เท่าที่รู้ นะครับ
ข้อดี
*ช่วยนำคนเจ็บส่ง รพ. เครียที่เกิดเหตุ และคอนโบกรถไม่ให้เกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน
*คนไข้ติดเตียง คนชรา ที่ไม่มีเงินจ้างรถ ก็เรียกมูลนิธิ ไปรับ-ส่ง ฟรีได้
*มูลนิธิ มาเร็วมากๆ ถึงตัวไวสุดๆ เป็นเครือข่ายที่ทำงานเร็ว
*งานเพื่อสังคม น้ำท่วม โควิท เค้าก็ช่วยหลายอย่าง เช่น กระจายของบริจาค
ข้อเสีย
*ตอนส่ง รพ. จะส่งแต่กับที่ดิวไว้(เอกชน) ถึงจะไกลแต่ก็จะไปให้ได้
*บางคนใจรัก อยากทำเป็นงานหลัก แต่มีปัญหาการเงิน ก็อย่างที่เห็นๆ
*จังหวัดใหญ่ๆ มีหลายมุลนิธิมักเป็นอริกัน
*บางคนกร่างไปหน่อย อันธพาลดีนี้เอง
ส่วนตัวมองว่ามูลนิธิมีก็ดี
มีประโยชน์กว่ารถรับ-ส่ง ผุ้ป่วยของเทศบาลเยอะ
กลางคืนโทรไม่รับ สายๆขับรถไปกินกาแฟ เที่ยงไปหาข้าวกินจอดขวางทาง คนขับได้เงินเดือนอีก เปลืองงบหลวง
อันนี้ผมอธิบายได้เรื่องส่ง รพ. เอกชน ถ้าไม่ใช่เคสเร่งด่วนคนเจ็บมีประกัน หรือคาดว่าจะได้การคุ้มครองจากประกันภัยกรณีอุบัติจากรถเค้าเลือกจะส่ง รพ เอกชนไปก่อน เหตุผลเพราะว่ารพ รัฐหลายแห่งไม่สะดวกจริง ๆ เพราะเคสรักษามีมากอยู่แล้ว คนเจ็บไปส่ง รพ เอกชนสะดวกกว่าเข้ารพ รัฐแน่นอน ไม่ต้องพะวงกับค่ารักษาอยู่แล้วเพราะได้รับการคุ้มครอง แบบนี้ จนท มูลนิธิจะเลือกไป รพ เอกชนที่ใกล้ที่สุด เพราะถ้าส่งรพ รัฐ บางทีกว่าจะได้รักษาในเคสอุบัติเหตุ ต้องนอนรอหลายชั่วโมงก็มี เค้าก็ดูเป็นเคส ๆ ไป ถ้าคนเจ็บป่วยรู้สึกตัวดี เรียก บริการทางการแพทย์ฉุกเฉินและประสงค์จะไป รพ รัฐบาล เค้าก็ไปส่งให้เพราะเป็นความประสงค์ของผู้ป่วยและญาติ
อันนี้เจอกับตัวครับ
ญาติขี่มอไชค์ชนคนเดินถนน แถวนั้นมี รพ.เอกชนห่างไป แค่ 1กิโล
รพ.เอกชนอีกแห่งห่างไป 4 กิโล รพ.เอกชนอีกแห่ง ห่างไป5 กิโล
แต่มูลนิธิ เอาไปส่ง รพ.เอกชนที่ห่างไป 13 กิโล และเป็น รพ.เอกชนที่ค่ารักษาแพงที่สุดในจังหวัด
ส่วนคนเจ็บที่ไปรักษา ค่าใช้จ่ายสูงมากๆ ทั้งๆที่เป็น ตจว. แพงระดับเดียวกับ รพ.กรุงเทพเลย เคสนั้นโดนไป 7หมื่น (ไม่ได้ผ่าตัดอะไรทั้งนั้น แค่เอ็กเรย์ให้น้ำเกลือ)
ตอนไปเยี่ยม ก็ยังเจอรถมูลนิธิเอาคนเจ็บรายใหม่มาส่งอีก
แนะได้ยินเจ้าหน้าที่ รพ.คุยกันว่าต้องเอาเงินไปให้ให้กับรถที่พามาด้วย
ไปเยี่ยมอีกวัน
เจอญาติผู้เสียชีวิตอีกเคส บ่นว่าทำไมมูลนิธิเอาคนตายมาส่งทีนี้ เพราะจะเอาศพออกมาใช้เงินสูงมาก
มูลนิธิมีหลายค่าย หลายคน อันนี้ไม่ได้เหมารวมนะครับ