ราคาพอกัน จะเลือกอะไรดี

prooatto

ราคาพอกัน จะเลือกอะไรดี
« เมื่อ: สิงหาคม 03, 2010, 12:39:14 »
ยังเลือกไม่ได้เลยครับ รักพี่เสียดายน้อง

Subaru Forester 2.5xt VS Volkswagen golf mk6 gti

รูปแบบต่างกันแต่ความสนุกในการขับมีในทั้งสองคัน ระยะยาวแนะนำคันไหนครับ



kritphakhin

Re: ราคาพอกัน จะเลือกอะไรดี
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: สิงหาคม 03, 2010, 13:36:03 »
Volkswagen golf mk6 gti

คำตอบสุดท้าย



phatkung

Re: ราคาพอกัน จะเลือกอะไรดี
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: สิงหาคม 03, 2010, 13:40:00 »
ถ้าผมมีทรัพยากรในกระเป๋าเพียงพอผมไป VW Golf  ครับ สำหรับเหตุผลหนึ่งก็คือ

เป็นสัญชาติเยอรมันและคาดว่าน่าจะขับสนุกครับ



Nut_K

Re: ราคาพอกัน จะเลือกอะไรดี
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: สิงหาคม 03, 2010, 14:27:26 »
VW Golf GTi ครับ



cu2nite

Re: ราคาพอกัน จะเลือกอะไรดี
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: สิงหาคม 03, 2010, 14:42:03 »
VW
If you pay peanuts, you get monkeys.



FyGI

Re: ราคาพอกัน จะเลือกอะไรดี
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: สิงหาคม 03, 2010, 15:44:47 »
รถคนละสไตล์กัน

เอามาเปรียบเทียบกันคงยาก

แต่ทางที่ดี จขกท. ควรจะต้อง

ถามตัวเองว่าสิ่งที่ต้องการจริงๆ แล้วคืออะไร

แล้วคันไหนตอบสนองเราได้มากที่สุด


ไม่ยากครับ แต่ไม่ง่ายเลย

เพราะถ้าเลือกแล้ว จะต้องเสียอีกอันนึงไป




Ishida

Re: ราคาพอกัน จะเลือกอะไรดี
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: สิงหาคม 03, 2010, 16:10:06 »
ถ้าจะสู้กับ Golf GTi น่าจะเอา Impreza WRX ไปเทียบดีกว่านะครับ

Impreza WRX ราคาก็ 2,420,000 ครับ  (ผมไปคุยกับ sale ที่บึ่งกุ่มมานะครับ พี่เขาบอกว่ารถที่ขายในไทยมาจาก UK ครับ น่าจะดูเว็บ UK แทนได้ประกอบกับที่พี่จิมมี่ review ไว้เช่นกัน)
Golf GTI MK VI ราคาก็ 2,480,000 ครับ  (option ก็ตาม review พี่จิมมี่แหละครับ ห่างกันนิดเดียวสะใจมาก)
พระเจ้าก็เป็นมนุษย์เหมือนกับเรา เพียงแต่ทำได้ในสิ่งที่คนธรรมดาอย่างเราทำไม่ได้



Kenvozo

Re: ราคาพอกัน จะเลือกอะไรดี
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: สิงหาคม 03, 2010, 17:04:31 »
ขอเชียร์ VW ด้วยคนคับ ;)



Disk™

Re: ราคาพอกัน จะเลือกอะไรดี
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: สิงหาคม 03, 2010, 17:26:02 »
บุคลิกตามกันครับ 2 คัน แต่ผมคงเลือก VW
User Review : ฟิล์มเซรามิค SolarFX (รีวิวแรกของผมครับ)
http://community.headlightmag.com/index.php?topic=53654.0

User Review : Remap ECU Toyota Fortuner ที่ ECU Thailand by RPT
http://community.headlightmag.com/index.php?topic=71384.0



boykung

Re: ราคาพอกัน จะเลือกอะไรดี
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: สิงหาคม 03, 2010, 18:27:52 »
VW นำโลด
Hyundai Grand Starex 2012
Kia Rio 2013
Volvo XC60 D4 Hybrid with Engine Oil 2013
Mercedes Benz S300Hybrid AMG 2014
BMW 420D Coupe M Sport 2016



MoLee

Re: ราคาพอกัน จะเลือกอะไรดี
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: สิงหาคม 03, 2010, 19:11:24 »
GTI อีกคน :)



udis

Re: ราคาพอกัน จะเลือกอะไรดี
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: สิงหาคม 03, 2010, 19:17:06 »
สวย ขับสนุก คล่องตัว ต้อง Volkswagen golf mk6 gti แต่ R ก็สวยนะครับสีน้ำเงิน
 ;D ;D ;D

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 03, 2010, 19:19:58 โดย udis »



Newhang

Re: ราคาพอกัน จะเลือกอะไรดี
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: สิงหาคม 03, 2010, 19:21:37 »
ชอบ vw golf ครับ ยิ่งถ้า patsat cc อยากได้ ;D



Wisidsak

Re: ราคาพอกัน จะเลือกอะไรดี
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: สิงหาคม 03, 2010, 21:01:57 »
อยากรู้สึกแบบนี้มั่งจัง เฮ้อ~
  ปังปอนด์ป่วน...คร๊าบ



BnN

Re: ราคาพอกัน จะเลือกอะไรดี
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: สิงหาคม 04, 2010, 00:00:17 »
Golf ไปเลยครับ ไม่ต้องคิดมาก



กระบะบ้าพลัง

Re: ราคาพอกัน จะเลือกอะไรดี
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: สิงหาคม 04, 2010, 05:35:06 »
Golf



SignifeR

Re: ราคาพอกัน จะเลือกอะไรดี
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: สิงหาคม 04, 2010, 06:31:37 »
คุณมองในแง่ไหนบ้าง บริการหลังการขาย แคร์ค่าอะไหล่มั๊ย? อู่นอกที่จะดูแลมัน ถ้าคุณเบื่อศูนย์บริการของทั้งสองค่าย(เ้น้นนะครับทั้งคู่...)

ถ้าคุณมองระยะยาว ซูบารุคือคำตอบสุดท้าย แต่ถ้าคุณต้องการรถที่ขับเดลี่ได้สบายๆ ไม่กินน้ำมันมากนัก โฟล์คเป็นคำตอบที่ดีครับ
แต่อยากให้เทียบอิม กับ กอล์ฟนะ เป็นรถคลาสเดียวกันครับ พิกัดตัวใกล้กันมาก

อิมจะออกแนว สวย เรียบ ดิบ  ส่วนกอล์ฟจะออกแนว สวย เฉี่ยว หรู  ทั้งนี้อยู่ที่สไตล์ของคุณแล้วว่าชอบแนวไหน

ผมก็เล่นรถยุโรปมาหลายคันแต่ระยะยาว ก็สู้รถญี่ปุ่นไม่ได้สักคัน ปัญหาของโฟล์คคือหลังจากหมดประกัน คุณจะสามารถซ่อมอู่นอกได้หรือไม่ ?
อะไหล่สามารถหาได้ง่ายหรือไม่ ? ถ้าหายากเราจำเป็นต้องสั่งจากเวปของเมืองนอกหรือไม่ ? ถ้าเจออะไหล่ศูนย์แบบกลืนไม่เข้ากรณีที่หลายท่านโดนมา(รวมทั้งผมด้วยเช่นกัน) ความจุกจิกหลังจากหมดระยะประกันคุณรับได้หรือไม่?

ทำไมญี่ปุ่น (ซูบารุ) ถึงดีกว่าในแง่มุมของผม
หลังจากหมดประกันหรือไม่หมดประกัน มีอู่นอกมากมายที่มีทักษะพอที่จะซ่อมบำรุงรถของผมได้ อะไหล่เพียบเพราะซูบารุประกอบญี่ปุ่น และเชียงกงบ้านก็รถญี่ปุ่น... สั่งของจากนอกได้สบายเพราะซูบารุเล่นกันทั้งในญี่ปุ่นเอง หรือในอเมริกา ของแต่งเพียบแทนของเดิมได้เลยและดีกว่า ศูนย์บริการแพง วรจักรมีร้านขายอะไหล่ซูบารุโดยเฉพาะให้เลือกสรร  ไม่ค่อยจุกจิกถ้าเทียบกับรถฝั่งยุโรป และไม่ค่อยมีปัญหาวัสดุเมื่อเจอเมืองร้อนแบบบ้านเรา

การขับขี่ผมว่า อิมขับสบายกว่า (มันนิ่มย้วยแต่เกาะ) กอล์ฟกระด้างกว่า ยิ่งขับเดลี่ในเมือง โหมดคอมฟอร์ทก็ไม่ใช่ว่าจะนิ่มซะทีเดียว ยังติดแข็งๆหนึบๆ
ถ้าคุณชอบฟิลแบบนั้น กอล์ฟตอบได้ แต่ถ้าคุณเล่น WRX คุณจะได้ช่วงล่างที่นิ่มนวลกว่าขับในเมืองย้วยกว่า แต่ถ้าจะอัพเกรดให้แข็งไม่ใช่ปัญหา
"กอล์ฟทำให้นิ่มยากกว่าอิมทำให้แข็ง"

เอามาโมดิฟายต่อมั๊ย?ถ้าไม่ อิมแรงกว่าแน่นอน แต่แลกกับอัตราการกินน้ำมันที่ดูจะดุเดือดกว่าเช่นกัน น่าจะราวๆ 6-7 โลลิตรในเมือง ถ้าซัดมีต่ำกว่า
อิมผมเครื่องพันห้าในเมืองยังได้แค่ 8 ....แต่ซูบารุมันแปลกอย่าง จะ N/A หรือเทอร์โบกินสูสีกัน แต่เทอร์โบขับมันส์กว่า

สุดท้ายผมเชียร์ซูบารุ เพราะผมขับซูบารุ ครับ  ;D
In Garage Subaru Impreza GDG WRX  y2008 // Nissan March 1.2E y2011



golf32

Re: ราคาพอกัน จะเลือกอะไรดี
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: สิงหาคม 04, 2010, 10:16:25 »
คุณมองในแง่ไหนบ้าง บริการหลังการขาย แคร์ค่าอะไหล่มั๊ย? อู่นอกที่จะดูแลมัน ถ้าคุณเบื่อศูนย์บริการของทั้งสองค่าย(เ้น้นนะครับทั้งคู่...)

ถ้าคุณมองระยะยาว ซูบารุคือคำตอบสุดท้าย แต่ถ้าคุณต้องการรถที่ขับเดลี่ได้สบายๆ ไม่กินน้ำมันมากนัก โฟล์คเป็นคำตอบที่ดีครับ
แต่อยากให้เทียบอิม กับ กอล์ฟนะ เป็นรถคลาสเดียวกันครับ พิกัดตัวใกล้กันมาก

อิมจะออกแนว สวย เรียบ ดิบ  ส่วนกอล์ฟจะออกแนว สวย เฉี่ยว หรู  ทั้งนี้อยู่ที่สไตล์ของคุณแล้วว่าชอบแนวไหน

ผมก็เล่นรถยุโรปมาหลายคันแต่ระยะยาว ก็สู้รถญี่ปุ่นไม่ได้สักคัน ปัญหาของโฟล์คคือหลังจากหมดประกัน คุณจะสามารถซ่อมอู่นอกได้หรือไม่ ?
อะไหล่สามารถหาได้ง่ายหรือไม่ ? ถ้าหายากเราจำเป็นต้องสั่งจากเวปของเมืองนอกหรือไม่ ? ถ้าเจออะไหล่ศูนย์แบบกลืนไม่เข้ากรณีที่หลายท่านโดนมา(รวมทั้งผมด้วยเช่นกัน) ความจุกจิกหลังจากหมดระยะประกันคุณรับได้หรือไม่?

ทำไมญี่ปุ่น (ซูบารุ) ถึงดีกว่าในแง่มุมของผม
หลังจากหมดประกันหรือไม่หมดประกัน มีอู่นอกมากมายที่มีทักษะพอที่จะซ่อมบำรุงรถของผมได้ อะไหล่เพียบเพราะซูบารุประกอบญี่ปุ่น และเชียงกงบ้านก็รถญี่ปุ่น... สั่งของจากนอกได้สบายเพราะซูบารุเล่นกันทั้งในญี่ปุ่นเอง หรือในอเมริกา ของแต่งเพียบแทนของเดิมได้เลยและดีกว่า ศูนย์บริการแพง วรจักรมีร้านขายอะไหล่ซูบารุโดยเฉพาะให้เลือกสรร  ไม่ค่อยจุกจิกถ้าเทียบกับรถฝั่งยุโรป และไม่ค่อยมีปัญหาวัสดุเมื่อเจอเมืองร้อนแบบบ้านเรา

การขับขี่ผมว่า อิมขับสบายกว่า (มันนิ่มย้วยแต่เกาะ) กอล์ฟกระด้างกว่า ยิ่งขับเดลี่ในเมือง โหมดคอมฟอร์ทก็ไม่ใช่ว่าจะนิ่มซะทีเดียว ยังติดแข็งๆหนึบๆ
ถ้าคุณชอบฟิลแบบนั้น กอล์ฟตอบได้ แต่ถ้าคุณเล่น WRX คุณจะได้ช่วงล่างที่นิ่มนวลกว่าขับในเมืองย้วยกว่า แต่ถ้าจะอัพเกรดให้แข็งไม่ใช่ปัญหา
"กอล์ฟทำให้นิ่มยากกว่าอิมทำให้แข็ง"

เอามาโมดิฟายต่อมั๊ย?ถ้าไม่ อิมแรงกว่าแน่นอน แต่แลกกับอัตราการกินน้ำมันที่ดูจะดุเดือดกว่าเช่นกัน น่าจะราวๆ 6-7 โลลิตรในเมือง ถ้าซัดมีต่ำกว่า
อิมผมเครื่องพันห้าในเมืองยังได้แค่ 8 ....แต่ซูบารุมันแปลกอย่าง จะ N/A หรือเทอร์โบกินสูสีกัน แต่เทอร์โบขับมันส์กว่า

สุดท้ายผมเชียร์ซูบารุ เพราะผมขับซูบารุ ครับ  ;D

ที่ว่าในระยะยาวสู้ญี่ปุ่นไม่ได้คือเรื่องอะไรครับ เพราะจริงๆถ้ารถยุโรปดุแลดีๆ เปลี่ยนอะไหล่ตามระยะก็ใช้ลืมล่ะครับ
แต่คนไทยมักจะติดนิสัยถ้ายังไม่เสียก็ยังไม่เปลี่ยนเพราะมันเปลืองแต่พออะไหล่ตัวนั้นเสียก็มักจะลามไปถึงอะไหล่ตัวอื่นด้วยถึงว่าซ่อมแพง

สำหรับผมที่น่าจะสู้ญี่ปุ่นไม่ค่อยได้คือค่าอะไหล่ กับร้านที่เข้าใจระบบจริงๆ ไม่อย่างนั้นทำไม ออดี้ เบนซ์ บีเอ็ม ถึงขายดีที่ต่างประเทศล่ะครับ
ทั้งๆที่ค่าแรง ค่าอะไหล่ ของต่างประเทศก็ไม่ได้ถูกสักเท่าไหร่



SignifeR

Re: ราคาพอกัน จะเลือกอะไรดี
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: สิงหาคม 04, 2010, 13:40:18 »
คุณมองในแง่ไหนบ้าง บริการหลังการขาย แคร์ค่าอะไหล่มั๊ย? อู่นอกที่จะดูแลมัน ถ้าคุณเบื่อศูนย์บริการของทั้งสองค่าย(เ้น้นนะครับทั้งคู่...)

ถ้าคุณมองระยะยาว ซูบารุคือคำตอบสุดท้าย แต่ถ้าคุณต้องการรถที่ขับเดลี่ได้สบายๆ ไม่กินน้ำมันมากนัก โฟล์คเป็นคำตอบที่ดีครับ
แต่อยากให้เทียบอิม กับ กอล์ฟนะ เป็นรถคลาสเดียวกันครับ พิกัดตัวใกล้กันมาก

อิมจะออกแนว สวย เรียบ ดิบ  ส่วนกอล์ฟจะออกแนว สวย เฉี่ยว หรู  ทั้งนี้อยู่ที่สไตล์ของคุณแล้วว่าชอบแนวไหน

ผมก็เล่นรถยุโรปมาหลายคันแต่ระยะยาว ก็สู้รถญี่ปุ่นไม่ได้สักคัน ปัญหาของโฟล์คคือหลังจากหมดประกัน คุณจะสามารถซ่อมอู่นอกได้หรือไม่ ?
อะไหล่สามารถหาได้ง่ายหรือไม่ ? ถ้าหายากเราจำเป็นต้องสั่งจากเวปของเมืองนอกหรือไม่ ? ถ้าเจออะไหล่ศูนย์แบบกลืนไม่เข้ากรณีที่หลายท่านโดนมา(รวมทั้งผมด้วยเช่นกัน) ความจุกจิกหลังจากหมดระยะประกันคุณรับได้หรือไม่?

ทำไมญี่ปุ่น (ซูบารุ) ถึงดีกว่าในแง่มุมของผม
หลังจากหมดประกันหรือไม่หมดประกัน มีอู่นอกมากมายที่มีทักษะพอที่จะซ่อมบำรุงรถของผมได้ อะไหล่เพียบเพราะซูบารุประกอบญี่ปุ่น และเชียงกงบ้านก็รถญี่ปุ่น... สั่งของจากนอกได้สบายเพราะซูบารุเล่นกันทั้งในญี่ปุ่นเอง หรือในอเมริกา ของแต่งเพียบแทนของเดิมได้เลยและดีกว่า ศูนย์บริการแพง วรจักรมีร้านขายอะไหล่ซูบารุโดยเฉพาะให้เลือกสรร  ไม่ค่อยจุกจิกถ้าเทียบกับรถฝั่งยุโรป และไม่ค่อยมีปัญหาวัสดุเมื่อเจอเมืองร้อนแบบบ้านเรา

การขับขี่ผมว่า อิมขับสบายกว่า (มันนิ่มย้วยแต่เกาะ) กอล์ฟกระด้างกว่า ยิ่งขับเดลี่ในเมือง โหมดคอมฟอร์ทก็ไม่ใช่ว่าจะนิ่มซะทีเดียว ยังติดแข็งๆหนึบๆ
ถ้าคุณชอบฟิลแบบนั้น กอล์ฟตอบได้ แต่ถ้าคุณเล่น WRX คุณจะได้ช่วงล่างที่นิ่มนวลกว่าขับในเมืองย้วยกว่า แต่ถ้าจะอัพเกรดให้แข็งไม่ใช่ปัญหา
"กอล์ฟทำให้นิ่มยากกว่าอิมทำให้แข็ง"

เอามาโมดิฟายต่อมั๊ย?ถ้าไม่ อิมแรงกว่าแน่นอน แต่แลกกับอัตราการกินน้ำมันที่ดูจะดุเดือดกว่าเช่นกัน น่าจะราวๆ 6-7 โลลิตรในเมือง ถ้าซัดมีต่ำกว่า
อิมผมเครื่องพันห้าในเมืองยังได้แค่ 8 ....แต่ซูบารุมันแปลกอย่าง จะ N/A หรือเทอร์โบกินสูสีกัน แต่เทอร์โบขับมันส์กว่า

สุดท้ายผมเชียร์ซูบารุ เพราะผมขับซูบารุ ครับ  ;D

ที่ว่าในระยะยาวสู้ญี่ปุ่นไม่ได้คือเรื่องอะไรครับ เพราะจริงๆถ้ารถยุโรปดุแลดีๆ เปลี่ยนอะไหล่ตามระยะก็ใช้ลืมล่ะครับ
แต่คนไทยมักจะติดนิสัยถ้ายังไม่เสียก็ยังไม่เปลี่ยนเพราะมันเปลืองแต่พออะไหล่ตัวนั้นเสียก็มักจะลามไปถึงอะไหล่ตัวอื่นด้วยถึงว่าซ่อมแพง

สำหรับผมที่น่าจะสู้ญี่ปุ่นไม่ค่อยได้คือค่าอะไหล่ กับร้านที่เข้าใจระบบจริงๆ ไม่อย่างนั้นทำไม ออดี้ เบนซ์ บีเอ็ม ถึงขายดีที่ต่างประเทศล่ะครับ
ทั้งๆที่ค่าแรง ค่าอะไหล่ ของต่างประเทศก็ไม่ได้ถูกสักเท่าไหร่

เพราะบ้านเราใช้รถแบบไทยๆ ผมก็คิดว่าต้องมองแบบไทยๆไงครับ ต่างประเทศเขาค่า่ซ่อมค่าอะไหล่ถูกกว่าบ้านเราแน่นอน หาง่ายกว่าและอายุเฉลี่ยของรถเขาสั้นกว่าเรานะครับอย่าลืม เพราะรถเขาถูกกว่าเรา เขาก็สามารถเปลี่ยนได้ง่ายกว่า ถ้าถึงอายุรถก็สามารถเปลี่ยนได้ง่ายกว่า แต่บ้านเรารถมันแพงครับ แพงกว่าเขาเป็นเท่าตัวเพราะเรื่องไอ้ภาษีนำเข้าบ้าๆไงครับ ทำให้คนใช้รถบ้านเราก็มักจะใช้กันยาวจนลืมไปว่ามันก็เลยอายุรถไปก็มี อย่างในต่างประเทศอาจจะใช้รถประมาณ 5-7 ปี เว้นพวกอนุรักษ์เล่นรถเก่า(ซึ่งก็ต้องเสียภาษีสูงขึ้นเป็นทวีคูณ) แต่บ้านเราใช้กันบางทีก็ 20 ปีก็มี หรือสิบปี ไม่ว่าจะรถยุโรปหรือญี่ปุ่นก็ต้องซ่อมทั้งนั้น
อันนี้ไม่เถียง แต่ถ้าผมมองอนาคต คืออะไหล่มือสอง หรือมือหนึ่งก็ตามที ยังไงรถญี่ปุ่นก็ภาษีดีกว่านะครับ มีแพร่หลายกว่า หาช่างเก่งๆได้ง่ายกว่า

คุณคิดว่าศูนย์บริการทั้งคู่น่ะเจ๋งหรอ? คิดใหม่นะครับ เพราะช่างเก่งๆ ส่วนมากก็มักจะลาออกมาเปิดอู่เองหมดแล้ว
In Garage Subaru Impreza GDG WRX  y2008 // Nissan March 1.2E y2011



Spec C Wannabe

Re: ราคาพอกัน จะเลือกอะไรดี
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: สิงหาคม 04, 2010, 16:16:53 »
เวลาถามว่าจะเอาอะไรดี รถ A หรือ B คนตอบก็มักตอบตามอารมณ์ ความมันส์ ความชอบ...

แต่เราซึ่งจะเป็นคนจ่ายเงินและอยู่กับมันไป 6-7 ปีต้องคิดให้มากกว่านั้น เพราะค่าใช้จ่าย ประสบการณ์หลังขายก็มีผลกับความสุขในการใช้รถมากๆ ขับดีสุดๆ แต่ซ่อมที 5หมื่น แสนนึง ปีนึงเข้าอู่สี่ห้าหน รออะไหล่นาน เดือนสองเดือน ก็หมดสนุกได้เหมือนกัน

ตามประสบการณ์ส่วนตัว เห็นด้วยกับข้างบนครับ

ใช้มาทั้ง Audi A4 แล้วขายไปซื่อ Impreza WRX

รถยี่ปุ่นทนกว่า ขับแล้วสบายใจไม่ต้องคอยกังวลว่ามันจะพัง พังก็ซ่อมง่ายกว่า ไม่ซับซ้อน

รถยุโรปอาจทนที่เมืองนอก แต่เสียง่ายที่เมืองไทยเพราะอากาศไทยมันร้อน ช่างไทยก็อ่านภาษาอังกฤษไม่ค่อยออก ทำให้การดูแลไม่ถูกต้องตามคู่มือ ยิ่งไอ้เครื่องตรวจสอบอะไร VAG Modic Star อะไรพวกนั้นนะ อ่านคำแปลไม่ค่อยเข้าใจก็คลำๆกันไป

รถยุโรปชอบเสียอะไรแปลกๆ ที่ราคาอะไหล่แพงมากๆ อะไหล่หาก็ยากกว่า(บางยี่ห้อนะ)  แล้วที่เดี๋ยวนี้ชอบทำก็คือ อะไหล่ควบขายเป็นชุด เช่นลูกหมากปีกนกเสียเหรอ? ได้ครับซื้อลูกหมากบังคับแถมปีกนก แร้กพวงมาลัยหลวม ไม่มีชุดซ่อม ต้องเปลี่ยนทั้งแร้ก

จะไปทางเลือกอะไหล่มือสองก็ไม่ค่อยมี แต่รถยี่ปุ่นอะไหล่เก่าใหม่ แท้ เทียม เทียบ เต็มบ้านเต็มเมือง

ที่ยุโรปสมัยนี้เค้าก็ไม่ใช้กันยาวๆนะครับ รถเค้าถูก ใช้เปลี่ยน ใช้เปลี่ยน เก่าก็โละไปประเทศโลกที่สอง ที่สาม

ผมไปเที่ยวเยอรมัน ผมเช่ารถขับ พบว่ารถเก่าๆเค้าแทบไม่ใช้เลย ทั้งเบนซ์ บีเอ็ม ใช้รุ่นใหม่ล่าสุด พอมันริ่มเก่า 3-4 ปี เค้าก็เอาไปขายประเทศเพื่อนบ้านที่ไม่รวยเท่า  คนเยอรมันก็จะใช้รถใหม่ตลอด เพราะฉนั้นมันก็จะไปเสียในมือคนที่รับต่อไป ฉนั้นรถทนไม่ทนเค้าไม่รู้

แต่อะไรมีดีก็มีเสียครับ รถยี่ปุ่นยังทำฟีลลิ่งการขับขี่สู้รถยุโรปไม่ได้ ได้ก็ใกล้เคียง อิมเมจก็ยังสู้ไม่ได้ แล้วแต่ว่าเรามองหาอะไรในตัวรถครับ

คุณมองในแง่ไหนบ้าง บริการหลังการขาย แคร์ค่าอะไหล่มั๊ย? อู่นอกที่จะดูแลมัน ถ้าคุณเบื่อศูนย์บริการของทั้งสองค่าย(เ้น้นนะครับทั้งคู่...)

ถ้าคุณมองระยะยาว ซูบารุคือคำตอบสุดท้าย แต่ถ้าคุณต้องการรถที่ขับเดลี่ได้สบายๆ ไม่กินน้ำมันมากนัก โฟล์คเป็นคำตอบที่ดีครับ
แต่อยากให้เทียบอิม กับ กอล์ฟนะ เป็นรถคลาสเดียวกันครับ พิกัดตัวใกล้กันมาก

อิมจะออกแนว สวย เรียบ ดิบ  ส่วนกอล์ฟจะออกแนว สวย เฉี่ยว หรู  ทั้งนี้อยู่ที่สไตล์ของคุณแล้วว่าชอบแนวไหน

ผมก็เล่นรถยุโรปมาหลายคันแต่ระยะยาว ก็สู้รถญี่ปุ่นไม่ได้สักคัน ปัญหาของโฟล์คคือหลังจากหมดประกัน คุณจะสามารถซ่อมอู่นอกได้หรือไม่ ?
อะไหล่สามารถหาได้ง่ายหรือไม่ ? ถ้าหายากเราจำเป็นต้องสั่งจากเวปของเมืองนอกหรือไม่ ? ถ้าเจออะไหล่ศูนย์แบบกลืนไม่เข้ากรณีที่หลายท่านโดนมา(รวมทั้งผมด้วยเช่นกัน) ความจุกจิกหลังจากหมดระยะประกันคุณรับได้หรือไม่?

ทำไมญี่ปุ่น (ซูบารุ) ถึงดีกว่าในแง่มุมของผม
หลังจากหมดประกันหรือไม่หมดประกัน มีอู่นอกมากมายที่มีทักษะพอที่จะซ่อมบำรุงรถของผมได้ อะไหล่เพียบเพราะซูบารุประกอบญี่ปุ่น และเชียงกงบ้านก็รถญี่ปุ่น... สั่งของจากนอกได้สบายเพราะซูบารุเล่นกันทั้งในญี่ปุ่นเอง หรือในอเมริกา ของแต่งเพียบแทนของเดิมได้เลยและดีกว่า ศูนย์บริการแพง วรจักรมีร้านขายอะไหล่ซูบารุโดยเฉพาะให้เลือกสรร  ไม่ค่อยจุกจิกถ้าเทียบกับรถฝั่งยุโรป และไม่ค่อยมีปัญหาวัสดุเมื่อเจอเมืองร้อนแบบบ้านเรา

การขับขี่ผมว่า อิมขับสบายกว่า (มันนิ่มย้วยแต่เกาะ) กอล์ฟกระด้างกว่า ยิ่งขับเดลี่ในเมือง โหมดคอมฟอร์ทก็ไม่ใช่ว่าจะนิ่มซะทีเดียว ยังติดแข็งๆหนึบๆ
ถ้าคุณชอบฟิลแบบนั้น กอล์ฟตอบได้ แต่ถ้าคุณเล่น WRX คุณจะได้ช่วงล่างที่นิ่มนวลกว่าขับในเมืองย้วยกว่า แต่ถ้าจะอัพเกรดให้แข็งไม่ใช่ปัญหา
"กอล์ฟทำให้นิ่มยากกว่าอิมทำให้แข็ง"

เอามาโมดิฟายต่อมั๊ย?ถ้าไม่ อิมแรงกว่าแน่นอน แต่แลกกับอัตราการกินน้ำมันที่ดูจะดุเดือดกว่าเช่นกัน น่าจะราวๆ 6-7 โลลิตรในเมือง ถ้าซัดมีต่ำกว่า
อิมผมเครื่องพันห้าในเมืองยังได้แค่ 8 ....แต่ซูบารุมันแปลกอย่าง จะ N/A หรือเทอร์โบกินสูสีกัน แต่เทอร์โบขับมันส์กว่า

สุดท้ายผมเชียร์ซูบารุ เพราะผมขับซูบารุ ครับ  ;D

ที่ว่าในระยะยาวสู้ญี่ปุ่นไม่ได้คือเรื่องอะไรครับ เพราะจริงๆถ้ารถยุโรปดุแลดีๆ เปลี่ยนอะไหล่ตามระยะก็ใช้ลืมล่ะครับ
แต่คนไทยมักจะติดนิสัยถ้ายังไม่เสียก็ยังไม่เปลี่ยนเพราะมันเปลืองแต่พออะไหล่ตัวนั้นเสียก็มักจะลามไปถึงอะไหล่ตัวอื่นด้วยถึงว่าซ่อมแพง

สำหรับผมที่น่าจะสู้ญี่ปุ่นไม่ค่อยได้คือค่าอะไหล่ กับร้านที่เข้าใจระบบจริงๆ ไม่อย่างนั้นทำไม ออดี้ เบนซ์ บีเอ็ม ถึงขายดีที่ต่างประเทศล่ะครับ
ทั้งๆที่ค่าแรง ค่าอะไหล่ ของต่างประเทศก็ไม่ได้ถูกสักเท่าไหร่

เพราะบ้านเราใช้รถแบบไทยๆ ผมก็คิดว่าต้องมองแบบไทยๆไงครับ ต่างประเทศเขาค่า่ซ่อมค่าอะไหล่ถูกกว่าบ้านเราแน่นอน หาง่ายกว่าและอายุเฉลี่ยของรถเขาสั้นกว่าเรานะครับอย่าลืม เพราะรถเขาถูกกว่าเรา เขาก็สามารถเปลี่ยนได้ง่ายกว่า ถ้าถึงอายุรถก็สามารถเปลี่ยนได้ง่ายกว่า แต่บ้านเรารถมันแพงครับ แพงกว่าเขาเป็นเท่าตัวเพราะเรื่องไอ้ภาษีนำเข้าบ้าๆไงครับ ทำให้คนใช้รถบ้านเราก็มักจะใช้กันยาวจนลืมไปว่ามันก็เลยอายุรถไปก็มี อย่างในต่างประเทศอาจจะใช้รถประมาณ 5-7 ปี เว้นพวกอนุรักษ์เล่นรถเก่า(ซึ่งก็ต้องเสียภาษีสูงขึ้นเป็นทวีคูณ) แต่บ้านเราใช้กันบางทีก็ 20 ปีก็มี หรือสิบปี ไม่ว่าจะรถยุโรปหรือญี่ปุ่นก็ต้องซ่อมทั้งนั้น
อันนี้ไม่เถียง แต่ถ้าผมมองอนาคต คืออะไหล่มือสอง หรือมือหนึ่งก็ตามที ยังไงรถญี่ปุ่นก็ภาษีดีกว่านะครับ มีแพร่หลายกว่า หาช่างเก่งๆได้ง่ายกว่า

คุณคิดว่าศูนย์บริการทั้งคู่น่ะเจ๋งหรอ? คิดใหม่นะครับ เพราะช่างเก่งๆ ส่วนมากก็มักจะลาออกมาเปิดอู่เองหมดแล้ว



Chinoezuekae

Re: ราคาพอกัน จะเลือกอะไรดี
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: สิงหาคม 04, 2010, 16:19:47 »
จากที่ลองนั่งมาทั้ง2อย่าง สรุป VW อีกเสียงครับ เทคโนโลยีสุดยอดครับ