สวัสดีครับพี่ๆเพื่อนๆ สมาชิกชิกHLM ต้องเตือนก่อนว่า "ยาวครับ"
แต่อยากแชร์ ที่เจอกับตัวเอง การเรียกร้องค่าเสียประโยชน์จากการใช้รถ ครับ ขั้นตอน ความยุ่งยาก รวมถึงการติดต่อ คปภ.
คลิป
เกริ่นนำ ที่บ้านมีผมกับภรรยา และรถสามคัน (Teana L33, GLA250,Z4 e85)
ภรรยาขับGLA250 อายุ1 ปี ไม่เคยชนหรือทำสีใดๆมาก่อน ภรรยาขับผ่านแยกไฟเขียว โดนกระบะขับผ่าไฟแดง มาชน
ดังคลิป
หลังชน รถฟ้องทุกอย่างที่หน้าจอ ขับต่อไม่ได้ครับ ขึ้นยานแม่ ไปศูนย์ อุดร(เกิดเหตุ นครพนม)
คู่กรณี ยอมรับผิดจากปาก ตอนที่อยู่ที่เกิดเหตุ โดยคู่กรณีมีประกันชั้น1 ของ เมือง...ประกันภัย ,ผมมีชั้น1 ของอาคเนย์
ผมให้ จนท.ตำรวจมา เพราะ ผมอยากได้บันทึกประจำวัน เพื่อเตรียมเอาไว้เรียกค่าเสียโอกาสการใช้รถ เพราะดูจากสภาพรถ คงจอดนาน
ไปโรงพัก ตำรวจดูกล้องหน้ารถ พิมพ์ใบบันทึกประจำวัน พิมพ์จบ อ่านให้ฟัง หันไปถามคู่กรณี ว่ายอมรับผิดไหม คู่กรณีมีทีท่าว่าจะไม่เซนรับความผิด ตำรวจเลยหันไปบอก จะดูกล้องอีกรอบไหม คู่กรณีจึงยอมเซนรับว่าตัวเองผิด จ่ายค่าปรับ500บาท อันนี้สำคัญมากครับ
สรุปช่วงเกิดเหตุ สิ่งที่ต้องทำคือ
1 กล้องหน้ารถ สำคัญยิ่งครับ มีกล้อง มันจะช่วยเราได้แบบล้าน% กรณีเราถูก
2 ถ่ายรูปทุกจุด ทุกมุม สถานที่เกิด รถคู่กรณี และรถเรา
3 ใครอยากตกลงหน้างานกันแบบไหน ถ้าท่านทำได้ก็แล้วแต่ แต่ผมว่ากรณีชนหนัก และคิดว่ามีปัญหาตามมาอีกเยอะถ้าเรามีป.1 เแล้วเราถูก ผมว่าควรแจ้งความครับ ใบบันทึกประจำวัน ช่วยได้มาก ทั้งเรียกค่าเสียโอกาสการใช้รถ ประกันเราไม่ขึ้นเบี้ยปีถัดไป ไม่เสียประวัติ เก็บบันทึกประจำวันไว้ให้ดี
4 ใบเคลม ถ่ายให้ชัด ทั้งของเรา ของคู่กรณี เก็บของเราอย่างดี
ช่วงซ่อมรถ เนื่องจากรถต้องสั่งอะไหล่ เซลล์บอกไม่ซ่อม เบิกใหม่อย่างเดียว ใช้เวลาทั้งสิ้น34วัน (ตรงนี้ต้องรัดกุม ตอนเรียกค่าเสียโอกาสนะครับ เดี๋ยวเล่าทีหลัง)
สิ่งที่เดือดร้อนคือ ภรรยาต้องใช้รถผมแทนคือ Teana L33,ผมจะใช้Z4 ไปทำงานทุกวันไม่ได้ ไม่สะดวกมาก ทั้งฝน ทั้งถนนขรุขระ ผมเลยต้องยืมรถของญาติภรรยา เป็นswift มาใช้ ช่วงระหว่างรอ
เหตุการณ์ต่อสู้เพื่อสิทธิของเรา เกิดหลังจากนี้ครับ
1. ซ่อมเสร็จ รวบรวมหลักฐานทั้งหมด
- บันทึกประจำวัน
- หนังสือเอารถเข้า เอารถออก ศูนย์MBTHออกให้ รวมเวลากี่วัน
- หนังสือร้องเรียนค่าเสียโอกาสการใช้รถ ร่างเอง มีในเนต เอกสารดูเพิ่มได้ในเนตมีเยอะ
2.โทรเข้า ประกันภัยของคู่กรณี รอสายไม่ต่ำกว่าครั้งละ20 นาที ได้ความว่า ให้ไปส่งเอกสารทั้งหมด ได้ที่ สำนักงานบย่อยสาขา จ. ที่ท่านอยู่ รอ30วัน
3 ไปส่งเอกสาร ให้ร่างหนังสือการส่งเอกสาร ด้วย ว่าส่งวันไหน เอกสารประกอบด้วย ใครเซนรับ และเราตามกับใคร ชื่อ เบอร์โทร
4 ผ่านไปสองอาทิตย์ เงียบครับ เลยโทรตามทั้ง จนท ที่รับเรื่อง บอกจะตามให้ และจะโทรกลับ ผ่านไปสามวัน เงียบ
5 คิดว่าคงไม่น่ามีการโทรกลับ หรือติดตามแต่อย่างใด ผมจึงกลับมานั่งค้นข้อมูลเพิ่ม เรามีอีกทางที่ช่วยเราได้ คือ คปภ หรือ ศาล
ผมเลือก คปภ ก่อน
มาว่ากันต่อ คปภ อันนี้แล้วแต่ดวงของท่าน ว่า จนท ของจังหวัดของท่าน มีความกระตือรือร้น หรือมีความสนใจงานขนาดไหน
การเข้าไปคุยนะครับ คือ ถ้าไปด้วยตัวเอง(เจ้าของรถ) เอาเอกสารทั้งหมด ที่ยื่นกับ บ ประกันตอนแรก ไปให้ครบ
ถ้าไปแทนกัน ก็ต้องใช้ใบมอบอำนาจนะครับ ติดอากรณ์แสตมป์ น่าจะ30บาทจำไม่ได้ครับ( สามีหรือภรรยา ก็ต้องใช้นะครับ)
การร่างหนังสือ ถึง คปภ ถ้าท่านร่างหนังสือราชการไม่ถูกแบบ ถูกเว้นวรรค ตามแบบราชการ ท่านไม่มีสิทธิ์ ได้คุยกับ จนท นะครับ
จนท เค้าจะถือว่าท่านติดต่อราชการ ท่านต้องทำตามระเบียบ ถึงจะร้องทุกข์ได้ครับ กินเวลาการร่างหนังสือ เดินทางไปสำนักงานสองรอบ
ผ่านขั้นร้องทุกข์กับคปภ เราจะได้วันนัด คุยกับตัวแทนประกัน ที่ คปภ เพื่อไกล่เกลี่ยกัน
คนใน คปภ กับตัวแทน บ ประกันต่างๆ คุ้ยเคยกันดีครับ วันผมไปยื่นหนังสือ ก็เจอตัวแทนของ บ.เมือง(th)..... ประกันภัยที่ คปภ แต่มาไกล่เกลี่ยอีกเคส
หลังยื่นหนังสือ ก็รอถึงวันนัด สิ่งที่ต้องทำคือ******ให้รีบติดต่อศูนย์ เพื่อส่งเอกสารยืนยันจากช่างศูนย์ ว่ารถไม่สามารถขับได้ หลังชนโดยทางMBTH เค้าจะมีข้อมูลการวิเคราะห์รถ ปริ้นออกมาได้เลยครับ เพื่อยืนยันว่า ระบบ error ต่างๆของรถ ไม่สามารถขับเคล่อนต่อได้ เป็นอันตรายต่อผู้ขับขี่
จุดนี้มีผลตรง จำนวนวันที่จอด คูณค่าเสียโอกาสต่อวัน ประกันจะแย้งได้ ว่ารถไม่น่าจะจอดนาน ถ้าแค่การรออะไหล่ เอาไปวิ่งก่อนได้ อะไหล่มาค่อยมาเปลี่ยน อันนี้ต้องรัดกุมครับ
วันแรกมาคุยกัน ผลสรุป ให้วันละ500 แค่30วัน ไม่รู้เอาอะไรตัดสิน ผมเลยถามไปว่า คุณไปเช่ารถ ถามจริงๆ ได้หรอวันละ500
หรือTaxi ถ้าผมหรือภรรยา ต้องเดินทางไปทำงาน บ้าน รพ หรือมีเข้าเวร มีถูกตามกลางคืน ค่าใช้จ่ายคิดว่า500 ต่อวัน พอหรือไม่ ตัวแทนประกันก็พูดได้ว่า ผู้ใหญ่ให้มาแค่นี้ ส่วนเจ้าหน้าที่ คปภ ก็นั่งฟังเฉยๆ
สรุปตกลงกันไม่ได้ แต่ก่อนหน้าผมจะไป ผมก็ศึกษามาต่อว่า ถ้าตกลงกันไม่ได้ เราจะมีทางไหนต่อ สรุปคือ สองทาง
1 อนุญาโต คปภ อันนี้หาในเนต มีหลักการมีเกณฑ์ให้อ่านครับ ผมก็ถามเพื่อนท่เป็นทนาย เค้าก็บอกว่า พอได้ ให้เราไปหาหลักฐานไว้เพิ่ม ค่าTaxi ค่าเดินทาง ค่าเช่ารถบลาๆ ข้อดี ตัดสินเร็ว ไม่รอนาน
ข้อเสีย ตัดสินเสร็จ ไม่มีอุทรณ์ อ่อ การเลือกคนมาเป็นอนุญาโต เราเลือก ประกันก็เลือก จำนวนคนขึ้นกับค่าเสียหายที่ร้อง มีเกณฑ์กำหนด รายชื่อสามารถเชคได้ที่ คปภ
2 ศาล ข้อดี ได้การตัดสินจากศาล ไม่พอใจไปต่ออุทรณ์ได้ ข้อเสีย เสียเวลามาก เสียค่าทนาย ต้องไปขึ้นศาล บลาๆตามที่ท่านทราบกัน
ผมเลยไปครั้งที่สอง ตัวแทนบอกจะลองไปคุยให้ใหม่ มาครั้งที่2 ก็ได้เท่าเดิม 15,000บาท ผมก็เลยเลือกทาง อนุญาโต จนท นั่งงง อะไรคืออนุญาโต ไม่ทราบการปฎิบัติ ไม่ทราบเกณฑ์ ให้ข้อมูลไม่ได้ บอกเป็นเคสแรก
นั่งคุยกันสักพัก ผอ. เข้าสำนักงาน เลยเดินมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น พอท่าน ผอ. ได้ทราบข้อมูลทั้งหมด ก็เลยต่อสายตรง หา หัวหน้าของ เมือง...ประกันภัย เหมือนรู้จักด้วยว่าเป็นใคร คุยให้สักพัก สรุปได้มาที่800ต่อวัน จำนวน30วัน จบที่24,000บาท ผมก็โอเคละ ผมว่ามันปวดหัวเเละเสียเวลา
เราต้องได้ หนังสือ จาก คปภ ในวันนั้น ให้เราและตัวแทน บ.ประกันเซน ว่าจะจ่ายตามยอดนี้ ภายในกี่วัน และเราจะไม่เรียกร้องอีก
หลังจากนั้น1อาทิตย์ เงินก็ถูกโอนเข้าบช ครับ
เป็นอันว่า เหนื่อยครับ แต่ ได้ประสบการณ์ ไม่อยากถูกเอาเปรียบ เลยมาแบ่งปันครับ