ผู้เขียน หัวข้อ: 💖 Honda sensing และ Toyota safety sense ถ้าใส่มาในรุ่นเครื่องปกติ มันจะเป็นอย่างไรหรือครับ?  (อ่าน 9145 ครั้ง)

ออฟไลน์ Red Bicycle

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 849
💖 ช่วงนี้ ทั้ง Camry และ Accord ออกตัวใหม่ในบ้านเรา.
แล้วก็ไม่ได้ใส่ระบบเพื่อความปลอดภัยเหล่านี้
มาในรุ่นเครื่องยนต์ปกติ สักรุ่นเลย
แต่จะใส่มาแต่ในตัว Hybrid ตัว Top
และผมก็จะเห็นผู้คน แสดงความต้องการ
ที่อยากให้ใส่มาในรุ่นเครื่องปกติด้วยครับ
ในอเมริกา จีน หรือ ทางตะวันออกกลาง
ที่ผมเช็คดู ก็มีใส่มาในรุ่นเครื่องปกติด้วย
เว้นแต่ตัวล่างๆเลยที่ไม่มี
ใส่ในรุ่น Hybrid ก็ดีแล้วครับ สมควร
แต่ถ้าจะใส่มาในรุ่นปกติ แล้วก็เพิ่มราคา
เข้าไปตามนั้น ผมว่าคนก็เข้าใจได้และ
จะถูกใจมากขึ้น ก็น่าจะทำให้ขายดีขึ้นด้วย
มันน่าจะดี เพราะว่ายอด D segment ก็น้อยลง
เรื่อยๆ ถ้าใส่ระบบความปลอดภัยเหล่านี้เข้ามา
ในรุ่นเครื่องปกติด้วย ผมว่ายอดขายต้องดีแน่ๆเลย
และน่าจะต่อเนื่องด้วย ค่ายรถก็น่าจะกำไรดี
 :-\ ทำไมไม่ใส่  ไม่เข้าใจครับ
ผมว่าคนอยากได้ระบบนี้แต่เครื่องยนต์ปกติ
มีไม่ใช่น้อยนะครับ ใครก็อยากปลอดภัยครับ
 ;) รถ D segment จะเป็นรถที่คนใช้เดิน
ทางไกล ออกต่างจังหวัด และ ไปกันทั้งครอบครัว
ถ้าได้ระบบความปลอดภัยเหล่านี้ก็อุ่นใจดีนะครับ
คนเราขับรถไกลๆบางที่มันก็มีเผลอหรืออ่อนล้าได้
มีระบบพวกนี้ช่วยได้บ้างผมว่ามันก็มีประโยชน์นะครับ
เพราะบางครั้งชีวิตเปลี่ยนเลยครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 01, 2019, 12:43:14 โดย Red Bicycle »

ออฟไลน์ HLRx

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,274
    • อีเมล์
ระบบเครื่องยนต์ไม่รองรับ ครับ จบ อิอิอิ
เหมือน ค่ายเยอรมัน ชอบอ้างว่า ติดความถี่ทางทหาร 555

ออฟไลน์ Slow But Sure

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 780
ใส่มารุ่นล่างๆ หรือ เครื่องปกติ กลัวจะทำราคาไม่ได้สิครับ ตอนนี้รุ่นที่มีระบบพวกนี้ก็จะขึ้นไปชนกับ Premium แล้ว
แล้วความต่างของแต่ละรุ่นย่อยก็จะน้อยลงอาจจะต้องซอยรุ่นมากขึ้นถ้าอยากจะเก็บกลุ่มที่เป็นEntryเพิ่งจะเล่น D segment
ถ้าเทียบกับ sizing ของตลาดตอนนี้ผมว่าไม่สามารถซอยรุ่นย่อยออกมาได้ขนาดนั้น

ออฟไลน์ Red Bicycle

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 849
ใส่มารุ่นล่างๆ หรือ เครื่องปกติ กลัวจะทำราคาไม่ได้สิครับ ตอนนี้รุ่นที่มีระบบพวกนี้ก็จะขึ้นไปชนกับ Premium แล้ว
แล้วความต่างของแต่ละรุ่นย่อยก็จะน้อยลงอาจจะต้องซอยรุ่นมากขึ้นถ้าอยากจะเก็บกลุ่มที่เป็นEntryเพิ่งจะเล่น D segment
ถ้าเทียบกับ sizing ของตลาดตอนนี้ผมว่าไม่สามารถซอยรุ่นย่อยออกมาได้ขนาดนั้น

 :) ไม่ทราบว่าใน ตปท. เขาซอยรุ่นย่อยทำราคากันอย่างไร
ถึงทำให้ขายได้ ทั้งที่ใส่ sensing มาในรุ่นเครื่องปกติ
แล้วบ้านเราใช้รูปแบบราคาอย่างนั้นไม่ได้หรือครับ

ออฟไลน์ AkE

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,404
ถึงใส่มากับรุ่นเครื่องธรรมดาก้ไม่ได้ทำให้มียอดขายดีขึ้นมากมายครับ คนที่เฉยๆกับระบบพวกนี้ก้มีนะครับ

ยอดขายรถกลุ่มนี้เราห่างกับ US เยอะมากเทียบอะไรกันไม่ได้จริงๆครับ สำหรับผมก้อยากให้ใส่มาให้คล้ายๆ

กันนะแต่เป็นไปไม่ได้ครับ แต่ถ้ายกตัวอย่าง camry ตัวนี้ไทยเป็นประเทศที่มีเบาะหลังนั่งสบายสุดแน่ครับ

วัสดุก้ดูดี ไม่ว่าจะรุ่น hv premium หรือรุ่นธรรมดาก้เบาะหลังดีกว่าญี่ปุ่นเยอะครับ

ออฟไลน์ lexus

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,230
ผมว่าในอนาคตเดี๋ยวก็ใส่มาให้ครับ แต่แค่ยังไม่ใช่ในเร็วๆนี้ อาจจะรอต้นทุนให้ลดลงก่อน

ดูอย่างvsa vsc esp หรือ airbag 7ใบ แต่ก่อนคงไม่มีใครคิดว่าb segment เครื่อง1500 จะได้ใช้ระบบนี้
จนสมัยนี้แทบจะเป็นมาตรฐานความปลอดภัยไปแล้ว

ออฟไลน์ TORA

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 306
ใส่มารุ่นล่างๆ หรือ เครื่องปกติ กลัวจะทำราคาไม่ได้สิครับ ตอนนี้รุ่นที่มีระบบพวกนี้ก็จะขึ้นไปชนกับ Premium แล้ว
แล้วความต่างของแต่ละรุ่นย่อยก็จะน้อยลงอาจจะต้องซอยรุ่นมากขึ้นถ้าอยากจะเก็บกลุ่มที่เป็นEntryเพิ่งจะเล่น D segment
ถ้าเทียบกับ sizing ของตลาดตอนนี้ผมว่าไม่สามารถซอยรุ่นย่อยออกมาได้ขนาดนั้น
อันนี้ก็ไม่เข้าใจค่ายรถอะครับ ถ้าตัว Top ของ เครื่องยนต์ปกติใส่optionมาเหมือนตัว Top HV
แต่ขายแพงกว่าตัว TOP HV สัก 150,000 แล้วไปใกล้กับ Premium ถึงจะขายได้น้อย มันก็มีคนซื้ออยู่ดี
ก็เอามาเป็นทางเลือกได้ ยังไงoption พวกนี้ก็ต้องติดตั้งในตัว Top HV อยู่แล้ว ไม่ต้องนำเข้าพิเศษสักหน่อย
ใส่มาหลายๆรุ่นราคาอุปกรณ์มันจะได้ถูกลง ก็ไม่ยอมติดมาให้

หรือว่าไอ้ระบบHV นี้มันมีกฎหมายอะไรพิเศษอีกไหมครับ เช่นถ้าอยากให้ได้ลดภาษีรถยนต์เหลือน้อยๆ
ต้องขายให้ได้อย่างต่ำ XX,XXXคัน ถึงจะเข้าเกณฑ์ภาษีนี้ได้

หรือว่าถ้าจะขายระบบHV ให้คุ้มค่านำเข้าอุปกรณ์ที่ต้อง Stock ค่าแบต และอื่นๆ มีกำไรเยอะๆ
มีตัวเลขมาว่าต้องขาย รถHV ให้ได้อย่างต่ำ XX,XXXคันอะไรแบบนี้หรือเปล่า แต่ถ้าเป็นแบบนี้
ก็แปลกใจอยู่ดี เพราะแบตรถพวกนี้พอเกิน 5ปีก็เริ่มพังแล้ว ก็ต้องมาเสียค่าแบตค่าแรง
เพื่อเคลมให้อยู่ดี ก็เสียงเวลาทั้ง2ฝ่าย กำไรก็จะน้อยลงไปอีก
แล้วทำไมค่ายรถถึงเน้นให้ซื้อรถ HV กันอีก งงอะ ไม่เข้าใจ

ออฟไลน์ DiKiBoyZ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,190
    • อีเมล์
ถ้านับออฟชั่น ณ ปัจจุบัน ช่วง 5 ปีมานี้ และอีก 5 ปี ต่อจากนี้ไป

ออฟชั่น Radar มันน่าจะเป็นออฟชั่นหรือฟีเจอร์ ที่ดูจาก Hi Tech สุดแล้ว สำหรับรถที่เป็น Production Car ในกลุ่มรถ Daily Use Car ที่สุดแล้ว(ไม่แยกญี่ปุ่นธรรมดาหรือพรีเมี่ยม) เพราะพอมี Radar มันก็มาพร้อมกับ
- Emergency Brake(จะเรียกอะไรก็แล้วแต่นะ)
- Adaptive Cruise Control(จะเรียกอะไรก็แล้วแต่นะ)
- Anonymous Drive/Autonomous Drive/Auto Pilot หรือจะเรียกอะไรก็แล้ว

บางคนอาจจะมองว่า ออฟชั่นตามด้านใช้เทคโนโลยีกล้องก็ได้นี่ ใช่ครับ แต่ผมว่าความฉลาดและแม่นยำทุกสภาพการใช้งาน สภาพถนน และ สภาพอากศ สู้ Radar ไม่ได้
ถ้าใส่ในรถธรรมดา หรือ รุ่นล่าง รุ่นกลาง อาจจะทำได้นะ แต่....
- ต้นทุนมันก็สูงด้วยเช่นกัน แล้วจะขายในราคายังไงละ
- ตัวท๊อป จะมีอะไรที่เป็นตัวท๊อปได้อีก (ยกเว้นจะมีออฟชั่น เทรโนโลยี หรือ ฟีเจอร์ที่ท๊อปกว่า เข้ามา)

ส่วนเรื่อง Blind Spot และอุปกรณ์ควบอื่นๆ ผมว่า ใส่ได้นะ มันไม่ถึงกับทำให้ตัวท๊อปดูไม่เป็นท๊อปหรอก

ต้องดูว่าในอนาคตสัก 5-10 ปี จะมีอะไรที่ Wow หรือเปลี่ยน Trend ของรถยนต์มาให้ผู้บริโภคอย่างเราๆ ใช้ในอนาคต

ออฟไลน์ Tien.W

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,195
    • อีเมล์
D-segment คนใช้น้อยลงเยอะ ตอนนี้ที่ขายได้ กลุ่มใหญ่ คือ รถ fleet รถสนามบิน รถประจำตำแหน่ง ของหน่วยงาน บริษัท ต่างๆ ซึ่งแน่นอน กลุ่มนี้ไม่สน option พวกนี้เท่าไหร่นัก เพราะ คนใช้นั่งเบาะหลังเป็นหลัก

ออฟไลน์ flybigbear

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,564
ราคาขึ้นไปหลายหมื่นบาท

ออฟไลน์ kriz

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 398
รถ hybrid ภาษีถูกกว่ารถเครื่องสันดาปล้วนยังไงครับ ประกอบกับทิศทางค่ายรถต่างๆ กำลังมุ่งไปสู่รถไฟฟ้ากันในอนาคต คนไทยก็นิยมซื้อรถรุ่นท้อปกันก้อเลยอัดออปชั่นใส่แต่ในรุ่น hybrid กันหมด

1. ภาษีที่ประหยัดกว่าทำให้เกิดช่องว่างในการอัดออปชั่นเข้าไป ทำให้ราคารวมแพงกว่ารุ่นสันดาปล้วนไม่มากนัก คนซื้อมองเห็นความคุ้มค่าของรถ hybrid มากกว่าเมื่อเทียบกับความกังวลในเรื่องระบบ hybrid

2. คนจะได้ซื้อรถ hybrid กันเยอะขึ้น ปริมาณขายมากขึ้น ต้นทุนชิ้นส่วนและแบตเตอรี่ถูกลง เป็นไปตามแผนการมุ่งไปสู่รถไฟฟ้า

3. ค่ายรถพยายามจะ fade รถสันดาปล้วนออกไปจากตลาดจึงไม่ต้องทำออปชั่นหรือราคาให้น่าซื้อมากนัก อีกไม่เกินสิบปีรถทุกคันคงต้องเริ่มต้นที่ตัว hybrid กันหมดแล้ว

ออฟไลน์ JF2KPNSX

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 407
cost down

แรกๆก็เก็บมาจิ้นให้ได้เยอะๆที่สุดไว้ก่อน พอได้เป้าก็ค่อยทยอยปล่อยของ

minor น่าจะใส่มา ตามสูตรครับ

คิดว่ารถที่ออกช่วงปี 2020 เป็นต้นไป รถที่เป็นหัวหอกของแต่ละค่าย น่าจะใส่มาหมด ตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น

ออฟไลน์ mozart

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,341
ทำไมผมไม่อยากได้ระบบพวกนี้เลย ก่อนได้ใช้ก็มองว่าดี พอได้ใช้แล้วรำคาญ เลือกที่จะปิดพวกระบบเตือนต่างๆจนหมด  (ผมคงเป็นชนกลุ่มน้อย หรือแก่ตัวลงไปแล้ว)

ออฟไลน์ whoami

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,171
    • อีเมล์
เป็นการดันให้คนที่อยากได้ออฟชั่นพวกนี้ ขยับไปซื้อรุ่นไฮบริดตัวท็อปครับ

ไม่รู้สิ ผมมองว่าค่ายรถเอาเปรียบ พวกออฟชั่นความปลอดภัยต่างๆ มันควรเป็นอุปกรณ์พื้นฐาน

ที่มีให้เท่าเทียมกัน ไม่ใช่ลูกค้าคนไหนจ่ายน้อยก็ตายง่ายกว่าหน่อย

แล้วการจัดรุ่น ควรจัดให้ต่างกันที่ เครื่องยนต์ การตกแต่ง ระบบความบันเทิงต่างๆ ดีกว่า

อย่าง yaris รุ่นปัจจุบัน ผมชอบการจัดออฟชั่นแบบนี้นะ ได้ vsc และถุงลม 7 ใบ เท่ากันทุกรุ่นย่อย

ทำไมรุ่นอื่นถึงไม่ทำแบบนี้บ้าง



ออฟไลน์ Symphonic

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,699
ก็ไม่มีอะไรมาก แค่มันอาจทำให้รุ่นเครื่องธรรมดาราคาเท่ารุ่น HV
หรือไม่งั้นก็เป็นรุ่นเครื่องธรรมดาราคาแพงกว่า HV ก็ได้

ส่วนพี่ที่บอกว่าออปชั่นความปลอดภัยควรเป็นอุปกรณ์พื้นฐาน

พี่ดูยอดขาย รถที่ไม่สวย ของเล่นน้อยแต่มีถุงลม 7 ใบ +ระบบช่วยเหลือ
การทรงตัวตั้งแต่รุ่นล่าง เทียบกับพวกรถสวยๆ ของเล่นเยอะๆ เป็นหลักดู
ก็รู้แล้วครับว่าลูกค้าส่วนใหญ่ต้องการอะไร

ออฟไลน์ Oatsenal1

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 224
ระบบเครื่องยนต์ไม่รองรับ ครับ จบ อิอิอิ
เหมือน ค่ายเยอรมัน ชอบอ้างว่า ติดความถี่ทางทหาร 555

ขำอะไรครับ ตอนนั้นมันติดความถี่ทหารจริง แล้วก็มีการขอกับ กสทช จริง แล้วก็เอามาใส่ในรุ่นหลังๆ จริง

เอาข่าวมาให้ดู จะได้รู้ว่เค้าไม่ได้อ้างนะครับ

http://www.nationtv.tv/main/content/378420422/
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 01, 2019, 12:25:30 โดย Oatsenal1 »

ออฟไลน์ HLRx

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,274
    • อีเมล์
ระบบเครื่องยนต์ไม่รองรับ ครับ จบ อิอิอิ
เหมือน ค่ายเยอรมัน ชอบอ้างว่า ติดความถี่ทางทหาร 555

ขำอะไรครับ ตอนนั้นมันติดความถี่ทหารจริง แล้วก็มีการขอกับ กสทช จริง แล้วก็เอามาใส่ในรุ่นหลังๆ จริง

เอาข่าวมาให้ดู จะได้รู้ว่เค้าไม่ได้อ้างนะครับ
ท่านเส้นลึกมาก ที่ไม่ขำ
 เพราะมันเป็นข้ออ้างงัย เห็นมั้ยพอขอ เค้าก็ให้ทันที ถ้าเค้าไม่ให้จริงๆ ก็มีอีกหลายวิธี ที่ทำได้

http://www.nationtv.tv/main/content/378420422/

ออฟไลน์ No Trespassing

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,616
    • อีเมล์
ต่อให้ใส่รุ่นล่าง ก็ไม่ได้แปลว่าจะขายดี

ดูอย่าง Note VL ใส่ระบบเซฟตี้ขั้น Advance อย่าง

- Forward Collision Warning
- Emergency Brake
- Lane Departure Warning
- Moving Object Detection

แต่คนยังแห่กันไปซี้อ V รองท้อป ที่ไม่มีระบบพวกนี้เลย
ทั้งๆที่ส่วนต่างแค่ 7 หมื่นเท่านั้น ด้วยเหตุผลว่าไม่จำเป็นต้องมีก็ขับได้

อันนี้ก็แล้วแต่ครับ

ออฟไลน์ w_th

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 329
ถ้า บ. รถอยากทำ ผมว่าทำได้

คงประมาณ X Trail ที่ให้ option รุ่นน้ำมันเท่ารุ่นไฮบริด
ราคาก็ขี่ไฮบริดไป ~50,000 บาท 
ซึ่งไม่กระทบอะไรนัก สำหรับคนมีงบซื้อรถราคาแถวๆ นี้
(คนที่อยากได้ระบบพวกนี้)

สมมุติมีคน want เยอะ และพี่โตอยากทำ
จับ Camry 2.5g มาใส่ safety sense (option อื่นคงเดิม)
เป็น 2.5g (safety) ราคาบวกไปอีก 5-8 หมื่น ก็น่าจะทำได้

แต่เหตุผลจริงๆ ที่เค้าไม่ทำ คงตามที่หลายท่านว่า
- ลูกค้าทั่วไปไม่ให้ความสำคัญกับระบบพวกนี้
- เว้นตำแหน่งการตลาดให้รุ่นบนๆ
- มาตราการลดเครื่องน้ำมันล้วนไปเรื่อยๆ

ปล. ผมขอตัวไปเศร้าแป้บ
อกหักจาก 2.5g และ 1.5T ที่ถูกตัดระบบพวกนี้เช่นกันครับ

ออฟไลน์ dht_tubes

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,636
    • อีเมล์
เค้าคงกลัวว่า พอได้ทราบเสียงของลูกค้า จากโซเชี่บล หรือทำรีเสิชมาว่าอยากได้อะไรก็ใส่ให้ๆ เดี๋ยวได้ใจ (มั๊ง)ครับ

ลูกค้าต้องไม่อยู่เหนือบริษัท ผมคุ้นๆประโยคแบบนี้ จากบอสัทรถยนต์ยี่ปุ่นนะ....

หรือไม่ก็คงยังไม่อยากใช้ระบบที่ลูกค้าสามารถเลือกออปชั่นทุกอย่างได้เอง จิ้มเอาว่าจะเอาไร ไม่เอาอะไรบ้าง ในตอนนี้

คงรอว่าถึงวันนึง มันทำอะไรไม่ได้จริงๆ หรือเมื่อมีความพร้อมในแง่การผลิตแล้ว ...ค่อยปล่อยกลยุทธ์นี้ มาเพื่อกระตุ้นตลาดเป็นไพ่ใบท้ายๆ ก็เป็นไปได้ครับ

ออฟไลน์ Alcatraz

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,608
    • อีเมล์
เหตุผลด้านภาษีล้วนๆ อยากรู้ว่ารถคันไหนเก็บเท่าไหร่ ไปดู eco sticker ในเวปได้

สมมุติต้นทุนออปชั่นตัวท็อปทั้งคันราคา 100000 บาท เครื่องสันดาปปกติเสียภาษี 35% ก็เท่ากับต้องขาย 135000 รวมกับต้นทุนรถที่ต้องเพิ่ม 35%อีก แต่ถ้าไฮบริดเสีย 8% เท่ากับออปชั่นราคาแค่ 108000 เท่านั้นเอง รวมกับตัวรถที่ต้นทุนต้องบวกภาษีแค่ 8% เป็นเหตุผลว่าทำไมออปชั่นดีๆถึงไปอยู่ตัวไฮบริดหมด

ออฟไลน์ tsubasa

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,322
อยากให้รุ่นเครื่องยนต์ธรรมดามี option safety sense ทั้งหลายด้วยเหมือนกันครับ
แต่ถ้าจะให้ดีกว่านั้น ต่างประเทศมีออฟชั่นที่ดีๆ เอามาใส่ให้คนไทยได้ใช้ครบๆบ้างเถอะ ไทยรถก็แพงกว่า แต่ได้ใช้ของคุณภาพต่ำกว่าตลอด เพราะอะไร? >:(
อย่างน้อยเป็น option ให้เลือกซื้อเพิ่มได้ยังดีกว่าไม่มีทางเลือก

ออฟไลน์ nuntapon.s

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,910
    • อีเมล์
ทางตรงก็กำไรต่อหน่วยลดลง
ทางอ้อมก็รายรับรวมลดลงเพราะขายได้แต่ตัวถูก

แต่เรื่องแบบนี้ไม่แน่ครับ  ยอดขายยี่ห้ออาจถล่มถลายขายจนไม่มีเวลาพักจนชดเชย2ข้อข้างบนก็ได้  แต่นักธุรกิจเขาคงชอบแบบขายน้อยกำไรเยอะมากกว่า

ออฟไลน์ AVANTGARDe'

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,206
  • AWDiesel
ระบบเครื่องยนต์ไม่รองรับ ครับ จบ อิอิอิ
เหมือน ค่ายเยอรมัน ชอบอ้างว่า ติดความถี่ทางทหาร 555

ขำอะไรครับ ตอนนั้นมันติดความถี่ทหารจริง แล้วก็มีการขอกับ กสทช จริง แล้วก็เอามาใส่ในรุ่นหลังๆ จริง

เอาข่าวมาให้ดู จะได้รู้ว่เค้าไม่ได้อ้างนะครับ

http://www.nationtv.tv/main/content/378420422/
ตอนนั้น Camry พอเปลี่ยนมาเป็น ACV50 ก็ติดปัญหาใส่ACCไม่ได้ครับ พอปลดล็อคปุ๊บ ไมเนอร์ก็ใส่มาปั๊บ ราวกับปาฏิหาริย์

ออฟไลน์ Beats

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 166
ถ้านับออฟชั่น ณ ปัจจุบัน ช่วง 5 ปีมานี้ และอีก 5 ปี ต่อจากนี้ไป

ออฟชั่น Radar มันน่าจะเป็นออฟชั่นหรือฟีเจอร์ ที่ดูจาก Hi Tech สุดแล้ว สำหรับรถที่เป็น Production Car ในกลุ่มรถ Daily Use Car ที่สุดแล้ว(ไม่แยกญี่ปุ่นธรรมดาหรือพรีเมี่ยม) เพราะพอมี Radar มันก็มาพร้อมกับ
- Emergency Brake(จะเรียกอะไรก็แล้วแต่นะ)
- Adaptive Cruise Control(จะเรียกอะไรก็แล้วแต่นะ)
- Anonymous Drive/Autonomous Drive/Auto Pilot หรือจะเรียกอะไรก็แล้ว

บางคนอาจจะมองว่า ออฟชั่นตามด้านใช้เทคโนโลยีกล้องก็ได้นี่ ใช่ครับ แต่ผมว่าความฉลาดและแม่นยำทุกสภาพการใช้งาน สภาพถนน และ สภาพอากศ สู้ Radar ไม่ได้
ถ้าใส่ในรถธรรมดา หรือ รุ่นล่าง รุ่นกลาง อาจจะทำได้นะ แต่....
- ต้นทุนมันก็สูงด้วยเช่นกัน แล้วจะขายในราคายังไงละ
- ตัวท๊อป จะมีอะไรที่เป็นตัวท๊อปได้อีก (ยกเว้นจะมีออฟชั่น เทรโนโลยี หรือ ฟีเจอร์ที่ท๊อปกว่า เข้ามา)

ส่วนเรื่อง Blind Spot และอุปกรณ์ควบอื่นๆ ผมว่า ใส่ได้นะ มันไม่ถึงกับทำให้ตัวท๊อปดูไม่เป็นท๊อปหรอก

ต้องดูว่าในอนาคตสัก 5-10 ปี จะมีอะไรที่ Wow หรือเปลี่ยน Trend ของรถยนต์มาให้ผู้บริโภคอย่างเราๆ ใช้ในอนาคต

ผมเดาว่าจะเป็น LIDAR ครับ มันดีกว่า radar มากๆ แบบเทียบกันไม่ติด แต่ตอนนี้มันยังแพงเกินไป เขาพยายามจะลดต้นทุนการผลิตกันอยู่

ออฟไลน์ ho-mannie

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 350
คงมีเรื่อง cost หลักๆแหละครับ แล้วคงมองว่ากลุ่มนี้บางคนอาจไม่ได้สนใจระบบพวกนี้ ถ้าใส่มาแล้วเพิ่มหลายหมื่นคงดูราคาแพงไปอีก แต่ถ้าเพิ่มแค่ 20,000 แบบ civic rs sensing ละก็เชื่อว่าทุกคนอยากได้คับ อิอิ

ออฟไลน์ SM.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 27,363
เรื่องต้นทุน การทำราคา ล้วนๆครับ