด น่าจะอยู่ที่ราวๆ 300 บาท สูงสุด 650 บาท แต่หลายครั้ง มันก็เกิน
ขึ้นกับว่า ผู้ผลิต จะเติมน้ำมันมาให้เต็มถังหรือไม่
ถ้าไม่ บางที มันพุ่งกระฉูดไปเป็น พัน
แต่ตรงนั้น เนื่องจากว่า ถือเป็นธรรมเนียม ที่ผู้ผลิตจะต้องเติมให้สื่อมวลชนในถังแรก
ดังนั้น ผู้ผลิส่วนใหญ่ จึงยินดีที่จะให้เรานำใบเสร็จจากน้ำมันเชื้อเพลิงถังแรก ที่พวกเขาอาจจะไม่สะดวกเติมให้
ไปเบิกเป็น Petty Cash หรือเงินสำรองจ่ายประจำวัน ของ ฝ่าย ประชาสัมพันธ์ ได้
ถ้าไม่จำเป็น ผมก็จะไม่รบกวน แต่บางครั้ง น้ำมันที่เขาไม่ด้เติมม ลงต่ำเกินกว่าครึ่งถัง ซึ่ง ในยุคน้ำมันแพงขนาดนี้
จำเป็นต้องให้ทางบริษัท ออกให้ ตามธรรมเนียม <------ ตรงนี้อ่านให้ดีๆนะครับ ย้ำเลยว่า ปกติ ผมจะไม่รบกวนบริษัทรถ
แต่ถ้าในกรณีที่เข็มน้ำมัน ต่ำกว่าครึ่งถัง อันนี้ ก็อาจจะต้องรบกวนทางบริษัทรถ ออกให้ และจ่ายตามจริง ซึ่งนี่คือเรื่องปกติ
และถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของสื่อมวลฃนทำกัน
แต่ถ้าค่าน้ำมันอื่นๆ หลังจกาที่ใช้ถังนี้หมด ผมออกเองทั้งหมดครับ ไม่มีข้อแม้ใดๆทั้งสิ้น สมัยก่อนนี้ เบิกไมไ่ด้เลย
1.3 ค่าทางด่วนในการทดลองอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง
- ด่านพระราม 6 = 45 บาท
- ด่าน งามวงศ์วาน = 10 บาท
- ปลายทาง = 45 บาท
- วกกลับมาขึ้นอีกฝั่งหนึ่ง เพื่อย้อนกลับ = 45 บาท
- ด่านงามวงศ์วานขากลับ = 55 บาท
รวมแล้ว 200 บาท
1.4 ค่าทางด่วน สำหรับการทดสอบอัตราเร่ง
- ค่าทางด่วน = 45 บาท
- รับบัตร กลางทาง จากนั้น มุ่งหน้าไปลงตามด่านต่างๆ อยู่ที่ 20-25 บาท
รวมแล้วอยู่ที่ 65-70 บาท FIX COST
ส่วนค่าทางด่วน ที่ไม่รวม การเดินทางส่วนตัวใดๆ จะไม่ถูกนำมานับรวมกับค่าใช้จ่ายในการทดสอบ
ค่าาล้างทำความสะอาดรถ อยู่ที่ ต่ำสุด 100 - 200 บาท
และในบางครั้ง ต้องล้างถึง 2 ครั้ง เพื่อการถ่ายรูป
ก็จะปาเข้าไป สูงสุด 300 บาท ปกติจะไม่ให้เกินนี้
เอาละ เรามารวมตัวเลขกันดีกว่า
ต้นทุนเท่ากับว่า รถ 1 คัน จะมีต้นทุนในการทดลองขับ เพื่อทำรีวิว ทั้งหมด
รวมค่าน้ำมัน ต่อ คัน ต่ำ่ำสุด 400 สูงสุด 950 บาท
รวมค่าทางด่วน 260 - 275 บาท
ค่าล้างรถ 100 - 300 บาท
ดังนั้น ต่ำสุด คันละ 760 บาท สูงสุด ประมาณ 1,525 บาท
บางคัน เจอค่าน้ำมันเข้าไป เคยสูงสุดรวมแล้ว 4,000 กว่าบาท กับ Subaru B9 Tribeca
แต่ เนื่องจากรถคันนั้น มอเตอร์อิมเมจไม่ได้เติมน้ำมันมาให้แต่แรก
เลยต้องขอบิลค่าน้ำมันไปเบิก ตามธรรมเนียมปฏิบัติในกรณีที่บริษัทรถไม่ได้เติมน้ำมันมาให้ 1,000 บาท โดยประมาณ
เพราะรถคันนั้น เข็มน้ำมัน ณ วันนั้น มันลงต่ำจนใกล้ถึง E อยู่แล้ว สรุปแล้ว คันนั้น ก็ปาเข้าไป 3,000 กว่าบาทอยู่ดี และนั่นคือสูงสุดที่เคยเจอมา
เล่นเอาเดือนนั้น จนไปเลย
และ เดือนนึง นั้น บางเดือน มีแค่ 2 คัน
แต่บางเดือน ติดกัน 6-7 คันรวดเลยก็เคยมี
มันไม่แน่นอนครับอันนี้ ไปบวกลบคูนหารกันต่อเอาเองแล้วกัน
แ่ถ้าลองตีคร่าวๆ เป็น คันละ 1,000 บาท
แล้วคิดว่า ลองรถ เดือนละ 3 คัน สัปดาห์ละ 1 คัน (มีปี 2006-2007 ที่สลับสับเปลี่ยนรถใหม่มาลองขับ ทุกสัปดาห์ ขาดอีกเพียง 4 สัปดา์ห์
ก็จะเท่ากับว่า มีรถทดลองขับ มาจอดอยู่บ้านตลอด 1 ปีเต็มแล้ว)
ตกเดือนละ 3,000 ปีละ 36,000 บาท
ทำมา 5 ปี ถ้าคิดคร่าวๆ ก็ 180,000 บาท
เฮ่ยยยยยยยยยย มันถึง แสนด้วยเหรอ!!!!
เคยนั่งคิดรร่าวๆ มันยังไม่เคยถึงแสนแหะ
สงสัย ต้องหาเวลา นับรวมกันจริงๆแล้วละมั้ง
แต่คิดว่า ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ก็น่าจะต่ำกว่า 200,000 บาท แน่ๆ มันไม่ควรเกินจากนี้....
นั่งคิดเอง ยังตกใจเองเลย ว่ามันถึงด้วยเหรอ ยังคิดแค่ว่า มันไม่น่าจะถึงแสนอ่ะ....
-----------------------
2. ตลอด 5-6 ปีที่ผ่านมา ผมทำรีวิว นั้น ใช้เงินในกระเป๋าตังค์ตัวเองครับ ไม่มีสปอนเซอร์
และการไม่มีสปอนเซอร์เนี่ยแหละ คือข้อดีอย่างวิเศษที่สุด!
เพราะจนถึงปัจจุบันนี้
ไม่มีใคร สามารถก้าวล่วง มายุ่งเกี่ยวกับการทำรีวิวของพี่
หรือมาสั่งการให้พี่ทำรีวิวตามใจเขา หรือใครต้องการ ได้เลยแม้แต่คนเดียว!!!
เพราะเขาเหล่านั้น ไม่เคยออกตังค์ให้ ไม่เคยช่วยเหลือ อ้างว่า เอารถไปใช้ส่วนตัว จะจ่ายให้ได้เยี่ยงไร
แล้วทีตนเองเอารถเหล่านั้นไปใช้ส่วนตัว แต่เบิกค่าใช้จ่ายกับบริษัทละ? มันหมายความว่าเยี่ยงไร?
ไม่เป็นไรครับ นั่นคือเรื่องของเขา หรือใครก็ตาม และผมแค่ตั้งคำถามเอาไว้
การที่ผมออกตังค์เอง ดังนั้น ความบริสุทธิ์ ยุติธรรม จึงมีอยู่อย่างเต็มเปี่ยม
ผมเชื่อว่า ทั้งผู้บริโภค และบริษัทรถ น่าจะแฮปปี้ ยินดียอมรับ รูปแบบรีวิวที่เราทำอยู่นี้มากกว่า แบบอื่นๆ แบบเก่าๆที่เคยมีมา
เคยเสียดายไหม? ไม่เคยคิด อาจมีคิดน้อยใจบ้าง ตอนโดนพวกผู้ไม่ประสงค์ดีในพันทิบ ห้องรัชดา ด่า
อาจจะเคยน้อยใจ เจ็บใจ ตอนที่ถูกก่นด่า และต่อว่า ไปจนถึง ฉีกหน้า กันสดๆ ออกอากาศในรายการวิทยุ
แต่สุดท้าย ก็คิดได้ว่า ช่างเขาเหอะ เรทำงานของเราต่อไปดีกว่า ทำในสิ่งที่เรารัก ทำในสิ่งที่อยากทำ แค่นั้น ไม่ต้องสนใจ
ปรับปรุงงานเราให้ดีต่อไป ก็พอ