ผู้เขียน หัวข้อ: Run in กันกี่โลครับ แล้วเปลี่ยนน้ำมันเครื่องกันหรือเปล่า  (อ่าน 8165 ครั้ง)

ออฟไลน์ Eddy5659

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,619
ใช้ camry มาจะครบสามอาทิตย์รถผมก็ปาไป 1250 โลแล้ว

กำลังจะเอาไปเช็คระยะ สงสัยว่า เปลี่ยนน้ำมันเครื่องที่ 1000 โลแรกเลยดีไหมครับ

และปกติ run in กันกี่โลครับ เพราะกะว่าเช็คระยะแล้วก็จะใช้ตามอัธยาศัยซะที
2007 Toyota Vios
2009 Toyota Hilux Vigo
2010 Toyota Camry
2011 Ford Ranger
2011 Isuzu Dmax
2011 Toyota Hilux Vigo
2015 Ford Ranger
2015 Ford Everest 2.2 Titanium
2015 Ford Everest 3.2 Titanium+
2016 Toyota Hilux Revo 2.4 J m/t (5 คันจะที่รัก)
2017 BMW 320d iconic

ออฟไลน์ keng.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,551
  • ฅ.ฅนรักรถ
Vios ของคุณป้าผม รันอิน 1,000 กิโล แล้วก็ถ่ายน้ำมันเครื่องด้วยครับ

ออฟไลน์ nuvut9

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 169
CIVIC ผมขับมา ครบ 1 เดือนวันนี้ พอดีเลย
ปาเข้าไป 6 พันกว่าโลล่ะครับ ยังไม่ได้ไปถ่ายน้ามันเครื่องเลย
สงสัยต้องรีบไปถ่ายล่ะครับ

ออฟไลน์ rob

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 76
  • I'm ET
ของผมซิตี้จะห้าพันกิโลแล้ว
กะว่าจะทำตามคู่มือคือเปลี่ยนถ่ายน้ำมันที่หมื่นกิโลครับ
ส่วนรันอินกี่กิโล ก็พันกิโลแรกขับไม่เกิน 100 ไม่รู้เรียกว่ารันอินได้หรือเปล่า

ออฟไลน์ Good Boy

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 57
    • อีเมล์
ตั้งแต่โบราณกาลมา(เอาเสียเว่อ) สมัยคุณพ่อผม รันอินกัน 10000 โลครับ

1000 กิโลเมตรแรกเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง 1 ครั้งก่อน

สาเหตุเพราะเครื่องยนต์ที่เพิ่งออกมาใหม่มันจะมีการเสียดสีกันมากกว่า การถ่ายที่ 1000 กม. ก็เพื่อช่วยให้ขี้เหล็กที่มันสีอยู่ในอ่างน้ำมันเครื่อง

ออกไปจากรถเรา

**สำหรับผมตรงนี้ผมเปลี่ยนกรองน้ำมันเครื่องด้วยนะครับ ใึครว่าไม่จำเป็นแต่ผมเอาชัวส์ครับ

ระยะต่อมาก็เปลี่ยนถ่ายอีกทีที่ 1 หมื่นโล แต่การใช้งานนั้นก็ต้องบอกว่าขับแบบนิ่มๆก่อนนะครับยังไม่ได้ปรื๊ดดดด ๆๆๆๆ


-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ในสมัยใหม่นี้โลหะวิืทยาดีขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก รถยนต์รุ่นใหม่ๆก็จะรันอินกันนิดหน่อย บางครั้งผมเห็น 1000 โลแรกเปลี่ยนถ่าย

ก็เอากันแล้ว

***สำหรับความคิดผม ผมว่าเรื่องแบบนี้เชื่อคู่มือเถอะครับ

แต่ถ้าไม่เชื่อคู่มือก็ทำแบบโบราณแบบที่พ่อผมทำก็ได้ครับ ก็ยังนิยมกันอยู่

ปล.ถ้าโลหะวิทยามันดีจริงทำไมต้องประกอบลูกสูบห้ามผิดลูกเวลาถอดรื้อ แสดงว่ามันยังแน่ไม่พอน่ะสิใช่มั้ยครับ อาจารย์(เถียงไปแบบนี้แทบตกครับ)


ออฟไลน์ adobe

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 454
    • อีเมล์
ลองใช้แบบนี้ดู เปลี่ยนแบบสลับกับศูนย์
เช่น ศูนย์บอก 15,000 km

เปลี่ยนเองครั้งแรกที่ 7,500 km
เปลี่ยนถ่ายที่ศูนย์ 15,000 km
เปลี่ยนเองครั้ง 2 ที่ 22,500 km
เปลี่ยนถ่ายที่ศูนย์ 30,000 km
....

ออฟไลน์ sedan lover

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 429
ของผม acc 2.4 EL ไม่เนฯ ใช้ประมาณ 1 เดือน เปลี่ยนทีเดียว 10000 km เข้าศูนย์ครับ
(ใครว่าอย่างไรไม่ทราบครับ ผมทำตามคู่มือประจำรถทุกอย่างครับ
มีอะไรก็เอาผิดกับบริษัทได้เต็มที่ เพราะทำตาม Guide line แล้ว)

ออฟไลน์ J!MMY

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 15,628
    • www.headlightmag.com
    • อีเมล์
ขอยืนยันให้ว่า ไม่ต้องไปเปลี่ยนถ่ายทิ้งที่ 1,000 กิโลเมตรแรกหรอกครับ

และ ศูนย์บริการ ของรถยนต์รายค่ายสมัยนี้ ให้เข้าศูนย์ 1,000 กิโลเมตรแรก เพื่อแค่เช็คดูว่า ทุกอย่างเป็นอย่างไร
เรียบร้อยดีไหม และไม่ได้เปลี่ยนน้ำมันเครื่องให้แต่อย่างใด ดังนั้น ดูในบิลใบเสร็จให้ดีนะครับ ตอนเข้าเช็ค 1,000 กิโลเมตรแรก
ของรถบางยี่ห้อ ที่ยังต้องทำอยู่

อย่างที่คุณ Good Boy บอกครับ โลหะวิทยาสมัยนี้ ไปไกลแล้วครับ
น้ำมันเครื่องสมัยนี้เอง ก็หล่อลื่นได้ดีขึ้น มีสารเพิ่มคุณภาพดีขึ้นกว่าสมัยก่อนเยอะ

น้ำมันเครื่อง ทุกค่าความหนืด ทั้งเบนซิน และดีเซล
ถ้ามาตรฐานตั้งแต่ API SJ ขึ้ันมา จับเปลี่ยนที่ 10,000 กิโลเมตรขึ้นไปได้เลยครับ
ไม่ต้องไปสนเลยว่า เป็น ธรรมดา กึ่งสังเคราะห์ หรือสังเคราะห์ ก็ตาม ใช้มาตรฐานเดียวกันนี้ได้ทั้งหมดครับ

อย่าไปเชื่อพวกที่บอกให้เปลี่ยนถ่าย 5,000 7,000 อะไรนั่นเลยด้วยครับ ไม่จำเป็น และสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ
แถมยังก่อมลพิษให้กับโลกเพิ่มขึ้น จากน้ำมันเก่าที่เราต้องถ่ายทิ้งออกมา

methus zaa

  • บุคคลทั่วไป
ของผมทุก 9000-10000 โลครับ

ออฟไลน์ boyce

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 335
กระทู้ดีมีประโยชน์ จะได้เข้าใจกันอย่างถูกต้องซะที ขอบคุณทุกท่านครับ.