ผู้เขียน หัวข้อ: รถดีเซลยุโรป หรือรุ่นใหม่ๆ มันปล่อย PM2.5 เยอะมั้ยครับ  (อ่าน 18060 ครั้ง)

ออนไลน์ Stp

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,530
ดีเซล Euro 6 ที่เติม AdBlue จะไม่มีกลิ่นท้ายรถแบบนี้เลยครับ ลองกับ Benz ดีเซลพวกรุ่นรหัส d หรือมีคำว่า BlueTEC ในช่วง 3 ปีนี้ที่เป็น Euro 6 ได้เลย

ส่วนเครื่อง BMW, Volvo ดีเซลเหมือนจะระบุสเปค Euro 6 เหมือนกันแต่ยังไม่ต้องเติม AdBlue ยังไม่มีโอกาสทดสอบเพราะรถที่วิ่งบนถนนกะยากว่าคันไหน Euro 6 ที่เพิ่งเปิดตัว

ผมไปฮ่องกง ยืนท้ายรถทัวร์นำเที่ยวคันใหญ่  แปลกใจรถทัวร์คันนี้ ใช้แก๊ส lpg หรือ ก๊าซ ngv หรือเปล่า ทำไมไอเสียที่ออกมา  ไม่มีกลิ่นอะไร  ที่จะจับอาการได้ว่าเป็นรถดีเซลได้เลย

เดินไปถามคนขับเขาบอกว่า ใช้เครื่องดีเซล  แต่ไอเสียออกมา  กลิ่น หรืออะไร ไม่สามารถบ่งบอกได้ว่าเป็นดีเซลได้เลยครับ  ขนาดผมใช้ crv g5 disel euro 5 ไอเสียยังมีกลิ่นนิดๆ คือแทบจะไม่มีแล้ว

แต่รถ ทัวร์ euro 6 ที่ฮ่องกง เป็นรถจีนนะครับ กลิ่นไอเสีย ไม่เหลือคำว่า ดีเซลเลยครับ

รถบ้านเรารุ่นเก่า ก็ทำแบบนี้ได้  จะยากอะไร  ในเมื่อไอเสียที่ออกมา  มันมีฝุ่น มีกลิ่น  ก็เอามันมาเข้าเครื่องบำบัด  ถ้าใช้เทคโนโลยีสูงมันลงทุนไม่ได้   ก็ลงทุนแบบ บ้านๆ  เอาไอเสียเครื่องดีเซลมาผ่านน้ำ  ให้ เขม่า กลิ่น มาผ่านน้ำ  เพื่อดักจับพวกนี้ แล้วค่อยเอาไปทำล้างทิ้งต่อไป

ให้รถทุกคันที่เป็นดีเซลเก่า ต้องมีการติดตั้งเครื่องบำบัดไอเสีย   ไม่วิธีใดๆ   ก็วิธีหนึ่ง ที่ใช้งานได้ผล

แล้วก็ติดตั้งกล้อง ตรวจจับควันดำ   ที่ถนนทุกเส้น   รถคันไหน ควันดำ  ลงโทษปรับหนัก   แล้วให้นำไปติดตั้งเครื่องบำบัด

เจอจับควันดำได้อีก   ก็ให้ยกเลิกการใช้งานรถคันนั้นไปเลย   เพียงเท่านี้ บ้านเราก็แก้ปัญหาพวกนี้ได้แล้วครับ
:D ;D ร่วมรณรงค์รักการอ่านหนังสือ แทนการถามตลอดเวลา ;D :D

ออฟไลน์ DriveOnly

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,449
    • อีเมล์
ดีเซล Euro 6 ที่เติม AdBlue จะไม่มีกลิ่นท้ายรถแบบนี้เลยครับ ลองกับ Benz ดีเซลพวกรุ่นรหัส d หรือมีคำว่า BlueTEC ในช่วง 3 ปีนี้ที่เป็น Euro 6 ได้เลย

ส่วนเครื่อง BMW, Volvo ดีเซลเหมือนจะระบุสเปค Euro 6 เหมือนกันแต่ยังไม่ต้องเติม AdBlue ยังไม่มีโอกาสทดสอบเพราะรถที่วิ่งบนถนนกะยากว่าคันไหน Euro 6 ที่เพิ่งเปิดตัว

ผมไปฮ่องกง ยืนท้ายรถทัวร์นำเที่ยวคันใหญ่  แปลกใจรถทัวร์คันนี้ ใช้แก๊ส lpg หรือ ก๊าซ ngv หรือเปล่า ทำไมไอเสียที่ออกมา  ไม่มีกลิ่นอะไร  ที่จะจับอาการได้ว่าเป็นรถดีเซลได้เลย

เดินไปถามคนขับเขาบอกว่า ใช้เครื่องดีเซล  แต่ไอเสียออกมา  กลิ่น หรืออะไร ไม่สามารถบ่งบอกได้ว่าเป็นดีเซลได้เลยครับ  ขนาดผมใช้ crv g5 disel euro 5 ไอเสียยังมีกลิ่นนิดๆ คือแทบจะไม่มีแล้ว

แต่รถ ทัวร์ euro 6 ที่ฮ่องกง เป็นรถจีนนะครับ กลิ่นไอเสีย ไม่เหลือคำว่า ดีเซลเลยครับ

รถบ้านเรารุ่นเก่า ก็ทำแบบนี้ได้  จะยากอะไร  ในเมื่อไอเสียที่ออกมา  มันมีฝุ่น มีกลิ่น  ก็เอามันมาเข้าเครื่องบำบัด  ถ้าใช้เทคโนโลยีสูงมันลงทุนไม่ได้   ก็ลงทุนแบบ บ้านๆ  เอาไอเสียเครื่องดีเซลมาผ่านน้ำ  ให้ เขม่า กลิ่น มาผ่านน้ำ  เพื่อดักจับพวกนี้ แล้วค่อยเอาไปทำล้างทิ้งต่อไป

ให้รถทุกคันที่เป็นดีเซลเก่า ต้องมีการติดตั้งเครื่องบำบัดไอเสีย   ไม่วิธีใดๆ   ก็วิธีหนึ่ง ที่ใช้งานได้ผล

แล้วก็ติดตั้งกล้อง ตรวจจับควันดำ   ที่ถนนทุกเส้น   รถคันไหน ควันดำ  ลงโทษปรับหนัก   แล้วให้นำไปติดตั้งเครื่องบำบัด

เจอจับควันดำได้อีก   ก็ให้ยกเลิกการใช้งานรถคันนั้นไปเลย   เพียงเท่านี้ บ้านเราก็แก้ปัญหาพวกนี้ได้แล้วครับ

bmw เครื่องดีเซลผมไป search ดูที่ ตปท มี adblue หมดเลยนะครับ พอมาไมยตัดทิ้งหมด เพราะเข้าใจว่า bmw เมืองไทยเนี่ยพยายามลดต้นทุนสุดๆ เพื่อประหยัด คชจ BSI นี่ยังไม่รวม option ยิบย่อย ที่ bmwth ตัดทิ้งอีกนะครับ

ชื่นชม จขกท ที่ concern เรื่องมลพิษครับ อย่างน้อยก็เริ่มที่ตัวเราก่อน ส่วนตัวที่บ้านก็เลือกรถ hybrid 4 จาก 5 คัน

ออฟไลน์ seeker

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,532
ผมชื่นชอบคนที่ช่วยกันตอบและพยายามที่จะพวกลดมลพิษกัน
ผมว่าสังคมในนี้ดีกว่าเยอะ ไปที่อื่นก็จะบอกไปจับรถเมล์สิ รถขนส่งสิที่ปล่อยควันดำๆ รถเราปล่อยนิดเดียวไม่เป็นไรหรอก
ตัดแคท อุด egr ด้นราง มันนิดหน่อยเอง

เรื่องนี้ทุกคนต้องช่วยกันครับ มันไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป
คิดถึงหนัง scifi ที่ต้องใส่หน้ากากออกจากบ้านทุกคน

ออฟไลน์ nottii77

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 181
ไม่เยอะ แต่ก็เยอะกว่าเบนซินครับ
ตอบในฐานะคนใช้รถดีเซล euro5 เลยนะ(แต่ขี่จักรยานไปทำงาน รถซื้อมาจอด555) ถ้าห่วงสิ่งแวดล้อม ใช้เบนซินหรือไฮบริดเลยดีกว่าครับ
(แต่ถ้าห่วงใยกันจริงๆ ใช้รถส่วนตัวเท่าที่จำเป็น ควรใช้รถสาธารณะ หรือจักรยานครับ...ช้าหน่อย ลำบากหน่อย แต่ก็ช่วยๆ กันนิ)
คันต่อไปผมคงจะไปใช้เบนซินนั่นละ แนวโน้มเบนซินในอนาคตก็ประหยัด และแรงไม่ด้อยกว่าดีเซลโบนะ ในพิกัดเท่ากัน
อย่างเฟียสต้า ecoboost 1.0 มันก็แรง ส่วนความประหยัดก็ไม่ด้อยมาก เทียบกับ mz2 skyD (ตอนนั้นก็เกือบซื้อไปแล้ว แต่คำว่า ford ทำให้เปลื่ยนใจ)
....................................
อันนี้ส่วนตัว
เก็บภาษีดีเซลเพิ่มได้แล้วละครับ ภาคขนส่งตอนนี้ไปแกสกันจะหมดแล้ว
แล้วพัฒนาการขนส่งระบบรางกันดีๆ รถใหญ่จะลดลง ลดการใช้พลังงานไปเยอะนะ...



ภาคขนส่งตอนนี้ไปแกสกันจะหมดแล้ว   <--- ขออนุญาติเห็นต่างนะครับ

ตอนนี้รถบรรทุกที่ใช้ NGV จากโรงงานไม่คุ้มลงทุนสำหรับผู้ประกอบการแล้วครับ เพราะราคาน้ำมันดีเซลตอนนี้ถูก จนไม่คุ้มกับรถก๊าซ Ngv แล้ว เห็นได้ว่ารถบรรทุกใหม่ๆบนท้องถนนจะใช้รถน้ำมันกัน  และที่สำคัญคือ ราคา NGV จะถูกแค่แถวภาคกลาง,ตะวันออก ยิ่งไกลจาก กทม ราคายิ่งสูง จนค่าบรรทุกไม่คุ้มกับรถใช้ดีเซล

ออฟไลน์ onbit40

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 215
ดีเซล บ้านเรา รัฐเอามาอุ้มอุตสาหกรรมมากกว่า  ทนๆดมช่วยกัน พวกผลิตเครื่องยนก็ดันเครื่องดีเซล ขายกำไรไปเรื่อยๆ ทั้งที่มันถึงทางตันเรื่องค่าไอเสีย มานานแล้ว

ออฟไลน์ ChiLun

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,380
  • F10 525d M sport
ส่วนตัวคันหน้าจะซื้อก็อยากไปเบนซิล

จากที่ใช้ดีเซลมาสองคันหกเจ็ดปี ส่วนที่ไม่ชอบคือ
๑.สั่น กว่าเบนซิล เปลี่ยนยางรองแท่นเครื่องกะเกียร์เร็ว
๒.รั่ว โบ ท่อร่วมไอดี ปะเก็นฝาวาล์ว จะbenz bmไม่รอด แสนกว่าโลจะมา อยู่ที่ไปเจอหรือปล่อยซึมจนหยด
๓.EGR ต้องล้างหรือปล่อยให้เขม่าเกาะจนมีปัญหา หลายคนอุดมันซะเลย ส่วนตัวกลัวnoxเลยไม่อุด
๔.ปลายเหี่ยว คือขับเร็วแล้วรอบมันตันที่สามพันกว่า สี่พันนี้ก็เริ่มหอบละ เบนซิลจะไปเรื่อยยยย
๕.ไอเสียมัยเยอะ เยอะกว่าเบนซิลมาก อันตรายกว่าด้วย อันนี้ไม่ต้องอิงpm2.5 แค่จอดรถถอยเข้าบ้าน ไอเสียที่เข้ามาในบ้านเรา ถ้าเผาไม่สมบูรณ์ ไม่หมด คนในบ้านคือคนสูดเข้าไป พ่อแม่ลูกหลาน โดนกันหมด
๖.ราคารถที่แพงกว่าเบนซิล ส่วนต่างเอาไปเติมน้ำมันได้หลายหมื่นโล

ออฟไลน์ chanavorn

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 28
    • อีเมล์
ดีเซล BMW ในไทยยังเป็นมาตรฐาน euro5 นะครับ
เพราะไม่มีระบบ scr ที่ต้องเติมสาร adblue
และข้างตัวรถใหม่ใบรับรองจะเขียนว่า euro5 เลยครับ

และน้ำมันดีเซลที่จำหน่ายในไทยตอนนี้ก็มีแค่
ปตท กับ บางจาก ตัวพรีเมียม เท่านั้นครับที่เป็น euro5
พวกรถที่ได้ euro5/6 แต่ไม่ได้เติมน้ำมัน euro5
เลยมักมีปัญหาเกี่ยวกับระบบ dpf ครับ

ออฟไลน์ Pok_57

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 11
    • อีเมล์
Re: รถดีเซลยุโรป หรือรุ่นใหม่ๆ มันปล่อย PM2.5 เยอะมั้ยครับ
« ตอบกลับ #37 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 01, 2019, 09:32:48 »
จากที่เคยติดตามข่าวเมื่อประมาณ 7-8 ปีมาแล้ว
ทำให้ผมคิดว่า นี่คือสาเหตุหนึ่ง ในการกำจัดเครื่องยนต์ดีเซล ออกจากท้องถนนในยุโรป
เนื่องมาจาก องค์การอนามัยโลก ได้มีการประกาศยกระดับอันตราย ของอนุภาคจากไอเสียเครื่องยนต์ดีเซล
จาก สารอาจก่อให้เกิดมะเร็ง เป็น สารก่อมะเร็ง
ซึ่งนั่นหมายความว่า ถ้าคุณยังจะทำรถแบบนี้ขาย
คุณจะต้องชดเชยคืนสังคมด้วยภาษีที่แพงขึ้นนะ นั่นหมายความว่า จะทำให้ต้นทุนของรถเครื่องยนต์ดีเซลแพงขึ้น
ไม่ว่า ภาษีตรงนี้จะเป็นค่ายรถ หรือ คนซื้อจ่ายก็ตาม มันหมายความว่า รถจะมีราคาแพงขึ้นมากกกก

ซึ่งหลังจากองค์การอนามัยโลกได้ประกาศตรงนี้ออกมา หลังจากนั้นไม่น่าจะเกิน 5 ปีมั้งครับ
รัฐบาลของบางประเทศ เริ่มประกาศแผนชัดเจนว่า จะไม่อนุญาต รถเครื่องยนต์ดีเซล วิ่งเข้าเมือง หรือ เขตชุมชน
รวมถึง เริ่มมีการผลักดัน การใช้รถไฟฟ้ามากขึ้น และมีแผนการควบคุมเครื่องยนต์สันดาปภายในตามมาด้วย

ดังนั้น ในความเห็นส่วนตัวของผม เครื่องดีเซลถูกตัดตอน ไม่ใช่เพียงเพราะมันปล่อย ฝุ่นควัน PM 2.5 หรอกครับ
แต่เพราะ ไอ้ตัวฝุ่นควันจากการเผาไหม้ดีเซล ดันถูกยกระดับ เป็นสารก่อมะเร็งต่างหาก เลยทำให้เครื่องดีเซล
ถึงเวลากำจัดออกไปเร็วขึ้นเท่านั้นเอง

ถ้าจะถามว่า แล้วทำไม ไม่ประกาศยกเลิกหรือกำจัดเครื่องดีเซลไปตั้งแต่ตอนนั้นเลย
น่าจะเพราะว่า การที่จะบังคับใช้กฏหมาย หรือเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีใดๆก็ตาม มันต้องอาศัยช่วงเวลา
ในการเปลี่ยนผ่าน นั่นคือ ให้ผู้ผลิต หาเทคโนโลยีใหม่มาทดแทน รวมถึงการรักษาอุตสาหกรรมนั้นไว้ ไม่ให้เกิด
ภาวะวิกฤติ จึงต้องใช้เวลาสำหรับการกำหนดนโยบาย เพื่อการบังคับใช้น่าจะราวๆ 10 ปีครับ

ทั้งหมดนี่เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัว ที่ติดตามและสัมผัสข่าวสารมาบางส่วนนะครับใ