รถหรใน มาเลเซีย ขายราคาถูกกว่า ประเทศไทย แต่ option ให้เยอะกว่า น่าน้อยใจจริงๆ

bungy

อย่าง Mercedes-Benz E300 ใน มาเลเซีย ขายราคาไม่เกิน 5 ล้านบาท แต่มี ซันรูฟแก้ว มีจอ DVD 2 ชุด ให้ มี keyless go แต่ ทำไมที่ ประเทศไทย ไม่เห็นมีให้เลย แรงม้าก็ตอนอีกครับ

http://paultan.org/2010/01/24/mercedes-benz-e-class-w212-test-drive-review/

ราคา http://www.mercedes-benz.com.my/content/media_library/malaysia/media_library/passenger_cars/price_list/Price_List_2009/1109_E300_Peninsular_pdf.object-Single-MEDIA.tmp/E300pricelist%20front-peni.pdf

ส่วน BMW 5 ใหม่ มีระบบ Dynamic Damping Control และ ระบบควบคุมล้อหลังใน 523i และ Adaptive Drive ใน 535i  ทำให้ mode การขับได้เป็น comfort normal sport sport plus เหมือนใน BMW 7 ครับ และอีกอย่าง BMW 7 ในประเทศไทย ไม่มีระบบเตือนในการเปลี่ยนเลน แต่ในมาเลเซีย มีครับ

http://paultan.org/2010/05/07/bmw-unveils-all-new-f10-5-series-2-variants-from-rm398k/

http://www.bmw.com.my/com/en/newvehicles/5series/sedan/2010/showroom/compare.html?model_1=523i&model_2=535i

http://www.autoworld.com.my/v2/news/nb_details.asp?awreviewid=2925&awcatid=rt.atc.car.pv

ราคา นั้น http://www.kl-lifestyle.com.my/2010/05/bmw-malaysia-introduces-the-all-new-bmw-5-series/

toyota camry ที่ ออสเตรเลีย มีถุงลม 6 ลูก แต่ทำไมประเทศไทยมี 4 ลูก

ผมน้อยใจว่า ราคารถยนต์ในประเทศไทยแพง แต่ option มาให้น้อยมากๆๆๆๆๆๆ

เพราะภาษีของรัฐอย่างเดียว หรือ กำไรเยอะๆของบริษัท อะไรมากกว่ากันแน่ครับ เพราะอุปกรณ์เพิ่มไปเท่าไรนั้นก็ไม่น่าจะทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้นอีกอย่างน้อย 30%ได้นะครับ



prai

ถ้าอยากได้ก็ ไปซื้อที่มาเลเซียแล้วเสียภาษีอาฟต้ามานิดหน่อยครับ
ภาษีแพงครับ เพราะรัฐบาลในสมัยนึงเห็นว่ารถยนต์เป็นสินค้าฟุ่มเฟือย
จากนั้นก็ได้มีการปรับลดภาษีลงมาเรื่อยๆ แต่ก็ยังสูงอยู่ดี
ลุ้นกันว่าอีกสองถึงสามปีข้างหน้าถัดจากไปนี้ ภาษีจะลดหรือไม่


ถามว่าออฟชั่นที่ให้มาในรถยนต์ในไทยนั้นน้อยไหม? ผมว่าไม่นะครับ
ที่น้อยคือระบบความปลอดภัยต่างๆ เช่น แอร์แบกหรือม่านนิรภัย เป็นต้น

รถยนต์นั่งที่คุ้มค่าในกลุ่มตลาดบนที่สุดผมว่าคือ Volvo S80 ครับ ออฟชั่น/ราคา ถือว่าดุลย์ภาพ



car mood

คงไม่มีประเทศไหนที่เก็บภาษีรถยนต์แพงเท่าไทยอีกแล้วหล่ะ



อืม...นะ

ขนาดเก็บแพง รถยังเยอะเต็มถนนเลยครับ มันคือความจริงอันน่าเศร้า  :-\
'18 Honda Jazz gk5 s mt
'11 Volkswagen Scirocco R
'04 Honda Integra dc5 Type R
'96 Honda Prelude bb1



patzahut

ขนาดเก็บแพง รถยังเยอะเต็มถนนเลยครับ มันคือความจริงอันน่าเศร้า  :-\

ขนาดรถแพงนะ พูดง่ายๆว่าคนไทย ใครเก็บเงินซื้อ Honda Civic ได้ อยู่ที่ฝั่งยุโรป คงได้ถอย Ferrari ในความเหนื่อยที่เท่าๆกัน

Ferrari ที่ฝั่งยุโรป คันละ 7 ล้าน เงินที่คนยุโรปได้ต่อเดือน สูงกว่าเรา ประมาณ 10 เท่า (ถ้าใช้เงินในค่าครองชีพเหมือนๆกัน ก็คงเหลือเป็น % เท่าๆกัน)

เช่น คนไทยได้เดือนละ 30 k บาท  ยุโรปได้เดือนละ 300 k บาท  หักค่าใช้จ่าย เหลือต่อเดือน คนไทย 10k ยุโรป 100k  ก็เอามาผ่อน รถคันละ 7 แสน : 7ล้าน ได้เหมือนๆกัน



bungy

ตั้งคำถามอย่างนี้ เพราะว่า ขนาดรถอย่าง March ที่ส่งออก ญีุ่ปุ่น กับไทย ยังได้ spec ไม่เหมือนกันเลย
แล้วเราได้อะไร จากการที่จ่ายแพง น่าจะได้สิ่งที่ดีกว่าหรือเทียบเท่า ไม่ใช่ ได้ห่วยกว่า

สงสัยว่า นโยบายบริษัทรถยนต์เองที่ต้องการขายแพงเอง เพื่อเอากำไรเยอะๆ ทั้งที่ผลิตในไทย หรือ ภาษีสรรพสามิตมากกว่ากันครับ เพราะภาษีสรรพสามิตคิดฐานภาษีจากราคาขาย หน้า โรงงานผลิตรถยนต์นะครับ อัตรา 30-50% นะครับ แล้วบริษัทรถยนต์กำไรเยอะนะครับ อย่างน้อย 30 %

ผมเอาข้อมูลมาเปรียบเทียบ กับ ประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อดูว่า ประเทศไทย โดนเอาเปรียบจาก บริษัทรถยนต์มากขนาดไหน ทั้งที่เราเป็นฐานสร้างกำไรให้พวกเขาเยอะ ขนาดไหนกัน

ปล.ผมไม่มีปัญญาซื้อรถพวกนี้หรอก คุณ prai แค่เอาข้อมูลมาเปรียบเทียบเฉยๆ ว่าคนไทย โดนเอาเปรียบมากขนาดไหนจากบริษัทรถยนต์นะครับ



6162002

ขนาดเก็บแพง รถยังเยอะเต็มถนนเลยครับ มันคือความจริงอันน่าเศร้า  :-\

ขนาดรถแพงนะ พูดง่ายๆว่าคนไทย ใครเก็บเงินซื้อ Honda Civic ได้ อยู่ที่ฝั่งยุโรป คงได้ถอย Ferrari ในความเหนื่อยที่เท่าๆกัน

Ferrari ที่ฝั่งยุโรป คันละ 7 ล้าน เงินที่คนยุโรปได้ต่อเดือน สูงกว่าเรา ประมาณ 10 เท่า (ถ้าใช้เงินในค่าครองชีพเหมือนๆกัน ก็คงเหลือเป็น % เท่าๆกัน)

เช่น คนไทยได้เดือนละ 30 k บาท  ยุโรปได้เดือนละ 300 k บาท  หักค่าใช้จ่าย เหลือต่อเดือน คนไทย 10k ยุโรป 100k  ก็เอามาผ่อน รถคันละ 7 แสน : 7ล้าน ได้เหมือนๆกัน
เห็นด้วยเลยครับ ไม่เฉพาะรถ แม้แต่โน๊ตบุ๊ค ก็มีแต่คนบ่นว่า เข้าไทยแล้วราคาแพง โดนตัดสเปค ต่างๆนานา
อนิจจาคนไทย เหนื่อยเหมือนคนอื่น แต่ได้ของห่วยกว่าซะงั้น - -



prai

ตั้งคำถามอย่างนี้ เพราะว่า ขนาดรถอย่าง March ที่ส่งออก ญีุ่ปุ่น กับไทย ยังได้ spec ไม่เหมือนกันเลย
แล้วเราได้อะไร จากการที่จ่ายแพง น่าจะได้สิ่งที่ดีกว่าหรือเทียบเท่า ไม่ใช่ ได้ห่วยกว่า

สงสัยว่า นโยบายบริษัทรถยนต์เองที่ต้องการขายแพงเอง เพื่อเอากำไรเยอะๆ ทั้งที่ผลิตในไทย หรือ ภาษีสรรพสามิตมากกว่ากันครับ เพราะภาษีสรรพสามิตคิดฐานภาษีจากราคาขาย หน้า โรงงานผลิตรถยนต์นะครับ อัตรา 30-50% นะครับ แล้วบริษัทรถยนต์กำไรเยอะนะครับ อย่างน้อย 30 %

ผมเอาข้อมูลมาเปรียบเทียบ กับ ประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อดูว่า ประเทศไทย โดนเอาเปรียบจาก บริษัทรถยนต์มากขนาดไหน ทั้งที่เราเป็นฐานสร้างกำไรให้พวกเขาเยอะ ขนาดไหนกัน

ปล.ผมไม่มีปัญญาซื้อรถพวกนี้หรอก คุณ prai แค่เอาข้อมูลมาเปรียบเทียบเฉยๆ ว่าคนไทย โดนเอาเปรียบมากขนาดไหนจากบริษัทรถยนต์นะครับ
อ๋อตรงนั้นผมเข้าใจครับ แต่ผมยังยืนยังจากความเห็นแรกว่าที่แพงคือรัฐบาลของเราแหล่ะ ไม่ใช่ความผิดบริษัท



งั้นลองคิดเล่นๆ ภาษีสรรพสามิต 30% + ภาษีมูลค่าเพิ่มอีก 7% = 37% ของมูลค่ารถยนต๋ขนาดไม่เกิน 2000CC

Ex*  Ford Fiesta ราคา 699,000 บาท ที่ผู้บริโภคต้องจ่าย ลองคิดเป็นภาษี 37% ออกมา ได้ 258,630 บาท
ถ้าภาษีเหลือ 0% เมื่อไหร่ ราคาของเฟียสต้าตัวท้อปจะอยู่ที่ 440,370 บาท ผมว่ามันก็เท่าอเมริกานะ



แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นรัฐบาลของต่างประเทศเขาใช้เบี้ยไบ้รายทางแทน เช่น ภาษีน้ำมันที่แพงโอเว่อร์ ภาษีคาบอน์ เป็นต้น




BMTA


 ขนาดประกอบในไทยแท้ๆนะ

หลายๆยี่ห้อ ตัวส่งออกยังได้ออฟชั่นเยอะกว่าเลย ???

2012 ALMERA  1.2E M/T



prai


 ขนาดประกอบในไทยแท้ๆนะ

หลายๆยี่ห้อ ตัวส่งออกยังได้ออฟชั่นเยอะกว่าเลย ???


ผมมองว่าที่ออฟชั่นต้องเยอะ เป็นเพราะตลาดที่มีการแข่งขันสูงนะ
ถ้าไม่เป็นเช่นนั้นมันจะขายไม่ออก
อย่างออสเตเลีย อเมริกา ยูโร ญี่ปุ่น มีรถกี่แบรดน์กี่รุ่นที่ทำตลาด แล้วหันกลับหลังมองประเทศไทย ผูกมัดด้วย โตโยต้า ฮอนด้า เมอร์เซเดส บีเอ็ม เป็นหลัก



prai

เห็นด้วยเลยครับ ไม่เฉพาะรถ แม้แต่โน๊ตบุ๊ค ก็มีแต่คนบ่นว่า เข้าไทยแล้วราคาแพง โดนตัดสเปค ต่างๆนานา
อนิจจาคนไทย เหนื่อยเหมือนคนอื่น แต่ได้ของห่วยกว่าซะงั้น - -
[/quote]
ใช่ครับ ราคาเมืองไทยแพงกว่าเป็นเท่าตัว แต่ก็อย่างว่าแหล่ะครับ โน๊ตบุ๊กเขาแขวนขายตามร้านสะดวกซื้อก็มี ไม่กี่เหรียญ
และที่สำคัญ เมืองนอกมีตัวลิมิแตทแอนดิชั่นต่างๆ อันนี้แหล่ะที่อิจฉา



traveller

ภาษีสรรพสามิตคิดหน้าโรงงานครับ เช่น
โรงงานแจ้งราคาไว้ที่ 400,000 บาท
ภาษีสรรพสามิตรถใช้น้ำมัน E20 ได้อยู่ที่ 25% รถคันนี้ก็จะเสียภาษีที่ 100,000 บาท
ราคาก็จะเพิ่มเป็น 500,000 บาท
ส่งขึ้นโชว์รูม คิดค่าดำเนินการเพิ่ม กำไรต่างๆ ก็ตั้งราคาที่ 650,000 บาท
vat 7% ถ้าคิดที่ราคานี้ก็ 45,500 บาท
ราคาขายก็จะเป็น 695,500 บาท
เผื่อลูกค้าต่อของแถมอีก ก็ตั้งมันซะ 699,000 บาทเลย
นี่เป็นตัวอย่างนะครับ
ไม่ใช่ของจริง
และผมไม่ได้หมายถึง ฟอร์ด เฟียสต้า ด้วย
แต่ละคน คิดกันได้เองต่อไปนะครับ



choomy

เป็นผลกระทบมาจาก "Cost Reduction Activity" ของทาง Maker ผลิตรถยนต์ทั้งหลายนั่นแหละครับ ทั้งทำ VA / VE , Localization ลดต้นทุนต่างๆ

ถามว่าเห็นแก้ตัวมั๊ย ถ้ามองในมุมผู้บริโภค "น่าเห็นใจมากๆครับ"

แต่ถ้าถามในมุมผู้ประกอบการ การที่ต้องแบกรับค่าแรงพนักงานระดับ  > 5000 คน แล้วค่าแรงก็มีแต่จะเพิ่มขึ้นทุกๆปีๆ เค้าก็จำเป็นต้องลดอะไรที่ไม่จำเป็นออกไปเรื่อยๆแหละครับ

เรื่องแบบนี้ นานาจิตตังครับ

ผู้บริโภคอยากได้ของที่ดีที่สุดในราคาที่คุ้มค่าที่สุด

ผู้ผลิตก็อยากได้กำไรให้มากที่สุด ในสิ่งที่เค้าสามารถจะผลิตและขายได้

และที่สำคัญ ภาษีรถยนต์เมืองไทย มันขูดเลือดขูดเนื้อครับ ส่งผลให้ Maker ทั้งหลายต้องทำ CR กัน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 03, 2010, 13:44:57 โดย choomy »



bungy

เป็นผลกระทบมาจาก "Cost Reduction Activity" ของทาง Maker ผลิตรถยนต์ทั้งหลายนั่นแหละครับ ทั้งทำ VA / VE , Localization ลดต้นทุนต่างๆ

ถามว่าเห็นแก้ตัวมั๊ย ถ้ามองในมุมผู้บริโภค "น่าเห็นใจมากๆครับ"

แต่ถ้าถามในมุมผู้ประกอบการ การที่ต้องแบกรับค่าแรงพนักงานระดับ  > 5000 คน แล้วค่าแรงก็มีแต่จะเพิ่มขึ้นทุกๆปีๆ เค้าก็จำเป็นต้องลดอะไรที่ไม่จำเป็นออกไปเรื่อยๆแหละครับ

เรื่องแบบนี้ นานาจิตตังครับ

ผู้บริโภคอยากได้ของที่ดีที่สุดในราคาที่คุ้มค่าที่สุด

ผู้ผลิตก็อยากได้กำไรให้มากที่สุด ในสิ่งที่เค้าสามารถจะผลิตและขายได้

และที่สำคัญ ภาษีรถยนต์เมืองไทย มันขูดเลือดขูดเนื้อครับ ส่งผลให้ Maker ทั้งหลายต้องทำ CR กัน

แต่ว่า การผลิตออกมาเป็นจำนวนมาก ที่มีลักษณะเหมือนๆกัน เช่น โครงสร้างรถยนต์ หรือ optionเอง น่าจะทำให้ต้นทุนต่อหน่วยในการผลิตต้องลดลงไม่ใช่หรือ หรือว่าไม่จริง ผมว่า มันขึ้นอยู่กับความจริงใจของบริษัทรถยนต์ว่าจะทำหรือเปล่า หรือกะว่าจะสูบอย่างเดียวมากกว่า ผมว่า ภาษีเป็นข้ออ้างเท่านั้นล่ะครับ ไม่งั้นบริษัทรถยนต์ในไทยจะมีกำไรส่งกลับไปยังบริษัทแม่ที่ต่างประเทศหรือครับ ราคาขายหน้าโรงงาน จะตั้งเท่าไรก็ได้ เพราะ ต้องบวกอย่างน้อย30% แน่ ยิ่งส่งออกด้วยแล้ว ต้นทุนต้องน้อยกว่าแน่นอนครับ พวกชิ้นส่วนรถยนต์ในไทย ต้องมาง้อ บริษัทผลิตรถยนต์อยู่แล้ว ราคาชิ้นส่วนก็น่าจะถูกลงอยู่แล้ว
ไม่น่ารัฐบาลไทย ถึงไม่ปรับภาษีเงินได้จากกำไรสุทธิ จาก 30% เป็น 25% ต้นปี 2552 ที่บริษัทรถยนต์เรียกร้องกัน
สรุป ผลิตในไทย ขายแพง แต่ของห่วย อนิจจา คนไทย



6162002


อ๋อตรงนั้นผมเข้าใจครับ แต่ผมยังยืนยังจากความเห็นแรกว่าที่แพงคือรัฐบาลของเราแหล่ะ ไม่ใช่ความผิดบริษัท



งั้นลองคิดเล่นๆ ภาษีสรรพสามิต 30% + ภาษีมูลค่าเพิ่มอีก 7% = 37% ของมูลค่ารถยนต๋ขนาดไม่เกิน 2000CC

Ex*  Ford Fiesta ราคา 699,000 บาท ที่ผู้บริโภคต้องจ่าย ลองคิดเป็นภาษี 37% ออกมา ได้ 258,630 บาท
ถ้าภาษีเหลือ 0% เมื่อไหร่ ราคาของเฟียสต้าตัวท้อปจะอยู่ที่ 440,370 บาท ผมว่ามันก็เท่าอเมริกานะ



แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นรัฐบาลของต่างประเทศเขาใช้เบี้ยไบ้รายทางแทน เช่น ภาษีน้ำมันที่แพงโอเว่อร์ ภาษีคาบอน์ เป็นต้น


ยังคำนวณผิดอยู่นะครับ ถ้าบอกว่าภาษี37% แสดงว่าราคาที่ขาย 699,000 คือ 137%  ดังนั้น ราคาทุนจริงๆ คือ100% จะได้ว่า 510,219 บาทครับ
ส่วนผมเห็นด้วยว่า เป็นเพราะรัฐบาลเช่นกัน เก็บภาษีแพงๆ แล้วเอาตังไปผลาญกับอะไรที่ประชาชนไม่ได้ประโยชน์ - -



Cube

ขนาดเก็บแพง รถยังเยอะเต็มถนนเลยครับ มันคือความจริงอันน่าเศร้า  :-\
นี่แหละ เหตุผล แพงแค่ไหนก็ยังซื้อ



FyGI

ขนาดเก็บแพง รถยังเยอะเต็มถนนเลยครับ มันคือความจริงอันน่าเศร้า  :-\
นี่แหละ เหตุผล แพงแค่ไหนก็ยังซื้อ

น่าเศร้ากว่า เพราะระบบขนส่งมวลชนมันห่วย เลยต้องดิ้นรนหารถมาใช้

และผมก็เป็น 1 ในนั้น



Fly to dream

ประเทศไทยไม่รู้จะเก็บภาษีจากรถยนต์ให้มากไปทำไมอัตราภาษีนี้ใครคิด และภาษีรถนำเข้าด้วยใครโง่คิดขึ้นมา

ทำไมภาษีไม่ไปเก็บกับเหล้าเบียร์บุหรี่หรืออะไรแบบนี้  และทำไมไม่สร้างคาสิโนทั้งๆเป็นแหล่งรายได้เข้ารัฐชั้นดีเลย
ตั้งตามหัวเมืองท่องเที่ยวสำคัญๆไปเลยส่วนจะป้องกันการเกิดปัญหาต่างๆยังไงก็ไม่ต้องคิดมากเช่น ถ้ารัฐจะตั้งคาสิโน
ก็ซื้อที่ดินเป็นเขตของรัฐ แล้วทำทางเข้าแบบสนามบินไปเลย เยาวชนที่ไหนจะเข้าไปเล่นได้  ส่วนรายได้อีกอย่างที่ไทยควรได้

คือการขุดคอคอดกะเชื่อมระหว่างอันดามันกับอ่าวไทย  ไม่ถึงต้องขุดก็ได้แค่สร้างคลองยกระดับน้ำให้เรือผ่านก็พอเหมือนที่เยอรมัน
  การเก็บภาษีรถยนต์ทำไมหลายประเทศเก็บภาษีรถนำเข้ามันน้อยมากๆ แต่รัฐไม่มีปัญหาอะไร
ขยะของโลกออนไลน์​ในปัจจุบั​นคือเชื่อคนโง่ที่มีคำพูดสวยหรู​ หาข้อมูล​ไม่จริงมาโกหกคำโตๆ​ อีกอย่างคือพูดความจริงไม่หมด กับพวก​ Avatar ที่ทำเป็น​เก่ง​แต่เก่งน้อยในโลกความจริง​ซึ่งจะหาได้ง่าย



6162002

ประเทศไทยไม่รู้จะเก็บภาษีจากรถยนต์ให้มากไปทำไมอัตราภาษีนี้ใครคิด และภาษีรถนำเข้าด้วยใครโง่คิดขึ้นมา

ทำไมภาษีไม่ไปเก็บกับเหล้าเบียร์บุหรี่หรืออะไรแบบนี้  และทำไมไม่สร้างคาสิโนทั้งๆเป็นแหล่งรายได้เข้ารัฐชั้นดีเลย
ตั้งตามหัวเมืองท่องเที่ยวสำคัญๆไปเลยส่วนจะป้องกันการเกิดปัญหาต่างๆยังไงก็ไม่ต้องคิดมากเช่น ถ้ารัฐจะตั้งคาสิโน
ก็ซื้อที่ดินเป็นเขตของรัฐ แล้วทำทางเข้าแบบสนามบินไปเลย เยาวชนที่ไหนจะเข้าไปเล่นได้  ส่วนรายได้อีกอย่างที่ไทยควรได้

คือการขุดคอคอดกะเชื่อมระหว่างอันดามันกับอ่าวไทย  ไม่ถึงต้องขุดก็ได้แค่สร้างคลองยกระดับน้ำให้เรือผ่านก็พอเหมือนที่เยอรมัน
  การเก็บภาษีรถยนต์ทำไมหลายประเทศเก็บภาษีรถนำเข้ามันน้อยมากๆ แต่รัฐไม่มีปัญหาอะไร
มันก็ติดอยู่ที่ผลประโยชน์ไงครับ เหมือนที่บ้านเราไม่มีเนตสายไฟฟ้านั่นแหละ พวก TT&T  TOT ขาดทุน ใครมานจะยอม เอิ๊ก



paulmoderndog

แล้วทําไม  benz E class ประกอบนอกถูกกว่าละ 3,500,000 กับประกอบใน 3,7x,xxx,xxx
หรือ lexus ประกอบนอก Greyถูกกว่า1ล้่าน