ผู้เขียน หัวข้อ: ถ้ารถติดแก๊สจะคืนทุนภายในสองปี แล้วถ้ารถ EV นี่คิดการคืนทุนกันแบบไหน  (อ่าน 4347 ครั้ง)

ออฟไลน์ TeslaX

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,765
ตอนนี้ไปไหนก็มีแต่คนบ่นน้ำมันแพง เลยสงสัยการคิดการคืนทุน สมมุติราคารถ EV รุ่นดังๆ ตีสัก 1 ล้าน ต้องคิดระยะเวลาการคืนทุนกันแบบไหน เพราะถ้าติดแก๊ส สมมุติ  ค่าติด 50 k อาจคืนทุนภายในระยะเวลา 2 ปี อันนี้คิดแบบขับรถธรรมดา ไม่ใช่แท๊กซี่

ออฟไลน์ Chicken Wings

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 270
เทียบกับส่วนต่างราคา รถน้ำมันในคลาสเดียวกันไงครับ

ออฟไลน์ nin122

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 610
    • อีเมล์
คิดจากราคาต่อกิโลเมตร น่าจะได้นะครับ

เช่น ผมใช้รถไฟฟ้า ค่าไฟน่าตก 0.5 บาทต่อกิโลเมตร
สมมติถรถใช้น้ำมันวิ่งได้ 15 กิโลเมตรต่อลิตร ลิตรละ 35 บาท  จะเฉลี่ยได้ 2.33 บาทต่อกิโลเมตร

สมมติ รถน้ำมันกับรถไฟฟ้าราคาต่างกัน 5 แสนบาท
ดังนั้นจุดคุ้มทุน = 500,000 หารด้วย (2.33-0.5) = 273,xxx กิโลเมตร (หมายถึง ต้องขับรถไฟฟ้า > 273000 กิโลถึงจะคุ้ม)

แต่ทั้งนี้ ผมคิดแบบง่ายๆ ยังไม่ได้คำนึงถึงพวกค่าใช้จ่ายอื่นๆ และไม่คำนึงถึงมูลค่าของเงินที่เปลี่ยนไปตามเวลาเนื่องจากดอกเบี้ย (time value of money)
อยากคิดให้ละเอียดขึ้น อาจลองเทียบ ค่าเช็คระยะ ค่าประกัน ค่าอื่นๆ รวมกับราคารถ จะทำให้ประมาณจุดคุ้มทุนได้ดีขึ้นครับ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 14, 2022, 22:35:20 โดย nin122 »

ออฟไลน์ คุณ นมๆ

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 716
เอา ระยะทางที่วิ่งที่ไปแต่ละเดือนมาดูว่าใช้ไฟไปกี่หน่วยแล้ว หาร ค่าไฟมา

รถน้ำมัน เอาระยะทางเท่ากันมาหารว่าใช้น้ไมันไปกี่ลิตร คุณราคาน้ำมัน

เอาทั้งสองมาลบกับ ส่วนใหญ่ผมว่าผลออกมาประหยัดไปเกินครึ่งอยู่แล้ว แต่ถ้าต้องเพิ่มเงินเกินสามแสนมาเอารถไฟฟ้าฟ้าเนี่ย ต้องประหยัดค่าน้ำมันให้ได้เกินเดือนละ1500 ถึงจะคืนทุนใน10ปี

แต่ถ้าจะซื้อรถราคาล้านนึงอยู่แล้วก็ซื้อเลยประหยัดเลย

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 14, 2022, 20:50:13 โดย คิมิโนโต๊ะ »

ออฟไลน์ Tien.W

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,232
    • อีเมล์
เมื่อบ่าย มีบริษัทนึง มานำเสนอขายรถหัวลากไฟฟ้า ให้ผม

เค้าโชว์อัตราสิ้นเปลือง ที่ 2.64 บาท / กม.

เห็นตัวเลขแล้วก็ตาโต เพราะปกติ ถ้าพวก NGV ยังอยู่เกือบ 8 บาท / กม เลย นี่ 2 บาทกว่า กินเท่า CRV / Pulsar ผมเลย แบบนี้ รถคันละ 5 ล้าน ไม่เกิน 2 - 3 ปี ก็คืนทุนละ (ถ้าบริหารจัดการ จุดชาร์จไฟ และ เส้นทางการวิ่งได้นะ)

ออฟไลน์ TeslaX

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,765
เมื่อบ่าย มีบริษัทนึง มานำเสนอขายรถหัวลากไฟฟ้า ให้ผม

เค้าโชว์อัตราสิ้นเปลือง ที่ 2.64 บาท / กม.

เห็นตัวเลขแล้วก็ตาโต เพราะปกติ ถ้าพวก NGV ยังอยู่เกือบ 8 บาท / กม เลย นี่ 2 บาทกว่า กินเท่า CRV / Pulsar ผมเลย แบบนี้ รถคันละ 5 ล้าน ไม่เกิน 2 - 3 ปี ก็คืนทุนละ (ถ้าบริหารจัดการ จุดชาร์จไฟ และ เส้นทางการวิ่งได้นะ)

OMG คืนทุนใน 2-3 ปี ถือว่าคุ้มมาก

ออฟไลน์ I-PULSE

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 977
ถ้ารถ MG ไฟฟ้าทีมีขาย 2 รุ่นตอนนี้ ถ้าวิ่งปีละสองหมื่น น่าจะประหยัดได้ปีละ สีหมื่นบาท ตัวรถก็ราคาพอๆกับรถน้ำมันในเว็กเม้นเดียวกัน
ถือว่ายอดเยี่ยมเลยนะ

ออฟไลน์ bodin

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 997
ผมรอมันได้1000โลต่อการเสียบไฟบ้าน1คืนก็จะซื้อแล้วครับกะจะเอาเป็นSUVไฟฟ้า

ผมจอดรถในบ้าน ไอเสียจากรถน้ำมันมันทำลายสุขภาพคนในครอบครัว ไม่ได้คิดถึงเรื่องคืนทุนอะไร

ออฟไลน์ punn

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,598
  • may the force lead your way ...
คิดระยะใกล้ 3 ปี 5 ปี ก็เทียบแบบต่อหน่วยได้เลยแบบที่ท่านอื่นๆว่ามาก็น่าจะคืนทุนเร็วแน่

แต่ ณ เทคโนฯแบตที่ติดตั้งในรถที่ขายตอนนี้
ใน 10 ปีกลัวต้องตีค่าเสื่อมแบตเหลือ 0 นะสิครับ บ่นหลายครั้งจนคนน่าจะเบื่อหละ
อย่างเทสล่าที่มีการเอาไประเบิดเล่นก็มี

จะซ่อมเปลี่ยนเป็นเซลๆ บางเจ้าก็ว่ามันจะไปดึงเซลอื่นเสียตามในไม่ช้าอยู่ดี
ถ้าใช้แล้วไม่พังแค่เสื่อมก็โชคดีหน่อย แต่ระยะก็จะวิ่งได้น้อยลงเรื่อยๆ
เสียเวลา เสียความรู้สึกที่มันตีค่าเงินลำบากอีกครับ

แต่ถ้าแบตพัง ค่าแบตอย่างน้อยก็ราวๆ 30% ราคารถตอนออกใหม่เลย มันจะคุ้มคืนซากมากกว่าคืนทุนนะครับ
เป็นคนโลกปกติธรรมดา :)
ไม่โลกสวย และไม่โลกมืด อยู่กับความเป็นจริงและพลังงานบวก ..

ปราชญ์สอนสิ่งไหน คนก็จะจำสิ่งนั้น
ประสบการณ์เจอแบบไหน คนก็จะคิดทางนั้น
ต่างคนต่างประสบการณ์เรียนรู้สิ่งเดียวกัน ก็จะออกมาแตกต่างกันไปครับ

ออฟไลน์ mongolias

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,369
คืนทุนคงต้องเทียบกับค่าใช้จ่ายกับรถน้ำมัน
เช่น ประหยัดต่อก.ม. เทียบกันแล้ว 1 บาท ก็คำนวณกันไปว่า ส่วนต่างจากรถน้ำมันที่เป็น segment เดียวกันอยู่ที่เท่าไหร่ แล้วต้องวิ่งกี่ก.ม. ถึงจะคุ้มค่ากับส่วนต่างครับ

ออฟไลน์ Tien.W

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,232
    • อีเมล์
เมื่อบ่าย มีบริษัทนึง มานำเสนอขายรถหัวลากไฟฟ้า ให้ผม

เค้าโชว์อัตราสิ้นเปลือง ที่ 2.64 บาท / กม.

เห็นตัวเลขแล้วก็ตาโต เพราะปกติ ถ้าพวก NGV ยังอยู่เกือบ 8 บาท / กม เลย นี่ 2 บาทกว่า กินเท่า CRV / Pulsar ผมเลย แบบนี้ รถคันละ 5 ล้าน ไม่เกิน 2 - 3 ปี ก็คืนทุนละ (ถ้าบริหารจัดการ จุดชาร์จไฟ และ เส้นทางการวิ่งได้นะ)

OMG คืนทุนใน 2-3 ปี ถือว่าคุ้มมาก

คนขายเค้าโชว์ตัวเลขมา เดี๋ยวไว้ได้รถจริงมาทดสอบ ก็รู้ครับว่า จริงหรือหลอก อิอิ

ออฟไลน์ DiKiBoyZ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,228
    • อีเมล์
ยังไม่มีโอกาศได้เป็นเจ้าของรถยนต์ EV

แต่ขอยกประสบการณ์ ของการใช้ มอเตอร์ไซต์ไฟฟ้า นะครับ

ชาร์จ 1 ครั้ง แบตเตอรี่ 30Ah ค่าไฟไม่เกิน 5 บาท วิ่งได้ 50-60km ครับ (จริงๆ ยังวิ่งต่อได้อีก มันวิ่งได้ 70-80 โล)

ถ้าเป็น Wave125i เติมโซฮอล ระยะ 50-60 km ใช้น้ำมันประมาณ 1 ลิตร ตกเป็นเงินก็ประมาณ 30 กว่าบาท

เทียบแค่นี้ก็พอเห็นแล้วใช่ไหมครับ ว่า ระยะ 50-60 km จ่าย 5 บาท vs 30 บาท (ส่วนต่าง 25 บาท)

ไฟฟ้าประหยัดกว่าน้ำมัน 6 เท่า

ถ้าวิ่ง 1,000km ส่วนต่างก็ 25,000 บาทแล้วครับ

ที่สำคัญ แทบไม่ต้องดูแลอะไรเลย น้ำมันเครื่องก็ไม่มี โซ่ สเตอร์ หรือ อื่นๆ ก็ไม่ต้องดูแล


ออฟไลน์ TeslaX

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,765
ยังไม่มีโอกาศได้เป็นเจ้าของรถยนต์ EV

แต่ขอยกประสบการณ์ ของการใช้ มอเตอร์ไซต์ไฟฟ้า นะครับ

ชาร์จ 1 ครั้ง แบตเตอรี่ 30Ah ค่าไฟไม่เกิน 5 บาท วิ่งได้ 50-60km ครับ (จริงๆ ยังวิ่งต่อได้อีก มันวิ่งได้ 70-80 โล)

ถ้าเป็น Wave125i เติมโซฮอล ระยะ 50-60 km ใช้น้ำมันประมาณ 1 ลิตร ตกเป็นเงินก็ประมาณ 30 กว่าบาท

เทียบแค่นี้ก็พอเห็นแล้วใช่ไหมครับ ว่า ระยะ 50-60 km จ่าย 5 บาท vs 30 บาท (ส่วนต่าง 25 บาท)

ไฟฟ้าประหยัดกว่าน้ำมัน 6 เท่า

ถ้าวิ่ง 1,000km ส่วนต่างก็ 25,000 บาทแล้วครับ

ที่สำคัญ แทบไม่ต้องดูแลอะไรเลย น้ำมันเครื่องก็ไม่มี โซ่ สเตอร์ หรือ อื่นๆ ก็ไม่ต้องดูแล

OMG อีกคน อิจฉาคนที่มีรถ EV ในมือตอนนี้จริงๆ

ออฟไลน์ no7749

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 99
ตอนนี้ ถ้าใช้งานในเมือง พลังงานไฟฟ้าดีกว่าเยอะ รถยิ่งติดยิ่งประหยัด เร่งก็ใช้ไฟ ชะลอเปิด รีเจน ก็ได้ไฟคืนกลับมา มีคนขับแบบแมว 500 ในเมือง One Paddle ได้ 500 โล ด้วย
แต่ขับทางไกล อย่างไงก็ไม่ถึงอยู่แล้ว (ได้ประมาณ 380++)

ถ้ามีที่ชาร์จประจำ(ในบ้าน) ก็น่าสน เหมือน โทรศัพท์มือถือ ที่กลับบ้านไปชาร์จ ตอนเช้าก็ขับออกมา

ยิ่งตอนนี้ ปตท. ชาร์จฟรี (แต่ต้องไปตบตีกะพวกจองมั่ว) ยิ่งสบาย

ตามห้างก็มีชาร์จฟรีอยู่ 2-3 ชม. (อาจจะได้มา 50-100 km) EV ใช้ในเมืองดีกว่าตจว. แน่นอนครับ

ออฟไลน์ DiKiBoyZ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,228
    • อีเมล์
ยังไม่มีโอกาศได้เป็นเจ้าของรถยนต์ EV

แต่ขอยกประสบการณ์ ของการใช้ มอเตอร์ไซต์ไฟฟ้า นะครับ

ชาร์จ 1 ครั้ง แบตเตอรี่ 30Ah ค่าไฟไม่เกิน 5 บาท วิ่งได้ 50-60km ครับ (จริงๆ ยังวิ่งต่อได้อีก มันวิ่งได้ 70-80 โล)

ถ้าเป็น Wave125i เติมโซฮอล ระยะ 50-60 km ใช้น้ำมันประมาณ 1 ลิตร ตกเป็นเงินก็ประมาณ 30 กว่าบาท

เทียบแค่นี้ก็พอเห็นแล้วใช่ไหมครับ ว่า ระยะ 50-60 km จ่าย 5 บาท vs 30 บาท (ส่วนต่าง 25 บาท)

ไฟฟ้าประหยัดกว่าน้ำมัน 6 เท่า

ถ้าวิ่ง 1,000km ส่วนต่างก็ 25,000 บาทแล้วครับ

ที่สำคัญ แทบไม่ต้องดูแลอะไรเลย น้ำมันเครื่องก็ไม่มี โซ่ สเตอร์ หรือ อื่นๆ ก็ไม่ต้องดูแล

OMG อีกคน อิจฉาคนที่มีรถ EV ในมือตอนนี้จริงๆ

อันนี้ผมเอามอเตอร์ไซต์ EV มาใช้ เพราะว่า มันเป็นรถที่วิ่งไปวิ่งมาๆ ในหมู่บ้าน ไม่ได้ไปไหนไกล มันเลยตอบโจทย์

พอรถยนต์ EV วิ่งระยะ 300-500 km ต้องชาร์จ ถ้าใช้ในเมือง หรือ กรุงเทพฯ อาจจะตอบโจทย์(บางคน)

ผมตอบเหมือนหลายๆ โพสต์ ว่าผมไม่เคยปฏิเสธ หรือ ยี๊ รถ EV แต่อย่างใด อยากได้ซะด้วยซ้ำ

แต่สำหรับผม พอวิ่งต่างจังหวัด วิ่งระยะ 550-600km มันยังไม่มีรถ(ที่ผมซื้อไหว) ตอบโจทย์ ผมเลยสักคัน จะไปจอดชาร์จกลางทางหลายๆ ชั่วโมง ก็ไม่ใช่อีก

และ ผมเอง อยู่คอนโด ไม่มีช่องจอดชาร์จ หรือ ที่ชาร์จ เป็นที่ส่วนกลาง หรือ จะหย่อนสายลงจากห้องไปชาร์จมันไม่ใช่

มันยิ่งทำให้โจทย์สำหรับคนอยู่คอนโด อย่างผม แทบตัดสินใจซื้อรถยนต์ EV ไม่ได้เลย จะให้ไปจอดชาร์จตามห้างวันเสาร์-อาทิตย์ ทีละ 4-5 ชั่วโมง ก็คงไม่ไหว

ใจอยากได้ BEV ใจจะขาด บอกเลย แค่มอเตอร์ไซต์ไฟฟ้า ที่ใช้อยู่ ก็ประหยัดค่าน้ำมันชัดเจนมาก มอเตอร์ไซต์ติดแก๊สได้ ยังไม่รู้ว่าคุ้มเท่าเสียบปลั๊กแบบนี้หรือป่าวยังไม่รู้เลย

ปล.ถ้าผมจะซื้อ BEV ผมก็เลือกนะครับ ว่าจะซื้อ BEV คนไหน ไม่ใช่ ทุกคันที่ผมจะซื้อ นะครับ

ออฟไลน์ Sympho

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 996
เมื่อบ่าย มีบริษัทนึง มานำเสนอขายรถหัวลากไฟฟ้า ให้ผม

เค้าโชว์อัตราสิ้นเปลือง ที่ 2.64 บาท / กม.

เห็นตัวเลขแล้วก็ตาโต เพราะปกติ ถ้าพวก NGV ยังอยู่เกือบ 8 บาท / กม เลย นี่ 2 บาทกว่า กินเท่า CRV / Pulsar ผมเลย แบบนี้ รถคันละ 5 ล้าน ไม่เกิน 2 - 3 ปี ก็คืนทุนละ (ถ้าบริหารจัดการ จุดชาร์จไฟ และ เส้นทางการวิ่งได้นะ)

OMG คืนทุนใน 2-3 ปี ถือว่าคุ้มมาก

คนขายเค้าโชว์ตัวเลขมา เดี๋ยวไว้ได้รถจริงมาทดสอบ ก็รู้ครับว่า จริงหรือหลอก อิอิ

Foton รึเปล่าครับ ราคาแอบแรง เกือบๆ 6 ล้าน แพงกว่าวอลโว่ สแกนเนีย ดีเซลเยอะเลย แต่ระยะยาว ถ้ามันทนพอก็คงถึงจุดคุ้มทุนไม่นาน

ออฟไลน์ InBkk

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,115
ผมเชื่อว่าหลายคนที่ตัดสินใจซื้อ EV อาจไม่ได้คิดเรื่องนี้เลย แต่ถ้าคิด เขาต้องตั้งคำถามกับตัวเองว่า ถ้าไม่ซื้อ EV คันนี้แล้วจะซื้ออะไร

เช่น คนที่ซื้อ XC40 EV หากเขาไม่ได้จะเอาตัว EV ก็เดาได้ว่าเขาคงเอารุ่น T5 R-DESIGN RECHARGE ซึ่งราคาถูกกว่า 2 แสนบาท
สิ่งที่ต้องคำนวนมี 2 อย่าง คือ ส่วนต่างค่าเชื้อเพลิง และส่วนต่างค่าบำรุงรักษา

ออฟไลน์ KxoZ

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 57
อย่าลืมคำนวนค่าเสื่อมราคาของรถ EV เทียบกับรถ น้ำมันด้วยนะครับ

เอาง่ายๆก็คือส่วนต่างราคาขายมือสองเมื่อจะขายทิ้งในวันที่จะเปลี่ยนรถครับ


ออฟไลน์ Symphonic

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,705
ผมเชื่อว่าหลายคนที่ตัดสินใจซื้อ EV อาจไม่ได้คิดเรื่องนี้เลย แต่ถ้าคิด เขาต้องตั้งคำถามกับตัวเองว่า ถ้าไม่ซื้อ EV คันนี้แล้วจะซื้ออะไร

เช่น คนที่ซื้อ XC40 EV หากเขาไม่ได้จะเอาตัว EV ก็เดาได้ว่าเขาคงเอารุ่น T5 R-DESIGN RECHARGE ซึ่งราคาถูกกว่า 2 แสนบาท
สิ่งที่ต้องคำนวนมี 2 อย่าง คือ ส่วนต่างค่าเชื้อเพลิง และส่วนต่างค่าบำรุงรักษา

ต้องคิดมูลค่าซาก และค่าประกันภัยด้วยครับ ไม่เท่ากันแน่ๆ
อีกอย่างคือค่าเสียโอกาสที่ EV ไม่สามารถใช้งานได้เต็ม 24 ชั่วโมง

ออฟไลน์ BN`

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,075
อย่าลืมคำนวณ ค่าเปลี่ยนแบตเตอร์รี่ กับ ค่าอะไหล่ส่วนควบระบบไฟฟ้า ด้วยนะครับ