MR2 มันมีก่อนหน้านั้นอีกหรือปล่าวครับ ตัว W10 ในภาที่นำมาเป็นตัว W20 แล้ว ตัวก่อนหน้าจะดูเหลี่ยมๆกว่า
MRS เคยขับรถทที่ทำมาแล้ว เครื่องเป็น 2ZZ-ge + 6MT แล้ว ทำเพิ่มแล้ว ทางตรงๆ ขับสนุกครับ เกียร์ 1-4 ตื้ดๆ พอเรียกความตื่นเต้น ทางโค้งไม่ทราบ เพราะย่อง กลัวครับ
ถ้ามีโอกาสก็อยากได้เหมือนกันครับ รถเล็กๆ เครื่องไม่ต้องแรงมหาศาล ขับสนุก
มีครับ มีก่อนหน้านั้น เป็นรุ่น W10 จำหน่ายในปี 1984-1989 มีทั้งเครื่องยนต์ 1.5L 3A-LU 4 สูบ และ 1.6L 4A-GZE Supercharged 4 สูบ จับคู่กับเกียร์ Manual 5 Speed และ Auto 4 Speed
แต่ผมไม่ขอรายละเอียดเยอะนะครับ เพราะรุ่นนี้ไม่ค่อยจะเป็นตำนานซักเท่าไหร่
รุ่นที่กลายเป็นตำนานไปแล้วสำหรับสายซิ่งก็คือ
1989-1999 MR2 (W20) และ 1999-2007 MRS (W30)
เห็น MR2 gen 1 แล้วคิดถึงตำนานรุ่นนี้ ในเมืองไทย
มันไม่นิยม เพราะเจอกำแพงภาษี 300%
แค่มีคนแอบนำเข้าหลบเลี่ยงภาษี ก่อนถูกยึดนำมาประมูล
กดราคาไปแถว 2ล้าน น่าจะเป็นคันแรก ของประเทศไทยสมัยนั้น
MR2 รุ่นแรกที่ไม่นิยมเพราะกำแพงภาษี 300% และ รถยนต์ที่นำเข้าในไทยสมัยนั้น นำเข้าได้เฉพาะเครื่อง 2.3 ขึ้นไป (แต่ MR2 Gen 1 ใช้เครื่องยนต์ 1.5-1.6L) ก่อนถึงปี 2534
ซึ่งในปี 2534 การนำเข้ารถ CBU ทำได้เสรีอีกครั้ง (จากเดิมที่นำเข้าได้เฉพาะเครื่อง 2.3 ขึ้นไป) เพราะรถยนต์ผลิตในประเทศเริ่มผลิตไม่ทันความต้องการ และเพื่อให้มีการแข่งขันภายในประเทศมากขึ้น
โดยรายละเอียดของการเก็บภาษีมีดังนี้
รถนำเข้า CBU
ไม่เกิน 2,300 ซีซี จาก 180% เหลือ 60% ของราคา C.I.F.
เกิน 2,300 ซีซี จาก 300% เหลือ 100% ของราคา C.I.F.
รถนำเข้ามาประกอบ CKD
ไม่เกิน 2,300 ซีซี จาก 112% เหลือ 20% ของราคา C.I.F.
เกิน 2,300 ซีซี จาก 112% เหลือ 20% ของราคา C.I.F.
ในปี 2535
รัฐบาลได้เปลี่ยนระบบการเก็บภาษีใหม่ โดยมีรายละเอียดดังนี้
เปลี่ยนจากภาษีการค้าที่เก็บ 30% มาเป็นภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ในตอนนั้นเริ่มเก็บที่ 10%
มีการเพิ่มภาษีสรรพาสามิตเข้ามา
รถนำเข้า CBU เกิน 2,400 ซีซี ปรับอากรขาเข้าเป็น 68.5% ของราคา C.I.F.
และ 42% สำหรับรถที่ไม่เกิน 2,400 ซีซี
จนถึงปี 2541
สรุปคือ MR2 Gen 2 ที่นิยมมากกว่า Gen 1 เพราะในยุคปี 2535-2541 กำแพงภาษีนำเข้าในไทยสมัยนั้น 60% ครับ (MR2 Gen 2 เป็นรถยนต์นำเข้า ขนาดไม่เกิน 2,300cc ในช่วงปี 2535-2541)
ที่มา
https://www.magcarzine.com/thai-cartax-timeline/