ผู้เขียน หัวข้อ: สนใจ Mazda CX-5 2.5 TURBO อยากรบกวนขอข้อมูลจากเพื่อนสมาชิก  (อ่าน 7249 ครั้ง)

ออฟไลน์ Benzione

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 47
รบกวนสอบถามเพื่อนสมาชิกครับ
ตอนนี้อยากได้รถ SUV ขนาดกลาง ไว้ใช้ขับในเมืองเป็นหลัก ไปตจว.ปีละ 2-3 ครั้ง
ไม่สนใจเรื่องอัตราสิ้นเปลือง ไม่กลัวเรื่องราคาขายต่อ แต่กลัวเรื่องปัญหาจุกจิก ซ่อมไม่จบ ต้องวิ่งเข้าออกศูนย์บริการ

พอดีเห็นว่า CX-5 เพิ่งมี MC ไป
เลยอยากขอความเห็นเพื่อนสมาชิกว่า รุ่นนี้ถ้าเป็นเครื่อง 2.5 เบนซินน่าสนใจมั้ย
ได้ยินมาว่า เครื่องรุ่นนี้ไม่ค่อยมีปัญหา เมื่อเทียบกับเครื่อง 2.0 เบนซินและ ดีเซล เรื่องจริงใช่มั้ยครับ
มีจุดอื่นที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติมมั้ย

เข้าไปดูในกลุ่มผู้ใช้รถรุ่นนี้ใน FB แล้ว ส่วนใหญ่จะใช้รุ่นเครื่อง 2.0 เบนซินและ ดีเซลกัน
ปล. ย้ายค่ายกลับรถญี่ปุ่น เดิมใช้ BMW X1

ออฟไลน์ Deaw

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,073
    • อีเมล์
ปัญหาที่ว่าไม่มีอาจพูดยาก รถขายได้น้อย
กินน้ำมันเยอะด้วยนะครับ

ออฟไลน์ Superpong

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 314
    • อีเมล์
รุ่นนี้แรง ขับสนุก ยังไม่เห็นปัญหาอะไร แต่ซดน้ำมันหยั่งกะน้ำเปล่า กินหนักจริงครับ

ออฟไลน์ ThisIsYuTh

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 290
ผมใช้มา 50K โล ก็ไม่มีปัญหาอะไรใหญ่โตนะครับ หนักสุดก็กระจกพับไม่สุดแก้ด้วย Sonax หายสนิททั้งสองข้าง (คือมันมีคราบน้ำหรือฝุ่นเข้าไปทำให้มันฝืดแล้วระบบตัดกระแสไฟกันมอเตอร์ไหม้) ผมขับเยอะก็เช็คระยะทุกสามสี่เดือน เคยต้องเข้าศูนย์นอกเช็คระยะครั้งเดียวคือโช้คซึมแล้วช่างศูนย์เจอเลยแจ้งเคลมให้ รออะไหล่สามวันก็เข้าไปเคลม ตอนนั้นระยะ 40k แล้ว

โดยเฉพาะเครื่องยนต์ตัวนี้ก็ไม่มี Defect อะไรทั้งในไทยและต่างประเทศ (มีใช้มาหลายปีแล้วในต่างประเทศก่อนไทย) น้ำดันนี่ไม่มีแน่ๆ ส่วนปั้มติ๊กก็คนละ Part no. กับตัวที่ซัพพลายเออร์มีปัญหา

เรื่องกินน้ำมัน แยกเป็นประเด็นแรกคือ มันก็ไม่ได้กินอะไรเว่อร์วังขนาดนั้นครับ ขับในเมืองช่วงเวลาทำงาน ผมเป็นคนเท้าหนักยังไงก็ได้ 8-9 กม./ลิตร ชับออกต่างจังหวัดก็ 10-11 กม./ลิตร สบายๆ เคยขับไปตราดล้อคไว้ 120 เรื่อยๆ ไม่ค่อยเร่งแซงก็ 11.5 กม./ลิตรสบายๆ ถ้าแซงเรื่อยๆ 120++ ก็ 10.5 กม./ลิตร

เติมน้ำมันถังนึงตอนนี้ 1,300฿ ในเมืองขับได้ 400 km นอกเมือง 550 km เทียบคันก่อนหน้าผมขับปาเจโร่ตัวแรกมายังกินหนักกว่าอีกขนาดตอนดีเซลยังไม่แพงขนาดนี้ สองปีก่อนเติมถังนึง 1,700฿ ในเมืองขับได้อย่างมาก 350 km

ส่วนประเด็นที่สองคือ ขับรถราคานี้คงไม่ต้องมาห่วงค่าน้ำมันแล้วมั้งครับมันไม่ได้มากมายขนาดนั้น สมมุติประหยัดขึ้นมา 2 กม./ลิตร ประมาณค่าเฉลี่ยมันก็เซฟเงินได้นิดเดียวเองเดือนละพันหรือสองพันอย่างมากสุด ประเด็นคือใจคนขับมากกว่าพอรถมันแรงและขับดีมันก็ทำให้เท้าหนักขึ้นมาเองครับ

เคยเขียนเพิ่มเติมไว้หลายเรื่อง ลองดูในกระทู้นี้ครับ

https://community.headlightmag.com/index.php?topic=79427
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 15, 2021, 15:05:52 โดย ThisIsYuTh »
2020 - Mazda CX-5 2.5T (KF)
2016 - Subaru XV (GP)
2013 - Mitsubishi Pajero Sport (KG)
2010 - Honda Civic (FD)
2006 - BMW 3 Series (E36)

ออฟไลน์ PC CK

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,001
ผู้ใช้จริงมารีวิวิแล้วคงไม่ต้องพูดอะไรมากครับ
ลองเข้าคลับในเฟสบุ๊คครับ จะได้เห็นปัญหาและภาพรวมของมาสด้า หลายๆอย่างฟังจากคนใช้จริงจะดีกว่าการมโนคระบ
เรื่องช่วงล่างการขับขี่ลองทดลองขับดูครับว่าชอบมั้ย บางคนบอกว่าช่วงล่างแข็งไปอันนี้แล้วแต่คนลองขับระยะไกลดูครับ
ถ้าไม่ซีเรียสเรื่องกินน้ำมันถือว่าน่าสน คล่องตัวดีครับ
เรื่องศูนย์บริการมีทั้งดีและไม่ดีครับ
ถ้าเน้นเรื่องไม่จุกจิกอาจหันไปหาฮอนด้าแทนครับ มาสด้าบางอย่างก็น่าหงุดหงิดจนน่าด่าครับ

ออฟไลน์ Benzione

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 47
ขอบคุณทุกท่านมากครับ
มีประโยชน์มาก
โดยเฉพาะข้อมูลของคุณ ThisIsYuTh

ออฟไลน์ ThisIsYuTh

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 290
ผู้ใช้จริงมารีวิวิแล้วคงไม่ต้องพูดอะไรมากครับ
ลองเข้าคลับในเฟสบุ๊คครับ จะได้เห็นปัญหาและภาพรวมของมาสด้า หลายๆอย่างฟังจากคนใช้จริงจะดีกว่าการมโนคระบ
เรื่องช่วงล่างการขับขี่ลองทดลองขับดูครับว่าชอบมั้ย บางคนบอกว่าช่วงล่างแข็งไปอันนี้แล้วแต่คนลองขับระยะไกลดูครับ
ถ้าไม่ซีเรียสเรื่องกินน้ำมันถือว่าน่าสน คล่องตัวดีครับ
เรื่องศูนย์บริการมีทั้งดีและไม่ดีครับ
ถ้าเน้นเรื่องไม่จุกจิกอาจหันไปหาฮอนด้าแทนครับ มาสด้าบางอย่างก็น่าหงุดหงิดจนน่าด่าครับ

เรื่องศูนย์มีส่วนมากครับถ้าได้ที่โอเคก็ประเสริฐไปเลย ผมเข้าที่ นที ราชพฤกษ์ ตลอดทั้งที่จริงๆ มีศูนย์ใกล้บ้านแบบ 5 นาทีถึงแต่ผมเลือกขับมาอีก 15 นาทีเอาที่เราสบายใจดีกว่า ซึ่งก็ไม่ได้ลำบากมากมาย แต่ศูนย์มาสด้าก็มีความเรื่องมากเหมือนกัน เช่น ไม่รับเปลี่ยนอะไหล่เช่นผ้าเบรคที่เป็นยี่ห้ออื่น แต่ก็พอจะเข้าใจได้
2020 - Mazda CX-5 2.5T (KF)
2016 - Subaru XV (GP)
2013 - Mitsubishi Pajero Sport (KG)
2010 - Honda Civic (FD)
2006 - BMW 3 Series (E36)

ออฟไลน์ Teera

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,380
    • อีเมล์
รุ่นน้อง ซื้อ CX8 มา เห็นว่า ดีมากๆครับ
ถามเรื่อง Service เค้าก็ว่าดี

ผมก็เลย งง เห็นคนบ่น เรื่อง Service กันจัง

ออฟไลน์ KATANA

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 260
รุ่นน้อง ซื้อ CX8 มา เห็นว่า ดีมากๆครับ
ถามเรื่อง Service เค้าก็ว่าดี

ผมก็เลย งง เห็นคนบ่น เรื่อง Service กันจัง

มันแล้วแต่ศูนย์ครับ อย่างผมไปเข้าศูนย์ที่ออกรถมาแถวหนองแขม มีปัญหาแก้ไม่ได้ ทำงานไม่ค่อยโอเคจนเริ่มไม่พอใจ

พอย้ายมาแก้อาการที่ นที ราชพฤกษ์ ก็โอเคเลย ประทับใจ แก้หาย ช่างคุยรู้เรื่อง (ที่เก่าเหมือนคุยกับก้อนหิน)

ออฟไลน์ Auto

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,630
รุ่นน้อง ซื้อ CX8 มา เห็นว่า ดีมากๆครับ
ถามเรื่อง Service เค้าก็ว่าดี

ผมก็เลย งง เห็นคนบ่น เรื่อง Service กันจัง
   ตัวการบริการของ Mazda  นะดีครับ ถ้าเป็นงานซ่อมทั่วไป
            แต่อย่าให้มีปัญหาหนัก ๆ หรือแก้ไม่จบ   หรืองานต้องเคลม  ไม่อย่างนั้น  ออกทะเล หรือคุยไม่รู้เรื่อง  นอกจากนี้ที่เค้าบ่นกันคือ อะไหล่แพงจริง  ๆ รวมถึงค่าแรงต่อชั่วโมงนี่แพงมาก   ๆ    ถ้าลองต้องเปลี่ยนอะไหล่มีร้องสะดุ้งแน่  ๆ 

ออฟไลน์ wsi11

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 130
รุ่นน้อง ซื้อ CX8 มา เห็นว่า ดีมากๆครับ
ถามเรื่อง Service เค้าก็ว่าดี

ผมก็เลย งง เห็นคนบ่น เรื่อง Service กันจัง

เรื่องศูนย์ บ่นเรื่องค่าแรงหรือเปล่าครับ บางศูนย์ราคาโดดจากตลาดไปเยอะ ทั้งๆที่เป็นรถญี่ปุ่น (ผมเคยใช้ตั้งแต่ตอน 650 บาทต่อชั่วโมง ไม่รู้ตอนนี้ไปเท่าไหร่แล้ว น่าจะสัก 4 ปีก่อนแล้ว)

Gunther

  • บุคคลทั่วไป
2.5 Turbo ของรุ่น CX-5 แทบไม่น่าสนใจครับ

ทั้งซดน้ำมันเพราะพ่วง Turbo และ ราคาแพงเพราะเครื่องยนต์ที่ใหญ่ขึ้น

Forty Five

  • บุคคลทั่วไป
Haval H6 จาก GWM จะดีกว่าไหมครับ ที่ 1 C-SUV ไทย

ออฟไลน์ SM.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 27,418
ผมว่าคนซื้อตัว 2.5 turbo นี่ คงไปเทียบกับคนซื้อ รุ่นย่อยอื่นไม่ได้เลย เพราะอยากได้ความแรง และคงเตรียมใจเรื่องเครื่องเทอโบ การกินน้ำมัน ไว้อยู่แล้ว

ออฟไลน์ ThisIsYuTh

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 290
ผมว่าคนซื้อตัว 2.5 turbo นี่ คงไปเทียบกับคนซื้อ รุ่นย่อยอื่นไม่ได้เลย เพราะอยากได้ความแรง และคงเตรียมใจเรื่องเครื่องเทอโบ การกินน้ำมัน ไว้อยู่แล้ว

จริงเลยครับ ตอนผมเลือกซื้อรถคันนี้ค่าน้ำมันเป็นเรื่องที่ไม่ได้อยู่ในความสนใจเลย  ;D ;D ;D ตอนแรกทำใจว่าต้องหลักเดียวตลอดแน่ๆ แต่ที่ได้จริงกลับเกินความคาดหมายซะอีก

ส่วนตัวผมคิดว่าถ้าใครสักคนที่ซื้อรถราคาเกือบสองล้านแล้วยังต้องมากังวลค่าน้ำมันที่ต่างกันแค่เดือนละสองหรือสามพัน ผมว่าเค้าน่าจะซื้อรถเกินตัวไปหน่อย

Haval H6 จาก GWM จะดีกว่าไหมครับ ที่ 1 C-SUV ไทย

ผมว่ามันคนละกลุ่มลูกค้าเลยนะ คนที่มอง CX-5 2.5T นี่ไม่ใช่พ่อบ้านแม่บ้านทั่วไปแน่ๆ แต่เป็นคนที่รักในการขับรถจริงๆ และต้องการความมั่นใจในสมรรถนะของรถที่คงที่ตลอดเวลา อย่างตัวผมถ้ารถที่ผมขับมันสมรรถนะ เช่น อัตราเร่งกับความเร็วสูงสุดเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาตามระดับแบตเตอรี่ ผมก็ไม่ชอบใจสักเท่าไหร่ (ใช่ครับผมขับเร็ว) อีกอย่างคือ H6 ก็เป็นรถขับสองล้อหน้าด้วย ฟีลลิ่งมันคนละแบบเลย

ว่ากันจากที่เห็นในคลับ คนที่จะซื้อ Haval H6 ตอนนี้ผมว่าต้องใจถึงพอสมควรเพราะตามที่เห็นในกลุ่มก็มีเคสขึ้นยานแม่แบบแปลกๆ หลายเคสในเดือนที่ผ่านมา แลดูเหมือนงานประกอบจะยังไม่เข้าที่เข้าทางสักเท่าไหร่ เป็นผมคงไม่อยากเป็นหนูลองยาแล้วรอล้อตหน้าดีกว่า แถมรอดู CR-V ใหม่ไปด้วยในตัว
2020 - Mazda CX-5 2.5T (KF)
2016 - Subaru XV (GP)
2013 - Mitsubishi Pajero Sport (KG)
2010 - Honda Civic (FD)
2006 - BMW 3 Series (E36)

ออฟไลน์ shikimaru

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,313
    • อีเมล์
แอบประทับใจแฮะ เท้าหนักยังได้เลข 9 โล เอาจริงๆ accord g8 2.4 ไม่ต้องในเมืองหรอก นอกเมืองความเร็ว 100-160 นี่ผมขับได้แค่ 9-10 แค่นั้น ไม่ได้เบรคไรมากมายด้วย ต้องวิ่งไกลๆยาวมากๆแบบไปเหนือ นิ่งๆ 120ไม่ค่อยเบรกถึงจะได้ซัก 12หน่อยๆ เครื่องสมบูรณ์ หัวเทียนเกรดดี น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ตัวดีแล้ว  ถ้าในเมืองแบบติดหนักๆรัชดาไรงี้ เคยเข้าไปช่วงนึงหล่นเหลือ 4-5 เลย

ออฟไลน์ ThisIsYuTh

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 290
แอบประทับใจแฮะ เท้าหนักยังได้เลข 9 โล เอาจริงๆ accord g8 2.4 ไม่ต้องในเมืองหรอก นอกเมืองความเร็ว 100-160 นี่ผมขับได้แค่ 9-10 แค่นั้น ไม่ได้เบรคไรมากมายด้วย ต้องวิ่งไกลๆยาวมากๆแบบไปเหนือ นิ่งๆ 120ไม่ค่อยเบรกถึงจะได้ซัก 12หน่อยๆ เครื่องสมบูรณ์ หัวเทียนเกรดดี น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ตัวดีแล้ว  ถ้าในเมืองแบบติดหนักๆรัชดาไรงี้ เคยเข้าไปช่วงนึงหล่นเหลือ 4-5 เลย

ส่วนนึงผมว่าเพราะเครื่องมันแรงบิดเยอะมากอย่างกับดีเซล และแรงบิดมาในรอบต่ำประกอบกับการเซ็ตให้ทำงานในรอบไม่เกิน 3,000 เป็นหลักครับ คือมันเป็นรถเทอร์โบที่รอบไม่จัดเลย แม้ในโหมด Sport ก็ตามรอบตัดที่ประมาณ 5,500 เท่านั้นเอง ไม่เคยขึ้นถึง 6,000 เลย

จากที่อ่านรีวิวฝรั่งมาก็พบอีกว่า มาสด้าเลือกใส่ Cooled EGR มาในเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบทั้งที่ไม่ได้เป็นการช่วยให้ตัวเลขใน EPA หรือ Eco Sticker ดีขึ้นแต่อย่างใด แต่มันจะส่งผลต่อความประหยัดในการขับจริง ก็ต้องถือว่าใส่ใจการใช้งานจริงที่เอาไปโฆษณาไม่ได้
มากกว่าตัวเลขบนกระดาษแต่ใช้งานจริงไม่ได้
2020 - Mazda CX-5 2.5T (KF)
2016 - Subaru XV (GP)
2013 - Mitsubishi Pajero Sport (KG)
2010 - Honda Civic (FD)
2006 - BMW 3 Series (E36)

ออฟไลน์ Benzione

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 47
ไปศูนย์มาสด้าใกล้บ้านมาล่ะครับ
รถใหม่ยังไม่ลงเลย
มีคัน 2.5 เก่าให้ดู แต่ไม่มีรถให้ทดลองขับ
มีแต่คัน 2.0 ธรรมดา ซึ่งก็เป็นตามคาด ผมว่าอืดไปหน่อย
รอ 2.5 ใหม่มา ค่อยตัดสินใจอีกที

ขอบคุณเพื่อนๆ สมาชิกทุกคนที่มาให้ข้อมูลและความเห็นนะครับ