พอดีมี (ซาก) รถ BMW E12 วางเครื่อง 1G-GTE (Water-cooled) เกียร์ AT
เป็นของคนรู้จักครับ ฝากมากู้ชีพหลังจากจอดนานเกิน 10ปี ทางผมเลยไม่มีข้อมูลใดๆ (ให้โจทย์ว่า ทำให้วิ่งได้ แหละประหยัดงบเท่าที่จะทำได้)
จากการเอามาให้ช่างรื้อเครื่องดู เครื่องยังหมุนได้ครับ แต่สตาร์ทไม่ได้เนื่องจากกล่องเครื่องหายสาบสูญไปแล้ว
ทางช่างแนะนำว่าให้โดดไปเล่นพวกกล่อง Stand Alone เพื่อคุมเครื่องโดยตรง (ไม่ต้องพ่วงกล่องเดิม) รวมถึงตัดการใช้ air mass sensor (หรือ air flow sensor นี่แหละ) และแปลงไปใช้ระบบ direct coil ด้วย
ไอผมมันไม่สันทัดกับพวกการพ่วงกล่องเลยอยากสอบถามครับ ว่าถ้าต้องการฟังก์ชั่นแค่
- คุมเครื่อง & ระบบรถหลักๆ ให้วิ่งได้ + แอบซิ่งนิดหน่อย (ไม่ได้ถึงกับระดับลงสนาม)
- ตัดการใช้ air mass (หรือ air flow)
- แปลง direct coil
- จูนใช้น้ำมัน E20 เป็นหลัก
- ปลด 180 (ถ้าเดิมๆมันติดอยู่ ซึ่งไม่แน่ใจว่าติดมั้ย)
- มีช่องต่อ OBD2 (มีก็ดี ไม่มีก็ได้)
ควรไปลงกับตัวไหนดีครับ ในงบ 15-20k (หรือมากกว่าอีกหน่อยก็ได้ถ้าจำเป็น)
และอีกเล็กน้อย คือเรื่องเกียร์ครับ คือเกียร์เดิมเป็น AT กี่สปีดไม่รู้ เท่าที่คุยกับช่าง ถ้ารถจอดนานเกิน ให้ assume ว่าเกียร์พังได้เลย บวกกับความคันไม้คันมือส่วนตัวด้วย เลยอยากจะเปลี่ยนไปเป็น MT ซึ่งผมเห็นว่าเกียร์ 1G มีคนเอาไปทำหัวหมูใส่กับตระกูล JZ กันเป็นส่วนมาก ช่างเลยแนะนำให้ชนเกียร์ไมตี้ เพราะหาง่าย + ไม่แพง แล้วใช้การทดเฟืองท้ายแก้เอา
ก็เลยมีคำถามว่า
- ถ้าเกียร์ 1G ไปทำหัวหมูใส่ JZ มาแล้ว ยังเอากลับมาใช้กับเครื่อง 1G ได้อยู่มั้ยครับ
- เกียร์ 1G ควรจับกับเฟืองท้ายเบอร์ไหน
- ถ้าใช้เกียร์ไมตี้ ควรจับกับเฟืองท้ายเบอร์ไหน
และคำถามสุดท้าย เรื่องเทอร์โบครับ พอดีผมไปอ่านเจอว่า 1G-GTE ใช้เทอร์โบ CT-12 แบบ sequential เหมือนกับ 1JZ-GTE ตัวหลังตะขาบ เลยอยากรู้ว่าเอามาใช้กันได้เลยมั้ยครับ (ไม่นับเรื่องเฮดเดอร์ที่จะตีใหม่อยู่แล้ว)
สุดท้ายนี้ขอขอบคุณล่วงหน้าสำหรับทุกคำตอบและทุกข้อมูลนะครับ ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยครับ เพิ่งตั้งกระทู้ครั้งแรก
ปล. เผื่อมีคนถามว่าทำไมไม่ยกวางเครื่องตัวอื่นใหม่ๆไปเลย ขอตอบว่าเป็นเรื่องของงบประมาณครับ บวกกับเห็นว่าเครื่องเดิมยังหมุนได้อยู่ ไม่มีสูบติด เปิดฝาดูยังใสๆครับ เลยคิดว่าถ้าทำใช้งานเฉยๆน่าจะไปต่อได้ (ในใจถ้าเป็นรถตัวเองจะยกวาง M20B25 หรือ B27 ให้รู้แล้วรู้รอด แต่ติดที่ไม่ใช่รถตัวเองนี่แหละครับ
)