เบรค ABS

[Phongrapee]

อันนี้ผมไม่รู้จริงๆครับ ระบบ ABS ก็คือระบบป้องกันล้อล็อคขณะเบรค ความหมายของมันก็คือ แม้ว่าเราจะเบรคแรงๆนี่ก็ยังสามารถควบคุมทิศทางรถได้อยุ่ใช่ไหมครับ

อ้อ...อันนี้ถามเกี่ยวกับ Proton นิดนึงครับ ไม่ได้กะจะซื้อหรอก แต่อยากรู้ ถ้าไม่ติดว่าเป็นแบรนด์ที่พระนครดูแลอยู่ Proton Persona นี่น่าใช้มั๊ยครับ

[traveller]

เข้าใจถูกต้องแล้วครับ
แต่ระยะเบรคจะยาวกว่าใช้เบรคธรรมดานะครับ

เพอร์โซน่า เป็นรถที่เกาะถนนและเบรคดีมากครับ
แต่ วัสดุภายในคุณภาพต่ำ มือจับประตูหักง่าย ปุ่มควบคุมเครื่องเสียงพวงมาลัยรวนบ่อย
ถ้า มาเลย์มาขายเอง น่าจะทำได้ดีกว่า พระนครออโตเซลล์

ถ้าใช้รถคันเดียวในบ้าน ไม่ควรใช้ เพอร์โซน่า
แต่ ถ้าที่บ้านมีรถหลายคัน และ ต้องการขับรถที่เกาะเยี่ยมเบรคยอด ซื้อ เพอร์โซนา เกียร์ธรรมดา เครื่อง 1.6 ในราคา 499,000 บาท คุ้มค่าที่สุดแล้วครับ ถ้าซ่อมรถเองได้ ดัดแปลงระบบได้ ไม่ต้องสนว่าใครขายหรือมีศูนย์บริการดีหรือไม่ก็ได้ครับ
ที่สำคัญ ต้องไม่ใช่รถคันเดียวของบ้านนะครับ

[udis]

ผมเข้าใจว่า

ABS ระบะเบรคจะสั้นกว่าแบบธรรดาครับ เพราะธรรมดาล้อจะล็อกแล้วไหลไปต่อได้
แต่ถ้าล้อไม่ล็อก แบบธรรมดาจะสั้นกว่า

ขอบคุณมากครับ ผมเข้าใจผิดมาตลอดเลยครับ
 

[chay]

ถ้าระบบเบรคพื้นฐานดีอยู่แล้วถ้ามี ABS จะมีระยะเบรคจะสั้นกว่าเดิมครับ

และยังสามารถบังคับรถได้ด้วย สิ่งที่สำคัญในการเบรคคือผิวสัมผัสระหว่าง

ผ้าเบรคกับตัวจานหรือดุม และแรงในการกดผ้าเบรคครับ

การมี ABS แรงกดผ้าเบรคไม่ได้ลดลงนะครับ เพียงแต่ว่ามันไม่ต่อเนื่องเท่านั้นเอง

แต่การทำงานมันเร็วมาก ๆ ระดับ 1/100 วินาทีได้มั้ง

[Bluedoft]

ยึ๋ย... ABS ทำให้ระยะเบรคสั้นลงนะครับ ไม่ว่าจะกรณีใดก็ตาม

[Phongrapee]

ระยะเบรคสั้น ระยะเบรคยาว หมายความว่ายังไงครับ

[keanetona]

ระยะเบรคสั้น ระยะเบรคยาว หมายความว่ายังไงครับ

ระยะทางตั้งแต่เหยียบเบรค จนรถหยุดสนิท ที่ความเร็วเท่ากัน แรงเหยียบเบรคเท่ากัน เช่น

วิ่ง60แล้วเหยียบเบรคให้รถหยุด
รถ A ใช้ระยะเบรค 60 เมตร
รถ B ใช้ระยะเบรค 50 เมตร
(ตัวเลขสมมุตินะ)
รถ B ระยะเบรคสั้นกว่า

เข้าใจถูกต้องแล้วครับ
แต่ระยะเบรคจะยาวกว่าใช้เบรคธรรมดานะครับ

เพอร์โซน่า เป็นรถที่เกาะถนนและเบรคดีมากครับ
แต่ วัสดุภายในคุณภาพต่ำ มือจับประตูหักง่าย ปุ่มควบคุมเครื่องเสียงพวงมาลัยรวนบ่อย
ถ้า มาเลย์มาขายเอง น่าจะทำได้ดีกว่า พระนครออโตเซลล์

ถ้าใช้รถคันเดียวในบ้าน ไม่ควรใช้ เพอร์โซน่า
แต่ ถ้าที่บ้านมีรถหลายคัน และ ต้องการขับรถที่เกาะเยี่ยมเบรคยอด ซื้อ เพอร์โซนา เกียร์ธรรมดา เครื่อง 1.6 ในราคา 499,000 บาท คุ้มค่าที่สุดแล้วครับ ถ้าซ่อมรถเองได้ ดัดแปลงระบบได้ ไม่ต้องสนว่าใครขายหรือมีศูนย์บริการดีหรือไม่ก็ได้ครับ
ที่สำคัญ ต้องไม่ใช่รถคันเดียวของบ้านนะครับ

จุดสังเกตคือ รถแข่งไม่ได้ติด ABS กันนะครับ ถ้าใครได้ดู F1 จะเห็นว่าบางทีเขาก็เบรคกันจนล้อล็อคกันบ่อยๆ แต่นักแข่งจะมีเทคนิคในการเบรคที่จะได้ระยะสั้นกว่าเบรคที่มี ABS เสียอีก

[6162002]

ABS ทำให้ระยะเบรกยาวขึ้นจริงๆครับ แต่จะมากหรือน้อย ก็ต้องขึ้นอยู่กับว่า มีความสามารถเบรกในแบบไม่มีABSได้แค่ไหน

สังเกตุดูว่า นักเลงรถกระบะทุกคน ไม่มีใครใช้ABS ครับ เพราะระบบนี้ ถ้าวิ่งบนทางลื่นๆอย่างทางลูกรัง มันจะกลายเป็นว่า เบรคปล่อย ๆ ตลอด เปิดABSเข้าไปก็เหมือนเอาขาแหย่โลงทันที เพราะมันแทบไม่เบรคเลย อีกประเภทหนึ่งที่ABSจะไม่ทำงานคือ เมื่อเปิดขับสี่ล้อแบบ Part Time ครับ เพราะทุกล้อจะหมุนเร็วเท่ากันตลอด ระบบABSก็ไม่ทำงาน

แต่ว่าABSในปัจจุบันมันก็พัฒนาครับ ก็ใกล้เคียงเบรคธรรมดามากขึ้น แต่ยังไง ระบบเสริมทั้งABS ESC ฯลฯ ถ้าคนขับ ขับเก่ง ระบบพวกนี้ จะถ่วงสมรรถนะรถครับ พวกNascar ก็ไม่มีระบบพวกนี้ หรือลองเล่น Need For Speed Shift ดู ถ้าเปิดระบบช่วยขับพวกนี้หมด ถึงจะขับง่าย แต่เวลาไม่ได้เรื่องครับ

[motion]

ผมเข้าใจแบบนี้นะ

ในสภาวะถนนแห้ง  ABS ระยะเบรคจะยาวกว่าครับ

ในสภาวะถนนเปียกลื่น/ลูกรัง/โคลน/หินลอย ABS ระยะเบรคจะสั้นกว่า เพราะไม่มีการลื่นไถล และสามารถควบคุมทิศทางได้

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ABS ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อกำหนดให้ระยะเบรคสั้นลง แต่จุดประสงค์คือ ป้องกันล้อล๊อคตายและควบคุมทิศทางรถไม่ได้มากกว่าครับ

[Pasakorndvm]

ที่เราพบว่าเบรค ABS ทำให้ระยะหยุดรถสั้นเมื่อเทียบกับไม่มีในปัจจุบันเพราะว่า
 มันมีระบบ BA(ช่วยเพิ่มแรงดันน้ำมันเบรค) กับ EBD (กระจายแรงเบรคให้สมดุล) ด้วยครับ
ถ้า ABS อย่างเดียวมันทำให้ระยะหยุดรถยาวกว่าเดิมครับ ถ้าทุกอย่างเหมือนเดิม เพราะมันผ้าเบรค จับ-ปล่อย จับ-ปล่อย
เคยได้รับข้อมูลของระบบเบรคค่ายหนึ่งแจ้งว่า ABS ของเขาจับในความเร็ว 40-50 ครั้ง/วินาที (ปัจจุบันอาจจะเร็วกว่านี้)
ถ้าใครทำได้ก็ไม่ต้องใช้ระบบ ABS ครับ

[udis]

 
[youtube]ZSqGPyWroes&feature=related[/youtube]

[IncarRus]

ผมเดาว่า ABS ก็อาจจะมีหลายเกรด เหมือนกันครับ
รถที่ผมเคยเหยียบจน ABS ทำงานก็มีหลายคันเหมือนกัน
แต่ที่จำความรู้สึกได้ดี ก็มี Mazda BT-50, Toyota Soluna, Camry

BT-50 นี่ พอ ABS จับแล้วไถลไปอีกไกลมากหงะ เกือบชนเลย เลยไม่กล้าขับจี้ตูดใครเลย  

[traveller]

ก็อย่างที่เพื่อนข้างบนบอกนั่นแหละครับ
ถ้าคนขับมีฝีมือ ไม่ใช้ ABS จะเบรคสั้นกว่าใช้ ไม่ว่าถนนจะลื่น หรือ จะเปียก
ถ้าคนขับมีฝีมือ ไม่ใช้ระบบตัวช่วยทั้งหลาย รถจะวิ่งทำความเร็วต่อรอบในสนามแข่งดีขึ้น

ถ้าถนนลื่นมากแล้วคนขับยังขับเร็วถึงระดับที่เกิดฟิล์มน้ำกั้นระหว่างหน้ายางกับพื้นถนน
ระบบเบรคหรือตัวช่วยอะไรก็ช่วยไม่ได้
เพราะคนขับพารถเข้าไปหาอันตรายเองครับ
ดังนั้น ความรุ้ความเข้าใจต่อรถที่แท้จริง ประกอบกับความเข้าใจระดับฝีมือการขับรถของตัวเองและเพื่อนร่วมถนน ไม่พารถเข้าไปหาที่อันตราย คือ การใช้รถอย่างมีคุณภาพที่แท้จริงครับ

รถที่มีระบบช่วยทั้งหลาย เวลามันเสีย มันรวน อันตรายมากที่สุด
มีบริษัทไหน ออกมาเปิดเผยเรื่องนี้บ้างละครับ
ABS ที่ทำงานเร็วมากมาก ดีแน่ ถ้ามันยังทำงานได้ 100 %
แต่ ถ้าวันใด มันทำงานไม่เต็มที่ ความผิดพลาดที่ล้อทั้ง 4 ก็จะรวดเร็วมาก จนคนขับ แก้ไขไม่ได้

คนขับรถ F1 จึงไม่ใช้ระบบตัวช่วยทั้งหลาย เพราะเขารู้ดีว่า จะเบรคอย่างไร ให้ล้อล็อกหรือไม่ล็อก และจะคุมพวงมาลัย คันเร่งอย่างไร จึงจะบังคับ หน้ารถ ท้ายรถ ให้ไปในทิศที่เขาต้องการได้
คนทั่วไป ถ้าได้ขับรถโกคาร์ทบ่อยๆ จะเข้าใจเรื่องการคุมรถได้ดีขึ้น
เข้าใจการเบรค คุมคันเร่ง สั่งพวงมาลัย ตามอาการ หน้าและท้ายของรถ
เมื่อทำจนคล่อง แล้ว จะไม่ชอบ ABS หรือ ระบบตัวช่วยทั้งหลายเลยครับ
ต้องลองเอง แล้วจะเข้าใจครับ

เช่นกัน เรื่องรถโปรตอน เพอร์โซนา ต้องไปลองขับเองครับ
ขับแล้ว รีบไปลองซับคอมแพ็ก ช่วงล่างหลังคานแข็งให้ตัวได้ ทันที
แล้วจะเข้าใจทันทีครับ ว่า เพอร์โซนา ทรงตัวดีกว่า เบรคดีกว่า ทุกยี่ห้อ ชัดเจน ครับ

[SignifeR]

จะมี ABS หรือไม่มี ABS สิ่งสำคัญที่สุดคือ "ยาง" ครับ ไม่ใช่แค่ระบบเบรกเท่านั้น ยางคือปัจจัยหลักที่สำคัญที่สุดที่จะตอบโจทย์ว่า
ทำไมลื่นไถล หรือไม่ลื่นน่ะครับ ส่วนพื้นถนนหรือ แทร็คก็มีส่วนครับ เบรก ABS มันช่วยเวลาเกิดล้อล๊อคแล้วต้องมีการหักหลบน่ะครับ

แต่ทำไมนักแข่งถึงไม่ต้องใช้ ABS อย่างวีออส วันเมคเรซ ที่ผมขับตอนเรียนก็ตัดระบบ ABS ทิ้ง
เพราะระบบนี้จะมีส่วนทำให้การเข้าโค้ง ไม่สามารถเข้าได้ลึกครับ และนักแข่งกะน้ำหนักเบรกยากครับ

การเบรกสำหรับรถแข่ง ก็คือ การเวทน้ำหนัก(ถ่ายน้ำหนัก) มาด้านหน้ารถครับเพื่อให้รถสามารถเข้าโค้งได้เร็ว แรง
และออกโค้งได้เร็ว เพราะเวลาเบรก รถจะมีการหน้าทิ่ม(ถ่ายน้ำหนักมาด้านหน้า) เมื่อมีการบังคับเลี้ยว น้ำหนักส่วนนี้จะช่วย
ให้การเข้าโค้งไม่เกิดอาการอันเดอร์สเตียร์ (หน้าดื้อ) นั่นเองครับ

ดังนั้นถ้าเปรียบเป็นรถบ้านนะครับ ถ้ามีการเบรกและเลี้ยวฉุกเฉิน ให้กระแทกเบรกจนเกือบล๊อค ปล่อยเบรก แล้วหักหลบ รถจะไปตามนั้นครับ
ถ้าเบรกค้างไว้ไม่ปล่อยก็บวกกันหล่ะครับ

สำหรับผมส่วนตัวผมขับรถเก่ง(มั่นใจมาก) จะมีหรือไม่มี ไม่มีผลกับผมครับ เพราะถ้าเราขับอยู่ภายใต้ความเร็วที่กฎหมายกำหนด ไม่ประมาท
ใส่ยางคุณภาพดี ไม่เอาแบบกลิ้งไปวันๆน่ะนะ และมีสติตลอดเวลา โอกาสใช้เบรกABS ก็ลดลงไปเยอะนะครับ

ปกติผมขับช้ามากครับ ตามกฎหมายกำหนดเป๊ะเลย

[Phongrapee]

อ่านแล้วสนุกดีครับ ผมเลยมีประเด็นสงสัยขึ้นมาอีก ที่ว่าเบรกจนล้อเกือบล็อคนี่ เมื่อล้อล็อคอาการมันจะเป็นยังไงครับ แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าเกือบล็อคแล้ว

[keanetona]

อ่านแล้วสนุกดีครับ ผมเลยมีประเด็นสงสัยขึ้นมาอีก ที่ว่าเบรกจนล้อเกือบล็อคนี่ เมื่อล้อล็อคอาการมันจะเป็นยังไงครับ แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าเกือบล็อคแล้ว

เท่าที่ขับรถมา
อาการล้อล็อก จะมีอาการเหมือนมีอะไรมากระแทกที่แป้นเบรคแล้วแป้นจะแข็งเหมือนหิน พร้อมกับมีเสียงดัง"กึ้ง"และจะมีเสียงยางครูดกับพื้น

แต่ อาการล้อเกือบล็อคผมยังไม่เคยทำได้ครับและยังนึกไม่ออกครับ

[Phongrapee]

อ่านแล้วสนุกดีครับ ผมเลยมีประเด็นสงสัยขึ้นมาอีก ที่ว่าเบรกจนล้อเกือบล็อคนี่ เมื่อล้อล็อคอาการมันจะเป็นยังไงครับ แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าเกือบล็อคแล้ว

เท่าที่ขับรถมา
อาการล้อล็อก จะมีอาการเหมือนมีอะไรมากระแทกที่แป้นเบรคแล้วแป้นจะแข็งเหมือนหิน พร้อมกับมีเสียงดัง"กึ้ง"และจะมีเสียงยางครูดกับพื้น

แต่ อาการล้อเกือบล็อคผมยังไม่เคยทำได้ครับและยังนึกไม่ออกครับ

ถ้าเป็นแบบนี้ แสดงว่าตัวผมเองก็เคยเจอมาแล้วเหมือนกันครับ ตอนนั้นเหยียบเบรคกระทันหัน มันก็มีเสียงดัง "กึ้ง"

[traveller]

ตรงประเด็นเลยครับ คำตอบของคุณ SignifeR
ยางคุณภาพสูงที่ยังไม่หมดอายุ คือ หัวใจของการใช้รถ ทั้งเรื่องการทรงตัวและการเบรก
เมื่อเราเบรก รถมีแรงเฉื่อยมวลรถยังคงต้องการไปข้างหน้า ตามหลักฟิสิกส์มัธยมต้น ดังนั้น น้ำหนักจะไปกดที่ล้อหน้ามากกว่าล้อหลัง
ประเด็นอยู่ที่ ล้อหน้า หรือ ล้อหลัง จะล็อกก่อนกัน
รถแต่ละรุ่น แต่ละยี่ห้อ มีอาการล้อล็อกที่ไม่เหมือนกัน
เรื่องบาลานซ์น้ำหนัก หน้าหลัง ซ้ายขวา จึงสำคัญมากสำหรับรถเกรดสูง ตัวอย่างที่ดีคือ Mazda MX5 ครับ
สำหรับรถขับหน้า ซับคอมแพ็กซ์นั้น น้ำหนักลงหน้ามากกว่าหลังแน่นอน
เป็นข้อเสียของรถขับหน้า ที่ทำรถอย่างไร ก็ไม่มีวัน เกาะถนนหรือเบรคดีกว่า รถขับหลัง ที่เกรดใกล้เคียงกัน
วอลโว่ รุ่นขับล้อหน้า จึงไม่ควรนำไปเปรียบเทียบระดับรถกับ บีเอ็ม หรือ เบนซ์ ครับ

คนขับควรเรียนรู้นิสัยรถของตัวเองว่า มีการถ่ายน้ำหนักลงล้อแต่ละข้างอย่างไร
เร่งมาก ท้ายกดลงแค่ไหน คนขับรับรู้อาการท้ายกดหน้ายก เร็วเพียงใด
เบรกแรงๆ หน้าทิ่มแค่ไหน ท้ายยกแค่ไหน คนขับรับรู้ไหม
วิ่งผ่านโค้งกว้าง โค้งแคบ รับรุ้อาการถ่ายน้ำหนักออกนอกโค้ง ล้อนอกโค้งรับน้ำหนักมากขึ้น ล้อในโค้งรับน้ำหนักลงลง
วิ่งผ่านหลุมปุปะ ล้อหน้า ล้อหลัง อาการเป็นอย่างไร ล้อซ้ายลงหลุม ล้อขวาเป็นอย่างไร
ฝึกรับรู้ความรู้สึกของรถ
แล้ว ก็จะจับการถ่ายน้ำหนักของรถได้ดีขึ้นเรื่อยๆ สนุกกว่า ฟังเพลงนะครับ เล่นกับความรู้สึกของตัวเองกับรถคู่ใจคู่ชีวิต
ไม่ช้า ก็จะจับความรู้สึกว่า ถ่ายน้ำหนักแค่ไหน ล้อจึงจะล็อค
ล็อคล้อหน้าหรือหลังก่อน ล็อคล้อขวาหรือซ้ายก่อน

ฝึกเร็วที่สุด คือ ไปขับรถโกคาร์ทตามสนามครับ ชั่วโมงละประมาณ 500 กว่าบาท
เลือกขับคันที่ใช้เครื่อง 4 จังหวะก่อน พอชำนาญการสั่งรถในโค้งได้ดีแล้ว
ค่อยไปขับ โกคาร์ทเครื่อง 2 จังหวะ ที่พยศมากกว่า
ถ้าปราบมันได้ในโค้ง นั่นแหละครับ คุณคือคนขับรถเก่ง คนหนึ่งจริงๆ

คนขับรถเก่ง ไม่ใช่คนขับรถเร็วที่สุดบนถนน
คนขับเก่ง บางคนเลือกขับรถด้วยความเร็วตามกฎหมายกำหนด เพราะเห็นเพื่อนร่วมถนนที่ไม่น่าไว้วางใจอยู่หลายคัน ครับ
ขับรถแข่งในสนาม มีแต่คนขับรถเก่งมารวมตัวกัน ขับเร็วเท่าไร ก็ไม่หวาดเสียวเท่าขับบนถนน ที่มีรถพ่วงซิ่งแข่งกับรถทัวร์ หรอกครับ

[udis]

สำหรับเรื่องรถขับหน้า ขับหลัง ในส่วนการเกาะถนนหรือเบรคดีกว่านั้น
รถญี่ปุ่นขับหน้าคันละล้านนิดๆ เทียบกับยุโรปในรถระดับเดียวกันขับหลัง

ผมใช้ขับไปทำงานทั้งสองคัน วิ่งปู๊ดป๊าด แซงซ้าย แซงขวา เหยียบมิดแซงรถหลายคันรวด
เข้าโค้งที่ความเร็วสูง ออกตัวไวไว

รถยุโรปขับหลัง เรื่องการควบคุม ออกซ้ายหรือขวาทำได้พอประมาณ ไม่ได้ดีเวอร์อย่างที่เคยฟังมาตลอด
ดีเฉพาะทางตรงที่ความเร็วสูง นิ่งดีครับ รู้สึกได้ แต่ถามว่าเหนือว่าไหม ตอบได้ว่าไม่ครับ พอๆกันครับ
รถญี่ปุ่นขับหน้ากลับตอบสนองได้ดีกว่าครับ

ส่วนการเบรคนั้น ถ้าเทียบกับรถญี่ปุ่นสมัยก่อนดูเหมือนจะจริง
ปัจจุบันระบบเบรครถยุโรปในรถระดับเดียวกันสำหรับรถบ้านๆ ผมขับยังไงก็ไม่ต่างกันครับ