ผู้เขียน หัวข้อ: การใช้ Global platform จะทำให้ค่ายรถในประเทศผลิตรถได้หลากหลายรุ่นกว่าเดิมหรือไม่  (อ่าน 2437 ครั้ง)

ออฟไลน์ akewizard

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,618
รถหลายๆค่ายมีการใช้ Platform พื้นฐานของรถหลายๆรุ่นร่วมกัน เพื่อลดต้นทุนการผลิตและสะดวกต่อระบบอุตสาหกรรมมากขึ้น

จากความได้เปรียบนี้เป็นไปได้หรือไม่ครับ ว่าจะเอื้อให้ค่ายรถในประเทศสามารถผลิตรถได้หลากหลายรุ่นมากขึ้น เพราะมันอิงพื้นฐาน platform เดียวกัน แชร์ชิ้นส่วนร่วมกันมากขึ้น
เช่น Toyota ที่ใช้ TNGA กับรุ่น  Corolla ที่มีตัวถังหลายแบบทั้ง sedan hatchback และ Wagon ในรุ่น Touring

หรือ Honda Civic ที่ใช้ platform ร่วมกับ accord นอกจากจะมีตัวถัง sedan แล้วก็มีรุ่น hatch back เป็นทางเลือกด้วย

ปล.ผมเห็นกระทู้ Corolla touring TRD แล้วเกิดอยากได้ขึ้นมา เลยมาตั้งกระทู้นี้ต่อครับ

ออฟไลน์ DiKiBoyZ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,226
    • อีเมล์
ส่วนตัวผมเลยที่ไม่ค่อยรู้เรื่องวิศกรรมเท่าไหร่

แต่ผมเข้าใจว่า นี่ละคือ แก่น ของการใช้ platform ร่วมกันเลย คือ มัน ยืดหยุ่น และ ใช้ต้นทุนหน้อยกว่า(ทั้ง R&D และ PRODUCTION)

TheRealMeaw

  • บุคคลทั่วไป
อ่า จะอธิบายยังไงดีละ

ถ้าจะให้สรุปง่าย ๆ คือ การใช้ Global Platform ช่วยลดค่าใช้จ่ายส่วน R&D ที่เรามองไม่เห็นมาก แต่ไม่ได้ลดค่าใช้จ่ายในการตั้งไลน์ผลิตเท่าไหร่หรอกครับ เพราะงั้น บอดี้แปลก ๆ เยอะ ๆ ก็ไม่มีให้เห็นแน่ แต่เรื่องที่เขาแชร์อะไหล่ลดต้นทุน เขาก็ทำกันมานานแล้ว

ผมว่าหลายท่านทราบแล้วนะครับ แต่หลายท่านก็ยังไม่ทราบ วิธีการลดต้นทุน สมมติของ Toyota ให้เล่าได้ง่าย ๆ เลยคือ ลองไปดูตัวดึงเปิดถังน้ำมันที่อยู่ข้างเบาะดูครับ เชื่อไหมว่าอะไหล่ชิ้นนั้นชิ้นเดียว ผลิตมาตั้งแต่ประมาณปี 1977 แต่เพิ่งเลิกใช้เมื่อสองสามปีก่อนนี้เอง การแชร์อะไหล่พื้นฐานก็เหมือนกันครับ จุดยึดช่วงล่างของ Corolla กับ Corona ในยุคเดียวกัน แทบจะไม่แตกต่างกันเลย อะไหล่หลายชิ้นใช้ร่วมกันได้

Platform ของ Corolla ก็ไม่ได้เปลี่ยนไปเลยแม้แต่นิดเดียว ตั้งแต่ปี 1983-2001 นี่แหละวิธีลดต้นทุนและควบคุมคุณภาพของ Toyota ในแบบที่ทำให้ครองตลาดมาได้ถึงปัจจุบัน ทำไมเรายังเห็น Toyota เก่า ๆ วิ่งกันเยอะ? เพราะในส่วนกลไกที่จำเป็น อะไหล่ยังหาได้แทบทุกชิ้นครับ เพราะเขาผลิตชิ้นเดียว ใช้กับรถได้หลายรุ่นมาก ๆ คนขับพวก EE80 ไปเบิกอะไหล่ เขายื่นอะไหล่ AE111 ให้ แต่ใช้ร่วมกันได้ สะดวกต่อทั้งผู้ใช้งานและผู้ผลิต

เพราะงั้นไม่ต้องตื่นเต้นกับ Global Platform หรอกครับ เขาทำกันมานานแล้ว และกว้างขวางแพร่หลายในหลายจุดที่คนไม่ค่อยจะสังเกตด้วยซ้ำ และนั่นแปลว่า Lineup ของรถ มันก็จะไม่เปลี่ยนไปมากหรอกครับ คือต่อให้มี Platform ใช้ร่วมกันได้ แต่อะไหล่ทุกชิ้นที่ต้องขึ้นไลน์ใหม่ มันใช้เงินจำนวนมหาศาลมาก เขาก็พยายามลดสิ่งที่ไม่จำเป็นออก แค่นั้นเอง อะไหล่ไม่ได้แชร์ร่วมกันเยอะขนาดนั้นครับ หรือในทางกลับกัน อะไหล่ที่แชร์กันได้เขาแชร์กันมานานแล้วครับ

ออฟไลน์ romeokk

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 114
Platform มีผลตรงๆกับค่า R&D กับจำนวนรุ่นรถของบริษัท แต่ถ้าถามว่าทำให้ค่ายรถในไทยผลิตได้หลากหลายขึ้นมั้ย คิดว่าคงไม่ครับ

สิ่งที่ทำให้ค่ายรถตัดสินใจว่าจะผลิตกี่รุ่น มันอยู่ที่ความต้องการลูกค้าส่วนใหญ่ครับ ค่ายรถเค้าก็เอาไปคิดต่อว่าทำกี่รุ่นจะกำไรสูงสุด

อย่างโตโยต้า Demand ส่วนใหญ่มันเทลงไปที่ Revo กับ Fortuner เค้าก็ผลิตสองตัวนี้ไปเยอะๆเลย รุ่นอื่นก็อย่างละนิดละหน่อย

ถ้าวันนึง Demand ลูกค้าไม่เทลงไปที่รุ่นใดรุ่นหนึ่งเป็นพิเศษ เราจะได้เห็นความหลากหลายมากขึ้นเองครับ (ดูอย่าง Benz ก็ได้ครับ ยอดต่อเดือนน้อยกว่าโตโยต้ามาก แต่มีรถขายอยู่ตั้งยี่สิบกว่ารุ่น)

ออฟไลน์ flybigbear

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,564
อ่า จะอธิบายยังไงดีละ

ถ้าจะให้สรุปง่าย ๆ คือ การใช้ Global Platform ช่วยลดค่าใช้จ่ายส่วน R&D ที่เรามองไม่เห็นมาก แต่ไม่ได้ลดค่าใช้จ่ายในการตั้งไลน์ผลิตเท่าไหร่หรอกครับ เพราะงั้น บอดี้แปลก ๆ เยอะ ๆ ก็ไม่มีให้เห็นแน่ แต่เรื่องที่เขาแชร์อะไหล่ลดต้นทุน เขาก็ทำกันมานานแล้ว

ผมว่าหลายท่านทราบแล้วนะครับ แต่หลายท่านก็ยังไม่ทราบ วิธีการลดต้นทุน สมมติของ Toyota ให้เล่าได้ง่าย ๆ เลยคือ ลองไปดูตัวดึงเปิดถังน้ำมันที่อยู่ข้างเบาะดูครับ เชื่อไหมว่าอะไหล่ชิ้นนั้นชิ้นเดียว ผลิตมาตั้งแต่ประมาณปี 1977 แต่เพิ่งเลิกใช้เมื่อสองสามปีก่อนนี้เอง การแชร์อะไหล่พื้นฐานก็เหมือนกันครับ จุดยึดช่วงล่างของ Corolla กับ Corona ในยุคเดียวกัน แทบจะไม่แตกต่างกันเลย อะไหล่หลายชิ้นใช้ร่วมกันได้

Platform ของ Corolla ก็ไม่ได้เปลี่ยนไปเลยแม้แต่นิดเดียว ตั้งแต่ปี 1983-2001 นี่แหละวิธีลดต้นทุนและควบคุมคุณภาพของ Toyota ในแบบที่ทำให้ครองตลาดมาได้ถึงปัจจุบัน ทำไมเรายังเห็น Toyota เก่า ๆ วิ่งกันเยอะ? เพราะในส่วนกลไกที่จำเป็น อะไหล่ยังหาได้แทบทุกชิ้นครับ เพราะเขาผลิตชิ้นเดียว ใช้กับรถได้หลายรุ่นมาก ๆ คนขับพวก EE80 ไปเบิกอะไหล่ เขายื่นอะไหล่ AE111 ให้ แต่ใช้ร่วมกันได้ สะดวกต่อทั้งผู้ใช้งานและผู้ผลิต

เพราะงั้นไม่ต้องตื่นเต้นกับ Global Platform หรอกครับ เขาทำกันมานานแล้ว และกว้างขวางแพร่หลายในหลายจุดที่คนไม่ค่อยจะสังเกตด้วยซ้ำ และนั่นแปลว่า Lineup ของรถ มันก็จะไม่เปลี่ยนไปมากหรอกครับ คือต่อให้มี Platform ใช้ร่วมกันได้ แต่อะไหล่ทุกชิ้นที่ต้องขึ้นไลน์ใหม่ มันใช้เงินจำนวนมหาศาลมาก เขาก็พยายามลดสิ่งที่ไม่จำเป็นออก แค่นั้นเอง อะไหล่ไม่ได้แชร์ร่วมกันเยอะขนาดนั้นครับ หรือในทางกลับกัน อะไหล่ที่แชร์กันได้เขาแชร์กันมานานแล้วครับ

ตามท่านนี้ว่าเลยครับ


ออฟไลน์ SM.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 27,431
อ่า จะอธิบายยังไงดีละ

ถ้าจะให้สรุปง่าย ๆ คือ การใช้ Global Platform ช่วยลดค่าใช้จ่ายส่วน R&D ที่เรามองไม่เห็นมาก แต่ไม่ได้ลดค่าใช้จ่ายในการตั้งไลน์ผลิตเท่าไหร่หรอกครับ เพราะงั้น บอดี้แปลก ๆ เยอะ ๆ ก็ไม่มีให้เห็นแน่ แต่เรื่องที่เขาแชร์อะไหล่ลดต้นทุน เขาก็ทำกันมานานแล้ว

ผมว่าหลายท่านทราบแล้วนะครับ แต่หลายท่านก็ยังไม่ทราบ วิธีการลดต้นทุน สมมติของ Toyota ให้เล่าได้ง่าย ๆ เลยคือ ลองไปดูตัวดึงเปิดถังน้ำมันที่อยู่ข้างเบาะดูครับ เชื่อไหมว่าอะไหล่ชิ้นนั้นชิ้นเดียว ผลิตมาตั้งแต่ประมาณปี 1977 แต่เพิ่งเลิกใช้เมื่อสองสามปีก่อนนี้เอง การแชร์อะไหล่พื้นฐานก็เหมือนกันครับ จุดยึดช่วงล่างของ Corolla กับ Corona ในยุคเดียวกัน แทบจะไม่แตกต่างกันเลย อะไหล่หลายชิ้นใช้ร่วมกันได้

Platform ของ Corolla ก็ไม่ได้เปลี่ยนไปเลยแม้แต่นิดเดียว ตั้งแต่ปี 1983-2001 นี่แหละวิธีลดต้นทุนและควบคุมคุณภาพของ Toyota ในแบบที่ทำให้ครองตลาดมาได้ถึงปัจจุบัน ทำไมเรายังเห็น Toyota เก่า ๆ วิ่งกันเยอะ? เพราะในส่วนกลไกที่จำเป็น อะไหล่ยังหาได้แทบทุกชิ้นครับ เพราะเขาผลิตชิ้นเดียว ใช้กับรถได้หลายรุ่นมาก ๆ คนขับพวก EE80 ไปเบิกอะไหล่ เขายื่นอะไหล่ AE111 ให้ แต่ใช้ร่วมกันได้ สะดวกต่อทั้งผู้ใช้งานและผู้ผลิต

เพราะงั้นไม่ต้องตื่นเต้นกับ Global Platform หรอกครับ เขาทำกันมานานแล้ว และกว้างขวางแพร่หลายในหลายจุดที่คนไม่ค่อยจะสังเกตด้วยซ้ำ และนั่นแปลว่า Lineup ของรถ มันก็จะไม่เปลี่ยนไปมากหรอกครับ คือต่อให้มี Platform ใช้ร่วมกันได้ แต่อะไหล่ทุกชิ้นที่ต้องขึ้นไลน์ใหม่ มันใช้เงินจำนวนมหาศาลมาก เขาก็พยายามลดสิ่งที่ไม่จำเป็นออก แค่นั้นเอง อะไหล่ไม่ได้แชร์ร่วมกันเยอะขนาดนั้นครับ หรือในทางกลับกัน อะไหล่ที่แชร์กันได้เขาแชร์กันมานานแล้วครับ

+1 อธิบายได้ดีมากๆเลยครับ คนอ่านได้ความรู้ ความเข้าใจไปด้วยเลย

ออฟไลน์ +@ Krishna @+

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,295
  • *_* รถที่ดี คือ รถที่ใช้แล้วมีความสุข ^_^
อ่า จะอธิบายยังไงดีละ

ถ้าจะให้สรุปง่าย ๆ คือ การใช้ Global Platform ช่วยลดค่าใช้จ่ายส่วน R&D ที่เรามองไม่เห็นมาก แต่ไม่ได้ลดค่าใช้จ่ายในการตั้งไลน์ผลิตเท่าไหร่หรอกครับ เพราะงั้น บอดี้แปลก ๆ เยอะ ๆ ก็ไม่มีให้เห็นแน่ แต่เรื่องที่เขาแชร์อะไหล่ลดต้นทุน เขาก็ทำกันมานานแล้ว

ผมว่าหลายท่านทราบแล้วนะครับ แต่หลายท่านก็ยังไม่ทราบ วิธีการลดต้นทุน สมมติของ Toyota ให้เล่าได้ง่าย ๆ เลยคือ ลองไปดูตัวดึงเปิดถังน้ำมันที่อยู่ข้างเบาะดูครับ เชื่อไหมว่าอะไหล่ชิ้นนั้นชิ้นเดียว ผลิตมาตั้งแต่ประมาณปี 1977 แต่เพิ่งเลิกใช้เมื่อสองสามปีก่อนนี้เอง การแชร์อะไหล่พื้นฐานก็เหมือนกันครับ จุดยึดช่วงล่างของ Corolla กับ Corona ในยุคเดียวกัน แทบจะไม่แตกต่างกันเลย อะไหล่หลายชิ้นใช้ร่วมกันได้

Platform ของ Corolla ก็ไม่ได้เปลี่ยนไปเลยแม้แต่นิดเดียว ตั้งแต่ปี 1983-2001 นี่แหละวิธีลดต้นทุนและควบคุมคุณภาพของ Toyota ในแบบที่ทำให้ครองตลาดมาได้ถึงปัจจุบัน ทำไมเรายังเห็น Toyota เก่า ๆ วิ่งกันเยอะ? เพราะในส่วนกลไกที่จำเป็น อะไหล่ยังหาได้แทบทุกชิ้นครับ เพราะเขาผลิตชิ้นเดียว ใช้กับรถได้หลายรุ่นมาก ๆ คนขับพวก EE80 ไปเบิกอะไหล่ เขายื่นอะไหล่ AE111 ให้ แต่ใช้ร่วมกันได้ สะดวกต่อทั้งผู้ใช้งานและผู้ผลิต

เพราะงั้นไม่ต้องตื่นเต้นกับ Global Platform หรอกครับ เขาทำกันมานานแล้ว และกว้างขวางแพร่หลายในหลายจุดที่คนไม่ค่อยจะสังเกตด้วยซ้ำ และนั่นแปลว่า Lineup ของรถ มันก็จะไม่เปลี่ยนไปมากหรอกครับ คือต่อให้มี Platform ใช้ร่วมกันได้ แต่อะไหล่ทุกชิ้นที่ต้องขึ้นไลน์ใหม่ มันใช้เงินจำนวนมหาศาลมาก เขาก็พยายามลดสิ่งที่ไม่จำเป็นออก แค่นั้นเอง อะไหล่ไม่ได้แชร์ร่วมกันเยอะขนาดนั้นครับ หรือในทางกลับกัน อะไหล่ที่แชร์กันได้เขาแชร์กันมานานแล้วครับ
+1 ตามนั้นเลยครับ  8)