ผู้เขียน หัวข้อ: คิดว่า ปี 2574 บนถนนประเทศไทย จะเป็นอย่างไร  (อ่าน 3405 ครั้ง)

ออฟไลน์ REX

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,015
การกำเนิดสิ่งต่างๆ ต้องมีปัจจัย พลังงาน +วัตถุดิบ

และในสังคมมนุษย์
จะเป็น  พลังงาน + วัตถุดิบ(ทรัพยากรธรรมชาติ) + เงิน + เทคโนโลยี่

2ปัจจัยหลัง มันคือตัวเร่ง ให้มนุษย์สามารถสร้างต่างๆออกมามากมายและรวดเร็ว  โลกมีเงินเพิ่มขึ้น (แต่คุณค่าลดลง) และเทคโนโลยี่มากขึ้น และเมื่อสร้างนวตกรรมมากขึ้น 2ปัจจัยแรกจะยิ่งลดลงเรื่อยๆ

ที่หมดก่อนใคร คือ ทรัพยากร ทางอากาศที่ทำให้โลกร้อน  จึงทำให้ต้องเลือกไปใช้พื้นฐานพลังงานด้านอื่นทดแทน คือ ไฟฟ้า  แม้แต่รถยนต์ ก็ถูกบีบบังคับให้เป็นไฟฟ้า 

10 ปีจากนี้ คือยุตเปลี่ยนผ่าน   
แต่ละท่านคิดว่า  ปี 2574 บนท้องถนน การเดินทาง  บริษัทรถยนต์ 
บริษัทน้ำมัน เชียงกง  ประเทศไทย ลักษณะรถยนต์ ฯลฯ จะเปลี่ยนแปลง เป็นอย่างไร ณ วันนั้นครับ ?

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 08, 2021, 07:40:45 โดย REX »

horizen

  • บุคคลทั่วไป
Re: คิดว่า ปี 2574 บนถนนประเทศไทย จะเป็นอย่างไร
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: ตุลาคม 08, 2021, 06:32:49 »
สถานีชาร์จ กระจายครอบคลุม เดินทางทั่วไทยหายห่วง เทคโนโลยีชาร์จเร็ว 10-15 นาที พอดีกับเวลาเข้าห้องน้ำ แวะ 7-11 บทถนนมีรถ BEV ซัก 20 % ในกทม (รวมกะบะ รถบรรทุก และรถเมล์โบราณที่ยังคงวิ่งอยู่) ราคา BEV ลงมาอยู่แถว Civic ปัจจุบัน คนส่วนใหญ่เอื้อมถึงแล้ว range 500+ km มีการเปลี่ยนผู้เล่นในตลาด ล้มหายตายจาก และน้องใหม่ไฟแรง คนจะไปโฟกัสที่รถกะบะเก่าๆที่ยังพ่นควันเยอะๆอยู่

ออฟไลน์ kiwiwi

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,856
Re: คิดว่า ปี 2574 บนถนนประเทศไทย จะเป็นอย่างไร
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: ตุลาคม 08, 2021, 06:44:03 »
คนไทยและประเทศไทยยังต้องใช้หนี้อยู่เลยครับ คงไม่ได้แตกต่างจากวันนี้ที่เป็นอยู่เท่าไหร่หรอก

ออฟไลน์ XaNaX

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 589
    • อีเมล์
Re: คิดว่า ปี 2574 บนถนนประเทศไทย จะเป็นอย่างไร
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: ตุลาคม 08, 2021, 07:24:06 »
2547 ถนนจะเป็นยังไงไม่รู้ แต่ รถเมล์ รฟท ต้องอนุรักษ์



ออฟไลน์ demo2

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 784
    • อีเมล์
Re: คิดว่า ปี 2574 บนถนนประเทศไทย จะเป็นอย่างไร
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: ตุลาคม 08, 2021, 07:35:36 »
อาจจะต่างแค่หน้าตารถ รุ่นรถ
แต่ถนนหนทางเหมือนเดิม น้ำท่วมเหมือนเดิม

ออฟไลน์ TeslaX

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,765
Re: คิดว่า ปี 2574 บนถนนประเทศไทย จะเป็นอย่างไร
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: ตุลาคม 08, 2021, 07:59:16 »
2547 ถนนจะเป็นยังไงไม่รู้ แต่ รถเมล์ รฟท ต้องอนุรักษ์




ไม่เอาไม่พูดเดี๋ยวติ่งเข้ามาด่านะ

ออฟไลน์ EDS

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 237
Re: คิดว่า ปี 2574 บนถนนประเทศไทย จะเป็นอย่างไร
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: ตุลาคม 08, 2021, 08:18:27 »
ไม่พิมพ์ดีกว่า เดี๋ยวจะหาว่าการเมือง เอาเป็นว่ารู้ๆกันอยู่

ออฟไลน์ flybigbear

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,564
Re: คิดว่า ปี 2574 บนถนนประเทศไทย จะเป็นอย่างไร
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: ตุลาคม 08, 2021, 08:19:15 »
เดานะ
ระบบขนส่งสินค้าจากคลังสินค้ากลางไปยังคลังสินค้าภูมิภาคเป็นทางรางมากกว่า ทางรถยนต์
ส่วนรถ ICE ล้วนยังมีอยู่ แต่จะมีในปริมาณที่ไม่เยอะมาก และเป็นลูกผสม HEV, PHEV
ส่วนรถ BEV จะเป็นที่นิยมเพราะวิ่งได้ 1,xxx km/ชาร์จ ที่ความเร็วคงที่ 110km/h

ออฟไลน์ U9WS

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,180
  • slower is better
Re: คิดว่า ปี 2574 บนถนนประเทศไทย จะเป็นอย่างไร
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: ตุลาคม 08, 2021, 08:27:09 »
เลนซ้ายพัง และรถใหญ่วิ่งแช่ขวาเหมือนเดิม

ออฟไลน์ DiKiBoyZ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,208
    • อีเมล์
Re: คิดว่า ปี 2574 บนถนนประเทศไทย จะเป็นอย่างไร
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: ตุลาคม 08, 2021, 08:37:10 »
ถ้าบ้านเราเป็นแบบนี้อยู่ ก็คงไม่ได้ต่างอะไรจากวันนี้เท่าไหร่ครับ

ที่เพิ่มเติม ก็คงตามยุคตามสมัย รูปร่าง หน้าตา ออฟชั่น ของรถ ก็อาจจะเปลี่ยนไปบ้าง

2547 ถนนจะเป็นยังไงไม่รู้ แต่ รถเมล์ รฟท ต้องอนุรักษ์




เห็นภาพชัดเจนครับ  ::) ::) ::) ::) ::)

ออฟไลน์ IS2000

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,186
    • อีเมล์
Re: คิดว่า ปี 2574 บนถนนประเทศไทย จะเป็นอย่างไร
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: ตุลาคม 08, 2021, 08:50:28 »
คิดว่ารถ full EV คงมีมากขึ้นตามเมืองแต่ส่วนมากก็ยังคงน่าจะเป็น ICE, hybrid ครับ
1 3 5
├┼┼╕
2 4 6 R

ออฟไลน์ Sazabi

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 330
Re: คิดว่า ปี 2574 บนถนนประเทศไทย จะเป็นอย่างไร
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: ตุลาคม 08, 2021, 08:56:01 »
2574 ก็คือปี 2031

ค่ายรถที่มีโรงงานในประเทศไทยหลายๆยี่ห้อไม่มีแผนจะผลิต BEV จนกะทั่งปี 2030 ส่วนรถจีนที่หลายๆคนอวยกันนั้นทุกวันนี้ก็ยังมีแต่ผนผลิตรถ ICE และ HEV (แต่คงเริ่มผลิต BEV ก่อนปี 2030 แน่ๆ) คิดว่าบนท้องถนนมันจะมีอะไรเปลี่ยนล่ะครับ

ออฟไลน์ Dubee

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,534
Re: คิดว่า ปี 2574 บนถนนประเทศไทย จะเป็นอย่างไร
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: ตุลาคม 08, 2021, 09:00:41 »
1. คิดว่าคงมีเทคโนโลยีใหม่ๆ เกี่ยวกับการก่อสร้างถนนเข้ามามากขึ้น จะทำให้สร้างถนนได้เร็วและได้มาตรฐานทางดีขึ้น
2. ทางสี่เลนบาททั้งทางหลวงและทางหลวงชนบทบางสาย คลอบคลุมพื้นที่ประเทศมากขึ้น
3. ถนนตัดใหม่มากขึ้น รองรับโลจิสติก การท่องเที่ยวและเดินทาง
4. มอเตอร์เวย์มากสายขึ้น เป็นโครงข่ายมากขึ้น เหนือ อิสาน กลาง ใต้ คงมีหมด
5. ทางลูกรังไม่มีวันหมดไปจากประเทศ

ออฟไลน์ Symphonic

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,704
Re: คิดว่า ปี 2574 บนถนนประเทศไทย จะเป็นอย่างไร
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: ตุลาคม 08, 2021, 09:02:16 »
อีก 10 ปีข้างหน้า

ผมคิว่ารถนั่งพวก เก๋ง, SUV, Mini van น่าจะเป็น HEV กันหมดแล้วนะครับ
น่าจะเหลือ ICE ล้วนๆ แค่รถรุ่นถูกมากๆ เท่านั้น

ส่วนรถเพื่อการพาณิชย์ส่วนใหญ่คงเป็น ICE ล้วนๆ อยู่ เช่น กระบะส่งของ รถตู้โดยสาร
รถบรรทุก สองแถว แต่น่าจะมี HEV เป็นรุ่นท็อปๆ แต่ยอดขายคงไม่เยอะนัก

EV น่าจะเข้ามามากขึ้นครับ  EV ถูกๆ ราคาจับต้องได้จะเป็นรุ่นที่พิสัยการเดินทางไม่ไกลนัก
การชาร์จจะยังช้าอยู่  ส่วน EV แบบที่ชาร์จเร็ว วิ่งได้ไกล ก็จะมีเข้ามาแต่น่าจะอยู่ใน Segment
ที่ราคายังสูง ระดับ premium car

อีกรูปแบบของการเดินทาง น่าจะเป็นการใช้ระบบรางมากขึ้นทั้งในเมืองและระหว่างเมือง
และรูปแบบ Business model ของการเช่ารถ หรือบริการขนส่ง รถรับจ้าง (MaaS)
น่าจะหลากหลาย สะดวก และน่าจะเข้ากันกับ lifestyle คนรุ่นใหม่มากขึ้น ครับ

ออฟไลน์ urangutang

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 398
Re: คิดว่า ปี 2574 บนถนนประเทศไทย จะเป็นอย่างไร
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: ตุลาคม 08, 2021, 09:35:51 »
ปี 2574 คืออีก 10 ปีข้างหน้า คิดว่ารถยนต์ส่วนตัวคงเป็น PHEV หรือ EV กันมากขึ้น สัก 30-50% ส่วนรถบรรทุก/โดยสาร คงใช้ ICE เป็นหลักเหมือนเดิม

ออฟไลน์ Boattamon

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 511
Re: คิดว่า ปี 2574 บนถนนประเทศไทย จะเป็นอย่างไร
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: ตุลาคม 08, 2021, 09:44:27 »
ยาพาหนะส่วนบุคคลไม่รู้ แต่ถนนสาธารณะและการขนส่งสาธารณะ ใกล้เคียงปัจจุบันแน่นอน

ออฟไลน์ tleema

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 290
    • อีเมล์
Re: คิดว่า ปี 2574 บนถนนประเทศไทย จะเป็นอย่างไร
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: ตุลาคม 08, 2021, 09:53:16 »
คิดว่า คนจะทำงานที่บ้านมากขึ้น การเดินทางเข้าเมืองใหญ่ อาจจะน้อยลง

ทุกอย่างสั่งทางออนไลน์ สิ่งหนึ่งที่ดีมากๆ คือระบบ Logistic 

ออฟไลน์ AZMVI

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 210
Re: คิดว่า ปี 2574 บนถนนประเทศไทย จะเป็นอย่างไร
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: ตุลาคม 08, 2021, 11:17:27 »
รถน้ำมันยังคงอยู่เหมือนเดิมครับ เพิ่มเติมด้วยรถไฮบริดและรถ EV ที่มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นนิดหน่อย ปั๊มน้ำมันอาจมีที่ชาร์จไฟฟ้าตามหัวเมืองใหญ่ประปราย

ราคารถ EV ที่มีวิ่งได้ไกลคิดว่ายังคงแพงอยู่ประมาณ D-Seg ตัวท็อป ส่วนรถน้ำมันราคาอาจเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ (Civic อาจราคาเท่า Accord 5555+)

ถนนอาจจะมีการตัดใหม่เพิ่มขึ้น แต่การจราจรกับความแออัดยังคงเหมือนเดิม

รถสาธารณะยังเหมือนเดิมเพิ่มเติมคือเปลี่ยนรุ่นใหม่


ปล.ถ้าบวกเพิ่มอีก 50 ปี รถไฟฟ้า EV & Hybrid คงจะมาแทนที่รถน้ำมันเป็นส่วนใหญ่แล้ว ส่วนรถน้ำมันล้วนอาจจะอยู่ในแค่วงการ Motorsport แล้วครับ

ออฟไลน์ CarameLon

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,387
Re: คิดว่า ปี 2574 บนถนนประเทศไทย จะเป็นอย่างไร
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: ตุลาคม 08, 2021, 12:06:54 »
ขนส่งสาธารณะไทย เหมือนเดิมยาวๆแค่มีรถไฟฟ้ารถไฟใต้ดินเพิ่ม แต่ก็ไม่ครอบคลุม
รถขนส่งคนยังเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือติดแอร์และทาสีใหม่ให้ดูน่ารักขึ้น
รถยนตร์ส่วนบุคคล รถevล้วนเจอเยอะขึ้นเจอบ่อยขี้นประมาณเจอคนขับเบนส์บีเอ็ม
รถเครื่องสันดาบยังเป็นทางเลือกหลักของปชช แรงม้าcsegรถหยุ่น ขั้นต่ำอยู่ที่180hp
บิ๊กไบค์สามารถวิ่งขึ้นทางด่วนทางพิเศษได้อย่างถูกกฎหมาย
ถนนทางเรียบในกรุงเทพฯยังคงซ่อมๆสร้างๆ ถนนตจว.ก็เช่นกัน

อย่างที่เด็กๆเขาว่ากันแหละครับ....   " ประเทศไทยเป็นประเทศหยุดพัฒนา! " 8) 8) 8)
TOYOTA WISH SPORT 2.0>>>CRV-2.4L 4WD GEN3>>>TOYOTA Camry 2.4 2010>>>BMW 520 ตาเหยี่ยว>>>BMW X3 2011 >>>BMW 520D 2010 >>>BMW 525D ก่อน LCI >>>BMW 116i M-sport >>>BMW X1 2.0 S-drive 2016 >>>Mercedes GLA200 >>>Mercedes C Class C350e >>> BMW330e+BMWS1000R

MacH1

  • บุคคลทั่วไป
Re: คิดว่า ปี 2574 บนถนนประเทศไทย จะเป็นอย่างไร
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: ตุลาคม 08, 2021, 12:19:25 »
BEV นำเข้าจากจีนมีบทบาทมากขึ้นเรื่อยๆทั้งใน mass และ premium segment  รองมาคือรถ BEV เกาหลีนำเข้าจากอาเซียน  ผู้นำตลาดเช่น Tesla, Volvo, Bimmer, Hyundai 

Xpeng, Nio, Xiaomi, Huawei มากันครบ ใช้วิธีจับมือร่วมทุนกับกลุ่มธุรกิจไทยใหญ่ๆที่เข้ามาทำธุรกิจรถยนต์เป็นครั้งแรก (สัดส่วนทุนจีน 60-70% ทุนไทย 30-40%) ไม่มีการลงทุนผลิตในไทย เพราะนำเข้าโดยตรงจากจีนมาขายคุ้มกว่า ถูกกว่า

คล้ายๆกับที่เกิดขึ้นที่ US ในยุค 80s จะมีการรณรงค์ "ซื้อรถภายในประเทศ ช่วยชาติ" "ซื้อรถนำเข้า ไม่รักประเทศ" ออกมามากขึ้นเรื่อยๆ

ออฟไลน์ alpha14

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,109
Re: คิดว่า ปี 2574 บนถนนประเทศไทย จะเป็นอย่างไร
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: ตุลาคม 08, 2021, 12:57:17 »
ถนนก็คงเยอะขึ้น มอเตอร์เวย์ก็เยอะขึ้น ถนนลาดยางทุกหมู่บ้าน แต่การใช้รถของคนไทยยังขาดวินัยเหมือนเดิม

ออฟไลน์ SM.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 27,407
Re: คิดว่า ปี 2574 บนถนนประเทศไทย จะเป็นอย่างไร
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: ตุลาคม 08, 2021, 14:05:48 »
2547 ถนนจะเป็นยังไงไม่รู้ แต่ รถเมล์ รฟท ต้องอนุรักษ์




 ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D

ออฟไลน์ Sazabi

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 330
Re: คิดว่า ปี 2574 บนถนนประเทศไทย จะเป็นอย่างไร
« ตอบกลับ #22 เมื่อ: ตุลาคม 08, 2021, 14:24:21 »
เห็นมีคนพูดถึงรถ BEV เกาหลีจาก ASEAN

- โรงงานรถเกาหลีในอินโดนีเซียยังไม่มีแผนจะผลิต BEV เพราะถ้ามีแผนจะผลิต BEV ที่อินโดก็ไม่จำเป็นที่รถเกาหลีจะต้องเสียเงินเสียทองไปสร้างโรงงาน BEV ขนาดจิ๋วที่สิงคโปร์อีก เนื่องจาก Cap 2.5 แสนคันต่อปีของโรงงานในอินโดนั้นเพียงพอต่อการส่งออกภายใน ASEAN สบายๆ รัฐบาลสิงคโปร์เองก้ไม่ต้องหน้ามืดให้สิทธิพิเศษกับรถเกาหลีมากมายขนาดนั้นเพื่อดึงให้มาตั้งโรงงานผลิต BEV ในประเทศที่ไม่มีอะไรเหมาะสมกับการสร้างโรงงานผลิตรถยนต์เลยอย่างสิงคโปร์ แค่นั่งรอเฉยๆให้ผลิตในอินโดแล้วนำเข้ามาขายในสิงคโปร์สบายๆไม่ดีกว่าเหรอ

- โรงงาน BEV เกาหลีที่สิงคโปร์นั้นไม่ได้ตั้งขึ้นมาเพราะความเหมาะสมทางภูมิศาสตร์ ต้นทุน หรือ Supply Chain อะไรเลย โรงงาน BEV เกาหลีที่นั่นสนับสนุนโดยรัฐบาลสิงคโปร์แบบสุดลิ่มทิ่มประตู โดยให้สิทธิพิเศษหลายอย่างมากๆเพื่อให้รถเกาหลีมาตั้งโรงงาน BEV ในสิงคโปร์ที่ไม่มีอะไรเหมาะสมต่อการตั้งโรงงานผลิตรถเลยแม้แต่นิดเดียว ทั้งหมดเพื่อต้องการเปลี่ยนให้สิงคโปร์มีรถยนต์ไฟฟ้าใช้โดยเร็วที่สุด เพราะฉะนั้นด้วย Cap เพียง 3 หมื่นคันต่อปีโรงงาน BEV เกาหลีนั้นจะขายในสิงคโปร์หรือส่งออกเป็นหลัก รัฐบาลสิงคโปร์ทุ่มทุนให้ขนาดนั้นเพื่อให้รถเกาหลีผลิต BEV ขายที่ใดเป็นหลักขอให้ไปคิดกันเอาเอง

- ในยุคที่ยังแทบจะไม่มีรถยี่ห้อหลักของโลกมาผลิต BEV ใน ASEAN แต่จู่ๆรถเกาหลีจะเริ่มผลิต BEV พร้อมๆกันจากโรงงานใหม่ใน 2 ประเทศ มันไม่ดูเป็นนโยบายที่ประหลาดเหรอครับ แทนที่จะรวมศูนย์กรผลิตไว้ที่เดียวเพื่อสร้าง Volume ของสายการผลิต กลับกระจายการผลิตออกไปให้แย่งงานกันเองซะงั้นทั้งๆที่โรงงานใหม่ในอีกประเทศนึงนั้นไม่มีโรงงานผลิตรถยนต์ยี่ห้ออื่นด้วยซ้ำไปแถมยอดขายต่อปีก็น้อยนิด
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 08, 2021, 14:38:45 โดย Sazabi »

MacH1

  • บุคคลทั่วไป
Re: คิดว่า ปี 2574 บนถนนประเทศไทย จะเป็นอย่างไร
« ตอบกลับ #23 เมื่อ: ตุลาคม 08, 2021, 15:19:32 »
เห็นมีคนพูดถึงรถ BEV เกาหลีจาก ASEAN

- โรงงานรถเกาหลีในอินโดนีเซียยังไม่มีแผนจะผลิต BEV เพราะถ้ามีแผนจะผลิต BEV ที่อินโดก็ไม่จำเป็นที่รถเกาหลีจะต้องเสียเงินเสียทองไปสร้างโรงงาน BEV ขนาดจิ๋วที่สิงคโปร์อีก เนื่องจาก Cap 2.5 แสนคันต่อปีของโรงงานในอินโดนั้นเพียงพอต่อการส่งออกภายใน ASEAN สบายๆ รัฐบาลสิงคโปร์เองก้ไม่ต้องหน้ามืดให้สิทธิพิเศษกับรถเกาหลีมากมายขนาดนั้นเพื่อดึงให้มาตั้งโรงงานผลิต BEV ในประเทศที่ไม่มีอะไรเหมาะสมกับการสร้างโรงงานผลิตรถยนต์เลยอย่างสิงคโปร์ แค่นั่งรอเฉยๆให้ผลิตในอินโดแล้วนำเข้ามาขายในสิงคโปร์สบายๆไม่ดีกว่าเหรอ

- โรงงาน BEV เกาหลีที่สิงคโปร์นั้นไม่ได้ตั้งขึ้นมาเพราะความเหมาะสมทางภูมิศาสตร์ ต้นทุน หรือ Supply Chain อะไรเลย โรงงาน BEV เกาหลีที่นั่นสนับสนุนโดยรัฐบาลสิงคโปร์แบบสุดลิ่มทิ่มประตู โดยให้สิทธิพิเศษหลายอย่างมากๆเพื่อให้รถเกาหลีมาตั้งโรงงาน BEV ในสิงคโปร์ที่ไม่มีอะไรเหมาะสมต่อการตั้งโรงงานผลิตรถเลยแม้แต่นิดเดียว ทั้งหมดเพื่อต้องการเปลี่ยนให้สิงคโปร์มีรถยนต์ไฟฟ้าใช้โดยเร็วที่สุด เพราะฉะนั้นด้วย Cap เพียง 3 หมื่นคันต่อปีโรงงาน BEV เกาหลีนั้นจะขายในสิงคโปร์หรือส่งออกเป็นหลัก รัฐบาลสิงคโปร์ทุ่มทุนให้ขนาดนั้นเพื่อให้รถเกาหลีผลิต BEV ขายที่ใดเป็นหลักขอให้ไปคิดกันเอาเอง

- ในยุคที่ยังแทบจะไม่มีรถยี่ห้อหลักของโลกมาผลิต BEV ใน ASEAN แต่จู่ๆรถเกาหลีจะเริ่มผลิต BEV พร้อมๆกันจากโรงงานใหม่ใน 2 ประเทศ มันไม่ดูเป็นนโยบายที่ประหลาดเหรอครับ แทนที่จะรวมศูนย์กรผลิตไว้ที่เดียวเพื่อสร้าง Volume ของสายการผลิต กลับกระจายการผลิตออกไปให้แย่งงานกันเองซะงั้นทั้งๆที่โรงงานใหม่ในอีกประเทศนึงนั้นไม่มีโรงงานผลิตรถยนต์ยี่ห้ออื่นด้วยซ้ำไปแถมยอดขายต่อปีก็น้อยนิด

มีข่าวแล้วว่า Ioniq 5 และ Ioniq 6 ส่งมาไทย ส่วนจะโรงงานที่ไหนในอาเซียนที่ไม่ใช่ไทย ก็เหมือนๆกันหมด เพราะจะได้มาแข่งราคาสมน้ำสมเนื้อกับรถ BEV mass ที่นำเข้าจากจีนสักหน่อย ด้านเทคโนโลยีไม่ต้องพูดถึงเพราะนำหน้าแบรนด์จีนในหลายๆด้านอยู่แล้ว ว่าไปแล้วไทยแลนด์มีสกิลอะไรบ้างคับ แค่เล่นแร่แปรธาตุทำ batt cell เองยังทำไม่เป็นเลย ริอาจจะอ้างตัวเป็นฮับๆ ไอ้โรงงานแบต pilot อะไรที่ออกข่าว รายละเอียดหนักๆไม่เห็นมีออกมา วันๆได้แค่รับจ้างร้อยน๊อตประกอบทุกชาติไปนั่นละ

ไอ้โรงงานที่สิงค์โปร์ก็เค้าส่งออกเป็นหลักไงคับ ส่งแถวไหน ก็ไม่ต้องเดา ขายในประเทศ 5000-6000 คัน ที่เหลือ 24,000-25,000 คันส่งออก  Hyundai Motor Group Singapore Global Innovation Center (HMGICS) นอกจากผลิตก็ยังเป็น R&D center สำหรับ EV

สิงก้าเค้ามีที่เราไม่มีคือ incentive ให้กระจายมากกก (ไม่เรื่องมาก ไม่สำคัญตัวเองผิดเป็นฮับๆเหมือนแถวนี้) และ human capital ที่เหนือกว่า ไม่แปลกที่ธุรกิจ high value added ใช้เทคโนสูงๆอื่นๆอย่าง MRO, Aerospace ก็ไปลงที่นั่นกันหมด อย่างเช่น โรงงานเครื่องเจ็ตของ RR, ศูนย์ซ่อมใหญ่ของ Airbus และ Bombardier, GE Aviation, P&W รวมไปถึง ground handling ของ Dnata

มุมมองผู้บริโภค ถ้าต้องนำเข้าจากเมืองนอกเป็นหลักก็เฉยๆ โอเคดี

คนไทยโชคดีที่มีภาษี FTA 0% 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 08, 2021, 15:55:13 โดย Nathal Goldstein »

ออฟไลน์ e:smart Hybrid

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,705
Re: คิดว่า ปี 2574 บนถนนประเทศไทย จะเป็นอย่างไร
« ตอบกลับ #24 เมื่อ: ตุลาคม 08, 2021, 15:20:57 »
ปี 69 ภาษีรถในเมืองไทยจะเปลี่ยนผ่าน รถหลายๆ รุ่นจะต้องมีมอเตอร์ห้อยท้าย เพื่อให้ได้สิทธิทางภาษี HEV ขึ้นไปครับ

ดังนั้นปี 74 เราคงได้เห็นรถ HEV PHEV BEV วิ่งในเมืองไทยมากกว่าเดิมแน่นอนครับ

อีกอย่าง ผมคิดว่า จากแนวโน้มประชากรที่จะลดลงไปเรื่อยๆ นับจากนี้ ผมเดาว่า อีก 10 ปีข้างหน้าคงเหลือราว 50 ล้าน

ผมว่าตลาดรถบ้านเราคงตัวเลขทรงๆ หรือลดลงบ้างแน่ๆ ครับ

และคิดว่าบางค่าย (ญี่ปุ่น จีน และเมกา) ที่ไม่แข็งแรงก็อาจจะต้องออกไปบ้าง หรือไม่ก็ควบรวมกันครับ

ออฟไลน์ Sazabi

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 330
Re: คิดว่า ปี 2574 บนถนนประเทศไทย จะเป็นอย่างไร
« ตอบกลับ #25 เมื่อ: ตุลาคม 08, 2021, 16:22:09 »
เห็นมีคนพูดถึงรถ BEV เกาหลีจาก ASEAN

- โรงงานรถเกาหลีในอินโดนีเซียยังไม่มีแผนจะผลิต BEV เพราะถ้ามีแผนจะผลิต BEV ที่อินโดก็ไม่จำเป็นที่รถเกาหลีจะต้องเสียเงินเสียทองไปสร้างโรงงาน BEV ขนาดจิ๋วที่สิงคโปร์อีก เนื่องจาก Cap 2.5 แสนคันต่อปีของโรงงานในอินโดนั้นเพียงพอต่อการส่งออกภายใน ASEAN สบายๆ รัฐบาลสิงคโปร์เองก้ไม่ต้องหน้ามืดให้สิทธิพิเศษกับรถเกาหลีมากมายขนาดนั้นเพื่อดึงให้มาตั้งโรงงานผลิต BEV ในประเทศที่ไม่มีอะไรเหมาะสมกับการสร้างโรงงานผลิตรถยนต์เลยอย่างสิงคโปร์ แค่นั่งรอเฉยๆให้ผลิตในอินโดแล้วนำเข้ามาขายในสิงคโปร์สบายๆไม่ดีกว่าเหรอ

- โรงงาน BEV เกาหลีที่สิงคโปร์นั้นไม่ได้ตั้งขึ้นมาเพราะความเหมาะสมทางภูมิศาสตร์ ต้นทุน หรือ Supply Chain อะไรเลย โรงงาน BEV เกาหลีที่นั่นสนับสนุนโดยรัฐบาลสิงคโปร์แบบสุดลิ่มทิ่มประตู โดยให้สิทธิพิเศษหลายอย่างมากๆเพื่อให้รถเกาหลีมาตั้งโรงงาน BEV ในสิงคโปร์ที่ไม่มีอะไรเหมาะสมต่อการตั้งโรงงานผลิตรถเลยแม้แต่นิดเดียว ทั้งหมดเพื่อต้องการเปลี่ยนให้สิงคโปร์มีรถยนต์ไฟฟ้าใช้โดยเร็วที่สุด เพราะฉะนั้นด้วย Cap เพียง 3 หมื่นคันต่อปีโรงงาน BEV เกาหลีนั้นจะขายในสิงคโปร์หรือส่งออกเป็นหลัก รัฐบาลสิงคโปร์ทุ่มทุนให้ขนาดนั้นเพื่อให้รถเกาหลีผลิต BEV ขายที่ใดเป็นหลักขอให้ไปคิดกันเอาเอง

- ในยุคที่ยังแทบจะไม่มีรถยี่ห้อหลักของโลกมาผลิต BEV ใน ASEAN แต่จู่ๆรถเกาหลีจะเริ่มผลิต BEV พร้อมๆกันจากโรงงานใหม่ใน 2 ประเทศ มันไม่ดูเป็นนโยบายที่ประหลาดเหรอครับ แทนที่จะรวมศูนย์กรผลิตไว้ที่เดียวเพื่อสร้าง Volume ของสายการผลิต กลับกระจายการผลิตออกไปให้แย่งงานกันเองซะงั้นทั้งๆที่โรงงานใหม่ในอีกประเทศนึงนั้นไม่มีโรงงานผลิตรถยนต์ยี่ห้ออื่นด้วยซ้ำไปแถมยอดขายต่อปีก็น้อยนิด

มีข่าวแล้วว่า Ioniq 5 และ Ioniq 6 ส่งมาไทย ส่วนจะโรงงานที่ไหนในอาเซียนที่ไม่ใช่ไทย ก็เหมือนๆกันหมด เพราะจะได้มาแข่งราคาสมน้ำสมเนื้อกับรถ BEV mass ที่นำเข้าจากจีนสักหน่อย ด้านเทคโนโลยีไม่ต้องพูดถึงเพราะนำหน้าแบรนด์จีนในหลายๆด้านอยู่แล้ว ว่าไปแล้วไทยแลนด์มีสกิลอะไรบ้างคับ แค่เล่นแร่แปรธาตุทำ batt cell เองยังทำไม่เป็นเลย ริอาจจะอ้างตัวเป็นฮับๆ ไอ้โรงงานแบต pilot อะไรที่ออกข่าว รายละเอียดหนักๆไม่เห็นมีออกมา วันๆได้แค่รับจ้างร้อยน๊อตประกอบทุกชาติไปนั่นละ

ไอ้โรงงานที่สิงค์โปร์ก็เค้าส่งออกเป็นหลักไงคับ ส่งแถวไหน ก็ไม่ต้องเดา ขายในประเทศ 5000-6000 คัน ที่เหลือ 24,000-25,000 คันส่งออก  Hyundai Motor Group Singapore Global Innovation Center (HMGICS) นอกจากผลิตก็ยังเป็น R&D center สำหรับ EV

สิงก้าเค้ามีที่เราไม่มีคือ incentive ให้กระจายมากกก (ไม่เรื่องมาก ไม่สำคัญตัวเองผิดเป็นฮับๆเหมือนแถวนี้) และ human capital ที่เหนือกว่า ไม่แปลกที่ธุรกิจ high value added ใช้เทคโนสูงๆอื่นๆอย่าง MRO, Aerospace ก็ไปลงที่นั่นกันหมด อย่างเช่น โรงงานเครื่องเจ็ตของ RR, ศูนย์ซ่อมใหญ่ของ Airbus และ Bombardier, GE Aviation, P&W รวมไปถึง ground handling ของ Dnata

มุมมองผู้บริโภค ถ้าต้องนำเข้าจากเมืองนอกเป็นหลักก็เฉยๆ โอเคดี

คนไทยโชคดีที่มีภาษี FTA 0%

ส่งออกน่ะมันมีแน่แต่ 2.5 หมื่นคันแน่ใจเหรอว่าถึง? รัฐบาลสิงคโปร์ลงทุนไปเยอะเพื่อให้รถเกาหลีมาผลิตส่งออกหาเงินกลับบ้าน เหรอ?

เดี๋ยวก็รู้ว่ากว่าจะ Ramp up จนถึง 3 หมื่นคันต่อปีน่ะใช้เวลากี่ปี และช่วงหลายปีแรกน่ะรถมันขายที่ไหนเป็นหลัก อีกไม่นานหรอก

ออฟไลน์ ohm1996

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 121
    • อีเมล์
Re: คิดว่า ปี 2574 บนถนนประเทศไทย จะเป็นอย่างไร
« ตอบกลับ #26 เมื่อ: ตุลาคม 08, 2021, 17:18:42 »
ในมุมมองของผม คิดว่า ถนนประเทศไทยในปี 2574 หรือ 2031 อาจจะไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรมาก แต่มีการขยายถนนเพื่อขยายความเจริญเติบโตขึ้น
รถเก๋งไฮบริด และรถเก๋งไฟฟ้า เริ่มหาซื้อกันง่ายขึ้น แพร่หลายขึ้น แต่ในขณะเดียวกัน รถน้ำมัน ก็ยังไม่หายไป (เพราะคนอาจจะคิดถึงรถน้ำมัน ต่อให้เปลี่ยนไปใช้ Euro VI หรือ Euro VII ก็ไม่ทำให้รถน้ำมันหายไปจากโลก)
รถตู้, รถกระบะ และรถ 4x4 ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล ก็ต้องมีรุ่นไฮบริด หรือมีรุ่นไฟฟ้าควบคู่ไปด้วย เพื่อลดค่าไอเสีย

ส่วนขนส่งสาธารณะ ผมว่า ก็ต้องปรับตัวเช่นกัน อย่างรถไฟรางคู่ เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ, รถไฟรางเดียว สายสีขมพู (แคราย-มีนบุรี) และ รถไฟฟ้า สายสีแดง (ดอนเมือง) เป็นต้น
รถบัสไฟฟ้า (ไทยสมายล์บัสนำร่องแล้ว นั่งได้ 10 เส้นทาง) เริ่มแพร่หลาย จากเอกชนที่ปรับตัวได้เร็ว
ส่วนบริษัทขนส่งมวลชน (บขส) และการรถไฟ (รฟท) ประสบปัญหาปรับตัวช้า อย่างรถบัสครีมแดง ที่ใช้ตั้งแต่ 1991 แล้วยังไม่ปลดระวาง (ผมว่ามันไม่คุ้มทุนที่จะปลดระวางทั้งหมด ส่วนหนึ่งมาจากความเก่าของตัวรถ) แม้มีประกาศขายรถบัสสำรอง 3 คัน (มีรถครีมแดง ปรับอากาศ) เริ่มต้นที่ 270,000 บาท แต่หาคนซื้อไม่ได้ เพราะราคาแพงเกินไป (ผมว่าน่าจะเริ่มขายที่ 54,000 บาท ถึงจะมีคนซื้อ เพราะอายุมันก็ 30 ปีแล้ว) และการรถไฟ ก็ขาดทุนถึง 177,486 ล้านบาท (ผลประกอบการ 2019)

อ้างอิง: https://www.matichon.co.th/social/news_2738506
https://www.dailynews.co.th/news/294128/
https://mgronline.com/daily/detail/9630000122258

ออฟไลน์ Fly to dream

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,640
Re: คิดว่า ปี 2574 บนถนนประเทศไทย จะเป็นอย่างไร
« ตอบกลับ #27 เมื่อ: ตุลาคม 08, 2021, 17:55:23 »
ต่อไปคงหาน้ำมันล้วนยากหน่อยแหละ อย่างต่ำคง Hybrid ไปเลยยันกระบะ รถขนส่ง
ขยะของโลกออนไลน์​ในปัจจุบั​นคือเชื่อคนโง่ที่มีคำพูดสวยหรู​ หาข้อมูล​ไม่จริงมาโกหกคำโตๆ​ อีกอย่างคือพูดความจริงไม่หมด กับพวก​ Avatar ที่ทำเป็น​เก่ง​แต่เก่งน้อยในโลกความจริง​ซึ่งจะหาได้ง่าย

ออฟไลน์ InBkk

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,115
Re: คิดว่า ปี 2574 บนถนนประเทศไทย จะเป็นอย่างไร
« ตอบกลับ #28 เมื่อ: ตุลาคม 08, 2021, 19:17:29 »
มีจำนวนรถ BEV พอๆ กับรถ Hybrid ในวันนี้

Forty Five

  • บุคคลทั่วไป
Re: คิดว่า ปี 2574 บนถนนประเทศไทย จะเป็นอย่างไร
« ตอบกลับ #29 เมื่อ: ตุลาคม 08, 2021, 19:27:44 »
10 ปีข้างหน้า (ปี 2574)

-รถยนต์ไฟฟ้า BEV เพิ่มขึ้น 30%
-รถยนต์ไฮบริดเสียบปลั๊ก PHEV เพิ่มขึ้น 40%
-รถยนต์ไฮบริด HEV เพิ่มขึ้น 50%
-รถยนต์น้ำมัน ICE ลดลง 40%
-สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า เพิ่มขึ้น 30%
-อู่ซ่อมหรือเปลี่ยนแบตเตอรี่และมอเตอร์ไฟฟ้า เพิ่มขึ้น 40%
-รถโดยสารไฟฟ้า EV Bus เพิ่มขึ้น 50%
-มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า EV Bike เพิ่มขึ้น 40%
-รถสามล้อไฟฟ้า EV TukTuk เพิ่มขึ้น 30%

สรุปคือ 10 ปีข้างหน้า รถยนต์น้ำมันยังจำหน่ายอยู่แต่ยอดการผลิตรถยนต์น้ำมัน ICE จะลดลงถึง 40%