ผู้เขียน หัวข้อ: ไทยหมดลุ้น'เฟียสต้า ดีเซล'  (อ่าน 13918 ครั้ง)

ออฟไลน์ kawkrub

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 51
    • อีเมล์
ไทยหมดลุ้น'เฟียสต้า ดีเซล'
« เมื่อ: สิงหาคม 27, 2010, 16:40:35 »
ข่าว

        เซียนรถผิดหวัง เมื่อ “เฟียสต้า ดีเซล”  แทบปิดโอกาสทำตลาดในไทย แม้ปัจจุบันโรงงานเอเอที จังหวัดระยอง จะผลิตเพื่อส่งออกควบคู่ไปกับตัวเบนซินอยู่แล้ว โดย “บิ๊กฟอร์ด” เผย “เฟียสต้า ดีเซล” มีแต่เกียร์ธรรมดา เชื่อว่าคนไทยไม่นิยม แถมรัฐบาลไม่เอื้อภาษีเหมือนรถยนต์เบนซิน หรือแก๊สโซฮอล์ อี20 ดังนั้นถ้าขายจริงต้องโดนภาษีสรรพสามิตเต็มที่ 30% ประกอบกับต้นทุนผลิตเครื่องยนต์ดีเซลแพง จึงไม่สามารถทำราคาให้น่าสนใจ หรือมีโอกาสทะลุ 8 แสนบาท งานนี้เลยต้องพับแผน มุ่งทำตลาดเบนซิน 1.4 และ 1.6 เกียร์ดูอัลคลัตซ์ พร้อมลุยทั่วประเทศ 2 กันยายนนี้
       
       เลิกนับวันรอ พ.ศ.ที่คิดถึง เพราะ 2 กันยายนนี้ “ฟอร์ด เฟียสต้า” มีกำหนดเปิดตัวพร้อมลงโชว์รูมทั่วประเทศอย่างเป็นทางการ หลังจากทยอยโหมกระแสสร้างการรับรู้ให้ผู้บริโภค และเปิดเผยข้อมูล-ราคาขาย ก่อนหน้าร่วมเดือน เรียกว่าฟอร์ดพยายามทำทุกทางเพื่อยื้อใจลูกค้า ไม่ให้ด่วนลงเอยไปกับบรรดาแบรนด์ญี่ปุ่นเจ้าตลาด รวมถึงเพื่อนซี้โรงคลอดเดียวกันอย่างมาสด้า 2 ที่กำลังโกยยอดขายเป็นว่าเล่น
       
       “ฟอร์ด เฟียสต้า” พยายามชูจุดเด่นทางเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.6 ลิตร Ti-VCT เกียร์ดูอัลคลัตซ์ 6 สปีด ที่สำคัญอัดออปชันความปลอดภัย สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆเพียบ แต่จ่ายราคาเทียบเท่าคู่แข่ง ขณะเดียวกัน ยังสอดแทรกเครื่องยนต์เบนซิน 1.4 ลิตร เกียร์ธรรมดา และอัตโนมัติ 4 สปีด ราคาเพียง 5.29-5.74 แสนบาท หวังเพิ่มทางเลือกให้ลูกค้าที่ต้องการความคุ้มค่า

   
       ...แม้ฟอร์ดจะพยายามปิดช่องว่างโปรดักต์ โดยนำเสนอทางเลือกแตกต่าง หลากหลายราคา แต่ยังมีคำถามไม่น้อยว่าทำไม ฟอร์ด ประเทศไทย ถึงไม่นำเครื่องยนต์ดีเซล ที่ขึ้นชื่อเรื่องสมรรถนะพร้อมการประหยัดน้ำมัน มาประทับในเฟียสต้าและขายควบคู่ไปกับเครื่องยนต์เบนซิน เพราะจริงๆ โรงงาน ออโต้อัลลายแอนซ์ (เอเอที) จังหวัดระยองก็ทำการผลิต “เฟียสต้า ดีเซล” เพื่อส่งออกอยู่แล้ว
       
       ประเด็นนี้ “สาโรช เกียรติเฟื่องฟู” รองประธานอาวุโส ฟอร์ด ประเทศไทย เปิด เผยว่า ฟอร์ดไม่ได้มองข้ามความต้องการของลูกค้า เพราะจริงๆแล้ว ฟอร์ดถือเป็นผู้นำด้านพลังงานทางเลือก และที่ผ่านมาได้นำเครื่องยนต์ดีเซลวางในเก๋งรุ่น “โฟกัส” พร้อมขายราคาล้านต้นๆ จนได้การตอบรับเป็นอย่างดี

       ในส่วนของเฟียสต้า รุ่นวางเครื่องยนต์ดีเซลที่ทำตลาดในยุโรป ปัจจุบันถูกพัฒนาให้ใช้ระบบส่งกำลังแบบเกียร์ธรรมดา ดังนั้นถ้านำสเปกนี้มาทำตลาดในประเทศไทย อาจไม่ได้การตอบรับที่ดี สาเหตุเพราะผู้บริโภคไทยส่วนใหญ่นิยมเกียร์อัตโนมัติ
       
       “แม้จะมีการผลิต เฟียสต้า เครื่องยนต์ดีเซล ที่โรงงานเอเอที เพื่อส่งออกไปยัง ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และแอฟริกาใต้ ซึ่งจะเริ่มส่งออกตั้งแต่ปลายปีนี้เป็นต้นไป แต่ถ้าถามโอกาสที่จะนำ เฟียสต้า ดีเซล เกียร์ธรรมดา มาทำตลาดในประเทศไทย ต้องยอมรับว่าขายลำบาก” สาโรช กล่าวและว่า
       
       อย่างไรก็ตาม หากจะให้ ฟอร์ดบริษัทแม่ พัฒนาเครื่องยนต์ดีเซล กับเกียร์อัตโนมัติ เพื่อรองรับตลาดไทยคงเป็นเรื่องยาก เพราะปริมาณการขายน้อย และต้องศึกษาปัจจัยหลายอย่าง ขณะเดียวกันถ้าจะใช้เกียร์เพาเวอร์ชิฟท์ (ดูอัลคลัตซ์) ก็จะทำให้ราคารถสูงขึ้นอีกมาก
       
       นอกจากนี้ด้วยนโยบายของรัฐบาลที่สนับสนุนพลังงานทางเลือก โดยเฉพาะเครื่องยนต์เบนซิน รองรับแก๊สโซฮอล์ อี20จะได้ส่วนลดภาษีสรรพสามิต อีก5% กล่าวคือ เฟียสต้า เครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิตร อี20 รุ่นที่ขายในปัจจุบันเสียภาษีสรรพสามิตหน้าโรงงาน25% แต่ถ้าวางเครื่องยนต์ดีเซล 1.6 ลิตร จะไม่ได้รับการสนับสนุนใดๆ จึงต้องเสียภาษีเต็มๆ 30%
       
       “ด้วยโครงสร้างการ เก็บภาษีที่ซับซ้อน เมื่อบวกกับต้นทุนผลิตเครื่องยนต์ดีเซลที่สูงกว่าเบนซินอยู่แล้ว อาจทำให้ราคาขาย เฟียสต้า ดีเซล พุ่งไปถึง 8 แสนบาท ที่สำคัญยังเป็นเกียร์ธรรมดา จึงเชื่อว่าไม่น่าดึงดูดใจลูกค้าชาวไทยนัก” สาโรช กล่าวปิดท้าย
       
       สำหรับ “เฟียสต้า ดีเซล” ที่ผลิต ณ โรงงานออโต้อัลลายแอนซ์ (เอเอที) จังหวัดระยอง โมเดลส่งออกไป ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และแอฟริกาใต้ เป็นตัวถังแฮตซ์แบ็ก 5 ประตู (รุ่น 3 ประตู นำเข้ามาจากยุโรป) วางเครื่องยนต์ดีเซล Duratorq ขนาด1.6 ลิตรTDCi SOHC 4 สูบ 90 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 212 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 5 สปีด


ที่มา http://www.manager.co.th/Motoring/ViewNews.aspx?NewsID=9530000118421

ออฟไลน์ kawkrub

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 51
    • อีเมล์
Re: ไทยหมดลุ้น'เฟียสต้า ดีเซล'
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: สิงหาคม 27, 2010, 16:47:28 »
เอากับเค้าสิครับ  ของดีมีอยู่ในมือ  ไม่เอามาขาย   บอกว่าภาษีแพง   ไม่มีส่วนลดภาษีให้   ภาษีที่ต่างกัน  5%  ถ้ารถราคา  700,000    ก็ต่างกัน   35,000    ก็พอลุ้นได้นะ    ผมก้ไม่ค่อยรู้ถึงระบบการขายรถเท่าไหร่หรอกนะครับ  แต่ในเมื่อก็ผลิตส่งออกอยู่แล้ว  แล้วจะขายในประเทศดูด้วย  มันจะยากอะไรนัก   งงจริง   

ออฟไลน์ liveshow

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,751
  • รถไม่แรงแต่แซงยาก
Re: ไทยหมดลุ้น'เฟียสต้า ดีเซล'
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: สิงหาคม 27, 2010, 17:03:19 »
คุณสาโรจน์คิดถูกแล้วละครับ ถ้าจะเอามาขายแล้วได้เหมือน น้องกัส เอามาก็เจ๊ง คนไทยเอาความสบายเป็นหลัก
ก็แค่คนธรรมดา ไม่ลองก็ไม่รู้

ออฟไลน์ อืม...นะ

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 648
  • Spirit of the "R"
Re: ไทยหมดลุ้น'เฟียสต้า ดีเซล'
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: สิงหาคม 27, 2010, 17:11:48 »
อย่างน้อยก็น่าจะเป็นทางเลือกให้ ใครเอาก็ออเดอร์พิเศษ
แต่ไม่น่าถึงขนาดที่ตัดไปเลย ไม่ขายแน่นอนแบบนี้

แง่งๆๆ แบบนี้มันทำร้ายจิตใจกันเกินไป  :'(
'18 Honda Jazz gk5 s mt
'11 Volkswagen Scirocco R
'04 Honda Integra dc5 Type R
'96 Honda Prelude bb1

ออฟไลน์ Satanic za'

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,073
Re: ไทยหมดลุ้น'เฟียสต้า ดีเซล'
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: สิงหาคม 27, 2010, 17:25:39 »
ผมว่าถ้า order มันน้อย แต่ต้องมาเปิด line ใหม่เพื่อผลิตพวงมาลัยขวาคงไม่คุ้มเท่าไหร่ ราคาคงสูงจนคนไม่สนใจ แถมยังมีแต่เกียร์ธรรมดาอีกตะหาก

ออฟไลน์ Chinoezuekae

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 82
  • animal will do
Re: ไทยหมดลุ้น'เฟียสต้า ดีเซล'
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: สิงหาคม 27, 2010, 17:45:44 »
เป็นที่เศร้าใจยิ่งนัก ???

ออฟไลน์ Iwata Kana Σ4

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,483
  • Archievement in Control
    • อีเมล์
Re: ไทยหมดลุ้น'เฟียสต้า ดีเซล'
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: สิงหาคม 27, 2010, 17:47:35 »
สงสัยกลัวมุขเดียวกับ Focus TDCi
ความมีระดับ มาพร้อมศักดิ์ศรีที่เหนือใคร
มีเป้าหมาย ที่อะไรก็ไม่อาจขวาง
มีอำนาจ ที่เลือกใช้ได้ตามใจ
มีชีวิต อย่างที่ใคร ก็ไม่อาจปฎิเสธ

ออฟไลน์ Ome-WB

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 104
Re: ไทยหมดลุ้น'เฟียสต้า ดีเซล'
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: สิงหาคม 27, 2010, 19:01:38 »
ผมว่า ไม่มีเจ้าของบริษัทคนไหน ไม่อยากให้รถตัวเองขายได้ ขายดีหรอกครับ

ขนาด focus tdci ที่ว่าดีนักดีหนา ปัจจุบันยังเห็นวิ่งกันบางตาเลยครับ

บางคนก็บอกว่า เอามาเหอะ เกียร์ธรรมดาก็เอา ชอบ อยากได้ แต่พอเอาเข้าจริง
focus tdci mt ถึงกับค้าง stock เลยทีเดียว

แล้วคนที่อยากได้ tdci จริงๆ มันจะซักกี่ % ของจำนวนรถทั้งหมดที่ขายได้อ่ะครับ

ยังไงซะ นี่ก็คือ "ธุรกิจ" ครับ จุดประสงค์เพื่อมุ่งเน้นผลกำไร ไม่ใช่ "มูลนิธิ" ครับ

(ถึงใจจริงผมจะอยากได้ fiesta tdci เหมือนกัน แต่ก็ต้อง ใจเขาใจเรา อ่ะครับ ^^)

ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ adobe

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 454
    • อีเมล์
Re: ไทยหมดลุ้น'เฟียสต้า ดีเซล'
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: สิงหาคม 27, 2010, 19:50:37 »
ผมว่า ไม่มีเจ้าของบริษัทคนไหน ไม่อยากให้รถตัวเองขายได้ ขายดีหรอกครับ

ขนาด focus tdci ที่ว่าดีนักดีหนา ปัจจุบันยังเห็นวิ่งกันบางตาเลยครับ

บางคนก็บอกว่า เอามาเหอะ เกียร์ธรรมดาก็เอา ชอบ อยากได้ แต่พอเอาเข้าจริง
focus tdci mt ถึงกับค้าง stock เลยทีเดียว

แล้วคนที่อยากได้ tdci จริงๆ มันจะซักกี่ % ของจำนวนรถทั้งหมดที่ขายได้อ่ะครับ

ยังไงซะ นี่ก็คือ "ธุรกิจ" ครับ จุดประสงค์เพื่อมุ่งเน้นผลกำไร ไม่ใช่ "มูลนิธิ" ครับ

(ถึงใจจริงผมจะอยากได้ fiesta tdci เหมือนกัน แต่ก็ต้อง ใจเขาใจเรา อ่ะครับ ^^)

ขอบคุณครับ

เห็นด้วยครับ

"อาจทำให้ราคาขาย เฟียสต้า ดีเซล พุ่งไปถึง 8 แสนบาท ที่สำคัญยังเป็นเกียร์ธรรมดา"
 
ราคานี้ ก็หนี ไปเอา C-Segment กันหมดแล้วครับ
ขนาด Focus TDCi ยังแพงกว่า 2.0 เบนซิน หรือแพงกว่ารุ่นอื่นๆ
ยังไม่เห็นการตอบรับที่ดีกว่าคู่แข่งเลย
เพราะคนซื้อทั่วไปที่ไม่ได้หาความรู้ ไม่รู้ว่า TDCi ดีเซล มันดียังไง
เทียบประมาณได้เลย 10% ที่รู้จัก TDCi ดีพอ
อีก 90% ดูแค่ตัวเลข CC กับราคา
เค้า ก็คิดแล้ว มันขายลำบาก ถ้าราคาเท่าตัวท้อปเดิม ว่าไปอย่าง อาจมีลุ้นขายดี



ออฟไลน์ joufo

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,254
Re: ไทยหมดลุ้น'เฟียสต้า ดีเซล'
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: สิงหาคม 27, 2010, 20:16:50 »
เอ... ที่ว่า โฟกัส ดีเซล เห็นบนถนนน้อย เพราะว่าเครื่องยนต์ต้องนำเข้าไม่ใช่เหรอครับ

เมื่อต้นเดือน (สิงหาคม) ผมไปถาม ยังต้องจองเลย
เซลบอกว่า ที่โชว์รูมจะได้โควต้ารถเดือนละ 2 คัน
ซึ่งส่วนใหญ่พอรถลงปุ๊บ ก็ขายได้เลย



ไม่รู้ว่าเซลพูดอย่างนี้เพื่อจะเร่งให้ผมจองรถรึเปล่านะครับ




ถ้ามันแพงนัก ผมว่าก็ Made by Oder ก็ได้
ต้องสั่งถึงจะตัดรถมาให้ ไหนๆ ก็ประกอบไทยแล้ว



หรือ ผมมองอีกมุมนึง (อาจจะมองแง่ร้ายเกินไป)
ฟอร์ดอาจจะกลัวว่า คนรอดีเซลเยอะ เลยไม่กล้าซื้อเบนซินรึเปล่า
ก็เลยมาปล่อยข่าวแบบนี้มาก่อน

ี้ความเห็นส่วนตัวนะครับ เล่าให้ฟังเฉยๆ
เพราะผมก็รอดีเซลเหมือนกัน

ออฟไลน์ traveller

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 266
Re: ไทยหมดลุ้น'เฟียสต้า ดีเซล'
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: สิงหาคม 27, 2010, 21:18:45 »
หลอกกันง่ายไปไหมครับ
ช่องโหว่เพียบเลย
ประเด็นแรก ภาษีต่างกันแค่ 5% คิดแล้วไม่กี่หมื่นครับ
ประเด็นที่สอง เครื่องดีเซลไม่ได้แพงกว่าเครื่องเบนซินมากมายอะไร ตัวอย่างเช่น
วีโก้ 3.0J ตอนเดียว ราคา 524,000 บาท เครื่องดีเซลคอมมอนเรล เทอร์โบ อินเตอร์ แรงสุด Flat Torque
วีโก้ 2.7J ตอนเดียว ราคา 502,000 บาท เครื่องเบนซิน VVTi เห็นในรถระดับล้านกว่าของโตโยต้า
ราคาเครื่องดีเซล 3000ซีซี แพงกว่า เบนซิน 2700 ซีซี แค่ 22,000 บาทเองครับ
ระดับรถรุ่น J เหมือนกัน ตัวถังเดียวกัน เสียภาษีกระบะตอนเดียวเหมือนกันครับ
เทียบกลับไปที่ ฟอร์ด เฟียสต้า
คิดรุ่น 1.6 Trend Powershift ราคา 644,000 บาท
ถ้าเป็นเครื่องดีเซล 1.6 TDCi จากโรงงานอินเดีย เกียร์ธรรมดาต้นทุนถูกกว่า Powershift ก็น่าจะขายได้ในราคา 644,000 บาทนะครับ
แต่เอาเถอะ อยากขายแพง ผมบวกให้อีก 22,000 บาท ซึ่งเป็นส่วนต่างของราคาดีเซล 3.0 กับ เบนซิน 2.7 ของโตโยต้า ให้ส่วนกำไรอีกชั้นด้วยครับ เพราะเบ่งซีซีมากขึ้นอีก สามร้อยซีซี
ดังนั้น เฟียสต้า ดีเซล 1.6 TDCi จะราคาเพิ่มเป็น 666,000 บาท เลขสวยนะครับ
เอ้า บวกภาษีเพิ่มอีก 5% จากราคาหน้าโรงงาน
ผมให้ราคาหน้าโรงงาน 600,000 บาทเลย แพงเวอร์กว่าที่แจ้งราชการเยอะ
ก็จะมีค่าภาษีเพิ่มขึ้นกว่าเบนซิน E20 อีก 30,000 บาท
บวกทุกสิ่ง ให้กำไรแบบทุกขั้นตอน จะได้ราคา เฟียสต้า ดีเซล 1.6 TDCi เกียร์ธรรมดาบนโชว์รูมไทยที่ 696,000 บาทครับ
ไม่เกินกว่านี้แน่นอน
ไม่ต้องเปิดไลน์การผลิตใหม่ เพราะผลิตขายต่างประเทศตามเนื้อข่าวอยู่แล้ว พวงมาลัยขวาด้วย
ไม่มีต้นทุนอะไรเพิ่ม
แค่ เลี้ยวรถที่จะขึ้นเรือ ไป ขึ้นโชว์รูมในไทย เท่านั้นเอง

ผมจึงสรุปได้ว่า ข้ออ้างทั้งหลายทั้งปวงข้างบนไม่เป็นจริง
เพราะ ผลิตขายอยุ่แล้ว จะขายให้คนไทย กี่สิบ กี่ร้อยกคัน กี่พันคัน ก็ไม่ทำให้ต้นทุนเพิ่มครับ
แต่ ทำไม ฟอร์ดไทยจึงไม่ขายตอนนี้
คำตอบไม่ยากครับ
หนึ่ง คิดตีกิน ขายรถเฟียสต้าดีเซล 800,000 กว่าบาท ตามจั่วเรื่องไว้ ถ้าคนไทยอยากมากนัก ฟอร์ดไทยก็จะขอฟันครับ
สอง ต้องการ ขายเบนซิน 1.4 ทำกำไรต่อหน่วยมากๆนั่นเอง โดยใช้เครื่อง 1.6 เบนซิน Powershift เป็นตัวสร้างกระแส
ฟอร์ดไทย ขายเฟียสต้า 1.4 ในราคาใกล้ มาสด้า 2 เครื่อง 1.5 มาก
ออปชั่นก็มีส่วนให้ดูดี แต่ที่จริง กำไรมากต่างหาก ที่ฟอร์ดไทยเน้นครับ

ไม่ช้า เฟียสต้า ดีเซล 1.6 TDCi ก็ต้องขายในไทยแน่ครับ
ถ้าไม่มีคู่แข่งเก๋งดีเซล เขาก็จะตั้งราคา แปดแสนกว่า ขายพวกเรา
แต่ถ้ามีคู่แข่งเก๋งดีเซล เขาก็จะขายในราคา 696,000 บาท ให้พวกเรานั่นแหละครับ
ตัวเลขสวยอีกแล้วนะ

และต้องย้ำอีกครั้งว่า ไม่มีต้นทุนเพิ่มอีกแล้วในการขายรถดีเซลเกียร์ธรรมดาในไทย
ไม่ต้องเปิดไลน์เพิ่มอะไรทั้งนั้น
ลูกค้าคนไทย ที่ต้องการรถ กี่คนก็ตาม น้อยหรือมาก ไปรับรถหน้า โรงงาน ชี้เลือกรถตามลานจอดได้เลยครับ
ถ้าฟอร์ดไทย กล้าที่จะขายแบบ ขายความจริงนะครับ

จะอ้างต้นทุนศูนย์บริการ ต้นทุนสต็อกอะไหล่เพิ่ม ก็ไม่ได้
เพราะทุกวันนี้ ศูนย์บริการก็มีภาพพจน์เป็นศุนย์ อะไหล่ก็ไม่ได้รวดเร็วอะไร
ลุกค้าเขายอมรับความเสี่ยงเรื่องนี้ ตั้งแต่คิดจะซื้อรถฟอร์ด แล้วครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 27, 2010, 21:22:48 โดย traveller »

ออฟไลน์ มึน!!

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 709
  • -*-
Re: ไทยหมดลุ้น'เฟียสต้า ดีเซล'
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: สิงหาคม 27, 2010, 21:45:01 »

ราคานี้ ก็หนี ไปเอา C-Segment กันหมดแล้วครับ
ขนาด Focus TDCi ยังแพงกว่า 2.0 เบนซิน หรือแพงกว่ารุ่นอื่นๆ
ยังไม่เห็นการตอบรับที่ดีกว่าคู่แข่งเลย
เพราะคนซื้อทั่วไปที่ไม่ได้หาความรู้ ไม่รู้ว่า TDCi ดีเซล มันดียังไง
เทียบประมาณได้เลย 10% ที่รู้จัก TDCi ดีพอ
อีก 90% ดูแค่ตัวเลข CC กับราคา
เค้า ก็คิดแล้ว มันขายลำบาก ถ้าราคาเท่าตัวท้อปเดิม ว่าไปอย่าง อาจมีลุ้นขายดี




เห็นด้วยครับ คนทั่วไปยังยึดติดตัวเลข CC กับราคา     ราคาขายต่อได้กี่บาท ใช้ไปแล้วคุ้มค่าไหม บางคนยังคิดว่าดีเซลยังสู้เบนซินยังไม่ได้ -..- (พวกหัวโบราณ)

 ทุกวันนี้คนชื้อรถใหม่คิดว่า คันไหนขายต่อแล้วคุ้ม ? ไม่ใช่ใช้แล้วคุ้ม ? อะไหล่ตัวไหนหาง่าย ซ่อมถูกก แค่คุณจ่ายสิ่งที่แพงกว่า ก็ได้สิงที่ดีกว่า(แต่ทำใจเรื่องศูนย์) -..-

ปล.ดีเซลTDCI2.0 ในโฟกัสแรงจริง ประหยัดจริง แต่เสียดาย -.-ไม่ใส่ เฟียต้า TDCI1.6 T T
ก้านไฟเลี้ยวไม่ได้มีไว้ประดับรถ เปิดกันบ้าง ไม่ต้องกลัวมันถลอกกก

ออฟไลน์ -- CaZzMaNiAnN --

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 241
  • ร่วมรณรงค์ ไม่เปิดไฟตัดหมอกพร่ำเพรื่อ
    • อีเมล์
Re: ไทยหมดลุ้น'เฟียสต้า ดีเซล'
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: สิงหาคม 27, 2010, 22:14:11 »
หลอกกันง่ายไปไหมครับ
ช่องโหว่เพียบเลย
ประเด็นแรก ภาษีต่างกันแค่ 5% คิดแล้วไม่กี่หมื่นครับ
ประเด็นที่สอง เครื่องดีเซลไม่ได้แพงกว่าเครื่องเบนซินมากมายอะไร ตัวอย่างเช่น
วีโก้ 3.0J ตอนเดียว ราคา 524,000 บาท เครื่องดีเซลคอมมอนเรล เทอร์โบ อินเตอร์ แรงสุด Flat Torque
วีโก้ 2.7J ตอนเดียว ราคา 502,000 บาท เครื่องเบนซิน VVTi เห็นในรถระดับล้านกว่าของโตโยต้า
ราคาเครื่องดีเซล 3000ซีซี แพงกว่า เบนซิน 2700 ซีซี แค่ 22,000 บาทเองครับ
ระดับรถรุ่น J เหมือนกัน ตัวถังเดียวกัน เสียภาษีกระบะตอนเดียวเหมือนกันครับ
เทียบกลับไปที่ ฟอร์ด เฟียสต้า
คิดรุ่น 1.6 Trend Powershift ราคา 644,000 บาท
ถ้าเป็นเครื่องดีเซล 1.6 TDCi จากโรงงานอินเดีย เกียร์ธรรมดาต้นทุนถูกกว่า Powershift ก็น่าจะขายได้ในราคา 644,000 บาทนะครับ
แต่เอาเถอะ อยากขายแพง ผมบวกให้อีก 22,000 บาท ซึ่งเป็นส่วนต่างของราคาดีเซล 3.0 กับ เบนซิน 2.7 ของโตโยต้า ให้ส่วนกำไรอีกชั้นด้วยครับ เพราะเบ่งซีซีมากขึ้นอีก สามร้อยซีซี
ดังนั้น เฟียสต้า ดีเซล 1.6 TDCi จะราคาเพิ่มเป็น 666,000 บาท เลขสวยนะครับ
เอ้า บวกภาษีเพิ่มอีก 5% จากราคาหน้าโรงงาน
ผมให้ราคาหน้าโรงงาน 600,000 บาทเลย แพงเวอร์กว่าที่แจ้งราชการเยอะ
ก็จะมีค่าภาษีเพิ่มขึ้นกว่าเบนซิน E20 อีก 30,000 บาท
บวกทุกสิ่ง ให้กำไรแบบทุกขั้นตอน จะได้ราคา เฟียสต้า ดีเซล 1.6 TDCi เกียร์ธรรมดาบนโชว์รูมไทยที่ 696,000 บาทครับ
ไม่เกินกว่านี้แน่นอน
ไม่ต้องเปิดไลน์การผลิตใหม่ เพราะผลิตขายต่างประเทศตามเนื้อข่าวอยู่แล้ว พวงมาลัยขวาด้วย
ไม่มีต้นทุนอะไรเพิ่ม
แค่ เลี้ยวรถที่จะขึ้นเรือ ไป ขึ้นโชว์รูมในไทย เท่านั้นเอง

ผมจึงสรุปได้ว่า ข้ออ้างทั้งหลายทั้งปวงข้างบนไม่เป็นจริง
เพราะ ผลิตขายอยุ่แล้ว จะขายให้คนไทย กี่สิบ กี่ร้อยกคัน กี่พันคัน ก็ไม่ทำให้ต้นทุนเพิ่มครับ
แต่ ทำไม ฟอร์ดไทยจึงไม่ขายตอนนี้
คำตอบไม่ยากครับ
หนึ่ง คิดตีกิน ขายรถเฟียสต้าดีเซล 800,000 กว่าบาท ตามจั่วเรื่องไว้ ถ้าคนไทยอยากมากนัก ฟอร์ดไทยก็จะขอฟันครับ
สอง ต้องการ ขายเบนซิน 1.4 ทำกำไรต่อหน่วยมากๆนั่นเอง โดยใช้เครื่อง 1.6 เบนซิน Powershift เป็นตัวสร้างกระแส
ฟอร์ดไทย ขายเฟียสต้า 1.4 ในราคาใกล้ มาสด้า 2 เครื่อง 1.5 มาก
ออปชั่นก็มีส่วนให้ดูดี แต่ที่จริง กำไรมากต่างหาก ที่ฟอร์ดไทยเน้นครับ

ไม่ช้า เฟียสต้า ดีเซล 1.6 TDCi ก็ต้องขายในไทยแน่ครับ
ถ้าไม่มีคู่แข่งเก๋งดีเซล เขาก็จะตั้งราคา แปดแสนกว่า ขายพวกเรา
แต่ถ้ามีคู่แข่งเก๋งดีเซล เขาก็จะขายในราคา 696,000 บาท ให้พวกเรานั่นแหละครับ
ตัวเลขสวยอีกแล้วนะ

และต้องย้ำอีกครั้งว่า ไม่มีต้นทุนเพิ่มอีกแล้วในการขายรถดีเซลเกียร์ธรรมดาในไทย
ไม่ต้องเปิดไลน์เพิ่มอะไรทั้งนั้น
ลูกค้าคนไทย ที่ต้องการรถ กี่คนก็ตาม น้อยหรือมาก ไปรับรถหน้า โรงงาน ชี้เลือกรถตามลานจอดได้เลยครับ
ถ้าฟอร์ดไทย กล้าที่จะขายแบบ ขายความจริงนะครับ

จะอ้างต้นทุนศูนย์บริการ ต้นทุนสต็อกอะไหล่เพิ่ม ก็ไม่ได้
เพราะทุกวันนี้ ศูนย์บริการก็มีภาพพจน์เป็นศุนย์ อะไหล่ก็ไม่ได้รวดเร็วอะไร
ลุกค้าเขายอมรับความเสี่ยงเรื่องนี้ ตั้งแต่คิดจะซื้อรถฟอร์ด แล้วครับ

เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งคับผม

เน้นที่ว่า กำไรต่อหน่วย

Y.Y
Turn to your-style J's 2010
My J-154 sc
L15A7 i-VTEC 2008
Suspension : Tein S TECH
Wheel : Ce-28 Rota 16" x 7" Off +40
Tire : Dunlop DZ101 205/45/16
Exhaust : Nitto+Lerm's Heder
Strut Bar : J's 2010 (front/rear/C-Pillar/Lower arm bar)
JDM Style

ออฟไลน์ Mario_Yadel

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 235
Re: ไทยหมดลุ้น'เฟียสต้า ดีเซล'
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: สิงหาคม 27, 2010, 22:58:57 »
ติดตามอ่านคอมเม้นของคุณ traveller ตลอดครับบบบ

alzeto

  • บุคคลทั่วไป
Re: ไทยหมดลุ้น'เฟียสต้า ดีเซล'
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: สิงหาคม 28, 2010, 00:12:58 »
หลอกกันง่ายไปไหมครับ
ช่องโหว่เพียบเลย
ประเด็นแรก ภาษีต่างกันแค่ 5% คิดแล้วไม่กี่หมื่นครับ
ประเด็นที่สอง เครื่องดีเซลไม่ได้แพงกว่าเครื่องเบนซินมากมายอะไร ตัวอย่างเช่น
วีโก้ 3.0J ตอนเดียว ราคา 524,000 บาท เครื่องดีเซลคอมมอนเรล เทอร์โบ อินเตอร์ แรงสุด Flat Torque
วีโก้ 2.7J ตอนเดียว ราคา 502,000 บาท เครื่องเบนซิน VVTi เห็นในรถระดับล้านกว่าของโตโยต้า
ราคาเครื่องดีเซล 3000ซีซี แพงกว่า เบนซิน 2700 ซีซี แค่ 22,000 บาทเองครับ
ระดับรถรุ่น J เหมือนกัน ตัวถังเดียวกัน เสียภาษีกระบะตอนเดียวเหมือนกันครับ
เทียบกลับไปที่ ฟอร์ด เฟียสต้า
คิดรุ่น 1.6 Trend Powershift ราคา 644,000 บาท
ถ้าเป็นเครื่องดีเซล 1.6 TDCi จากโรงงานอินเดีย เกียร์ธรรมดาต้นทุนถูกกว่า Powershift ก็น่าจะขายได้ในราคา 644,000 บาทนะครับ
แต่เอาเถอะ อยากขายแพง ผมบวกให้อีก 22,000 บาท ซึ่งเป็นส่วนต่างของราคาดีเซล 3.0 กับ เบนซิน 2.7 ของโตโยต้า ให้ส่วนกำไรอีกชั้นด้วยครับ เพราะเบ่งซีซีมากขึ้นอีก สามร้อยซีซี
ดังนั้น เฟียสต้า ดีเซล 1.6 TDCi จะราคาเพิ่มเป็น 666,000 บาท เลขสวยนะครับ
เอ้า บวกภาษีเพิ่มอีก 5% จากราคาหน้าโรงงาน
ผมให้ราคาหน้าโรงงาน 600,000 บาทเลย แพงเวอร์กว่าที่แจ้งราชการเยอะ
ก็จะมีค่าภาษีเพิ่มขึ้นกว่าเบนซิน E20 อีก 30,000 บาท
บวกทุกสิ่ง ให้กำไรแบบทุกขั้นตอน จะได้ราคา เฟียสต้า ดีเซล 1.6 TDCi เกียร์ธรรมดาบนโชว์รูมไทยที่ 696,000 บาทครับ
ไม่เกินกว่านี้แน่นอน
ไม่ต้องเปิดไลน์การผลิตใหม่ เพราะผลิตขายต่างประเทศตามเนื้อข่าวอยู่แล้ว พวงมาลัยขวาด้วย
ไม่มีต้นทุนอะไรเพิ่ม
แค่ เลี้ยวรถที่จะขึ้นเรือ ไป ขึ้นโชว์รูมในไทย เท่านั้นเอง

ผมจึงสรุปได้ว่า ข้ออ้างทั้งหลายทั้งปวงข้างบนไม่เป็นจริง
เพราะ ผลิตขายอยุ่แล้ว จะขายให้คนไทย กี่สิบ กี่ร้อยกคัน กี่พันคัน ก็ไม่ทำให้ต้นทุนเพิ่มครับ
แต่ ทำไม ฟอร์ดไทยจึงไม่ขายตอนนี้
คำตอบไม่ยากครับ
หนึ่ง คิดตีกิน ขายรถเฟียสต้าดีเซล 800,000 กว่าบาท ตามจั่วเรื่องไว้ ถ้าคนไทยอยากมากนัก ฟอร์ดไทยก็จะขอฟันครับ
สอง ต้องการ ขายเบนซิน 1.4 ทำกำไรต่อหน่วยมากๆนั่นเอง โดยใช้เครื่อง 1.6 เบนซิน Powershift เป็นตัวสร้างกระแส
ฟอร์ดไทย ขายเฟียสต้า 1.4 ในราคาใกล้ มาสด้า 2 เครื่อง 1.5 มาก
ออปชั่นก็มีส่วนให้ดูดี แต่ที่จริง กำไรมากต่างหาก ที่ฟอร์ดไทยเน้นครับ

ไม่ช้า เฟียสต้า ดีเซล 1.6 TDCi ก็ต้องขายในไทยแน่ครับ
ถ้าไม่มีคู่แข่งเก๋งดีเซล เขาก็จะตั้งราคา แปดแสนกว่า ขายพวกเรา
แต่ถ้ามีคู่แข่งเก๋งดีเซล เขาก็จะขายในราคา 696,000 บาท ให้พวกเรานั่นแหละครับ
ตัวเลขสวยอีกแล้วนะ

และต้องย้ำอีกครั้งว่า ไม่มีต้นทุนเพิ่มอีกแล้วในการขายรถดีเซลเกียร์ธรรมดาในไทย
ไม่ต้องเปิดไลน์เพิ่มอะไรทั้งนั้น
ลูกค้าคนไทย ที่ต้องการรถ กี่คนก็ตาม น้อยหรือมาก ไปรับรถหน้า โรงงาน ชี้เลือกรถตามลานจอดได้เลยครับ
ถ้าฟอร์ดไทย กล้าที่จะขายแบบ ขายความจริงนะครับ

จะอ้างต้นทุนศูนย์บริการ ต้นทุนสต็อกอะไหล่เพิ่ม ก็ไม่ได้
เพราะทุกวันนี้ ศูนย์บริการก็มีภาพพจน์เป็นศุนย์ อะไหล่ก็ไม่ได้รวดเร็วอะไร
ลุกค้าเขายอมรับความเสี่ยงเรื่องนี้ ตั้งแต่คิดจะซื้อรถฟอร์ด แล้วครับ


10 10 10 เอาไปเลยเซ่ !!

ริงโกะค่ะ

ออฟไลน์ Ruksadindan

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,051
Re: ไทยหมดลุ้น'เฟียสต้า ดีเซล'
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: สิงหาคม 28, 2010, 00:21:37 »
ฟอร์ด หมดลุ้น แข่งขันชิงยอดขาย ครับ

ออฟไลน์ 6162002

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,089
Re: ไทยหมดลุ้น'เฟียสต้า ดีเซล'
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: สิงหาคม 28, 2010, 00:22:35 »
ทำไมผมอยากได้เกียร์ธรรมดา มันถึงหาได้ยากเหลือเกินในรถที่อยากได้ T^T

ออฟไลน์ BBOnLY

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,235
    • เพจวิศวะท่องโลกการเงิน
Re: ไทยหมดลุ้น'เฟียสต้า ดีเซล'
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: สิงหาคม 28, 2010, 02:26:26 »
ผมว่าตามอาจารย์ traveller ครับ ผมว่า ford กล้าๆหน่อยสิครับ จะขายของน่ะ ตัวเองยิ่งไม่มีอะไรดีๆเด่นๆซะอย่างเลยนะ

ผมว่าใครก็ได้ช่วยยุผู้บริหารที่อเมริกาช่วย "เปลี่ยนตัว" ผู้บริหารฟอร์ดไทยด่วนเลยครับ
ติดตามเพจ "วิศวะท่องโลกการเงิน" ได้นะครับ

https://www.facebook.com/engineerinsidefinanceworld

ให้ #แอดบอยดูแล ได้ครับ

ออฟไลน์ Valkilrey

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 646
    • อีเมล์
Re: ไทยหมดลุ้น'เฟียสต้า ดีเซล'
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: สิงหาคม 28, 2010, 09:35:03 »
เห็นด้วยกับคุณ traveller มากๆครับ ตอนแรกที่เคยคิดว่าเฟียสต้าดีเซลขายไม่ได้ในไทย เพราะราคาจะพุ่งไป 8 แสนกว่านั้น พอมาลองวิเคราะห์จริงๆแบบคุณ traveller แล้ว ถึงได้เห็นภาพเลย ว่าถ้าจะขายจริงๆ 696,000 ก็เอาอยู่... เรื่องนี้คงคล้ายๆกับว่าตอนยังไม่ได้พูดออกมา ไม่มีใครว่า เพราะไม่รู้ความจริง แต่พอผู้บริหารเอ่ยปากบอกแบบนี้ ถึงได้รู้เลย ว่าคิดอะไรอยู่... คำพูดเป็นนายตัวเองจริงๆ....

ออฟไลน์ Satanic za'

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,073
Re: ไทยหมดลุ้น'เฟียสต้า ดีเซล'
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: สิงหาคม 28, 2010, 11:15:25 »
ตัว TDCi พวงมาลัยที่ส่งขาย ตปท ออปชั่นมีอะไรบ้างอะครับ มีใครพอทราบบ้าง

ถ้าออปชั่นเหมือนแค่ที่ขายในไทย(ตัวเบนซิน)อยู่ตอนนี้ ผมก้เห็นด้วยตามคุณ traveller เลยครับ

แต่ถ้ามาออปชั่นแบบ air bag 7 ใบ,push start engine,cruise control  อะไรพวกนี้เข้ามาแซมๆด้วย ราคา 6 แสนกว่าๆผมว่าน่าจะยากนะครับ

ส่วนตัวก็อยากทราบเหมือนกันว่าตัว TDCi ออปชั่นเป็นอย่างไรบ้าง มีใครทำงานใน AAT ป่าวครับ เอาข้อมูลมาแชร์หน่อยสิ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 28, 2010, 11:19:22 โดย gdhsatanic »

ออฟไลน์ blackzaf

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 80
Re: ไทยหมดลุ้น'เฟียสต้า ดีเซล'
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: สิงหาคม 28, 2010, 11:55:55 »
ถ้าคุณพี่ Traveller จะทำศูนย์บริการเมื่อไหร่

ผมจะตามไปซื้อครับ และถ้าได้ เฟียสต้า 1.6 TDCi Powershift แอร์ดิจิตอล 


ผมยอมซื้อในราคา 769,000 ครับ  ;D

ออฟไลน์ POPROCK

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 387
Re: ไทยหมดลุ้น'เฟียสต้า ดีเซล'
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: สิงหาคม 28, 2010, 12:21:04 »
บทวิเคราะห์ของ อ.Traveller นี่
แน่นอนจริงๆ

ข้อมูลเปรียบเทียบละเอียดยิบ

แค่ Comment เดียว
รู้เรื่องเลย
สังคมดีๆ...ไม่มีขาย
อยากได้...ต้องช่วยกันสร้าง
โดยเริ่มจาก...ตัวเราเอง

ออฟไลน์ malangpor118

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 9
    • อีเมล์
Re: ไทยหมดลุ้น'เฟียสต้า ดีเซล'
« ตอบกลับ #22 เมื่อ: สิงหาคม 28, 2010, 16:23:09 »
 ;) MasterTraveller cool!!!!

ออฟไลน์ Ome-WB

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 104
Re: ไทยหมดลุ้น'เฟียสต้า ดีเซล'
« ตอบกลับ #23 เมื่อ: สิงหาคม 28, 2010, 16:27:52 »
ตามเข้ามาเก็บข้อมูลครับ ^^

อ่านของ คุณ traveller แล้วได้คิดตามเยอะเลยครับ

ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ traveller

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 266
Re: ไทยหมดลุ้น'เฟียสต้า ดีเซล'
« ตอบกลับ #24 เมื่อ: สิงหาคม 28, 2010, 17:59:42 »
เขียนด้วยความบริสุทธ์ใจและไม่มีผลประโยชน์แอบแฝงครับ
ผิดพลาดก็ขออภัยไม่ดื้อครับ
ใจผมอยากซื้อรถฟอร์ดตั้งแต่กระบะเรนเจอร์เปิดตัวครั้งแรก โฆษณาดูราทอร์ด380 ดูดีมากครับ
คนเคยเรียนอยู่อเมริกาต้องอยากซื้อกระบะฟอร์ดด้วยกันทั้งนั้นแหละครับ
แต่ พอเปิดตัวเรนเจอร์ออกมา กลายเป็นเปลือกใหม่บนคัซซีเก่า แถมยังติดของโบราณจากตัวเดิมมาอีกเยอะ
ผิดหวังครับ ยิ่งมาพบว่า ขายแต่ตัว 2.5 เป็นหลัก ไม่มี 3.0 ในกระบะสี่ประตูธรรมดาขับสองไม่ยกสูง
แถมช่วงล่างหน้ายังเป็นทอร์ชั่นบาร์ ฟอร์ดไทยยังโฆษณาว่า All New Ranger ย้ำอีก
ผมก็ผิดหวัง ซ้ำแล้วซ้ำเล่า กับฟอร์ดไทย และเบื่อแล้วครับกับฝีมือของผู้บริหารฟอร์ด
ก็ หวังว่า กระบะตัวใหม่ จะใหม่จริง ช่วงล่างหน้าสปริง กระจกหลังไม่มียางขอบกระจก เบรคมือแบบเก๋ง เบาะหลังกว้างสบายกว่ามิตซูไทรตัน และขอให้มี 3.0 ในรุ่นสี่ประตูขับสองไม่ยกสูง นะครับ

ผมเคยคิดจะเปิดศูนย์บริการมิตซู ที่จังหวัดตาก เจอเงื่อนไข ลงทุนไม่นับค่าที่ดิน 50 ล้านบาท ก็ถอยแล้วครับ
เพราะรถขายได้แค่เดือนละ 5-10 คันเท่านั้นเอง
ทาทา ก็เคยคิดจะเปิด ติดต่อไปเหมือนกัน แต่ ทาทา ก็ยังตอบผมไม่ได้ว่า เก๋งอินดิโกดีเซล ซึ่งผมเชื่อว่า ขายดีแน่จะมาขายเมื่อไร
ซูซูกิ ก็เป็นตัวเลือกเช่นกัน แต่เห็นข่าวเรื่องวุ่นวายเปลี่ยนถ่ายภายในยังไม่เสร็จ ก็เลยรอดูท่าทีเขาก่อน ผมสนใจ รถซูซูกิ เล็ก ที่เป็นผู้ครองตลาดอินเดียอันดับ 1 อยู่ครับ ขายทั้ง เก๋งเบนซิน และ เก๋งดีเซล
ฟอร์ด ก็ยังเป็นตัวเลือกอยู่เเหมือนกันครับ แต่ ติดที่ผมเห็นนโยบายขายรถแล้ว ใครเป็นดีลเล่อร์คงได้บัญชีแดงติดตัวไปหลายปีแน่ครับ เพราะ สมัยนี้ ขายรถอะไรได้ ก็ต้องขาย ไม่มียึกยัก การผลิตสมัยใหม่ ยืดหยุ่น ขายเล็กขายน้อย ทำได้ทั้งนั้นแหละครับ ผมจบโทบริหารโรงงานอเมริกา รุ้ยิ่งกว่ารู้ว่า ทำได้
จึงรู้สึกเบื่อ ที่มักจะได้ยินข้อจำกัดรุ่นรถ ที่ฟอร์ดไทยอ้างในสื่อ นั่นมันข้ออ้างของโรงงานยุค 20 ปีก่อนครับ
โรงงานฟอร์ดในไทย ผลิตส่งออกด้วย ดังนั้น รุ่นที่ส่งออก พวงมาลัยขวา ย่อมต้องขายในไทยได้ คันเดียวก็ขายได้ครับ
ออปชั่นที่ส่งออกกับในไทย ต่างกันก็ได้ ไม่เพิ่มต้นทุนให้โรงงานเลย
ออปชั่นน้อย ยิ่งง่ายต่อการผลิตมากขึ้น ลดขั้นตอนตั้งเยอะ

ยอดขายโตโยต้าที่ญี่ปุ่น ครองตลาดไม่ถึง 40%
แต่ยอดขายโตโยต้าในไทย ครองตลาดกว่า 40%
ตึความได้ว่า รถยนต์ยี่ห้ออื่น ยังสามารถแทรกตัวแย่งตลาดโตโยต้าในไทย ได้ครับ
และคิดต่อไปได้อีกว่า อะไรที่โตโยต้าไทย ยังไม่ขาย รถยี่ห้ออื่นที่คิดชิงส่วนแบ่งการตลาดที่แอบซ่อนอยู่ ต้องขายรถชนิดนั้นครับ
เก๋งดีเซล โตโยต้า ยังไม่ขาย
ดังนั้น ช่องว่างนี้ รถยี่ห้ออื่นต้องนำมาขายครับ ไม่ต้องอ้างเรื่องเกียร์หรอกครับ
โตโยต้า โคโรล่า แท็กซี่ เกียร์ธรรมดา ใช่ไหมครับ
ใครๆก็บอกว่า โคโรล่ามียอดขายมหาศาลจากแท็กซี่
ก็นี่ไงล่ะครับ คนใช้รถเกียร์ธรรมดาในเมือง เป็นตลาดใหญ่ และยังมีพวกเราในเวปคุณจิมมี่เป็นน้ำจิ้มอีกหลายคน
ฟอร์ด เฟียสต้า 1.6TDCi เกียร์ธรรมดา 4 ประตู มีลูกค้าแน่นอนครับ
เขียนไปก็ไม่เชื่อ คงต้องรอให้ ทาทา อินดิโก ดีเซล หรือ ซูซูกิ สวิฟท์ ดีเซล มาขายในไทยก่อน จึงจะเชื่อใช่ไหมครับ

ออฟไลน์ choomy

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 28
Re: ไทยหมดลุ้น'เฟียสต้า ดีเซล'
« ตอบกลับ #25 เมื่อ: สิงหาคม 28, 2010, 22:03:13 »
ธุรกิจยานยนต์ พวก AAT , TOYOTA , HONDA , MITSU , ISUZU , NISSAN ที่ทำตลาดในเมืองไทยเค้าเน้นไปที่ MASS MARKET นะครับ ไม่ได้เน้น NICHE MARKET การทำธุรกิจ เค้าหวังผลกำไรสูงสุดอู่แล้ว จะให้มาห่วงกลุ่มลูกค้ากลุ่มเล็กๆที่ต้องการ นู่น นี่ นั่น หรือจะเน้นไปที่กลุ่มหลักที่เชื่อมันในแบรนด์เหล่านั้นอยู่แล้ว

ถ้าท่านๆเลยว่าถ้าท่านเป็นเจ้าของธุรกิจเองท่านจะสนใจตลาดกลุ่มไหน ในกรณีที่ต้องเลือกแค่กลุ่มเดียว

รายชื่อ MAKER ที่กลุ่วมา เค้าไม่สนใจกลุ่มลูกค้าเล็กๆเลยครับ เค้าสนกลุ่มใหญ่เท่านั้น อะไรได้ไม่คุ้มเสีย เค้าติดทิ้งหมดและครับ

ปล.ความเห็นส่วนตัว มิได้มาเกพับใครครับ

ออฟไลน์ DKtogether

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 95
Re: ไทยหมดลุ้น'เฟียสต้า ดีเซล'
« ตอบกลับ #26 เมื่อ: สิงหาคม 29, 2010, 01:23:03 »
ตามข่าวมาหลายเดือน จนได้รู้ว่า ตัวดีเซลไม่มา ก็ไม่เป็นไรครับ ผมไปหา ยี่ห้ออื่นก็ได้ ที่มีเครื่องดีเซล เก๋ง ขาย แต่ให้ผมซื้อ โฟกัส คันละ ล้าน ผมไปหารถรุ่นอื่นดีกว่า

ออฟไลน์ adobe

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 454
    • อีเมล์
Re: ไทยหมดลุ้น'เฟียสต้า ดีเซล'
« ตอบกลับ #27 เมื่อ: สิงหาคม 29, 2010, 09:14:16 »
ตามข่าวมาหลายเดือน จนได้รู้ว่า ตัวดีเซลไม่มา ก็ไม่เป็นไรครับ ผมไปหา ยี่ห้ออื่นก็ได้ ที่มีเครื่องดีเซล เก๋ง ขาย แต่ให้ผมซื้อ โฟกัส คันละ ล้าน ผมไปหารถรุ่นอื่นดีกว่า

หา เก๋งดีเซล ต่ำกว่าล้าน เหมือนกันครับ
แต่ผมหาแล้ว ไม่เจอในไทย ฝากช่วยหาด้วยนะครับ

รอ Chevrolet Cruze Diesel ก็ไม่รู้ข่าวเลย ปิดเงียบมากๆ
หรือจะ รอ BMW 320d ลดต่ำกว่าล้าน ก็คงฝันไป


ออฟไลน์ blackzaf

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 80
Re: ไทยหมดลุ้น'เฟียสต้า ดีเซล'
« ตอบกลับ #28 เมื่อ: สิงหาคม 29, 2010, 11:49:17 »
ธุรกิจยานยนต์ พวก AAT , TOYOTA , HONDA , MITSU , ISUZU , NISSAN ที่ทำตลาดในเมืองไทยเค้าเน้นไปที่ MASS MARKET นะครับ ไม่ได้เน้น NICHE MARKET การทำธุรกิจ เค้าหวังผลกำไรสูงสุดอู่แล้ว จะให้มาห่วงกลุ่มลูกค้ากลุ่มเล็กๆที่ต้องการ นู่น นี่ นั่น หรือจะเน้นไปที่กลุ่มหลักที่เชื่อมันในแบรนด์เหล่านั้นอยู่แล้ว

ถ้าท่านๆเลยว่าถ้าท่านเป็นเจ้าของธุรกิจเองท่านจะสนใจตลาดกลุ่มไหน ในกรณีที่ต้องเลือกแค่กลุ่มเดียว


ใช่ครับทุกคนมองที่ mass ทั้งหมด  แต่ทุกวันนี้ มีเพียง TOYOTA HONDA ISUZU ที่ทำได้ครับ  จะว่าไป  Honda ก็ทำได้แต่เฉพาะรถเก๋งเท่านั้น  Isuzu ก็ได้แต่รถกระบะ

นอกนั้นกึ่งจะ Niche ไม่ต้องพูดถึง Chev Ford suzuki Hyundai    ในตจว. ขายได้น้อยมากเมื่อเทียบกับ 3 รายข้างต้น


ในเมื่อตลาดเป็นแบบนี้  ทำไมไม่ค่อยๆ สร้างฐานลูกค้าครับ จะหวังแต่ mass ท่าเดียว

จะบอกให้ว่า Captiva แทบจะขายได้แต่เครื่องดีเซล  มาพักหลังที่ตัวขับ 2 ล้อ ดีเซลขายดีกว่าขับ 4 ล้อ

เพื่อนในจังหวัดผมนี่  ซื้อเพราะดีเซลครับ  ถ้าจะมองเบนซิล  คงเสร็จ CRV หมด  ;D

ดูอย่าง Cruze สิครับ Chev ยังดูเกมส์ออก  ดันดีเซลออกมาพร้อมกับเบนซิลเลย


Ford ครับอดีตเคยสร้างความต่างก่อนคู่แข่งตลอด ตั้งแต่ชูความปลอดภัยและเครื่อง 2.5 เทอร์โบ ประตูตู้กับข้าวจนเรนเจอร์ติดตลาด

ตอนนี้คู่แข่งเค้ามีเหมือนคุณหมดแล้ว  ต่อไปจะทำอะไรถ้าไม่เอาเก๋งเล็กเครื่องดีเซลออกมาก่อน  :-\

ออฟไลน์ อืม...นะ

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 648
  • Spirit of the "R"
Re: ไทยหมดลุ้น'เฟียสต้า ดีเซล'
« ตอบกลับ #29 เมื่อ: สิงหาคม 30, 2010, 10:26:07 »
อยากจะบวกให้ อ.traveller ซัก 999 ครั้ง ตอบได้โดนใจผมมาก  ;D
'18 Honda Jazz gk5 s mt
'11 Volkswagen Scirocco R
'04 Honda Integra dc5 Type R
'96 Honda Prelude bb1