ผู้เขียน หัวข้อ: ใช้รถเยอะ ถือว่าคุ้มไหมสำหรับการลงทุนซื้อรถไฟฟ้า  (อ่าน 3125 ครั้ง)

ออฟไลน์ Superpong

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 315
    • อีเมล์
เป็นทางเลือกที่เหมาะหรือไม่สำหรับการใช้รถเยอะ เช่น สมมติว่า ใช้รถวันละร้อยกว่ากิโล หรือปีละสี่หมื่นโล

เทียบกับรถน้ำมัน ปีละสี่หมื่นโล สมมติเอาเป็นรถญี่ปุ่นที่กินน้ำมันสัก 13กม/ลิตร
เติมเฉพาะ E20 ก็เท่ากับมีค่าเชื้อเพลิงต่อปีประมาณแสนนึงต่อปี สี่ปีก็ประมาณ สี่แสนกว่า และรวมค่าดูแลรักษาทั่วไปสำหรับรถญี่ปุ่นเฉลี่ยปีละหมื่นห้าถึงสองหมื่น (วิ่งเยอะ)  ตีกลมๆไปว่าต้องมีห้าแสนในสี่ปี สำหรับรถน้ำมันที่วิ่งปีละสี่หมื่นโล

กรณีนี้ ถ้าเราซื้อรถไฟฟ้า วิ่งเยอะก็ต้องชาร์จบ่อยขึ้น แต่ยังไงก็ตาม ประกันตัวรถและแบตเตอรี่จะหมดในปีที่สาม ถ้าในปีที่ 4 เกิดงานเข้า เช่น แบตเสื่อม ค่าแบตรถไฟฟ้าราคาสาหัสอยู่แล้ว (ถ้าเปลี่ยนเป็นโมดูลได้ก็น่าจะดี) กลายเป็นว่าที่ประหยัดค่าน้ำมันมาและไม่ต้องบำรุงรักษาอะไร จะไม่คุ้มหรือเปล่าครับ ?
และที่สำคัญขายทิ้งก็คงแทบไม่มีราคาสำหรับรถไฟฟ้าที่วิ่งเยอะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 01, 2021, 16:16:21 โดย Superpong »

ออฟไลน์ mongolias

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,369
ผมใช้รถวันละราวๆ 100 ก.ม. หรือราวๆ 3,000ก.ม./เดือน
แต่ช่วงนี้ลดเหลือราวๆ 1500 - 2000 ก.ม./เดือน ส่วนตัวสนใจรถไฟฟ้านะ
แต่ด้วยความที่อยู่ ตจว ไม่สะดวกหาที่ชาร์จ และไม่พร้อมที่จะไปรอทีละ 1 ช.ม. ระหว่างรอชาร์จไฟ
แถมผมมีรถคันเดียว รถไฟฟ้าเลยยังไม่ตอบโจทย์ผมครับ
แต่อนาคต ก็เชื่อได้ว่ารถไฟฟ้ามาแน่ครับ

ออฟไลน์ U9WS

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,180
  • slower is better
แบต BEV จีนไม่รู้เป็นไง
แต่แบต BEV อเมกา ยุโรป ใช้กัน 2-3แสนโล แตะเกือบ10ปี แบตเสื่อมเต็มที่หลัก 10%เอง

ถ้าปีหน้า เกาหลี อเมกา ยุโรปไหลเข้ามาในราคาที่เหมาะสม(ไม่มีคำว่าถูก)​ บ้านผมคันที่ใช้มากสุดวิ่ง 3ปี 150,000โลนี้คุ้มค่าน้ำมันแน่นอน แถม BEV จะกลายเป็นที่รอลูกรอแฟน นั่งทำงานพิมพ์​คอม เป็นที่กินอาหาร หรือแม้นแต่เป็นที่นอน
ซื้อรถ BEV ที่ดีและมีขนาดพอเหมือนได้ห้องน็อคดาวน์ติดแอร์เคลื่อนที่ได้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 01, 2021, 16:09:29 โดย U9WS »

ออฟไลน์ PC CK

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,001
คุ้มครับ
ใข้มากใช้น้อยก็คุ้ม
ความคุ้มค่ามันอยู่ที่ใจเรา
แต่ถ้าจะมองเรื่องความประหยัด
ซื้อรถใหม่ยังไงก็ใช้เงินมากกว่ารถที่มีใช้เดิม
หรือถ้าเทียบค่าใช้จ่ายที่ต้องเสียไป เทียบ b segมือ1กับBEV เช่น MG EP  ยังไงbsegก็ถูกกว่าครับ ค่าmentainanceไม่ได้มีแค่ค่าน้ำมัน ค่าไฟ แต่มันรวมถึงค่าประกีนที่แพงกว่ากันมากอีก ใครใคร่ซื้ออะไรซื้อครับ
ความคุ้มมันอยู่ที่เราล้วนๆเลยครับ
บางคนบอก รถไฟฟ้ามันไม่ได้อารมณ์ เอ่อ อันยี้ก็ไม่คุ้มของเค้าได้เหมือนกันครับ

สรุป อยสกซื้ออะไรซื้อครับ ปต่ผมขอรอดูราคาหลังผรับภาษีก่อนนิดนึงครับ ไม่รีบ ที่มีตอนนีเด็ใช้ไม่ทันแล้ว

ออฟไลน์ voyager

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 506
เป็นทางเลือกที่เหมาะหรือไม่สำหรับการใช้รถเยอะ เช่น สมมติว่า ใช้รถวันละร้อยกว่ากิโล หรือปีละสี่หมื่นโล

เทียบกับรถน้ำมัน ปีละสี่หมื่นโล สมมติเอาเป็นรถญี่ปุ่นที่กินน้ำมันสัก 13กม/ลิตร
เติมเฉพาะ E20 ก็เท่ากับมีค่าเชื้อเพลิงต่อปีประมาณแสนนึงต่อปี สี่ปีก็ประมาณ สี่แสนกว่า และรวมค่าดูแลรักษาทั่วไปสำหรับรถญี่ปุ่นเฉลี่ยปีละหมื่นห้าถึงสองหมื่น (วิ่งเยอะ)  ตีกลมๆไปว่าต้องมีห้าแสนในสี่ปี สำหรับรถน้ำมันที่วิ่งปีละสี่หมื่นโล

กรณีนี้ ถ้าเราซื้อรถไฟฟ้า วิ่งเยอะก็ต้องชาร์จบ่อยขึ้น แต่ยังไงก็ตาม ประกันตัวรถและแบตเตอรี่จะหมดในปีที่สาม ถ้าในปีที่ 4 เกิดงานเข้า เช่น แบตเสื่อม ค่าแบตรถไฟฟ้าราคาสาหัสอยู่แล้ว (ถ้าเปลี่ยนเป็นโมดูลได้ก็น่าจะดี) กลายเป็นว่าที่ประหยัดค่าน้ำมันมาและไม่ต้องบำรุงรักษาอะไร จะไม่คุ้มหรือเปล่าครับ ?
และที่สำคัญขายทิ้งก็คงแทบไม่มีราคาสำหรับรถไฟฟ้าที่วิ่งเยอะ
รถอะไรครับ ประกันแบ็ตแค่สามปี ความเสี่ยงสูงครับ บางรุ่นราคาแบ็ต 70-80% ของราคารถแล้ว

ออฟไลน์ Superpong

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 315
    • อีเมล์
เป็นทางเลือกที่เหมาะหรือไม่สำหรับการใช้รถเยอะ เช่น สมมติว่า ใช้รถวันละร้อยกว่ากิโล หรือปีละสี่หมื่นโล

เทียบกับรถน้ำมัน ปีละสี่หมื่นโล สมมติเอาเป็นรถญี่ปุ่นที่กินน้ำมันสัก 13กม/ลิตร
เติมเฉพาะ E20 ก็เท่ากับมีค่าเชื้อเพลิงต่อปีประมาณแสนนึงต่อปี สี่ปีก็ประมาณ สี่แสนกว่า และรวมค่าดูแลรักษาทั่วไปสำหรับรถญี่ปุ่นเฉลี่ยปีละหมื่นห้าถึงสองหมื่น (วิ่งเยอะ)  ตีกลมๆไปว่าต้องมีห้าแสนในสี่ปี สำหรับรถน้ำมันที่วิ่งปีละสี่หมื่นโล

กรณีนี้ ถ้าเราซื้อรถไฟฟ้า วิ่งเยอะก็ต้องชาร์จบ่อยขึ้น แต่ยังไงก็ตาม ประกันตัวรถและแบตเตอรี่จะหมดในปีที่สาม ถ้าในปีที่ 4 เกิดงานเข้า เช่น แบตเสื่อม ค่าแบตรถไฟฟ้าราคาสาหัสอยู่แล้ว (ถ้าเปลี่ยนเป็นโมดูลได้ก็น่าจะดี) กลายเป็นว่าที่ประหยัดค่าน้ำมันมาและไม่ต้องบำรุงรักษาอะไร จะไม่คุ้มหรือเปล่าครับ ?
และที่สำคัญขายทิ้งก็คงแทบไม่มีราคาสำหรับรถไฟฟ้าที่วิ่งเยอะ
รถอะไรครับ ประกันแบ็ตแค่สามปี ความเสี่ยงสูงครับ บางรุ่นราคาแบ็ต 70-80% ของราคารถแล้ว

หมายถึงรถ BEV ทั่วไปที่เห็น ประกันแบต 8 ปี หรือ 150000-180000กิโลเมตร แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน ซึ่งกรณีที่ใช้เยอะเช่นปีละสี่หมื่นโล ประกันแบตก็น่าหมดตั้งแต่4ปีหรือเปล่าครับ? หรือคิดแค่จำนวนปี ไม่สนใจระยะทางที่ใช้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 01, 2021, 16:53:14 โดย Superpong »

Gunther

  • บุคคลทั่วไป
แบตเตอรี่ในรถยนต์ไฟฟ้าจะเสื่อมลง 1% ถ้าวิ่งไปแล้ว 10,000km ครับ ขึ้นอยู่กับรูปแบบในการใช้งานครับ

ออฟไลน์ bahamu

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 687
ถ้าเป็นรถบ.วิ่งงาน 5ปี ตัดเป็นศูนย์จำหน่ายออกตามบัญชี
รถถ่านล้านหนึ่ง คุ้มกว่าน้ำมัน ขายให้ลูกน้องถูกๆไปดีกว่าเข้าเต๊นท์
ถ่านประกัน8-10ปีแล้วแต่ยี่ห้อ เงิ่อนไข
อะไหล่ไม่โหดกว่าอัลพาร์คไฮบริดเบิกห้างแน่ รุ่นแรกขับสี่เปลี่ยนชิ้นละแสนขึ้น
เสียทุกคัน จนมีของหิ้วชุดซ่อม จอค้างภาษาขอมแก้ทีหมื่น ซ่อมเสร็จขายทิ้ง

รถถ่านจีนอะไหล่ไม่น่าแพงเท่า ที่โน้นใช้รถวิ่งเยอะกว่าไทย เสียง่ายออกข่าวไปแล้ว
อะไหล่เทียบตรงรุ่นมีขาย รุ่นไหนขายดีหาไม่ยาก



มีองค์กรใหญ่ ซื้อรถถ่านเป็นร้อยคันไปใช้แทนรถน้ำมัน
ถ้าไม่ทน คงไม่จ่ายทีเกือบร้อยล้านซื้อของเสียมาใช้


รังถ่านbyd ฮั่น 400v ใช้ถ่าน blad ถ่านรุ่นใหม่รองรับถึงรถถ่าน800v

รถถ่านวิ่งไปแสนโลในไทยล้านสอง ยังลดไม่ถึง10%
อย่างใบไม้ที่วิ่งเกินสองแสนโล ถ่านอ่อนกินไฟ เปลี่ยนที่ศูนย์แพงเกิน
ก็ส่งร้านนอกไปกระตุ้นรังถ่าน ใช้ได้80% จ่ายหลักหมื่น
ถ้าถ่านตาย จะแกะตับที่เสียมาตรวจทีละก้อน เปลี่ยนเฉพาะก้อนที่เสีย
ที่ถ่านเสื่อมเร็ว เพราะระบายความร้อนรังถ่านด้วยอากาศ
ถ้าใช้น้ำจะทนกว่ามาก บ้านเราร้อนจัด ต้องระบายความร้อนดีทุกระบบ
ยังไม่เจอคันไหนที่ใช้เก่าจน พลาสติกข้างหม้อน้ำแตก
เพราะร้อนสุดแค่4-50องศา ต่างจากน้ำมันที่90-110องศา แบต12vใช้ทนกว่ากันเยอะ


catl nmc ก้อนละ200amp ขนาดเล็กกว่า nmcรุ่นเก่า

ส่วนทีว่าคุ้มไม่คุ้ม ถ้ารอรถเปลี่ยนโฉมเปลี่ยนถ่านใหม่มาให้ควรรอ
ห้าปีประหยัดกว่าสี่แสน ขายรถไปสองแสนยังไม่เจ็บมาก วิ่งเกือบสองแสนโล

เก๋งบางคันวิ่งปีละแสนโลกก็มี ดูใหม่เอี่ยมเบาะคนขับทรุดซะแล้ว นั่งทับทั้งวันทั้งคืน
อย่างแท๊กซี่เจ้าตลาด 1.8 ผ่อนทีล้านแปด
วิ่งไป9ปี สามแสนห้าหมื่นโลขาย ได้ไม่เกินห้าหมื่นบาท
ต้องเป็นที่เช่าขับกะ หรือคนรับรอง ไม่งั้นซื้อมาซ่อมใหญ่ไม่คุ้ม ล้าทั้งคัน
ยอมซื้อรถบ้านสวยๆราว2-3แสน ซ่อมจบมาใช้คุ้มกว่า บางคันวิ่งไม่ถึงแสนโลแต่หายาก

้เมื่อคำนวนจากเงินผ่อน 4-5ปี ดอก0-2% ระยะทางวิ่งภายใน5ปี แล้วขายทิ้ง
รถถ่านล้านบาทจ่ายน้อยกว่า ถูกกว่ารถน้ำมันล้านบาท แม้แต่เช่ารถน้ำมันขับ
เงินที่ได้คืนจากค่าน้ำมัน เป็นทุนไว้เทิรนรถถ่านคันใหม่

ดาวอังคาร ใบพัด รักษาลูกค้าเก่าด้วยวิธีนี้
ค่าผ่อนรถ=ค่าเช่ารายเดือน มีประกันซ่อมฟรี5ปี
รับเทิรนรถเก่าให้ราคาสูง จนมีไลน์กลุ่มเฉพาะลูกค้าเก่า
ใครหาได้ทุกเดือน ผ่อนเทิรนรถไหว น่าเล่น แต่รถถ่านสองค่ายนี้เกินล้านไปมาก

รอดูอัตราภาษีใหม่ ราคารถถ่านลดลงแค่ไหน ประกันดีเพียงใด ค่อยคิดซื้อคุ้มกว่า


3 รุ่นล่างใส่ถ่านตลับcatl ดีกว่าถ่านรุ่นเก่า


จีนแดงคิดค้นเครื่องไอพ่นพลาสม่า สำหรับเครื่องบินใช้ในโลกได้สำเร็จ
ไม่เกิน30ปีนี้คงได้ประจำการ พลังงานสะอาดแทนน้ำมัน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 02, 2021, 08:28:18 โดย bahamu »

ออฟไลน์ Newhang

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,338
ถ้าราคารถevแพงเหมือนทุกวันนี้ วิ่งมากวิ่งน้อยไม่คุ้ม
เป็นของเล่นคนรวย พอใช้เสร็จไม่มีคนเอา

ขนาด hybrid ถ้าจะเอาให้คุ้มยากเลยครับ
คิดเล่นๆ เกิดอะไรนิดหน่อยไม่อยากใช้ต่อ ที่ว่าจะคุ้มจะคุ้ม กลายเป็นไม่คุ้มง่ายดายเลยครับ

ออฟไลน์ NS

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,718
  • การเดินทางครั้งใหม่
  ปัญหาหลักๆเลยคือความสะดวกในการใช้งานครับ​ การชาร์จใช้เวลานาน​ วิ่งได้ไม่ไกลมาก หาที่ชาร์จลำบาก​ ไม่คุ้มค่าในความคิดผมแล้วครับ
จะเลือกรถหรือเมีย....

...รถสิคร๊าฟ

ออฟไลน์ Auto

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,635
Re: ใช้รถเยอะ ถือว่าคุ้มไหมสำหรับการลงทุนซื้อรถไฟฟ้า
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: พฤศจิกายน 02, 2021, 10:01:41 »
คุ้มครับ  ถ้าวิ่งวันละ 100 km ขึ้นไป   มีระยะทางและเส้นทางวิ่งแน่นอนอยู่แล้ว    ซื้อรถไฟฟ้ามาเลยดีกว่า   ดีกว่าติดแก๊ส  เห็นมีกระทู้ถามXL7  นี่ครับวิ่งวันละ 100 km จะเอามาติดแก๊ส    ผมว่าเปลี่ยนเป็นรถไฟฟ้าคุ้มกว่าแน่นอนครับ

ออฟไลน์ +@ Krishna @+

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,295
  • *_* รถที่ดี คือ รถที่ใช้แล้วมีความสุข ^_^
Re: ใช้รถเยอะ ถือว่าคุ้มไหมสำหรับการลงทุนซื้อรถไฟฟ้า
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: พฤศจิกายน 02, 2021, 11:37:22 »
  ปัญหาหลักๆเลยคือความสะดวกในการใช้งานครับ​ การชาร์จใช้เวลานาน​ วิ่งได้ไม่ไกลมาก หาที่ชาร์จลำบาก​ ไม่คุ้มค่าในความคิดผมแล้วครับ

+1

รถไฟฟ้าจีนคุ้ม ไม่ได้แพงมาก แต่ไม่สะดวก

ออฟไลน์ no7749

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 99
Re: ใช้รถเยอะ ถือว่าคุ้มไหมสำหรับการลงทุนซื้อรถไฟฟ้า
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: พฤศจิกายน 02, 2021, 13:29:00 »
แบต BEV จีนไม่รู้เป็นไง
แต่แบต BEV อเมกา ยุโรป ใช้กัน 2-3แสนโล แตะเกือบ10ปี แบตเสื่อมเต็มที่หลัก 10%เอง

ถ้าปีหน้า เกาหลี อเมกา ยุโรปไหลเข้ามาในราคาที่เหมาะสม(ไม่มีคำว่าถูก)​ บ้านผมคันที่ใช้มากสุดวิ่ง 3ปี 150,000โลนี้คุ้มค่าน้ำมันแน่นอน แถม BEV จะกลายเป็นที่รอลูกรอแฟน นั่งทำงานพิมพ์​คอม เป็นที่กินอาหาร หรือแม้นแต่เป็นที่นอน
ซื้อรถ BEV ที่ดีและมีขนาดพอเหมือนได้ห้องน็อคดาวน์ติดแอร์เคลื่อนที่ได้

+1 คุ้มไม่คุ้ม จริงๆขึ้นอยู่กับ พฤติกรรมจริงๆ อันนี้อยากได้ BEV เพราะว่า เป็นห้องน๊อคดาวน์ติดแอร์เคลื่อนที่ได้ เพราะว่าต้องรอแฟน ให้หมานั่งรอในรถ นั่งทำงานโดยไม่ติดเครื่อง หรือ นอนแม้งเลยก็สบายกว่า............

แต่ถ้าคนเน้นขับอย่างเดียวอาจจะไม่คุ้ม แต่ผมจะซื้อมันเพราะว่า เป็นห้องน๊อคคาวน์ที่เคลื่อนที่ได้แหละ

Forty Five

  • บุคคลทั่วไป
Re: ใช้รถเยอะ ถือว่าคุ้มไหมสำหรับการลงทุนซื้อรถไฟฟ้า
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: พฤศจิกายน 02, 2021, 20:00:31 »
ถ้าเป็นรถบ.วิ่งงาน 5ปี ตัดเป็นศูนย์จำหน่ายออกตามบัญชี
รถถ่านล้านหนึ่ง คุ้มกว่าน้ำมัน ขายให้ลูกน้องถูกๆไปดีกว่าเข้าเต๊นท์
ถ่านประกัน8-10ปีแล้วแต่ยี่ห้อ เงิ่อนไข
อะไหล่ไม่โหดกว่าอัลพาร์คไฮบริดเบิกห้างแน่ รุ่นแรกขับสี่เปลี่ยนชิ้นละแสนขึ้น
เสียทุกคัน จนมีของหิ้วชุดซ่อม จอค้างภาษาขอมแก้ทีหมื่น ซ่อมเสร็จขายทิ้ง

รถถ่านจีนอะไหล่ไม่น่าแพงเท่า ที่โน้นใช้รถวิ่งเยอะกว่าไทย เสียง่ายออกข่าวไปแล้ว
อะไหล่เทียบตรงรุ่นมีขาย รุ่นไหนขายดีหาไม่ยาก



มีองค์กรใหญ่ ซื้อรถถ่านเป็นร้อยคันไปใช้แทนรถน้ำมัน
ถ้าไม่ทน คงไม่จ่ายทีเกือบร้อยล้านซื้อของเสียมาใช้


รังถ่านbyd ฮั่น 400v ใช้ถ่าน blad ถ่านรุ่นใหม่รองรับถึงรถถ่าน800v

รถถ่านวิ่งไปแสนโลในไทยล้านสอง ยังลดไม่ถึง10%
อย่างใบไม้ที่วิ่งเกินสองแสนโล ถ่านอ่อนกินไฟ เปลี่ยนที่ศูนย์แพงเกิน
ก็ส่งร้านนอกไปกระตุ้นรังถ่าน ใช้ได้80% จ่ายหลักหมื่น
ถ้าถ่านตาย จะแกะตับที่เสียมาตรวจทีละก้อน เปลี่ยนเฉพาะก้อนที่เสีย
ที่ถ่านเสื่อมเร็ว เพราะระบายความร้อนรังถ่านด้วยอากาศ
ถ้าใช้น้ำจะทนกว่ามาก บ้านเราร้อนจัด ต้องระบายความร้อนดีทุกระบบ
ยังไม่เจอคันไหนที่ใช้เก่าจน พลาสติกข้างหม้อน้ำแตก
เพราะร้อนสุดแค่4-50องศา ต่างจากน้ำมันที่90-110องศา แบต12vใช้ทนกว่ากันเยอะ


catl nmc ก้อนละ200amp ขนาดเล็กกว่า nmcรุ่นเก่า

ส่วนทีว่าคุ้มไม่คุ้ม ถ้ารอรถเปลี่ยนโฉมเปลี่ยนถ่านใหม่มาให้ควรรอ
ห้าปีประหยัดกว่าสี่แสน ขายรถไปสองแสนยังไม่เจ็บมาก วิ่งเกือบสองแสนโล

เก๋งบางคันวิ่งปีละแสนโลกก็มี ดูใหม่เอี่ยมเบาะคนขับทรุดซะแล้ว นั่งทับทั้งวันทั้งคืน
อย่างแท๊กซี่เจ้าตลาด 1.8 ผ่อนทีล้านแปด
วิ่งไป9ปี สามแสนห้าหมื่นโลขาย ได้ไม่เกินห้าหมื่นบาท
ต้องเป็นที่เช่าขับกะ หรือคนรับรอง ไม่งั้นซื้อมาซ่อมใหญ่ไม่คุ้ม ล้าทั้งคัน
ยอมซื้อรถบ้านสวยๆราว2-3แสน ซ่อมจบมาใช้คุ้มกว่า บางคันวิ่งไม่ถึงแสนโลแต่หายาก

้เมื่อคำนวนจากเงินผ่อน 4-5ปี ดอก0-2% ระยะทางวิ่งภายใน5ปี แล้วขายทิ้ง
รถถ่านล้านบาทจ่ายน้อยกว่า ถูกกว่ารถน้ำมันล้านบาท แม้แต่เช่ารถน้ำมันขับ
เงินที่ได้คืนจากค่าน้ำมัน เป็นทุนไว้เทิรนรถถ่านคันใหม่

ดาวอังคาร ใบพัด รักษาลูกค้าเก่าด้วยวิธีนี้
ค่าผ่อนรถ=ค่าเช่ารายเดือน มีประกันซ่อมฟรี5ปี
รับเทิรนรถเก่าให้ราคาสูง จนมีไลน์กลุ่มเฉพาะลูกค้าเก่า
ใครหาได้ทุกเดือน ผ่อนเทิรนรถไหว น่าเล่น แต่รถถ่านสองค่ายนี้เกินล้านไปมาก

รอดูอัตราภาษีใหม่ ราคารถถ่านลดลงแค่ไหน ประกันดีเพียงใด ค่อยคิดซื้อคุ้มกว่า


3 รุ่นล่างใส่ถ่านตลับcatl ดีกว่าถ่านรุ่นเก่า


จีนแดงคิดค้นเครื่องไอพ่นพลาสม่า สำหรับเครื่องบินใช้ในโลกได้สำเร็จ
ไม่เกิน30ปีนี้คงได้ประจำการ พลังงานสะอาดแทนน้ำมัน

น่าสนใจครับ