ผู้เขียน หัวข้อ: ตัวเลือก D-segment หรือ C-SUV (ค่ายญี่ปุ่น)  (อ่าน 6739 ครั้ง)

ออฟไลน์ palma

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,128
    • อีเมล์
Re: ตัวเลือก D-segment หรือ C-SUV (ค่ายญี่ปุ่น)
« ตอบกลับ #30 เมื่อ: พฤศจิกายน 02, 2021, 15:49:21 »
ลูกและภรรยาผม ชอบ D-seg มากกกกก ที่สุด  แบบไม่ยอมมองคันไหนเลย ถ้ามี D-seg ให้เลือก จะเอาคันนั้นทุกครั้ง

นั่นคือในมุมมองของผู้โดยสาร ซึ่งออกมาชัดเจนมาก  และ จะมีคำถามตอลดว่า "ทำไม ไม่ขับคันนั้นไป"




** ใช้งานเดินทาง ตจว. 90% ในกทม 10% **
2023 : SK9 FB20 ES4.0 SAWD
2017 : NSP170R-2NR-FE+CVT
2015 : B17-MR16DDT+CVT-M6
2014 : L33-QR25DE+CVT-8
1995 : SXV10-3S-FE (sold)
1994 : AE101-4AFE+MT (sold)

ออฟไลน์ bluelawn

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 664
Re: ตัวเลือก D-segment หรือ C-SUV (ค่ายญี่ปุ่น)
« ตอบกลับ #31 เมื่อ: พฤศจิกายน 02, 2021, 16:13:37 »

ถ้างบไป D-seg ตัวท็อป ผมยอมไป g20 320d ครับ ถ้าใช้รถ 5-7ปี

ขับดีกว่า D seg ทุกรุ่น โดยเฉพาะวิ่งไกลๆนิ่งๆ
bsi ซ่อมฟรี
แรงกว่า + ประหยัดมาก เครื่อง b48 diesel 2.0
G20 นั่งหลังสบายครับ คันไหญ่พอๆกะ D seg นั้นแหละ

G20 นี่ชอบมากครับ 555 แต่เกินงบไปเยอะเลยครับ  :'(


G20 320d sport รวมส่วนลด 2ล้านถ้วนครับ ไม่รวมของแถม ผ่อนแทบไม่ต่างกะ accord/camry top
ถ้าตึงไปหน่อย F30 มือสอง ปี17-18 ใหม่ๆ ไม่เกิน 1.5 ล้านครับ ยังไงมี BSI ก็ไม่มีต่าใช้จ่ายเพิ่มเติม


ออฟไลน์ ThisIsYuTh

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 291
Re: ตัวเลือก D-segment หรือ C-SUV (ค่ายญี่ปุ่น)
« ตอบกลับ #32 เมื่อ: พฤศจิกายน 02, 2021, 18:01:54 »


ประมาณ 8-9 ครับถ้าติดแบบทั่วไป ไม่ใช่ระดับฝนตกเย็นวันศุกร์อะไรแบบนั้น

ผมขับราชพฤกษ์ - ราชประสงค์ ทุกวันตอนเช้า-เย็น
ประหยัดกว่าที่คิดนะครับ เครื่องแรงขนาดนั้น ???

ผมก็เซอร์ไพรซ์ตรงนี้เหมือนกันครับ ตอนซื้อคิดว่า 7-8 ตลอดแน่ๆ แต่เอาเข้าจริงไม่เคยลงไปต่ำกว่า 8 เลยจากการขับจริง ส่วนนึงเพราะมันเป็นเครื่องเทอร์โบที่ไม่ใช่ Downsize ก็เลยมีแรงเหลือๆ ถึงบูสต์จะยังมาไม่เยอะก็มีแรงครับ บุคลิคคล้ายๆ รถดีเซลเทอร์โบตรงที่แรงดึงสูงตั้งแต่รอบต่ำ ทำให้เราไม่ต้องกดหนักๆ แม้ในความเร็วสูง ช่วงความเร็ว 120-160 คือดินแดนของเครื่องตัวนี้เลยครับ
2020 - Mazda CX-5 2.5T (KF)
2016 - Subaru XV (GP)
2013 - Mitsubishi Pajero Sport (KG)
2010 - Honda Civic (FD)
2006 - BMW 3 Series (E36)

Forty Five

  • บุคคลทั่วไป
Re: ตัวเลือก D-segment หรือ C-SUV (ค่ายญี่ปุ่น)
« ตอบกลับ #33 เมื่อ: พฤศจิกายน 02, 2021, 20:05:02 »
Toyota Camry 2.5G ครับ พรุ่งนี้ก็ Minorchange แล้ว…..

ออฟไลน์ aleebahbah

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 385
    • อีเมล์
Re: ตัวเลือก D-segment หรือ C-SUV (ค่ายญี่ปุ่น)
« ตอบกลับ #34 เมื่อ: พฤศจิกายน 02, 2021, 20:05:35 »
ถ้าเราเอาไม้บันทัดมาวัดห้องโดยสารภายใน มันมีอะไรบ้างที่ C-SUV สู้ได้

C-SUV ที่ขายอยู่ตอนนี้มันเป็นพื้นฐานรถ C-segment hatchback ที่เอามายกสูก ถ้าจะเอา SUV ที่เทียบ D-segment ได้จริงๆในไทยมันไม่มีขาย (Toyota Highlander, Subaru Ascent, และอื่นๆ)

คำตอบที่ผมได้เสมอคือ "เก็บของได้เยอะกว่า" ถ้าคุณขนอะไรที่มันสูงและใหญ่โตอย่างตู้เย็นมันก็อาจจะจริงถ้าพับเบาะแถวสอง แต่ที่คนส่วนใหญ่ใช้ขนของที่มีขนาดใหญ่และไม่ได้พับเบาะแถวสองคือพวกกระเป๋าเดินทาง ซึ่ง D-segment จุได้เยอะกว่า ความคิดที่ว่า C-SUV จุของได้เยอะมันเป็น illusion เพราะตัวรถดูสูงกว่า

ขนาด Altis ที่สนามบินที่ติดแก๊สมันยังขนกระเป๋าเดินทางของ 3 คนได้เลย ทำไมอยู่ดีๆรถ D-segment มันจะไม่พอสำหรับ2คน?

ถ้าจะเอา Accord/Camry มาเทียบ CX-9, Highlander, Ascent, Pilot อันนั้นก็เป็นอีกเรื่องนึง แต่ผมมองว่าคำถามจขกท. เหมือนเอา Altis เทียบ Camry
มันเป็นรถคนละขนาด คนละเรื่อง แต่ใน case นี้แค่ราคาเท่ากัน เลยตอบได้ง่ายๆว่า D-segment เถอะ
สงสัยต้องลองไปเทียบพื้นที่ใช้สอยจริงๆจังๆ ดูมั่งละครับ

ลูกและภรรยาผม ชอบ D-seg มากกกกก ที่สุด  แบบไม่ยอมมองคันไหนเลย ถ้ามี D-seg ให้เลือก จะเอาคันนั้นทุกครั้ง

นั่นคือในมุมมองของผู้โดยสาร ซึ่งออกมาชัดเจนมาก  และ จะมีคำถามตอลดว่า "ทำไม ไม่ขับคันนั้นไป"




** ใช้งานเดินทาง ตจว. 90% ในกทม 10% **
คนนั่งนี่ได้ความสบายจริงครับ นุ่มนวล


ถ้างบไป D-seg ตัวท็อป ผมยอมไป g20 320d ครับ ถ้าใช้รถ 5-7ปี

ขับดีกว่า D seg ทุกรุ่น โดยเฉพาะวิ่งไกลๆนิ่งๆ
bsi ซ่อมฟรี
แรงกว่า + ประหยัดมาก เครื่อง b48 diesel 2.0
G20 นั่งหลังสบายครับ คันไหญ่พอๆกะ D seg นั้นแหละ

G20 นี่ชอบมากครับ 555 แต่เกินงบไปเยอะเลยครับ  :'(


G20 320d sport รวมส่วนลด 2ล้านถ้วนครับ ไม่รวมของแถม ผ่อนแทบไม่ต่างกะ accord/camry top
ถ้าตึงไปหน่อย F30 มือสอง ปี17-18 ใหม่ๆ ไม่เกิน 1.5 ล้านครับ ยังไงมี BSI ก็ไม่มีต่าใช้จ่ายเพิ่มเติม


ถ้าลดแลัวเหลือ2ล้านถ้วน มีหวั่นไหวเลยครับ  ;D



ประมาณ 8-9 ครับถ้าติดแบบทั่วไป ไม่ใช่ระดับฝนตกเย็นวันศุกร์อะไรแบบนั้น

ผมขับราชพฤกษ์ - ราชประสงค์ ทุกวันตอนเช้า-เย็น
ประหยัดกว่าที่คิดนะครับ เครื่องแรงขนาดนั้น ???

ผมก็เซอร์ไพรซ์ตรงนี้เหมือนกันครับ ตอนซื้อคิดว่า 7-8 ตลอดแน่ๆ แต่เอาเข้าจริงไม่เคยลงไปต่ำกว่า 8 เลยจากการขับจริง ส่วนนึงเพราะมันเป็นเครื่องเทอร์โบที่ไม่ใช่ Downsize ก็เลยมีแรงเหลือๆ ถึงบูสต์จะยังมาไม่เยอะก็มีแรงครับ บุคลิคคล้ายๆ รถดีเซลเทอร์โบตรงที่แรงดึงสูงตั้งแต่รอบต่ำ ทำให้เราไม่ต้องกดหนักๆ แม้ในความเร็วสูง ช่วงความเร็ว 120-160 คือดินแดนของเครื่องตัวนี้เลยครับ
เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจขึ้นเยอะครับ ได้ข้อมูลจากผู้ใช้จริงด้วย  8)