จากกรณี รถยนต์นั่งส่วนบุคคลชนกันทำให้มีผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บจำนวน 2 ราย และบาดเจ็บสาหัส 1 ราย ซึ่งหนึ่งในผู้เสียชีวิตนั้น คือ พ.ต.ท.จตุพร งามสุวิชชากุล รอง ผกก.สอบสวน กก.2 บก.ป. ส่วนภรรยาเสียชีวิต และลูกสาววัย 16 ยังสาหัส เนื่องจาก นายสมชาย เวโรจน์พิพัฒน์ 57 ปี ผู้ขับขี่เมาสุรา และโดยแจ้งข้อหาหนักไปแล้วนั้น
เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ทำสำนวน แจ้ง 5 ข้อหา 1.ฆ่าผู้อื่นถึงแก่ความตายโดยเจตนา 2.พยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา 3.ขับรถในขณะเมาสุราเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย 4.ขับรถในขณะมึนเมาสุราเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส 5.ขับรถในขณะเมาสุราเป็นเหตุให้มีทรัพย์สินได้รับความเสียหายเสียหาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำวจนำตัว นายสมชาย เวโรจน์พิพัฒน์ อายุ 57 ปี ผู้ต้องหา มาเพื่อขออำนาจศาลตลิ่งชันฝากขังในครั้งแรก โดยรายงานข่าวระบุว่า ศาลไม่รับคำฟ้อง ข้อหาฆ่าผู้อื่นถึงแก่ความตายโดยเจตนา และพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา โดยระบุว่า เป็นเพียงนโยบายของรัฐบาล แต่ยังไม่ได้เป็นกฎหมาย จึงไม่สามารถรับคำฟ้องกรณีดังกล่าวได้ และให้เจ้าหน้าที่กลับไปทำสำนวนมาใหม่ เพื่อขออำนาจฝากขังต่อไป
โดยศาลให้ทางพนักงานสอบสวนทำสำนวนแจ้งข้อหา แก่นายสมชาย เพียง 3 ข้อหา คือ 1.ขับรถในขณะเมาสุราเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย 2.ขับรถในขณะมึนเมาสุราเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส และ 3.ขับรถในขณะเมาสุราเป็นเหตุให้มีทรัพย์สินได้รับความเสียหาย ตามที่นายสมชาย ยอมรับสารภาพตั้งแต่ชั้นสอบสวนเท่านั้น ซึ่งหากมีความคืบหน้าผู้สื่อข่าวจะรายงานให้ทราบต่อไป
https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_2411764
