...ตัวเอง... ข้างหลังมันนั่งไม่ได้แล้วล่ะ เด้งมากเลย ลูกตื่นแล้วเนี่ย เสียงภรรยาผมลอยมาจากด้านหลังรถขณะที่ลูกชายผมที่นั่ง Car seat เพิ่งผวาตื่นและร้องไห้จ้าหลังรถคันเดิมมันกระโดดชุดซีรีส์บัมพ์อย่างแรง ณ แห่งหนหนึ่งบนถนนมิตรภาพ
นั่นล่ะครับจุดเริ่มต้นของรีวิวนี้ รถคันเดิมของผม Subaru WRX STi โฉมหน้าเสือที่ผมใช้เดินทางเป็นประจำ วันนี้มันตอบโจทย์ระดับครอบครัวของผมไม่ได้แล้ว เนื่องจากบริบทที่เปลี่ยนไป... ใช่ครับ ผมทำใจไม่ได้หรอก ทุกวันนี้ก็ยังทำใจไม่ได้หลังจากปล่อยมันไปแล้ว แต่ชีวิตก็ต้องเดินต่อไป ที่เหลือเก็บไว้เป็นความทรงจำ มันเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ผมต้องหารถคันใหม่ที่ตอบโจทย์ครอบครัวผมได้ คราวนี้โจทย์ผมยังไงล่ะ
1. สมรรถนะ ต้องไม่แย่ไปกว่าคันเดิมมากนัก โดยเฉพาะด้านพวงมาลัยและอัตราเร่ง
2. ต้องนั่งสบายมากขึ้น ข้างหลังต้องนั่งได้ โดยใช้ความรู้สึก เมีย เป็นหลัก
3. รถสันดาป 100% เท่านั้น
4. โอกาส Surprise กินข้าวลิงน้อยหน่อย มีศูนย์อยู่ในตัวจังหวัดที่ผมอาศัยอยู่
และนับจากวันที่ภรรยาผมบอกว่ารถคันเดิมมันนั่งไม่ได้ไปอีก 2 วัน เว็ป Headlightmag ก็ประกาศว่า BMW Thailand จะเอารถ BMW 330i รหัสตัวถัง G20 เข้ามาในประเทศ โดยเป็นรุ่น M Sport line นั่นเหมือนผมมองเห็นแสงสว่างอยู่ปลายอุโมงค์อยู่ลิบๆละ ที่ตัดสินใจเอาเพราะ 4 โจทย์หลักด้านบนนั้นผมคาดว่ามันน่าจะตอบได้ และหลังจากนั้นไม่นาน ผมก็ได้ใช้ชีวิตกับ BMW คันนี้จนถึง ณ วันที่ลงรีวิวร่วมๆ 2 เดือนกับระยะทางบนถนนอีกร่วม 5,000 กิโลเมตร
ถูกต้องครับ วันนี้คือรีวิว BMW 330i(G20) M sport คันนี้นี่เอง
และตามธรรมเนียม ก็มาดูประวัติสั้นๆของ BMW Series 3 ตัวนี้กันดีกว่าครับ
ในปี 1975 ยุคที่สาวๆนิยมใส่ mini skirt เป็นแฟชั่นกันทั้งเมือง BMW ได้เปิดตัว Series 3 ตัวแรกซึ่งเป็นตัวตายตัวแทนของ 02 Series ที่ได้รับความนิยมมาก่อนหน้านี้อยู่แล้ว โดยใช้รหัส E21 ที่ Munichs Olympic Stadium โดยผลงานการออกแบบของ Paul Bracq โดย E21 เป็นรถ 2 ประตูที่เน้นสมรรถนะและความคล่องตัวของตัวรถ และมีการเปิดตัวโฉมเปิดประทุนที่เรียกว่า Baur Topcabriolet ในภายหลัง ในตัวถังนี้ได้มีการสร้างเอกลักษณ์ให้กับ BMW Series 3 ในรุ่นต่อ ๆมาหลายอย่างเช่น แผง Dashboard ที่มีมุมองศาเอียงเข้าหาผู้ขับ มีกระจังหน้าไตคู่ และเอกลักษณ์ที่สำคัญคือ มุมที่เสา C ที่เรียกว่า Hofmeister kink ซึ่งเป็นสิ่งที่เห็นแล้วรู้ว่า นี่คือรถ BMW นั่นเอง
ต่อมาในปี 1982 ที่ประเทศ Morocco BMW ได้เปิดตัว Series 3 รุ่นที่สองรหัส E30 โดยในรุ่นนี้มีทั้งซีดาน 2 และ 4 ประตู, Convertible, Baur Topcabriolet, Touring และ M3 (ซึ่งมีทั้ง Coupe และ Convertible เช่นกัน) ซึ่งในโฉมนี้ได้สร้างเอกลักษณ์ฝากให้รุ่นต่อ ๆไปนั่นคือ ไฟหน้าคู่ในทุกรุ่นย่อย (ใน E21 จะมีเพียงบางรุ่น) จริง ๆเว็ป Headlightmag เรามีบทความของรุ่นนี้ที่ละเอียดยิบยับโดยพี่แพนนะครับ
http://www.headlightmag.com/bmw-3-series-e3412/ สามารถเข้าไปอ่านกันได้ในลิงค์ได้เลยครับ
ปี 1990 BMW ก็ได้เปิดตัว Series 3 รุ่นที่ 3 ในรหัส E36 หรือวัยรุ่นในยุค 90 จะรู้กันดีในบ้านเราว่าโฉม นกแก้ว โดยโฉมนี้ได้ขึ้นชื่อว่า ออกแบบมาทันสมัยสุดๆในยุคนั้นนะครับ โดย Design language รุ่นนี้จะเน้นไปทางทรง Coupe มากกว่าจากเสา A และ C ที่ลาดเอียงมากขึ้น โดยรุ่นนี้มีครบทุกโฉมเช่นเคยตั้งแต่ Sedan, Coupe, Convertible, Touring และ M3 ครับ แต่มีความพิเศษเล็กน้อยที่หลังจากเปิดตัว 4 ปี ได้เปิดตัว Series 3 Compact hatchback ครับ
จนกระทั่งปี 1997 Series 3 โฉมที่ 4 ในรหัส E46 ก็ได้ปรากฏแก่สายตาชาวโลก เป็นยุคเดียวกับที่หนังเรื่องไททานิคทำรายได้ box office แบบถล่มทลาย E46 ก็เช่นกันครับ เป็น Series 3 ที่ขายดีที่สุดตลอดกาลเช่นกันด้วยยอด 3,266,885 คันทั่วโลกเลยทีเดียว โดยโฉม E46 ก็มากันครบทุกแบบตั้งแต่ Sedan ยัน M3 เหมือนเดิม
ณ งาน Geneva motorshow เดือนมีนาคมปี 2005 Series 3 โฉมที่ 5 ในรหัส E90 ก็ได้เปิดตัวขึ้นที่งานนี้ ซึ่ง E90 นี้ได้เปลี่ยนลักษณะการออกแบบครับ โดยครึ่งคันหน้า เป็นการออกแบบแบบ Coupe แต่ครึ่งคันหลังออกแบบแบบ Sedan แล้วเอามายำรวมกัน บรุ้มมมมม กลายเป็นโกโก้ครั้นชชชช์
.. ผิดๆๆๆ เอาเป็นว่าผมก็ยังงงๆว่ามันเอามารวมกันได้ไง แต่มันก็สวยนะ และนั่นแหละ ในปีต่อมา E90 ก็ได้รางวัล World Car of the Year ด้วย เอากะเค้าสิ
และในปี 2011 BMW ก็ได้เปิดตัว Series 3 โฉมที่ 6 ในรหัส F30 ครับ ในรหัสนี้มีอะไรเกิดขึ้นครั้งแรกเยอะมากๆ ทั้ง Hybrid รุ่นแรก ซึ่งมีทั้ง ActiveHybrid 3 และ 330e iPerformance ตามลำดับเลยครับ การออกแบบก็เป็นครั้งแรกที่ไฟหน้าติดกับกระจังหน้ารูปไตครั้งแรก (ก่อนหน้านั้นมันจะแยกๆกันอยู่ตลอด) มีตัวถังใหม่คือ Gran Turismo ให้เลือกเป็นครั้งแรก และสุดท้ายเป็นการแยกสาย Coupe, Convertible และ Gran Coupe ไปตั้งสายใหม่ คือ Series 4 ครับ
ขอบคุณข้อมูลจาก :
https://bmw.com/en/automotive-life/bmw-3-series-generations.html ในที่สุดปี 2018 Series 3 ในยุคปัจจุบันนี้ก็ได้เปิดตัวในรหัส G20 โดยในประเทศไทยได้นำเข้ามาจำหน่ายชุดแรกเป็นรุ่น 320d และ 330i M Sport ซึ่งจากรุ่นที่แล้ว F30 330i สร้างความคับแค้นใจให้กับขาซิ่ง Bimmer ชาวไทยอยู่ไม่น้อย เพราะขายอยู่ไม่นานแล้วก็หายจากตลาดไปซะอย่างนั้น แล้วนำรถถ่านอย่าง 330e มาขายแทน พอมาตัวนี้ผมคิดอยู่ว่า น่าจะมีคนจับจ้องอยู่ไม่น้อยนะครับ เพราะส่วนตัวผมเองกดจองไม่ทันล๊อตแรก ที่นำเข้ามาแค่ไม่กี่สิบคัน และหมดตั้งแต่ก่อนงานเปิดตัวที่ BAB box ถนนวิทยุเสียอีก!!!!!!!!!!!
ขอบคุณภาพจาก :
www.bimmer-th.com หลังจากที่ผมรอแล้วรอเล่าเฝ้าแต่รอศิริรวมทั้งหมด 5 เดือน ผมก็ได้รับมันมาอยู่ด้วยครับ อย่างที่แจ้งไว้ว่าจนก่อนรีวิวผมใช้ชีวิตอยู่กับมันประมาณ 2 เดือนระยะทางร่วมๆ 5,000 กิโลเมตร เพื่อกลั่นประสบการณ์การใช้งานแบบจริงๆทั้งบนถนน และในสนามที่ผมได้มีโอกาสไปขับมาที่ปทุมธานีสปีดเวย์เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และบัดนี้ได้เวลาอันสมควรแล้วที่จะเริ่มลงรายละเอียดที่ตัวรถได้เลยครับ (เพลงมหาฤกษ์ขึ้น... แท แด แด แด แถ่ แด แท แท่ด)