ผู้เขียน หัวข้อ: สงสาร Mitsubishi จัง Cruze ออกมาจะไม่แย่ไปกันใหญ่หรือ(เลิกขาย Lancer EX ไปเลยดีไหม)  (อ่าน 22319 ครั้ง)

ออฟไลน์ 0%

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,581
ช่วยไม่ได้ ตอนโปรดักซ์ตัวเองใหม่ๆคนสนใจเยอะ ก็เอามาขายไม่ทัน

ตอนนี้ยี่ห้ออื่นมีของดีกว่า ใหม่กว่า สดกว่า

อันนี้ก็ดูจืดไปเป็นธรรมดา

ออฟไลน์ patzahut

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,091
ผมว่า Option มันขาดไปในจุดที่สำคัญพอดี คือกระจกขึ้น Auto นี่แหละ    แต่ ถ้าได้ลองใช้มัน กระจกบานคนขับ Only จะมีมอเตอร์ที่แรงกว่าบานอื่นๆครับ  ผมจับเวลาดู การขึ้นลงของกระจกบานคนขับมัน < 4 วิ ครับ  ถือว่าเร็วดี

ที่สนใจซื้อน้องหลามก็เพราะด้วย Performance ของรถ + ขนาดของมัน ถือได้ว่าเป็น Upper C secment  หลายๆท่านบอกว่าพื้นที่ด้านหลังใหญ่พอๆกับ accord รุ่นเก่า

ติชมไปเลยครับ  ชอบๆ  ทุกยี่ห้อ ทุกรุ่นไม่มีอันไหนไม่มีข้อเสียแหละครับ   แต่ผมแค่รู้สึกเล็กๆว่า น้องหลามจะโดนโจมตีมากกว่าทุกรุ่น  คงเป็นเพราะหลายๆท่านคาดหวังกับรุ่นนี้มากเกินไป   มั้ง :D

ออฟไลน์ 6162002

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,089
ผมว่า Option มันขาดไปในจุดที่สำคัญพอดี คือกระจกขึ้น Auto นี่แหละ    แต่ ถ้าได้ลองใช้มัน กระจกบานคนขับ Only จะมีมอเตอร์ที่แรงกว่าบานอื่นๆครับ  ผมจับเวลาดู การขึ้นลงของกระจกบานคนขับมัน < 4 วิ ครับ  ถือว่าเร็วดี

ที่สนใจซื้อน้องหลามก็เพราะด้วย Performance ของรถ + ขนาดของมัน ถือได้ว่าเป็น Upper C secment  หลายๆท่านบอกว่าพื้นที่ด้านหลังใหญ่พอๆกับ accord รุ่นเก่า

ติชมไปเลยครับ  ชอบๆ  ทุกยี่ห้อ ทุกรุ่นไม่มีอันไหนไม่มีข้อเสียแหละครับ   แต่ผมแค่รู้สึกเล็กๆว่า น้องหลามจะโดนโจมตีมากกว่าทุกรุ่น  คงเป็นเพราะหลายๆท่านคาดหวังกับรุ่นนี้มากเกินไป   มั้ง :D
ผมว่าก็จริงนะครับ คงเพราะมันมาทีหลัง เลยคาดหวังกันว่ามันน่าจะเริดกว่านี้ 55

ออฟไลน์ Dark Overlord

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,804
  • Hail to the darkside
ผมว่า Option มันขาดไปในจุดที่สำคัญพอดี คือกระจกขึ้น Auto นี่แหละ    แต่ ถ้าได้ลองใช้มัน กระจกบานคนขับ Only จะมีมอเตอร์ที่แรงกว่าบานอื่นๆครับ  ผมจับเวลาดู การขึ้นลงของกระจกบานคนขับมัน < 4 วิ ครับ  ถือว่าเร็วดี

ที่สนใจซื้อน้องหลามก็เพราะด้วย Performance ของรถ + ขนาดของมัน ถือได้ว่าเป็น Upper C secment  หลายๆท่านบอกว่าพื้นที่ด้านหลังใหญ่พอๆกับ accord รุ่นเก่า

ติชมไปเลยครับ  ชอบๆ  ทุกยี่ห้อ ทุกรุ่นไม่มีอันไหนไม่มีข้อเสียแหละครับ   แต่ผมแค่รู้สึกเล็กๆว่า น้องหลามจะโดนโจมตีมากกว่าทุกรุ่น  คงเป็นเพราะหลายๆท่านคาดหวังกับรุ่นนี้มากเกินไป   มั้ง :D

คิดเหมือนกันว่าหุ่นมัน Upper C segment จริงๆ นะ นี้ก็เป็นข้อดี ที่ดีมากๆ ข้อนึงเลยนะคับ

ออฟไลน์ karataekung

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 33
ผมว่า Option มันขาดไปในจุดที่สำคัญพอดี คือกระจกขึ้น Auto นี่แหละ    แต่ ถ้าได้ลองใช้มัน กระจกบานคนขับ Only จะมีมอเตอร์ที่แรงกว่าบานอื่นๆครับ  ผมจับเวลาดู การขึ้นลงของกระจกบานคนขับมัน < 4 วิ ครับ  ถือว่าเร็วดี

ที่สนใจซื้อน้องหลามก็เพราะด้วย Performance ของรถ + ขนาดของมัน ถือได้ว่าเป็น Upper C secment  หลายๆท่านบอกว่าพื้นที่ด้านหลังใหญ่พอๆกับ accord รุ่นเก่า

ติชมไปเลยครับ  ชอบๆ  ทุกยี่ห้อ ทุกรุ่นไม่มีอันไหนไม่มีข้อเสียแหละครับ   แต่ผมแค่รู้สึกเล็กๆว่า น้องหลามจะโดนโจมตีมากกว่าทุกรุ่น  คงเป็นเพราะหลายๆท่านคาดหวังกับรุ่นนี้มากเกินไป   มั้ง :D

สำหรับผมถ้าดู performance อย่างเดียวผมก้อคงเลือกเจ้าฉลามน้อย แต่อย่างว่าคนเราซื้อรถก้อดูการใช้งานเป็นหลัก
ทุกวันนี้ผมต้องเปิดกระจกข้างคนขับขึ้นลงอย่างน้อยวันละ 2 ครั้งตอนเข้าออกทำงาน และผมจะหงุดหงิดถ้ามันไม่ออโต้ และเวลาจอดรถผมต้องพับกระจกทั้งสองข้างอยู่ตลอด มันดูกลายเป็นจุดใหญ่ไปเลย สำหรับบางคนที่เห็นว่าเป็นเรื่องเล็ก
ส่วนตัวผมชอบเจ้าหลาม แต่ถ้าให้ซื้อคงต้องคิดดูก่อน ผมว่าเป็นอย่างนี้ทุกคน ถ้าไม่ยอมเปลี่ยนแปลงละก้อ จุดอื่นผมไม่สนใจมากเท่ารัย เรื่องภายในหรืออะไรก้อตาม ผมขอแค่ 2 ข้อนี้ ถ้าแก้ได้ เจ้าหลามน้อยได้มาจอดในบ้านผมแน่นอน...

ออฟไลน์ Still Loving You

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 24
สำหรับผม ผมคิดว่าน่าจะมีรุ่น 1.6 มาเป็นอีกทางเลือกนะครับ...mass มันอยู่ที่ 1.6 นี่แหละครับ

ออฟไลน์ karataekung

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 33
สำหรับผม ผมคิดว่าน่าจะมีรุ่น 1.6 มาเป็นอีกทางเลือกนะครับ...mass มันอยู่ที่ 1.6 นี่แหละครับ

ความเห็นส่วนตัวนะครับ ถ้ามี 1.6 ผมคนนึงแหละไม่เลือกแน่นอน สำหรับ EX 1.6 ผมว่า ไปเล่น festa ดีกว่าหรือรถเล็กรุ่นอื่นดีกว่า

ออฟไลน์ YIM

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,015
  • ไม่น่ารัก เราไม่มอง!!
    • อีเมล์
ยังไงผมก็เชื่อว่า จะต้องมีจับตลาดล่างมาสักวันแน่ๆ เพราะ New Lancer มันอยู่เกินอายุตลาดไปนานแล้ว ไม่มีทางที่มันจะอยู่ตลอดไปหรอกครับ ยิ่งตัวรถขายตลาดบนไม่ออกแบบนี้ ยังไง MMTh ก็น่าจะหาทางรอดให้ได้ทางใดทางหนึ่ง ยกเว้นเสียแต่ว่า จะมี Colt Sedan มาขายแทน New Lancer (ซึ่งก็คงจะยากอยู่ดี)
JDM เท่านั้น จะครองโลก!

ออฟไลน์ patzahut

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,091
ที่ต่างประเทศเค้าใช้ตัว 1.5 ลิตรกันครับ  ผมว่าถ้าตัวนี้มาก็น่าสนใจเหมือนกัน  ประหยัดน้ำมัน   แต่เค้าคงคิดว่าให้ new lancer ทำตลาดสู้รถเล็กไปแล้วมั้งครับ

ออฟไลน์ LimitedEdition

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,410
รถจะขายดี มันไม่ได้อยู่ที่ตัวรถอย่างเดียวหรอกครับ

มิตซูบิชิยังมีหลายอย่างที่ต้องทำ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นของแบรนด์ให้กลับมาอยู่ในใจลูกค้าให้ได้
อย่างที่ผมเคยเล่าๆ ไป ว่าความประทับใจมันเกิดขึ้นตั้งแต่เราเดินเข้าบูธที่มอเตอร์โชว์ หรือโชว์รูมแล้ว
ต่อเนื่องไปถึงการเปิดตัว การแนะนำบุคลิกของรถ การต้อนรับขับสู้ของพนักงานขาย การโฆษณาประชาสัมพันธ์ แล้วก็ตัวรถเอง
ซึ่งถ้าให้ผมมองอย่างตรงไปตรงมา (ท่านไหนจะไม่เห็นด้วยก็ได้นะครับ) มันยังมีอีกหลายจุดให้พัฒนา

หน้าตาโชว์รูมที่ยังเป็นแบบเก่า การต้อนรับลูกค้าของพนักงานขายก็เป็นแบบเรื่อยๆ มาเรียงๆ
โชว์รูมในกรุงเทพฯ และตัวเมืองต่างๆ ก็หายไปทีละแห่งสองแห่ง
การโหมโฆษณาก็ประชาสัมพันธ์ในแบบรถขับสบายให้ผู้หญิงใช้ ซึ่งขัดกับบุคลิกของรถที่ออกสปอร์ตสื่อถึงผู้ชายวัยเริ่มทำงานมากกว่า
ตอนเปิดตัวที่ดอนเมืองก็เปิดมาแบบสปอร์ต ขัดกันกับโฆษณาตอนหลังๆ อีก
คนขึ้นไปทดลองขับ เจอวัสดุหลายอย่างในรถ รวมถึงรายละเอียดการประกอบที่ทำให้เรารู้สึกว่ามันด้อยกว่าคู่แข่ง ก็ติดลบเพิ่มไปอีก
แล้วจะว่าไป Lancer EX นี่เปิดตัวตลาดทั่วโลกมาตั้งนานสองนานแล้ว รถมันก็ไม่ได้ใหม่แล้วล่ะครับ

เพราะฉะนั้น ยากมากที่จะอัดออพชันหั่นราคาแล้วสร้างยอดขายได้เป็นกอบเป็นกำ
แต่ต้องพัฒนาสิ่งต่างๆ รอบตัวให้ดีขึ้นควบคู่กันไปด้วย เรื่อง Brand Personality เป็นสิ่งที่มิตซูต้องนำกลับไปทำการบ้านอีกเยอะครับ

ออฟไลน์ demo2

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 784
    • อีเมล์
ผมใช่Ex 1.8 Ltd อยู่ครับ ผมว่ามันก็ไม่ได้อืดมากนะครับ(ช่วงออกตัว) แต่ตีนปลายนี่สุดยอดครับ ที่ความเร็วสูงรถนิ่งดีมากๆพวงมาลัยนิ่งมาก(ที่ความเร็ว130ขึ้น) เกาะถนนเวลาเข้าโค้งดีกว่า altis mc และ civic FD ครับ ภายในผมว่าก็ไม่ด้อยกว่านะครับ วัสดุเบาะหนังนี่ดีกว่า พลาสติกตรงคอนโซลและประตูผมว่าก็พอๆกัน(แต่ต่าง BMW X3 ชัดเจน) การตกแต่งภายในดูสปอร์ตดีครับ(ผมชอบมากกว่า) เรื่องอ๊อปชั่นนี่ถ้าติดตัวG9แล้วนี่สุดยอดครับของเล่นเยอะ ความกว้างของห้องโดยสารกว้างกว่าaltis(ไม่เชื่อดูที่ตัวเลขความยาวฐานล้อจากล้อหน้าถึงล้อหลัง) leg room กว้างกว่าครับ ราคาผมว่าก็ไม่ได้แพงกว่าคู่แข่ง ตัวท๊อป1.8นี่ถูกกว่าaltisและFDเพียงแต่ตัวล่างสุดราคาแพงกว่า Ex1.8มีแค่3รุ่นย่อย) เรื่องอะไหล่ถ้าของแท้ในศูนย์ไม่ต่างกัน
ส่วนข้อเสียคือกินน้ำมันกว่าเล็กน้อย ย้ำเล็กน้อย(ไม่รวมถ้าเติมE85ครับ) เก็บเสียงในห้องโดยสารไม่ดี ไม่มีกระจกข้างพับไฟฟ้า และที่สำคัญสำหรับหลายคนคือราคาขายต่อหวบครับ
ปล.ที่บ้านไม่ได้รวยแต่มีรถคนละคันเพราะทำงานคนละที่ มีcivic FD ,altis mc, CRV (gen3) 2.0sและ2.0e, jazz ตัวแรก, BMW X3 2.0d และล่าสุด Ex ครับ ก่อนซื้อพาทุกคนไปดูและลองขับมาหมดและครับ ทุกคนที่บ้านลงความเห็นเป็น  black Ex 1.8 Ltd (ขับไปกับแม่ที่140 แม่ไม่บ่นซักคำเพราะมันรู้สึกนิ่งมาก ปกติขับเร็วแม่จะบ่นมาก)
ปล.แต่สองขายต่ออีกเจ็ดปีข้างหน้าทุกคนอาจจะเกลียดมันก็ได้ครับ อิอิ ;D

ออฟไลน์ J!MMY

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 15,628
    • www.headlightmag.com
    • อีเมล์
ผมว่าตอนนี้ Lancer Ex นอกจากคนใน web เราที่สนใจ เพราะเรารู้เรื่อง ช่วงล่าง+การควบคุม+เบรคที่ดีที่สุดในกลุ่มหรืออาจดีเท่ารถราคาหลายๆล้าน

ไม่ได้กวนนะครับ

แต่อะไรทำให้คุณมั่นใจได้ขนาดนั้น

ผมขับมาได้สองหมื่นกว่าโลแล้ว ไม่ได้รู้สึกว่าเป็นแบบนั้นเลย

ผมว่ามันนิ่งดีเฉพาะทางตรงเท่านั้น ที่ความเร็วสูงๆมั่นใจดี

แต่ที่ความเร็วกลางๆถึงสูง เวลาเปลี่ยนเลนหรือเข้าโค้งหนักๆ ผมว่ามันอยู่ในระดับที่รับได้เท่านั้นเอง

ผมจึงคิดว่ามันไม่เหมาะที่จะใช้คำว่า "ดีที่สุดในกลุ่ม" หรือเทียบกับ "รถราคาหลายๆล้าน

(คงไม่มีใครมาว่าผมไม่เคยขับรถดีๆ เลยไม่รู้อีกนะครับ)



ถือเป็นอีกความเห็นหนึ่ง ที่มจะขอรับฟังไว้แล้วกันนะครับ ในฐานะ "ขาประจำ"

แต่ในฐานะที่ ชีวิตผม ผ่านรถมาแล้ว..ผมว่าน่าจะ มี 200 คันขึ้นไปแล้่ว
ทั้งยุโรป ญี่ปุ่น ตั้งแต่คันละไม่กี่แสนบาท จนถึงคันละ 20 กว่าล้านบาท

บอกได้ว่า ช่วงล่างของ EX ณ วันนี้ ดีที่สุดในบรรดารถญี่ปุ่นกลุ่มเดียวกัน

และแน่นอนว่า มันอาจจะไม่ได้ถึงกับดีเลิศประเสริฐศรี อย่างที่คุณตั้งใจ

แต่ ถ้าจะต้องเปลี่ยนเลนกระทันหัน และหักหลบสิ่งกีดขวาง
EX จะมีอาการท้ายอกน้อยกว่า Mazda 3 นิดหน่อย ครับ

ขณะเดียวกัน การเข้าโค้ง Mazda 3 ด้านหน้าจะจิกโค้งมากกว่า EX นิดหน่อยครับ


ออฟไลน์ singving

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 132
    • อีเมล์
ผมใช้ Focus 1.8   อยู่ครับ

ผมมีความคิดเห็นดังนี้

Lancer EX  เป็นรถที่ดีมากด้านช่วงล่าง  และดีที่สุดในบรรดารถที่ราคาไม่เกิน 1500k(สำหรับการใช้งานแบบทุกพื้นผิวถนน และสภาวะการใช้งานที่หลากหลาย)
เครื่องยนต์ก็ไม่ถือว่าอืดมากนักเมือเทียบกับ Focus 1.8  ที่ผมใช้  และสำหรับคนที่เท้าไม่หนัก


เรื่องรูปทรง....ต้องบอกว่า  

" Design  รถแบบนี้ล่ะ  ใช่เลย  "  สำหรับผมนะ


Function ในรุ่น Top  ถือว่าให้อะไรมาคุ้มค่าไม่แพ้กลุ่ม



ข้้อเสนอแนะ  (ในฐานะที่ผมยังชอบ และอยากเห็น Lancer EX วิ่งบนถนนมากขึ้น)
1.  น่าจะมีรุ่นเกียร์ Manual และซอยรุ่นเพิ่มขึ้นซัก 2-3 รุ่น
2.  ถ้าลดน้ำหนักรถ. ให้ต่ำกว่านี้ซัก 100-150 Kg.  ผมว่ามันจะเป็นรถที่เครื่องแรงและประหยัดน้ำมันมากๆ   :o :o
3.  กล้าที่จะให้ความมั่นใจกับลูกค้ามากกว่าที่เป็นอยู่  เหมือนกับตั้งราคาขายเพื่อขอความมั่นใจจากผู้ซื้อ (ผมมีความรู้สึกว่าจะผลักภาระเรื่องต้นทุนมาให้ผู้ซื้อมากเกินไป)

ลองนึกเล่นๆนะครับ ถ้า Mitsu  ลงทุนปรับปรุงภาพลักษณ์ของศูนย์ด้วยการทาสีใหม่ทั่วประเทศ
โฆษณาชูสมรรถนะ และแคมเปญให้ตรงจุด   และกล้าที่จะเป็นผู้นำมากกว่าที่จะเป็นแค่ผู้ตาม  เชื่อว่าน่าจะเป็นรถที่ขายดีอีกรุ่น

เหมือนๆที่ Ford  กำลังเริ่มทำ(แบบกล้าๆกลัวๆ เหมือนร้านโชว์ห่วยขึ้นห้าง)

4.  กล้าที่จะเป็นผู้นำมากกว่าที่จะเป็นแค่ผู้ตาม  


ลองคิดดูนะว่าขณะนี้ Mitsu มีจุดแข็งในเรื่องใด ?

Mazda   กล้าที่จะเป็นผู้นำแห่งการ Design ด้วยรูปทรงไฉไลแนว Z   Z    
Ford     (พึ่ง)กล้าที่จะเป็นผู้นำรถที่ให้ Function และสมรรถนะมากกว่าคู่แข่งในพิกัดเดียวกัน และกล้าที่จะแข่งขันงาน Design
Honda  กล้าจะเป็นผู้นำเครื่องยนต์ที่มีประสิทธิภาพ ภายใต้รูปลักษณ์ที่ทันสมัย  ราคาไม่แพง
Nissan   กล้าที่จะเป็นผู้นำเรื่องความอลังการของ Pickup คันโต เครื่องเล็กแต่แรงงงง  และกล้าที่จะเปิด Eco Car จ้าวแรก !!!  ราคาไม่แพง
Toyota  คงไม่ต้องอธิบาย..
Chev     กำลังรวบรวมความกล้า....
Mitsu     ???????????? เป็นรถที่ช่วงล่างดีนะ นอกนั้นยังไม่เด่นเรื่องใดเป็นพิเศษ มีเพียงกระบะ New look และ  PPV new look   แต่ขาดการสานต่อเต็มอัตรา

สิ่งที่เป็นจุดแข็งของแต่ละค่าย...  คือจุดขายที่แต่ละค่ายได้รับเช่นกัน  



โดยเฉพาะเมืองไทยเรา   การทำตลาดอะไรซักอย่างให้ขายได้..  
ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย  

เว้นเสียแต่..คุณวางระบบการตลาดแบบ  

ลด-แลก  แจก..แถม  บริการถึงที่...  เครมง่าย...  จ่ายเร็ว.... มีปัญหา..เปลี่ยนใหม่ภายใน   7 วัน
รับประกัน  ไม่พอใจยินดีคืนเงิน..   ซ่อมฟรีตลอดชีพ ...

ถ้าทำได้แบบนี้   รับรองยอดขายชนะ TOYOTA  ทุกรุ่น  ทุกพิกัด  ทุกประเภท    ;D ;D ;D
 ;D ;D
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 20, 2010, 15:05:32 โดย singving »

auto-synergy

  • บุคคลทั่วไป
ผมว่าตอนนี้ Lancer Ex นอกจากคนใน web เราที่สนใจ เพราะเรารู้เรื่อง ช่วงล่าง+การควบคุม+เบรคที่ดีที่สุดในกลุ่มหรืออาจดีเท่ารถราคาหลายๆล้าน

ไม่ได้กวนนะครับ

แต่อะไรทำให้คุณมั่นใจได้ขนาดนั้น

ผมขับมาได้สองหมื่นกว่าโลแล้ว ไม่ได้รู้สึกว่าเป็นแบบนั้นเลย

ผมว่ามันนิ่งดีเฉพาะทางตรงเท่านั้น ที่ความเร็วสูงๆมั่นใจดี

แต่ที่ความเร็วกลางๆถึงสูง เวลาเปลี่ยนเลนหรือเข้าโค้งหนักๆ ผมว่ามันอยู่ในระดับที่รับได้เท่านั้นเอง

ผมจึงคิดว่ามันไม่เหมาะที่จะใช้คำว่า "ดีที่สุดในกลุ่ม" หรือเทียบกับ "รถราคาหลายๆล้าน

(คงไม่มีใครมาว่าผมไม่เคยขับรถดีๆ เลยไม่รู้อีกนะครับ)



ถือเป็นอีกความเห็นหนึ่ง ที่มจะขอรับฟังไว้แล้วกันนะครับ ในฐานะ "ขาประจำ"

แต่ในฐานะที่ ชีวิตผม ผ่านรถมาแล้ว..ผมว่าน่าจะ มี 200 คันขึ้นไปแล้่ว
ทั้งยุโรป ญี่ปุ่น ตั้งแต่คันละไม่กี่แสนบาท จนถึงคันละ 20 กว่าล้านบาท

บอกได้ว่า ช่วงล่างของ EX ณ วันนี้ ดีที่สุดในบรรดารถญี่ปุ่นกลุ่มเดียวกัน

และแน่นอนว่า มันอาจจะไม่ได้ถึงกับดีเลิศประเสริฐศรี อย่างที่คุณตั้งใจ

แต่ ถ้าจะต้องเปลี่ยนเลนกระทันหัน และหักหลบสิ่งกีดขวาง
EX จะมีอาการท้ายอกน้อยกว่า Mazda 3 นิดหน่อย ครับ

ขณะเดียวกัน การเข้าโค้ง Mazda 3 ด้านหน้าจะจิกโค้งมากกว่า EX นิดหน่อยครับ



รับทราบครับ

แต่ยังไงซะ จากประสบการณ์ตรงของผม (Mazda3 เกือบแสนกิโล EX เกือบสามหมื่นกิโล)

ผมยังให้ Mazda3 กับ Focus ช่วงล่างดีกว่า EX "ชัดเจน" ครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 04, 2010, 14:07:31 โดย auto-synergy »

ออฟไลน์ nonpatan

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 421
    • non-motocycle
    • อีเมล์
ผมก็ไม่รู้จะบอกยังไงดีเหมือนกัน โดยปรกติแล้วผมยังมั่นใจในช่วงล่างของมิสซู นะ ถึงแม้จะไม่สปอร์ตมากแบบ 3 ก็เถอะ แต่ถ้าจะให้ด้อยกว่าเจ้าอื่นนี่คงยากหน่อย เท่าที่เคยขับมาตัว 1.8 ผมว่าช่วงล่างก็ดีนะ พวงมาลัยก็คม แต่ที่ไม่ชอบเท่าไหร่คือการออกแบบภายในที่มันดูเป็นของราคาถูกไปเลย ไทรทัน ยังออกแบบได้ดีกว่าเลย และ option ที่น้อยไปหน่อยของจำเป็นไม่ใส่ ของไม่จำเป็นดันใส่มา ผมว่าถ้าออกแบบภายในให้ลดความทื่อลงไปบ้างก็ดี แต่ก็คงจะอนุโลมได้เพราะ Evo ก็ภายในแบบนี้เหมือนกันแหละ ยังไงก็เปลี่ยนหน้ามาใหม่ด้วยทำให้เหมือน evo ไปเลย

ออฟไลน์ phatsawi

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 47
    • อีเมล์
อยากจะบอกจริง ๆ ว่า คนประเทศนี้จะมีซักกี่คนที่สนใจสมรรถนะของรถป้ายแดง  ...ส่วนใหญ่ที่ซื้อก็เพราะ หน้าตา ดูดี ประหยัด ซ่อมง่าย ขายคล่อง  นี่เมืองไทยนะครับ  .....
ex เนี่ย ผมว่าหน้าตามันผ่านเลย  เวลาขับก็รู้สึกว่าดูดี  แค่นั้น....สำหรับคนที่กำตังค์ไว้ เก้าแสนและมีทางเลือกในตลาด ณ ตอนนี้  และที่ผมแคร์ที่สุดคือเรื่องความประหยัด...คนส่วนใหญ่ใช้รถกันในเมืองหรือนอกเมืองครับ เอาส่วนใหญ่จริง ๆ แต่เท่าที่ผมอ่านมาตั้งแต่ปีที่แล้ว Ex ไม่เคยทำให้สบายใจเรื่องของความประหยัดเชื้อเพลิงเลย  เมืองไทยไม่ใช่เศรษฐีน้ำมัน  ส่วนจะไล่ให้เขาไปดมแก๊ส ผมว่ามันไม่ใช่แล้ว...ถ้าดมแก๊สแล้วเครื่องมันดีเลิศขึ้นมาเห็น ๆ ก็คงโดนจับดมแก๊สกันไปหมดแล้ว...ดังนั้นรถเดิม ๆ ต้องชี้ให้เห็นว่าถ้าคุณเติมน้ำมันคุณใช้รถแบบไม่ต้องปรับไม่ต้องแต่ง  คุณก็ได้ความประหยัดมาด้วย  ทำไมซีวิคมันทำได้ ทั้งที่เมื่อก่อนฮอนด้าก็ไม่ได้เลื่องลือเรื่องความประหยัดเช่นกัน...
มีแต่ Review ของ คุณ Jim ที่บอกว่ามันได้เท่านั้นลิตร เท่านี้ลิตร จนถึงต้องวนเอา Ex ไปเติมโซฮอลล์ 95 เพื่อวัดความประหยัดกันถึงสองรอบ  แต่มิตซูฯ  เงียบ... ไม่ได้ชูเรื่องความประหยัดน้ำมัน แต่เอาทางเลือกการเติมมาเป็นจุดขาย ไอ้ E85 86 87 อะไรเนี่ย คนต่างจังหวัดไม่รู้จักหรอกครับ  ขับ E85 แล้วประหยัดเงินในกระเป๋าแล้วเป็นงัย บ้านอยู่ ยุดยา จะให้ถ่อไปเติมใน กทม.เลยหรอคร้าาาบ....เจ้านาย
ขายรถในเมืองไทย...ถ้ามิตซูฯ ออกมาบอกว่า EX มันประหยัดน้ำมัน  ไม่ต้องอะไรมาก แค่พอๆ  กับ Fd นี่ก็ยอดถล่มแล้ว  ไม่ต้องมานั่งปรับปรุงภายใน ปรับกระจกพับ ด้วย  ลองดูมั้ยล่ะ....  แต่ ณ ปัจจุบัน...เอาอะไรไปสู้กับคุณพ่อโต คุณแม่ฮอนล่ะครับ  เขาชูเรื่องประหยัดกันตูม ๆ มิตซูฯชูเรื่องทางเลือกการเติมน้ำมัน แต่ไม่ประหยัด (เออ...อะไรวะเนี่ย)  เอาช่วงล่างไปสู้เขา  ใครสนล่ะครับ... รถนะครับไม่ใช่ผู้หญิง....