สศอ. เผยผลหารือ 9 ค่ายรถยนต์พร้อมร่วมมือยกระดับการผลิตรถยนต์สู่มาตรฐานยูโร 5 ภายในปี 2564
เพื่อลดฝุ่น PM 2.5 ระยะยาว พร้อมเตรียมรณรงค์รถยนต์ยูโร 4 ใช้น้ำมันมาตรฐานยูโร 5 ได้
นายณัฐพล รังสิตพล ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยถึงการหารือกับผู้ผลิตรถยนต์ในประเทศ
9 รายมาร่วมประชุมหารือการกำหนดเวลายกระดับมาตรฐานการปล่อยมลพิษของรถยนต์ใหม่เป็นมาตรฐานยูโร 5
เพื่อลดอัตราการปล่อยฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอนหรือ PM 2.5 ลง 80% ซึ่งผลการหารือบริษัทรถยนต์ 9 ยี่ห้อ
ได้แก่ BMW, GM, Isuzu, Mazda, Mercedes-Benz, Mitsubishi, MG, Suzuki และ Toyota
ได้ตอบรับกำหนดเวลาบังคับใช้มาตรฐานยูโร 5 ในรถยนต์ใหม่ทุกรุ่นทุกคันภายในปี 2564 และยูโร 6 ภายในปี 66-67
เพื่อช่วยลดปัญหามลพิษฝุ่นละออง PM 2.5 ในระยะยาว
พร้อมกันนี้ จะเร่งรณรงค์ให้ลูกค้าที่ใช้รถยนต์มาตรฐานยูโร 4 เติมน้ำมันที่ได้มาตรฐานยูโร 5 ที่มีจำหน่ายตามสถานีบริการน้ำมันแล้ว
ในปัจจุบัน ซึ่งจะช่วยลดมลพิษโดยเฉพาะฝุ่นละออง PM 2.5 ได้กว่า 20-25% โดยปัจจุบันประเทศไทยมีรถยนต์ที่ผ่านมาตรฐานยูโร 5
ที่ผลิตและจำหน่ายในประเทศ ได้แก่ อีโคคาร์ รุ่นที่ 2 จำนวน 27 รุ่น และรถยนต์นั่งขนาดกลางและใหญ่ จำนวน 11 รุ่น
รวมทั้งรถยนต์นำเข้า จำนวน 19 รุ่น
สำหรับรถยนต์ที่ผ่านมาตรฐานยูโร 6 ได้แก่ รถยนต์นั่งขนาดกลางและใหญ่ที่ผลิตภายในประเทศ จำนวน 27 รุ่น และรถยนต์นำเข้า
จำนวน 84 รุ่น ซึ่งมีราคาเริ่มต้นเพียง 467,000 บาท สามารถดูข้อมูลรายละเอียดที่ถูกต้องได้จากป้าย ECO Sticker
ที่ติดอยู่บนกระจกรถยนต์ใหม่ทุกคัน และค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก
www.car.go.thผู้ผลิตรถยนต์จะเร่งยกระดับมาตรฐานรถยนต์ยูโร 4 ไปเป็นยูโร 5 และยูโร 6 โดยเร็ว แม้จะมีต้นทุนการปรับเปลี่ยน
และต้นทุนการผลิตรถยนต์ที่สูงขึ้นก็ตาม แต่เพื่อสุขภาพที่ดีของลูกค้าและประชาชนไทยทุกคน ต้นทุนดังกล่าวก็คุ้มค่ากว่า
เมื่อเทียบกับต้นทุนจากปัญหาสุขภาพและค่าใช้จ่ายในการดูแลตัวเองของประชาชน นายณัฐพลกล่าว
ทั้งนี้ บริษัทรถยนต์ส่วนใหญ่มองว่าการใช้รถยนต์ควรมีการดูแลรักษาที่ถูกต้อง และต้องยกระดับมาตรฐานคุณภาพน้ำมันให้เป็นยูโร 5
แต่อย่างไรก็ตาม รถยนต์มาตรฐานยูโร 4 ยังคงมีการปล่อยฝุ่น PM 2.5 จากไอเสียเครื่องยนต์ที่มีความเข้มข้นกว่า
รถยนต์มาตรฐานยูโร 5 ถึง 5 เท่าตัว
ที่มา
https://mgronline.com/business/detail/9620000014920 ครับ