และอีกประเด็นนึงครับ
คืนตอนนี้ภาครัฐ เค้าเน้นด้านให้ต่างชาติมาลงทุน ด้าน อุตสาหกรรม ถูกไหมครับ
ซึ่งประเด็นของเรื่องถ่ายถอดเทคโนโลยีที่เจ้าของกระทุ็พูดนั้น ถูกต้องครับ
แต่ประเด็นที่ผมพูด น่าจะโฟกัสตรงที่ว่า รัฐ ไม่ดูแลเรื่องเกษตรกรรมเลยมากกว่าครับ
เพราะตอนนี้ ไหนจะ 3g เอย ไหนจะรถไฟฟ้าเอย ไหนจะโรงงานต่างๆเอย ภาครัฐเน้นสนับสนุนตรงนั้นมาก
จนลืมไปว่า ประเทศเรายังมีเกษตรกรรมอยู่ไงครับ
อย่าลืมนะครับ ประชากรเราส่วนใหญ่ตามต่างจังหวัดเกษตรกรทั้งนั้นครับ
ไหนจะขับเคลื่อน ศก ไม่ใช่ดูแลการลงทุนด้าน อุตสาหากรรมอย่างเดียว
จนลืมไปว่า ภาคเกษตรกรรม ของประเทศเราใหญ่มากนะครับ
มันควรจะขับเคลื่อนไปพร้อมกัน
ส่วนเรื่องความเห็นนี้
"ผมสงสารคนที่จบด้านวิศวกรรม ด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี่ต่างๆ
ที่เค้ามีความฝัน แต่เค้าดันจบออกมาเค้าถนัดในด้านที่รัฐไม่สนับสนุน
รัฐเอาแต่บอกว่า ประเทศเราคือประเทศเกษตรกรรม ถ้าคนกลุ่มนี้ได้
ฟังแล้วเค้าจะรู้สึกยังไง เค้าอยากผลิตรถได้ แต่เค้ามีทางเลือกสองทาง
คือไปเป็นลูกจ้างบริษัทผลิตรถต่างชาติ หรือ ผันตัวเองไปทำงานวิศวกรรม
ทางด้านการเกษตร ซึ่งเค้าไม่ได้เกิดมาเพื่อต้องการทำการเกษตร
คนเรามีสมอง เราทำได้ทุกๆ อย่างเหมือนชาวโลกในโลกนี้น่ะแหล่ะ
แต่ถ้าต้องมาถูกจำกัด เพียงแค่ว่า เราเกิดมาในประเทศที่มีสภาพแวด
ล้อมเหมาะกับการเกษตร มันฟังดูยุติธรรมแล้วเหรอ หรือคนพวกนี้ต้อง
ย้ายประเทศไปอยู่ ญี่ปุ่น เยอรมัน กันให้หมด"
ผมหรือความเห็นบนไม่ได้บอกว่า จบมาต้องทำการเกษตรนะครับ
แต่ตอนนี้ลองสังเกตการศึกษาไทย เน้นแต่ด้านวิศวกรรมทางอุตสาหกรรมไปหมดแล้ว
ทางเกษตร เหลือน้อยมาก เด็กก็ไม่อยากเรียน
ผมว่า คุณดูถูกเกษตรกรรมเกินไปนะครับ
ผมก็จบวิศวกรรมไฟฟ้า
เคยทำงานเป็น Design Engineer ของ Sony Mobile
ซึ่งทาง ญี่ปุ่น บริษัทแม่เอง ก็ปล่อยองค์ความรู้มาหมด ให้ออกแบบเองทั้งหมด
ซึ่งเริ่มเป็นที่ยอมรับของ ญี่ปุ่นเอง คือ เค้าเริ่มไว้ใจคนไทยให้ออกแบบเองแล้วครับ
แต่เค้าต้องดูแลขั้นสุดท้าย ให้เป็นไปตามมาตรฐาน
รุ่นที่ผมออกแบบ ก็รุ่น CDX-GT6xx จำรหัสรุ่นไม่ได้ละครับ เพราะออกมาสามปีแล้ว
แต่เป็นรุ่น Filp Down รุ่นแกของโซนี่ที่เล่น USB ได้ ผมออกและเพื่อนร่วมทีมออกแบบกันเอง
ยากมาก เพราะเป็นรุ่นแรกที่เล่น USB ได้ของ SONY ครับ
เพราะงั้น ผมว่า มันขึ้นอยุ๋กับความไว้วางใจที่ต่างชาติที่เข้ามาลงทุน
จะไว้ใจคนไทยมากแค่ไหนด้วย
ผมเห็นด้วย ที่คุณว่า คนไทย รักสบาย ขี้เกียจ
เอาแต่ได้
เพราะงั้น เรามาปรับ นิสัยตัวเราเอง และ ทำตัวเราเองให้ดีที่สุดกันเถอะครับ
สู้ๆ ทั้งพี่ และความเห็นอื่นๆครับ
ถึงแม้เสียงพวกเาจะเล็ก แต่หลายเสียง ทำให้ดี ซักวัน บ้านเราคงจะดีขึ้นครับ
คุณไม่เข้าใจ (อีกละ) การที่เราจะผลิตและพัฒนาได้ด้วยตนเอง
ต้องได้รับการสนับสนุนจากรัฐ ถูกต้องใช่มั๊ยครับ แต่การสนับสนุนให้
เกิดอุตสาหกรรมจากการลงทุนของต่างชาติ มันคนล่ะเรื่องเลยนะครับ มันเป็น
เรื่องของการหาเงินลงทุน มาลงทุนในประเทศ เพื่อสร้างงาน ไม่ให้คนในชาติ
อดตายมากกว่า ก็เท่านั้น ประเด็นคือ เราคือประเทศที่ต้องการเงิน แต่ไม่เคย
ต้องการผลิตอะไรเอง รัฐยังไม่เคยสนับสนุนอุตสาหกรรมในประเทศอย่าง
แท้จริงเลยซักครั้ง
การสนับสนุนและการพัฒนานักประดิษฐ์ในประเทศมันตันอยู่ตรงนี้
และมันไม่มีที่ให้เค้าไป ยังไงๆ ถึงรัฐจะล้มเหลวในการบริหารจัดการ
โครงสร้างทางภาคเกษตรมากแค่ไหน แต่มันก็เหลืองานทำแค่ทางด้าน
นั้น ถ้าจะเอาเทคโนโลยี่ลงไปทำอะไรด้วยตัวเองจริงๆ ก็คงมีแต่ทาง
ด้านการเกษตร ที่จะเข้าไปใช้งบประมาณและได้รับการสนับสนุนจากรัฐบ้าง
แต่ถ้าเป็นภาคอุตสาหกรรม ยังไงๆ ก็ต้องไปเป็นลูกจ้างกินเงินเดือนเค้า
เป็นแค่ลูกจ้างนะครับ ไม่ได้ทำอุตสาหกรรม หรือผลิตอะไรด้วยตัวเอง
ตอนนี้ต้องถือว่ารับรับไม้ผลัดมาจากบรรพบุรุษเกษตรกรของเรามานานแล้วนะ
ทำไมพูดแบบนี้ เพราะเค้าหยิบยื่นโอกาสมาให้เราได้ศึกษามีความรู้ทั้งด้าน
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีต่างๆ จากหลักสูตรที่รัฐจัดมาให้นี่แหล่ะ และ
หลักสูตรดังกล่าวมีอะไรที่สามารถกลับไปช่วยการเกษตรอย่างจริงๆ จังๆ ได้
้บ้าง เรายังประยุกต์เทคโนโลยี กับการทำการเกษตรปัจจุับันยังไม่ได้เลย เท่ากับ
ว่า เราไม่ได้ให้อะไรกลับคืนภาคเกษตรไป แต่ในขณะเดียวกัน เราก็ไม่ได้เดิน
ไปข้างหน้า ไม้ผลัดที่เราได้รับมาจากเกษตรกร ไม่ได้ไปต่อ มันตันอยู่ตรงกลาง
แล้วรัฐเราก็มีหน้าที่อยู่แค่ว่า ทำยังไง ไม่ให้เงินลงทุนต่างชาติมันไหลออกไป
เพราะถ้าไหลออกไปเมื่อไหร่ เราก็อดตายไม่มีเงิน เราถึงต้องมีแผนสำรองอย่าง
การอยู่อย่างพอเพียง เศรษฐกิจพอเพียง เพื่อป้องกันความเสี่ยงตรงนี้
แต่ยังไงมันก็ยังเสี่ยงอยู่ดี เพราะเราไม่ได้เดินไปข้างหน้า และเราก็ไม่ได้ช่วยคน
ข้างหลัง ได้แต่รอเวลาว่า หากเงื่อนไขด้านการลงทุน ไม่ถูกใจชาวต่างชาติเมื่อใด
และเมื่อเค้าย้ายเงินเค้าจากไป เราก็จบ ตอนนี้ก็ได้แต่ภาวนา ว่าขอให้บริษัทต่างชาติ
มีความสุขกับการประกอบการในบ้านเราให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เค้าจะได้ไม่จากเราไป
ซึ่งมันไม่ใช่สิ่งที่เรียกว่าความมั่นคงใดๆ ทั้งสิ้น แต่ยังไงสุดท้าย จะมีคนกลุ่มหนึ่งที่สบาย
นั่นก็คือ ลูกจ้างฝีมือดีชาวไทย ที่ถึงแม้ว่าทุนจะย้ายออกไปจากประเทศ เค้าก็อาจจะเอา
ไปด้วย หรือแม้ว่าจะเหลือทุนในประเทศไทยน้อยเต็มที ลูกจ้างฝีมือดีเหล่านี้ก็ยังคง
ถูกจ้างอยู่ อย่างสบาย และเอาเงินไปซื้อรถหรูๆ แพงๆ ได้ พวกเราก็คือคนกลุ่มนี้แหล่ะ
และถามว่า เราได้ให้อะไรคืนกลับไปให้ชาวเกษตรกรมั๊ย ไม่เลย