ดีหรือไม่หาก Lancer EX เปลี่ยนชื่อและภาพลักษณ์ไปเป็น Galant หรือ galant fortis

[GreenG]

ผมเคยไปดูมาแล้ว ชอบมากๆ รองจาก tilda ครับ

รถคันใหญ่มาก พอๆกับ Galant สมัยก่อนเลย(เคยนั่ง Galant ultima ของน้า)

แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องใช้ชื่อ Lancer EX(รถเมียเก่า) ด้วย ดูมันอวมงคล(เกลียดชื่อนี้มากๆ) ยังไงไม่รู้ แถมยังไปซ้อนกับ lancer(เซยิก) อีกต่างหาก

อีกทั้งพอได้อ่าน review พี่ JIMMY รู้สึกว่ามันไม่ใช้รถ C-segment แบบ อัลติส ซีวิต แต่เป็น D-segment แบบ Peugeot 406
ที่ช่วงล่างดี ขับใช้ได้ แต่คันเล็กหน่อย

ผมอยาก+หวังให้มีการ เปลี่ยนชื่อไปเป็น Galant หรือ galant fortis 
เช่นตอน pajero sport พอไปถามคนรุ่นพ่อ พอเขาได้ยินชื่อนี้เขาชอบมากๆ เพราะมองว่ามันคือ pajero ย่อส่วน ในราคาที่ไม่แพงมาก
ทั้งที่จริงๆมันก็คือ triton แหละครับ

ซึ่งถ้าใช้ชื่อ Galant หรือ galant fortis ถ้าผมมีเงินประมาณ 7 แสน แทนที่ผมจะไปซื้อ B-segment ผมอาจจะกัดฟันอีกนิดไปซื้อเจ้า Galant หรือ galant fortis ตัว 1.8glx เพราะได้ภาพลักษณ์ว่าเป็นรถ lower D-segment(ชื่อนี้ผมคิดขึ้นเองนะครับ) คือต่ำกว่า camry accord แต่สูงกว่า civic altis เพราะชื่อว่า Galant ที่ใครๆ ก็รู้ว่าเท่ากับ accord และคุณภาพในการขับขี่ที่ดีกว่า C-segment ทั่วไป

ขอแลกเปลี่ยนค.คิดเห็นกับทุกคนครับ

[patzahut]

หลายๆประเทศเค้าก็ใช้ Lancer EX บ้าง      galant fortis บ้้าง   แต่ผมว่า ถ้าจะตั้งชื่อ ควรตั้งตั้งแต่แรกอะครับ มาเปลี่ยนตอนนี้คงไม่ทันแล้ว

[6162002]

ผมว่าไม่ดีอย่างแรงครับ ผมมองในฐานะคนทั่วๆไป ที่ไม่มีความรู้เรื่องรถนะ ยิ่งชื่อ Galant  ผู้หญิงยิ่งไม่เอาแหงม ชื่อ Lancer มันฟังดูลื่นหูกว่าครับ เอิ๊ก

[J!MMY]

ไม่ดีครับ

ถ้าตั้งชื่อสินค้าใดมาแต่แรก มานั่งเปลี่ยนชื่อทีหลัง
มันทำให้คนทั่วไปเขางุนงง ว่า ตกลงแล้ว มันจะใช้ชื่ออะไรกันแน่

ถ้า Lancer ชื่อหลักยังอยู่ ชื่อ sub-name จะเปลี่ยน นั่นยังไม่ใช่ปัญหา ตราบใดที่ชื่อหลัก ยังไม่เปลี่ยน

แต่นี่ จะเล่นเปลี่ยนชื่อหลักกันเลย ไม่มีทางครับ

และในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา Mitsubishi ที่ขายดีสุดในบ้านเรา และมีลูกค้าผู้หญิงอุดหนุนเยอะสุด
คือ Lancer E-Car ครับ ไม่ใช่ Galant

ดังนั้น การเปลี่ยนชื่อเป็น Galant เหมือนญี่ปุ่น มีโอกาสจะทำให้ทุกอย่าง "ชิบหาย" หนักกว่าที่เป็นอยู่ สูงครับ

[Newhang]

ผมก็คิดว่าไม่ดีครับ แค่ชื่อเอง อีกอย่างlancer exก็ไม่ได้เสียภาพพจน์อะไรนิครับ

แต่ถ้าอยากให้ภาพในใจมันเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น ก็ทำรถให้มันดี มีoption เอาใจตลาดหน่อย แค่นี้ภาพก็ดีขึ้นแล้ว

[yacoolsa9]

ผมว่าสิ่งที่ มิตซูควรเปลี่ยนไม่ใช่ชื่อครับ แต่ควรเปลี่ยนแนวคิด(ของผู้บริหารทั้งไทยและญี่ปุ่น)ว่า ควรเพิ่มเติมอะไรหรือทำยังไงให้
มีคนกลับมาซื้อรถไม่ว่าจะเป็นลูกค้าใหม่หรือลูกค้าเก่า(แบบครอบครัวผม) หรืออย่างน้อยหันมาสนใจหน่อยก็ยังดี
ส่วนตัวผมคิดว่าเปลี่ยนชื่อไปก็เท่านั้นครับ เพราะสมัยนี้มีแหล่งความรู้และข้อมูลมากมายในที่จะค้นหา
ถึงเมืองไทยจะใช้กาแล้น แต่ก็คงมีอีกหลาย ๆ เมืองหรือประเทศใช้ แลนเซอร์อยู่ดี ผมว่าไม่แตกต่างครับ

[best]

Galant สำหรับผม ภาพลักษณ์มันจะแก่ๆนะครับ

ซึ่งไม่เข้ากับหุ่นของเจ้าหน้าฉลามนี้เลย

[phatsawi]

galant ...นึกถึง Zigma สมัยคุณแม่  แล้วก็  Ultima สมัยพี่ชายผมครับ  รถใหญ่ สะดวก สบาย แล้วก็สวย แบบแอบหรู ๆ
แต่ถ้าเปลี่ยนตอนนี้  ก็จะไม่สนใจเหมือนกัน...แย่หนักกว่าเดิม

[MyName]

เกรงว่าจะไม่ดีนะครับ รถมันตั้งชื่อเต็มๆ มาขายได้ปีนึงแล้ว ถ้าเกิดอยู่ดีๆ เปลี่ยนชื่อใหม่ เกรงว่าลูกค้าจะสับสน
แล้วอีกอย่างครับ การที่ตัวรถมันไม่ประสบความสำเร็จอยู่ทุกวันนี้ มันไม่ใช่เพราะชื่อหรอกครับ แต่มันอยู่กับ "การตลาด" และ "การวางผลิตภัณฑ์" มากกว่า
ว่าจะเข้าไปโพสต์กระทู้ข้างล่าง แต่ว่ามันตกไปแล้ว เอากระทู้นี้แหละถ้างั้น

ตั้งแต่ผมใช้รถมิตซูมา 2 ปีกว่าๆ นี่ก็พอจะรู้ถึงความเปลี่ยนแปลงต่างๆ ภายในตัวบริษัทและผลิตภัณฑ์มาพอควรบ้าง
สิ่งที่ทำให้ผมคิดว่าการที่ Lancer EX มันไม่ประสบความสำเร็จ มันเกิดมาจากปัญหาหลักๆ ดังนี้

1. การวางผลิตภัณฑ์
1.1 การที่ตั้งราคาเริ่มต้นในรุ่น 1.8 GLX เอาไว้ที่ 8.31 แสนนั้น
ถ้าลองไปเทียบราคาเริ่มต้นกับคู่แข่งแล้ว ซึ่งถือได้ว่าราคาเริ่มต้นค่อนข้าง "เริ่มจะแพง" อยู่เหมือนกัน
ถ้าเทียบใน AT ด้วยกัน เช่น Civic 1.8 S AT อยู่ 7.94 แสน / Focus 1.8 Ambiente AT 5Dr อยู่ 7.59 แสน ก็พอจะมองเห็นคร่าวๆ
หรือถ้าลองเทียบกับรุ่นที่ในราคาพอๆ กัน ก็ถือว่ารุ่นเริ่มต้นของ Lancer EX ได้ออพชั่นที่ "น้อย" กว่าคู่แข่งบ้าง
เช่น Civic 1.8 S AT (AS) ราคา 8.36 แสน สิ่งที่ต่างจาก Lancer EX 1.8 GLX
- มีเครื่องเสียง Built-in คอนโซล และสวิตช์ควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย
- มีพวงมาลัยปรับเข้า-ออกได้    - มีที่วางแขนตอนหน้าและกล่องเก็บของ
- มีกระจกมองข้างพับไฟฟ้า    - มีกระจกหน้าต่างคนขับ Auto ขึ้น-ลง พร้อมกันหนีบ
- มีสัญญาณกันขโมย    - มีถุงลมนิรภัยด้านคนนั่ง    - ล้ออัลลอยด์เหลือแค่ 15"
หรือ Focus 1.8 Finess AT 4Dr และ 5Dr ราคา 7.99 แสนและ 8.09 แสน ตามลำดับ สิ่งที่ต่างจาก Lancer EX 1.8 GLX
- มีไฟตัดหมอกหน้า    - มีเบาะหนัง
- มีเครื่องเสียง 2Din หน้าตาเข้ากับคอนโซล (OEM ว่างั้นเหอะ)    - มีพวงมาลัยปรับเข้า-ออกได้
- มีที่วางแขนตอนหน้าและกล่องเก็บของ    - มีกระจกมองข้างมีไฟเลี้ยว และพับไฟฟ้า
- มีกระจกหน้าต่างทุกบาน Auto ขึ้น-ลง พร้อมกันหนีบ    - มีแอร์ตอนหลัง    - มีสัญญาณกันขโมย
อันนี้แค่เทียบเฉพาะในรุ่นเริ่มต้น 1.8 GLX นะครับ ยังไม่รวมไปถึงรุ่นอื่นๆ อย่าง 1.8 GLS และ GLS Ltd. ในราคา 8.86 แสน และ 8.99 แสนอีก ที่บางอย่างก็ยังขาดๆ ไปเหมือนกัน ถ้าเทียบกับคู่แข่งในราคาใกล้ๆ กันเช่น
- สวิตช์ควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย (อันนี้ Civic 1.8 E ราคา 9.1 แสนและ Altis 1.8G ราคา 9.19 แสนมีมาให้)
- Criuse Control (อันนี้ Civic 1.8 E 9.1 แสนมีมาให้)    - ช่องต่อ USB (อันนี้ Civic 1.8 E 9.1 แสนมีมาให้)
- กระจกมองข้างพับไฟฟ้า และกระจกหน้าต่าง Auto ขึ้น-ลง พร้อมกันหนีบ (อันนี้ในราคาพอๆ กัน ไม่มีรุ่นไหนหรอกที่ไม่มีมาให้) ฯลฯ
1.2 การวางรุ่นให้เลือก และการตั้งราคานั้น ลองมองกลับไปในแต่ละรุ่นดู จะเห็นว่ามีทางเลือกให้เลือกเพียงแค่ 3 รุ่นหลักๆ และ option ปลีกย่อยแตกก็มีแค่ในรุ่น 1.8 GLS ที่แตกไปแค่เพิ่มเบาะหนัง ภายในสีดำ และหมอนรองศีรษะตรงกลางเบาะหลัง แค่นี้
ซึ่งอาจจะเป็นการให้ทางเลือกที่แคบแก่ลูกค้าไป และในการตั้งราคาแต่ละรุ่น อย่างที่เทียบรุ่นเริ่มต้นให้ดูแล้วใน 1.1 ก็ถือว่า "เริ่มแพง"
และนั่นก็ส่งผลให้รุ่นที่สูงกว่านั้นราคาค่อนข้าง "แพง" ไปด้วยเช่นกัน ซึ่งหลายคนที่มองก็อาจจะมองว่า มันก็พอๆ กับเจ้าตลาด
ใช่ครับ มันพอๆ กับเจ้าตลาด แต่ตัวรถที่ทำมา ออพชั่นก็ไม่ได้ดีไปกว่าเจ้าตลาดมากมายเลย อย่างในตัว 2.0 GT ที่ก็มีชุดแต่งให้พร้อมสรรพและล้ออัลลอยด์ 18"  มาให้ แต่บางอย่างก็ยังขาดๆ ไปจากเจ้าตลาด และราคาที่ตั้งมาถึง 1.034 ล้าน ที่เฉียดเจ้าตลาดแค่เส้นยาแดงผ่าแปด แถมด้วยชื่อเสียงของมิตซูที่ไม่ใช่เจ้าตลาดและยังคงมีความเชื่อกันว่า "ขายของถูก" นั้น ก็ส่งผลให้ลูกค้ามองว่าเป็นรถที่ไม่คุ้มค่าตั้งแต่แรก (โดยยังไม่ได้ลองขับ)
อีกประการหนึ่งที่ทำให้ไม่ประสบความสำเร็จคือการที่ไม่มีเกียร์ MT ให้เลือก จริงอยู่ว่า MT ยอดขายมันลดลงในไทย
แต่ด้วยความที่ตัวรถออกแนว "บุรุษ" และ Lancer ถือเป็นรถที่สามารถพัฒนาต่อยอดไปเป็น Evo ได้ ซึ่งก็ยังคงมีลูกค้ากลุ่มนี้ที่ต้องการแต่งและขับ MT จึงทำให้ตัวรถเองไม่ตอบสนองความต้องการของคนกลุ่มนี้ ยอดขายจากคนกลุ่มนี้ที่ผมว่าน่าจะมีพอประมาณก็หายไป

2. การทำตลาด และบริการหลังการขาย
2.1 เรื่องการทำตลาดนั้นเป็นปัญหาที่มิตซูเองก็ทำมาไม่ถูกตั้งแต่แรก เช่น การวางแผนการตลาดที่จับกลุ่มลูกค้าไม่ตรงตามตัวรถ การโฆษณาที่ไม่สร้างความน่าสนใจ และผิดวัตถุประสงค์ของตัวรถ และการพยายาม "กั๊ก" ออพชั่นบางอย่างที่ควรจะมีมาให้ แต่กลับมาปล่อยทีหลัง เช่น สีขาว ที่ออกมาหลังจากรถทำตลาดได้ไม่ถึงครึ่งปี ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นการทำการตลาดที่ผิดพลาด สาเหตุของปัญหานั้นผมก็ไม่ทราบเช่นกันว่าเกิดจากอะไร ไม่ว่าจะเป็นทางผู้บริหารใจไม่กล้าพอที่จะต่อรองกับทางญี่ปุ่น การตัดสินใจของผู้บริหารที่ผิดพลาด หรือการดำเนินงานของฝ่ายการตลาดที่ผิดพลาด บลาๆๆ ถ้าลองมองย้อนกลับไปถึงการทำตลาดของ Pajero Sport ในเริ่มแรกนั้น จะเห็นได้ถึงงานโฆษณาที่เข้าถึงตัวรถมากกว่า การจับกลุ่มลูกค้าที่ถูกต้อง การจัดงาน Road Show ตามสถานที่ต่างๆ รวมไปถึงอานิสงค์ของกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบจากการใช้ Triton หรือ G-Wagon ในอดีต ทำให้ Pajero Sport ประสบความสำเร็จ ซึ่งสังเกตได้จากยอดขายเฉลี่ยต่อเดือนที่อยู่ในระดับ 800-900 คัน แม้ว่าตัวรถในปัจจุบันนี้ค่อนข้างจะมีปัญหาอยู่เหมือนกัน เช่น เฟืองท้ายหอน โช๊ครั่ว ต่างๆ นาๆ ก็ตาม
2.2 การบริการหลังการขายที่ได้ชื่อว่า มิตซู ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นกับการบริการเหล่านี้ก็มีหลายอย่าง เช่น การดำเนินการแก้ไขปัญหาของตัวรถ ที่ค่อนข้างใช้ระยะเวลานานพอสมควรในบางเรื่อง และประสิทธิภาพในการแก้ปัญหายังไม่เต็มที่พอ ซึ่งลองสังเกตได้จากการที่รถเกิดปัญหานั้น ได้รับการเคลมแล้วก็เกิดปัญหาอีก เป็นปัญหาซ้ำๆ ซากๆ ที่อาจจะเกิดจากการที่มิตซูไม่ยอมปรับปรุงอะไหล่ที่มีปัญหาอย่างจริงจัง ต้องรอให้ลูกค้าเคลมมาทางบริษัทก่อนถึงจะแก้ ทั้งๆ ที่เมื่อปัญหาเริ่มเยอะแล้วก็ควรจะแก้ไขได้แล้ว ปัญหาเหล่านี้ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าเกิดจากการที่ทางญี่ปุ่นไม่ยอมแก้ไข หรือทางเราไม่มีอำนาจต่อรอง หรืออะไรก็ตามแต่ หรือการที่ให้บริการของ 0 ที่ยังคงมีมาตรฐานไม่เท่าเทียมกันอยู่ บุคลากรของแต่ละ 0  ที่ยังคงขาดความชำนาญในการบิรการและการแก้ปัญหา บางที่ให้บริการหรือมีช่างที่ดี หลายๆ ที่ยังต้องปรับปรุงถึงการบริการหรือตัวช่างเอง เหตุผลเหล่านี่แหละเป็นปัญหาที่ทำให้ลูกค้าในอดีตหลายคนต้องถึงกับเลิกใช้มิตซูไปเลยเพราะเข็ดกับสิ่งที่เป็นอยู่เหล่านี้

อันนี้พอมองคร่าวๆ นะครับ อาจจะยาวขี้เกียวอ่านไปหน่อย ดังนั้นถ้าเกิดทางมิตซูได้รับทราบถึงข้อปัญหาที่เกิดขึ้นกับตัวเองแล้ว ก็ควรจะรีบปรับปรุงเพื่อก่อให้เกิดความพอใจในผู้บริโภคและสร้างยอดขาย Lancer EX มากขึ้นด้วยแล้วกันครับ ยอมรับนะครับว่าตัวรถหนะถ้าได้สัมผัสจริงๆ แล้วค่อนข้างดีทีเดียว (บางทีมีปัญหาจุกจิกบ้างก็พออลุ่มแล่วยไป) เสียแต่ปัญหาที่ว่ามาทั้งหมดนี่แหละ จึงทำให้มิตซูยังคงเป็นอยู่ทุกวันนี้

[pkdiamond]

แปลเป็นภาษาญี่ปุ่น แล้วส่งไปที่บริษัทแม่ที่ญี่ปุ่น น่าจะ work ครับ ทางโน้นเค้าน่าจะเห็นภาพได้บ้าง

[GreenG]

ดูๆแล้ว ตัว 1.8 glx ถ้าไม่หักส่วนลด แพงโคตรๆเลย

แต่พอหักส่วนลดแล้วก็ก้ำๆกึ่งๆนะครับ

ตอนนี้ผมขอแค่ cruise control ในทุกรุ่น ก็พอครับ

ส่วนปุ่มเครื่องเสียงที่พวงมาลัย+USB รุ่น gls ขึ้นไป ควรจะมีครับ

[jones]

เรื่องเปลี่ยนชื่อ มาเปลี่ยนตอนนี้มันไม่ทันแล้วล่ะครับ สับสนอลมานกันพอดี

[IncarRus]

เรื่องชื่อ ผมว่าเปลี่ยนได้ ไม่มีปัญหาครับ
คนไทยส่วนใหญ่ ไม่น่าจะสนใจ+รู้เรื่องอะไรมากมาย
แต่ถ้าจะเอาเป็น Galant นี่ อารมณ์มันเก่าไปหน่อยอะครับ

[alzeto]

ไม่ดีครับ

ถ้าตั้งชื่อสินค้าใดมาแต่แรก มานั่งเปลี่ยนชื่อทีหลัง
มันทำให้คนทั่วไปเขางุนงง ว่า ตกลงแล้ว มันจะใช้ชื่ออะไรกันแน่

ถ้า Lancer ชื่อหลักยังอยู่ ชื่อ sub-name จะเปลี่ยน นั่นยังไม่ใช่ปัญหา ตราบใดที่ชื่อหลัก ยังไม่เปลี่ยน

แต่นี่ จะเล่นเปลี่ยนชื่อหลักกันเลย ไม่มีทางครับ

และในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา Mitsubishi ที่ขายดีสุดในบ้านเรา และมีลูกค้าผู้หญิงอุดหนุนเยอะสุด
คือ Lancer E-Car ครับ ไม่ใช่ Galant


ไม่ใ่ช่ สตรี เท่านั้นที่ ใช้รุ่นนี้มาก  เกย์ กะเทย ใช้รุ่นนี้ เยอะจริงๆค่ะ ให้ตายสิ..........
ขนาด FB ที่นางๆ ถ่ายรูปในรถนี่ ตอบได้เลยว่านางขับ อี-คาร์ ชัดๆค่ะ

ริงโกะค่ะ
ดังนั้น การเปลี่ยนชื่อเป็น Galant เหมือนญี่ปุ่น มีโอกาสจะทำให้ทุกอย่าง "ชิบหาย" หนักกว่าที่เป็นอยู่ สูงครับ

[remontage]

ขอเปลี่ยนเป็น.....Lancer EXR

ฟังดูหรูขึ้นไหมเนี่ย55

[alzeto]

ขอเปลี่ยนเป็น.....Lancer EXR

ฟังดูหรูขึ้นไหมเนี่ย55

อ่ิ่านแล้วดูแย่กว่าเดิมค่ะ

lancer  อีเซอร์  (EXR)

ริงโกะค่ะ

[Zardus]

ไม่ดีมั้งครับ คราวนี้ยิ่งหนักไปใหญ่
คือ Galant นี่เทียบระดับเดียวกับ Accord-Camry-Teana นะครับ
- เรื่องขนาด
   ถ้าไปเทียบกันก็มีปัญหายิ่งใหญ่มากแล้ว
- เรื่อง Option
   อันนี้พูดไม่ออกบอกไม่ถูก แค่คิดก็จะอวกแล้ว
- เรื่องราคา
   Up ขึ้นไปอีกคราวนี้เจ๊งแน่ครับ

ผมว่าสิ่งที่ มิตซูควรเปลี่ยนไม่ใช่ชื่อครับ แต่ควรเปลี่ยนแนวคิด(ของผู้บริหารทั้งไทยและญี่ปุ่น)ว่า ควรเพิ่มเติมอะไรหรือทำยังไงให้
มีคนกลับมาซื้อรถไม่ว่าจะเป็นลูกค้าใหม่หรือลูกค้าเก่า(แบบครอบครัวผม) หรืออย่างน้อยหันมาสนใจหน่อยก็ยังดี
ส่วนตัวผมคิดว่าเปลี่ยนชื่อไปก็เท่านั้นครับ เพราะสมัยนี้มีแหล่งความรู้และข้อมูลมากมายในที่จะค้นหา
ถึงเมืองไทยจะใช้กาแล้น แต่ก็คงมีอีกหลาย ๆ เมืองหรือประเทศใช้ แลนเซอร์อยู่ดี ผมว่าไม่แตกต่างครับ

เอ อันนี้ก็....... รู้สึกจะเกินไปหน่อย แต่เห็นด้วยยังไงไม่รุแฮะ อิอิอิ

[hutzero]

Galant EVOLUTION X       ไม่เคยได้ยิน
LANCER EVOLUTION X     อันนี้ล่ะใช่

รถเชื้อสายเหล่ากอตระกลู EVO จะให้ย้าย  ตระกลูได้อย่างไรกัน  สัญชาติญานดิบหายหมด 

[patzahut]

นี่เป็น Link เช็คเลขตัวถังรถ Lancer EX เผื่อใครอยากทราบว่ารถถูกผลิตวันไหน ส่งให้ศูนย์เมื่อไหร่ครับ

http://www.mitsubishi-motors.co.th/mitsubishi/mitsubishi_profile_contact.htm