เมื่อวันที่ 18 ส.ค. นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ตรวจบริเวณจุดกลับรถบนทางหลวงบุรีรัมย์-สุรินทร์ ว่าหลังจากที่ได้ลงพื้นในจังหวัดต่างๆ พบว่าบริเวณจุดกลับรถ ในถนนทางหลวงที่มีช่องทางจราจร4เลนจะมีเกาะกลางถนนขนาดใหญ่ ทำให้กรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบท มีภาระค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างและบำรุงรักษาจำนวนมากในแต่ละปี
ดังนั้นจึงสั่งการให้ ทล. และ ทช.ไปรวมรวบโครงการก่อสร้างที่อยู่ในปีงบประมาณ 63 ที่จะต้องก่อสร้างถนน 4 ช่องจราจร และเกาะกลางถนนทั่วประเทศ ว่ามีระยะทางเท่าไหร่ และให้ยกเลิกการสร้างเกาะกลางถนนปรับเปลี่ยนมาเป็นการใช้แบริเออร์ที่ผลิตจากยางพาราเข้ามาวางกั้นเลนระหว่างถนนแทน เชื่อจะช่วยประหยัดงบประมาณในงานก่อสร้าง ถนน และบำรุงรักษาถนนทั่วประเทศได้จำนวนมาก
ขณะเดียวกันยังสามารถช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางให้สามารถขายยางได้ในราคาที่ดีและขายได้จำนวนมากขึ้นด้วยบรรเทาปัญหายางราคาตกต่ำได้อีกด้วย เบื้องต้นให้กรมทางหลวง และ กรมทางหลวงชนบทกลับไป สรุปรายละเอียดกลับมาเสนอตนภายในสัปดาห์หน้า
สำหรับนโยบายที่จะให้นำแบริเออร์ที่ทำจากยางพารา มาเป็นตัวกั้นระหว่างถนนแทน เกาะกลางถนน นั้นจะต้องสามารถรองรับการใช้ความเร็วของรถที่ 120 กิโลเมตร(กม.)ต่อชั่วโมง(ชม.) จากเดิมที่เคยมีการศึกษาว่าสามารถรองรับความเร็วของรถได้เพียง 110 กิโลเมตร(กม.)ต่อชั่วโมง(ชม.) เท่านั้น เพื่อไม่ให้เหมือนกับแบริเออร์ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ซึ่งจะช่วยลดอุบัติเหตุ และไม่ทำให้ถนนเสียหาย
รวมทั้งสามารถนำงบประมาณที่จะใช้ก่อสร้างเกาะกลางถนนไปใช้ขยายถนน 4 เลนเพิ่มเติมให้ชาวบ้านได้ด้วยในเส้นทางอื่นๆเพิ่มเติม พราะในปัจจุบันยังมีเส้นทางถนนทางหลวง และ ทางหลวงชนบท ยังมีอีกหลายช่วง เส้นทางของประเทศที่ยังมีความต้องการที่จะต้องขยายช่องจราจรเพิ่มเติม
https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_2812323