น่าจะใช้คำว่า I-Pattern มากกว่าจำคำว่า Sequential ไหมครับ
ถ้า Sequential ผมนึกขึ้นมาในหัวเลยว่า 1-2-3-4-5-6 หรือ 6-5-4-3-2-1 ขึ้นมาทันที ถ้าแบบนี้ ขับมาเกียร์ 6 พอเจอไปแดง ต้องมาย้ำครัช 5 รอบ(ถ้า Sequential จริง ต้องไม่เหยียบครัช ขึ้น-ลง ได้) เพื่อจะลงมาเกียร์ 1 นี่ตายเลย มันน่าใช้ตรงไหนครับ ไหนจะเมื่อยขาย้ำครัช ไหนจะครัชสึกหรอเร็วขึ้น ขอบขี่ไม่ได้สบายเลย ยังไม่ต้องคิดถึงตอน kick down อยู่เกียร์ 4 จะลงมาเกียร์ 2 ต้องมาย้ำครัช 2 รอบ เพื่อเชนเกียร์ แค่จะแซงก็เสี่ยวเวลาวินาทีอยู่แล้วนะ ต้องมาเผื่อเวลาเชนเกียร์ลงอีก จบกันชีวิตการใช้รถ
ถ้าจะบอกว่า ในสนามแข่งเขายังทำได้เลย ก็ชีวิตจริงมันไม่ใช่สนามแข่งคร๊าบ 
ถ้าใช้คำว่า เปลี่ยนแค่ H-Pattern มาเป็น I-Pattern (เหมือนเกียร์ AUTO ทั่วไปเนี่ยละ) ก็แค่เปลี่ยนการเรียงตัวของตัวเลขเกียร์แค่นั้นเอง (หลักการก็คงเปลี่ยนรูปแบบการดึงสลิงเกียร์ใหม่ แค่นั้นเอง) ถ้าแบบนี้ วิ่งอยู่เกียร์ 6 ก็พลักลงมาเกียร์ 1 หรือ เกียร์ N ได้ เหมือนเกียร์ AUTO ทั่วไปเนี่ยละ
ท่านที่บอกว่าถ้าใช้เกียร์ Sequential แล้วต้องลดเกียร์เหยียบคลัตช์บ่อยๆทุกเกียร์ จะทำให้เปลืองคลัตช์ แสดงว่ายังไม่เข้าใจกลไกทำงานการ
และการใช้งานเวลาขับของเกียร์ Sequential นะครับ
เกียร์ Sequential เวลาขับ จะใช้คลัตช์แค่ตอนรถจอดเท่านั้นครับ เวลาวิ่งอยู่ จะขึ้นเกียร์หรือลดเกียร์ก็ไม่ต้องใช้คลัตช์ คือไม่ต้องยุ่งกับแป้นคลัตช์เลย
เพราะเกียร์ Sequential ไม่ได้ใช้กลเปลี่ยนเกียร์แบบปลอก Synchromesh
พวกที่ใช้ Synchromesh นั้น ในการเปลี่ยนเกียร์จำเป็นที่จะต้องใช้คลัตช์ตัดกำลังก่อนทุกครั้ง (ทั้งเกียร์ MT และเกียร์ Dual clucth ล้วนใช้กลไก Synchromesh เหมือนกัน) เกียร์ประเภทนี้ จะใช้เฟืองฟันเฉียง โดยจะส่งกำลังผ่านเฟือง 4 ตัว โดยจะมีแท่งเลื่อนชุด Synchromesh ทั้งหมด 3-4 แท่ง ขึ้นอยู่กับว่าเกียร์นั้นมีกี่สปีด ถ้าเกียร์มี 5 สปีด จะมีแท่งเลื่อน Synchromesh ทั้งหมด 3 แท่ง (แท่ง 1 คือของเกียร์ 1-2 แท่งที่ 2 คือของเกียร์ 3-4 แท่งที่ 3 คือของเกียร์ 5 กับ R) ถ้าเป็น 6-7 สปีด ก็จะต้องมี 4 แท่งเลื่อน.... แต่สำหรับเกียร์ Sequential นั่นต่างกันสิ้งเชิง...
เกียร์ Sequential จะใช้เพลาเลื่อนเกียร์แค่เพลาเดียว โดยเพลานี้จะมีลักษณะเหมือนเพลาเซาะร่องเบี้ยวอยู่ โดยในร่องนี้ก้จะมีปลอกล๊อคเกียร์อยู่
โดยที่เวลาเราดึงหรือผลักคันเกียร์ มันก็จะเป็นการหมุนเพลาเลื่อนเกียร์นี่เอง คือถ้าเพลาเลื่อนเกียร์หมุน ปลอกเลื่อนเกียร์ก็จะขยับเปลี่ยนตำแหน่งให้ล๊อคเกียร์ต่างกันไป (อธิบายผ่านตัวหนังสิอเข้าใจยากครับ ถ้าใครอยากเข้าใจเคลียร์แนะนำ youtube ดีกว่าครับ) เกียร์ Sequential
จะใช้เฟิองฟันตรง ส่งกำลังผ่านเฟืองแค่ 2 ตัวเท่านั้น เพราะใช้เฟืองฟันตรง และส่งกำลังผ่านกลไกน้อยชิ้นและเบา ขนาดมีความกระทัดรัด
จึงสูญเสีย Loss ในระบบน้อยมาก น่าจะเป็นเกียร์มี Loss น้อยที่สุดแล้ว น้อยกว่าเกียร์ MT ปกติอีก ส่วนเกียร์ AT ที่ใช้เฟือง Planetary กับลูกทอร์คนี่ไม่ต้องต้องเทียบเลย ถ้าโดยสมรรถนะนั้น Sequential เหนือกว่ามาก (ย้ำว่าอันนี้พูดถึงเรื่องสมรรถนะอย่างเดียวก่อน)
เกียร์ Sequential ยุคใหม่ จะมีการสั่งตัดกำลังหรือจ่ายน้ำมันเวลาขึ้นเกียร์-ลดเกียร์ โดยรับสัญญานมาจากคันเกียร์
หากผู้ขับดึงคันเกียร์เข้าหาตัว (ขึ้นเกียร์สูงขึ้น) ECU จะรับรู้คำสั่งและสั่งตัดไฟหัวเทียน(หากเป็นเครื่องดีเซลก็สั่งตัดการจ่ายน้ำมัน)
ในเสี้ยววินาทีนั้นเพื่อให้รอบตกมารับกับอัตราทดของเกียร์ถัดไป ผู้ขับเพียงแค่กดคันเร่งค้างไว้เฉยๆ ไม่ต้องยุ่งกับแป้นคลัตช์ และไม่ต้องถอนคันเร่งรับ
และหากผู้ขับผลักคันเกียร์ขึ้น (ลดเกียร์ต่ำลง) ECU จะรับรู้คำสั่งและจ่ายน้ำมันเบิ้ลรอบขึ้นในเสี้ยววินาทีนั้นเพื่อให้รอบขึ้นไปรับกับอัตราทด
ของเกียร์ต่ำลง (ผู้ขับไม่ต้องยุ่งกับคลัตช์หรือคันเร่ง) ทั้งหมดที่ว่ามาก็คือการทำ Rev matching ไม่ให้มีการกระตุกกระชากจนพังนั่นเอง
สรุป เกียร์ Sequential เวลาขับ ไม่ต้องใช้คลัตช์ครับ เหยียบคลัตช์แค่ตอนจอดพอครับ (จริงๆจะใช้คลัตช์ตอนวิ่งอยู่ก็ไม่ได้มีอะไรเสียหาย
เพียงแต่มันไม่จำเป็นกับเกียร์ประเภทนี้ครับ เค้าออกแบบมาให้ไม่ต้องใช้คลัตช์ตอนวิ่งอยู่แล้ว)
ส่วนเรื่องที่บางท่านว่าถ้าต้องใช้คลัตช์เชนเกียร์กันบ่อยๆแล้วคลัตช์จะไปเร็วสึกเร็วกระชากพังเร็ว คือถ้าใครขับแล้วเป็นอย่างนั้น
ต้องบอกว่าเป็นคนที่ขับเกียร์ประเภท MT ไม่เป็นหรือไม่ถูกวิธีแล้วครับ เพราะถ้าคนขับชำนาญและเข้าใจจริงๆเค้าจะทำ Rev matching ตลอดครับ
เวลาเปลี่ยนเกียร์จะแทบไม่กระชากเลย จะนิ่มนวล คลัตช์ก็จะแทบไม่สึก ถ้าทำ Rev matching ตลอด ก็เปลี่ยนเกียร์ได้บ่อยตามที่ใจต้องการครับ
ไม่มีพัง แถมปลอดภัย (พวกที่ลดเกียร์ในโค้งแล้วรถเสียหลัก ก็เพราะไม่ทำ Rev matching นี่แหละครับ มันกระชากล้อ)...
แต่ผมเห็นรถเกียร์ MT ยุคหลังๆก็มีระบบ Auto Rev matching หลายรุ่นแล้วน่ะครับ กระบะบางรุ่นก็มี ถ้าใครไม่ชำนาญ MT
จริงๆ ผมว่ามีระบบนี้ช่วยได้เยอะครับ คิดว่าไม่น่าห่วงเท่าไหร่แล้วครับ
กลับมาเรื่องหัวกระทู้....แต่เห็นผมพูดมาขนาดนี้ ผมก็คิดว่ายังไงเกียร์ Sequential มันก็ไม่เหมาะกับรถ Mass อยู่ดีน่ะครับ
เพราะเหตุผลหลักๆ 2 ข้อคือ 1. แพง 2. เสียงเฟิองดัง (มันดังจริงๆน่ะ) แค่ 2 ข้อนี้ก็เพียงพอแล้วที่มันจะไม่ได้เกิดบนรถ Mass ครับ
เพราะรถตลาดๆ เค้าไม่ได้เน้นสมรรถนะครับ เค้าเน้นต้นทุนกับการใช้งานที่ครอบคลุมมากกว่าครับ
ถ้าหมายถึงผม ผมเข้าใจดีครับ ไม่ต้องซิงโคโม่ง ซิงโคเมด หรือ ก้ามปู อะไรหรอกครับ ยาวไป
ไม่ต้องอะไร มอเตอร์ไซต์ BigBike เดี๋ยวมี มี Quick Shifter เตะเกียร์ขึ้น(บางคันมีเตะลงได้ด้วย) ไม่ต้องกำครัช (กำครัชแค่ตอนออกตัว) หลักการเข้าเกียร์เหมือน เกียร์ Sequential นี่ละครับ
เกียร์ Sequential ถ้าเป็นรถแข่ง พลักๆ ดึงๆ ไม่ต้องเหยียบครัช มีให้เห็นเเยอะแยะครับ กระบะเกียร์ซิ่งก็มีให้เห็นเยอะแยะเลย มันไม่ได้อะไรหรอก (ส่วนกลไล และ ใส้ใน เป็นยังไง มาว่ากัน)
และผมบอกไว้แล้ว "
(ถ้า Sequential จริง ต้องไม่เหยียบครัช ขึ้น-ลง ได้)"
แต่ที่ผมบอกแต่แรก คือ เขาใช้คำผิดหรือป่าว แค่เปลี่ยนจาก H Pattern เป็น I-Pattern หรือป่าว หรือว่า ว่าเป็นเกียร์ Sequential จริงๆ
เพราะผมไม่เชื่อว่า จะเอาเกียร์ Sequential จริงๆ มาใส่รถบ้าน เพราะขนาด SuperCar หรือ รถที่แพงๆ ยังไม่มีใครเอามาใส่เลย จะเอามาใส่รถกระบะ ผมว่า เป็นไม่ได้ ด้วยประการทั้งปวง
