เอาหล่ะ เสียงระฆังยกที่สามดังขึ้นอีกแล้ว......สำหรับยกนี้ เป็นยกสุดท้ายแล้วครับ รอบนี้ผมโทรนัดเซลล์เพื่อติดต่อดูรถอีกครั้ง....โดยส่วนมากการมาเป็นครั้งที่สามก็เป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่า น่าจะสามารถตกลงใจเซ็นใบจองรถกันได้แล้ว.....กรณีผมก็คงไม่แตกต่างกันมากนัก เพียงแต่ รถรุ่นที่ผมอยากได้ มันดันไม่มีสีที่อยากได้...และรอก็เกิน 3 เดือน เผลอๆ....ไม่ผลิตแล้วเพราะเป็นสีที่ไม่ฮิตอ่ะครับ....เหลือแต่ตัวต่ำสุดที่มีสีที่ต้องการ เซลล์ก็ดีใจหาย ข้อเสนอคือ ถ้าเป็นตัวสองพันยังไงก็ต้องเลือกสีอื่น ซึ่งมีสต๊อกเลย รอไม่เกินสองสามอาทิตย์ แต่ถ้าจะเอาสีเทาที่อยากได้จริงๆเหลือแค่ตัวเครื่องพันห้า ถ้ารับได้ก็สามารถจองได้เช่นกัน โดยเซลล์ถามความประสงค์ของผมว่า ผมจะเอารถคันนี้ไปทำอะไรหรือเปล่า...
แน่นอนครับผมอยากเอาไปวางเครื่องเทอร์โบในอนาคต....เซลล์ก็เลยบอกงั้นพี่จะซื้อเครื่องสองพันให้มันแพงเล่นทำไม เอาแค่ตัวพันห้าแล้วในอนาคตค่อยสับของก็ได้ ประหยัดไปอีกกว่า 250,000 บาทครับ.....เซลล์ขายรถแบบนี้....จะไม่ให้รักได้ยังไง เขาไม่เชียร์ของแพง ไม่เชียร์ของตัวเอง แต่อธิบายและให้คำแนะนำในสิ่งที่ลูกค้าต้องการจริงๆ อันนี้ประทับใจครับ จุดนี้ผมก็เลยขอลองขับตัวเครื่องพันห้าเกียร์ธรรมดา พลังกระจงน้อยตามคำกล่าวของจิมมี่ โอเคอาจจะออกตัวอืดไปหน่อย แต่พอวิ่งๆมันก็ไม่ได้ดูแย่ขนาดนั้น....พอรับได้ และเซลล์ก็พาผมวนรอบรถทั้งสองรุ่นและอธิบายอย่างละเอียดครับว่า ทั้งสองรุ่นต่างกันยังไงบ้างและผมสามารถทำอะไรเพิ่มให้กับเจ้ารถที่ผมจะต้องซื้อได้บ้าง จุดนี้ทำให้เราเห็นข้อแตกต่างแต่น้อยมากๆถ้าไม่นับเครื่องยนต์น่ะครับ.....ทำให้การตัดสินใจเลือกรถของเรามันมีกรอบ กติกาชัดเจน และมีจุดมุ่งหมายที่ชัดเจนเช่นกัน เมื่อทุกอย่างแฮปปี้ การเซ็นสัญญาจองรถก็ช่างง่ายดายเหลือเกิน เผลอแป๊บเดียว บัตรเครดิตของผมก็ถูกรูดปรื๊ดๆ ไปเป็นเงินจองแล้ว 10,000 บาท (ทำไมไม่จ่ายเงินสด...เพราะจ่ายเงินสดมันไม่มีพ้อยท์ให้แลกของสิครับ....มีของดีต้องใช้ให้เป็นครับ ) สำหรับรายละเอียดเรื่องส่วนลดต่างๆ ให้เซลล์ลงรายละเอียดอย่างชัดเจนในใบจองทั้งหมดนะครับ ไม่เว้นแม้กระทั่งป้ายทะเบียน หรือผ้ายางก็ตามที...อันนี้ต้องเช็คต้องอ่านให้รอบคอบ จุดไหนที่ไม่สบายใจหรือยังมีข้อสงสัย ให้ถามจนกระจ่าง ณ บัดนาว กันไปเลย
จบสเตปนี้ก็รอคุยกับไฟแนนท์อย่างเดียวแล้วครับ สำหรับไฟแนนท์ คงเป็นเรื่องของเอกสารต่างๆ ครับ ผมจะเรียงลำดับให้คร่าวๆ ดังต่อไปนี้
- สำเนาทะเบียนบ้านหน้าทะเบียนบ้านและหน้าที่มีชื่อของเรา (ถ่ายคู่กันในแผ่นเดียวก็ได้) จำนวน 3 ชุด
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน จำนวน 3 ชุด
- สำเนาสลิปเงินเดือน หรือใบรับรองเงินเดือนที่มีตราประทับบริษัท 1 ชุด (กรณีมีเงินเดือน)
- สำเนาการเดินบัญชีธนาคารย้อนหลัง หกเดือน จำนวน 1 ชุด (เซ็นชื่อกำกับทุกใบนะครับ)
- กรณีของผมคือมีกิจการส่วนตัว ก็ต้องใช้ใบจดทะเบียนผู้ประกอบการ(สำเนา 1 ชุดครับ) และสำเนาบัตรประจำตัวผู้เสียภาษี 1 ชุด
- สิ่งที่ผมแนบไปเพิ่มคือสำเนาการเดินบัญชีธนาคารที่ผมหักค่างวดรถย้อนหลังหกเดือนอีก 1 ชุด หลังจากนั้นก็รอไฟแนนท์เข้ามารับเอกสาร พร้อมเซ็นสัญญาการเช่าซื้อรถยนต์ในขั้นตอนพวกนี้ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆนะครับ จนกว่าไฟแนนท์จะอนุมัติ ถึงจะมีการจ่ายเงินจ่ายทองกันเกิดขึ้นครับ โดยทั่วไปการอนุมัติวงเงินเช่าซื้อรถยนต์อย่างเร็วก็ 1-2 วันครับ (ผมเคยเจอคือวันรุ่งขึ้นหลังจากเซ็นสัญญากับไฟแนนท์ก็มี SMS แจ้งมาเลยว่าเรื่องผ่านแล้ว รอเอกสารออก....) เอกสารจะออกมาหลังจากเรื่องผ่านไม่เกิน 7 วันทำการครับ สำหรับเจ้าอิมเพรสซ่า ผมก็จัดที่เดิมคือ ธนชาติ เซลล์เขาบอกประมาณ 1 วันอนุมัติ แต่พอวันรุ่งขึ้นผมไม่ได้รับ sms ยืนยันการอนุมัติวงเงินผมเลยโทรหาเซลล์ เซลล์บอกว่า...ของคุณอาร์ต ดิฉันส่งเรื่องตั้งแต่เมื่อวานตอนถึงออฟฟิศแล้วค่ะ....เพราะเป็นลูกค้าเก่าประวัติดี ไม่มีปัญหาค่ะ...จบกันครับ รอแค่เช็คเกอร์โทรมาเช็คแค่นั้นแหละ
เมื่อเรื่องผ่านแล้ว ควรจะไปที่ขนส่งเพื่อขอเลขทะเบียนไว้เลยก็ดีครับเพราะบางทีไปครั้งแรกอาจจะไม่ได้เลขถูกใจก็คงได้เสียเวลาไปกันหลายๆรอบครับ กรณีนี้ส่วนมากทางศูนย์บริการจะให้เราไปขอเองกรณีเราอยากเลือกเลขเอง หรือให้ทางศูนย์จัดการให้กรณีไม่เรื่องมาก แล้วนำเอกสารไปให้เขาเพื่อส่งต่อให้ไฟแนนท์ดำเนินการลงเลขลงเล่มทะเบียนครับ กรณีนี้อาจจะมีค่าขอจดทะเบียนอะไรทำนองนี้ ถ้ามีก็ไม่มากนัก ค่าป้ายที่เราจะต้องจ่ายประมาณ 7xx กว่าบาทสำหรับป้ายธรรมดา และ 17xx สำหรับป้ายกราฟฟิก(ไม่รวมราคาประมูล) มีค่าทำเรื่องอะไรนิดๆหน่อยๆนะถ้าจำไม่ผิด โดยปกติเมื่อได้เลขที่ชอบแล้ว ก็รอประมาณ 7-15 วันทำการถึงจะได้ป้ายครับ แต่ถ้าคิวมันยาวมากๆอาจจะมีเป็นเดือนก็เคยเกิดขึ้นมาแล้วเช่นกัน (เลขรันไม่ทัน) หรือถ้าเห่อป้ายแดง....ใส่วิ่งได้ไม่เกิน 3 เดือนครับ อาจจะถูกขอถอดไปใส่รถคันอื่น ยังไงก็ดูๆนิดนึงครับ ส่วนตัวผมว่าลากอย่างมาก 2 เดือนก็เพียงพอแล้วครับ
หลังจากนี้ผมก็หาฤกษ์ออกรถ อันนี้ตามความเชื่อละกันครับ ผมขอละไว้นะครับ ดูสักนิดก็ดี แต่ถ้าเป็นฤกษ์ลำบาก (ออกรถตีสี่ ตีห้า...) ผมว่าเอาสะดวกดีกว่าครับ....
สิ่งสำคัญสำหรับกระบวนการการออกรถป้ายแดงที่ต้องกู้ไฟแนนท์นั่นคือเรื่องของ กระแสเงินสดที่ต้องทำให้มีความเรียบร้อย ชัดเจน เชื่อถือได้ นอกเหนือไปจากประวัติที่เคยมีกับไฟแนนท์ หรือบริษัทที่ขอสินเชื่อนั้นๆ นอกจากนั้นคือเรื่องของเงินดาวน์ ที่หลายคนมองว่าไม่สำคัญ แค่อยากได้รถเท่านั้น ดาวน์น้อยผ่อนนานๆ ดอกสูงไม่ว่า จริงๆ ไม่ควรคิดแบบนี้เลยครับ หรือบางที่แบ่งเป็นบอลลูนอะไรอีก ดอก 5%-6% มันเป็นการลิดรอนเงินในอนาคตของเรามากเกินไป จุดนี้คือจุดที่เราต้องตอบตัวเองว่า
“อะไรเรียกว่าเกินตัว” จุดนี้ก็สำคัญมากเพราะมันจะส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่เราอีกหลายปี จนกว่าจะผ่อนรถหมด หรือ ที่แย่ๆคือโดนไฟแนนท์ยึด ซึ่งผมก็ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์นี้ใครทั้งนั้น