ผู้เขียน หัวข้อ: ขับรถมาหลายปียังขับรถไม่คล่อง ขอคำแนะนำในการเพิ่มทักษะการขับขี่ค่ะ  (อ่าน 11120 ครั้ง)

ออฟไลน์ CHANOM

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,093
เราขับรถมาได้ประมาณ 10 ปีแล้วค่ะ หัดขับรถด้วยตัวเอง ไม่ได้ผ่านโรงเรียน
ตอนไปสอบใบขับขี่ใบแรก ก็อ่านด้านทฤษฎีไปบ้าง ส่วนปฏิบัติ ก็ซ่อมเอาจนผ่าน

ทุกวันนี้รู้สึกว่าฝีมือการขับรถตัวเอง ยังไม่พัฒนาไปจากวันแรกๆเท่าไหร่ ทั้งๆที่ก็ขับรถเกือบทุกวัน

โดนบีบแตรใส่บ้างตอนรอกลับรถ เพราะกะจังหวะไม่ได้ ไม่กล้าออก
เข้าลานจอดรถคือที่สุด ถอยไม่ต่ำกว่าสามรอบ ล่าสุดถอยชนกำแพง ตกใจลืมเบรค รถเป็นรอยไปทั้งแถบ

ตกใจแล้วตัดสินใจไม่ถูก กรี๊ด แต่ไม่เบรค ไม่หลบ มาตัดสินใจอีกทีตอนเกือบไม่ทัน
เมื่อช่วงกลางปีไปต่อใบขับขี่มา เกือบสอบสมรรถภาพไม่ผ่าน เพราะเหยียบเบรคไม่ทัน

ช่วงวัยรุ่นก็มีการลองใช้ความเร็วสูงกับเขาบ้าง ปาดซ้ายปาดขวาแบบไม่คิดอะไร
แต่ทุกวันนี้เกิน 100 ก็เริ่มเครียดแล้ว บางทีก็แช่กลาง แช่ขวาบ้างโดยไม่รู้ตัว

เปลี่ยนเลนทีกลายเป็นเรื่องใหญ่ โดนบีบแตรใส่ เพราะเปลี่ยนเลนแล้วกะความเร็วไม่ได้ ไปตัดหน้าเขาบ้าง
เร็วๆนี้ ขับรถมอเตอร์ไซค์คันหน้า เพราะมัวแต่มองกระจกมองข้างเพื่อจะเปลี่ยนเลน โชคดีว่าไม่มีใครเป็นอะไร

.
.

ที่ผ่านมา ก็เคยนั่งรถที่คนอื่นขับ รวมถึงคอยสังเกตในสถานการณ์ต่างๆ เพื่อที่จะลองนำมาปรับใช้กับตัวเองบ้าง เช่น ท่านั่งขับรถที่ถูกต้อง (แม้จะทำไม่ได้) แต่ก็ยังไม่มีพัฒนาการอะไรมาก

จึงเริ่มมีความคิดว่าอยากจะลองไปเรียนขับรถกับเขาบ้าง เพราะเปรียบเทียบตัวเองกับน้องสาว(ที่หัดขับรถจากโรงเรียน)แล้ว น้องสาวเรามีความรู้ด้านกฏหมายจราจรมากกว่าเราพอควร รวมถึงทักษะการขับรถ (การจอดรถ เปลี่ยนเลน) ก็ดูจะมีมากกว่า

ทว่า พอไปคุยกับเพื่อนหลายๆกลุ่มมา เพื่อนกลับบอกว่า โรงเรียนสอนขับรถของไทย ส่วนใหญ่มีไว้แค่ให้สอบใบขับขี่ผ่านเท่านั้น ทักษะอื่นๆ ต้องเรียนรู้เอง

พีคสุดก็คือ "คนบางคนไม่ได้เกิดมาขับรถเก่ง แกอาจจะเป็นหนึ่งในนั้น"  :P

เราไม่ได้ต้องการเป็นคนขับรถเก่ง เพียงแต่อยากจะคล่องตัวมากกว่านี้
เพื่อนๆสมาชิกมีข้อแนะนำอย่างไรบ้างคะ สำหรับเรื่องนี้ ขอบคุณค่ะ ^^
In My Garage
2007 MB A180 CDI W169
2007 MB C220 CDI W203
2021 Mazda CX3 Comfort
2023 Honda Civic E-Hev RS

Sold
2016 Mazda 2 Skyactiv-D High Connect
2019 Honda HRV EL
2021 Subaru Forester IS-Eyesight

ออฟไลน์ NINENOI

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,723
  • Nine & Knight
ถ้าเราซื้อของที่ไม่จำเป็น สุดท้ายเราต้องขายของที่จำเป็น

ออฟไลน์ Alcatraz

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,604
    • อีเมล์
แนะนำที่นี่ครับ ฟรี

http://www.toyotadrivingexperiencepark.com/th/home/index.php

ตลกแล้วครับ เค้ามีไว้ทดสอบสมรรถนะรถ สนามสั้นๆ อาจจะมีบางช่วงที่จัดอบรมพิเศษ แต่ถ้าเข้าไปปกติก็ได้แค่ลองรถสั้นๆ จขกท เค้ามีปัญหาบนถนนจริง

ออฟไลน์ joufo

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,259
อันนี้ไหมครับ
https://www.facebook.com/toyotaracingschool/

เรียนหลักสูตรพื้นฐานน่าจะพอครับ

ออฟไลน์ akewizard

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,620
ถ้าเป็นเรื่องทริคเล็กๆน้อยๆในการใช้รถในชีวิตประจำวัน คลิปตาม yutube หลายๆอย่างผมว่าก็พอช่วยพัฒนาการขับรถได้พอสมควรครับ
เช่นพวกการถอยจอดเข้าซอง การจอดแอบข้างถนน หรือแม้แต่การตีวงเลี้ยวซ้ายโดยที่ล้อไม่ไปเบียดฟุตบาท

ส่วนบางเรื่องที่ต้องอาศัยประสบการณ์จากการขับรถและการตัดสินใจ อาจจะเรียนรู้จากคนที่ขับรถมานานและไม่ขับเสี่ยง
เช่นการรอกลับรถบนถนน highway ที่รถยนต์ใช้ความเร็วสูง การวิ่งผ่านแยกที่ไม่มีไฟแดง การขับในเขตชุมชนและที่แคบ เพราะพวกนี้เป็นสถานการณ์เสี่ยงอันตราย
พวกตามสถาบันสอนขับรถที่ใหญ่ๆหน่อยก็น่าจะมีอบรมเรื่องพวกนี้ด้วย ต้องลองตามดูครับ

ออฟไลน์ Weetting

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,981
  • ช่วงล่าง+เครื่องยนต์
พวกเกมขับรถแบบสมจริง​ก็สามารถนำมาพัฒนาตนเองได้นะครับ​ ส่วนปัญหา​เรื่องการตัดสินใจอย่อันนี้คงต้องลองมีคนนั่งไปด้วยกัน​และให้เค้าคอยช่วยบอก​ แล้วจะมั่นใจเอง​

THE Manual Gearbox Preservation Society
Drive diesel until last day

ออฟไลน์ Akeem-CLII

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 499
  • ทำวันนี้ให้ดีกว่าเมื่อวาน
ผมเป็นคนนึง ที่หัดขับรถเองโดยมีคุณแม่ นั่งไปเป็นเพื่อนตอนขับใหม่ๆ ครับ ส่วนมากทักษะต่างๆ ก็ไม่ค่อยสอนหรอกครับ สังเกตเอาตอนนั่งรถกับผู้ใหญ่มาตั้งแต่เป็นเด็กๆ ประกอบกับสนใจเกี่ยวกับรถยนต์ด้วยครับ เลยขับเป็นค่อนข้างเร็วครับ ไม่ได้เรียนขับรถกับใครที่ไหน

เริ่มหัดขับ ตั้งแต่อายุ 17 ครับ พอคล่องก็ไปสอบใบขับขี่ตอน 18 พอดี ก็อ่านเนื้อหาเตรียมสอบใน internet รวมถึงกฎเกณฑ์ต่างๆ ครับ ไปสอบครั้งแรกก็ผ่านเลย แถมข้อสอบ choice ทฤษฎี ต่างๆ ได้เต็มอีก
ลืมบอกว่า ผมไม่เคยหัดขับรถเกียร์ธรรมดานะครับ เริ่มต้น ก็รถ 4AT กับ CVT เลย

ปัจจุบัน เน้นขับแบบให้คนนั่งด้วยรู้สึกสบายๆ ปลอดภัย ไม่เสียว ครับ และไม่เอาเปรียบสังคมจนเกินไป ไม่รีบครับ แต่ถ้ารีบมากๆ ก็มีตีนผี ปาดไปมา นานๆ ครั้ง
ถ้ารีบส่งคนไป รพ. ก็โทร 1669 เอาครับ ไม่ขับเอง ได้รถ ambulance ไปเร็วกว่าครับ แล้วยัง ปฐมพยาบาลบรรเทาอาการได้ครับ

มีเหตุการณ์เมื่อ 2 ปีก่อน ที่ต้องใช้รถกระบะ เกียร์ธรรมดา ขนของครับ โดยผมมีหน้าที่ขับจากบ้านญาติ ไปที่ทำงานครับ จากนั้น ก็ให้คนอื่นๆ มาใช้กระบะคันนี้อีกที พอใช้เสร็จ ก็ต้องขับจากที่ทำงานไปคืนที่บ้านญาติ ผมก็ได้ youtube ทั้งไทย และต่างประเทศ แหละครับ ช่วยสอน ดู VDO อยู่ 2 วัน ก็ไปลองขับจริงเลย คือก็ขับได้ครับ มีดับบ้าง

ผมเชื่อว่าการได้ดู สื่อที่ดี ก็จะทำให้เราคล่องมากขึ้นครับ ช่วงหลังๆ ผมเลยดู youtube พวก channel เกี่ยวกับการขับรถครับ เพื่อดูว่า ประเทศที่เป็นสากล เขาขับกันยังไงให้สุภาพ แล้วนำมาปรับใช้กับตัวเองครับ แต่ก็มีบางอย่างที่ไม่ใช้ เช่นพวกป้าย stop ตามวงเวียน ที่ต่างประเทศต้องหยุดสนิท แต่คนไทย ไม่ทำ ผมก็ไม่ทำครับ เดี๋ยวโดนชนท้าย

https://www.youtube.com/channel/UC8NQS35cGh8gRl9uSaqoYrw
ลองดู channel นี้ครับเป็นของ UK ดูเล้ว ได้ฝึกภาษาอังกฤษด้วยครับ ช่วงแรกๆ เปิด sub eng ไว้ด้วยตลอด แต่ช่วงหลังๆ เริ่มฟังได้บ้างแล้วครับ
ดูก่อนนอน บางครั้งง่วง ก็ปิด และหลับไปเลยครับ
I will buy Volvo some day.

ออฟไลน์ constanstine

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 54
ผู้หญิงส่วนใหญ่ ในความเห็นส่วนตัวผม เวลาขับรถมักจะอยู่ในท่าทาง

- นั่งหลังไม่ติดเบาะ
- โน้มตัวไปข้างหน้าพวงมาลัย หรือบางท่านชอบปรับเบาะให้สูงและไกล้พวงมาลัยมากๆ
- ระยะแขนถึงพวงมาลัยจะต้องพับข้อศอก ไม่ค่อยเป็นธรรมชาติ

โดยการนั่งแบบนี้ผมมองว่ามันทำให้เราโฟกัสกับการขับขี่มากเกินไป คือสายตาจะจดจ่อแต่กับสิ่งที่อยู่ข้างหน้า (ซึ่งก็คือถนนและรถข้างหน้า) แต่อย่าลืมว่าในถนนจริง ไม่ได้มีแค่ถนนเลนเดียว รถคุณคันเดียว ถึงคุณไม่ชน คนอื่นก็ชนคุณได้ เพราะงั้นก่อนอื่นต้องพยายามปรับทัศนคติตรงนี้ก่อนครับ

ผมเองก็เรียนขับรถด้วยตัวเองโดยการออกถนนจริงและสิ่งแรกๆที่คุณพ่อผมสอนเลยคือ "ต้องคอยมองกระจกหลัง กระจกข้างตลอดเวลาให้เป็นนิสัย" ก็คือขณะขับอยู่ให้คอยเหลือบตาไปมองกระจกทุกๆ 5-10 วิ ไม่ใช่แบบหันไปมองนะครับ แต่แค่เหลือบไปมองเป็นระยะๆ มันจะทำให้รับรู้สิ่งรอบข้างได้มากขึ้นและช่วยให้การตัดสินใจง่ายขึ้นไปด้วยครับ

ออฟไลน์ Swenz

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 47
ขับมา 10 ปี ประสบการณ์น่าจะเยอะแล้ว สายตาน่าจะประเมินความเร็วกะระยะได้ไม่ยาก

อาจเป็นเรื่องบุคลิคส่วนตัวหรือเปล่า อาจเป็นคนขี้กังวลหรือประหม่าบ่อย ไปเรียนกับครูที่โรงเรียนดีแล้วครับ เขาจะได้ช่วยวิเคราะห์ให้เราได้ เพราะเรามีใบขับขี่แล้ว เราก็จะได้ให้เขาโฟกัสจุดที่เรามีปัญหา ไม่ต้องมาสอนแต่เรื่องทริคให้สอบผ่าน

ออฟไลน์ CHANOM

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,093
แนะนำที่นี่ครับ ฟรี

http://www.toyotadrivingexperiencepark.com/th/home/index.php

ตลกแล้วครับ เค้ามีไว้ทดสอบสมรรถนะรถ สนามสั้นๆ อาจจะมีบางช่วงที่จัดอบรมพิเศษ แต่ถ้าเข้าไปปกติก็ได้แค่ลองรถสั้นๆ จขกท เค้ามีปัญหาบนถนนจริง

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะคะ
อันนี้จำเป็นต้องเป็นเจ้าของรถ Toyota ไหมคะ หรือว่าบุคคลทั่วไปก็สมัครได้
ตัวเราเอง ไม่ได้อยากขับรถฉวัดเฉวียนอะไร แต่อยากขับรถให้คล่องขึ้นกว่าเดิม ^^”

อันนี้ไหมครับ
https://www.facebook.com/toyotaracingschool/

เรียนหลักสูตรพื้นฐานน่าจะพอครับ

น่าสนใจเหมือนกัน ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะคะ ^^

ถ้าเป็นเรื่องทริคเล็กๆน้อยๆในการใช้รถในชีวิตประจำวัน คลิปตาม yutube หลายๆอย่างผมว่าก็พอช่วยพัฒนาการขับรถได้พอสมควรครับ
เช่นพวกการถอยจอดเข้าซอง การจอดแอบข้างถนน หรือแม้แต่การตีวงเลี้ยวซ้ายโดยที่ล้อไม่ไปเบียดฟุตบาท

ส่วนบางเรื่องที่ต้องอาศัยประสบการณ์จากการขับรถและการตัดสินใจ อาจจะเรียนรู้จากคนที่ขับรถมานานและไม่ขับเสี่ยง
เช่นการรอกลับรถบนถนน highway ที่รถยนต์ใช้ความเร็วสูง การวิ่งผ่านแยกที่ไม่มีไฟแดง การขับในเขตชุมชนและที่แคบ เพราะพวกนี้เป็นสถานการณ์เสี่ยงอันตราย
พวกตามสถาบันสอนขับรถที่ใหญ่ๆหน่อยก็น่าจะมีอบรมเรื่องพวกนี้ด้วย ต้องลองตามดูครับ

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะคะ สถานการณ์ที่คุณ akewizard ยกมา เป็นสถานการณ์ที่เรามีปัญหาทั้งนั้นเลย สงสัยต้องลองศึกษาเพิ่มเติมดูค่ะ ^^
In My Garage
2007 MB A180 CDI W169
2007 MB C220 CDI W203
2021 Mazda CX3 Comfort
2023 Honda Civic E-Hev RS

Sold
2016 Mazda 2 Skyactiv-D High Connect
2019 Honda HRV EL
2021 Subaru Forester IS-Eyesight

ออฟไลน์ CHANOM

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,093
พวกเกมขับรถแบบสมจริงก็สามารถนำมาพัฒนาตนเองได้นะครับ ส่วนปัญหาเรื่องการตัดสินใจอย่อันนี้คงต้องลองมีคนนั่งไปด้วยกันและให้เค้าคอยช่วยบอก แล้วจะมั่นใจเอง

คนที่บ้าน เมื่อก่อนก็ให้คำแนะนำเวลานั่งไปด้วยกันนะคะ
หลังๆนี้ แทบจะพากย์อย่างเดียวเลยค่ะ “หมุนล้อสิ ไปทางซ้ายอีก เบรคสิ เบรค” 
น่าจะหมดความอดทนกันแล้ว ไม่ได้คำแนะนำอะไรเลยค่ะ  ::)

ผมเป็นคนนึง ที่หัดขับรถเองโดยมีคุณแม่ นั่งไปเป็นเพื่อนตอนขับใหม่ๆ ครับ ส่วนมากทักษะต่างๆ ก็ไม่ค่อยสอนหรอกครับ สังเกตเอาตอนนั่งรถกับผู้ใหญ่มาตั้งแต่เป็นเด็กๆ ประกอบกับสนใจเกี่ยวกับรถยนต์ด้วยครับ เลยขับเป็นค่อนข้างเร็วครับ ไม่ได้เรียนขับรถกับใครที่ไหน

เริ่มหัดขับ ตั้งแต่อายุ 17 ครับ พอคล่องก็ไปสอบใบขับขี่ตอน 18 พอดี ก็อ่านเนื้อหาเตรียมสอบใน internet รวมถึงกฎเกณฑ์ต่างๆ ครับ ไปสอบครั้งแรกก็ผ่านเลย แถมข้อสอบ choice ทฤษฎี ต่างๆ ได้เต็มอีก
ลืมบอกว่า ผมไม่เคยหัดขับรถเกียร์ธรรมดานะครับ เริ่มต้น ก็รถ 4AT กับ CVT เลย

ปัจจุบัน เน้นขับแบบให้คนนั่งด้วยรู้สึกสบายๆ ปลอดภัย ไม่เสียว ครับ และไม่เอาเปรียบสังคมจนเกินไป ไม่รีบครับ แต่ถ้ารีบมากๆ ก็มีตีนผี ปาดไปมา นานๆ ครั้ง
ถ้ารีบส่งคนไป รพ. ก็โทร 1669 เอาครับ ไม่ขับเอง ได้รถ ambulance ไปเร็วกว่าครับ แล้วยัง ปฐมพยาบาลบรรเทาอาการได้ครับ

มีเหตุการณ์เมื่อ 2 ปีก่อน ที่ต้องใช้รถกระบะ เกียร์ธรรมดา ขนของครับ โดยผมมีหน้าที่ขับจากบ้านญาติ ไปที่ทำงานครับ จากนั้น ก็ให้คนอื่นๆ มาใช้กระบะคันนี้อีกที พอใช้เสร็จ ก็ต้องขับจากที่ทำงานไปคืนที่บ้านญาติ ผมก็ได้ youtube ทั้งไทย และต่างประเทศ แหละครับ ช่วยสอน ดู VDO อยู่ 2 วัน ก็ไปลองขับจริงเลย คือก็ขับได้ครับ มีดับบ้าง

ผมเชื่อว่าการได้ดู สื่อที่ดี ก็จะทำให้เราคล่องมากขึ้นครับ ช่วงหลังๆ ผมเลยดู youtube พวก channel เกี่ยวกับการขับรถครับ เพื่อดูว่า ประเทศที่เป็นสากล เขาขับกันยังไงให้สุภาพ แล้วนำมาปรับใช้กับตัวเองครับ แต่ก็มีบางอย่างที่ไม่ใช้ เช่นพวกป้าย stop ตามวงเวียน ที่ต่างประเทศต้องหยุดสนิท แต่คนไทย ไม่ทำ ผมก็ไม่ทำครับ เดี๋ยวโดนชนท้าย

https://www.youtube.com/channel/UC8NQS35cGh8gRl9uSaqoYrw
ลองดู channel นี้ครับเป็นของ UK ดูเล้ว ได้ฝึกภาษาอังกฤษด้วยครับ ช่วงแรกๆ เปิด sub eng ไว้ด้วยตลอด แต่ช่วงหลังๆ เริ่มฟังได้บ้างแล้วครับ
ดูก่อนนอน บางครั้งง่วง ก็ปิด และหลับไปเลยครับ

ขอบคุณที่แชร์ประสบการณ์นะคะ

ส่วนตัวเราเอง ประสบการณ์ขับรถส่วนใหญ่อยู่ในต่างประเทศค่ะ เพิ่งกลับมารถในเมืองไทยได้ 2-3 ปีนี้เอง
แต่ช่วงที่อยู่ที่นู้น ก็ขับรถแค่วันละ 1-2 กิโลเมตรเอง เพราะปกติมีคนขับรถให้นั่งตลอด

คิดว่าตามปกติแล้ว เราขับรถค่อนข้างปลอดภัยนะคะ เพราะไม่ได้มีพฤติกรรมหวาดเสียวอะไร
เพียงแต่กลัวตัวเองจะไปเป็นภัยต่อรถคันอื่น เพราะการไม่กล้าตัดสินใจของตัวเองนี้แหละ ^^”

ผู้หญิงส่วนใหญ่ ในความเห็นส่วนตัวผม เวลาขับรถมักจะอยู่ในท่าทาง

- นั่งหลังไม่ติดเบาะ
- โน้มตัวไปข้างหน้าพวงมาลัย หรือบางท่านชอบปรับเบาะให้สูงและไกล้พวงมาลัยมากๆ
- ระยะแขนถึงพวงมาลัยจะต้องพับข้อศอก ไม่ค่อยเป็นธรรมชาติ

โดยการนั่งแบบนี้ผมมองว่ามันทำให้เราโฟกัสกับการขับขี่มากเกินไป คือสายตาจะจดจ่อแต่กับสิ่งที่อยู่ข้างหน้า (ซึ่งก็คือถนนและรถข้างหน้า) แต่อย่าลืมว่าในถนนจริง ไม่ได้มีแค่ถนนเลนเดียว รถคุณคันเดียว ถึงคุณไม่ชน คนอื่นก็ชนคุณได้ เพราะงั้นก่อนอื่นต้องพยายามปรับทัศนคติตรงนี้ก่อนครับ

ผมเองก็เรียนขับรถด้วยตัวเองโดยการออกถนนจริงและสิ่งแรกๆที่คุณพ่อผมสอนเลยคือ "ต้องคอยมองกระจกหลัง กระจกข้างตลอดเวลาให้เป็นนิสัย" ก็คือขณะขับอยู่ให้คอยเหลือบตาไปมองกระจกทุกๆ 5-10 วิ ไม่ใช่แบบหันไปมองนะครับ แต่แค่เหลือบไปมองเป็นระยะๆ มันจะทำให้รับรู้สิ่งรอบข้างได้มากขึ้นและช่วยให้การตัดสินใจง่ายขึ้นไปด้วยครับ

ท่านั่งของเราประมาณที่คุณ constanstine ว่าเลยค่ะ หลังตรง ใกล้กับพวงมาลัย
เพราะเข้าใจว่าถ้านั่งแบบนี้แล้ว จะทำให้เห็นระยะหน้ารถให้ชัดขึ้น

ยอมรับเลยค่ะ ว่าตัวเองไม่ค่อยมองกระจก จะมองแค่เวลาเปลี่ยนเลนเท่านั้น กลัวมองบ่อยๆแล้วลืมมองข้างหน้าน่ะค่ะ ^^”
In My Garage
2007 MB A180 CDI W169
2007 MB C220 CDI W203
2021 Mazda CX3 Comfort
2023 Honda Civic E-Hev RS

Sold
2016 Mazda 2 Skyactiv-D High Connect
2019 Honda HRV EL
2021 Subaru Forester IS-Eyesight

ออฟไลน์ Odd_yim

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 439
    • อีเมล์
ขอแชร์เป็นข้อ ๆ นะครับ
1. กลับรถ ต้องรู้วงเลี้ยวรถที่ขับอยู่ก่อนว่าแคบแค่ไหน และเวลากลับแล้วต้องอยู่เลนไหนจึงจะปลอดภัย ถ้าเป็นในกทม ก็อยู่เลนขวาสุด เพราะต้องระวังมอไซ ส่วนตามทางหลวง ควรจะไปอยู่ซ้ายสุดครับ เพราะเลนขวาวิ่งกันเร็ว เวลากลับต้องหมุนพวงมาลัยให้เร็วที่สุด ทริค คือ ให้หงายมือซ้ายจับขอบบน จะหมุนได้เร็วขึ้นครับ
2. ถอยเข้าซอง ซ้ายหรือขวา ก็ได้คล้าย ๆ กัน คือ ต้องรู้มิติรถที่ขับก่อนว่ากว้าง ยาว ประมาณไหน เวลาจะเข้าให้พยายามชิดด้านที่จะเข้ามากที่สุด เปิดไฟกะพริบ ขับเลยไปหน่อย กะให้ท้ายอยู่พอดีมุมที่จะเข้า ถ้ามีพื้นที่ให้หันหัวรถไปด้านตรงข้ามก่อน แบบนี้ ถอยจังหวะเดียวจะได้พอดีครับ ถ้ากะระยะไม่ถูก ก็ดูแนวรถที่จอดข้าง ๆ ก็ได้ครับ
3. เปลี่ยนเลนเพื่อแซง จะซ้ายหรือขวาต้องเปิดไฟเลี้ยวเสมอนะครับ เดี๋ยวนี้เจอแต่เปลี่ยนเลนดื้อ ๆ ไม่เปิดไฟ คือ อาจจะโดนมอไซ หรือรถใหญ่ที่เบรคไม่ทันชนได้ง่าย ๆ นะครับ บางทีผมเจอรถช้าต้องแซง ซ้าย-ขวา หรือ ซ้าย-ซ้าย-ขวา-ขวา ความเร็วไม่เกิน 120 ก็เปิดไฟตลอดครับ เวลาจะแซง ผมจะเว้นระยะข้างหน้าไว้นิดหน่อย ปล่อยคันเร่งไว้ก่อนเผื่อมีเหตุการณ์ไม่คาดคิด จะได้เบรคทัน ถ้าเป็นเกียร์ CVT เวลาปล่อยคันเร่ง ความเร็วจะไม่ค่อยตกครับ ตอนจะแซง จะเหยียบคันเร่งอย่างเดียว หรือใช้เกียร์ช่วยด้วย ก็แล้วแต่จังหวะ สำคัญที่สุดคือ แซงแล้วต้องไปอยู่ในระยะที่ปลอดภัย ถ้าแซงแล้วไปเบรคกระชั้นชิด มีโอกาสโดนชนท้ายสูงครับ

ออฟไลน์ Tien.W

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,236
    • อีเมล์
ไม่แน่ใจว่า โครงการ HONDA SAFE&SAVE ยังมีอยู่ไหม ? สำหรับคนใช้ HONDA เป็นการอบรม พื้นฐานการขับรถเบื้องต้น การปรับเบาะ การจับพวงมาลัย การใช้เบรค ABS ตลอดจนการดูแลรักษารถเบื้องต้น เรียนแถวสุขา 3 น่ะครับ ถ้ามีลองลงเรียนดูครับ

ส่วนเรื่องบนถนน ..

อยากให้เปลี่ยนความคิดแบบนี้ครับ .. คือ ถ้าวันนี้คุณโดนบีบแตร กลับถึงบ้าน ลองคิดว่า เอ เมื่อกี้ เราโดนบีบแตรเพราะอะไรนะ ? เปลี่ยนเลนกระชั้นชิด ไปปาดหน้าเค้า หรือ ลืมเปิดไฟเลี้ยว หรือ ไม่ได้มองกระจกข้าง หรือ เปลี่ยนแล้วไม่ดูความเร็วเค้า ไม่ได้เร่งเครื่อง ... คิดแบบไม่เข้าข้างตัวเองนะ พอได้คำตอบแล้ว รอบหน้าก็แก้ไขมันซะ

ทำไปทีละเรื่อง สองเรื่อง เดี๋ยวดีเองครับ

เรื่องกล้าตัดสินใจ อันนี้ อาจจะต้องหาคนขับเป็น นั่งเป็นเพื่อน แล้วคอยบอก จังหวะนี้ได้ จังหวะนั้นได้ น่ะครับ

ออฟไลน์ spn

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,734
สำหรับผมนะ ที่ขับรถคล่อง
0.ชอบเล่นเกมขับรถตั้งแต่เด็ก เช่น Burn out ในห้าง เกมจอดรถในมือถือ

1.พ่อให้ขับรถกระบะตอน ม.3 ถอยเข้า ออกโรงจอดรถ

2.พ่อให้หัดขับไป รร. เอง ตอน ม.4-5 (รถเก๋ง) พ่อนั่งไปด้วย พ่อจะบอกเล่ากฏจราจร การมีน้ำใจกับรถคันอื่น การเข้า-ออกซอง จอดรถขนาดกับฟุตบาท แต่ไม่เคยขับเองคนเดียว (จากบ้านไปรร.แค่ 2 กม.)

3.ม.6 อายุครบ 18 ปี ทำใบขับขี่ได้ พ่อให้ขับไปรร.เอง เวลาไปตจว. พ่อก็ให้ขับก่อนประมาณ 40 กม. สอนการปรับเบาะ ปรับกระจก

4.เข้ามหาลัยไม่เคยขับรถยนต์เลย เรียนจบมา เป็นคนขับรถให้พ่อ 2 เดือน พ่อให้ขับรถบรรทุก KIA สอนการปรับเบาะ เทคนิคขับรถตอนกลางคืน ตอนฝนตก การแก้ไขสถานการณ์ถ้ารถเสีย/รถลื่นไถล เบรกแตก ขับบรรทุกของ 2-3 ตัน แล้วควบคุมรถให้ได้ ขับรถทางไกล 2-300 กม. โดยมีพ่อไปด้วยทั้งหมด... เข้าเดือนที่ 3 พ่อก็ปล่อยให้ขับรถไปไหนมาไหนเอง

อาจยืดยาวไปหน่อย สรุปแล้วหัวใจสำคัญของการพัฒนาทักษะขับรถ

1.ทักษะการมองรอบคัน กระจกมองข้าง กระจกมองหลัง มองให้สม่ำเสมอ แต่อย่านาน ทำให้ชิน
**พ่อสอนโดยการให้ขับถอยหลังวนในหมู่บ้านวันละหลายๆรอบ จนไม่งงเรื่องการมองกระจก การหมุนพวงมาลัย**

2.ทักษะการประเมินสถานการณ์ล่วงหน้า เช่น
- ข้างหน้ามี U turn เลนขวารถจะติด ก็ให้เบี่ยงซ้ายก่อน
- มีรถออกจากซอย แล้วมี U turn ให้คาดการณ์ว่ารถจะตัดหน้าไปถึง U turn ให้ชะลอก่อน
- วิ่งเลนขวา คันหน้าเหยียบเบรก ให้คิดเลยว่า ข้างหน้ามีรถช้า/ทางก่อสร้าง/อุบัติเหตุ ให้มองรถที่ตามมาข้างหลัง+ชะลอ หากจะเข้าซ้าย ต้องคิดเผื่อว่ารถคันหน้าก็จะเข้าซ้ายเหมือนกัน/มีอุบัติเหตุ/ทางก่อสร้างทางซ้าย มองให้รอบคัน ตั้งสติไว้ตลอดเวลา

3.ขับรถคันนั้นๆให้ชิน จขกท ถ้าจำไม่ผิด เพิ่งออกรถใหม่ ตอนนี้น่าจะชินแล้วนะครับ

4.ศึกษาเส้นทางก่อนเดินทาง ดูจุดสังเกตในการเลี้ยว ยูเทิร์น ทางเบี่ยง การชินกับเส้นทางก็จะช่วยได้เยอะ

5.การจับรถทางไกล ได้ใช้ทักษะครบเลย หากยังไม่ชิน แนะนำให้ไปเที่ยว ตจว บ้างครับ

ข้อ 1,2,5 สำคัญมากครับ + มีน้ำใจกับผู้อื่นเสมอ หวังว่าจะเป็นประโยชน์นะครับ

 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 23, 2019, 19:58:53 โดย Nat_spn »
E220d W213
Camry 2.5 HV Premium
BT50 Free Style Cab Hi racer
Revo 2.8J B cab 4x4
March 1.2 CVT
KIA Jumbo 1JZ-GE AT

ออฟไลน์ Amnaj

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 508
ผมมองว่าเป็นเรื่องการคิด ตัดสินใจ  คงต้องฝึก คิดไว้ก่อนและคาดการณ์ล่วงหน้า และควบคุมสติ มองกระจกหลัง ข้าง บ่อยๆ

ออฟไลน์ yourturle

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,080
    • อีเมล์
อ่านแล้วเข้าใจ คนอื่นเลย ว่าสถานการณแต่ละท่านไม่เท่ากัน

ค้องเพิ่ม  ปสก และความเรว ไว ในการคิด ตัดสินใจ
One Day.

ออฟไลน์ SpiRious

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 163
    • อีเมล์
ถอยจอดในห้างมีปัญหา แนะนำโหลดเกมมือถือที่มันให้หมุนเข้าที่จอดดูครับ จะทำให้เข้าใจหลักการถอยมากขึ้น เหมือนมีกล้อง 360

เวลาเปลี่ยนเลนส์ แล้วโดนกดแตร ผมว่าน่าจะมาจากการที่คันหลังมาเร็ว แล้วคุณช้ากว่า แล้วตวัดออกมา ก็จะโดนเป็นธรรมดา
แนะนำให้ มองกระจกก่อนเปลี่ยนเลนส์สักพักนึง ดูว่าความเร็วเค้ามากกว่าเรามั้ย ถ้ายังห่างเหมือนที่มองรอบแรกค่อยออก เปิดไฟเลี้ยวด้วยนะ

จากที่ผมสังเกต แม่กับแฟนผม เค้าจะขับรถแบบตัวชิดพวกมาลัย โฟกัสด้านหน้ารถมากเกินไป ทำให้ด้านข้าง กับข้างหลังไม่ค่อยได้มอง
มักจะมีปัญหาแบบนี้เกิดเวลาเปลี่ยนเลนส์ คือจะตัดสินใจไม่ถูกว่าออกได้มั้ย

เรื่องกลับรถ รอจนโดนคันหลังกดแตร ผมว่ามาจากการที่มองความเร็วรถไม่ออก ว่าเราออกไป เราจะรอดมั้ย
อันนี้ผมว่าต้องใช้ประสบการณ์ เพราะ มันอยู่ที่เราด้วยว่าพุ่งออกไปแล้วเร่งเร็วด้วยมั้ย ถ้ากลับรถแบบไหลๆไม่ค่อยเร่ง มันก็ต้องรอช่องที่ใหญ่ขึ้นตาม
2014 - Fortuner 2.7
2017 - Yaris 1.2 (swap engine 1nz-mt)
2021 - Crv 2.4 AWD

ออฟไลน์ Zachary C

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,254
  • Beauty is in the Eyes of the Beholder
    • อีเมล์
คุณ Chanom อยู่บนบอร์ดนี้ มานานมาก .. ถ้าไม่ตั้งกระทู้ คงไม่ทราบเลยว่า คุณรู้สึก ประหม่า? / uneasy? กับการขับรถ

สิ่งที่ผมแนะนำได้ ในขณะนี้ นอกจากการไปเรียนที่ driving school ใดๆ คือ:

'ใจ' ต้องนิ่งครับ

 ::)


คุณเคยผ่ากบ ในคลาส ตอนเด็กๆไหมครับ? เวลาจรดมีด moment นั้น คือ สมาธิ เพราะเราทราบว่า สิ่งที่ทำมันสำคัญแค่ไหน

คุณลองนึกถึงตอนกระโดด ลงสระ จากสปริงบอร์ด ครั้งแรก .. มันระทึก แต่ moment นั้น เวลา และ ทุกสิ่งรอบตัวคุณ จะช้าลง

.

เริ่มที่ตรงนี้ก่อน คุณจะ 'เห็น' หรือ 'สัมผัส' ระยะ/ช่องว่าง/สภาพแวดล้อม ได้มากขึ้น ในเวลาที่จำกัด

ที่สำคัญ เมื่อ 'ลงมือ' แล้ว ห้ามถอย


ส่วนตัว ผมกลัวรถตัดหน้า ที่ไปอย่างรวดเร็ว น้อยกว่า รถตัดหน้าที่ยึกยัก ครับ  :)

เป็นกำลังใจให้นะครับ
Hopefully, my old grande dame, the CRV G.1, will eventually become a classic!

2017 Honda BR-V SV telematics (Amber Brown)
2015 Honda Mobilio RS telematics (Pearl White)
1998 Honda CRV EXI G1 (Metallic Bronze)

ออฟไลน์ johnlee

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,601
    • อีเมล์
เท่าที่อ่านดู   ทักษะการประเมินเหตุการณ์  การสั่งการร่างกายตัวเอง


การควบคุมจิตใจของคุณ  แย่จนเกือบๆจะขับรถไม่ได้ละ


แต่ยังดีกว่าภรรยาผม รายนั้นเหวอจนขับไม่ได้  ผมไม่ให้ขับ  กลัวจะไปทำคนตายเปล่าๆ


ลองฝึกเล่นกีฬามั้ยครับ ฝึกสมองสั่งการควบคุมมือเท้า  ให้มันได้ดั่งใจมากกว่านี้
2535-2555 Nissan Big-m z16
2555-2561 Nissan Big-m Td27 + Bd25
2555- 2566 -Nissan Almera N17
2561- present -Isuzu D-max spacecab SLX 3.0
2566 - present Honda Jazz ge v a/t

ออฟไลน์ NINENOI

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,723
  • Nine & Knight
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะคะ
อันนี้จำเป็นต้องเป็นเจ้าของรถ Toyota ไหมคะ หรือว่าบุคคลทั่วไปก็สมัครได้
ตัวเราเอง ไม่ได้อยากขับรถฉวัดเฉวียนอะไร แต่อยากขับรถให้คล่องขึ้นกว่าเดิม ^^”



ไม่จำเป็นครับ ลองโทรสอบถามเค้าก่อนครับว่าเค้ามีอบรมในสิ่งที่เราต้องการรึเปล่าจะได้ไม่เสียเที่ยว จองก็จองที่เวปได้เลย ถ้าได้ไปยังไงมารีวิวให้หน่อยนะครับ ผมอยากลองเซียนต้าแต่ไม่มีเวลาไปเลย ของคุณผมแนะนำ CHR นะครับ รถที่สูงกว่ารถเก๋งหน่อยๆทัศนวิสัยจะดีกว่ากันอาจขับง่ายขึ้น
ถ้าเราซื้อของที่ไม่จำเป็น สุดท้ายเราต้องขายของที่จำเป็น

ออฟไลน์ DiKiBoyZ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,247
    • อีเมล์
ต้องถามว่า ที่บอกว่า ทักษะพอๆ กับวันแรกที่ขับรถ อันนี้ผมว่าไม่ใช่นะครับ ขับรถมา 10 ปี ภาวะการตัดสินใจ การตอบสนองของทั้งความคิดและร่างกาย ไม่เท่าเดิมแน่ๆ แค่อาจจะไม่มีผลประเมิน หรือ ผลลัพธ์เป็นกระดาษให้มานั่งอ่าน ซึ่งตัวคุณเอง อาจจะไม่รู้ตัวเองมากกว่า

ส่วนเรื่องบุคลิคคัวคุณเอง เป็นแบบนั้นหรือป่าวครับ เลยทำให้ดูเหมือนขับรถไม่เก่ง เช่น ขี้กลัว ไม่กล้าติดสินใจ เลยทำให้ดูเก้ๆ กังๆ

ถ้าให้แนะนำ ผมแนะนำให้ลองหาเพื่อร่วมงาน หรือ ในวงเพื่อนๆ ที่คุณคิดว่า เขาขับรถเก่งหรือขับรถเป็น ที่คุณมองว่า นี่ละที่คุณมองว่าโอเค แล้วลองขอให้เขาสอน หรือ นั่งรถไปกับเขาแล้วลองสังเกตุจังหวะต่างๆ เช่น กลับรถ ออกตัว ขับตามคันหน้า เข้าซอยแคบ ขับใช้ความเร็ว และ อื่นๆ

หรือลองไปลงคอร์ดเรียน รร.สอนขับรถ ดูก็ได้ครับ ถ้าคิดว่าข้างบนไม่พอ อาจจะช่วยให้ได้ข้อมูลเยอะขึ้น มีโค้ชมีครูช่วยแนะนำ

แนะนำที่นี่ครับ ฟรี

http://www.toyotadrivingexperiencepark.com/th/home/index.php

ต้องเป็น Toyota Racing School ครับ ที่ท่านยกมา เป็น สนามทดสอบรถ ของ Toyota เท่านั้น ไม่ได้เกี่ยวกับการฝึกทักษะของคนขับแต่อย่างใด(อาจจะมีบ้าง กรณีรถเสียอาการ อาจจะได้ประสบการณ์จากต่างนั้น แต่ไม่ใช่วัตถุประสงค์หลัก)

ออฟไลน์ CHANOM

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,093
ขับมา 10 ปี ประสบการณ์น่าจะเยอะแล้ว สายตาน่าจะประเมินความเร็วกะระยะได้ไม่ยาก

อาจเป็นเรื่องบุคลิคส่วนตัวหรือเปล่า อาจเป็นคนขี้กังวลหรือประหม่าบ่อย ไปเรียนกับครูที่โรงเรียนดีแล้วครับ เขาจะได้ช่วยวิเคราะห์ให้เราได้ เพราะเรามีใบขับขี่แล้ว เราก็จะได้ให้เขาโฟกัสจุดที่เรามีปัญหา ไม่ต้องมาสอนแต่เรื่องทริคให้สอบผ่าน

สายตาเราไม่ดีค่ะ (สั้น -450) แต่เพราะใส่คอนแทคเลนส์ตลอด ก็เลยไม่คิดเหมือนกันว่าเป็นที่สายตา เรื่องบุคลิก อาจจะมีความเป็นไปได้นะคะ เพราะเป็นคนที่ลังเลกับการตัดสินใจพอสมควรเลย

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำด้านโรงเรียนนะคะ

ขอแชร์เป็นข้อ ๆ นะครับ
1. กลับรถ ต้องรู้วงเลี้ยวรถที่ขับอยู่ก่อนว่าแคบแค่ไหน และเวลากลับแล้วต้องอยู่เลนไหนจึงจะปลอดภัย ถ้าเป็นในกทม ก็อยู่เลนขวาสุด เพราะต้องระวังมอไซ ส่วนตามทางหลวง ควรจะไปอยู่ซ้ายสุดครับ เพราะเลนขวาวิ่งกันเร็ว เวลากลับต้องหมุนพวงมาลัยให้เร็วที่สุด ทริค คือ ให้หงายมือซ้ายจับขอบบน จะหมุนได้เร็วขึ้นครับ
2. ถอยเข้าซอง ซ้ายหรือขวา ก็ได้คล้าย ๆ กัน คือ ต้องรู้มิติรถที่ขับก่อนว่ากว้าง ยาว ประมาณไหน เวลาจะเข้าให้พยายามชิดด้านที่จะเข้ามากที่สุด เปิดไฟกะพริบ ขับเลยไปหน่อย กะให้ท้ายอยู่พอดีมุมที่จะเข้า ถ้ามีพื้นที่ให้หันหัวรถไปด้านตรงข้ามก่อน แบบนี้ ถอยจังหวะเดียวจะได้พอดีครับ ถ้ากะระยะไม่ถูก ก็ดูแนวรถที่จอดข้าง ๆ ก็ได้ครับ
3. เปลี่ยนเลนเพื่อแซง จะซ้ายหรือขวาต้องเปิดไฟเลี้ยวเสมอนะครับ เดี๋ยวนี้เจอแต่เปลี่ยนเลนดื้อ ๆ ไม่เปิดไฟ คือ อาจจะโดนมอไซ หรือรถใหญ่ที่เบรคไม่ทันชนได้ง่าย ๆ นะครับ บางทีผมเจอรถช้าต้องแซง ซ้าย-ขวา หรือ ซ้าย-ซ้าย-ขวา-ขวา ความเร็วไม่เกิน 120 ก็เปิดไฟตลอดครับ เวลาจะแซง ผมจะเว้นระยะข้างหน้าไว้นิดหน่อย ปล่อยคันเร่งไว้ก่อนเผื่อมีเหตุการณ์ไม่คาดคิด จะได้เบรคทัน ถ้าเป็นเกียร์ CVT เวลาปล่อยคันเร่ง ความเร็วจะไม่ค่อยตกครับ ตอนจะแซง จะเหยียบคันเร่งอย่างเดียว หรือใช้เกียร์ช่วยด้วย ก็แล้วแต่จังหวะ สำคัญที่สุดคือ แซงแล้วต้องไปอยู่ในระยะที่ปลอดภัย ถ้าแซงแล้วไปเบรคกระชั้นชิด มีโอกาสโดนชนท้ายสูงครับ

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะคะ อ่านแล้วยังนึกภาพไม่ค่อยออก แต่จะลองนำไปปรับใช้ดูค่ะ ^^

การกลับรถ: ส่วนตัวมีปัญหากับการอ่านความเร็วรถฝั่งตรงข้ามมากที่สุด เคยรถชนตอนกลับรถมาแล้วรอบนึง เพราะมองไม่เห็นถึงเลนซ้าย ทุกวันนี้ก็เลยยิ่งกังวลหนักกว่าเดิมเวลากลับรถค่ะ ปัญหาอีกอย่าคือการหมุนพวงมาลัยกลับไม่ทันด้วย เพราะไม่แน่ใจว่ากลับรถมาแล้ว ตัวเองควรอยู่เลนไหนนี้แหละค่ะ

การจอดรถ: ถ้าเป็นช่องจอดโล่งๆ อันนี้ไม่ค่อยมีปัญหาค่ะ พอเข้าใจว่า ตั้งมุม 45 องศา แล้วก็เริ่มจากตรงนั้น แต่พอเป็นช่องจอดแปลกๆ (ติดกำแพง/สุดทางเดินรถ) หรือ มีรถจอดขวางฝั่งใดฝั่นนึงปุ๊บ อันนี้จะเริ่มงง และนึกภาพไม่ออกจริงๆค่ะ บางทีก็กังวลจนหมุนผิดหมุนถูกเหมือนกัน

ไม่แน่ใจว่า โครงการ HONDA SAFE&SAVE ยังมีอยู่ไหม ? สำหรับคนใช้ HONDA เป็นการอบรม พื้นฐานการขับรถเบื้องต้น การปรับเบาะ การจับพวงมาลัย การใช้เบรค ABS ตลอดจนการดูแลรักษารถเบื้องต้น เรียนแถวสุขา 3 น่ะครับ ถ้ามีลองลงเรียนดูครับ

ส่วนเรื่องบนถนน ..

อยากให้เปลี่ยนความคิดแบบนี้ครับ .. คือ ถ้าวันนี้คุณโดนบีบแตร กลับถึงบ้าน ลองคิดว่า เอ เมื่อกี้ เราโดนบีบแตรเพราะอะไรนะ ? เปลี่ยนเลนกระชั้นชิด ไปปาดหน้าเค้า หรือ ลืมเปิดไฟเลี้ยว หรือ ไม่ได้มองกระจกข้าง หรือ เปลี่ยนแล้วไม่ดูความเร็วเค้า ไม่ได้เร่งเครื่อง ... คิดแบบไม่เข้าข้างตัวเองนะ พอได้คำตอบแล้ว รอบหน้าก็แก้ไขมันซะ

ทำไปทีละเรื่อง สองเรื่อง เดี๋ยวดีเองครับ

เรื่องกล้าตัดสินใจ อันนี้ อาจจะต้องหาคนขับเป็น นั่งเป็นเพื่อน แล้วคอยบอก จังหวะนี้ได้ จังหวะนั้นได้ น่ะครับ

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ เดี๋ยวจะลองถามไปทางเซลล์ที่เราออกรถด้วยดูค่ะ

คนที่บ้าน เมื่อก่อนก็เน้นให้คำแนะนำเวลานั่งไปด้วย หลังๆใช้เป็นการบอกแล้วค่ะ
คิดว่าน่าจะหมดความอดทนแล้วเหมือนกัน เราเลยคิดว่าไปโรงเรียนเลยน่าจะดีกว่า ^^

สำหรับผมนะ ที่ขับรถคล่อง
0.ชอบเล่นเกมขับรถตั้งแต่เด็ก เช่น Burn out ในห้าง เกมจอดรถในมือถือ

1.พ่อให้ขับรถกระบะตอน ม.3 ถอยเข้า ออกโรงจอดรถ

2.พ่อให้หัดขับไป รร. เอง ตอน ม.4-5 (รถเก๋ง) พ่อนั่งไปด้วย พ่อจะบอกเล่ากฏจราจร การมีน้ำใจกับรถคันอื่น การเข้า-ออกซอง จอดรถขนาดกับฟุตบาท แต่ไม่เคยขับเองคนเดียว (จากบ้านไปรร.แค่ 2 กม.)

3.ม.6 อายุครบ 18 ปี ทำใบขับขี่ได้ พ่อให้ขับไปรร.เอง เวลาไปตจว. พ่อก็ให้ขับก่อนประมาณ 40 กม. สอนการปรับเบาะ ปรับกระจก

4.เข้ามหาลัยไม่เคยขับรถยนต์เลย เรียนจบมา เป็นคนขับรถให้พ่อ 2 เดือน พ่อให้ขับรถบรรทุก KIA สอนการปรับเบาะ เทคนิคขับรถตอนกลางคืน ตอนฝนตก การแก้ไขสถานการณ์ถ้ารถเสีย/รถลื่นไถล เบรกแตก ขับบรรทุกของ 2-3 ตัน แล้วควบคุมรถให้ได้ ขับรถทางไกล 2-300 กม. โดยมีพ่อไปด้วยทั้งหมด... เข้าเดือนที่ 3 พ่อก็ปล่อยให้ขับรถไปไหนมาไหนเอง

อาจยืดยาวไปหน่อย สรุปแล้วหัวใจสำคัญของการพัฒนาทักษะขับรถ

1.ทักษะการมองรอบคัน กระจกมองข้าง กระจกมองหลัง มองให้สม่ำเสมอ แต่อย่านาน ทำให้ชิน
**พ่อสอนโดยการให้ขับถอยหลังวนในหมู่บ้านวันละหลายๆรอบ จนไม่งงเรื่องการมองกระจก การหมุนพวงมาลัย**

2.ทักษะการประเมินสถานการณ์ล่วงหน้า เช่น
- ข้างหน้ามี U turn เลนขวารถจะติด ก็ให้เบี่ยงซ้ายก่อน
- มีรถออกจากซอย แล้วมี U turn ให้คาดการณ์ว่ารถจะตัดหน้าไปถึง U turn ให้ชะลอก่อน
- วิ่งเลนขวา คันหน้าเหยียบเบรก ให้คิดเลยว่า ข้างหน้ามีรถช้า/ทางก่อสร้าง/อุบัติเหตุ ให้มองรถที่ตามมาข้างหลัง+ชะลอ หากจะเข้าซ้าย ต้องคิดเผื่อว่ารถคันหน้าก็จะเข้าซ้ายเหมือนกัน/มีอุบัติเหตุ/ทางก่อสร้างทางซ้าย มองให้รอบคัน ตั้งสติไว้ตลอดเวลา

3.ขับรถคันนั้นๆให้ชิน จขกท ถ้าจำไม่ผิด เพิ่งออกรถใหม่ ตอนนี้น่าจะชินแล้วนะครับ

4.ศึกษาเส้นทางก่อนเดินทาง ดูจุดสังเกตในการเลี้ยว ยูเทิร์น ทางเบี่ยง การชินกับเส้นทางก็จะช่วยได้เยอะ

5.การจับรถทางไกล ได้ใช้ทักษะครบเลย หากยังไม่ชิน แนะนำให้ไปเที่ยว ตจว บ้างครับ

ข้อ 1,2,5 สำคัญมากครับ + มีน้ำใจกับผู้อื่นเสมอ หวังว่าจะเป็นประโยชน์นะครับ

 

ขอบคุณสำหรับทุกคำแนะนำนะคะ จะลองนำไปปรับใช้ค่ะ

1. ส่วนตัวติดการต้องมองพวงมาลัยเวลาถอยรถค่ะ ถ้าจะมองกระจกมองข้างต้องหยุดรถ ไม่นั้นจะเริ่มไม่แน่ใจแล้ว ว่าพวงมาลัยรถตัวเองหมุนอยู่มุมไหน
2. อันนี้ค่อนข้างพอไหว อาจจะเป็นเพราะเว้นที่ไว้พอสมควรด้วย
3. ทุกวันนี้ก็ยังไม่ค่อยคุ้นกับรถค่ะ แต่ก็ยังต้องปรับตัวกันไป ^^
4. ไม่ค่อยได้ขับรถออกนอกเส้นทางเลยค่ะ ออกทีก็หลงที เลยไม่ค่อยอยากไปไหน
5. สงสัยต้องลองหาโอกาสไปต่างจังหวัดดูค่ะ ไม่ค่อยได้ไปไหนเลย
In My Garage
2007 MB A180 CDI W169
2007 MB C220 CDI W203
2021 Mazda CX3 Comfort
2023 Honda Civic E-Hev RS

Sold
2016 Mazda 2 Skyactiv-D High Connect
2019 Honda HRV EL
2021 Subaru Forester IS-Eyesight

ออฟไลน์ NINENOI

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,723
  • Nine & Knight
ต้องถามว่า ที่บอกว่า ทักษะพอๆ กับวันแรกที่ขับรถ อันนี้ผมว่าไม่ใช่นะครับ ขับรถมา 10 ปี ภาวะการตัดสินใจ การตอบสนองของทั้งความคิดและร่างกาย ไม่เท่าเดิมแน่ๆ แค่อาจจะไม่มีผลประเมิน หรือ ผลลัพธ์เป็นกระดาษให้มานั่งอ่าน ซึ่งตัวคุณเอง อาจจะไม่รู้ตัวเองมากกว่า

ส่วนเรื่องบุคลิคคัวคุณเอง เป็นแบบนั้นหรือป่าวครับ เลยทำให้ดูเหมือนขับรถไม่เก่ง เช่น ขี้กลัว ไม่กล้าติดสินใจ เลยทำให้ดูเก้ๆ กังๆ

ถ้าให้แนะนำ ผมแนะนำให้ลองหาเพื่อร่วมงาน หรือ ในวงเพื่อนๆ ที่คุณคิดว่า เขาขับรถเก่งหรือขับรถเป็น ที่คุณมองว่า นี่ละที่คุณมองว่าโอเค แล้วลองขอให้เขาสอน หรือ นั่งรถไปกับเขาแล้วลองสังเกตุจังหวะต่างๆ เช่น กลับรถ ออกตัว ขับตามคันหน้า เข้าซอยแคบ ขับใช้ความเร็ว และ อื่นๆ

หรือลองไปลงคอร์ดเรียน รร.สอนขับรถ ดูก็ได้ครับ ถ้าคิดว่าข้างบนไม่พอ อาจจะช่วยให้ได้ข้อมูลเยอะขึ้น มีโค้ชมีครูช่วยแนะนำ

แนะนำที่นี่ครับ ฟรี

http://www.toyotadrivingexperiencepark.com/th/home/index.php

ต้องเป็น Toyota Racing School ครับ ที่ท่านยกมา เป็น สนามทดสอบรถ ของ Toyota เท่านั้น ไม่ได้เกี่ยวกับการฝึกทักษะของคนขับแต่อย่างใด(อาจจะมีบ้าง กรณีรถเสียอาการ อาจจะได้ประสบการณ์จากต่างนั้น แต่ไม่ใช่วัตถุประสงค์หลัก)

ขอบคุณครับ เข้าใจผิดอัน


นอกเรื่องนิดหน่อย ผมชอบการตอบและการแนะนำของคุณจังครับ ให้ความรู้สึกทางบวกมากเลยครับ
ถ้าเราซื้อของที่ไม่จำเป็น สุดท้ายเราต้องขายของที่จำเป็น

ออฟไลน์ CHANOM

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,093
ผมมองว่าเป็นเรื่องการคิด ตัดสินใจ  คงต้องฝึก คิดไว้ก่อนและคาดการณ์ล่วงหน้า และควบคุมสติ มองกระจกหลัง ข้าง บ่อยๆ

อ่านแล้วเข้าใจ คนอื่นเลย ว่าสถานการณแต่ละท่านไม่เท่ากัน

ค้องเพิ่ม  ปสก และความเรว ไว ในการคิด ตัดสินใจ 

พยายามจะฝึกการตัดสินใจ เวลานั่งรถคนอื่นอยู่เหมือนกันค่ะ ว่าถ้าเป็นเราจะทำยังไง หวังว่าจะช่วยนะคะ ^^

ถอยจอดในห้างมีปัญหา แนะนำโหลดเกมมือถือที่มันให้หมุนเข้าที่จอดดูครับ จะทำให้เข้าใจหลักการถอยมากขึ้น เหมือนมีกล้อง 360

เวลาเปลี่ยนเลนส์ แล้วโดนกดแตร ผมว่าน่าจะมาจากการที่คันหลังมาเร็ว แล้วคุณช้ากว่า แล้วตวัดออกมา ก็จะโดนเป็นธรรมดา
แนะนำให้ มองกระจกก่อนเปลี่ยนเลนส์สักพักนึง ดูว่าความเร็วเค้ามากกว่าเรามั้ย ถ้ายังห่างเหมือนที่มองรอบแรกค่อยออก เปิดไฟเลี้ยวด้วยนะ

จากที่ผมสังเกต แม่กับแฟนผม เค้าจะขับรถแบบตัวชิดพวกมาลัย โฟกัสด้านหน้ารถมากเกินไป ทำให้ด้านข้าง กับข้างหลังไม่ค่อยได้มอง
มักจะมีปัญหาแบบนี้เกิดเวลาเปลี่ยนเลนส์ คือจะตัดสินใจไม่ถูกว่าออกได้มั้ย

เรื่องกลับรถ รอจนโดนคันหลังกดแตร ผมว่ามาจากการที่มองความเร็วรถไม่ออก ว่าเราออกไป เราจะรอดมั้ย
อันนี้ผมว่าต้องใช้ประสบการณ์ เพราะ มันอยู่ที่เราด้วยว่าพุ่งออกไปแล้วเร่งเร็วด้วยมั้ย ถ้ากลับรถแบบไหลๆไม่ค่อยเร่ง มันก็ต้องรอช่องที่ใหญ่ขึ้นตาม

ท่านั่งของเราคือประมาณที่คุณ SpiRious ว่าเลยค่ะ หลังตรง ตัวติดกับพวงมาลัย เน้นมองข้างหน้าเป็นหลัก สงสัยต้องเริ่มจากการปรับตรงนี้ให้ได้ก่อน

ส่วนคำแนะนำอื่นๆ จะลองนำมาปรับใช้ดูนะคะ สงสัยจะได้กลับมาเล่นเกมตอนจะอายุ 30 นี้แหละ  ;D

คุณ Chanom อยู่บนบอร์ดนี้ มานานมาก .. ถ้าไม่ตั้งกระทู้ คงไม่ทราบเลยว่า คุณรู้สึก ประหม่า? / uneasy? กับการขับรถ

สิ่งที่ผมแนะนำได้ ในขณะนี้ นอกจากการไปเรียนที่ driving school ใดๆ คือ:

'ใจ' ต้องนิ่งครับ

 ::)


คุณเคยผ่ากบ ในคลาส ตอนเด็กๆไหมครับ? เวลาจรดมีด moment นั้น คือ สมาธิ เพราะเราทราบว่า สิ่งที่ทำมันสำคัญแค่ไหน

คุณลองนึกถึงตอนกระโดด ลงสระ จากสปริงบอร์ด ครั้งแรก .. มันระทึก แต่ moment นั้น เวลา และ ทุกสิ่งรอบตัวคุณ จะช้าลง

.

เริ่มที่ตรงนี้ก่อน คุณจะ 'เห็น' หรือ 'สัมผัส' ระยะ/ช่องว่าง/สภาพแวดล้อม ได้มากขึ้น ในเวลาที่จำกัด

ที่สำคัญ เมื่อ 'ลงมือ' แล้ว ห้ามถอย


ส่วนตัว ผมกลัวรถตัดหน้า ที่ไปอย่างรวดเร็ว น้อยกว่า รถตัดหน้าที่ยึกยัก ครับ  :)

เป็นกำลังใจให้นะครับ

คนรอบตัวเราก็ไม่มีใครเชื่อค่ะ คุณ Zachary C เพราะเราเริ่มขับรถเป็นคนแรกๆของกลุ่มเลย
จนกระทั่งหลายคนได้มีโอกาสมานั่งนี้แหละ ถึงสัมผัสได้ถึงปัญหาของเราตรงนี้
หลังๆเลยกลายเป็นคนที่เพื่อนเป็นห่วงมากกว่า เวลานัดเจอกันที่ไหน แล้วเราต้องขับรถไปคนเดียวค่ะ

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะคะ ^^

เท่าที่อ่านดู   ทักษะการประเมินเหตุการณ์  การสั่งการร่างกายตัวเอง


การควบคุมจิตใจของคุณ  แย่จนเกือบๆจะขับรถไม่ได้ละ


แต่ยังดีกว่าภรรยาผม รายนั้นเหวอจนขับไม่ได้  ผมไม่ให้ขับ  กลัวจะไปทำคนตายเปล่าๆ


ลองฝึกเล่นกีฬามั้ยครับ ฝึกสมองสั่งการควบคุมมือเท้า  ให้มันได้ดั่งใจมากกว่านี้

ถ้าเลือกได้ เราก็ไม่อยากจะขับรถเหมือนกันนะคะ คุณ johnlee

แต่ก็เหมือนบางท่านแหละค่ะ เราเองก็ยังติดความสะดวกสบาย รวมถึงความปลอดภัยของตัวเอง
การเป็นลูกคนโต ก็มีความกดดันให้เราต้องเป็นที่พึ่งของคนในบ้านได้ด้วย
เราถึงอยากจะฝึกตัวเองให้มีความสามารถด้านนี้มากกว่านี้เหมือนกันค่ะ

ส่วนตัวเน้นออกกำลังกายเบาๆเป็นหลัก (เต้น วิ่ง) ยังไงจะลองหากีฬาที่ต้องใช้ทั้งมือและเท้าดูนะคะ ^^

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะคะ
อันนี้จำเป็นต้องเป็นเจ้าของรถ Toyota ไหมคะ หรือว่าบุคคลทั่วไปก็สมัครได้
ตัวเราเอง ไม่ได้อยากขับรถฉวัดเฉวียนอะไร แต่อยากขับรถให้คล่องขึ้นกว่าเดิม ^^”



ไม่จำเป็นครับ ลองโทรสอบถามเค้าก่อนครับว่าเค้ามีอบรมในสิ่งที่เราต้องการรึเปล่าจะได้ไม่เสียเที่ยว จองก็จองที่เวปได้เลย ถ้าได้ไปยังไงมารีวิวให้หน่อยนะครับ ผมอยากลองเซียนต้าแต่ไม่มีเวลาไปเลย ของคุณผมแนะนำ CHR นะครับ รถที่สูงกว่ารถเก๋งหน่อยๆทัศนวิสัยจะดีกว่ากันอาจขับง่ายขึ้น

ขอบคุณนะคะ C-HR น่าจะดีเหมือนกัน เพราะปกติเราขับ HR-V ทัศนวิสัยจะได้คล้ายกันค่ะ ^^

ต้องถามว่า ที่บอกว่า ทักษะพอๆ กับวันแรกที่ขับรถ อันนี้ผมว่าไม่ใช่นะครับ ขับรถมา 10 ปี ภาวะการตัดสินใจ การตอบสนองของทั้งความคิดและร่างกาย ไม่เท่าเดิมแน่ๆ แค่อาจจะไม่มีผลประเมิน หรือ ผลลัพธ์เป็นกระดาษให้มานั่งอ่าน ซึ่งตัวคุณเอง อาจจะไม่รู้ตัวเองมากกว่า

ส่วนเรื่องบุคลิคคัวคุณเอง เป็นแบบนั้นหรือป่าวครับ เลยทำให้ดูเหมือนขับรถไม่เก่ง เช่น ขี้กลัว ไม่กล้าติดสินใจ เลยทำให้ดูเก้ๆ กังๆ

ถ้าให้แนะนำ ผมแนะนำให้ลองหาเพื่อร่วมงาน หรือ ในวงเพื่อนๆ ที่คุณคิดว่า เขาขับรถเก่งหรือขับรถเป็น ที่คุณมองว่า นี่ละที่คุณมองว่าโอเค แล้วลองขอให้เขาสอน หรือ นั่งรถไปกับเขาแล้วลองสังเกตุจังหวะต่างๆ เช่น กลับรถ ออกตัว ขับตามคันหน้า เข้าซอยแคบ ขับใช้ความเร็ว และ อื่นๆ

หรือลองไปลงคอร์ดเรียน รร.สอนขับรถ ดูก็ได้ครับ ถ้าคิดว่าข้างบนไม่พอ อาจจะช่วยให้ได้ข้อมูลเยอะขึ้น มีโค้ชมีครูช่วยแนะนำ

แนะนำที่นี่ครับ ฟรี

http://www.toyotadrivingexperiencepark.com/th/home/index.php

ต้องเป็น Toyota Racing School ครับ ที่ท่านยกมา เป็น สนามทดสอบรถ ของ Toyota เท่านั้น ไม่ได้เกี่ยวกับการฝึกทักษะของคนขับแต่อย่างใด(อาจจะมีบ้าง กรณีรถเสียอาการ อาจจะได้ประสบการณ์จากต่างนั้น แต่ไม่ใช่วัตถุประสงค์หลัก)

เราติดนิสัยตามใจคนรอบข้างค่ะ เลยไม่ค่อยตัดสินใจอะไรด้วยตัวเองเท่าไหร่
ยิ่งหลังๆ ตำแหน่งงานทำให้เราต้องตัดสินใจแทนน้องๆทั้งวัน นอกเวลางานยิ่งไม่อยากคิดอะไรเข้าไปใหญ่ค่ะ

จะลองนำคำแนะนำไปปรับใช้ดูนะคะ ขอบคุณมากค่ะ ^^
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 24, 2019, 14:42:14 โดย CHANOM »
In My Garage
2007 MB A180 CDI W169
2007 MB C220 CDI W203
2021 Mazda CX3 Comfort
2023 Honda Civic E-Hev RS

Sold
2016 Mazda 2 Skyactiv-D High Connect
2019 Honda HRV EL
2021 Subaru Forester IS-Eyesight

ออฟไลน์ InBkk

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,115
อันนี้ไหมครับ
https://www.facebook.com/toyotaracingschool/

เรียนหลักสูตรพื้นฐานน่าจะพอครับ

ไม่แนะนำครับ เพราะเป็นหลักสูตรสอนขับ "รถแข่ง" ฝึกในสนามแข่งรถ แม้จะเป็นคอร์ส Basic แต่ Level ของคนไปเรียน ควรจะขับเกียร์ธรรมดาคล่อง และรักความเร็วครับ

เคยไปเรียนเมื่อ 3-4 ปีก่อน เข้าไปดูภาพใน Facebook คงไม่ต่างจากเดิมมาก

ออฟไลน์ ToRToNGPaT

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,941
    • Wongnai : ติดตามต้อง
มีปัญหาคล้ายๆกันในบางอย่างครับ ผมใช้วิธีชอบทำมันบ่อยๆแล้วเราจะเริ่มพัฒนาขึ้นได้เองครับ

อย่างเรื่องของการกลับรถ ถ้าในกทม. ไม่มีปัญหา แต่ถ้าเป็นต่างจังหวัดที่ขับกลับเร็ว ผมไม่ชอบกลับรถบนถนนแบบนั้นเลย บางทีรอนานมาก เอาที่มั่นใจแล้วค่อยไปครับ พอทำบ่อยๆก็เริ่มเกร็งน้อยลง เริ่มกล้ามาขึ้นครับ ประสบการณ์และความมั่นใจ เราต้องใช้เวลาสร้างมัน ค่อยๆเป็นค่อยๆไปก็ได้ครับ

ส่วนเรื่องเรียนเพิ่มนั้น ผมเล็งๆอยู่ว่า ปีหน้าจะไปเขา คอร์ส Skill Driving ของสื่อสากล อยู่เหมือนกันครับ หลังๆมานี้ ผมออกทริปกับเพื่อนๆบ่อย เลยอยากมีทักษะเพิ่มครับ

อีกเรื่องนึง ผมรู้สึกว่า เราสามารถรับฟังคำแนะนำ จากคนที่นั่งรถเราได้ แต่ไม่ใช่ให้คนที่นั่งรถเรามาสั่งให้เร่ง ให้เบรก ขับรถตามใจเขา อันนี้ผมไม่โอเค เพราะเคยเจอกรณีแบบนี้มาตอนไปภูทับเบิก ทั้งเร่ง เบรก ใช้เกียร์ การเลี้ยวโค้ง เราเป็นคนขับก็เครียด คนที่สั่งก็โมโหใส่เพราะไม่ได้ดั่งใจ สุดท้ายตัดสินใจไปแบบที่เรามั่นใจ ก็ดีขึ้น

เราเป็นคนขับ การตัดสินใจเป็นของเรา ขับแบบที่เรามั่นใจ ปลอดภัยและรถคันอื่นๆไม่เดือดร้อนครับ

สู้ๆนะครับ เป็นกำลังใจให้ครับ เดี๋ยวก็เก่งขึ้นครับผม
My Car = My Friend

2023 Honda HR-V 1.5 e:HEV RS E-CVT Ignite Red Metallic / Black Roof (น้องหมูแดง)
2023 Honda WR-V 1.5 RS CVT Ignite Red Metallic / Black Roof (น้องถุงแดง)


Review ของกินอร่อยๆ เรียนเชิญที่ Wongnai : ติดตามต้อง

ออฟไลน์ jkdragon07

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 40
    • อีเมล์
ขออนุญาต ประเมินเท่าที่อ่านนะครับ ผิดถูกขออภัยด้วยแล้วกันครับ ผมว่าไม่น่าจะเกี่ยวกับประสบการณ์ หรือทริคในการขับรถ เพราะขับมาเป็น 10 ปีแล้ว และมีการหาข้อมูลเกี่ยวกับเทคนิคการขับรถเพื่อแก้ปัญหาของตัวเองในเบื้องต้นแล้ว ดังนั้นผมว่าปัญหาหลักน่าจะ เป็นเรื่องการตัดสินใจที่เด็ดขาด หรือขาดความมั่นใจในตัวเองครับ  เพราะการขับรถเป็นเรื่องของการตัดสินใจทั้งนั้น ไม่ว่าจะเลี้ยว จะเบรค จะตัดเลน ต้องอาศัยการตัดสินใจที่เด็ดขาดทั้งนั้น เช่นจะตัดเลนเพื่อจะเข้าทางหลัก ถ้าคุณกล้า ๆ กลัว จะไปก็ไม่ไป ก็ทำให้เพื่อร่วมทาง ตัดสินใจไม่ถูกเหมือนกันว่าคุณจะเข้า หรือไม่เข้า วิธีแก้ คือต้องหาวิธีทำให้ตัวเองมีความมั่นใจในการขับรถมากขึ้น ตัดสินใจให้เด็ดขาดมากขึ้น เป็นเรื่องทางจิตใจ ไม่เกี่ยวกับเทคนิคการขับรถ ซึ่งเรื่องนี้ผมแนะนำไม่ได้ เพราะไม่ได้มีความรู้ด้านนี้ แต่ขอให้พบทางแก้ปัญหาโดยเร็วครับ เพราะถ้าเป็นแบบที่ผมบอกโอกาศจะเกิดอุบัติเหตุมีมากกว่าคนปกติครับ ไม่ได้แช่งนะครับ แต่เป็นห่วงแทน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 24, 2019, 15:33:19 โดย jkdragon07 »

ออฟไลน์ T_omega

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 9
แนะนำให้ไปเรียนขับรถอีกครั้งครับ
โดยให้บอกครูที่สอนว่า เรายังขับไม่เก่งเรื่องอะไร เช่น ถ้ายังเปลี่ยนเลนยังไม่เก่ง เวลาเราดูกระจกมองข้าง ครูจะคอยบอกว่าระยะนี้คือเปลี่ยนเลนได้แล้ว ระยะนี้คือใกล้เกินไปอย่าพึ่งเปลี่ยนเลน หรือ กรณีการจอดรถทั้งแบบจอดเข้าซอง จอดริมฟุตบาต ครูจะคอยบอกเทคนิคว่าจะต้องทำอย่างไร แล้วฝึกซ้ำๆ จนกระทั่งดีขึ้น  การที่มีคนแนะให้ระหว่างที่เราขับจะทำให้เราเก่งขึ้นเร็วครับเพราะจะรู้ว่าจังหวะนี้คือดีหรือยังไม่ดี
ขอให้ขับเก่งขึ้นและปลอดภัยมากขึ้นนะครับ

ออฟไลน์ DiKiBoyZ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,247
    • อีเมล์
ต้องถามว่า ที่บอกว่า ทักษะพอๆ กับวันแรกที่ขับรถ อันนี้ผมว่าไม่ใช่นะครับ ขับรถมา 10 ปี ภาวะการตัดสินใจ การตอบสนองของทั้งความคิดและร่างกาย ไม่เท่าเดิมแน่ๆ แค่อาจจะไม่มีผลประเมิน หรือ ผลลัพธ์เป็นกระดาษให้มานั่งอ่าน ซึ่งตัวคุณเอง อาจจะไม่รู้ตัวเองมากกว่า

ส่วนเรื่องบุคลิคคัวคุณเอง เป็นแบบนั้นหรือป่าวครับ เลยทำให้ดูเหมือนขับรถไม่เก่ง เช่น ขี้กลัว ไม่กล้าติดสินใจ เลยทำให้ดูเก้ๆ กังๆ

ถ้าให้แนะนำ ผมแนะนำให้ลองหาเพื่อร่วมงาน หรือ ในวงเพื่อนๆ ที่คุณคิดว่า เขาขับรถเก่งหรือขับรถเป็น ที่คุณมองว่า นี่ละที่คุณมองว่าโอเค แล้วลองขอให้เขาสอน หรือ นั่งรถไปกับเขาแล้วลองสังเกตุจังหวะต่างๆ เช่น กลับรถ ออกตัว ขับตามคันหน้า เข้าซอยแคบ ขับใช้ความเร็ว และ อื่นๆ

หรือลองไปลงคอร์ดเรียน รร.สอนขับรถ ดูก็ได้ครับ ถ้าคิดว่าข้างบนไม่พอ อาจจะช่วยให้ได้ข้อมูลเยอะขึ้น มีโค้ชมีครูช่วยแนะนำ

แนะนำที่นี่ครับ ฟรี

http://www.toyotadrivingexperiencepark.com/th/home/index.php

ต้องเป็น Toyota Racing School ครับ ที่ท่านยกมา เป็น สนามทดสอบรถ ของ Toyota เท่านั้น ไม่ได้เกี่ยวกับการฝึกทักษะของคนขับแต่อย่างใด(อาจจะมีบ้าง กรณีรถเสียอาการ อาจจะได้ประสบการณ์จากต่างนั้น แต่ไม่ใช่วัตถุประสงค์หลัก)

เราติดนิสัยตามใจคนรอบข้างค่ะ เลยไม่ค่อยตัดสินใจอะไรด้วยตัวเองเท่าไหร่
ยิ่งหลังๆ ตำแหน่งงานทำให้เราต้องตัดสินใจแทนน้องๆทั้งวัน นอกเวลางานยิ่งไม่อยากคิดอะไรเข้าไปใหญ่ค่ะ

จะลองนำคำแนะนำไปปรับใช้ดูนะคะ ขอบคุณมากค่ะ ^^

ก็เข้าใจครับ ผมว่าหลายๆ ท่านในนี้ ก็มีหัวหน้าคน เจ้านายคน เป็นลูกน้อง หรือ ต้องตัดสินใจในหลายๆ เรื่องเช่นกัน

แต่การขับรถ มันไม่ใช่ว่า ไม่อยากคิด ไม่อยากตัดสินใจ หรือ อะไรนะครับ เพราะยังไง๊ ยังไง ก็ต้องคิดและตัดสินใจอยู่ดี มันเลี่ยงไม่ได้แน่นอน เพราะมันเป็นเรื่องที่จะขี้เกียจหรือวัดดวงไม่ได้ เพราะมันอันตรายกับตัวเองและคนใช้ถนนคนอื่นด้วย มันเป็นความรับผิดชอบโดยตรงว่า คนขับ ต้องมีสติสัมปชัญญะอยู่เสมอ และพร้อมจะตัดสินใจในเสี่ยววินาทีเมื่อยู่หลังพวงมาลัยตลอดเวลาอะครับ

นอกซะจากว่า ถ้าขนาดไม่อยากตัดสินใจอะไรๆ ในเวลาขับรถ ก็หาคนขับรถดีกว่าครับ มันน่าจะดีกับคุณ และ เพื่อนร่วมทางมากกว่าครับ

ด้วยความหวังดี

ออฟไลน์ Activehybrid

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,552
สติสำคัญสุด 

ขับมากี่โลแล้วครับ  คนทั่วไปขับราวๆ100,000 โลก็จะมีประสพการณ์มามากหลากหลายอุบัติการพอที่จะขับให้เซฟได้แล้ว แต่ถ้าขับมาเกิน100,000โล แล้วยังไม่ดีขึ้นเลย

ให้แฟนขับให้ดีกว่าครับ