ผู้เขียน หัวข้อ: นำค่าใช้จ่ายเช็คระยะ 60,000 km + เปลี่ยนแบต ที่ศูนย์ของ mazda 2 1.3 มาให้ดูครับ  (อ่าน 11045 ครั้ง)

ออฟไลน์ basboths

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 479
    • อีเมล์
เป็นของคนในคลับนะครับ



ออฟไลน์ samaklen

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,909
โดนยัดของจริงๆ
น่าเห็นใจ

ออฟไลน์ wsi11

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 130
ล้างหัวฉีด ล้างห้องเครื่ือง พวกนี้ ต้องเอาออก แต่ค่าแรงโหดจริงมาสด้า

ออฟไลน์ ABUSEz

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 612
    • อีเมล์
ล้างหัวฉีดอยู่ในตารางเช็คระยะของมาสด้าครับ ถ้าเอาออกประกันขาด เคยมีดราม่ากันอยู่ช่วงหนึ่ง
โดนจริงๆน่าจะเป็นสเปรย์เบรค กับน้ำยาล้างเครื่อง

ส่วนแบตเตอรี่ ราคาไม่น่าเกลียดนะครับ เปลี่ยนข้างนอกอาจจะถูกกว่าไม่กี่ร้อย

ส่วนค่าแรงก็ตามนั้นครับ ถ้ายังคุมค่าแรงไม่ได้ พอหมดประกันลูกค้าก้ไปอู่นอกกันหมด

ออฟไลน์ เนื้อน่องไม่หนัง

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,692
ไม่แน่ใจว่าล้างหัวฉีดสำหรับเครื่องฉีดตรง จำเป็นไหม เห๋นเคยมีกระทู้ที่เคยถกกันอยู่
https://community.headlightmag.com/index.php?topic=64708.0

น่ำยาล้างเครื่องนี้ น่าเกลียดจริง

ออฟไลน์ ๑ ๒ ๓

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,021
    • ร้าน เอที คอมสำโรง
    • อีเมล์
โหดมากครับ นี่ของผม 1แสนโลฯ
รับซื้อ ขาย ซ่อม แลกเปลี่ยนคอมพิวเตอร์,โน้ตบุ๊ค และอุปกรณ์

ออฟไลน์ KATANA

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 258
ตกลงว่ามาสด้ายอมให้เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์แล้วหรือยังครับ พอดีอีกไม่นานคงต้องเอาไปเช็คระยะ 6 หมื่นโล  :-X

ออฟไลน์ Newhang

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,338
ราคาแรง เครมยาก เงื่อนไขเยอะ
น่าจะเป็นนิยามของศูนย์มาสด้า

ออฟไลน์ panjap

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,259
ที่บอกว่าเคลมยากเคยใช้ หรือเคยเคลมมาเหรอครับ
ผมใช้อยู่ เคยเคลมลูกหมาก เบ้าช้อค ง่าย ไม่มีปัญหาอะไรจุกจิกเลย

ออฟไลน์ Newhang

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,338
ที่บอกว่าเคลมยากเคยใช้ หรือเคยเคลมมาเหรอครับ
ผมใช้อยู่ เคยเคลมลูกหมาก เบ้าช้อค ง่าย ไม่มีปัญหาอะไรจุกจิกเลย

ใช้อยู่ ไม่เคยใช้ไม่เจอกับตัวผมไม่กล้าพูดครับ

สงสัยในรายละเอียดหลังไมค์มาได้ครับ จะจัดให้เต็มๆเลย

ออฟไลน์ KATANA

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 258
ที่บอกว่าเคลมยากเคยใช้ หรือเคยเคลมมาเหรอครับ
ผมใช้อยู่ เคยเคลมลูกหมาก เบ้าช้อค ง่าย ไม่มีปัญหาอะไรจุกจิกเลย

ผมเคยเข้าไปเคลมพวงมาลัย เข้าไปรอบแรกช่างมาฟังเสียง ถ่ายคลิป พบว่าดังจริง บอกจะเคลมมอเตอร์พวงมาลัยให้ แล้วเงียบไปเป็นเดือน พอไปถามตีมึน ดังยังไง ดังแค่ไหน เลยบอกเอ้า รอบแรกช่างก็มานั่งถ่ายคลิป .... บอกไม่มีข้อมูล

โอเค ทำใหม่ทุกอย่าง ช่างฟังเสียงก็ว่าดังจริง แล้วก็เงียบหาย พอไปถามก็เอาอีกแล้ว ไม่มีข้อมูลจ้า ต้องทดสอบใหม่อีกแล้ว เหมือนยื้อไว้ บอกแกนพวงมาลัยดังเปลี่ยนให้ใหม่ (แต่ไม่มีของเก่าที่เปลี่ยนให้ดูนะ) ออกมาก็ดังเหมือนเดิม

รอบที่สามโอเคบอกเคลมให้ ทำใบเคลม (เพิ่งได้ทำครั้งแรก ที่ผ่านมาน่าจะเคลมลม) พอเข้าไปทำ กลับออกมา (ไม่มีมอเตอร์เก่าที่เปลี่ยนให้ดู) วันรุ่งขึ้นดังเหมือนเดิมเป๊ะ แถมมาด้วยตั้งศูนย์เอียงอีก

ปวดใจ

ป่านนี้พวงมาลัยยังไม่หายดังเลย จะหมดประกันแล้ว

ออฟไลน์ Auto

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,620
 ถ้าไม่โดนยัดของ ตัดค่าของออกไป 1000  บาท  และไม่คิดราคาเรื่องแบตเตอรี่ 2200 บาท กับค่าเปลี่ยนแบตอีก 225 บาท
ผมว่าราคารวม  ๆ  มันอยู่ที่ 6,xxx บาท  สำหรับการเช็คระยะ 60,000 km     ผมว่ามันก็แพงอยู่ดี ถ้าเทียบกับการใช้รถตลาดคู่แข่ง

    ผมยังให้มาสด้า   บริการดี แต่แพง   ถ้าไม่พร้อมจ่ายก็ไปยี่ห้ออื่นจะดีกว่า   แต่ตัวผมคงปักใจรักแค่รุ่น MX5  และจะยังใช้บริการศูนย์บริการต่อไป   เพราะเทียบแล้ว   ค่าบริการยังถูกกว่าซื้อรถสปอร์ตรุ่นอื่น   ๆ          แต่จะให้ซื้อรถรุ่นอื่น  ๆ ของ Mazda  มาใช้งานคงไม่เอายี่ห้อนี้   

ออฟไลน์ joufo

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,248
ผมว่า มันก็ราคานี้แหละครับ


จะโดนยัดของก็แค่น้ำยาล้างห้องเครื่องมั้งครับ
ปกติผมให้ศูนย์ล้างให้ทุกครั้งที่เช็คระยะ ก็แค่ 100+VAT บาท

เรื่องเคลม ก่อนที่จะเปลี่ยนศูนย์เป็นสีดำ ผมว่าเคลมง่าย คุยดี ดูแลดี บริการดี
พอเปลี่ยนเป็นสีดำแล้ว กลายเป็นต้องไปกราบตีนผู้จัดการศูนย์ถึงจะยอมทำให้

ออฟไลน์ ABUSEz

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 612
    • อีเมล์
ถ้าไม่โดนยัดของ ตัดค่าของออกไป 1000  บาท  และไม่คิดราคาเรื่องแบตเตอรี่ 2200 บาท กับค่าเปลี่ยนแบตอีก 225 บาท
ผมว่าราคารวม  ๆ  มันอยู่ที่ 6,xxx บาท  สำหรับการเช็คระยะ 60,000 km     ผมว่ามันก็แพงอยู่ดี ถ้าเทียบกับการใช้รถตลาดคู่แข่ง

    ผมยังให้มาสด้า   บริการดี แต่แพง   ถ้าไม่พร้อมจ่ายก็ไปยี่ห้ออื่นจะดีกว่า   แต่ตัวผมคงปักใจรักแค่รุ่น MX5  และจะยังใช้บริการศูนย์บริการต่อไป   เพราะเทียบแล้ว   ค่าบริการยังถูกกว่าซื้อรถสปอร์ตรุ่นอื่น   ๆ          แต่จะให้ซื้อรถรุ่นอื่น  ๆ ของ Mazda  มาใช้งานคงไม่เอายี่ห้อนี้   

ส่วนตัวคิดว่าแพงเหมือนกันครับ เช็คระยะรอบละ 6,xxx บาท
มนุษย์เงินเดือนแบบผมมีเหงื่อตกครับ

แต่ไม่ใช่แค่มาสด้านะครับ ฮอนด้ารอบ6หมื่นก็ราคานี้เหมือนกัน แต่รายนั้นเค้าแพงเพราะบังคับเปลี่ยนหัวเทียนที่ระยะนี้
(ของ Civic นะครับ City/Jazz ไม่แน่ใจว่าเหมือนกันมั้ย)

ออฟไลน์ Odrecranon

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 397
    • อีเมล์
ผมยังแปลกใจว่าทำไมค่าเช็คระยะ Mazda 2 มันสูงมาก
ผมใช้มาปีนึง 2 รอบ รวม ๆ 6 พัน ไม่นับค่าแรง

มันแพงกว่า C-segment ทุกคันที่ผมใช้มาอีกครับ
Focus ผมเช็คทุก 9 เดือน อายุเกือบ 10 ปี ยังไม่เท่านี้

แอบกลัวเรื่องค่า Capacitor อีก ราคาโหดมาก

นี่ถ้าหมดฟรีค่าแรง ปีนึงน่าจะเกือบหมื่น พอ ๆ กับ Volvo เลย

ออฟไลน์ MyName

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 8,141
  • I'm............................
ที่บอกว่าเคลมยากเคยใช้ หรือเคยเคลมมาเหรอครับ
ผมใช้อยู่ เคยเคลมลูกหมาก เบ้าช้อค ง่าย ไม่มีปัญหาอะไรจุกจิกเลย

อ่ะ ก็อปที่ตัวเองเคยตอบไว้ในกระทู้ล่างๆ มาให้อ่านครับ

—————————————————

เอาสาระสำคัญ
1. รถผมเคยตัดเข้า safe mode จนไม่สามารถขับได้ตั้งแต่ 6 เดือนแรก 13,xxx km ผมเข้าไปใช้บริการแก้ปัญหามาทั้งสิ้น 4 แห่ง
- แห่งแรกหลังเกิดปัญหาใหม่ๆ ตจว. แถวบ้าน ทำอะไรไม่ได้ ไม่มีปัญญาทำอะไรได้เลย นอกจากลบไฟ และใช่ครับรุ่งขึ้นก็เป็นอีก
- แห่งที่สอง ศูนย์ กทม. ไม่ดัง เข้าเพราะความบังเอิญ จริงต้องจำเป็นใช้รถไปที่อื่นต่อ แห่งนี้ใช้เวลาเพียงแค่ 1 ชม. บอกว่าฝาครอบวาล์วน่าจะมีปัญหา แต่ด้วยลูกค้าไม่สะดวกทิ้งเคลมเลยเขียนเป็นข้อมูลไว้ให้แห่งที่สามเค้าไปจัดการต่อตอนผมมีเวลา
- แห่งที่สาม ศูนย์ปริมณฑลดังเลย บอกขอรถผมทิ้งไว้สัปดาห์นึงหาสาเหตุ ผมให้ข้อมูลทุกอย่างที่แห่งที่สองหาไว้ให้ ไม่เชื่อ ไม่เข้าใจ ไม่สนใจ เดี๋ยวหาเอง และใช่ครับ...หาไม่เจอ เก็บข้อมูลส่ง MST กันต่ออีกสัปดาห์ก่อนที่ MST จะให้ความเห็นมาว่า ครีบเทอร์โบรถผมเหมือนจะมีองศาเปิดปิดผิดปกตินิดหน่อย ศูนย์ถึงได้ทำเรื่องเคลมเทอร์โบให้ ก็ยกเครื่องออกมาเปลี่ยนโบลูกใหม่กันตั้งแต่รถยังมีประกันเลย พ่อผมก็ใจเสีย ผมก็ไม่ได้ไปดูด้วยตาตัวเองเลยช่วงนั้นมีงานเข้า ก็ฝากพ่อไปดูก็มีบ่นกลับมาเกือบทุกวัน ช่างทำสกรูรูดบ้าง ตอนลงมาดูที่รถก็เหมือนสีหน้าไม่พอใจบ้าง ทำส่งๆ บ้าง ก็เลย เอาวะช่างมัน ซ่อมคงไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีก พอซ่อมเสร็จ ใช่ครับ ผ่านไป 3 วัน มันกลับมาอีก แถมบังเอิญไปเจอน้ำมันเครื่องปนลงไปน้ำหม้อน้ำด้วย!! รีบเอากลับไปแก้เลย ช่างก็ถอด ECU ไป reset แล้วบอกว่าเปลี่ยนโบใหม่ลืม set และก็เปลี่ยนน้ำยาหม้อน้ำทั้งระบบให้ใหม่และก็ไม่เจอว่ารั่ว อาจจะตอนยกเครื่องเข้าออกแล้วปนลงไป ก็รับกลับมาใช้งาน

จนเวลาผ่านไปล่วงเลยจนหมดประกันครับ หมดไม่ทันจะ 5 เดือนดีกับ 90,000 โล มันกลับมาเป็นอีกแล้ว!!!!!!! โอ้ยยยย! ยังกะแห่งที่ 3 ตั้งเวลาไว้

- แห่งที่ 4 ปริมณฑลเจ้าใกล้เคียง ไม่ดังเท่าแถมเล็กกว่า แต่ผมสะดวกเดินทางมากกว่า และช่วงหลังก็มาเช็คระยะที่นี่บ่อย ก็ให้เค้าดูแล้วก็เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตอนเข้าแห่งที่ 3 ที่เคยเกิดขึ้น ยังดีที่ฟัง แล้วก็บอกว่าเดี๋ยวผมขอหาดูก่อนทิ้งไว้ก่อน 3 วัน แต่ก็ใช้เวลาครึ่งวันครับ โทรกลับมาบอกว่า...

ฝาครอบเครื่องวาล์วมีปัญหา เฮ้ยย! พูดเหมือนแห่งที่ 2 เป๊ะ! (เอ้าแล้วที่ตรูต้องยกเครื่องเปลี่ยนโบไปล่ะ! ==")

แต่ก็ตาม step ครับ พี่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเอง! พ่อนี่ถึงกับขึ้นเสียง แล้วมันเคยเกิดขึ้นแล้วตอนในประกันมันไม่หาย มันต้องเป็นความรับผิดชอบของคุณหรือป่าว คุณลองไปเช็คประวัติดูก็ได้ว่ารถผมเคยทำอะไรไปบ้าง และคำตอบที่ได้กลับมาคือ คนละศูนย์ผมเช็คประวัติไม่ได้!! ห๊ะ! นี่ส่วนกลางเค้าไม่มีการเก็บข้อมูลรถกันไว้เลยหรอ รถตัดประกันนี่บันทึกกันไว้ดี๊ดี ในสมุดเล่มฟ้าก็น่ารักมาก เขียนแค่เคลมเทอร์โบ จบ!! What?? สุดท้ายทางหัวหน้าช่างเลยเห็นว่ารถผมเข้าศูนย์ตลอด เลยบอกจะลองเสนอการใช้สิทธิ์ goodwill ดูให้ ซึ่งใช้เวลาทำเรื่องทั้งหมด 2 สัปดาห์ครึ่ง ผมก็ตามเป็นระยะ สัปดาห์แรกช่างเทคนิคจาก MST มาเก็บข้อมูล แล้วก็หายไป สัปดาห์ต่อมาโทรมาบอกว่าน่าจะได้แต่ยังไม่รับปาก อีกครึ่งสัปดาห์ถึงบอกว่าอนุมัติ ครับ แล้วก็ได้เคลมฝาครอบวาล์วมา และตอนนี้หลังเคลมมาก็มาเจอช่วงโควิดพอดี เลยได้ใช้รถแค่ไปกลับทำงานไม่ได้ไปไหนไกลๆ ก็ต้องรอดูกันต่อไปครับ

2. ระหว่างที่จบปัญหาบนกับศูนย์แห่งที่ 3 ไป รถผมก็ได้มาเจอปัญหายอดฮิตของรุ่นครับ อย่างเครื่องสั่นเร่งไม่ขึ้น ซึ่งผมต้องประสบปัญหาทั้งหมด 4-5 ครั้งในช่วงที่ได้รถมาใช้ในแถบปริมณฑลที่มีการจราจรหนาแน่นบ้าง โดยที่ผมเอาเข้าศูนย์ (แห่งที่ 4 ของปัญหาบน) ตั้งแต่ 2 ครั้งแรกที่สั่น แล้วก็ได้รับการแก้ปัญหาด้วยการ "สั่งเผาเขม่าด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์" ไม่ได้เคลมเปลี่ยนอะไหล่แบบที่ชาวบ้านเค้าได้กันมา และใช่ครับ มันก็มีครั้งที่ 3 เกิดขึ้น แล้วช่วงนั้นจะเช็คระยะ 50,000 km พอดี ก็เอาเข้าไปรอบเดียวกัน ผลลัพธ์คือ "เผาเขม่า (อีกแล้ว) และลงซอฟแวร์ ECU ให้ใหม่" พร้อมกลับมา และแน่นอนครับ มีครั้งที่ 4 และพ่วงครั้งที่ 5 ด้วยอาการคล้ายจะน็อคแล้วเบาเกือบดับ ดังแต๊กๆๆ เป็นเวลา 8 วินาที โหใจเสียกันทั้งบ้านอ่ะครับ เอาเข้าไปอีกรอบพร้อมกับ "เผาเขม่าและล้างหัวฉีด" ให้ อีกแล้วสินะครับ ครั้งสุดท้ายที่เกิดปัญหาก็ทำให้ได้เท่านี้เลย ไม่มีการเปลี่ยนอะไหล่ให้ ไม่มีการรัประกันมั่นใจได้เลยว่ามันจะไม่กลับมาเป็นอีก แต่หลังจากครั้งนั้นก็เลยให้พ่อเอากลับไป ตจว. แล้วค่อยสลับมาเป็นช่วงๆ แล้วก็ไม่เจอกันอีกครับ น้ำมันเติมเหมือนเดิมคือพรีเมี่ยมทุกเจ้าวนไป

3. น้ำมันเกียร์ ผมเคยเปลี่ยนไปแล้วตอน 40,000 โล ก่อน จะมีนโยบาย เปลี่ยน = ตัดประกัน ออกมา โดยผมได้ถามแล้วตอนนั้นว่า Life Time Maintainance คือยังเปลี่ยนได้ใช่มั้ย ศูนย์ (แห่งที่ 4) ก็บอกว่าได้ เปลี่ยนก็ดีนะ เปลี่ยนกรองเกียร์ด้วยก็ยิ่งดี จัดไปครับตามคำแนะนำ จนพอรถผม 80,000 โล ศูนย์เดิม จนท. คนไม่เดิมแต่ก็เป็นคนที่อยู่ตอนผมเข้า 40,000 ตอบอะไรผมไม่ได้เลยนอกจากบอกแค่มันคือนโยบาย MST ผมเคยเปลี่ยนแล้วจะมีผลมั้ยก็ไม่รู้ ไม่เปลี่ยนจะพังมั่ยอนาคตก็ไม่รู้ และผมก็นำคำถามแบบเดียวกันลองไปถามศูนย์แห่งที่ 3 ก็ตอบคล้ายกันเลย นโยบายคือก็สั่งมาก็ตามนั้น แต่ไม่มีเหตุผลรองรับได้เลย และสุดท้ายก็กลับมายอมให้เปลี่ยนแบบไม่ตัดประกัน แต่ก็ไม่ใช่รายการแนะนำอยู่ดี

4. ค่าแรง ผมเช็คระยะศูนย์เดิม 3 ครั้งติดกัน ผมเจอค่าแรง 3 ราคาเลยครับ 500 600 700 บาท/ชม. ค่าแรงเพิ่มแต่คุณภาพงานเท่าเดิม คือก็สั่งเผาเขม่าให้ผมได้แค่นั้น

5. นี่ยังไม่รวมกับความจิปาถะอีกเล็กน้อยนะครับ เช่น
- แห่งที่ 1 รถผมมีกลอนประตูเสียงดังตอนล็อค ในคลับได้เคลมชุดกลอนกันรัวๆ แห่งที่ 1 เอา Sonax มาฉีดกลอนให้ผม!!!!!! โอ้ยยย!
- แห่งที่ 3 ตอนเอารถไปเคลมสี (เค้าว่าที่นี่ดี) ต้องเสด็จไปหาถึงในห้อง ไม่มีแม้แต่เงามาต้อนรับ แถมเดินไปหา ผลักประตูถามหาคนรับรถก็ถามคำตอบคำ
- แห่งที่ 4 รอบแรกว่ามี recall กล่อง DC-DC Converter ก็เอาเข้าไปเช็ค บอกของหมด ถ้ามาแล้วจะโทรตาม เงียบเป็นเดือน พอโทรถาม เช็คแล้วกลับบอกว่ารถลูกค้าไม่มี order นะ และยังไม่ได้เช็คกล่องด้วยว่าต้องเปลี่ยนมั้ย!! เอ้า แล้วใครมันบอกจะโทรตาม สุดท้ายเอาเข้าไปอีกรอบบอก รถผมแค่เรียกเข้าข่ายต้องมาเช็ค แต่เช็คแล้วไม่ต้องเปลี่ยน!! คิดว่าเล่นขายของกันหรอฟระ!
ฯลฯ

6. และเหตุการณ์ที่ผมเจอมาทั้งหมดนี้ ผมได้ตัดสินใจเอาไปเล่าในคลับที่ผมใช้รถอยู่ เพื่อที่จะบอกเป็นข้อมูลให้รับฟังกันไว้เพื้อเตรียมตัวเกิดเจอขึ้นมา ด้วยความสัตย์จริงผมไม่ได้เล่าแบบข้างบนนี้แน่นอนครับ ไม่ใส่อารมณ์และหวังผลที่ดีว่าจะได้บันทึกไว้ว่ามีคนเคยเจอแล้วนะ จะได้เตรียมตัวเผื่อท่านเจอ แต่... เสียงตอบรับที่ได้กลับมา
- ทำไมผมไม่เห็นเจออะไรเลย ใช้ดีจะตาย
- ใช้รถไม่เป็นรึเปล่า เคสแบบนี้ User Error ชัดๆ
- ขึ้นกับการใช้งานคุณเองนั่นแหละอย่าโทษรถ
- ไปเจอศูนย์ไม่ดีเอง ศูนย์ที่ชั้นใช้ดีจะตาย ของกินก็เยอะ
- ดิสเครดิต รถขายดีขนาดนี้
- ไม่มีรถคันไหนดีเท่ารุ่นนี้แล้ว
- หัดศึกษาข้อมูลบ้าง
- หนักสุดคือ โดนบล็อคจากกลุ่ม แล้วเอาผมไปด่ากันสนุกปากทีหลัง
ฯลฯ
ครับ จากนั้นมาผมไม่เคยเล่าอะไรแบบนี้ให้ใครฟังอีกเลย ปล่อยไปตามยถากรรม ตามมีตามเกิด ตามบุญตามกรรม ถ้าคิดว่าจะรักรถอวยรถแล้วไม่มีความคิดจะทำให้แบรนด์รถมันดีขึ้น ก็ขอให้มันพังลงไปจากการกระทำของพวกท่านเองนั่นแหละครับ

—————————————————

นี่ครับ ประสบการณ์ที่เคยเจอ
ตัวเองใช้ดี ใช่ว่าคนอื่นจะดีตามด้วยครับ ใช้ดีไม่มีปัญหาก็ดีไป
แต่กรุณาช่วยเป็นผู้บริโภคที่ดีกันซักหน่อย เก็บข้อมูลไว้ เผื่อวันใดตัวเองโชคไม่ดีแบบนี้บ้าง
จะได้มีหนทางแนวทางแก้ไข ไม่เหนื่อย และไม่ต้องไปเริ่มใหม่จ้า
Cars
2022 - Nissan Almera 1.0 Turbo VL
2016 - Mazda 2 1.5XD High Plus L
2008 - Mitsubishi Space Wagon 2.4 GLS Ltd. !User'Review Click here!
1997 - Daihatsu Mira

Motorcycles
2023 - Vespa Sprint S 150 i
2012 - Yamaha Mio 125 GTX

ออฟไลน์ NoName__???

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,133
กระทู้นี้ดี คนใช้จริงบอกประสบการร์จริง  อยากให้คนไทยร่วมมือกันเยอะๆ ส่งเสียงดังๆให้รัฐ จัดการพวกค่ายรถที่ชอบเอาเปรียบเรา

ออฟไลน์ Full Throttle

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 307
    • อีเมล์
เป็นของคนในคลับนะครับ




ดีที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน ค่าซ่อมถูกกว่าดีเซล 2 เท่า

ออฟไลน์ apinui

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,896
    • อีเมล์
เรื่องราคา ถ้านับเป็นอะไหล่รายชิ้น ผมมองว่า ถูกกว่าเจ้าตลาดอีกนะบางรายการ .... จากภาพสมาชิคที่เช็ค 1 แสนโล ... สายพานหน้าเครื่องราคาไม่ถึง 300 บาท ... ไม่เห็นมีใครมองกัน นี่อะไหล่แท้ศูนย์นะครับ มียี่ห้อไหนถูกกว่านี้ป่าว .....

เรื่องค่าแรง โอเคล่ะ มันแพง แต่สำหรับผมที่เป็นลูกค้ามาสด้ามาตลอด ผมมองว่า มันแพงแต่ผมยอมจ่าย เพราะสิ่งที่ผมได้รับจากศูนย์บริการมันโคตรคุ้มค่าครับ กับค่าแรง 750บาท/ ช.ม.

1.ดูจากภาพ มีที่ไหนของกินอลังการแบบนี้บ้างไหมครับ บางศูนย์ยกตู้ไอติมวอลว์มาให้กินแบบบุบเฟ่กันเลย กาแฟสดหอมๆ ไม่ใช่กาแฟซองกดน้ำร้อน ขนมปังเอลเซ่แบบค่ายอื่น เรื่องของกินบอกเลย ศูนย์เจ้าตลาดที่ไหนให้ได้มากกว่านี้ไหมครับ ถ้ามี ช่วยเอามาโชว์หน่อย ...


2.บรรยากาศห้องรับรอง ที่กว้างและจัดห้องแบบให้สามารถมองรถ service ได้ตลอด ... ที่บางยี่ห้อนี่ ปิดไม่ให้ลูกค้าเห็นนะครับ แต่มาสด้าแทบจะเป็นยี่ห้อเดียวมั้ง ที่จัดห้องรับรองให้ลูกค้าสามารถมองเห็นรถตัวเองได้ตลอดเวลา นั่งกินกาแฟไป ดูรถ service ไป โคตรเพลินครับ


3.การส่งมอบรถหลัง service มาสด้าล้างรถ และทำความสะอาดตัวรถ และห้องเครื่องให้อย่างดี ... ใครที่ไม่เคยล้างห้องเครื่อง มาศูนย์มาสด้าเลย เค้าล้างห้องเครื่องให้ทุกศูนย์ ซึ่งการล้างห้องเครื่องตามคาร์แคร์ ราคาไม่ต่ำกว่า 500 บาทนะครับ ... แต่มาสด้าล้างให้ฟรี ...

ดังนั้น บริการเหล่านี้ที่ผมได้รับ ผมบอกเลยว่า โคตรคุ้มค่า จนไม่สามารถเลิกที่จะเป็นลูกค้าของเค้าได้เลยจริงๆ ...

ป.ล.ฝากรูปของกิน ของศูนย์บริการเจ้าตลาดยี่ห้อนึงให้ดูครับ เป็นศูนย์ใหญ่ด้วย ค่าแรงถูกครับ แต่ดูของที่ให้ลูกค้ากินดิ ... คนละเกรดอะ ..

ออฟไลน์ I-PULSE

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 977
ราคาอะไหล่ถูกกว่าฮอนด้าที่ผมใช้อยู่ครับ แต่ค่าแรงแพงกว่า ผมว่าปกตินะไม่ดูน่าเกลียดอะไร ถ้าไม่นับว่าโดนยัดของซึ่งก็แล้วแต่บางศูนย์

ออฟไลน์ KATANA

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 258
เรื่องราคา ถ้านับเป็นอะไหล่รายชิ้น ผมมองว่า ถูกกว่าเจ้าตลาดอีกนะบางรายการ .... จากภาพสมาชิคที่เช็ค 1 แสนโล ... สายพานหน้าเครื่องราคาไม่ถึง 300 บาท ... ไม่เห็นมีใครมองกัน นี่อะไหล่แท้ศูนย์นะครับ มียี่ห้อไหนถูกกว่านี้ป่าว .....

เรื่องค่าแรง โอเคล่ะ มันแพง แต่สำหรับผมที่เป็นลูกค้ามาสด้ามาตลอด ผมมองว่า มันแพงแต่ผมยอมจ่าย เพราะสิ่งที่ผมได้รับจากศูนย์บริการมันโคตรคุ้มค่าครับ กับค่าแรง 750บาท/ ช.ม.

1.ดูจากภาพ มีที่ไหนของกินอลังการแบบนี้บ้างไหมครับ บางศูนย์ยกตู้ไอติมวอลว์มาให้กินแบบบุบเฟ่กันเลย กาแฟสดหอมๆ ไม่ใช่กาแฟซองกดน้ำร้อน ขนมปังเอลเซ่แบบค่ายอื่น เรื่องของกินบอกเลย ศูนย์เจ้าตลาดที่ไหนให้ได้มากกว่านี้ไหมครับ ถ้ามี ช่วยเอามาโชว์หน่อย ...


2.บรรยากาศห้องรับรอง ที่กว้างและจัดห้องแบบให้สามารถมองรถ service ได้ตลอด ... ที่บางยี่ห้อนี่ ปิดไม่ให้ลูกค้าเห็นนะครับ แต่มาสด้าแทบจะเป็นยี่ห้อเดียวมั้ง ที่จัดห้องรับรองให้ลูกค้าสามารถมองเห็นรถตัวเองได้ตลอดเวลา นั่งกินกาแฟไป ดูรถ service ไป โคตรเพลินครับ


3.การส่งมอบรถหลัง service มาสด้าล้างรถ และทำความสะอาดตัวรถ และห้องเครื่องให้อย่างดี ... ใครที่ไม่เคยล้างห้องเครื่อง มาศูนย์มาสด้าเลย เค้าล้างห้องเครื่องให้ทุกศูนย์ ซึ่งการล้างห้องเครื่องตามคาร์แคร์ ราคาไม่ต่ำกว่า 500 บาทนะครับ ... แต่มาสด้าล้างให้ฟรี ...

ดังนั้น บริการเหล่านี้ที่ผมได้รับ ผมบอกเลยว่า โคตรคุ้มค่า จนไม่สามารถเลิกที่จะเป็นลูกค้าของเค้าได้เลยจริงๆ ...

ป.ล.ฝากรูปของกิน ของศูนย์บริการเจ้าตลาดยี่ห้อนึงให้ดูครับ เป็นศูนย์ใหญ่ด้วย ค่าแรงถูกครับ แต่ดูของที่ให้ลูกค้ากินดิ ... คนละเกรดอะ ..


ลองไปดูแถวๆ หนองแขมครับ ของกินอนาถามาก แรกๆ ก็พอมี ไม่ได้เยอะนะ หลังๆ เริ่มลดปริมาณ แต่ผมไม่ซีเรียสนะเพราะเข้าศูนย์ไปเน้นงานซ่อมงานบริการ ไม่ได้สนของกินขอแค่มีน้ำ มีกาแฟ ก็พอ

ออฟไลน์ Auto

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,620
ถ้าไม่โดนยัดของ ตัดค่าของออกไป 1000  บาท  และไม่คิดราคาเรื่องแบตเตอรี่ 2200 บาท กับค่าเปลี่ยนแบตอีก 225 บาท
ผมว่าราคารวม  ๆ  มันอยู่ที่ 6,xxx บาท  สำหรับการเช็คระยะ 60,000 km     ผมว่ามันก็แพงอยู่ดี ถ้าเทียบกับการใช้รถตลาดคู่แข่ง

    ผมยังให้มาสด้า   บริการดี แต่แพง   ถ้าไม่พร้อมจ่ายก็ไปยี่ห้ออื่นจะดีกว่า   แต่ตัวผมคงปักใจรักแค่รุ่น MX5  และจะยังใช้บริการศูนย์บริการต่อไป   เพราะเทียบแล้ว   ค่าบริการยังถูกกว่าซื้อรถสปอร์ตรุ่นอื่น   ๆ          แต่จะให้ซื้อรถรุ่นอื่น  ๆ ของ Mazda  มาใช้งานคงไม่เอายี่ห้อนี้   

ส่วนตัวคิดว่าแพงเหมือนกันครับ เช็คระยะรอบละ 6,xxx บาท
มนุษย์เงินเดือนแบบผมมีเหงื่อตกครับ

แต่ไม่ใช่แค่มาสด้านะครับ ฮอนด้ารอบ6หมื่นก็ราคานี้เหมือนกัน แต่รายนั้นเค้าแพงเพราะบังคับเปลี่ยนหัวเทียนที่ระยะนี้
(ของ Civic นะครับ City/Jazz ไม่แน่ใจว่าเหมือนกันมั้ย)
  HONDA  ผมไม่เคยใช้นะ เพราะรู้ว่าแพงกว่า โตโยต้าหรือ Nissan ถ้าเทียบเข้าศูนย์ด้วยกัน   เลยไม่อยากใช้       ส่วนตัวผมก็เป็นมนุษย์เงินเดือน (เงินเดือนไม่มาก)    การเอาเงินเดือนมาลงกับค่าซ่อมรถแพง  ๆ   ส่วนตัวผมไม่ทำ   เพราะมันไม่เหมาะกับฐานะ       
   รถที่ใช้งานทุกวัน ควรเป็นรถตลาด  ไม่จุกจิก ไม่ใช่รถซ่อมยากซ่อมเย็นอะไรนัก ค่าซ่อมถูกไม่ว่าศูนย์หรืออู่นอก  เข้าอู่ไหนก็ได้

ออฟไลน์ Gordon Freeman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,206
ถ้าไม่โดนยัดของ ตัดค่าของออกไป 1000  บาท  และไม่คิดราคาเรื่องแบตเตอรี่ 2200 บาท กับค่าเปลี่ยนแบตอีก 225 บาท
ผมว่าราคารวม  ๆ  มันอยู่ที่ 6,xxx บาท  สำหรับการเช็คระยะ 60,000 km     ผมว่ามันก็แพงอยู่ดี ถ้าเทียบกับการใช้รถตลาดคู่แข่ง

    ผมยังให้มาสด้า   บริการดี แต่แพง   ถ้าไม่พร้อมจ่ายก็ไปยี่ห้ออื่นจะดีกว่า   แต่ตัวผมคงปักใจรักแค่รุ่น MX5  และจะยังใช้บริการศูนย์บริการต่อไป   เพราะเทียบแล้ว   ค่าบริการยังถูกกว่าซื้อรถสปอร์ตรุ่นอื่น   ๆ          แต่จะให้ซื้อรถรุ่นอื่น  ๆ ของ Mazda  มาใช้งานคงไม่เอายี่ห้อนี้   

ส่วนตัวคิดว่าแพงเหมือนกันครับ เช็คระยะรอบละ 6,xxx บาท
มนุษย์เงินเดือนแบบผมมีเหงื่อตกครับ

แต่ไม่ใช่แค่มาสด้านะครับ ฮอนด้ารอบ6หมื่นก็ราคานี้เหมือนกัน แต่รายนั้นเค้าแพงเพราะบังคับเปลี่ยนหัวเทียนที่ระยะนี้
(ของ Civic นะครับ City/Jazz ไม่แน่ใจว่าเหมือนกันมั้ย)

Jazz รอบ 6 หมื่น ประมาณ 4 พันบาทครับ
2011 Kawasaki Ninja 650 (Sold)
2012 Ford Fiesta 1.6 Sport Ultimate (Sold)
2013 Suzuki Swift Eco GLX 1.25 (Sold)
2015 Honda Civic 1.8 (Sold)
2017 Toyota Fortuner 2.4 (Sold)
2019 Honda Jazz S MT (Sold)
2020 Nissan Almera VL 1.0T
2022 Isuzu D-Max Cab 4 1.9 AT
2023 Neta V

ออฟไลน์ Auto

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,620
กระทู้นี้ดี คนใช้จริงบอกประสบการร์จริง  อยากให้คนไทยร่วมมือกันเยอะๆ ส่งเสียงดังๆให้รัฐ จัดการพวกค่ายรถที่ชอบเอาเปรียบเรา
  ผมว่า Mazda  ก็ไม่ได้เอาเปรียบนะ   คือเค้าเน้นบริการว่าต้องดี ศูนย์บริการต้องเนี๊ยบ    เลยแลกมากับค่าบริการที่แพงกว่าคู่แข่งรายอื่น  ๆ     
                   คนจะใช้รถยี่ห้อนี้ ก็ควรชั่งใจดูแต่แรกแล้วว่า รับได้กับค่าบริการของเขาหรือไม่     ถ้ารับได้ก็จะมีความสุข งานซ่อมเร็ว บริการดี ของกินในศูนย์จัดเต็มแบบคำตอบด้านบน มีตู้ไอศครีมให้ด้วย   มีบริการรถรับส่งไปห้างใกล้  ๆ 

        แต่ถ้าจะใช้งานเป็นรถหลักประจำวัน เน้นค่าซ่อมถูกไม่จุกจิก หรือเป็นรถเพื่อการพาณิชย์   ไม่ควรมองยี่ห้อนี้    ลองไปดูพวกปิคอัพ Mazda ก็ได้ ถ้าไม่ใช่ซื้อมาใช้ส่วนตัว    ไม่มีใครอยากซื้อเอามาเป็นรถเพื่อการพาณิชย์หรอก     คำตอบที่ตอบกันไว้ในกระทู้ก่อน  ๆ ผมไม่เชื่อคนนึงละ   เพราะยี่ห้อ Mazda  นอกจาก MX5  ผมไม่ซื้อใช้     ใครอยากซื้อก็ซื้อไป ไม่เกี่ยวกับผม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 07, 2021, 13:05:35 โดย Auto »

ออฟไลน์ Auto

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,620
เป็นของคนในคลับนะครับ




ดีที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน ค่าซ่อมถูกกว่าดีเซล 2 เท่า
    มีคนไม่มากหรอก  ที่จะบอกว่าเบนซินค่าซ่อมถูกกว่าดีเซล              เห็นในเวปอื่น  ๆ ยี่ห้ออื่น  ยังเพ้อเจ้อว่าเครื่องดีเซลซ่อมถูกไม่จุกจิกกันอยู่เลย  นี่มันยุคไหนแล้ว  ยังเชื่อกันแบบนั้นได้ 

ออฟไลน์ Gooddays1

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 11
ของผมเอารถที่บ้านมาใช้ต่อ น้องวีออส เช็ค 160,000 km โดนไป 9พันนิดๆ ไม่รู้ถูกหรือแพงครับ แต่รอตั้งแต่เช้าได้รถตอนเย็น


ออฟไลน์ MyName

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 8,141
  • I'm............................
เรื่องราคา ถ้านับเป็นอะไหล่รายชิ้น ผมมองว่า ถูกกว่าเจ้าตลาดอีกนะบางรายการ .... จากภาพสมาชิคที่เช็ค 1 แสนโล ... สายพานหน้าเครื่องราคาไม่ถึง 300 บาท ... ไม่เห็นมีใครมองกัน นี่อะไหล่แท้ศูนย์นะครับ มียี่ห้อไหนถูกกว่านี้ป่าว .....

เรื่องค่าแรง โอเคล่ะ มันแพง แต่สำหรับผมที่เป็นลูกค้ามาสด้ามาตลอด ผมมองว่า มันแพงแต่ผมยอมจ่าย เพราะสิ่งที่ผมได้รับจากศูนย์บริการมันโคตรคุ้มค่าครับ กับค่าแรง 750บาท/ ช.ม.

1.ดูจากภาพ มีที่ไหนของกินอลังการแบบนี้บ้างไหมครับ บางศูนย์ยกตู้ไอติมวอลว์มาให้กินแบบบุบเฟ่กันเลย กาแฟสดหอมๆ ไม่ใช่กาแฟซองกดน้ำร้อน ขนมปังเอลเซ่แบบค่ายอื่น เรื่องของกินบอกเลย ศูนย์เจ้าตลาดที่ไหนให้ได้มากกว่านี้ไหมครับ ถ้ามี ช่วยเอามาโชว์หน่อย ...


2.บรรยากาศห้องรับรอง ที่กว้างและจัดห้องแบบให้สามารถมองรถ service ได้ตลอด ... ที่บางยี่ห้อนี่ ปิดไม่ให้ลูกค้าเห็นนะครับ แต่มาสด้าแทบจะเป็นยี่ห้อเดียวมั้ง ที่จัดห้องรับรองให้ลูกค้าสามารถมองเห็นรถตัวเองได้ตลอดเวลา นั่งกินกาแฟไป ดูรถ service ไป โคตรเพลินครับ


3.การส่งมอบรถหลัง service มาสด้าล้างรถ และทำความสะอาดตัวรถ และห้องเครื่องให้อย่างดี ... ใครที่ไม่เคยล้างห้องเครื่อง มาศูนย์มาสด้าเลย เค้าล้างห้องเครื่องให้ทุกศูนย์ ซึ่งการล้างห้องเครื่องตามคาร์แคร์ ราคาไม่ต่ำกว่า 500 บาทนะครับ ... แต่มาสด้าล้างให้ฟรี ...

ดังนั้น บริการเหล่านี้ที่ผมได้รับ ผมบอกเลยว่า โคตรคุ้มค่า จนไม่สามารถเลิกที่จะเป็นลูกค้าของเค้าได้เลยจริงๆ ...

ป.ล.ฝากรูปของกิน ของศูนย์บริการเจ้าตลาดยี่ห้อนึงให้ดูครับ เป็นศูนย์ใหญ่ด้วย ค่าแรงถูกครับ แต่ดูของที่ให้ลูกค้ากินดิ ... คนละเกรดอะ ..


จะบอกว่า ศูนย์ปริมณฑล 2 แห่งที่ผมใช้บริการ 750 บาท ของกินก็ได้แบบรูปล่างนี่แหละครับ
บางศูนย์ข้าวกล่องเซเว่นหมดก็มี

และที่สำคัญ ผมจ่ายไปเพื่องานบริการด้านตัวรถ ไม่ใช่งานกิน เพราะถ้าจะไปเพื่อกิน 750 บาทผมกินบุฟเฟต์ได้ดีกว่านี้เยอะมากครับ

อ้อ รูปที่ 2 นี่ดูก็รู้แล้วว่าศูนย์สุขุมวิท 65 ซึ่งที่นี่ปัจจุบันไม่ใช่ 750 บาทแล้วนะครับ
960 บาทแล้วครับ
Cars
2022 - Nissan Almera 1.0 Turbo VL
2016 - Mazda 2 1.5XD High Plus L
2008 - Mitsubishi Space Wagon 2.4 GLS Ltd. !User'Review Click here!
1997 - Daihatsu Mira

Motorcycles
2023 - Vespa Sprint S 150 i
2012 - Yamaha Mio 125 GTX

ออฟไลน์ Auto

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,620
ศูนย์สุขุมวิท 65 ซึ่งที่นี่ปัจจุบันไม่ใช่ 750 บาทแล้วนะครับ   960 บาทแล้วครับ

             ราคาจัดจ้านมาก   ยังกะซ่อมรถ Lexus

ออฟไลน์ e:smart Hybrid

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,703
โคตรแพงครับ

จะบอกว่าเดียวนี้อะไหล่ Toyota ถ้าเป็น ยาริส ถูกมากๆ ครับ กรองอากาศ 200 บาทปลายๆ ของแท้

ผมเคยถ่ายรูปรวมราคาอะไหล่อยู่ เดียวนี้ ถ้าเป็นยาริส ไม่แพงครับ

ออฟไลน์ basboths

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 479
    • อีเมล์
1. ค่าอะไหล่ mazda อาจจะมีแพงบ้างถูกบ้างแต่ส่วนใหญ่แพงครับ ยิ่งถ้ารถเริ่มเก่าตกรุ่นไม่มีขายมือ 1 ราคาอะไหล่จะขึ้นครับเพราะผลิตสำรองไว้น้อย เช่น mazda 2 ตัวที่แล้ว ยางรองสปริงโช็คหน้าจากชิ้นละ 80 บาท ขึ้นเป็น 550 บาท อะไหล่เทียบก็หายาก โชคดีที่ใช้กับ ford fiesta ได้ ซึ่งก็ตลกดีครับ ราคาอะไหล่ที่ใช้ร่วมกันได้ ford ส่วนใหญ่จะขายถูกว่า mazda  ครับ แถมมีผลิตเก็บไว้มากกว่า ทั้งที่ยอดขายสู้ mazda ไม่ได้

2. ค่าแรงนี่แค่เช็คระยะนะครับ หลังหมดประกันถ้ารถมีปัญหาไม่ว่าอะไรก็ตามเข้าไปแจ้งซ่อม คิดค่าตรวจเช็คขั้นต่ำเป็นค่าแรง 1 ชั่วโมงครับ เท่ากับว่ายังไม่ทันซ่อมเสียไปแล้วขั้นต่ำ 750 บาท ค่าแรงซ่อมค่าอะไหล่อีกต่างหาก ถ้าซ่อมใหญ่คิดค่าแรงซัก 6 ชั่วโมง ส่วนต่างจากเจ้าอื่น 250*6 = 1,500 บาท แล้วครับ บวกค่าตรวจเช็คขั้นต้น อีก 750 บาท ถ้าซ่อมเล็ก เช่น สวิตซ์กระจกมองข้างเสีย ค่าแรง 0.5 ชั่วโมง + ค่าบวกค่าตรวจเช็คขั้นต้น 1 ชั่วโมง = ต้องจ่ายค่าแรง 1.5 ชั่วโมงเข้าไปแล้ว

3. ส่วนห้องรับรอง ของกินอะไรนั่นผมไม่ได้ใช้ครับ ส่งรถเสร็จผมไปที่อื่นต่อครับไม่ได้เฝ้าเป็นส่วนใหญ่
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 08, 2021, 02:18:56 โดย basboths »