รถคุณ คันที่ใช้น้ำมันเครื่องตัวนี้
วิ่งมากี่ปี และกี่โล แล้วครับ ?
เกี่ยวกับวิ่งกี่โล ด้วยหรอครับ อันนี้สอบถามเป็นข้อมูล บางคันวิ่งแค่3-4หมื่น เขาก็ใช้เบอร์ 40 กันแล้ว(บางคันหมดประกันศูนย์เปลี่ยนเลย)
น้ำมันตัวนี้ ชื่อมันบอกอยู่แล้วว่าเป็น High Mileage ครับ เรียกง่ายๆ ว่า เลขไมล์เยอะ ประมาณนั้น
แต่รถไมล์เยอะ ถ้าน้ำมันเครื่องไม่พร่อง กำลังอัดปกติ ก็ใช้เบอร์ปกติ ได้เช่นเดิมนั้นละครับ รถเก๋งผมยังเบอร์ 20-30 อยู่เลย ไมล์แสนกว่า
ถ้าเลขไมล์แค่ไม่กี่หมื่นใช้พวกเบอร์40 ส่งผลเสียยังไงครับ
เบอร์น้ำมันเครื่อง มีความเหมาะตามสภาพเครื่องยนต์
ถ้ารถ(ระบุ) ว่าใช้เบอร์ 20-30 แต่ไปใช้เบอร์ 50-60 ข้อเสียที่เห็นชัดๆ คือ อืด กินน้ำมัน น้ำมันเครื่องไหลได้ช้า(เห็นผลชัดตอนเครื่องยนต์) ทำให้ล่อลื่นชิ้นส่วนได้ช้า(ต้องวอร์มเครื่องยนต์ก่อน) ถ้าสตาร์ทแล้วขับเลย เครื่องยนต์สึกหรอ ไวกว่าปกติ แน่นอนครับ
ถ้าสตาร์ทแล้วขับเลยเบอร์ไหนผมก็ว่าสึกได้เหมือนกัน น้ำมันไหลเวียนช้าอันนี้ก็เห็นต่าง ปั้มน้ำมันเครื่องทำงานมีแรงดันของมันอยู่แล้ว เบอร์ 50-60 นี่คงหนืดไป ไทยเมืองร้อน หน้าร้อนใช้เบอร์ 30 เหลวเป็นน้ำเลย
รถเก๋งผมวิ่งเกือบ 2 แสนโล ยังใช้เบอร์ 20 เครื่องยนต์ปกติดีครับ กำลังอัดปกติ เสียงเครื่องยนต์ปกติ ปีนึงใช้รถ 5 หมื่นโล
ถ้าบอกเบอร์ 30 เหลวเป็นน้ำไหม? ความร้อนเมืองไทยใช่ครับ ร้อนกว่าที่อื่นจริง แต่อุณหภูมิภายในเครื่องยนต์ มันร้อนกว่า อุณหภูมิภายนอกอยู่แล้วครับ ดังนั้น อุณหภูมิภายในที่ร้อนกว่า จะแพร่ออกมาข้างนอก (จะผ่านตัวแครงท์ เฮ้าส์ซิ่ง หรือ oil cooler ว่าไป) ที่เห็นผลชัดๆ คือ ความร้อนสะสม กรณีรถติด จอดนิ่งนานๆ ครับ ถ้ารถวิ่ง ลมเป่า ไม่ค่อยมีผล
ที่สำคัญ การสึกหรอของรถยนต์ มากที่สุด คือ ตอน "สตาร์ท" ครับ หลักๆ เกิดจากน้ำมันเครื่องในส่วนบนๆ มันแห้ง หรือ ไหลลงอ่างหมด พอสตาร์ทเครื่องยนต์ใหม่ มันไหลกลับขึ้นมาไม่ทันในตอนแรก และ ไหลกลับขึ้นมาก็ย้งต้องไหลไปหล่อลื่นตามซอกเล็กซอกน้อย จนว่าจะหล่อลื่นได้เต็มที่ (น้ำมันก้นอ่างจะเหลือน้อยที่สุด ก็ตอนนี้)