ผู้เขียน หัวข้อ: พี่จิมมี่ช่วยฟันธงหน่อยครับ ระหว่าง ไมตี้ x กับ civic 3 door  (อ่าน 12103 ครั้ง)

ออฟไลน์ apirak_2003

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 2
ผมมีเงินอยู่ประมาณ 160000 บาท เก็บเงินมาัทั้งชีวิตอยากมีรถเป็นของตัวเองบ้าง
อยากทราบว่ารถไมตี้ x ปี 96-97 และ civic 3 door ปี 95 ราคาประมาณนี้ได้ใช่มั้ยครับ
ลักษณะการใช้งานผมไม่ได้บรรทุกอะไรครับ แต่อยากซื้อแล้วราคาตกน้อยที่สุดและค่าบำรุงรักษาน้อยที่สุดครับ
เน้นความคุ้มค่าครับ

พี่จิมมี่หรือเพื่อนที่มีประสบการณ์ช่วยฟันธงหน่อยครับ (ขอเืลือกเลยนะครับ)

ปล. หรือมีรถรุ่นไหนที่ราคานี้และคุ้มค่ากว่าครับ

ออฟไลน์ J!MMY

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 15,628
    • www.headlightmag.com
    • อีเมล์
ช่วยกรุณาอ่าน กระทู้นี้นิดนึงนะครับ
ผมจะไม่ฟันธงให้ใครทั้งสิ้น

http://www.headlightmag.com/webboard/index.php?topic=194.0

----------------------------------------

ถ้าไม่ได้บรรทุกอะไรหนักหนา อย่าซื้อรถกระบะครับ
ขับแล้ว เหนื่อยกว่าขับรถเก๋ง ระบบเบรกของ Mighty X ก็ไม่ถือว่าดีเท่าไหร่
เพราะที่บ้านผมก็เคยซื้อมาใช้งานส่งของ เมื่อไหร่ที่ ไม่ได้เช็คน้ำในระบบหม้อน้ำ
ถ้า โอเวอร์ ฮีต ขึ้นมา เตรียมเงินอีก 5 หมื่น สำหรับการเปลี่ยนฝาสูบแท้ๆ เบิกศูนย์ฯ
หรือ ไม่ก็ เปลี่ยนเครื่องใหม่ กันไปเลย ในงบประมาณนี้ เพราะ ฮีตเมื่อไหร่ ฝาสูบ ถ้าไม่ร้าว ก็โก่งเลย
สำหรับเครื่อง 2L 89 แรงม้า ตัวนั้น คือ ทนหนะทน แต่ อย่าให้น้ำในระบบหล่อเย็นพร่องเลยเชียว ความบรรลัยจะมาเยือน

Civic 3 ประตู เป็นรถเล็ก ที่คนชอบเอาไปแต่งซิ่่ง ในตลาด ราคาเลยไม่ค่อยตกเท่าไหร่
เพิ่งจะมาร่วงรูด เอาในช่วง ปีหลังๆมานี้เอง แต่ต้องขึ้นอยู่กับสภาพรถด้วย
เพราะ ถ้าโชคดี ก็จะเจอ รถสภาพดี เหมือนแช่มาจาก ไทม์แมชชีน แต่จะหารถแบบนั้นได้ไม่ง่ายนัก

โครงสร้างตัวถัง ด้านความปลอดภัยของรถทั้ง 2 รุ่นนี้ ถือว่า สอบผ่านในเวลานั้น แต่สอบตกในสมัยนี้

ถ้าคิดว่าจะซื้อรถ แล้ว เน้นราคาตกน้อยที่สุด และค่าบำรุงรักษาน้อยที่สุด
ผมบอกให้เลยก็ได้ครับว่า "ไม่มี"

Civic 3 ประตู ราคามือสอง ร่วงน้อยที่สุด ก็จริง ถ้าเทียบกับราคาเปิดตัว 391,000 บาท เมื่อปี 1993
ราคามือสอง เหลือ แสนกว่าบาท ทุกวันนี้ ถือว่าร่วงน้อยไหมละครับ

แต่หลังจากนี้ ราคาจะร่วงมากขึ้ัน เพราะยิ่งรถเก่ามากเท่าไหร่ ราคาจะต่ำลงไปกว่าระดับ หนึ่งแสนบาท จะเป็นไปได้เร็วขึ้น


ออฟไลน์ apirak_2003

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 2
ขอโทษด้วยครับพี่จิมมี่พอดีไม่อ่านตรงนั้นทีครับ

ขอบคุณมากครับสำหรับคำวิจารณ์

ออฟไลน์ YenChar

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,179
เป็นผม
ผมเลือก Civic ครับ

ยังไง รถเก๋ง ก็ขับสบายกว่ารถกระบะ

ออฟไลน์ MoLee

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,191
ผมชอบ civic มากว่านะครับ คล่องตัวกว่าด้วย ยังเป็นรถที่มีคนเล่นอยู่ อะไหล่ไม่น่าจะหายาก

keanetona

  • บุคคลทั่วไป
ไมตี้มีปัญหาเวลาฮีทจริงครับ เพราะกระบะส่งของบริษัทผมก็โดนไปเต็มๆ สุดท้ายวางเครื่องใหม่ แต่ก็ทนจริงๆนะ ขณะที่ไทเกอร์ D4D จุกจิกไม่ค่อยทน (หรือเพราะคนขับมันตะบี้ตะบันขับ ?)

ผมว่า ขี่เก๋งสบายกว่านะครับ ซีวิคสามประตูยังมีรถสภาพบ้านๆเหลืออีกเยอะ

ออฟไลน์ mann

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 725
  • นี่หรือรถโมเดล
ถ้าไม่ต้องบรรทุกหรือเอาไว้ขับคนเดียว
หา 3door ดีกว่าครับ
(ช่วยตอบให้เท่าที่จะได้นะครับ ใช้ตัว ex อยู่)
เอาเดิมๆหรือวางวีเทคแล้วก็ได้ครับ
แต่ก็ต้องดูสภาพอีกทีนึง
ถ้ารถเดิมๆจะเป็นเครื่องคาร์บูร์ 1500 cc นะครับ
ถ้าเจอที่เป็นหัวฉีด วี-เทค แสดงว่าเปลี่ยนมาครับ แต่ไม่ใช่ว่าเปลี่ยนมาแล้วจะไม่ดีนะ
รุ่นแรกๆจะไม่มีแผ่นยางตรงประตู
ให้เบาะหนังแบบเหมือนจะดี
แผงข้างเป็นพลาสติกหุ้ม
เบาะหลังพับได้ มีที่เก็บของ2ชั้น (คล้าย march)
มีรุ่น ex (ก.ออโต้ พ.เพาเวอร์ ก.ไฟฟ้า เซ็นทรัลล็อก)
และ lx  (ก.ธรรมดา ไม่มีพ.เพาเวอร์ ก.ไฟฟ้า ไม่แน่ใจว่าให้มาหรือเปล่า)
ตอนหลังมีรุ่นไมเนอร์เชนท์
มียางขอบประตูมาให้
เบาะเป็นผ้าลายตุ๊กแกสลับกับหนัง
นอกนั้นเหมือนเดิม

ปัญหาที่เจอคือ แผงข้างบวมเนื่องจากกาวเสื่อม อันนี้อาจจะลงทุนหาชุดเบาะแขนเดี่ยวมาลงก็ได้
ที่เปิดเก็ะพัง ระวังเจอเครื่องขี้ร้อนด้วยครับ
ตัวถังว่ากันว่าบาง อันนีไม่รู้ครับไม่เคยลอง
นอกนั้นตามระยะทาง

ข้อดี เพื่อนเยอะ และยังดูดีอีกนาน อะไหล่ ของแต่งมาเรื่อยๆ
ได้ช่วงล่างอิสระ   ขับง่ายคล่องตัว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 26, 2010, 13:34:53 โดย mann »
1995 honda civic eg 3dr become jdm+spoon
1997 mb c-class w202 elegance
2003 toyota hilux tiger sport cruiser 4x4 2.5 d4d
2006 kawasaki ksr 111
...........................................................................

ออฟไลน์ 6162002

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,089
มาคอนเฟิร์มให้คับ รถบ้านผมก็ยังเป็นไมตี้อยู่ มีปัญหาเรื่องความร้อนเหมือนกันครับ ไปฟิตเครื่องมาแล้ว แต่เวลาเดินทางไกลๆ ต้องเชคหม้อน้ำตลอด ไม่รู้น้ำมันหนีออกไปทางไหน ยิ่งขับซัก140ต่อกันนานๆ ความร้อนขึ้นซะงั้น เปิดกระโปรงมาน้ำหาย (เป็นเพราะเทอร์โบที่ติดเพิ่มมารึเปล่าไม่แน่ใจครับ แหะๆ)

ออฟไลน์ benley

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 405
5 หมื่น+ คือค่าเครื่องเก่าญี่ปุ่น รถตู้ที่บ้านเครื่อง3L โดนไป 52000++
อย่างน้อย หมื่นสี่ คือค่าฝาใหม่เบิกห้างไม่รวมวาว์ล และอื่นๆที่ยังต้องมามำให้เรียบร้อย

เบ็ดเสร็จ 3ประตูดีกว่า หาอู่ดีๆ อยู่ได้ยาวๆ

v
v
v
จขกท. เค้าว่าไม่ได้บรรทุกอะไรนิครับ
ถ้าขนของก็ว่าไปอย่าง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 26, 2010, 23:43:01 โดย benley »

ออฟไลน์ liveshow

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,751
  • รถไม่แรงแต่แซงยาก
พระเจ้า รถรุ่นนั้น ตกจนไม่รู้จะตกกันยังงัยแล้วครับ
ถ้าเอาไปแต่ง 3d (สภาพเดิมๆหายากกกกกกกกกมากกกกกกก)
ถ้าเอาไปขนหมู ขนเพื่อน ไปตจว.ที ไปยกหมู่บ้าน ไป Bigm 555 ทำไมไม่เอาโตละ ราคาขายต่อไม่ต่างกันแล้ว
แต่สิ่งที่ได้ของ Bigm คือ แคชซี่ใหญ่กว่าเค้า เบรคดีกว่า อะไหล่ตรึม(ต้าคงเยอะกว่าหน่อย) ขนของหายห่วง
และเครื่องทนมากๆๆๆๆๆๆ ยกตัวอย่างรถผมไม่มีใบพัดหม้อน้ำ ขับในกรุง วรจักร พระราม 8 คลองถมอยู่ สองวัน(หรือเปล่าไม่รู้) เปิดหม้อน้ำมา
ใบพัดกูอยู่หนายยยยยยยย (เสียงเหมือนพี่จา ตามหาช้าง)  ;D ;D
และที่สำคัญถ้าจะเอาต้อง BDบิ ฝาแดงเท่านั้น 2.5L

อีกอย่างค่า Maintain กระบะถูกกว่าครับ (เยอะพอสมควร) โช๊คหน้าคู่ 650 หลัง 800 ของ Std. คลัช แท้ยกชุด 5XXX ต้นๆเทียบเท่า 2xxx กลางๆ horn เกียร์ 6000+- 1000 และดีเซลทนกว่าเบนซินไม่มีหัวเทียนให้เปลี่ยน ล้างปั้มดีเซล 1400-1500 พร้อมหัวฉีด

ก็แค่คนธรรมดา ไม่ลองก็ไม่รู้

ออฟไลน์ CRO

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 843
อื่มม จขท ไม่มีตัวเลือกอีนเลยเหรอครับ ถ้า open น่าจะได้หลายตัวนะครับ
อย่าง nissan sanny b14 ขับดี ไม่จุกจิก บำรุงรักษาถูก เป็นต้นครับ

ออฟไลน์ tommaris

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 561
    • อีเมล์
ไหนๆ ก็มี mighty-x อยู่คันนึงออกมาตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรก ณ ปัจจุบันกี่ปีขึ้เกียจนับ
เครื่องยนต์ หมั่นเช็คระดับน้ำหล่อเย็น กับเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามระยะ (มันไม่เป็นอะไรเลยได้ดิ้นตาย)
ช่วงล่่าง เกือบ 20 ปี + 2แสนกว่าโล จำได้คร่าว ๆ ว่ามีเปลี่ยนโช็คไปคู่นึง คู่หน้าหรือหลังไม่รู้
นอกนั้นก็นาน ๆ ๆ ๆ ๆ ทำช่วงล่างนิด ๆ หน่อย ๆ   ก็สรุปให้ว่ายังไงค่าบำรุงรักษา และความถี่ในการซ่อม
เทียบกระบะเ่ก่า ๆ แบบนี้ชนิดเทียบไม่ติด (ไม่นับสภาพรถมือสองที่ยากจะคาดเดานะ)

เกือบลืมว่ากระบะรุ่นนี้ เบรคมีปัญหาจริง เบรคมันดีเกินไป ล็อคบ่อยกว่าประตูบ้านตัวเองอีก ;D
แต่ถ้าขับไปเรื่อย ๆ หรือขับจนคล่องแล้วก็งั้น ๆ แหล่ะ มีแค่ตอนเช้าออกรถครั้งแรก เบรคมันจะชอบจึ๊ก ๆ
ถ้าใช้รุ่นนี้ไม่แนะนำให้ใช้ผ้าเบรคศูนย์ ก่อนหน้านี้มีช่วงนึงใช้ผ้าเบรค "อัด" ร้านทำช่วงล่างเจ้าประจำมัน
ถือวิสาสะเปลี่ยนให้ ผ้าเบรคอัดฟังดูมันก็เสียว ๆ อยู่เหมือนกัน แต่เบรคดีกว่า และไม่ค่อยล็อค (ถ้าไม่จงใจ
ให้รถคันหน้าที่เพิ่งตัดหน้าแบบหน้าเกลียดแล้วเบรค  เอี๊ยดยาว ๆ ๆ ให้มันเสียวตูดเล่น ๆ) แถมถูกกว่าโคตรเยอะ
ปัจจุบันใช้ผ้าเบรคเบนดิกซ์ รุ่นไม่แน่ใจ อันนี้อู่ประจำของ marino ผม จัดการให้ แกบอกจัดของหนักให้
เพราะกลัวกว่าผมตีนหนัก  ???   แต่ถ้าบรรทุกบ้าง เบรคโอเคเลยนะ  และระวังลมยางด้วย คู่หน้าอะคู่มือบอก 29
ก็ตามนั้น เต็มที่ 30-32 ไม่น่าเกลียด  คู่หลังถ้าไม่บรรทุก (รถเปล่า) ตามคู่มือ 29  แต่ส่วนใหญ่ผมเติม 36-45
เผื่อแวะซื้อของอะไรนิด ๆ หน่อย ๆ บ้าง  ทุกไม่หนักก็ไม่ต้องเติมเยอะ  ไม่ใช่ว่า 65 ตลอดเวลา  ล้อหลังจะแซง
ล้อหน้าเอาง่าย ๆ

สรุปสำหรับรถรุ่นนี้เลยนะ  เติมน้ำมันแล้วขับอย่างเดียว (เช็คน้ำอย่างเดียวเหมือนกัน)  อย่าไปยุ่งกับมันมาก
แล้วชีวิตจะดี เป็นรถคันเดียวในบ้านที่ใช้แล้ว(เงิน)ไม่ค่อยลด ถ้าคล่องแล้วขับสนุกพอตัว  เครื่องยนต์อืดไปนิด (แต่ทน)
สำหรับสหสวรรษใหม่ แต่ก็พอที่จะไล่รถรุ่นใหม่ทันเหมือนกัน (ถ้าถนนไม่โล่งมากนะ) ความเร็วปลายสูงสุดตามหน้าปัด
ทำได้ 140 ขาดนิดเดียว (130 ก็เริ่มไม่ค่อยไปแล้ว ทางต้องยาวจริง ๆ) ถ้าเป็นคนขับที่ใช้ความเร็ว 80-100 จะประเสริฐมาก

"แต่ถ้าชีวิตนี้ไม่คิดจะขนของ (ยกเว้นตอนย้ายบ้าน) ก็ซื้อรถเก๋งเถอะ!!!!"
(ถูก ๆ ทน ๆ ซ่อมง่ายหนีไม่พ้น 3 ห่วง...มีติดบ้านไว้เป็นดี)