EGRดีจริง รักษ์โลกจริงไหม

bear286

EGRดีจริง รักษ์โลกจริงไหม
« เมื่อ: ธันวาคม 11, 2019, 09:54:40 »
ความจริงเป็นระบบที่ห่วยและมีผลเสียเยอะในระยะยาวต่อความทนทานเครื่องยนต์ ทำไมเราต้องทนใช้ระบบห่วยๆเช่นนี้กันอยู่อีก พวกโลกสวยก็จะบอกว่ามันดี ใช่มันดีต่อมลพิษ แล้วเครื่องที่ทรุดโทรมลงไปมันเป็นมลภาวะต่อเจ้าของรถไหม แทนที่เครื่องจะทนทาน ใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ ก็ต้องมาเสื่อมอย่างไม่ใช่เรื่องไหม ตัวอย่างก็มี ลองเสริจ คอมมอนเรลกินน้ำมันเครื่อง ดูสิ >:(



U9WS

Re: EGRดีจริง รักษ์โลกจริงไหม
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: ธันวาคม 11, 2019, 10:08:54 »
EGR น่าจะเป็นทางเลือกที่ต้นทุนถูกที่สุดของผู้ผลิตรถเพื่อให้ผ่านมาตราฐานไอเสีย

ถัดมาก็คงเป็น start-stop

ถัดอีกมาก็ DPF หรือ adblue

สุดท้ายก็ต้องพึ่งมอเตอร์ hybrid




AT

Re: EGRดีจริง รักษ์โลกจริงไหม
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: ธันวาคม 11, 2019, 10:10:09 »
ครบแสนโล ผมแค่เข้าอู่ให้เขาถอดล้างให้ เขม่าก็ไม่ได้เยอะมากมาย



kez

Re: EGRดีจริง รักษ์โลกจริงไหม
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: ธันวาคม 11, 2019, 10:10:40 »
  รถเสีย ซ่อมได้

  อากาศเสีย. ซ่อมไม่ได้



Stp

Re: EGRดีจริง รักษ์โลกจริงไหม
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: ธันวาคม 11, 2019, 10:10:51 »
EGR ธรรมดาๆ แทบไม่ได้ช่วยลดมลพิษหรอก

ถ้าใส่ DPF + AdBlue มาคุณจะยอมรับมันไหมล่ะ ปัญหาน่าจะอยู่ที่ผุ้ใช้งานมากกว่าระบบนะ
:D ;D ร่วมรณรงค์รักการอ่านหนังสือ แทนการถามตลอดเวลา ;D :D



bear286

Re: EGRดีจริง รักษ์โลกจริงไหม
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: ธันวาคม 11, 2019, 10:14:13 »
ผมว่าAdd blueเป็นทางออกที่เหมาะสม เครื่องยนต์ไม่เสียหายด้วยครับ :-*



blitzpao

Re: EGRดีจริง รักษ์โลกจริงไหม
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: ธันวาคม 11, 2019, 10:26:36 »
รักษ์ขึ้น 5% ถ้าอยากอุดก็ผมก็แนะนำว่าให้ต่อท่อไอเสียเข้าห้องโดยสารด้วยด้วยจะได้แฟร์ๆ ฟอกอากาศให้ผมก่อน ;D



samaklen

Re: EGRดีจริง รักษ์โลกจริงไหม
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: ธันวาคม 11, 2019, 11:14:18 »
ต้องแฟร์ๆ กับฝั่งเบนซินด้วยครับ
ไม่งั้นจะเป็นน้ำสะอาดในแก้วสกปรก



Krongbun

Re: EGRดีจริง รักษ์โลกจริงไหม
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: ธันวาคม 11, 2019, 11:34:52 »
จากหัวข้อ ตอนแรกผมนึกว่าจะพูดถึงเรื่องกระบวนการ หรือวิธีการทำงานของ EGR
ว่ามันลดจริงหรือไม่จริงอย่างไร

ของแบบนี้มันเป็นสำนึกต่อส่วนรวมครับ  ไม่ได้โลกสวยน้ะ
ส่วนรถพังเนี่ย มันก็มีวิธีซ่อมบำรุงก่อนที่รถจะพังนิครับ อันนี้ก็คือความรับผิดชอบของเจ้าของเอง

ลองมองดูรอบๆตัวและลองศึกษาภาวะโลกร้อนดูเยอะๆครับ
ว่าปัจจุบันโลกมันแย่ลงขนาดไหน น่าจะภูมิใจมากกว่าน้ะครับ
ที่มีโอกาสเป็นส่วนนึงที่ช่วยลดมลพิษในอากาศ  ;)

ช่วยๆกันครับ



boogie2020

Re: EGRดีจริง รักษ์โลกจริงไหม
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: ธันวาคม 11, 2019, 11:40:27 »
ถ้าจะอ้าง มันก็อ้างย้อนไปได้เรื่อย ๆ ละครับ   เครื่องพัง ต้องเสียอะไหล่เพิ่ม ต้องถลุงเหล็กเพิ่ม ต้องทำเหมืองเพิ่ม


ง่ายๆ  คือไอเสียจากอุด EGR มันเหม็น  มลพิษเยอะ  แค่นั้นแหละ


ถ้าตอบตามกฎหมายแบบตรง ๆ  การดูแลรถให้ใช้ได้ตามมาตรฐานต่างๆ (เหมือนตรวจ ตรอ รถเก่า)  เป็นหน้าที่ของเจ้าของรถ ค่าใช้จ่ายเจ้ารถต้องรับผิดชอบ  ถ้าทำไม่ได้ ก็ต่อทะเบียนไม่ได้  ก็ไม่ควรซื้อรถมาแต่แรก ถ้าจะดูแลไม่ไหว 
-----------------------------------------------------------
There is no spoon
-----------------------------------------------------------



akewizard

Re: EGRดีจริง รักษ์โลกจริงไหม
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: ธันวาคม 11, 2019, 11:55:02 »
ถ้าโลกไม่สวยเนี่ย....มันจะอยู่กันไม่ได้น่ะคับ

คุณรู้ไหมว่ามีคนเป็นโรคระบบทางเดินหายใจปีๆนึง เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ......
วันนึงพวกที่ป่วยอาจจะเป็นคนที่เอาแต่พูดว่า ผมโลกไม่สวย ฉันโลกไม่สวย ก็ได้น่ะ

2-3 วันนี้ เตรียมรับมือปัญหาเรื่องฝุ่น PM2.5 ได้เลยคับ  เวลาอากาศเย็นๆนิ่งๆมันจะกดฝุ่นในบรรยากาศลงมาแถวระดับพื้น

-------
ระบบ EGR มันเสถียรแค่ไหน อันนี้ผมคิดว่าไม่ใช่ประเด็น
เป็นหน้าที่ของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ ที่ต้องไปหาวิธีลดมลพิษจากไอเสียให้ได้ ถ้า EGR มันทำงานไม่ดีก็ต้องไปหาระบบอื่นแทน



bear286

Re: EGRดีจริง รักษ์โลกจริงไหม
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: ธันวาคม 11, 2019, 12:55:57 »
ควรยกเลิกEGRแล้วใช้Add blueแทนครับ ผ่านระดับEuro6ได้เลย



DiKiBoyZ

Re: EGRดีจริง รักษ์โลกจริงไหม
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: ธันวาคม 11, 2019, 13:05:23 »
ความจริงเป็นระบบที่ห่วยและมีผลเสียเยอะในระยะยาวต่อความทนทานเครื่องยนต์ ทำไมเราต้องทนใช้ระบบห่วยๆเช่นนี้กันอยู่อีก พวกโลกสวยก็จะบอกว่ามันดี ใช่มันดีต่อมลพิษ แล้วเครื่องที่ทรุดโทรมลงไปมันเป็นมลภาวะต่อเจ้าของรถไหม แทนที่เครื่องจะทนทาน ใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ ก็ต้องมาเสื่อมอย่างไม่ใช่เรื่องไหม ตัวอย่างก็มี ลองเสริจ คอมมอนเรลกินน้ำมันเครื่อง ดูสิ >:(

เท่าที่คุณเอ่ยมา ผลเสียหลักๆ คือ รถ เครื่องยนต์ นะ

แต่ผลลัพธ์ของ EGR คือ มลพิษ ที่ปล่อยออกมา มันมีมาไม่ได้ออกแบบให้ช่วยเรื่องประสิทธิ์ภาพ หรือ สมรรถณะของเครื่องยนต์ นะ ผมว่าคุณสับสนนะ

ส่วนนานไป แล้วมีการอุดตัน หรือ กินน้ำมัน ก็ต้องเข้าสู่กระบวนการบำรุงรักษา จะล้าง หรือ ทำความสะอาด ก็ว่าไป แล้วมันก็จะกลับมาใช้งานได้เต็มที่เหมือนเดิม

ผมว่าคุณมองในมุมแค่ว่า รถจะเสียหาย ประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ลดลง กินน้ำมัน บลาๆๆๆๆๆ

ปล. มองก็มองให้ครบทั้งเบนซิน และ ดีเซล ด้วยนะ



I-PULSE

Re: EGRดีจริง รักษ์โลกจริงไหม
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: ธันวาคม 11, 2019, 13:08:18 »
มลพิษทางอากาศมันส่งผลกระทบเราทุกคนนะครับ ระบบ egr มันแย่ทำเครื่องสกปรกและเสื่อมก็จริง เราก็ถอดล้างทุกๆแสนโลเอาครับ
คิดถึงส่วนรวมบ้าง บางคนบ้านอยู่ริมถนนนี่หนักเลยคุณเห็นใจเขาบ้างไหมครับ



Gordon Freeman

Re: EGRดีจริง รักษ์โลกจริงไหม
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: ธันวาคม 11, 2019, 13:41:37 »
มันไม่พังเยอะขนาดนั้นหรอกครับ
2011 Kawasaki Ninja 650 (Sold)
2012 Ford Fiesta 1.6 Sport Ultimate (Sold)
2013 Suzuki Swift Eco GLX 1.25 (Sold)
2015 Honda Civic 1.8 (Sold)
2017 Toyota Fortuner 2.4 (Sold)
2019 Honda Jazz S MT (Sold)
2020 Nissan Almera VL 1.0T
2022 Isuzu D-Max Cab 4 1.9 AT
2023 Neta V



mcat231032

Re: EGRดีจริง รักษ์โลกจริงไหม
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: ธันวาคม 11, 2019, 14:08:34 »
เสริมประเด็นให้ ครับกลัวเข้าใจแต่ฝั่งดีเซล

เครื่องเบนซิน ก็มี EGR นะครับ

เพียงแต่ ตัวเบนซินอาจจะเกิดเขม่าสะสมช้ากว่าหน่อย เท่านั้นเองครับ 555+

ดูอย่างเครื่อง ยาริส 3NR-FKE  ตัวใหม่ก็ได้ครับ มี EGR มาแล้ว อยู่ติดกับฝาครอบเครื่องเลย 555555+



pladaek

Re: EGRดีจริง รักษ์โลกจริงไหม
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: ธันวาคม 11, 2019, 14:13:45 »
ผมมองเห็นอยู่อย่างเดียวสำหรับเจ้าของกระทู้คือ กลัว"รถพัง"

อิซูซุ มิวเซเว่น เครื่อง 3.0 บ้านผม
เครื่องที่ขึ้นชื่อว่าควันดำ เสียงดัง
ไม่เคยอุด วิ่งมา 300,000 กม. มันก็ยังนิ่ง ไม่เห็นจะพังตรงไหน
เพราะในเมื่อผมหมั่นใส่ใจและดูแลมันซะอย่าง..
ผมว่ามันจะพังเพราะอย่างอื่นก่อนมากกว่า เช่น พวกระบบระบายความร้อนเสื่อมตามอายุ

คุณจะอุดก็อุดไป รถมันใส่มาให้ก็ไปถอดไปอุดมันซะก็แค่นั้น
ถ้าคุณจะมาแซะคนไม่อุดว่าโลกสวย
คุณมันโคตร"เห็นแก่ตัว"เลยครับ..
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 11, 2019, 14:17:00 โดย pladaek »
ไม่ได้ขับรถเพื่อทำเวลาที่ดีที่สุด.. แต่ขับรถเพื่อเจอช่วงเวลาที่ดีที่สุด..



Amnaj

Re: EGRดีจริง รักษ์โลกจริงไหม
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: ธันวาคม 11, 2019, 15:15:11 »
ผมมองว่า egr ทำให้ประสิทธิภาพเครื่องยนต์ลดลงเรื่อยๆเมื่อใช้ไปนานๆ  ทำให้เราต้องใช้น้ำมันมากขึ้นในการไปถึงจุดหมาย



punn

Re: EGRดีจริง รักษ์โลกจริงไหม
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: ธันวาคม 11, 2019, 15:21:36 »
เพราะสิ่งแวดล้อมนั้นราคาแพง!! แต่มันเป็นราคาที่ผมยอมจ่าย!!
Captain America ไม่ได้กล่าวไว้

-------

อย่างที่หลายๆท่านบอก มันไม่ได้เกิดมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพเครื่อง
แต่เกิดมาเพื่อลดผลกระทบต่อสุขภาพ ทั้งของ"ตัวคนขับเอง" และคนในสังคม
และมันมีวิธีดูแลของมัน เพื่อให้กระทบต่อประสิทธิภาพเครื่องให้น้อยเท่าที่จำเป็น
หรือแต่ละท่านอยากจะรักษาปอดของตัวเองแทน

เมื่อก่อนผมเคยไม่ชอบเครื่องดีเซลเอามากๆ เนื่องจากมลพิษที่ร้ายกาจ
ตอนซื้อฟอร์จูนเนอร์ผมก็เลือกเบนซินด้วยความตั้งใจแต่แรกจากเรื่องมลพิษเป็นหลัก
แม้จะมีแต่คนบอกว่ากำลังมันน้อย (แต่พ่อแม่ผมคงยิ้มเพราะลิมิตไว้ที่ 160km/h)

โชคดีที่ยุคนี้มี hybrid เพิ่มขึ้นมาเป็นตัวเลือก
และแน่นอนมันมีราคาของมัน แต่มันเป็นราคาที่ผมยอมจ่าย ..
เป็นคนโลกปกติธรรมดา :)
ไม่โลกสวย และไม่โลกมืด อยู่กับความเป็นจริงและพลังงานบวก ..

ปราชญ์สอนสิ่งไหน คนก็จะจำสิ่งนั้น
ประสบการณ์เจอแบบไหน คนก็จะคิดทางนั้น
ต่างคนต่างประสบการณ์เรียนรู้สิ่งเดียวกัน ก็จะออกมาแตกต่างกันไปครับ



bravo

Re: EGRดีจริง รักษ์โลกจริงไหม
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: ธันวาคม 11, 2019, 15:26:53 »
เพื่อนผมใช้รถ 10 ปี 2xx,xxx กม. โดยไม่อุด EGR ก็ไม่เห็นว่าจะพังก่อนรถที่อุดนะครับ



bear286




XyteBlaster

Re: EGRดีจริง รักษ์โลกจริงไหม
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: ธันวาคม 11, 2019, 16:16:22 »
คนเห็นแก่ตัว ก็จะมีทัศนคติ แบบเห็นแกาตัว ในทุกๆ เรื่องครับ

พ่นควันพิษ ออกสู่อากาศ น่าจะต่อท่อย้อนเข้าห้องโดยสารก่อนปล่อยออกมานะครับ



MUK

Re: EGRดีจริง รักษ์โลกจริงไหม
« ตอบกลับ #22 เมื่อ: ธันวาคม 11, 2019, 16:31:55 »
พอจะยืนยันได้ไหมครับว่าไม่มีผลต่อเครื่อง กับ Triton 13 ปี เกือบสามแสนกิโลเมตร ไม่เคยซ่อมเครื่องยนต์เลยแม้แต่ครั้งเดียว เปลี่ยนถ่ายของเหลวก็ที่ศูนย์ตลอดไม่มีข้างนอกใช้ของศูนย์ทั้งหมดครับ มันไม่ได้ดีที่สุด แต่ก็ช่วยได้ไม่มากก็น้อยครับ รถแรงตกไหมไม่เคยมีอาการ จนขายไปครับ แค่แรงม้าที่มีเหลือๆ สำหรับการใช้ในชีวิตประจำวันแล้วครับ



deertesla

Re: EGRดีจริง รักษ์โลกจริงไหม
« ตอบกลับ #23 เมื่อ: ธันวาคม 11, 2019, 18:12:33 »
ความจริงเป็นระบบที่ห่วยและมีผลเสียเยอะในระยะยาวต่อความทนทานเครื่องยนต์ ทำไมเราต้องทนใช้ระบบห่วยๆเช่นนี้กันอยู่อีก พวกโลกสวยก็จะบอกว่ามันดี ใช่มันดีต่อมลพิษ แล้วเครื่องที่ทรุดโทรมลงไปมันเป็นมลภาวะต่อเจ้าของรถไหม แทนที่เครื่องจะทนทาน ใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ ก็ต้องมาเสื่อมอย่างไม่ใช่เรื่องไหม ตัวอย่างก็มี ลองเสริจ คอมมอนเรลกินน้ำมันเครื่อง ดูสิ >:(
ถ้าไม่รักษ์โลกก็ช่วงเอาควันจากท่อไอเสียรถที่ไปอุด EGR ทะลวงแคต ต่อท่อย้อนกลับไปที่ห้องโดยสารด้วยนะครับ  มันจะได้ไม่ไปทำร้ายคนอื่น  ควันดำๆจะได้ไม่พ่นออกมาสร้างมลพิษบนท้องถนน



HLRx

Re: EGRดีจริง รักษ์โลกจริงไหม
« ตอบกลับ #24 เมื่อ: ธันวาคม 11, 2019, 18:26:34 »
เห็นทรรศนะคติ ของ จขกท.แล้ว no comment เลยผม



youngbear

Re: EGRดีจริง รักษ์โลกจริงไหม
« ตอบกลับ #25 เมื่อ: ธันวาคม 11, 2019, 19:47:04 »
 8) 8) 8)......Exhaust Gas Recirculation / EGR ก็ช่วยลดมลพิษ ออกจากอากาศที่มนุษย์กับสัตว์ทั้งโลกใช้หายใจสะอาดขั้นโดยรวม อย่าหยุมหยิมกับบางเรื่องไร้สาระครับ :-X



NS

Re: EGRดีจริง รักษ์โลกจริงไหม
« ตอบกลับ #26 เมื่อ: ธันวาคม 11, 2019, 21:15:44 »
 ต้องรอให้ซื้ออากาศหายใจแล้วค่อยจริงจังกันละมังครับ
จะเลือกรถหรือเมีย....

...รถสิคร๊าฟ



bear286

Re: EGRดีจริง รักษ์โลกจริงไหม
« ตอบกลับ #27 เมื่อ: ธันวาคม 11, 2019, 23:11:18 »
ผมอาจจะตกหล่นอะไรไปหน่อย แต่ที่อยากจะสื่อก็คือเราไม่ควรใช้ระบบEGRอีกต่อไป ควรใช้Add blueซึ่งดีทั้งต่อเครื่องยนตร์และสภาพแวดล้อม เป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ สามารถผ่านมลพิษได้ถึงEuro6ต่างหากที่ผมต้องการจะสื่อ จริงๆถ้ามีทางเลือกที่ดีคงไม่มีใครอยากอุดEGRกันหรอกครับ จริงอยู่ครับที่หลายคนใช้มาหลายแสนโล แต่คุณเคยถอดแหวนมาดูสภาพกันไหมว่าจริงๆแล้วแหวนมันหมดสภาพไปเรียบร้อยแล้ว แค่นับเวลาถอยหลังรอวันตายเท่านั้นเอง ว่าแต่ดูกันเป็นรึป่าวเอ่ย?



Ruksadindan

Re: EGRดีจริง รักษ์โลกจริงไหม
« ตอบกลับ #28 เมื่อ: ธันวาคม 11, 2019, 23:55:27 »
มารับความรู้ ได้เยอะเลยครับ แม้ไม่ได้ใช้รถ diesel



Jacob

Re: EGRดีจริง รักษ์โลกจริงไหม
« ตอบกลับ #29 เมื่อ: ธันวาคม 12, 2019, 07:16:55 »
ผมอาจจะตกหล่นอะไรไปหน่อย แต่ที่อยากจะสื่อก็คือเราไม่ควรใช้ระบบEGRอีกต่อไป ควรใช้Add blueซึ่งดีทั้งต่อเครื่องยนตร์และสภาพแวดล้อม เป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ สามารถผ่านมลพิษได้ถึงEuro6ต่างหากที่ผมต้องการจะสื่อ จริงๆถ้ามีทางเลือกที่ดีคงไม่มีใครอยากอุดEGRกันหรอกครับ จริงอยู่ครับที่หลายคนใช้มาหลายแสนโล แต่คุณเคยถอดแหวนมาดูสภาพกันไหมว่าจริงๆแล้วแหวนมันหมดสภาพไปเรียบร้อยแล้ว แค่นับเวลาถอยหลังรอวันตายเท่านั้นเอง ว่าแต่ดูกันเป็นรึป่าวเอ่ย?
รถยังถอดมาซ่อมได้ แต่ปอดถอดมาซ่อมไม่ได้ ก็คิดเอาเองนะครับ คุณอาจมองว่ารักษาที 30 บาท แต่ร่างกายเสียแล้วเสียเลย มันไม่ได้รักษาได้ทุกอย่าง ยิ่งถ้าเป็นมะเร็งขึ้นมาคุณจะยอมเสียทุกอย่างเพื่อให้หาย บางคนขายบ้านขายที่ขายรถก็ยังช่วยอะไรไม่ได้
ส่วนเรื่องเครื่องถ้ามี adblue ก็ดี ผมก็สนับสนุน แต่ถ้ายังใช้ egr แล้วกังวลมากก็หมั่นตรวจสอบทุกสิบปี มันคงไม่ยากอะไรใช่มั้ย บางอย่างเราก็ต้องรู้จักเสียสละเพื่อส่วนรวมบ้างครับ ถึงจะเรียกได้ว่าไม่เห็นแก่ตัว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 12, 2019, 07:20:59 โดย Jacob »