1. วัดไฟชาร์ทกลับว่าได้เท่าไร ทั้งเดินเบา และรอบเครื่องทำงาน (2500 ขึ้นไป) ควรได้ 13 กว่า ๆ ถึง 14 ขึ้นไป
เห็นคุณ samaklen ให้ความรู้ไว้ เลยไปดูรถตัวเอง แสดงว่ารถผม charge กลับน้อยไปสิเนี่ย
รอบเดินเบา charge กลับแค่ 13 , พอกลางคืนเปิดไฟหน้า ลดลงต่ำกว่า 13 อีก
รถผมไม่ค่อยได้ใช้ บางที 2 สัปดาห์ เอาออกไปขับที , บางครั้งลืมไปสตาร์ทเป็นเดือนก็มี ล่าสุดสตาร์ทเมื่อต้นเดือนหลังจากไม่ได้สตาร์ทไป 31 วัน ยังสตาร์ทติดอยู่
จะใช้แบตได้ประมาณปีครึ่ง หมด , ยกออกไปชาร์จที่ร้านแบตข้ามคืน เอามาใช้ใหม่ได้อีกครึ่งปี หมดอีก ค่อยเปลี่ยนใหม่ วนลูปอย่างนี้ไปเรื่อยๆ
สรุปว่ารถผมที่ไม่ค่อยได้ใช้บ่อยนัก สองปีจะต้องเปลี่ยนแบตที โดยระหว่างนั้นพอใช้ไปปีครึ่งจะมียกออกไปชาร์จแบบข้ามคืนครั้งนึง อย่างนี้ต้องเปลี่ยนไดชาร์จรึเปล่า หรือก็ยังพอใช้ได้อยู่ครับ
แบตชนิดตะกั่วกรด ที่เราใช้ ๆ กัน มีอัตราคายประจุค่อนข้างมากกว่าแบตประเภทอื่น
แต่ที่เราใช้กันเพราะ ประสิทธิภาพ/ราคา
สภาพจากที่ว่า คือการใช้รถน้อย แบตคายประจุ แล้วไม่ได้รับการประจุเข้าเต็ม เพราะระยะเวลาใช้รถไม่มากพอจะชาร์ทกลับเข้าคืนเต็ม
ในกรณีนี้ แนะนำให้ใช้เครื่องชาร์ทชนิดพกพาแบบอิเลคโทรนิคส์ครับ ยี่ห้อดังๆ ก็ Ctek หรือ NOCO
ซึ่งรถที่บ้านที่ไม่ค่อยวิ่ง ก็ใช้แบบนี้เหมือนกัน ช่วยยืดอายุแบตเตอรี่ได้อย่างดีครับ
ขอบคุณมากครับ จะลองหาเครื่องชาร์ทตามที่แนะนำครับ
ถามเป็นความรู้อีกนิด
ถ้าจอดครึ่งเดือน แล้วเอาออกวิ่งกลางคืนเปิดไฟหน้า จากบ้านขึ้นทางด่วนไป rest area ทางโล่งมากๆ
ขาไป 20 กม. , 15 นาที
ขากลับอีก 20 กม , 15 นาที
รวม 40 กม. , 30 นาที
ความเร็วบนทางด่วน 90-110 กม/ชม รอบเครื่องประมาณ 2,000-2,200 รอบ/นาที
ไม่รู้ว่าวิ่งเท่านี้ ไฟมันจะชาร์ทกลับได้พอที่คายออกไปตอนจอดครึ่งเดือนรึเปล่าครับ
ปล. ขออภัยคุณ tom46 เจ้าของคำถาม ที่ผมมาใช้พื้นที่ถามไปด้วย เรื่องยี่ห้อแบตที่ทนๆ ผมไม่ทราบเหมือนกันครับ ของผมใช้ได้สองปีตลอด ไม่เกินนี้ ไม่ว่ายี่ห้ออะไร อาจเพราะใช้รถน้อยไปครับ