ตามธรรมชาติของแบตฟอสเฟต ถ้าความจุเท่ากันไอนี่จะใหญ่และหนักกว่าเพื่อน
ถ้าเป็นจริงตามที่ byd เครมก็คือ บาง เบา เล็ก ก็ทำลายทุกข้อจำกัดเดิมของฟอสเฟต
พูดตามตรบทุกคนก็อยากจะใช้ฟอสเฟตทั้งนั้น วัสดุทำก็หาง่าย แถมไม่ระเบิดเป็นลูกไฟฟู่ มีแต่แก๊สพ่นออกมา cycle ก็มากกว่าเพื่อน ทนกว่า ติดแค่ว่ามันใหญ่หนัก เปลืองที่ ถ้า byd แก้เรื่องนี้ได้ก็ปิดเกม
lifepo4 ก็มีจุดอ่อนครับ เพราะความที่มันจ่ายไฟได้มากกว่าชาวบ้านเขานี่แหละ คือจุดอ่อนตัวฉกาจเลย
ผมเทียบให้เห็นภาพง่ายๆครับ
แบตเตอรี่ตะกั่วกรดที่ใช้ AGM หรือแผ่นกั้นแบบนุ่ม หากจะให้ปล่อยไฟได้ดีๆ ดีมากๆ คือต้องบางเข้าไว้ ทีนี้ เมื่อมันบาง โอกาศที่ประจุบวกจะวิ่งเข้าหาประจุลบก็ง่ายครับ ง่ายมากๆเช่นกัน
ตอนที่ผมวิจัย lifepo4 ผมก็สงสัย ว่าทำไมมันถึงเสียง่าย พอแกะออกมาดู ถึงรู้เลย ว่าสิ่งที่กั้นประจุบวกและลบนั่น มันบางมากๆ อัดไฟเต็มเร็วจริง CCA สูงปรี๊ดจริง แต่เมื่อใช้งาน ห้ามให้ Voltage ต่ำกว่าครึ่ง เช่น เซลมี 3 V ก็ห้ามให้เชลนั้นต่ำกว่า 1.5 V ไม่งั้น มันจะเสียทันที ซึ่งตรงกับคุณสมบัติของแบตตะกั่วกรดที่ใช้แผ่นกั้นแบบบาง
ตอนแรก เขาเคลมว่าจะใช้ lifepo4 เพื่อมาสตาร์ทเครื่องยนต์ ใช้แอมป์น้อยกว่าแบตทั่วๆไป 30-100 เท่า บลาๆๆๆๆๆ แต่ก็ไม่สามารถทำได้ เนื่องจาก เมื่อต่ออนุกรมกันแล้ว หากจะคุมไม่ให้ลูกได้ลูกหนึ่งต่ำกว่าครึ่ง จะต้องใช้ Charger เข้าไปคุมการ Charge ทุกเซล ลำพัง BMS หรือ Balancer ธรรมดาๆ ไม่สามารถคุมมันได้
ถ้าใช้ระบบการชาร์จและควบคุมเพื่อไม่ให้แบตมันเสีย แปลว่า พื้นที่ที่จะฝากวงจรต่างๆย่อมใหญ่กว่าเดิมครับ
ส่วนรถไฟฟ้า ของทางเทสล่าเขามีระบบป้องกันตรงนี้ไว้แล้ว แต่ทางของจีนบางค่าย ผมยังไม่เห็นเขาว่าไว้ถึงตรงนี้เลย
และด้วยจุดอ่อนนี้เอง แทนที่เราจะใช้แบตตั้งแต่ชาร์จเต็มจน Cut off Voltage, Range จะแคบกว่า Lithium ธรรมดา หรือ NMC พอสมควร
Lifepo4 จึงยังไม่น่าจะใช่พลังงานหลักในตอนนี้แน่นอนครับ