ผู้เขียน หัวข้อ: กระแส ORA Good Cat มาแรงแบบนี้ ถ้าค่ายแบรนด์รถญี่ปุ่นไม่ปรับตัวจะเป็นแบบไหน  (อ่าน 7584 ครั้ง)

MacH1

  • บุคคลทั่วไป
ไม่ต้องห่วงครับ เทคโนโลยีรถไฟฟ้าค่ายญี่ปุ่นเค้ามีกันทุกค่ายแหละ อย่าง prius plug-in ถอดเครื่องออกเพิ่มขนาดแบตมันก็กลายเป็น BEV ละ อยู่แค่ที่ว่าเค้าจะขายตอนไหน จังหวะไหนใช่ก็ขาย

รถไฟฟ้าฟ้ามันสำคัญสุดที่แบต ใครบอกญี่ปุ่นจะสู้จีนไม่ได้วิศวกรพานาโซนิคคงนั่งซดสาเกร้องไห้อยู่ในไลน์ผลิตแบตเทสล่า

Tesla ไปใช้ CATL (supplier แบตเดียวกับที่ทำให้ ZS EV, EP) กับ LG Chem แล้วครับ เลิก panasonic

ส่วนเรื่องแค่ถอดเครื่องออกก้อกลายเป็น BEV มันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น เพราะการจูนทำรถ BEV ให้ดี สมดุล มันต้องมีสกิลด้าน IT software ซึ่งพวกหัวอนาล็อค mechanical อย่างยุ่นไปไม่เป็นเลยทีเดียว และขาดแคลน human capital แนวนี้อยู่แล้ว

สังเกตทำไม Tesla ถึง efficiency ทั้งพลังความแรงและระยะทางวิ่งได้สูงสุดเหนือกว่าคู่แข่งมาก

ออฟไลน์ Teera

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,380
    • อีเมล์
รถไฟฟ้า มาแน่
อีกหน่อย คงมาทุกเจ้า
เปรียบเครื่องสันดาบ คงเหมือน กล้อง Film
รถไฟฟ้า คงเหมือนกล้อง Digital 
แต่ มันไม่เร็วขนาดนั้น เพราะราคาของมัน รถไม่ใช่คันละหมื่น สองหมื่น

ไปบอกใครเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ว่า Sony จะขายกล้อง
Samsung จะขายมือถือ หรือ Apple จะขาย I phone ก็คงแปลกๆ

ผมสนใจ ORA Good CAT เพราะชื่อ ของมัน ผมชอบแมว
แต่ ไม่เคยคิดจะซื้อ

ผมไม่เชื่อว่า ค่ายญี่ปุ่น ไม่ปรับตัว
อีก ปี สอง ปี น่าจะเต็มตลาด ทั้ง ญี่ปุ่น จีน ยุโรป อเมริกา
ให้เลือก

ส่วนตัว ก็ตามกำลัง
ผมตั้งใจว่า อีกซัก 5 ปี คงถึงเวลา เปลี่ยนรถ

คงไปหา EV มาใช้ซักคัน

สรุป เดี๋ยวเดือนหน้า ก็รู้ ว่า Good Cat จะ ยอดดี ไหม มาแรงแต่ข่าวหรือไม่ จะมีคนจองกี่คน

Gunther

  • บุคคลทั่วไป
ไม่ต้องห่วงครับ เทคโนโลยีรถไฟฟ้าค่ายญี่ปุ่นเค้ามีกันทุกค่ายแหละ อย่าง prius plug-in ถอดเครื่องออกเพิ่มขนาดแบตมันก็กลายเป็น BEV ละ อยู่แค่ที่ว่าเค้าจะขายตอนไหน จังหวะไหนใช่ก็ขาย

รถไฟฟ้าฟ้ามันสำคัญสุดที่แบต ใครบอกญี่ปุ่นจะสู้จีนไม่ได้วิศวกรพานาโซนิคคงนั่งซดสาเกร้องไห้อยู่ในไลน์ผลิตแบตเทสล่า

อย่างน้อย ก็มีรถยนต์ไฟฟ้าญี่ปุ่น ที่เคยจำหน่ายมา เมื่อ 10 ปีที่แล้ว…..

Mitsubishi i-MiEV
Nissan Leaf

ออฟไลน์ Symphonic

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,703
รถไฟฟ้า มาแน่
อีกหน่อย คงมาทุกเจ้า
เปรียบเครื่องสันดาบ คงเหมือน กล้อง Film
รถไฟฟ้า คงเหมือนกล้อง Digital 
แต่ มันไม่เร็วขนาดนั้น เพราะราคาของมัน รถไม่ใช่คันละหมื่น สองหมื่น

ไปบอกใครเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ว่า Sony จะขายกล้อง
Samsung จะขายมือถือ หรือ Apple จะขาย I phone ก็คงแปลกๆ

ผมสนใจ ORA Good CAT เพราะชื่อ ของมัน ผมชอบแมว
แต่ ไม่เคยคิดจะซื้อ

ผมไม่เชื่อว่า ค่ายญี่ปุ่น ไม่ปรับตัว
อีก ปี สอง ปี น่าจะเต็มตลาด ทั้ง ญี่ปุ่น จีน ยุโรป อเมริกา
ให้เลือก

ส่วนตัว ก็ตามกำลัง
ผมตั้งใจว่า อีกซัก 5 ปี คงถึงเวลา เปลี่ยนรถ

คงไปหา EV มาใช้ซักคัน

สรุป เดี๋ยวเดือนหน้า ก็รู้ ว่า Good Cat จะ ยอดดี ไหม มาแรงแต่ข่าวหรือไม่ จะมีคนจองกี่คน

การเปรียบเทียบรถสันดาปกับรถไฟฟ้า เสมือนการเปรียบเทียบระหว่างกล้องฟิล์มกับกล้องดิจิตอลนั้น
ดูเหมือนจะเทียบกันได้เลยตรง ๆ   

แต่... อยากให้ลองมองย้อนกลับไปว่า การเปลี่ยนผ่านจากกล้องฟิล์มไปเป็นกล้องดิจิตอลนั้น
ปัจจัยมันไม่ใช่ที่ตัวกล้องหรือที่ความแตกต่างระหว่างฟิล์มกับดิจิตอล

แต่ปัจจัยมันเป็น environment ของการเก็บรูปและใช้งานรูปครับ

นั่นคือว่า ถ้าโลกเรายังคงต้องอัดรูปบนกระดาษ แล้วส่งรูปทางไปรษณีย์
หรือแปะรูปบนกระดาษเพื่อทำรายงาน  แบบนั้นกล้องดิจิตอลคงไม่เกิด

แต่ environment ที่มันเปลี่ยนคือโลกของอินเตอร์เน็ตที่เข้ามา
ทำให้เราถ่ายรูปแล้วแนบรูปลงในรายงาน power point หรือ word
เราส่งรูปทางเมล์ ทางแอป แชท ต่างๆ  นั่นเป็นสิ่งที่ทำให้ฟิล์มมันตาย

แต่วันนี้ ระหว่างรถสันดาป กับรถน้ำมัน มันยังทำหน้าที่เหมือนกันคือ
การเดินทางจากจุดหนึ่งไปจุดหนึ่ง  ถ้าให้เปรียบกับกล้อง ก็เปรียบเสมือนว่า
ช่วงเวลานี้ ยังเป็นเวลาที่คนถ่ายรูปแล้ว ไม่ว่าจะถ่ายด้วยกล้องฟิล์มหรือกล้องดิจิตอล
ต่างก็ยังต้องไปอัดรูปลงกระดาษเหมือนกัน ยังไม่มีการส่งรูปทางเมล์หรือแอปแชท

เพียงแต่ว่า จุดเปลี่ยนที่จะ disrupt รถสันดาปกับรถไฟฟ้า น่าจะเป็น platform
อะไรบางอย่างที่ทำให้เราไม่สามารถใช้งานรถสันดาปกับ platform นั่นได้
(เหมือนกับที่การถ่ายรูปด้วยกล้องฟิล์ม ก็ไม่สามารถแนบรูปไปในแอปแชทได้เลยทันที
นั่นแหละครับ)

ซึ่งผมคิดว่า เมื่อไหร่ที่เกิด platform นั่นขึ้น รถสันดาปก็จะสูญพันธ์แน่ ๆ
แม้ว่ารถไฟฟ้าจะยังวิ่งได้ไม่ไกล ยังต้องชาร์จไฟนาน ๆ แต่เราก็ต้องใช้มัน
เหมือน ๆ กับที่เรายอมชาร์จไฟ smart phone กันวันละครั้งหรือมากกว่า
ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านั้นเราชาร์จมือถือแบบปุ่มกดกันสัปดาห์ละครั้งเอง
แม้จะไม่สะดวกแต่เราก็ต้องยอมอ่ะครับ

ปล. จริง ๆ แล้วในมุมของการ disrupt ที่เกิดจาก environment นั้น ไม่ใช่แค่เรื่อง
กล้องฟิล์มกับกล้องดิจิตอลหรอกครับ  เรื่องของมือถือแบบปุ่มกดกับ smart phone
ก็เช่นกัน มันถูก disrupt ด้วย platform ของการใช้งานอินเตอร์เน็ตบนมือถือที่เครื่องแบบ
ปุ่มกดไม่สามารถทำได้ เพราะถ้าโลกนี้การใช้งานโทรศัพท์เป็นแค่เพียงการโทรเข้า-โทรออก
โทรศัพท์แบบปุ่มกดยังทำหน้าที่ได้ครบถ้วนทุกอย่าง มันก็ยังคงอยู่ได้ครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 17, 2021, 13:48:04 โดย Symphonic »

Gunther

  • บุคคลทั่วไป
รถไฟฟ้า มาแน่
อีกหน่อย คงมาทุกเจ้า
เปรียบเครื่องสันดาบ คงเหมือน กล้อง Film
รถไฟฟ้า คงเหมือนกล้อง Digital 
แต่ มันไม่เร็วขนาดนั้น เพราะราคาของมัน รถไม่ใช่คันละหมื่น สองหมื่น

ไปบอกใครเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ว่า Sony จะขายกล้อง
Samsung จะขายมือถือ หรือ Apple จะขาย I phone ก็คงแปลกๆ

ผมสนใจ ORA Good CAT เพราะชื่อ ของมัน ผมชอบแมว
แต่ ไม่เคยคิดจะซื้อ

ผมไม่เชื่อว่า ค่ายญี่ปุ่น ไม่ปรับตัว
อีก ปี สอง ปี น่าจะเต็มตลาด ทั้ง ญี่ปุ่น จีน ยุโรป อเมริกา
ให้เลือก

ส่วนตัว ก็ตามกำลัง
ผมตั้งใจว่า อีกซัก 5 ปี คงถึงเวลา เปลี่ยนรถ

คงไปหา EV มาใช้ซักคัน

สรุป เดี๋ยวเดือนหน้า ก็รู้ ว่า Good Cat จะ ยอดดี ไหม มาแรงแต่ข่าวหรือไม่ จะมีคนจองกี่คน

น่าจะเป็นไปได้ 50:50 ครับ