สวัสดีครับ เผลอแปํบเดียว เจ้ามะพร้าวก็อยู่กับผมมาครบ 1 ปีแล้ว วันนี้เลยอยากจะแชร์การใช้งาน มาสด้า คันแรกในชีวิตของผมหน่อยครับ
เกริ่นแบบนี้คงจะงง ว่าเจ้ามะพร้าวคืออะไร มะพร้าวคือชื่อที่ผมตั้งให้กับรถ Mazda CX5 2.0S Gen1 ครับ ด้วยว่ามีสีขาว
เท้าความนิดว่า สาเหตุที่ตัดสินใจซื้อเจ้านี่ เพราะปีที่แล้วมีเจ้าตัวน้อยเพิ่มมาเป็นสมาชิกใหม่ในครอบครัว ต้องการรถที่ปลอดภัยมากขึ้น ขนของได้พอสมควร ขับทางไกลเมื่อยล้าน้อย เมื่อเทียบกับเจ้า Jazz GD คันเก่าของผม
โดยตั้งงบไว้ตอนแรก 7 แสนบาท แต่สุดท้ายก็จบที่เจ้ามะพร้าวนี่แทนครับ ด้วยราคาทะลุล้านบาทไปนิดหน่อย
ขอไม่แปะรูปภายนอก ภายใน นะครับ เพราะหลายคนคงเห็นจนเบื่อแล้ว ก็คงไม่ต้องมีรูปหรือคำอธิบายใดๆ มาว่ากันถึงการใช้งานเลยดีกว่าครับ
ผมใช้รถคันนี้มา 1 ปี กับระยะทาง 32,xxx ก.ม. โดยเข้าศูนย์บริการไปทั้งหมด 3 รอบ
1. เช็คระยะ 10,000 ก.ม. เข้าที่ 8,500 ก.ม. ตรวจเช็คทั่วไป เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง(0w-20) ไส้กรอง ค่าใช้จ่ายราวๆ 1,2xx บาท (มีคูปองฟรีค่าแรง)
2. เช็คระยะ 20,000 ก.ม. เข้าที่ 18,2xx ก.ม. ตรวจเช็คทั่วไป เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ไส้กรอง กรองแอร์ ค่าใช้จ่ายราวๆ 2,xxx บาท ** แจ้งเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง 5W-30 (มีคูปองฟรีค่าแรง)
3. เช็คระยะ 30,000 ก.ม.เข้าที่ 28,xxx ก.ม. ตรวจเช็คทั่วไป เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ไส้กรอง เพิ่มแจ้งเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ด้วย ค่าใช้จ่าย 3,356.59 บาท** แจ้งเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง 5W-30 (มีคูปองฟรีค่าแรง)
ค่าใช้จ่ายดูไม่ต่างจากเจ้าตลาดมากนัก เนื่องด้วยยังไม่มีอะไรในการซ่อมบำรุงครับ
หมายเหตุ น้ำมันเครื่องปกติที่ศูนย์จะเติมเป็นเกรด 0W-20 ให้ แต่ผมลองใช้ตอนเช็คระยะรอบแรกแล้วรู้สึกว่ามันอืดมาก เลยแจ้งศูนย์บริการขอเปลี่ยนเป็น 5W-30 แทนครับ
ภายนอก
ไม่มีอะไรจะกล่าว เพราะคงเห็นกันจนเบื่อแล้ว
ภายใน
ตัว MC ปรับภายในออกมาได้ดูดีขึ้น มีการใช้วัสดุบุนิ่มหรือหนังให้สัมผัสที่ดีกว่าคู่แข่งใน Gen เดียวกัน เช่น CRV G4 หรือ Subaru XV ตัวผมว่าใกล้เคียงกับ X-trail
เบาะคู่หน้ากระชับตัว ตัวเบาะติดแข็งนิดๆ ฟองน้ำแน่น ข้อดีคือขับนานๆแล้วไม่เมื่อย แต่คนนั่งอาจบ่นหน่อย เพราะมันไม่นุ่ม มีปรับไฟฟ้าได้เฉพาะด้านคนขับ คนนั่งเป็นอัตโนมือ
เบาะหลังค่อนข้างชัน แม้จะติดตัวปรับเบาะแล้ว ก็ยังรู้สึกชันอยู่ดี เห็นแฟนนั่งหลับทีไรแล้วสงสารทุกที
พวงมาลัยเลื่อนเข้าเลื่อนออกได้ ทำให้การปรับให้เข้ากับสรีระของแต่ละคน ทำได้ง่าย ตัวพวงมาลัยจับได้กระชับมือดี
พื้นที่ Headroom ไม่มีปัญหา เพราะรถทรงนี้หลังคาสูงอยู่แล้ว แต่ Legroom อาจจะมีปัญหาสำหรับคนที่สูงเกิน 180 cm เนื่องจากพื้นที่ค่อนข้างจำกัด ด้านหน้าไม่มีปัญหา แต่ผู้โดยสารจะเหลือพื้นที่วางขาน้อย
เบาะหลังพับได้ในแบบ 40-20-40 ข้อดีคือถ้าขนของที่มีความยาวและขนาดไม่ใหญ่ สามารถพับตรงกลางขนได้ โดยผู้โดยสารยังนั่งได้ 2 คนเท่าเดิม
หน้าจอ Touch Screen อยู่ในระดับที่ดี แต่ถ้าเริ่มขับรถแล้วจะไม่สามารถกดได้ ต้องไปปรับที่ปุ่มกลมๆตรงใกล้ที่วางแขน
เรื่องการขับขี่
ตามสไตล์ของมาสด้าครับ ช่วงล่างติดไปทางเฟิร์ม แข็งพอสมควร แลกไปกับการควบคุมที่ออกแนวสปอร์ต ขับสนุกพอสมควร แต่คนนั่งอาจจะบ่นหน่อยครับ
พวงมาลัยน้ำหนักกำลังดี เข้าโค้งหรือใช้ความเร็วสูง ไม่หวิวเหมือนรถเล็กที่คยใช้(แน่สิ) สาดโค้งอาจจะเอียงหน่อย เพราะรถสูง ถ้ารู้ลิมิตรถ จะเข้าโค้งความเร็วใกล้ๆ กับ Jazz หรือ City ได้ครับ
เครื่องยนต์ เบนซิน 2.0 ทำงานพอใช้ได้ ช่วงออกตัวอาจจะอืดหน่อย ถ้าขับสไตล์แบบผมคือไม่ได้กดเต็ม แต่ถ้ากดเต็มหรือเปลี่ยนเป็นโหมด Sport ก็จะกระชุ่มกระชวยขึ้นมาหน่อย ข้อนี้คนจะใช้ SUV เบนซิน
ควรทำความเข้าใจว่า รถน้ำหนักตัวเยอะ เครื่อง 2.0 มันก็จะได้ประมาณนี้กันแหละครับ ออกตัวจากไฟแดงพร้อมกับ B segment ทีไร โดนฉีกทุกที 5555
เกียร์ฉลาดพอใช้ โหมด D ลงเขาก็เอาอยู่ ไม่ต้องเลือกโหมด manual ก็ได้ครับ ตอนใช้ครุยคอนโทรล ถ้ามี ภูเขา เนิน หรือสะพาน เกียร์ก็จะ + หรือ - เพื่อรักษาความเร็วให้ครับ
เบรค คือสิ่งที่ผมชอบมากที่สุดของเจ้านี่ เบรคแล้วอาการหน้าทิ่มมีน้อย เบรคติดรถถือว่าเอาอยู่ระดับหนึ่งแล้วครับ ถ้าไม่ได้เอาไปอัดหนักๆ กระทืบเบรคบ่อยๆ ไม่ต้องเปลี่ยนผ้าเบรคก็ยังไหว
อัตราสิ้นเปลือง
ขับมาทำงาน ระหว่าง ศรีราชา - อมตะนคร หรือ แปดริ้ว - อมตะนคร มีทั้งช่วงทำความเร็วได้ยาวๆ เช่น บนมอเตอร์เวย์(ขับไม่เกิน 120) หรือเลียบมอเตอร์เวย์ กับรถติดในนิคม ผมทำได้ราวๆ 12 ก.ม. / ลิตร
ขับไปเที่ยวไกลๆ เช่น หัวหิน หรือ เขาค้อ ที่ความเร็วระหว่าง 90 -110 ได้ 13- 13.5 ก.ม./ลิตร ด้วยน้ำมัน E20 นะครับ
ถ้าเติม E10 จะประหยัดดีกว่ากันราวๆ 0.5 - 1 ก.ม./ลิตร แต่คิดเป็นจำนวนเงินแล้ว E20 จะคุ้มสุดครับ ผมเลยเติมแต่ E20
การซ่อมบำรุง
นอกจากเข้าศูนย์เช็คระยะแล้ว ก็มีแจ้งเรื่อง
- เวลาหมุนพวงมาลัยแล้วมีเสียงเอี๊ยดๆ ซ่อมรอบแรกที่ศูนย์แปดริ้ว แก้ไม่จบ หายไปครึ่งวันก็กลับมาดังอีก เลยไปเช็คอีกรอบที่ศูนย์ศรีราชา
เจอว่าเหล็กอะไรซักอย่าง มันรัดแน่นไป ก็ไปคลายมันออกหน่อย คราวนี้เงีบบสนิทครับ
- ขับขึ้นลูกระนาดแล้วมีเสียงกึกๆ เหมือนจะมาจากช่วงล่าง เช็คที่ศูนย์อมตะนคร จนท จัดยางรองโช้คให้ หายสนิทครับ
- แอร์เหม็น จอดตากแดด ใส่ถ่านเข้าไปไม่หายเลยตัดสินใจ ก็เปลี่ยนกรองแอร์หายสนิทครับ
- มีเสียงก๊อกแก๊กตรงคอนโซล ฝั่งคนนั่ง อันนี้ยังแก้ไม่ได้ เพราะมันมาๆหายๆ จับไม่ได้ซักทีว่ามาจากไหน แก้รำคาญด้วยการเปิดเพลง
สิ่งที่ปรับปรุง
ติดตั้งตัวปรับเบาะที่พี่ๆในคลับทำ ก็เอนลงได้สัก 5-10 องศามั๊ง
สิ่งที่ชอบในตัวเจ้า CX5
1. การขับขี่ ถือว่าสอบผ่านสำหรับผม คนชอบขับรถจะมีความสุขกับรถ SUV แฮนด์ลิ่งแบบนี้
2. อัตราสิ้นเปลือง E20 เฉลี่ย 12 ก.ม./ลิตร ถือว่าทำได้ดีสำหรับรถทรงนี้ แถมเติมได้ถึง E85 (ซึ่งผมไม่เคยลองเลย)
3. วัสดุการตบแต่งภายใน มีวัสดุบุนุ่มหลายจุด ผิวสัมผัสดีใช้ได้ ผมว่าเหนือกว่าเจ้าตลาดนะ
4. กล้องมองหลัง + เซนเซอร์รอบคัน ช่วยให้จอดรถในที่เคบได้ง่าย รถอีกคันไม่มีกล้อง ตอนนี้พอไปขับนั้น เลยเผลอมองคอนโซลเรื่อย
5. ระบบไฟส่องสว่าง AFS ทำได้ดี หมุนตามพวงมาลัย อันนี้ชอบ แต่ตอนฝนตกผมว่ามันไม่ค่อยสว่างเท่าไหร่
6. เบรค ทำได้ดีนุ่มติดเท้าดี
7. แอร์ออโต้ ตอนหน้าหนาวปีที่แล้ว ได้ใช้ฮีทเตอร์ 2-3 วัน เออดีแฮะ ปกติรถคันอื่นหน้าหนาวต้องติดเสื้อกันหนาวไว้ คันนี้ไม่ต้องใช้
สิ่งที่ไม่ชอบ
1. ภายในค่อนข้างแคบ เบาะหลังชัน นั่งสบายสู้คู่แข่งไม่ได้ ตัวใหม่นั่งสบายขึ้น แต่ก็ยังคงแคบไม่ต่างกัน
2. อัตราเร่งตอนออกตัว หนืดไปหน่อย อยากให้พุ่งมากกว่านี้อีกนิด
3. ศูนย์บริการมีช่างน้อย และบางแห่งลักษณะเหมือนอู่ซ่อมรถ น่าจะปรับปรุงให้ดูมีมาตรฐานมากกว่านี้หน่อย
4. ราคาอะไหล่ค่อนข้างแพง บางอย่างราคาสูงแบบไม่น่าเชื่อ อันนี้อยากให้ Mazda TH กดราคาอะไหล่ลงหน่อย
5. ช่วงล่างตึงตัง อันนี้ตัวใหม่ปรับปรุงแล้ว ก็ลดอาการนี้ไปได้
6. เสียงรบกวนจากภายนอกโดยเฉพาะเสียงลม อันนี้ไม่แน่ใจว่าตัวใหม่แก้ได้ไหม
7. ระบบปัดน้ำฝนออโต้ ทำงานไม่ค่อยโดนใจ ตอนฝนปรอยๆ อยากให้ปัดช้าๆดันปัดเร็ว พอตกหนักดันปัดช้าเกินไป
8. ที่วางแขนเลื่อนขึ้นหน้าไม่ได้ เลยเท้าได้เฉพาะข้อศอก ไม่สบายเท่าที่ควร
9. ปุ่มปรับกระจก ไม่มีไฟเวลาจะปรับกระจกตอนมืดทีไร ต้องคลำๆเอา
สรุป
สำหรับผม CX5 เป็นรถที่ดีคันหนึ่ง ที่เน้นคนขับเป็นหลัก แม้จะเป็น SUV แต่อย่าคาดหวังว่า มันจะตอบโจทย์ เรื่องความสบายในการโดยสารมาก พื้นที่มีจำกัด ครอบครัวผมไม่มีคนสูงเกิน 170 cm เลยใช้งานได้ไม่มีปัญหา
ถ้าย้อนเวลาไปได้ จะซื้อเจ้านี่ไหม ก็ยังยืนยันว่าตัดสินใจไม่ผิดครับ เพราะผมมีความสุขทุกครั้งที่อยู่หลังพวงมาลัยเจ้านี่
แต่ถ้าถามว่า จะซื้อรถใหม่อีกคันให้ภรรยา จะยังใช้มาสด้าอีกไหม คงต้องคิดอีกที เนื่องจากค่าอะไหล่บางอย่างที่ราคาค่อนข้างสูง และภรรยาผมยังใช้รถแบบไม่มีปัญหาไม่ซ่อม ค่ายตลาดดูจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า
อยากแนะนำสำหรับคนที่ไม่เคยใช้มาสด้า และคิดจะเปลี่ยนมาใช้มาสด้า ว่าควรจะหาข้อมูลในคลับให้เยอะๆ อ่านข้อดีข้อเสียให้ครบ แล้วค่อยตัดสินใจ คิดให้ตกผลึกก่อนว่ารับได้กับข้อเสียไหมครับ