ผู้เขียน หัวข้อ: สงสัยประเด็นปัญหารถFORDในไทยครับ  (อ่าน 2566 ครั้ง)

PVOTTA27

  • บุคคลทั่วไป
สงสัยประเด็นปัญหารถFORDในไทยครับ
« เมื่อ: กันยายน 16, 2021, 17:25:10 »
ขออนุญาตแลกเปลี่ยนถามพี่สมช.ที่เคยมีและขับรถฟอร์ดช่วง10กว่าปีถึง20ปีก่อนทั้งเอสเคป เลเซอร์ เรนเจอร์และเอเวอเรสต์เครื่องไดเร็คว่าฟอร์ดยุคเก่าเคยมีปัญหาดีเฟคตัวรถ,อะไหล่ หรือศูนย์บริการ แบบรถฟอร์ดยุคนี้ที่ปัญหาเยอะมากทั้งเกียร์พังในเฟียสต้า โฟกัสหรือนมค.หายในเรนเจอร์ เอเวอเรสต์มั้ยครับหรือว่าน้อยกว่าพอสมควรแม้จะไม่ได้ดีเท่ารถญี่ปุ่น
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 16, 2021, 21:49:36 โดย PVOTTA27 »

ออฟไลน์ Fly to dream

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,640
Re: สงสัยประเด็นปัญหารถFORDในไทยครับ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กันยายน 16, 2021, 19:09:01 »
ศูนย์ปัจจุบันดีกว่าเยอะหลายเท่าครับใช้มาตั้งแต่ศูนย์ยังเป็นห้องแถว เอาเป็นว่าผมสบายใจนะในปัจจุบันดีกว่าเยอะ


Fiesta ที่พังไม่ใช่ตัวเกียร์นะแต่เป็นครัทก้ามปูมากกว่าที่เห็นๆ จนปัจจุบันอู่นอกทำได้หมดราคาถูกด้วย
ส่วน 2.0 นมค. หายนี่ น่าจะออกแบบมาแล้วมาเจอการตัดบางอย่างออกตามสเป็คเชื้อเพลิงด้วย แต่ที่เป็นหลักๆโบเดี่ยว
แต่อู่นอกรื้อๆมาแล้วบอกว่าที่ก้านวัดนี่ออกแบบมาไม่ดีด้วย เพราะน้ำมันเครื่องต่อให้หายไปจนรูล่างของก้านวัด ก็คือหายไป 1 ลิตร ที่อ่างยังมีอีกเยอะ
ขยะของโลกออนไลน์​ในปัจจุบั​นคือเชื่อคนโง่ที่มีคำพูดสวยหรู​ หาข้อมูล​ไม่จริงมาโกหกคำโตๆ​ อีกอย่างคือพูดความจริงไม่หมด กับพวก​ Avatar ที่ทำเป็น​เก่ง​แต่เก่งน้อยในโลกความจริง​ซึ่งจะหาได้ง่าย

ออฟไลน์ Weetting

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,970
  • ช่วงล่าง+เครื่องยนต์
Re: สงสัยประเด็นปัญหารถFORDในไทยครับ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: กันยายน 16, 2021, 21:46:45 »
รถในบ้านนะครับ เคยใช้

Mazda fighter
Bt50
Bt50 pro

Focus MK2   1.8
Focus MK3    1.6
Fiesta 1.5
-ดีเฟคตัวรถ
รถมีอาการประจำรุ่นทุกรุ่นละครับ  จะมากจะน้อยก็แล้วแต่  แต่สำหรับผมทุกรุ่นอยู่ในขั้นรับได้ ไม่ได้เสียน่าปวดหัว ไม่ได้เสียทุกสัปดาห์ 
อีกอย่างคืออาการเสียคนพูดกันวงกว้างเกินจริงไปเลยอะ  หรือโพทนาไปเยอะเกินนนนนนน  เอาแค่เรื่องเกียร์ คลัชต์คู่เนี่ย    กับ  CVT ฮอนด้าเนี่ย 
CVT. ใน Hrv เพื่อนๆรอบตัวผม  ทุกคนพัง  ในระยะ 7-1.4 แสนโล    กัส1.6ผม เปลี่ยนก้ามปูตอน 1.2 แสนนะ แถมยังไม่พังด้วยแค่ออกอาการ แปลกๆช่างเปลี่ยนอยู่สองชั่วโมงกว่าเอง

-อะไหล่ ไม่ได้ถึงขั้นหาไม่ได้  แต่บางรุ่นเจอปัญ
หาจริงๆ  อย่างโฟกัส Tdci  อะไหล่ส่วนเทอร์โบลึกๆหายาก  ส่วนตัวถังปั๊มในไทย มานานแล้วครับ  ไม่เคยเจอว่าหาไม่ได้

-ศูนย์บริการ แต่ก่อนใช้  รามอินทรา กม8  ซึ่งไม่ค่อยประทับใจ  เปลี่ยนมาศูนย์ฯลาดพร้าว35 ดีกว่ามาก  ฟอร์ดปราจีนก็คุยรู้เรื่อง 
ส่วนมาสด้า หัวหมากดีมาก  ลำลูกกาดี

ส่วนที่คิดว่าช่างฟอร์ดไม่เก่ง ผมเจอแต่เด็กจบใหม่ ไปทีไรก็หน้าใหม่ บางทีไปคุยกับหัวหน้าช่างด้วยซ้ำว่าคลับแก้กันแบบไหน
THE Manual Gearbox Preservation Society
Drive diesel until last day

ออฟไลน์ Auto

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,632
Re: สงสัยประเด็นปัญหารถFORDในไทยครับ
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: กันยายน 16, 2021, 23:34:06 »
เคยใช้ Ranger  4 ประตูตัวเตี้ย เครื่อง 2.5  ยุคก่อนเป็นคอมมอนเรล   
   ขับดี  แต่แข็งไปหน่อย  คนนั่งเบาะหลังนั่งไม่ได้เลย   ปวดหลังมากแข็งจริง  ๆ กระเทือนมาก    รถกินน้ำมันด้วย  แอร์เย็นไม่ตัด  แต่ที่ตัดคือ Heater ไม่มีตัดออกสำหรับสเปกขายในไทย     โดยรวมไม่ชอบ ถ้าขับคนเดียวหรือใช้งานสมบุกสมบันถึงจะดี   
ตัวรถไม่มีอะไรซับซ้อนเพราะเป็นรถธรรมดา  ไม่ใช่แบบรถยุคใหม่เหมือนปัจจุบัน  เลยไม่เจอปัญหาอะไร   

ออฟไลน์ Floppy-T

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 969
Re: สงสัยประเด็นปัญหารถFORDในไทยครับ
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: กันยายน 17, 2021, 07:38:51 »
Focus MK2 เกียร์ 4 สปีดบ้านๆ ใช้มา 10 ปีกว่า
ไม่จุกจิกเท่าไร มีเสียบ้าง แต่พอรับไหว ไม่เคยกินข้าวลิง
ของแฟนเก่า ขับเฟียสต้า ไม่เจอปัญหาอะไรใช้งานปกติ (โชคดีมาก)

ออฟไลน์ DiKiBoyZ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,226
    • อีเมล์
Re: สงสัยประเด็นปัญหารถFORDในไทยครับ
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: กันยายน 17, 2021, 09:29:27 »
ปัญหามีตามยุค ตามสมัย ครับ

ก่อนมีปัญหาอย่างนึง ปัจจุบัน ก็มีปัญหาอย่างนึง

แต่ที่คล้ายๆ กัน แทบจะทุกยุค มีปัญหาเรื่องเครื่องยนต์ กับ เกียร์ มาตลอด

ก่อนหน้านี้ทุกคนคงรู้เรื่อง เกียร์ของ โฟกัส กับ เฟี้ยสต้า อันโด่งดัง จนต้องมีการ callout หรือ รวมตัวของเจ้าของรถไปที่บริษัทผู้ผลิตเอย ร้องสื่อเอย

ปัจจุบัน มีชิ้นส่วนหรืออุปกรณ์มันช่างเปราะบางจริงๆ ท่ออินเตอร์แตก โน่นหัก นี่หลุด ก็มีเรื่องเครื่อง 2.0 ทั้ง 2.0T และ 2.0BiT ทั้งฝาซึม น้ำมันเครื่องหาย เครื่องดับกลางอากาศ  และก็เกียร์ก็มีปัญหาทอร์คขาดตั้งแต่ยุค 3.2 แล้ว ไม่แก้ มาโผล่ตอน 2.0 อีก แล้วก็มีเฟืองน้ำมันเกียร์แตก ต้องขึ้นสไลด์รายวัน และ มีการรวมตัวของผู้ที่เจอปัญหาไปพบผู้บริษัทผู้ผลิต เช่นเดียวกับในอดีต จนมีการปรับปรุงบางอย่างเกิดขึ้นในปี 2019-2020 เรื่องเปลียนวิธีเชื่อมทอร์คให้ดีขึ้น แต่ก็อย่างว่า แล้วลูกค้าที่ซื้อล๊อตที่ก่อนจะปรับปรุงละ ทำไง ลอยแพรเขาเหรอ....

ที่เหมือนกันทั้ง 2 ยุค คือ แทบทุกปัญหา ทุกการพลักดัน หรือ เรื่องมาแดงมาเกิดจากผู้ใช้งาน หรือ โดนโวย ทุกครั้งไป

ไม่มีการ Test หรือ วิเคราะห์จากค่าย แล้วเจอก่อน แล้วเรียก Re-call อันนี้ไม่มีเลย(อาจจะมี แต่ตามเนื้อผ้าทุกวันนี้ไม่ใช่แบบนั้นเลย) ซึ่งผู้ผลิต หรือ ศูนย์ เมื่อ 10-20 ปีก่อน ยังไง ก็เป็นยังงั้น ไม่มีการพัฒนาเลย

ปัจจุบันพอมีปัญหา หรือ ผู้ใช้รถ หรือ ลูกค้า เข้าไปแจ้ง เข้าไปเครม ถือว่าทำได้ดีขึ้น รับผิดชอบมากขึ้น ไม่ปฏิเสธความรับผิดชอบ(หรือมันพังชัดเจน จนปฏิเสธไม่ได้) แต่จริงๆ มันควรแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ เพราะถ้ารถมีปัญหากลางทาง คนเดือดร้อนคือ เจ้าของรถ ไม่ใช่ศูนย์

สำหรับผม ถ้าจะแนะนำ หรือ ถ้ามีปากเสียง (ปลายเดือนนี้ผมถูกเชิญไปฟังการบรรยายและเยี่ยมชมจากทางฟอร์ดศูนย์ใหญ่ จากมาที่ศูนย์........ แล้วทางสูนย์แจ้งว่าสามารถตั้งคำถาม หรือ ประเด็นปัญหา ข้อสงสัยได้)
- รถที่ผลิตมา ควรจะ R&D เรื่อง ความคงคน ของวัสดุ ภายในตัวรถ หรือ รายรอบตัวรถด้วย ไม่ใช่ เปราะบางซะเหลือเกิน แต่ตัวรถคุณพยายามจะสื่อว่ามันบึกบึนซะเหลือเกิน
- ชิ้นส่วนที่มีปัญหาประจำ หรือ หนักๆ เกี่ยวกับเครื่องยนต์ กับ เกียร์ ผมไม่รู้ว่าทางผู้ผลิต เขา R&D กันมายังไงนะ เขาเก่ง เขาฉลาด แต่ทำไมมีปัญหาทุกรุ่นไป ผมอยากให้เขาวิ่งทดสอบก่อนผลิตเป็น 200,000-500,000 km ไปเลย เพราะขนาดปัจจุบัน ป้ายแดง ยังต้องขึ้นสไลด์แล้ว มันคืออะไร คำถามนี้ ผู้ผลิตไม่เคยตอบได้เลย
- ทำไมด้วยราคาที่จ่ายไป ผู้ใช้รถ หรือ ลูกค้า แทบจะจ่ายซื้อคันเดียว แล้วคันต่อไปเขาเมินหน้าหนี หรือ ขายทิ้งกลางทาง ก็เยอะ การตลาดแบบ ขายรถ แล้วจบ บริการหลังการขาย หรือ การเอาใจลูกค้า ความรู้สึกลูกค้า มาเป็นที่ตั้ง เข้าใจหัวอกลูกค้า อันนี้ ผมว่าค่ายนี้แทบไม่มีเลย เพราะเวลาเกิดปัญหาคนที่เดือดร้อน หรือ รับปัญหา คือ คนซื้อ ลูกค้า มันเลยเป็นคำพูดที่ว่า "คนในอยากออก คนนอกอยากเข้า" หรือ "สวยแต่รูปจูบไม่หอม"
- ถัามีปัญหาจากการผลิต(อาจจะเกิดกับทุกค่าย) ก็ควรจะ recall เรียกไปเปลี่ยน ไปแก้ไขซะ ไม่ใช่ว่ารอให้ลูกค้าขับๆ ไปจนเกิดเอง กลางทาง แล้วค่อยบอกว่า "พังเครมได้นะ ไม่พังก็ไม่ให้เครม..." ทั้งที่รถมีความเสี่ยง รู้ๆ กันอยู่ อันนี้ผมว่าบางคนเกือบกระโดดถีบยอดหน้ามาแล้ว กับคำพูดแบบนี้ ผมว่า แนวคิดแบบนีั้นี่ละ ที่จะทำให้ยี่ห้อนี้ไม่มีที่ยืนในอนาคต

ฝากไว้ครับ