Home-Made review TESLA Model 3 - 2018 [Long range version] +Auto Pilot
เนื่องจากกระทู้ยังไม่เสร็จดี ขอพักเท่านี้ก่อน ผมจะมาอัพรูปที่เหลือให้ได้ชมกัน
ขอบคุณครับ
รูปจะออกแนว indie นิดๆ
Spec ตัวนี้ ผมไม่มั่นใจว่า สรุปแล้วเป็นตัวไหนเนื่องจากลืมดูเอกสารบนตัวรถ
แต่จากที่ดูๆแล้วคือ 2018 - Long range - AWD ครับ
Spec พื้นฐานคือ
ราคา 1.6 ล้านบาท
ระยะทาง 1 charge = 513 กิโลเมตร
ิbattery = 75 กิโลวัต์
fast charge(DC) = 270 กิโลเมตร/0.5ชม
standard charge(AC) = 71 กิโลเมตร/1ชม
ระบบ 2 มอเตอร์ไฟฟ้า หน้าหลัง
น้ำหนักรถ 1.84 ตัน
แรงม้า รวม 346 แรงม้า แรงบิด 527 N-m
0-60mph = 4.5(4.3)sec
เร็วสูงสุด 233Km/h
ยาง ติดรถ 235/45R18
จอเดี่ยวภายใน 15.4นิ้ว
ระบบเข้าออกและเปิดใช้งานรถ กุญแจ keyless + keycard(สำรอง)
หลังคาแก้วเต็มบาน มีเส้นโคลงเหล็กตรงกลาง
เปรียบเทียบระหว่าง model S 2013 P85 กับ Model 3 LR 2018 ตัวนี้
ความแรงและการดึงต้องให้รุ่นพี่ ซึ่งเป็น รุ่นที่แรงบิดแรงม้ามากกว่า การทรงตัว ผมรู้สึกว่า model S ทำได้ดีกว่า model 3 , ในแง้ของความรุ้สึก น้ำหน้กรถ การเปลียนเลนแบบเร็วๆ model 3 ทำได้ดี ไม่ออกอาการ แต่ model s นี้ถือว่า นิ่งแบบสะบายๆ (น่าจะด้วยที่น้ำหนักตัวและฐานล้อที่ดีกว่า)
อัตราเร่งแม้ว่า model s จะแรงกว่าเร็วกว่ามาก แต่ Model 3 ตัวนี้ 4.5sec ก็ทำให้ยิ้มได้ทุกครั้งที่มีการกดแบ้นแบบเต็มๆ คันเร่ง ทั้ง 2 model เหมือนกัน ความรุ้สึกพวงมาลัย ไม่แตกต่างกัน แต่สามารถปรับได้ 3โหมดสำหรับพวงมาลัย
ช่วงล่าง
-มีความเป็นรถผู้ใหญ่อยู่ ไม่แข็งโหดเหมือนรถแข่งอะไร แต่ก็ set มาได้ดี รุ้สึกว่ารถตัวหนักกว่าที่เป็นจริง ให้ความรุ้สึกมั่นคงดีมาก
ภายนอก
-สี
***
-ขนาดตัวรถ
****
ความสะดวกสะบาย
-เครื่องเสียง
ขอบอกเลยว่า เครื่องเสียงชุดนี้ ดีมากๆ ผมใช้ Fiesta อยู่ซึ่งเครื่องเสียงเดิมๆดีมาก แต่เจอ model 3 ตัวนี้ ต้องยอมเลย model S ทำเครื่องเสียงมาได้แย่มากๆ เหมือนจะให้คนไปเปลียนเองทีหลัง
-กล่องเก็บของ
แพ้ model S โดยสิ้นเชิง ด้านหลังของ model 3 เก็บกระเป๋าเดินทางใหญ่ได้ เพียง 1 ใบ แต่มีที่เหลือไม่สามารถใส่ใบที่สองได้
-การขึ้นลง
ที่นั่งด้านหน้า เข้าออกได้ไม่ลำบาก ก้านเปิดประตูแรกๆต้องเรียนรู้ แต่พอจับจุดได้ เข้าออกได้ง่าย ก้านจับประตูแบบซ้อน สวยมาก แขงแรงกว่าที่เห็นมาก เป็นแท่งโลหะหนาแข็งแรงจริงๆ
ส่วนการออกจากห้องโดยสาร รุ่นนี้ไม่มีที่เปิดประตูแบบปกติจากภายใน จะต้องกดปุ่ม แล้วประตูจะเปิดออก แต่หากปุ่มไฟฟ้าเสีย จะเปิดแบบ manual จากก้าน เปิดแบบฉุกเฉินที่ซ่อนอยู่ใต้ที่พักแขนข้างประตู มองหาไม่เจอถ้าไม่สังเกตุดีๆ หลายคนบอกว่า ตอนนี้มีปัญหา แตกง่ายมากตัวเปิด manual
-การเก็บเสียง
ทำได้ดีระดับนึง แต่ไม่ถึงกับดีมาก แต่เงียบกว่ารถน้ำมันอยู่เท่าตัว เนื่องจากจะมีแค่เสียงถนนกับยางเท่านั้น
-auto pilot
จะเป็นระบบขับอัตโนมัติ เป็นเส้นทาง รถจะขับตามทางตรง ทางโค้ง ผ่านแยก รักษาเลนที่ตัวเองวิ่งไปเรื่อยๆ หากมีรถมาขวางก็จะทำการขับตามและปรับความเร็วเอง การทำงานโดยการกดก้านทางซ้ายลง 3 ครั้ง แต่ระบบจะสุ่มตรวจว่ามือจัดอยู่ที่พวงมาลัยหรือไม่อยู่ตลอดเวลา
-lane-changing
ระหว่าง auto pilot , สามารถกดก้านไฟเลี้ยวค้างไปด้านที่ต้องการจะเปลียนเลน หากเลนว่างรถจะทำการเปลียนเลนให้โดยอัตโนมัต
-
การบังคับควบคุม
-การบังคับเลี้ยว
****
-เบรค
ถ้ามาขับ TESLA จะรุ้ว่า เบรค แทบไม่ได้ใช้ ถึงมีคนทีขับเป็นแสนๆกิโล แต่ผ้าเบรคยังไม่ได้เปลียน เพราะ เมือเอาเท้าออกจากแบ่นคันเร่ง รถจะช้าลงเองเนื่องจากเอาพลังงานกลับไปปั่นมอเตอร์ ปั่นไฟกลับไปที่แบตเตอรรี่ ระยะเบรค คม จับความรุ้สึกงาน เหมือนรถอเมริกัน หรือ รถยุโรบทั่วไป
-ความไวของพวงมาลัย
******
อัตราเร่ง
--******
อัตราสิ้นเปลือง
-บาทต่อ กิโลเมตร-*****
-*******