ผู้เขียน หัวข้อ: ++ คิดว่าอนาคตอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย อีก 10-20 ปี จะเป็นยังไงอ่ะครับ ++  (อ่าน 6050 ครั้ง)

ออฟไลน์ Severus Snape

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 203
มาลองนึก ๆ ดู ที่เราส่งออกรถยนต์ได้ปีนึงเป็นล้านคัน ก็มาจากการลงทุนของบริษัทต่างชาติทั้งนั้น
แล้วทีนี้ ถ้าเกิดว่าในอีก 10-20 ปีข้างหน้า ค่าแรงขั้นต่ำของแรงงานไทยแพงขึ้นกว่าปัจจุบัน บริษัทเหล่านี้จะย้ายฐานการผลิตไปประเทศอื่น ๆ ที่ค่าแรงต่ำกว่ามั้ย
อย่างเวียดนาม อินโดนีเซีย อะไรแบบนี้ แล้วตอนนั้นเมืองไทยจะได้อะไรจากการที่ต่างชาติเข้ามาลงทุนไว้บ้าง ? ณ ตอนนั้น เมืองไทยจะอยู่ในตำแหน่งอะไร ?
เพราะทางบริษัทเหล่านี้เอง ก็ไม่ได้ถ่ายทอดเทคโนโลยีอะไรให้กับบริษัทผู้ผลิตของไทยสักเท่าไหร่เลย (อย่างเครื่องยนต์ ซึ่งเป็นหัวใจหลักของรถยนต์ ปัจจุบันบริษัทไทยยังผลิตไม่ได้เลย)
ไม่เหมือนประเทศจีน ที่สามารถบังคับให้บริษัทต่างชาติถ่ายทอดเทคโนโลยีได้ (เข้าใจว่าเป็นเพราะตลาดประเทศเค้าใหญ่มาก ทำให้มีอำนาจในการต่อรอง)

พอคิดแบบนี้แล้วรู้สึกเหมือนเมืองไทย โดน กลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่จากต่างชาติเอาเปรียบเลยอ่ะครับ
คนอื่นในบอร์ดนี้คิดยังไงกันบ้างอ่ะ.....

ออฟไลน์ Satanic za'

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,072
มาลองนึก ๆ ดู ที่เราส่งออกรถยนต์ได้ปีนึงเป็นล้านคัน ก็มาจากการลงทุนของบริษัทต่างชาติทั้งนั้น
แล้วทีนี้ ถ้าเกิดว่าในอีก 10-20 ปีข้างหน้า ค่าแรงขั้นต่ำของแรงงานไทยแพงขึ้นกว่าปัจจุบัน บริษัทเหล่านี้จะย้ายฐานการผลิตไปประเทศอื่น ๆ ที่ค่าแรงต่ำกว่ามั้ย
อย่างเวียดนาม อินโดนีเซีย อะไรแบบนี้ แล้วตอนนั้นเมืองไทยจะได้อะไรจากการที่ต่างชาติเข้ามาลงทุนไว้บ้าง ? ณ ตอนนั้น เมืองไทยจะอยู่ในตำแหน่งอะไร ?
เพราะทางบริษัทเหล่านี้เอง ก็ไม่ได้ถ่ายทอดเทคโนโลยีอะไรให้กับบริษัทผู้ผลิตของไทยสักเท่าไหร่เลย (อย่างเครื่องยนต์ ซึ่งเป็นหัวใจหลักของรถยนต์ ปัจจุบันบริษัทไทยยังผลิตไม่ได้เลย)
ไม่เหมือนประเทศจีน ที่สามารถบังคับให้บริษัทต่างชาติถ่ายทอดเทคโนโลยีได้ (เข้าใจว่าเป็นเพราะตลาดประเทศเค้าใหญ่มาก ทำให้มีอำนาจในการต่อรอง)

พอคิดแบบนี้แล้วรู้สึกเหมือนเมืองไทย โดน กลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่จากต่างชาติเอาเปรียบเลยอ่ะครับ
คนอื่นในบอร์ดนี้คิดยังไงกันบ้างอ่ะ.....

พูดถึงเรื่องจีนแล้วผมเห็นด้วยมากๆ ตอนที่บริษัทซีเมนต์จะขอมาตั้งฐานการผลิตในจีน จีนบังคับเลยว่าต้องถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กับจีน

หลังจากนั้น ไม่นาน เป็นไงล่ะครับ จีนสามารถผลิตรถไฟความเร็วสูงได้ด้วยตัวเองแล้ว

รัฐบาลไทยหวังแค่ว่าไทย จะเป็นแค่ฐานการผลิตเท่านั้นเอง ไม่ได้คิดถึงอนาคตเท่าไหร่ ถ้าพูดตรงๆก็เหมือนให้เค้ามาถลุงจนไม่มีอะไรเหลือแล้วเดี๋ยวเค้าก็ไป

แต่ถ้าถามว่าวันนึง บ เหล่านี้จะย้ายออกไปหรือไม่นั้น ผมว่าอยู่ที่ลักษณะภูมิประเทศและภัยธรรมชาติที่จะเกิดขึ้นด้วย

รุ้สึกว่าฟอร์ดและมาสด้าที่จะย้ายมาผลิตที่ประเทศไทย ปัจจัยหนึ่งเนื่องจากที่ฟิลิปปินส์มีทั้งน้ำท่วมหนักทุกปี แผ่นดินไหว แล้วเจอพายุหนักทุกปี (ล่าสุดก็เพิ่งเจอ นากิ  มั้ง)

มันมีหลายๆปัจจัยครับ ผมว่าถามตอนนี้ อาจจะยังตอบไม่ได้อะครับ

ออฟไลน์ prai

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,153
ประเทศเราไม่เหมาะการ ประเทศอุตสาหกรรมครับ
ประเทศไทยเรากับการเป็น ประเทศเกษตรกรรม มากกว่ามาก
เหมาะสมทั้ง ภูมิประเทศ ภูมิอากาศ


เพียงแต่รัฐ ทำระบบชลประทานและระบบจัดการน้ำให้อยู่ในระดับเยี่ยม
และพัฒนาศักยภาพในการผลิต แลปวิจัย ข้าว ยางพารา และผลไม้ธุรกิจสำคัญๆ
ให้ประเทศไทยเราเป็นประเทศผลิตอาหารอันดับหนึ่งของโลกให้ได้


ผมว่าเท่านี้ประเทศเราก็มีอำนาจต่อรองแล้วครับ
เพราะอนาคตอาหารและน้ำสำคัญมาก
เพราะประชากรโลกเพิ่มขึ้นทุกนาที และอย่างรวดเร็ว


แล้วคุณคิดว่าสิ่งอำนวยความสะดวก หรือ อาหาร ที่สำคัญกว่า ที่จะทำให้ชีวิตคนดำรงอยู่รอดได้กว่ากันครับ?


แต่ผมก็ไม่ได้แย้งเรื่องอุตสาหกรรมนะ
การที่เขามาลงทุน ถ้าไม่มีอะไรไปกระทบกิจการเขาแรงๆ
เขาก็ไม่ย้ายไปไหนหรอกครับ

ออฟไลน์ jobbabys

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 156
ผมเห็นด้วยกับความเห็นบนครับ
อุตสาหกรรมรถยนต์ก็มีประโยชน์ในการขับเคลื่อน ศก.
ทีนี้ ถ้าเรามองว่า เค้าถ่ายมอดเทคโนโลยีให้ แล้วคนไทยคนไหนกล้าลงทุน
แล้วทำรถแบบที่จีนทำบ้าง
ในจะเรื่องทุนอันมหาศาล
ในจะภาพลักษณ์ ที่คนไทยก็ส่วนใหญ่ก็ปฏิเสธบ้างที่จะไม่ใช้ของไทยก็มี
ผมว่า ปัญหามันเยอะกว่าที่คิดนะครับ

ผมอะสนับสนุนให้มองในแง่เจ้าของกระทู็พูดด้วย
แต่ผมสนับสนุนความเห็นข้างบนมากกว่า
สภาพแวดล้อมในเมืองไทย เหมาะสำหรับเกษตรกรรมมากที่สุดนะครับ
ไหนจะอากาศ
ไหนจะน้ำ
พายุก็น้อยกว่าเพื่อนบ้าน
แต่ การจัดสรรทรัพยากรน้ำ ไม่เคยจัดการซักที ไม่ว่ารัฐบาลยุคไหน
ร้อนก็แล้ง
ฝนก็ท่วม
รัฐบาลก็ไม่ดูแลจริงจัง ปล่อยให้ตกต่ำ
เช่นแทนที่ ประเทศไทย และเพื่อนบ้านที่ปลูกข้าวเป็นอันดับต้น จะสามารถตั้งราคาข้าวได้ เหมือนราคาน้ำมัน และทองคำบ้าง
กับมัวแต่ชิงดีชิงเด่นเยอะแยะไปหมด เอาแต่ประโยชน์ส่วนตน

เพราะงั้น ชาตินี้ คงได้แค่หวัง ว่าเราจะทัดเทียมเค้าบ้าง
ไม่ใช่ อยู๋กับที่แล้วเหลียวมองดูชาติอื่นที่ด้อยกว่า แซงไปทีละประเทศ

ออฟไลน์ Dark Overlord

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,803
  • Hail to the darkside
ปัญหาก็คือ รัฐ ไม่เคยคิดที่จะให้ประเทศหัดทำอะไรได้เอง
หากินกับของเก่าของบรรพบุรุษ อย่างเดียว ไม่สร้างอะไรใหม่ๆ
ไม่มีความรู้สึกท้าทายที่จะทำสิ่งใหม่ๆ ในขณะที่ของเก่าอย่าง
เกษตรกรรม ก็ยังจัดการกันไม่รอด
บางครั้งบางอย่างก็ต้องพยายามทู่ซี้ทำ แต่ประเทศเราและ
รวมทั้งคนในประเทศเรา มักจะคำนวณหาสิ่งที่เป็นข้อแม้ว่า
ตัวเองทำไม่ได้เสมอ ทำไม่ได้เพราะนั้น นี้ หนึ่ง สอง สาม สี่
รวมทั้งบอกว่า ทำไม่ได้ เพราะประเทศเราเป็นประเทศเกษตรกรรม
หรือ ประเทศเราต้องการเติบโตอย่างยั่งยืน แล้วทำไมเรา
ไม่ใส่หลักสูตรทั้งหมดในประเทศนี้ให้มีแต่การทำการเกษตรเล่า
เพราะว่ามันอยู่ไม่ได้ไง อะไรที่เราควรจะทำได้ก็ควรทำ ทั้งการ
รักษาเกษตรกรรม และการที่จะหัดก้ัาวหน้าทางเทคโนโลยี
ใครเล่า ที่โปรโมทสื่อทุกสื่อ ว่าคนไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก
ตอนนี้เราอยู่กันแบบสบายๆ เอาเงินจากเกษตรกรรมไปซื้อของ
อุตสาหกรรมแพงๆ แต่ไม่รู้จักหัดทำเอง ทั้งๆ ที่ทำเองมันประหยัด
มันถูกกว่า คนไทยเราเก่งการเอาตัวรอด อะไรที่ดูท้าทาย หรือ
ทำแล้วยากลำบาก เราจะไม่ทำ เรารักความสบายมากกก เราไม่เคย
ถูกกระตุ้น ว่ามาเลย์เซียผลิตรถได้แล้วนะ เราต้องรีบผลิตมั่ง ไม่งั้น
เราจะตามไม่ทัน เราไม่เคยรู้สึกอะไรแบบนี้กันบ้างเลย อย่างตอน
สมัยญี่ปุ่นกำลังเริ่มฟื้นตัวหลังสงคราม เค้าพยายามแข่งสู้กับ
อเมริกัน เค้ายึดมั่นในคุณค่าของความเป็นมนุษย์ เช่นกัน คนไทย
ก็ไม่ได้ปัญญาอ่อน แต่ไม่มีใครมีความเชื่อมั่นว่า ตัวเองจะทำสิ่ง
ที่ดูยากลำบากให้สำเร็จได้ แล้วก็อ้างว่าเพราะประเทศเราเป็น
ประเทศเกษตรกรรม มีภูมิประเทศเหมาะกับการเกษตร แล้วนอก
จากการเกษตรเราจะนั่งๆ นอนๆ ไม่รู้จักหัดทำอะไรเองบ้างหรือยังไง
เพราะการอยู่ในประเทศที่มีสิ่งแวดล้อมดี เป็นใบอนุญาติให้คนในชาติ
เราขี้เกียจงั้นเหรอ ? ? ? ทุกครั้งที่ผมฟังเรื่องราว อะไรเหล่านี้ ผมรู้สึก
ไม่ชอบมันเลย มันชวนน่าโมโห กับความคิดที่น่ารังเกียจแบบนี้
คนในชาติเราดูจะเป็นคนที่ไม่มีความฝันเอาซะเลย แต่รักแต่ความสบาย !

ผมสงสารคนที่จบด้านวิศวกรรม ด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี่ต่างๆ
ที่เค้ามีความฝัน แต่เค้าดันจบออกมาเค้าถนัดในด้านที่รัฐไม่สนับสนุน
รัฐเอาแต่บอกว่า ประเทศเราคือประเทศเกษตรกรรม ถ้าคนกลุ่มนี้ได้
ฟังแล้วเค้าจะรู้สึกยังไง เค้าอยากผลิตรถได้ แต่เค้ามีทางเลือกสองทาง
คือไปเป็นลูกจ้างบริษัทผลิตรถต่างชาติ หรือ ผันตัวเองไปทำงานวิศวกรรม
ทางด้านการเกษตร ซึ่งเค้าไม่ได้เกิดมาเพื่อต้องการทำการเกษตร
คนเรามีสมอง เราทำได้ทุกๆ อย่างเหมือนชาวโลกในโลกนี้น่ะแหล่ะ
แต่ถ้าต้องมาถูกจำกัด เพียงแค่ว่า เราเกิดมาในประเทศที่มีสภาพแวด
ล้อมเหมาะกับการเกษตร มันฟังดูยุติธรรมแล้วเหรอ หรือคนพวกนี้ต้อง
ย้ายประเทศไปอยู่ ญี่ปุ่น เยอรมัน กันให้หมด

ข้ออ้างของแต่ละคนส่วนใหญ่บอกว่า ไม่ทำรถ เพราะทำไปก็ขาดทุน
แบบนี้เค้าเรียกว่า ทำธุรกิจ หวังแต่ผลกำไร แต่ไร้ความฝัน ความภูมิใจ
คนเหล่านี้ ทำอะไรก็ได้ที่คิดว่าต้องได้กำไร บ้านเราเป็นประเทศเกษตรกรรมนี่
ถ้ามีเงินก็ไปซื้อผลผลิตทางการเกษตรของชาวบ้านมาเอาไปขายได้สบายๆ
กดราคาไปเยอะๆ แค่ขนส่งไปขายก็ได้กำไร ไม่ต้องคิดค้นคว้าอะไรมากมาย
อยู่ได้สบายๆ มีเิงิน หลังจากที่รีดไถชาวนาชาวไร่ ก็ไปซื้อรถหรูสบายๆ BMW,
Benz ผมถามหน่อยว่า การใช้ชีวิตแบบนี้มันน่าภูมิใจตรงไหน แต่ทุกวันนี้
พวกเราทุกคนใช้ชีวิตแบบนั้น ! ที่อเมริกา เค้ามีชุดประกอบ engine ขายกัน
เพื่อให้คนซื้อมาประกอบได้เป็นงานอดิเรก คนเป็นพ่อหลายคน ใช้เวลาว่าง
ชวนลูกมาประกอบเครื่องยนต์กันสนุกสนาน เพิ่มความสัมพันธ์ระหว่างคนใน
ครอบครัว พอประกอบได้เค้าก็ดีใจกันยกใหญ่ อาจจะต้องใช้เวลากันตลอดช่วง
เวลาปิดเทอม แต่ชีวิตคนเราต้องหัดทำอะไรที่มันท้าทายบ้าง แต่คนไทยที่ไม่
เคยคิดทำอะไร เพราะแค่เริ่มความคิดก็ผิดแล้ว คิดอย่างเดียวคือ การหาเหตุผล
ที่จะไม่ต้องทำอะไร อะไรๆ ก็ไม่ได้ ไม่เคยมีอะไรทำได้ เก็บของเก่ากินมันง่ายดี

เมื่อรักแต่ความสบาย ก็จะทำอะไรไม่เป็น คนอังกฤษตอนนี้ไม่มีรถสัญชาติตัว
เองแท้ๆ แล้ว ทุกอย่างตกเป็นของคนอื่นหมด รักแต่ความสบาย วันๆ เอาแต่
ซื้อขายนักฟุตบอล เรากับอังกฤษนี่เหมือนเป็นพี่น้องกันเลย เรื่องรักความสบาย
และชอบรักษาหน้าตัวเอง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 21, 2010, 00:19:21 โดย ned »

ออฟไลน์ jobbabys

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 156
ข้างบนกพูดถูกนะครับ เรื่องความสะดวกสบาย
พูดง่ายๆนะ คนไทยขี้เกียจครับ

แต่ เกษตรกรรม ไม่ใช่อาชีพ นั่งๆ นอนๆ กินนะครับ

เกษตรกรรม สามารถนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยได้

อย่างบ้านเรา ปีนึง ปลูกข้าวได้ 2 ครั้ง มากสุดก็ 3
แต่ ญี่ปุ่น ได้ 4 คร้งต่อปี

และจำนวนข้าวต่อแปลง ก็เยอะกว่า

แต่ผมไม่ชอบความคิดเห็นของคุณว่า

"คนไทย
ก็ไม่ได้ปัญญาอ่อน แต่ไม่มีใครมีความเชื่อมั่นว่า ตัวเองจะทำสิ่ง
ที่ดูยากลำบากให้สำเร็จได้ แล้วก็อ้างว่าเพราะประเทศเราเป็น
ประเทศเกษตรกรรม มีภูมิประเทศเหมาะกับการเกษตร แล้วนอก
จากการเกษตรเราจะนั่งๆ นอนๆ ไม่รู้จักหัดทำอะไรเองบ้างหรือยังไง
เพราะการอยู่ในประเทศที่มีสิ่งแวดล้อมดี เป็นใบอนุญาติให้คนในชาติ
เราขี้เกียจงั้นเหรอ ? ? ? ทุกครั้งที่ผมฟังเรื่องราว อะไรเหล่านี้ ผมรู้สึก
ไม่ชอบมันเลย มันชวนน่าโมโห กับความคิดที่น่ารังเกียจแบบนี้
คนในชาติเราดูจะเป็นคนที่ไม่มีความฝันเอาซะเลย แต่รักแต่ความสบาย !"

ใช่ครับ คนไทย ไม่ปัญญาอ่าน  แต่คุณเคยลงลึกถึงเกษตรกรรม หรือเปล่าครับ
มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆอย่างที่คุณคิดนะครับ ทำอย่างไรให้ผลงอกงาม ไม่มีแมลงรบกวน
ต่อสู้กับโรคร้าย
ผลผลิตดีๆ กว่าจะได้ผลออกมา แต่ละอย่าง เกษตรกรที่ดีเค้าจะดูแลอย่างดี
ไม่ใช่นั้งกินนอนกินอย่างที่คุณคิดนะครับ

ประเด็นอีกอย่างคือ บางคนก็ขยันทำมาหากิน แต่ด้วยภูมิปัญญา ชาวบ้าน ที่ไม่รู้เรื่องเทคโนโลยร
ไหนจะภาครัฐที่ไม่ส่งเสริมความรู็ด้านนี้อย่างจริงจัง เราก็ไม่ได้ก่าวไกล

ชาวเกษตรกรบางคนก็มีกินสบาย แต่บางคน เค้ามีหนี้ ไม่สามารถทำอะไรมากกว่านั้นได้
เพราะงั้น ผมว่า อย่าดูถูกความคิดเกษตรกรรมนะครับ คุณไปลองทำดูก่อน ไม่ใช่ใครก็จะทำให้มันดีได้นะครับ

แล้วมันไม่ใช่แค่คำว่า นั่งๆ นอนๆ  แล้วผลมันจะออกมาดีนะครับ

ส่วนเรื่องเทคโนโลยี บางทีก็เพลาๆลงบ้าง
คนไทย เก่งเยอะครับ
แค่คนไทย ชอบเอารัดเอาเปรียบ เห็นแก่ตัวครับ ไม่มีกฏระเบียบ

ต่างชาติเลยไม่กล้าฝากความหวังกับคนไทย ในการถ่ายทอกเทคโนโลยี ส่วนนึงก็คงเรื่องความลับ

แต่ส่วนใหญ่ คือ เรื่องรัฐไม่ดูแลอะไรเลย ฮาๆ

ออฟไลน์ Dark Overlord

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,803
  • Hail to the darkside
ข้างบนกพูดถูกนะครับ เรื่องความสะดวกสบาย
พูดง่ายๆนะ คนไทยขี้เกียจครับ

แต่ เกษตรกรรม ไม่ใช่อาชีพ นั่งๆ นอนๆ กินนะครับ

เกษตรกรรม สามารถนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยได้

อย่างบ้านเรา ปีนึง ปลูกข้าวได้ 2 ครั้ง มากสุดก็ 3
แต่ ญี่ปุ่น ได้ 4 คร้งต่อปี

และจำนวนข้าวต่อแปลง ก็เยอะกว่า

แต่ผมไม่ชอบความคิดเห็นของคุณว่า

"คนไทย
ก็ไม่ได้ปัญญาอ่อน แต่ไม่มีใครมีความเชื่อมั่นว่า ตัวเองจะทำสิ่ง
ที่ดูยากลำบากให้สำเร็จได้ แล้วก็อ้างว่าเพราะประเทศเราเป็น
ประเทศเกษตรกรรม มีภูมิประเทศเหมาะกับการเกษตร แล้วนอก
จากการเกษตรเราจะนั่งๆ นอนๆ ไม่รู้จักหัดทำอะไรเองบ้างหรือยังไง
เพราะการอยู่ในประเทศที่มีสิ่งแวดล้อมดี เป็นใบอนุญาติให้คนในชาติ
เราขี้เกียจงั้นเหรอ ? ? ? ทุกครั้งที่ผมฟังเรื่องราว อะไรเหล่านี้ ผมรู้สึก
ไม่ชอบมันเลย มันชวนน่าโมโห กับความคิดที่น่ารังเกียจแบบนี้
คนในชาติเราดูจะเป็นคนที่ไม่มีความฝันเอาซะเลย แต่รักแต่ความสบาย !"

ใช่ครับ คนไทย ไม่ปัญญาอ่าน  แต่คุณเคยลงลึกถึงเกษตรกรรม หรือเปล่าครับ
มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆอย่างที่คุณคิดนะครับ ทำอย่างไรให้ผลงอกงาม ไม่มีแมลงรบกวน
ต่อสู้กับโรคร้าย
ผลผลิตดีๆ กว่าจะได้ผลออกมา แต่ละอย่าง เกษตรกรที่ดีเค้าจะดูแลอย่างดี
ไม่ใช่นั้งกินนอนกินอย่างที่คุณคิดนะครับ

ประเด็นอีกอย่างคือ บางคนก็ขยันทำมาหากิน แต่ด้วยภูมิปัญญา ชาวบ้าน ที่ไม่รู้เรื่องเทคโนโลยร
ไหนจะภาครัฐที่ไม่ส่งเสริมความรู็ด้านนี้อย่างจริงจัง เราก็ไม่ได้ก่าวไกล

ชาวเกษตรกรบางคนก็มีกินสบาย แต่บางคน เค้ามีหนี้ ไม่สามารถทำอะไรมากกว่านั้นได้
เพราะงั้น ผมว่า อย่าดูถูกความคิดเกษตรกรรมนะครับ คุณไปลองทำดูก่อน ไม่ใช่ใครก็จะทำให้มันดีได้นะครับ

แล้วมันไม่ใช่แค่คำว่า นั่งๆ นอนๆ  แล้วผลมันจะออกมาดีนะครับ

ส่วนเรื่องเทคโนโลยี บางทีก็เพลาๆลงบ้าง
คนไทย เก่งเยอะครับ
แค่คนไทย ชอบเอารัดเอาเปรียบ เห็นแก่ตัวครับ ไม่มีกฏระเบียบ

ต่างชาติเลยไม่กล้าฝากความหวังกับคนไทย ในการถ่ายทอกเทคโนโลยี ส่วนนึงก็คงเรื่องความลับ

แต่ส่วนใหญ่ คือ เรื่องรัฐไม่ดูแลอะไรเลย ฮาๆ

ก็เรากำลังกินบนหลังเค้าอยู่ไงครับ คุณอ่านของผมไม่เข้าใจ
ชาวนาชาวไร้ของเรายากจนกันขนาดไหน เพราะเราเล่นทำแต่ธุรกิจง่ายๆ
กินส่วนต่าง เอาของเค้ามาขาย ซื้อเค้ามาถูก แต่มาขายแพง เงินที่ได้จาก
การเกษตร แทนที่จะไปต่อยอด หัดสร้างอะไรเองขึ้นมาบ้าง ก็ไม่ทำ ไป
ซื้อเค้าเอาง่ายกว่า ผมไม่ได้บอกว่าชาวชาวไร่รักความสบาย มันคนล่ะเรื่อง
ผมกำลังพูดถึงพวกเรากันเองนี่แหล่ะ เราไม่มีสิทธิ์คิดว่าพวกเราคือประเทศ
เกษตรกรรม แล้วจะไม่หัดทำอุตสาหกรรมเอง รถยนต์น่ะผลิตได้ ขายได้ด้วย
แต่คนไทยช่างหาเหตุผลเก่งเหลือเกิน เพื่อที่จะไม่ทำ เพื่อที่จะไม่เริ่ม เพื่อ
ที่จะได้อยู่อย่างสบาย โดยการกดขี่ชาวนาชาวไร่ต่อไป
สมัยที่ญี่ปุ่นกำลังพัฒนาเรื่องอุตสาหกรรมให้ทันประเทศฝั่งตะวันตก เค้า
ต้องใช้เงินทองจากพ่อแม่ที่เป็นชาวนาชาวไร่เพื่อไปเรียนรู้เทคโนโลยี่ และ
เค้าคิดว่าเค้าต้องทำให้สำเร็จให้ได้ ไม่งั้นเท่ากับว่า บรรพบุรุษเค้าเสียแรง
เปล่า นี่คือประวัติศาสต์ ที่คุณอันโด แห่งนิชชิน เคยบรรยายไว้
คุณไม่หัดสร้าง และทำอุตสาหกรรมของประเทศคุณเอง เท่ากับคุณทรยศ
ความเหนื่อยยากของบรรพบุรุษ ประชาชนที่เป็นชาวนาชาวไร่ และเกษตรกร
ทั้งหมดในประเทศของคุณเอง เงินที่ได้มาจากความยากลำบากของคนเหล่านั้น
ไม่ได้รับการต่อยอด แต่คุณกลับเอาไปซื้อของอุตสาหกรรมที่ผลิตโดยชาติอื่นกัน
ง่ายๆ สบายๆ นี่คือความจริง คนในเมืองและรัฐบาลกำลังทรยศ ประชากรชาวเกษตรกร
ทั้งหมดในชาติ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 21, 2010, 00:30:21 โดย ned »

ออฟไลน์ jobbabys

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 156
และอีกประเด็นนึงครับ

คืนตอนนี้ภาครัฐ เค้าเน้นด้านให้ต่างชาติมาลงทุน ด้าน อุตสาหกรรม ถูกไหมครับ

ซึ่งประเด็นของเรื่องถ่ายถอดเทคโนโลยีที่เจ้าของกระทุ็พูดนั้น ถูกต้องครับ

แต่ประเด็นที่ผมพูด น่าจะโฟกัสตรงที่ว่า รัฐ ไม่ดูแลเรื่องเกษตรกรรมเลยมากกว่าครับ

เพราะตอนนี้ ไหนจะ 3g เอย ไหนจะรถไฟฟ้าเอย ไหนจะโรงงานต่างๆเอย ภาครัฐเน้นสนับสนุนตรงนั้นมาก

จนลืมไปว่า ประเทศเรายังมีเกษตรกรรมอยู่ไงครับ

อย่าลืมนะครับ ประชากรเราส่วนใหญ่ตามต่างจังหวัดเกษตรกรทั้งนั้นครับ

ไหนจะขับเคลื่อน ศก ไม่ใช่ดูแลการลงทุนด้าน อุตสาหากรรมอย่างเดียว

จนลืมไปว่า ภาคเกษตรกรรม ของประเทศเราใหญ่มากนะครับ

มันควรจะขับเคลื่อนไปพร้อมกัน

ส่วนเรื่องความเห็นนี้

"ผมสงสารคนที่จบด้านวิศวกรรม ด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี่ต่างๆ
ที่เค้ามีความฝัน แต่เค้าดันจบออกมาเค้าถนัดในด้านที่รัฐไม่สนับสนุน
รัฐเอาแต่บอกว่า ประเทศเราคือประเทศเกษตรกรรม ถ้าคนกลุ่มนี้ได้
ฟังแล้วเค้าจะรู้สึกยังไง เค้าอยากผลิตรถได้ แต่เค้ามีทางเลือกสองทาง
คือไปเป็นลูกจ้างบริษัทผลิตรถต่างชาติ หรือ ผันตัวเองไปทำงานวิศวกรรม
ทางด้านการเกษตร ซึ่งเค้าไม่ได้เกิดมาเพื่อต้องการทำการเกษตร
คนเรามีสมอง เราทำได้ทุกๆ อย่างเหมือนชาวโลกในโลกนี้น่ะแหล่ะ
แต่ถ้าต้องมาถูกจำกัด เพียงแค่ว่า เราเกิดมาในประเทศที่มีสภาพแวด
ล้อมเหมาะกับการเกษตร มันฟังดูยุติธรรมแล้วเหรอ หรือคนพวกนี้ต้อง
ย้ายประเทศไปอยู่ ญี่ปุ่น เยอรมัน กันให้หมด"

ผมหรือความเห็นบนไม่ได้บอกว่า จบมาต้องทำการเกษตรนะครับ
แต่ตอนนี้ลองสังเกตการศึกษาไทย เน้นแต่ด้านวิศวกรรมทางอุตสาหกรรมไปหมดแล้ว

ทางเกษตร เหลือน้อยมาก เด็กก็ไม่อยากเรียน

ผมว่า คุณดูถูกเกษตรกรรมเกินไปนะครับ

ผมก็จบวิศวกรรมไฟฟ้า

เคยทำงานเป็น Design Engineer ของ Sony Mobile
ซึ่งทาง ญี่ปุ่น บริษัทแม่เอง ก็ปล่อยองค์ความรู้มาหมด ให้ออกแบบเองทั้งหมด
ซึ่งเริ่มเป็นที่ยอมรับของ ญี่ปุ่นเอง คือ เค้าเริ่มไว้ใจคนไทยให้ออกแบบเองแล้วครับ
แต่เค้าต้องดูแลขั้นสุดท้าย ให้เป็นไปตามมาตรฐาน

รุ่นที่ผมออกแบบ ก็รุ่น CDX-GT6xx จำรหัสรุ่นไม่ได้ละครับ เพราะออกมาสามปีแล้ว
แต่เป็นรุ่น Filp Down รุ่นแกของโซนี่ที่เล่น USB ได้ ผมออกและเพื่อนร่วมทีมออกแบบกันเอง
ยากมาก เพราะเป็นรุ่นแรกที่เล่น USB ได้ของ SONY ครับ

เพราะงั้น ผมว่า มันขึ้นอยุ๋กับความไว้วางใจที่ต่างชาติที่เข้ามาลงทุน
จะไว้ใจคนไทยมากแค่ไหนด้วย

ผมเห็นด้วย ที่คุณว่า คนไทย รักสบาย ขี้เกียจ
เอาแต่ได้

เพราะงั้น เรามาปรับ นิสัยตัวเราเอง และ ทำตัวเราเองให้ดีที่สุดกันเถอะครับ

สู้ๆ ทั้งพี่ และความเห็นอื่นๆครับ
ถึงแม้เสียงพวกเาจะเล็ก แต่หลายเสียง ทำให้ดี ซักวัน บ้านเราคงจะดีขึ้นครับ

ออฟไลน์ jobbabys

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 156
ข้างบนกพูดถูกนะครับ เรื่องความสะดวกสบาย
พูดง่ายๆนะ คนไทยขี้เกียจครับ

แต่ เกษตรกรรม ไม่ใช่อาชีพ นั่งๆ นอนๆ กินนะครับ

เกษตรกรรม สามารถนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยได้

อย่างบ้านเรา ปีนึง ปลูกข้าวได้ 2 ครั้ง มากสุดก็ 3
แต่ ญี่ปุ่น ได้ 4 คร้งต่อปี

และจำนวนข้าวต่อแปลง ก็เยอะกว่า

แต่ผมไม่ชอบความคิดเห็นของคุณว่า

"คนไทย
ก็ไม่ได้ปัญญาอ่อน แต่ไม่มีใครมีความเชื่อมั่นว่า ตัวเองจะทำสิ่ง
ที่ดูยากลำบากให้สำเร็จได้ แล้วก็อ้างว่าเพราะประเทศเราเป็น
ประเทศเกษตรกรรม มีภูมิประเทศเหมาะกับการเกษตร แล้วนอก
จากการเกษตรเราจะนั่งๆ นอนๆ ไม่รู้จักหัดทำอะไรเองบ้างหรือยังไง
เพราะการอยู่ในประเทศที่มีสิ่งแวดล้อมดี เป็นใบอนุญาติให้คนในชาติ
เราขี้เกียจงั้นเหรอ ? ? ? ทุกครั้งที่ผมฟังเรื่องราว อะไรเหล่านี้ ผมรู้สึก
ไม่ชอบมันเลย มันชวนน่าโมโห กับความคิดที่น่ารังเกียจแบบนี้
คนในชาติเราดูจะเป็นคนที่ไม่มีความฝันเอาซะเลย แต่รักแต่ความสบาย !"

ใช่ครับ คนไทย ไม่ปัญญาอ่าน  แต่คุณเคยลงลึกถึงเกษตรกรรม หรือเปล่าครับ
มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆอย่างที่คุณคิดนะครับ ทำอย่างไรให้ผลงอกงาม ไม่มีแมลงรบกวน
ต่อสู้กับโรคร้าย
ผลผลิตดีๆ กว่าจะได้ผลออกมา แต่ละอย่าง เกษตรกรที่ดีเค้าจะดูแลอย่างดี
ไม่ใช่นั้งกินนอนกินอย่างที่คุณคิดนะครับ

ประเด็นอีกอย่างคือ บางคนก็ขยันทำมาหากิน แต่ด้วยภูมิปัญญา ชาวบ้าน ที่ไม่รู้เรื่องเทคโนโลยร
ไหนจะภาครัฐที่ไม่ส่งเสริมความรู็ด้านนี้อย่างจริงจัง เราก็ไม่ได้ก่าวไกล

ชาวเกษตรกรบางคนก็มีกินสบาย แต่บางคน เค้ามีหนี้ ไม่สามารถทำอะไรมากกว่านั้นได้
เพราะงั้น ผมว่า อย่าดูถูกความคิดเกษตรกรรมนะครับ คุณไปลองทำดูก่อน ไม่ใช่ใครก็จะทำให้มันดีได้นะครับ

แล้วมันไม่ใช่แค่คำว่า นั่งๆ นอนๆ  แล้วผลมันจะออกมาดีนะครับ

ส่วนเรื่องเทคโนโลยี บางทีก็เพลาๆลงบ้าง
คนไทย เก่งเยอะครับ
แค่คนไทย ชอบเอารัดเอาเปรียบ เห็นแก่ตัวครับ ไม่มีกฏระเบียบ

ต่างชาติเลยไม่กล้าฝากความหวังกับคนไทย ในการถ่ายทอกเทคโนโลยี ส่วนนึงก็คงเรื่องความลับ

แต่ส่วนใหญ่ คือ เรื่องรัฐไม่ดูแลอะไรเลย ฮาๆ

ก็เรากำลังกินบนหลังเค้าอยู่ไงครับ คุณอ่านของผมไม่เข้าใจ
ชาวนาชาวไร้ของเรายากจนกันขนาดไหน เพราะเราเล่นทำแต่ธุรกิจง่ายๆ
กินส่วนต่าง เอาของเค้ามาขาย ซื้อเค้ามาถูก แต่มาขายแพง เงินที่ได้จาก
การเกษตร แทนที่จะไปต่อยอด หัดสร้างอะไรเองขึ้นมาบ้าง ก็ไม่ทำ ไป
ซื้อเค้าเอาง่ายกว่า ผมไม่ได้บอกว่าชาวชาวไร่รักความสบาย มันคนล่ะเรื่อง
ผมกำลังพูดถึงพวกเรากันเองนี่แหล่ะ เราไม่มีสิทธิ์คิดว่าพวกเราคือประเทศ
เกษตรกรรม แล้วจะไม่หัดทำอุตสาหกรรมเอง รถยนต์น่ะผลิตได้ ขายได้ด้วย
แต่คนไทยช่างหาเหตุผลเก่งเหลือเกิน เพื่อที่จะไม่ทำ เพื่อที่จะไม่เริ่ม เพื่อ
ที่จะได้อยู่อย่างสบาย โดยการกดขี่ชาวนาชาวไร่ต่อไป
สมัยที่ญี่ปุ่นกำลังพัฒนาเรื่องอุตสาหกรรมให้ทันประเทศฝั่งตะวันตก เค้า
ต้องใช้เงินทองจากพ่อแม่ที่เป็นชาวนาชาวไร่เพื่อไปเรียนรู้เทคโนโลยี่ และ
เค้าคิดว่าเค้าต้องทำให้สำเร็จให้ได้ ไม่งั้นเท่ากับว่า บรรพบุรุษเค้าเสียแรง
เปล่า นี่คือประวัติศาสต์ ที่คุณอันโด แห่งนิชชิน เคยบรรยายไว้
คุณไม่หัดสร้าง และทำอุตสาหกรรมของประเทศคุณเอง เท่ากับคุณทรยศ
ความเหนื่อยยากของบรรพบุรุษ ประชาชนที่เป็นชาวนาชาวไร่ และเกษตรกร
ทั้งหมดในประเทศของคุณเอง เงินที่ได้มาจากความยากลำบากของคนเหล่านั้น
ไม่ได้รับการต่อยอด แต่คุณกลับเอาไปซื้อของอุตสาหกรรมที่ผลิตโดยชาติอื่นกัน
ง่ายๆ สบายๆ นี่คือความจริง คนในเมืองและรัฐบาลกำลังทรยศ ประชากรชาวเกษตรกร
ทั้งหมดในชาติ

ฮาๆ ถ้าความเห็นนี้ ผมเห็นด้วยครับ เพียงแต่อันบนก่อนหน้า ไม่เคลียร์จ้า

ออฟไลน์ Dark Overlord

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,803
  • Hail to the darkside
และอีกประเด็นนึงครับ

คืนตอนนี้ภาครัฐ เค้าเน้นด้านให้ต่างชาติมาลงทุน ด้าน อุตสาหกรรม ถูกไหมครับ

ซึ่งประเด็นของเรื่องถ่ายถอดเทคโนโลยีที่เจ้าของกระทุ็พูดนั้น ถูกต้องครับ

แต่ประเด็นที่ผมพูด น่าจะโฟกัสตรงที่ว่า รัฐ ไม่ดูแลเรื่องเกษตรกรรมเลยมากกว่าครับ

เพราะตอนนี้ ไหนจะ 3g เอย ไหนจะรถไฟฟ้าเอย ไหนจะโรงงานต่างๆเอย ภาครัฐเน้นสนับสนุนตรงนั้นมาก

จนลืมไปว่า ประเทศเรายังมีเกษตรกรรมอยู่ไงครับ

อย่าลืมนะครับ ประชากรเราส่วนใหญ่ตามต่างจังหวัดเกษตรกรทั้งนั้นครับ

ไหนจะขับเคลื่อน ศก ไม่ใช่ดูแลการลงทุนด้าน อุตสาหากรรมอย่างเดียว

จนลืมไปว่า ภาคเกษตรกรรม ของประเทศเราใหญ่มากนะครับ

มันควรจะขับเคลื่อนไปพร้อมกัน

ส่วนเรื่องความเห็นนี้

"ผมสงสารคนที่จบด้านวิศวกรรม ด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี่ต่างๆ
ที่เค้ามีความฝัน แต่เค้าดันจบออกมาเค้าถนัดในด้านที่รัฐไม่สนับสนุน
รัฐเอาแต่บอกว่า ประเทศเราคือประเทศเกษตรกรรม ถ้าคนกลุ่มนี้ได้
ฟังแล้วเค้าจะรู้สึกยังไง เค้าอยากผลิตรถได้ แต่เค้ามีทางเลือกสองทาง
คือไปเป็นลูกจ้างบริษัทผลิตรถต่างชาติ หรือ ผันตัวเองไปทำงานวิศวกรรม
ทางด้านการเกษตร ซึ่งเค้าไม่ได้เกิดมาเพื่อต้องการทำการเกษตร
คนเรามีสมอง เราทำได้ทุกๆ อย่างเหมือนชาวโลกในโลกนี้น่ะแหล่ะ
แต่ถ้าต้องมาถูกจำกัด เพียงแค่ว่า เราเกิดมาในประเทศที่มีสภาพแวด
ล้อมเหมาะกับการเกษตร มันฟังดูยุติธรรมแล้วเหรอ หรือคนพวกนี้ต้อง
ย้ายประเทศไปอยู่ ญี่ปุ่น เยอรมัน กันให้หมด"

ผมหรือความเห็นบนไม่ได้บอกว่า จบมาต้องทำการเกษตรนะครับ
แต่ตอนนี้ลองสังเกตการศึกษาไทย เน้นแต่ด้านวิศวกรรมทางอุตสาหกรรมไปหมดแล้ว

ทางเกษตร เหลือน้อยมาก เด็กก็ไม่อยากเรียน

ผมว่า คุณดูถูกเกษตรกรรมเกินไปนะครับ

ผมก็จบวิศวกรรมไฟฟ้า

เคยทำงานเป็น Design Engineer ของ Sony Mobile
ซึ่งทาง ญี่ปุ่น บริษัทแม่เอง ก็ปล่อยองค์ความรู้มาหมด ให้ออกแบบเองทั้งหมด
ซึ่งเริ่มเป็นที่ยอมรับของ ญี่ปุ่นเอง คือ เค้าเริ่มไว้ใจคนไทยให้ออกแบบเองแล้วครับ
แต่เค้าต้องดูแลขั้นสุดท้าย ให้เป็นไปตามมาตรฐาน

รุ่นที่ผมออกแบบ ก็รุ่น CDX-GT6xx จำรหัสรุ่นไม่ได้ละครับ เพราะออกมาสามปีแล้ว
แต่เป็นรุ่น Filp Down รุ่นแกของโซนี่ที่เล่น USB ได้ ผมออกและเพื่อนร่วมทีมออกแบบกันเอง
ยากมาก เพราะเป็นรุ่นแรกที่เล่น USB ได้ของ SONY ครับ

เพราะงั้น ผมว่า มันขึ้นอยุ๋กับความไว้วางใจที่ต่างชาติที่เข้ามาลงทุน
จะไว้ใจคนไทยมากแค่ไหนด้วย

ผมเห็นด้วย ที่คุณว่า คนไทย รักสบาย ขี้เกียจ
เอาแต่ได้

เพราะงั้น เรามาปรับ นิสัยตัวเราเอง และ ทำตัวเราเองให้ดีที่สุดกันเถอะครับ

สู้ๆ ทั้งพี่ และความเห็นอื่นๆครับ
ถึงแม้เสียงพวกเาจะเล็ก แต่หลายเสียง ทำให้ดี ซักวัน บ้านเราคงจะดีขึ้นครับ

คุณไม่เข้าใจ (อีกละ) การที่เราจะผลิตและพัฒนาได้ด้วยตนเอง
ต้องได้รับการสนับสนุนจากรัฐ ถูกต้องใช่มั๊ยครับ แต่การสนับสนุนให้
เกิดอุตสาหกรรมจากการลงทุนของต่างชาติ มันคนล่ะเรื่องเลยนะครับ มันเป็น
เรื่องของการหาเงินลงทุน มาลงทุนในประเทศ เพื่อสร้างงาน ไม่ให้คนในชาติ
อดตายมากกว่า ก็เท่านั้น ประเด็นคือ เราคือประเทศที่ต้องการเงิน แต่ไม่เคย
ต้องการผลิตอะไรเอง รัฐยังไม่เคยสนับสนุนอุตสาหกรรมในประเทศอย่าง
แท้จริงเลยซักครั้ง

การสนับสนุนและการพัฒนานักประดิษฐ์ในประเทศมันตันอยู่ตรงนี้
และมันไม่มีที่ให้เค้าไป ยังไงๆ ถึงรัฐจะล้มเหลวในการบริหารจัดการ
โครงสร้างทางภาคเกษตรมากแค่ไหน แต่มันก็เหลืองานทำแค่ทางด้าน
นั้น ถ้าจะเอาเทคโนโลยี่ลงไปทำอะไรด้วยตัวเองจริงๆ ก็คงมีแต่ทาง
ด้านการเกษตร ที่จะเข้าไปใช้งบประมาณและได้รับการสนับสนุนจากรัฐบ้าง
แต่ถ้าเป็นภาคอุตสาหกรรม ยังไงๆ ก็ต้องไปเป็นลูกจ้างกินเงินเดือนเค้า
เป็นแค่ลูกจ้างนะครับ ไม่ได้ทำอุตสาหกรรม หรือผลิตอะไรด้วยตัวเอง

ตอนนี้ต้องถือว่ารับรับไม้ผลัดมาจากบรรพบุรุษเกษตรกรของเรามานานแล้วนะ
ทำไมพูดแบบนี้ เพราะเค้าหยิบยื่นโอกาสมาให้เราได้ศึกษามีความรู้ทั้งด้าน
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีต่างๆ จากหลักสูตรที่รัฐจัดมาให้นี่แหล่ะ และ
หลักสูตรดังกล่าวมีอะไรที่สามารถกลับไปช่วยการเกษตรอย่างจริงๆ จังๆ ได้
้บ้าง เรายังประยุกต์เทคโนโลยี กับการทำการเกษตรปัจจุับันยังไม่ได้เลย เท่ากับ
ว่า เราไม่ได้ให้อะไรกลับคืนภาคเกษตรไป แต่ในขณะเดียวกัน เราก็ไม่ได้เดิน
ไปข้างหน้า ไม้ผลัดที่เราได้รับมาจากเกษตรกร ไม่ได้ไปต่อ มันตันอยู่ตรงกลาง
แล้วรัฐเราก็มีหน้าที่อยู่แค่ว่า ทำยังไง ไม่ให้เงินลงทุนต่างชาติมันไหลออกไป
เพราะถ้าไหลออกไปเมื่อไหร่ เราก็อดตายไม่มีเงิน เราถึงต้องมีแผนสำรองอย่าง
การอยู่อย่างพอเพียง เศรษฐกิจพอเพียง เพื่อป้องกันความเสี่ยงตรงนี้
แต่ยังไงมันก็ยังเสี่ยงอยู่ดี เพราะเราไม่ได้เดินไปข้างหน้า และเราก็ไม่ได้ช่วยคน
ข้างหลัง ได้แต่รอเวลาว่า หากเงื่อนไขด้านการลงทุน ไม่ถูกใจชาวต่างชาติเมื่อใด
และเมื่อเค้าย้ายเงินเค้าจากไป เราก็จบ ตอนนี้ก็ได้แต่ภาวนา ว่าขอให้บริษัทต่างชาติ
มีความสุขกับการประกอบการในบ้านเราให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เค้าจะได้ไม่จากเราไป
ซึ่งมันไม่ใช่สิ่งที่เรียกว่าความมั่นคงใดๆ ทั้งสิ้น แต่ยังไงสุดท้าย จะมีคนกลุ่มหนึ่งที่สบาย
นั่นก็คือ ลูกจ้างฝีมือดีชาวไทย ที่ถึงแม้ว่าทุนจะย้ายออกไปจากประเทศ เค้าก็อาจจะเอา
ไปด้วย หรือแม้ว่าจะเหลือทุนในประเทศไทยน้อยเต็มที ลูกจ้างฝีมือดีเหล่านี้ก็ยังคง
ถูกจ้างอยู่ อย่างสบาย และเอาเงินไปซื้อรถหรูๆ แพงๆ ได้ พวกเราก็คือคนกลุ่มนี้แหล่ะ
และถามว่า เราได้ให้อะไรคืนกลับไปให้ชาวเกษตรกรมั๊ย ไม่เลย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 21, 2010, 00:55:32 โดย ned »

ออฟไลน์ Wisidsak

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,260
  • My life is HONDA
    • ICONacc
เราไม่ เก๋า เท่าจีน ให้เค้าให้เทคโนโลยี เค้าก็หนีไป เวียดนาม ได้ (ถ้าเวียดนามมีข้อตกลงที่ดี)
ใครกันจะไม่อยากได้เทคโนโลยีกันบ้าง ใครๆก็อยากได้ แต่บางทีก็ต้องเจียมตัวครับ เราไม่ได้เป็นบิ๊กของโลก เราง้อเค้า ไม่ใช่ เค้าง้อเรา

บ้านเราเป็นประเทศผู้ต้องการ ให้ประเทศอื่นมาลงทุน เราก็ไม่ควรที่จะสร้างรถขึ้นมาเอง (ถึงจริงๆ อยากจะให้มี แต่เชื่อเถิด มีขึ้นมาจริง คนไทย จะยี๋รถได้กันเอง ฟันธง)

อีก 10-20ปี จะเป็นอย่างไร

ดูทิศทางแล้ว น่าจะเป็นรถยนต์พลังงานใหม่ ทั้งหมดแล้วในอีก 10-15ปี ข้างหน้า เครื่องสันดาบ น่าจะเอามาแค่ปั่นไฟ หรือสำหรับเครื่องบิน หรือสำหรับ รถที่ต้องการแบงบิดสูงๆ (เพราะมอเตอร์คงทำไม่ได้)

เดาก็เดายากนะทิศทางรถยนต์บ้านเรา เพราะมันต้องอิงรัฐมาก ต้องดูนโยบายรัฐ ถึงจะพอเดาทางถูก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 21, 2010, 00:50:35 โดย Wisidsak »
  ปังปอนด์ป่วน...คร๊าบ

ออฟไลน์ Dark Overlord

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,803
  • Hail to the darkside

"คนไทย
ก็ไม่ได้ปัญญาอ่อน แต่ไม่มีใครมีความเชื่อมั่นว่า ตัวเองจะทำสิ่ง
ที่ดูยากลำบากให้สำเร็จได้ แล้วก็อ้างว่าเพราะประเทศเราเป็น
ประเทศเกษตรกรรม มีภูมิประเทศเหมาะกับการเกษตร แล้วนอก
จากการเกษตรเราจะนั่งๆ นอนๆ ไม่รู้จักหัดทำอะไรเองบ้างหรือยังไง
เพราะการอยู่ในประเทศที่มีสิ่งแวดล้อมดี เป็นใบอนุญาติให้คนในชาติ
เราขี้เกียจงั้นเหรอ ? ? ? ทุกครั้งที่ผมฟังเรื่องราว อะไรเหล่านี้ ผมรู้สึก
ไม่ชอบมันเลย มันชวนน่าโมโห กับความคิดที่น่ารังเกียจแบบนี้
คนในชาติเราดูจะเป็นคนที่ไม่มีความฝันเอาซะเลย แต่รักแต่ความสบาย !"


ประโยคนี้ผมไม่ได้พูดถึง เกษตรกรเลย
คนที่ขาดความเชื่อมั่น คือพวกคนอย่างเราๆ ท่านๆ นี้แหล่ะ
และคนที่ไม่มีความฝัน ก็ไม่ได้หมายถึงเกษตรกร หมายถึง
รัฐ หมายถึงแรงงานนอกภาคเกษตรทั้งหมด เรื่องใบอนุญาติให้คน
ในชาติเราขี้เกียจ ก็เป็นการต่อว่ารัฐ เพราะรัฐเป็นคนพูดแบบนี้ ว่า
สภาพแวดล้อมภูมิประเทศเราต้องเป็นเกษตรกรรม และรัฐก็พูดบ่อย
มาก จนผมรังเกียจ ส่วน ไม่มีความพยายาม ไม่มีความฝัน แต่รักแต่ความสบาย
ก็พูดถึงเราๆ อีกน่ะแหล่ะ ไม่เกี่ยวกับเกษตรกรเลย

แต่มีคนหลายคนพูดประโยคทำนองว่าคนไทย ชาวเกษตรขี้เกียจ
โดยเฉพาะนักธุรกิจ พ่อค้าคนกลาง ยันไปถึง อาจารย์ในมหาวิทยาลัย
คำว่าขี้เกียจเลยมาสะดุดหูคุณ จนพาลคิดว่าผมด่า เกษตรกร แต่ไม่ใช่
คุณเข้าใจประโยคของผมผิดไปหมด แต่อาจจะเป็นเพราะผมเขียนไม่ละเอียด
เกษตรกรไม่ใช่ประเด็น พวกเค้าไม่ได้มีหน้าที่ตรงนั้น แต่เป็นพวกเราต่างหาก
เกษตรกร backup ให้คนเมืองมาตลอด แต่เรากลับไม่สามารถผลิตอะไรเองได้เลย
ถือว่าเป็นความล้มเหลว รัฐก็ล้มเหลว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 21, 2010, 01:19:04 โดย ned »

ออฟไลน์ J!MMY

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 15,630
    • www.headlightmag.com
    • อีเมล์
เราจะเอาแต่โทษรัฐ กันอย่างเดียว ว่าไม่ส่งเสริม ก็ไม่ถูกละครับ

ถามว่า ทำไมบ้านเราไม่ทำรถเอง

อ๋อ มีคนเคยทำแล้วไงครับ
และก็เจ๊งไม่เป็นท่าไปเรียบร้อยแล้วด้วย
ลืมรถกระบะ ยี่ห้อ VMC จากผู้ผลิตกระจก VMC กันแล้วหรืออย่างไร
นั่นละคนที่ฝัน กล้าลงมือทำ
แต่...เขายังทำได้ไม่ดีพอ รถที่ออกมาเลยไม่ดีพอ
ผมเอง ตอนนั้น ร้องยี้เลย

ไม่ใช่ว่า ยี่ห้อไม่ดี ยี่ห้อนี้มีโอกาสโตได้
แต่ว่า คุณภาพของรถที่ออกมา โทษนะครับ ห่วยแตกกว่ารถจีนปัจจุบันนี้เสียอีก
การประกอบนี่ชุ่ยิ่งกว่า ไทยรุ่งยูเนยนคาร์ ยุคเริ่มแรกด้วยซ้ำ
การจะเปิดตัวสินค้าใหม่ ให้ได้รับการยอมรับจากตลาด
สินค้าต้องดี ตั้งแต่เริ่มต้น แต่นี่ มีอย่างเดียวที่การันตีได้่าดีจริง
ก็คือ เครื่อง ที่มาจาก VM Motori อิตาลี แล้วที่เหลือ รถคันนั้น ก็เอาชิ้นส่วน
ของทั้ง BigM ไปจนถึง กระบะ Isuzu มังกรทองมาใส่ แม้แต่มาตรวัด ยังไปเอาของ Alfa Romeo มาใช้
แล้วแบบนี้ คนไทยที่ไหนจะยอมซื้อมาใช้ ถ้าไม่ใช่่ว่า ได้มาฟรีๆ เพื่อเคลียร์หนี้?

อย่าหาว่าดูถูก คนไทยด้วยกันเลยครับ แต่เพราะ เราเริ่มต้น ทำกันออกมา
เจอปัญหา แล้วแก้มันออกมาอย่างชุ่ยๆ รถที่ออกมาก็เลยดูประกอบชุ่ยๆ
ลูกค้ามองว่าชุ่ย เลยไม่สนใจอีก เป็นอันว่า จบ โดนเจ้าของชิ้นส่วนต้นตำรับ ฟ้องร้อง
ขาดทุนหนัก แถมตอนนั้น วิกฤติ ต้มยำกุ้ง ก็ถาโถมเข้าให้ แทบจะล้มทั้งยืนไปเลยทีเดียว สำหรับ VMC

ออฟไลน์ 6162002

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,085
เราเป็นประเทศกำลังพัฒนาครับ ไม่ใช่พัฒนาแล้ว จะไปหวังว่าต้องมีนั่นมีนี่เอง ผลิตเองคงเป็นไปไม่ได้
อีก10-20ปี ไทยก็ยังเป็นอย่างงี้แหละครับ ผมเชื่อว่าทุกคนคงนึกอนาคตอันสดใสของประเทศไทยไม่ออกหรอก ถ้าสถานะรัฐบาลไทยยังเป็นอย่างนี้ ทุกวันนี้พูดกันเรื่องประเทศที่ไหน โจมตีกันไปมาดีไม่ดีคงได้ยิงกะเขมร ผมยังไม่เห็นแววว่าประเทศไทยจะก้าวหน้าได้ในเร็ววันนี้เลยครับ ยังไม่นับเรื่องที่จะมีบึ้มกันอีกรึเปล่าก็ไม่รู้อีก
และมันก็เป็นยังงี้มานาน จนคนไทยส่วนใหญ่ก็จะมีนิสัยแบบที่หลายๆท่านก็รู้กันอยู่แล้ว
คงต้องรอให้มันถึงจุดต่ำสุด จนมีกลุ่มกอบกู้ปฎิวัติขึ้นมาล่ะมั้ง ประเทศไทยถึงจะเปลี่ยนได้จริงๆจังๆ (ไม่ใช่ปฏิวัติ ยัดระเบิดนะ)
คนรุ่นใหม่ที่ต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลง และรู้วิธีจะสร้างความเจริญมันมีเยอะครับ อย่างเราๆในเว็บนี้ก็รู้ปัญหา และพอจะช่วยคิดทางออกได้  แต่ประเด็นคือ อำนาจมันไม่ได้อยู่ที่คนแบบนี้นี่สิ - -

GreenG

  • บุคคลทั่วไป
ผมว่าประเทศไทย ณ ปัจจุบันก็มาถูกทิศทางแล้วนะครับ

เน้นไปที่กระบะ ซึ่งบ้านเราได้ใช้(ชาวบ้านตจว.)และเป็นรถที่เราเป็นเจ้าตลาดใหญ่เจ้าเดียว(นอกจากอเมริกา)
ที่ผลิตในโลก ทำให้เราเป็นหลักได้ง่ายกว่าการเป็นฐานการผลิตเก๋งหรือMPV ซึ่งหลายๆประเทศก็ทำครับ

ออฟไลน์ prai

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,153
คุณคิดมากกันไปมั้ย?
ประเทศไทยไม่ได้มีแต่อุตสาหกรรมยานยนต์สักหน่อย ยังเหลืออุตสาหกรรมที่ใหญ่มากๆ
เช่น อุตสาหกรรมปิโตฯ อุตสาหกรรมสิ่งทอฯ อุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์
อุตสาหกรรมอาหารแปรรูป และอุตสาหกรรมพลาสติก


และที่สำคัญสิ่งที่ทุกคนมองข้ามคือ บริษัทในไทยเองที่บางบริษัทเป็นของคนไทยจริงๆ
คือ พวกกลุ่มที่ผลิตชิ้นส่วนป้อนเข้าโรงงานผลิตรถยนต์ครับ  อันนี้ก็สร้างงานได้เยอะเหมือนกัน



แต่ยังไงผมก็ยังยืนยันว่า อาหาร นี่แหล่ะสำคัญที่สุด
คุณไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกใช้สักอาทิตย์คุณก็ยังอยู่รอดได้
แต่ถ้าคุณไม่มีอาหารกินหนึ่งอาทิตย์คุณแทบตาย

เมื่อถึงตอนนั้นประเทศไทย ต้องกำหนดราคา ข้าวสาร ผัก ผลไม้ และเนื้อสัตว์
เป็นสองเรทราคา คือ ราคาสำหรับตลาดในประเทศ และราคาสำหรับส่งออก


และยางพาราเนี่ยทุกวันนี้ประเทศไทยโดยส่วนมาก คือ กีดแล้วก็ส่งออก
แต่แทบไม่มีการแปรรูปอย่างจริงๆ จังๆ เองเลย
ตรงส่วนนี้ก็ต้องพัฒนาเหมือนกัน






jaesz

  • บุคคลทั่วไป
มาลองนึก ๆ ดู ที่เราส่งออกรถยนต์ได้ปีนึงเป็นล้านคัน ก็มาจากการลงทุนของบริษัทต่างชาติทั้งนั้น
แล้วทีนี้ ถ้าเกิดว่าในอีก 10-20 ปีข้างหน้า ค่าแรงขั้นต่ำของแรงงานไทยแพงขึ้นกว่าปัจจุบัน บริษัทเหล่านี้จะย้ายฐานการผลิตไปประเทศอื่น ๆ ที่ค่าแรงต่ำกว่ามั้ย
อย่างเวียดนาม อินโดนีเซีย อะไรแบบนี้ แล้วตอนนั้นเมืองไทยจะได้อะไรจากการที่ต่างชาติเข้ามาลงทุนไว้บ้าง ? ณ ตอนนั้น เมืองไทยจะอยู่ในตำแหน่งอะไร ?
เพราะทางบริษัทเหล่านี้เอง ก็ไม่ได้ถ่ายทอดเทคโนโลยีอะไรให้กับบริษัทผู้ผลิตของไทยสักเท่าไหร่เลย (อย่างเครื่องยนต์ ซึ่งเป็นหัวใจหลักของรถยนต์ ปัจจุบันบริษัทไทยยังผลิตไม่ได้เลย)
ไม่เหมือนประเทศจีน ที่สามารถบังคับให้บริษัทต่างชาติถ่ายทอดเทคโนโลยีได้ (เข้าใจว่าเป็นเพราะตลาดประเทศเค้าใหญ่มาก ทำให้มีอำนาจในการต่อรอง)

พอคิดแบบนี้แล้วรู้สึกเหมือนเมืองไทย โดน กลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่จากต่างชาติเอาเปรียบเลยอ่ะครับ
คนอื่นในบอร์ดนี้คิดยังไงกันบ้างอ่ะ.....

10 ปีข้างหน้า ก็ยังไม่หนีไปไหนครับ ค่าแรงขั้นต่ำใน 20 ปี ก็คงขึ้นได้แค่เท่าตัว

ค่าแรงเป็นต้นทุนเพียง ไม่เิกิน 5 % ของราคารถ ครับ จริง ๆ ค่าแรงนั้นอยู่แค่ราว ๆ 1-2 % ด้วยซ้ำ

ผมเลยมองว่า เรายังเป็นแหล่งลงทุนที่น่าสนใจไปถึง 20 ปี แต่กว่านั้นไปไม่รู้ครับ