ผู้เขียน หัวข้อ: กระแส ORA Good Cat มาแรงแบบนี้ ถ้าค่ายแบรนด์รถญี่ปุ่นไม่ปรับตัวจะเป็นแบบไหน  (อ่าน 7535 ครั้ง)

Gunther

  • บุคคลทั่วไป
กระแส ORA Good Cat มาแรงมากในตอนนี้ ตั้งแต่เปิดจอง Good Cat กันอย่างถล่มทลาย (น่าจะยิ่งกว่า Haval H6) เพราะ GWM ได้เปิด Spec มาแล้วทั้ง 3 รุ่น (400km 2 รุ่น/500km 1 รุ่น) ก็คือ 400Tech/400Pro/500Ultra (แต่ว่าต้องรอลุ้นราคาในปลายเดือนตุลาคมนี้)

ถ้าค่ายแบรนด์รถญี่ปุ่นไม่ปรับตัวมาเป็นรถยนต์ EV 100% จะกลายเป็น Nokia หรือไม่……..

ปล. ทุกท่าน มีใครจอง ORA Good Cat กันบ้างหรือยังครับ มีสมาชิกคนไหนจอง ORA Good Cat รุ่นไหนบ้างครับ

“รักนะแมวดี”

ออฟไลน์ porasit33

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,189
ขอนิยามคันนี้ว่า “ของเล่นคนรวย”
พอมาคิดดูแล้ว มันเป็นสินค้าแฟชั่น
ที่บ่งบอกฐานะได้ชิ้นนึงเลย

ดีไซน์ ดี
ความคุ้มค่า ดี
ใช้งานได้จริง ระดับ 400-500 km
วัสดุ ดี
ออพชั่น ดีมาก
ศูนย์บริการ ยังไม่ล้มเหลวอะไร

ขอให้ขายดีๆ จะได้มีจุดชาร์ทไฟเยอะๆ
อนาคตคตรถไฟฟ้าจะได้สดใส
อากาศในเมืองจะได้ปลอดโปร่งขึ้น(บ้างก็ยังดี)

ใครที่ซื้อรถไฮบริด รถไฟฟ้า อาจจะไม่คุ้มเงินมาก
แต่ช่วยเรื่องมลพิษในเมืองได้บ้าง ไม่ดราม่าเรื่อง
มลพิษจากแบตเตอรี่นะครับ ทุกอย่างบนโลกนี้
มี cycle ของมัน จะน้ำมัน จะไฟฟ้า มีได้มีเสียต่างวาระกันไป



ออฟไลน์ seeker

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,521
รถยนต์นะครับ ไม่ใช่มือถือ

สินค้าโดนตลาด ทำโปรแรงๆ ให้กระแสดี แล้วจะซื้อ
บริการหลังการขายครับที่สำคัญ ยืนระยะให้ได้ 5 ปีก่อนไหมครับ

PKS8

  • บุคคลทั่วไป
ผมว่า ORA ยังไม่ได้มีผลกระทบอะไรกับตลาดใหญ่ใน 5 ปีนี้เลยนะครับ ตามที่ท่านนึงในบอร์ดนี้เคยพูดไว้ EV ยังไม่ตอบโจทย์ตลาดหลัก ณ เวลานี้ ข้อจำกัดยังเยอะมาก คนอยู่คอนโด คนที่มีรถได้แค่คันเดียว คนที่มีครอบครัว เหมาะกับรถคันที่สอง คันที่สามในบ้านมากกว่า

ผมยังมองว่ายอดขาย H6 น่าจะเยอะกว่า และน่าลุ้นมากกว่า ถ้าดูจาก ZsEV MGEP จะเห็นได้ว่ายังต้องรออีกซักพักใหญ่ๆเลย แต่ ณ จุดนี้ถือว่าน่าสนใจมากๆ เดินการตลาดดีแล้วครับ

ออฟไลน์ PC CK

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,001
สภาพปัจจุบันประเทศไทย plug in hybridยังคล่องตัวกว่าเยอะครับ ขับในเมืองไม่ต้องใช้น้ำมัน ขับทางไกลเติมน้ำมันแปปเดียวออกเดินทางต่อได้ไม่ต้องรอชาร์จไฟครึ่งชั่วโมง ถ้าประเทศเราพัฒนา มีสถานีชาร์จมากกว่านี้ยอดน่าจะดีขึ้นคนคงหันมาเล่นด้านนี้มากขึ้นค่ายรถยนต์ก็ปรับตัวกันเองครับครับ
ส่วนจะเป็นnokiaมั้ย เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ครับ ตลาดใหญ่ของเค้าเองยอดขายรถไฟฟ้ายังถือเป็นส่วนน้อยเค้าก็คงยังไม่รีบปรับกลยุทธ์อะไรหรอกครับ

ศูนย์GWMตอนนี้ก็น้อยจนระเหี่ยใจ คนอยู่ห่างศูนย์แบบผมคงยังไม่หันไปเล่นง่ายๆหรอกครับ แต่ถ้าจังหวัดข้างเคียงมีศูนย์ก็น่าสนครับ

ยิ่งเปิดจองแบบไม่เปิดราคาแบบนี้ ความสนใจยิ่งลดลงครับ รอเปิดตัวค่อยคิดอีกทียังทัน ถึงจะไม่ได้สิทธิประโยชน์220000ก็ตามครับ

ใครจองแล้วก็ยินดีด้วยครับ

Good cat น่ารักดีครับ
แต่เมียผมชอบballet catครับ จบข่าว

ออฟไลน์ kiwiwi

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,839
ผมไม่ซื้อรถเงินสด
ผมอยู่ใยวัฏจักร​ ดาวน์ ผ่อน ดาวน์ ผ่อน

ใช้ทีก็ 6-10 ปีแล้วแต่คัน

ผมไม่ได้ตื่นเต้นขนาดนั้น

มันไม่ใช่นวัตกรรมมือถือเครื่องละหลักหมื่น

ที่สำคัญนะ ถ้าเทียบรถญี่ปุ่นเหมือนโนเกีย...
คือ ระบบ hybrid ของญี่ปุ่นมันซับซ้อนกว่าไฟฟ้า 100% หลายเท่า

เค้าจะเปลี่ยนเป็นไฟฟ้าเมื่อไหร่ก็ได้มั๊งครับ
อย่าง kick ถอดเครื่องออก ใส่แบตได้ทันที

มันน่าตื่นเต้นตรงไหนเหรอครับ???

ออฟไลน์ Zephyrs

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 913
ลองเอาไปเทียบขนาดดูแล้วเหมือนว่าจะอยู่แถวๆ B-C Seg (ยาวประมาณพวกยาริส แต่กว้างประมาณพวก MG6) ราคาเท่านี้ก็ถือว่าก้ำกึ่งดี

ถ้าราคาออกมา 800k-1m ตามที่คาดการณ์กันจริงๆก็ถือว่าโอเค เหมือนเป็นช้อยส์ตัวนึงให้เลือกระหว่างรถ B-Seg ปกติ (City/Almera และอีกหลายๆรุ่น) ตัวท็อป
กับรถไฟฟ้าระดับล่างสุด (ส่วนรุ่นท็อปของแมว ถ้าผมจะจ่ายล้านนึงสำหรับ BC Seg ผมว่า Altis แม้แต่ตัวท็อป Hybrid ยังน่าเล่นกว่า)

ก็ตามที่ท่านบนบอก คือมันเป็นของเล่นคนรวยมากกว่า มันไม่เหมือนกับตัว Haval ที่อันนั้นทำราคามาชนกับเจ้าตลาดหน้าเดิมๆแล้วเขย่าได้จริงๆด้วยตัวรถ
สำหรับ B Segment นี่จริงๆทั้ง M2, Almera, City มันเซ็ตมาตราฐานไว้ระดับนึงแล้ว ถ้าแมวน้อยตัวนี้จะมาเขย่าได้ ก็ต้องมีของดีทั้งราคา (จริงๆทำสัก 750k ออปชั่นพอรับได้ก็แย่งได้เยอะนะ)
และตัวรถเองด้วย (ถ้าไอหนังที่เห็นๆนั่นเป็นของจริงก็สู้ได้) ไม่งั้นมันก็จะเจอปัญหาเดิมๆเรื่อง Infrastructure ที่แม้แต่ในเมกาก็ยังมีปัญหาถ้าไม่ใช่เมืองใหญ่ + ไม่ใช่ Tesla

ออฟไลน์ MyName

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 8,141
  • I'm............................
ในฐานะที่มีภูมิลำเนาห่างจากแหล่งทำมาหากิน 514 km จับจาก Maps

มันยังไม่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตขนาดนั้นครับ

ไหนจะเรื่องระยะเวลาในการชาร์จ จำนวนจุดชาร์จ ฯลฯ

มองเยอะๆ ครับ อย่ามองตามกระแส

กระแสที่จองกันไปก็จองกันโดยพื้นฐานล็อกโปร แต่ที่จะตัดสินใจก็นู้นเลยครับราคา
Cars
2022 - Nissan Almera 1.0 Turbo VL
2016 - Mazda 2 1.5XD High Plus L
2008 - Mitsubishi Space Wagon 2.4 GLS Ltd. !User'Review Click here!
1997 - Daihatsu Mira

Motorcycles
2023 - Vespa Sprint S 150 i
2012 - Yamaha Mio 125 GTX

ออฟไลน์ a601970

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 802
  • ประชาธิปไตย หัวใจคือประชาชน
ถ้าไม่ปรับตัวต้องเป็นแบบโนเกีย,โกดักแน่นอน
และจะต้องเป็นอย่างนั้นแน่ๆ
ประเทศจีนทรัพยากรมากกว่าญี่ปุ่นมหาศาลในทุกๆด้านอยู่แล้ว
รถญี่ปุ่นควรทำใจรับสภาพ หันไปทำธุรกิจอื่นดีกว่า

ออฟไลน์ เนื้อน่องไม่หนัง

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,692
การมาของรถไฟฟ้าจากจีน น่าจะเป็นตัวเร่งให้ฝั่งญี่ปุ่นทำออกมาเร็วขึ้นครับ
มันไม่ได้ถึงกับว่าจะล่มสลายกันเลย
ตราบใดที่สถานีชาร์จยังน้อย ชาร์จช้า ต้องเสียบชาร์จทุกคืน คอนโดหลายที่ก็ไม่ได้มีที่ชาร์จรองรับ รถไฟฟ้าล้วนก็เป็นรถคันที่สองในบ้านมากกว่า

ออฟไลน์ Sazabi

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 330
ก่อนจะไปห่วงค่ายญี่ปุ่นนะครับ เอาให้ ORA มันมาผลิตในไทยให้ได้ก่อนดีกว่ามั้ย

เพราะตราบใดที่มันยังนำเข้าจากจีนอยู่ ก็หมายความว่า Volume มันยังไม่เพียงพอที่จะมาลงทุนผลิตในประเทศไทย

เมื่อ Volume ยังไม่เพียงพอมันก็ไม่ได้มีผลอะไรให้ค่ายญี่ปุ่นต้องปรับตัวเลย

นี่คือความจริงของอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ไม่เหมือนกับมือถือหรือกล้องถ่ายภาพ สำหรับรถยนต์ในประเทศไทยถ้าคุณยังได้แต่นำเข้าไม่สามารถมี Volume มากพอจนผลิตในประเทศได้ก็หมายความว่าคุณเป็นเพียงไก่รองบ่อนเท่านั้น
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 14, 2021, 21:05:20 โดย Sazabi »

ออฟไลน์ Smith686

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,935
    • อีเมล์
กระแส ORA Good Cat มาแรงมากในตอนนี้ ตั้งแต่เปิดจอง Good Cat กันอย่างถล่มทลาย (น่าจะยิ่งกว่า Haval H6) เพราะ GWM ได้เปิด Spec มาแล้วทั้ง 3 รุ่น (400km 2 รุ่น/500km 1 รุ่น) ก็คือ 400Tech/400Pro/500Ultra (แต่ว่าต้องรอลุ้นราคาในปลายเดือนตุลาคมนี้)

ถ้าค่ายแบรนด์รถญี่ปุ่นไม่ปรับตัวมาเป็นรถยนต์ EV 100% จะกลายเป็น Nokia หรือไม่……..

ปล. ทุกท่าน มีใครจอง ORA Good Cat กันบ้างหรือยังครับ มีสมาชิกคนไหนจอง ORA Good Cat รุ่นไหนบ้างครับ

“รักนะแมวดี”
           มียอดจองกี่คันครับ

ออฟไลน์ Underseven

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 231
ถล่มทลายนี่อ้างอิงจากไหนหรือครับ
รอดูยอดออกรถจริงก่อนไหม? สักปี สองปี ก็ค่อยสรุปกันอีกที?

ออฟไลน์ OHMMY

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 494
    • อีเมล์
ผมว่าคนที่ได้ประโยชน์จริงๆน่จะเป็นแบรนด์ญี่ปุ่นใหญ่ๆมากกว่า
ไม่ต้องรีบร้อนทำตลาดตอนที่อะไรต่างๆยังไม่พร้อม ยังไงรถจีนก็ไม่ใช่ของเล่นคนรวยอยู่ดี
ค่อยลงมาเล่นในตลาดตอนที่แบรนด์จีน ช่วยสร้างให้เกิดความพร้อมและความต้องการที่แท้จริงในระดับแมวก่อน
มาตอนนั้นในตลาดก็ยังไม่สายครับ ด้วยชื่อชเสียงและความน่าเชื่อถือในแบรนด์ที่มีมาก่อน

ออฟไลน์ InBkk

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,112
ส่วนตัวผมเอาใจช่วยให้เจ้า Goodcat ขายดีๆ นะ เผื่อว่าปัญหา PM 2.5 ในประเทศไทยจะดีขึ้นมาบ้าง แต่ส่วนตัวผมยังอยากได้รถที่มี Story ที่น่าสนใจ เช่น Tesla หรือรถน้ำมัน มากกว่า

ออฟไลน์ TORA

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 306
จองไม่เสียตัง เป็นใครก็จองเล่นๆไว้ก่อนครับ เหมือนตอน Haval H6 อะ ยอดจอง 6 พันกว่าคัน
ซื้อจริงๆ ถึง 2พันคันหรือเปล่า ผมก็เล็งๆไว้นะตอนแรก แต่ที่ทำงานผมยังไม่ยอมติดที่ชาร์จให้พนักงานสักที
บวกกับถ้าหมดโควิด หลักๆคงกลับไปอยู่คอนโด ไม่มีที่ชาร์จ เหมือนตอนอยู่บ้านอีก ลำบากหาที่ชาร์จอีก
เสียเวลาพอสมควร และจากที่ดูรีวิวของจีน support DC สูงสุดที่ไม่เกิน 60Kw เอง ชาร์จเต็มมีเกินชั่วโมงแน่ๆ
รถEV รออีก 5ปีก็ยังไม่สาย ถึงตอนนั้น เร็วกว่าดีกว่า ระยะมากกว่า จุดชาร์จมากกว่า ที่ชาร์จตามบ้านราคาเหลือไม่ถึงหมื่นแน่นอน

แต่ถ้าใครซื้อเป็นรถคันที่2-3 อยู่บ้านเดียว ติดโซล่ารูฟแล้ว แนะนำให้จัดเลย ถูกกว่าติดแก๊ส ดูแลง่ายกว่ารถมีเครื่องยนต์มากมาย
ค่าไฟก็ถูกกว่าเติมน้ำมันตอนนี้แน่ๆ จุดชาร์จข้างนอกไม่เกิน7-8 บาท/หน่วย ชาร์จที่บ้านแบบ TOU 2-3บาท/หน่วยเอง
และระบบช่วยเหลือต่างๆดูจาก H6 ได้เลย เหนือกว่ารถในระดับราคาเดียวกันไปไกลมาก

ออฟไลน์ Mr.Boogie

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 392
ผมมองว่าแรกๆอาจจะยังไม่บูมมากด้วยปัจจัยอย่างที่คอมเม้นบนๆว่าไว้ แต่อย่าลืมราคาน้ำมันจะเป็นตัวผลักดันให้รถไฟฟ้าเกิดได้เร็วขึ้นอย่างมีนัยยะ ยิ่งราคารถลงมาเท่าไหร่ คนที่พอมีกำลังจะสนใจมากขึ้นเท่านั้น ผมว่าญี่ปุ่นไม่ปรับตัวก็อาจเสีย Market Share ไปเยอะ จะมาทำรถไฟฟ้าในอนาคตก็อาจจะตามไม่ทันแล้ว เรื่องแบบนี้ก็เห็นได้เรื่อยๆในโลกธุรกิจ ขนาดเครื่องใช้ไฟฟ้าเมื่อก่อนญี่ปุ่นทั้งนั้น เดียวนี้บ้านผมมีแต่ของจีนเกาหลี ญี่ปุ่นแทบสูญพันธ์ แต่เราไม่รู้ตัว แล้วประเด็นคือของจีน ของเกาหลีไม่ได้แย่กว่าซะด้วยในโลกที่ทุกอย่างหมุนเร็วขึ้น คนไม่ได้อยากใช้ของทนทานเป็น10ๆปี เราขอของที่ทันสมัย รูปลักษณ์สวยงาม ราคาคุ้มค่า มีโปรโมชั่นโดนใจ ส่วนตัวผมยังไม่ถึงเวลาเปลี่ยนรถใหม่ แต่ถ้าจะเปลี่ยน Haval จะมาอยู่ในลิสต์ต้นๆที่จะเลือกเหมือนกัน เพราะผมค่อนข้างไว้วางใจคุณภาพของจีนพอสมควร เพราะเคยไปอยู่จีนมาเป็นปี

ออนไลน์ ThisIsYuTh

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 283
ส่วนตัวผมเฉยๆ กับรถไฟฟ้านะ ไม่ได้อยากได้ด้วยเพราะไม่สะดวก และไม่ Practical อย่างแรงในตอนนี้ ถ้าให้เลือกรถใหม่ในอีก 5-7 ปี หน้าก็ยังคงเป็นรถสันดาปอยู่ดี หรืออาจจะมี PHEV มาถ้าจำเป็น และผมคิดว่าคงมีคนแบบผมอีกเยอะ
2020 - Mazda CX-5 2.5T (KF)
2016 - Subaru XV (GP)
2013 - Mitsubishi Pajero Sport (KG)
2010 - Honda Civic (FD)
2006 - BMW 3 Series (E36)

ออฟไลน์ TORA

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 306
ส่วนตัวผมเอาใจช่วยให้เจ้า Goodcat ขายดีๆ นะ เผื่อว่าปัญหา PM 2.5 ในประเทศไทยจะดีขึ้นมาบ้าง แต่ส่วนตัวผมยังอยากได้รถที่มี Story ที่น่าสนใจ เช่น Tesla หรือรถน้ำมัน มากกว่า
เรื่อง PM2.5 บ้านเรานี้ยากครับ กฎหมายทำอะไรพวกรถอ้างหากินไม่ได้เลย
ดูกระบะจากถนนตอนนี้สิครับ รถกระบะครอก กะบะแต่ง เต็มถนน ตัดตัวกรองทุกอย่างทิ้ง
กดทีควันดำเต็มถนน ได้แต่ด่าในใจ ทำอะไรพวกเขาไม่เคยได้ เฮ้อ

ออฟไลน์ Highway Star

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,934
ก็ถือว่าสร้างสีสันต์ให้ตลาดให้เจ้าตลาดต้องปรับตัวบ้างแต่ว่าจะมาแทนกันเลยเป็นไปไม่ได้ คนที่ซื้อรุ่นนี้ส่วนใหญ่ใช้เป็นคันที่3ของบ้านทั้งนั้นเพราะข้อจำกัดของการชาร์จไฟฟ้ายังเยอะ

ออฟไลน์ deertesla

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,245
แค่ศูนย์บริการยังน้อยกว่ารถยุโรปบางยี่ห้อเลยครับ. เรื่องความเสถรฝียรทนทานตัวรถก็ยังไม่แน่ขัดเลย ว่าจะทนไม่จุกจิกขนาดไหน อีกอย่างหลายคนรถ1คันต้องไปทั่วไทย. อยู่หอพักหรือคอนโดก็ไม่มีที่ชาร์จ มันเป็นแค่ของเล่นคนรวยกับพวกสื่อปั่นกระแสแค่นั้นแหละ. ยิ่งอวยว่ารถไฟฟ้าดีกว่าน้ำมันนู่นนี่นั่นทั้งที่แบตมันเป็นขยะพิษ. ราคาไม่เป็นมิตรต่อมนุษเงินเดือนทั่วๆไป

ผมมองว่าแรกๆอาจจะยังไม่บูมมากด้วยปัจจัยอย่างที่คอมเม้นบนๆว่าไว้ แต่อย่าลืมราคาน้ำมันจะเป็นตัวผลักดันให้รถไฟฟ้าเกิดได้เร็วขึ้นอย่างมีนัยยะ ยิ่งราคารถลงมาเท่าไหร่ คนที่พอมีกำลังจะสนใจมากขึ้นเท่านั้น ผมว่าญี่ปุ่นไม่ปรับตัวก็อาจเสีย Market Share ไปเยอะ จะมาทำรถไฟฟ้าในอนาคตก็อาจจะตามไม่ทันแล้ว เรื่องแบบนี้ก็เห็นได้เรื่อยๆในโลกธุรกิจ ขนาดเครื่องใช้ไฟฟ้าเมื่อก่อนญี่ปุ่นทั้งนั้น เดียวนี้บ้านผมมีแต่ของจีนเกาหลี ญี่ปุ่นแทบสูญพันธ์ แต่เราไม่รู้ตัว แล้วประเด็นคือของจีน ของเกาหลีไม่ได้แย่กว่าซะด้วยในโลกที่ทุกอย่างหมุนเร็วขึ้น คนไม่ได้อยากใช้ของทนทานเป็น10ๆปี เราขอของที่ทันสมัย รูปลักษณ์สวยงาม ราคาคุ้มค่า มีโปรโมชั่นโดนใจ ส่วนตัวผมยังไม่ถึงเวลาเปลี่ยนรถใหม่ แต่ถ้าจะเปลี่ยน Haval จะมาอยู่ในลิสต์ต้นๆที่จะเลือกเหมือนกัน เพราะผมค่อนข้างไว้วางใจคุณภาพของจีนพอสมควร เพราะเคยไปอยู่จีนมาเป็นปี
เครื่องใช้ไฟฟ้าจากเกาหลีและจีนไม่ทนทานพังง่ายครับ ขอเป็นของญี่ปุ่นที่แพงออพชั่นน้อยดีกว่า. ยิ่งยี่ห้อจีนขอบาย แอร์ตู้เย็นกินไฟเยอะ ตู้เย็นนี่เคยเจอสภาพใช้ไปไม่นานคอมเพรสเซอร์ช็อตเตรียมระเบิด
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 14, 2021, 21:59:08 โดย deertesla »

ออฟไลน์ TeslaX

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,765
ใครใคร่ซื้อก็ซื้อ ใครใคร่ติก็ติไป

ออฟไลน์ nin122

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 610
    • อีเมล์
ผมเชียร์ให้ยอดขายดีๆ นะ ส่วนบ้านผมก็น่าจะจัด ตัวกลาง มาเป็นรถคันที่ 3 ของบ้าน เน้นใช้ในเมืองเป็นหลัก
แต่ทั้งนี้ อยากให้รัฐบาลสนับสนุนมากกกว่านี้แบบประเทศจีน คนจะได้เข้าถึงได้ง่ายขึ้น :(

ส่วนค่ายรถญี่ปุ่น ถ้าไม่ปรับตัวเลย
ผมว่าจะเงิบซักวันแน่ๆ
แต่เค้าคงไม่ไม่งอมืองอเท้า ตายแน่นอนครับ
ยังไงถ้าเค้าเห็นว่า Brand จีนหรือรถไฟฟ้าเริ่มมีบทบาทในไทย เค้าต้องปรับตัวแน่นอนครับ

ตลาดรถยนต์ไทยในอีก 2-3 ปีข้างหน้า น่าสนใจมากว่าจะเปลี่ยนไปในทิศทางไหน

ส่วนตัวผมอยากอยากสลับไปรถไฟฟ้ามากๆ ถึงจะลำบากหน่อย แต่คิดว่า ไม่มีปัญหา (เป็นคนใช้รถต่อวันไม่เยอะด้วย 20-30 km.)
อย่างน้อยก็เป็นแรงเล็กๆ ที่ช่วยลดมลพิษในประเทศนี้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 14, 2021, 23:39:49 โดย nin122 »

ออฟไลน์ Mr.Boogie

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 392
แค่ศูนย์บริการยังน้อยกว่ารถยุโรปบางยี่ห้อเลยครับ. เรื่องความเสถรฝียรทนทานตัวรถก็ยังไม่แน่ขัดเลย ว่าจะทนไม่จุกจิกขนาดไหน อีกอย่างหลายคนรถ1คันต้องไปทั่วไทย. อยู่หอพักหรือคอนโดก็ไม่มีที่ชาร์จ มันเป็นแค่ของเล่นคนรวยกับพวกสื่อปั่นกระแสแค่นั้นแหละ. ยิ่งอวยว่ารถไฟฟ้าดีกว่าน้ำมันนู่นนี่นั่นทั้งที่แบตมันเป็นขยะพิษ. ราคาไม่เป็นมิตรต่อมนุษเงินเดือนทั่วๆไป

ผมมองว่าแรกๆอาจจะยังไม่บูมมากด้วยปัจจัยอย่างที่คอมเม้นบนๆว่าไว้ แต่อย่าลืมราคาน้ำมันจะเป็นตัวผลักดันให้รถไฟฟ้าเกิดได้เร็วขึ้นอย่างมีนัยยะ ยิ่งราคารถลงมาเท่าไหร่ คนที่พอมีกำลังจะสนใจมากขึ้นเท่านั้น ผมว่าญี่ปุ่นไม่ปรับตัวก็อาจเสีย Market Share ไปเยอะ จะมาทำรถไฟฟ้าในอนาคตก็อาจจะตามไม่ทันแล้ว เรื่องแบบนี้ก็เห็นได้เรื่อยๆในโลกธุรกิจ ขนาดเครื่องใช้ไฟฟ้าเมื่อก่อนญี่ปุ่นทั้งนั้น เดียวนี้บ้านผมมีแต่ของจีนเกาหลี ญี่ปุ่นแทบสูญพันธ์ แต่เราไม่รู้ตัว แล้วประเด็นคือของจีน ของเกาหลีไม่ได้แย่กว่าซะด้วยในโลกที่ทุกอย่างหมุนเร็วขึ้น คนไม่ได้อยากใช้ของทนทานเป็น10ๆปี เราขอของที่ทันสมัย รูปลักษณ์สวยงาม ราคาคุ้มค่า มีโปรโมชั่นโดนใจ ส่วนตัวผมยังไม่ถึงเวลาเปลี่ยนรถใหม่ แต่ถ้าจะเปลี่ยน Haval จะมาอยู่ในลิสต์ต้นๆที่จะเลือกเหมือนกัน เพราะผมค่อนข้างไว้วางใจคุณภาพของจีนพอสมควร เพราะเคยไปอยู่จีนมาเป็นปี
เครื่องใช้ไฟฟ้าจากเกาหลีและจีนไม่ทนทานพังง่ายครับ ขอเป็นของญี่ปุ่นที่แพงออพชั่นน้อยดีกว่า. ยิ่งยี่ห้อจีนขอบาย แอร์ตู้เย็นกินไฟเยอะ ตู้เย็นนี่เคยเจอสภาพใช้ไปไม่นานคอมเพรสเซอร์ช็อตเตรียมระเบิด

ส่วนตัวผมใช้สินค้าจีนมาหลายอย่างทั้ง Huawei Xiaomi Hisense Haier  ก็ประทับใจพอๆกับสินค้าญี่ปุ่น ราคาถูกกว่า 20-30% ความทนทานผมว่าสมัยนี้ไม่ต่างกันมาก เพราะญี่ปุ่นเองก็ลดต้นทุนเยอะโดย อย่างที่เห็นๆกันทั้งสีบาง สนิมขึ้น เพียงแต่จุดแข็งคือบริการหลังการขายที่ดี ซึ่งตรงนี้คงต้องดูกันยาวๆว่าค่ายจีนจะเอาจริงแค่ไหน ถ้าซื้อใจคนไทยได้ผมว่าญี่ปุ่นสะเทือนแน่ๆ อยากได้ลูกค้าคืนต้องอัดออปชั่น ลดราคาลงมาสู้ แต่ที่แน่ๆผู้บริโภคอย่างเราๆได้ประโยชน์เต็มๆ เมื่อก่อนความหวังจะได้ขับรถออปชั้นล้นๆเหมือนเมืองนอกต้องไปรุ่น TOP D Segment เกือบ 2 ล้าน ต่อไปแค่ B Segment 5-6แสน อาจจะได้ Adaptive Cruise Control แล้วก็ได้

ออฟไลน์ yodmanoot

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 333
กรณี Nokia ผู้บริหารยังยึดวิสัยทัศน์เดิมๆ (Symbian) และเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ผิด (Window phone) แถมกว่าจะถูกทางก็ช้าไปแล้ว (Android)

ค่ายแบรนด์รถญี่ปุ่นไม่ปรับตัวมาเป็นรถยนต์ EV 100% จะกลายเป็น Nokia หรือไม่……..?
->เป็นบางค่ายที่ทำตามแบบ Nokia นั้นแหละ
ถ้า ORA Good Cat ขายดีแบบเทน้ำเทท่า เจ้าอื่นก็อยากกินส่วนแบ่งทางการตลาด ไม่ยอมให้เจ้าใดเจ้าหนึ่งผูกขาดตลาด
2013 - 2021 : Toyota Collora EE101 ปี 1993 1,300cc AT
2020 - Present  : Chevrolet Colorado 4wd ปี 2005 3,000 MT
2021 - Present  : Toyota Sienta V mc ปี 2019 1,500 CVT

ออฟไลน์ U9WS

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,180
  • slower is better
ขายดีมากแน่นอน แต่ยังไม่ถึงขั้นเปลี่ยนตลาด
รถ BEV ยังต้องใช้เวลา (อีกไม่นาน)​

ออฟไลน์ 3RP4T

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 164
ผมแบ่งเป็น 3 ประเด็นนะครับ

1. กระทบค่ายญี่ปุ่นไหม ?

ผมว่ากระทบครับ ส่วนตัวผมไม่เคยมองรถ ค่ายจีน และเป็น EV เลย เพราะ เชื่อว่าทั้งสองอย่างยังไม่ถึงเวลา แต่พอดูคลิปของ คุณ นิธิ ท้วมประถม พาไปชมคันจริงใน Motor Show มันน่าสนใจนะครับ รู้สึกระบบภายในที่ไม่เห็นในรถราคาต่ำล้าน แบบ นวดหลังไฟฟ้า แยกโปรไฟล์คนขับ กล้องจับโปรไฟล์[ไม่มาไทย] การออกแบบที่ดูแหวกแนวกว่าปกติ ประกอบกับ การขับขี่ที่ดูใช้ได้จริงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และ ระยะเวลาการชาร์จที่ไม่นานมาก พบว่าตัวรถมันน่าใช้ ไม่คิดว่า EV ที่ดูใช้ได้จริง มันจะมาถึงเร็วในปี 2021 และ แบรนด์จีนทำตลาดได้ไม่แย่ ดูยอดขายในบางเซกเมนท์ที่คนไทยดูยอมรับรถจีนได้ ถ้าโปรดักส์ดี ผมว่าน่าจะมีหลายๆคนที่วางแผนซื้อรถใช้ในเมืองเป็นหลักกลุ่ม B และ C รวมไปถึง B-SUV น่าจะเพิ่ม ORA มาเป็นตัวเลือกได้ไม่ยากครับ และ ถ้าไม่ได้มีปัญหาอะไรหนักใน 6 เดือนแรก รถคันนี้ก็ดูเป็นรถ EV ดีไซน์สวย ราคาต่ำล้านคันเดียว ที่สามารถใช้ได้จริง เพื่อมาแย่งยอดรถญี่ปุ่นได้อย่างไม่ยากเย็นครับ ค่ายญี่ปุ่นจากที่เคยนอนกินใน 3 เซกเมนท์นี้คงมียอดหายบ้างครับ ไม่มากก็น้อย

2. ค่ายญี่ปุ่นไม่มี EV จะตายไหม ?

ยังห่างจากคำว่าตายอีกไกลครับ แต่มีเหนื่อยขึ้นแน่นอน เพราะ เทคโนโลยี และ โครงสร้างพื้นฐานของประเทศไทยยังไม่รองรับ การใช้งาน EV ในระยะเวลา 5 ปีนี้ สมมติผมาต้องการขับคันนี้ไปกลับ แค่พัทยาหรือหัวหิน ผมคงต้องวางแผนหาสถานีชาร์จที่มี DC ไว้ชาร์จกลางทางเผื่อฉุกเฉินซึ่งตอนนี้ก็ยังดูหายากและไม่สะดวก อารมณ์คนมีรถ NGV คงเข้าใจ ยิ่งขับไปเชียงใหม่นี่ไม่ต้องพูดถึงคือน่าจะลำบาก ไม่ง่ายเหมือนรถน้ำมันที่จ่ายเงิน เติมปุ้ป ขับต่อได้เลย รถ EV ณ.ตอนนี้ น่าจะเหมาะกับครอบครัวที่มีรถหลายคัน แล้วใช้รถคันนี้ในชีวิตประจำวันรถติดๆในเมืองดูเป็นตัวเลือกที่ดี คงไม่ใช่ CITY CAR ที่สามารถท่องเหนือล่องใต้ เหมือน นิยามรถ CITY CAR ของคนไทย ถ้าไปดูค่ายญี่ปุ่นในยุโรปตอนนี้ เหลือแค่รถ HYBRID และ รถไฟฟ้า ล้วนก็มีขายแล้วเกือบทุกยี่ห้อ แต่ระยะทางและเทคโนโลยีต่อการขับไม่ได้มากมายเหมือนรถจีน

3. ค่ายญี่ปุ่นควรปรับกลยุทธ์อย่างไร ?

ส่วนตัว ผมว่าหลักๆน่าจะมี 2 เรื่อง

1. ด้านราคา - ผมว่าบางเซกเมนท์มันแพงจนเกินไป เหมือนคุณยกการ์ดสูงเพื่อชกแต่แบรนด์ญี่ปุ่นที่ราคาแพงด้วยกัน แต่ผลิตภัณฑ์คุณไม่ได้แตกต่างกับค่ายจีนขนาดนั้น แปลว่าคุณเปิดการ์ดล่างซะกว้างจนค่ายจีนมาแทรกได้ไม่ยาก ซึ่งญี่ปุ่นชะล่าใจไม่ได้ออกผลิตภัณฑ์มากันแต่แรก เพราะคิดว่าแบรนด์จีนเป็นไม้ประดับ ตอนนี้แบรนด์จีนก็ตั้งไข่ได้แล้ว ถ้า คุณไม่ออกผลิตภัณฑ์ที่ดีกว่าแบบที่ผู้บริโภครู้สึกแตกต่างในราคาที่ผู้บริโภคคิดว่าเหมาะสม คุณก็ต้องมีรุ่นย่อยที่ออฟชั่นดีพอเพื่อมาสู้ด้านราคากับตลาดจีน นอกจากมรสุมค่ายจีน การดันราคา C-SUV และ D-SEGMENT ที่แพงเกินไป ทำให้ยอดใน 2 SEGMENT นี้ก็หดเอาๆ เพราะหลายๆคนก็ข้ามไปรถยุโรปแล้ว ทำให้ยอดรถยุโรปโตเอาไป จะมีรอดก็แค่ FORTUNER บ้าพลังขวัญใจ อบต นี่ล่ะ

2. ด้านผลิตภัณฑ์ - ผมว่ารถสันดาปน่าจะทำได้ดีและมาถูกทางที่เอา HYBRID เข้ามาเสริมนะ มันยังเป็นตลาด MAJORITY ของประเทศแถบนี้อยู่ ทั้งรถนั่ง และ รถพาณิชย์ แต่ควรเอารถไฟฟ้าราคาจับต้องได้มาภายใน 3-5 ปีนี้ได้แล้ว ไม่งั้นอีกไม่กี่ปี ดูจากไลน์อัพยังไงๆคุณจะเจอรถไฟฟ้าจีนราคา 6-7 แสนใน 3 ปีนี้แน่นอน คุณเอารถไฟฟ้าราคาเกิน 1 ล้าน วิ่งได้ 250 โล มาขายในอีก 5 ปีข้างหน้า แบบ HONDA E ในยุโรป คุณก็แข่งยากแล้ว เพราะแบรนด์จีนเค้าสร้างตลาดไปแล้ว

การมาของรถคันนี้ถือว่าดีและน่าสนใจครับเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภคทางตรงและทางอ้อม ก็เอาใจช่วยค่ายญี่ปุ่นในไทยละกันครับ คิดว่าคนไทยที่ทำงานในนั้นคงเหนื่อย เพราะ ญี่ปุ่นไม่ค่อยยอมปรับตัวและมองเหตุการณ์ตามความเป็นจริงอะไรสักเท่าไร หวังว่าคงปรับตัวทัน หรือ พัฒนา FCV ที่สะอาดจนถึงกระบวนการผลิตได้มาพลิกโฉมวงการ ก่อนที่จะเล็กลงๆไปเรื่อยๆอย่างช้าๆมากกว่านี้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 15, 2021, 04:06:48 โดย 3RP4T »

ออฟไลน์ 3RP4T

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 164
แค่ศูนย์บริการยังน้อยกว่ารถยุโรปบางยี่ห้อเลยครับ. เรื่องความเสถรฝียรทนทานตัวรถก็ยังไม่แน่ขัดเลย ว่าจะทนไม่จุกจิกขนาดไหน อีกอย่างหลายคนรถ1คันต้องไปทั่วไทย. อยู่หอพักหรือคอนโดก็ไม่มีที่ชาร์จ มันเป็นแค่ของเล่นคนรวยกับพวกสื่อปั่นกระแสแค่นั้นแหละ. ยิ่งอวยว่ารถไฟฟ้าดีกว่าน้ำมันนู่นนี่นั่นทั้งที่แบตมันเป็นขยะพิษ. ราคาไม่เป็นมิตรต่อมนุษเงินเดือนทั่วๆไป

ผมมองว่าแรกๆอาจจะยังไม่บูมมากด้วยปัจจัยอย่างที่คอมเม้นบนๆว่าไว้ แต่อย่าลืมราคาน้ำมันจะเป็นตัวผลักดันให้รถไฟฟ้าเกิดได้เร็วขึ้นอย่างมีนัยยะ ยิ่งราคารถลงมาเท่าไหร่ คนที่พอมีกำลังจะสนใจมากขึ้นเท่านั้น ผมว่าญี่ปุ่นไม่ปรับตัวก็อาจเสีย Market Share ไปเยอะ จะมาทำรถไฟฟ้าในอนาคตก็อาจจะตามไม่ทันแล้ว เรื่องแบบนี้ก็เห็นได้เรื่อยๆในโลกธุรกิจ ขนาดเครื่องใช้ไฟฟ้าเมื่อก่อนญี่ปุ่นทั้งนั้น เดียวนี้บ้านผมมีแต่ของจีนเกาหลี ญี่ปุ่นแทบสูญพันธ์ แต่เราไม่รู้ตัว แล้วประเด็นคือของจีน ของเกาหลีไม่ได้แย่กว่าซะด้วยในโลกที่ทุกอย่างหมุนเร็วขึ้น คนไม่ได้อยากใช้ของทนทานเป็น10ๆปี เราขอของที่ทันสมัย รูปลักษณ์สวยงาม ราคาคุ้มค่า มีโปรโมชั่นโดนใจ ส่วนตัวผมยังไม่ถึงเวลาเปลี่ยนรถใหม่ แต่ถ้าจะเปลี่ยน Haval จะมาอยู่ในลิสต์ต้นๆที่จะเลือกเหมือนกัน เพราะผมค่อนข้างไว้วางใจคุณภาพของจีนพอสมควร เพราะเคยไปอยู่จีนมาเป็นปี
เครื่องใช้ไฟฟ้าจากเกาหลีและจีนไม่ทนทานพังง่ายครับ ขอเป็นของญี่ปุ่นที่แพงออพชั่นน้อยดีกว่า. ยิ่งยี่ห้อจีนขอบาย แอร์ตู้เย็นกินไฟเยอะ ตู้เย็นนี่เคยเจอสภาพใช้ไปไม่นานคอมเพรสเซอร์ช็อตเตรียมระเบิด

ส่วนตัวผมใช้สินค้าจีนมาหลายอย่างทั้ง Huawei Xiaomi Hisense Haier  ก็ประทับใจพอๆกับสินค้าญี่ปุ่น ราคาถูกกว่า 20-30% ความทนทานผมว่าสมัยนี้ไม่ต่างกันมาก เพราะญี่ปุ่นเองก็ลดต้นทุนเยอะโดย อย่างที่เห็นๆกันทั้งสีบาง สนิมขึ้น เพียงแต่จุดแข็งคือบริการหลังการขายที่ดี ซึ่งตรงนี้คงต้องดูกันยาวๆว่าค่ายจีนจะเอาจริงแค่ไหน ถ้าซื้อใจคนไทยได้ผมว่าญี่ปุ่นสะเทือนแน่ๆ อยากได้ลูกค้าคืนต้องอัดออปชั่น ลดราคาลงมาสู้ แต่ที่แน่ๆผู้บริโภคอย่างเราๆได้ประโยชน์เต็มๆ เมื่อก่อนความหวังจะได้ขับรถออปชั้นล้นๆเหมือนเมืองนอกต้องไปรุ่น TOP D Segment เกือบ 2 ล้าน ต่อไปแค่ B Segment 5-6แสน อาจจะได้ Adaptive Cruise Control แล้วก็ได้

อันนี้ขอเสริมเรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้านะครับ ตอนนี้คุณแน่ใจเหรอครับว่า ทีวี, ตู้เย็น, แอร์, ไมโครเวฟ, หรือ เครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ แบรนด์ ยุโรป หรือ ญี่ปุ่น ที่คุณใช้เป็นของโรงงานเขาจริงๆ ตัวบนๆแบบ ตู้เย็น SIDE BY SIDE บางตัวก็ OEM จาก HIER MIDEA GREE หรือ ยี่ห้อที่เลวร้ายกว่าอื่นๆ และ มาแปะแบรนด์ ยุโรป หรือ ญี่ปุ่น ครับ ตอนนี้โรงงานหลายๆที่ของจีนก็มาตั้งโรงงานในไทยเพื่อรับออเดอร์จากแบรนด์อื่นรวมไปถึงผลิตของตัวเองในภูมิภาคนี้เป็นล่ำเป็นสันครับ เครื่องใช้ไฟฟ้าจีน บางแบรนด์คุมคุณภาพได้ดีกว่าญี่ปุ่นหรือยุโรปก็มี แต่หลายๆแบรนด์ส่วนใหญ่ก็แย่กว่าครับ ไม่ได้อวยจีน แค่ บอกข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ก่อนซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าก็ปรึกษาเพื่อนในวงการเครื่องใช้ไฟฟ้าก็ดีครับ

ออฟไลน์ REX

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,015
ทุกสิ่งเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป
ยุคหน้า รถไฟฟ้าจีน จะนำหน้ารถญี่ปุ่น ก็ไม่แปลก 
เพราะจีนเขาตั้งเป้าไว้ ตั้งแต่หัดผลิตรถยนต์แล้ว
และชาติจีน นำหน้าชาติอื่นในหลายเทคโนโลยี่

ถ้า 20ปีก่อน ใครบอกว่า sumsung จะทำ TV ได้ดีกว่า sony
ถ้า 10ปีก่อน ใครบอกมา จีนจะเป็น มหาอำนาจโลก เบียดกับอเมริกา
คงไม่มีใครเชื่อ
อะไรก็เกิดขึ้นได้ ยิ่งชาติที่มีความมุ่งมั่นต้องการเจริญ  แบบจีน
ถูกข่มเหงรับแก จากชาติตะวันตก  แรงกดดันเพื่อความสำเร็จมันย่อมไม่ธรรมดาอยู่แล้ว
อย่าประมาท เด็ดขาด   แม้กระทั่งรถไฟฟ้า


ออฟไลน์ ซิ่งเข้าส้วม

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,150
การมาของรถจีนยังไงก็กระทบรถญี่ปุ่นครับ

ยิ่งยุครถไฟฟ้ายิ่งกระทบมาก หลายคนมี่เชียร์บริษัท​รถญี่ปุ่นอาจจะมองว่าของจีนห่วย กลืนตลาดไม่ได้หรอก

แต่ไม่ได้มองข้อเท็จจริงเรื่องที่จีนได้เปรียบมากที่สุดคือต้นทุนแบตเตอรี่

ในอนาคตอันไม่ไกลมาก เราจะเห็นรถไฟฟ้าจีนราคา 5-6 แสน วิ่งได้ 4-5 ร้อยโล

แต่ในขณะเดียวกันรถญี่ปุ่นจะวิ่งได้แค่ 2-3 ร้อยโลเท่านั้นในราคาเท่ากัน

ด้วยความต่างด้านราคานี้จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภค​แน่ๆ ครับ แล้วประเทศไทยจะเหลือแต่แบรนด์ใหญ่อย่างโตโยต้า ฮอนด้า ที่เหลืออาจจะเจ๊งหมด