ผู้เขียน หัวข้อ: รถยนต์อเนกประสงค์ขนาดกลางกับความปลอดภัยที่จะใช้ต่อหรือเปลี่ยนใหม่ดี  (อ่าน 2306 ครั้ง)

ออฟไลน์ Paul sa

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 174
ผมไม่ได้ใส่ชื่อรถในหัวข้อนะครับ มันอาจจะออกดูแคลนไป และเข้าเรื่องเลยนะครับ

ผมซื้อรถเก๋ง Toyota Altis เมื่อปี 2010 ซึ่งระบบความปลอดภัยยังมีไม่ค่อยมาก ที่ขัดใจคือถุงลมนิรภัยมีแค่ 2 ใบ ที่อยากได้มากกว่านั้นแต่ในรถระดับนี้หาไม่ได้ ยี่ห้ออื่นๆ ก็เหมือนกันในยุคนั้น ก็จำต้องใช้มา
จนเมื่อประมาณ 2 ปี ที่ผ่านมา ถึงเวลาเปลี่ยนรถและต้องการรถที่นั่งมากขึ้นจึงมาถอย Xpander ที่อยู่ในงบไม่ถึงล้าน มีที่นั่ง 7 ที่ที่นั่งได้จริงโดยเฉพาะแถวหลังๆ ก็เลยไม่มอง Pajero sport, Fortuner ที่แพงกว่าเกือบเท่าตัวและนั่งไม่ได้ดีจริง
แต่อย่างว่ายังขัดใจอีกแล้วที่มีถุงลมแค่ 2 ใบ พอเข้าใจว่าผู้ผลิตทำรถออกมาตามตลาดและช่วงราคาที่คนต้องการ แต่จะยัดถุงลมเพิ่มแล้วเพิ่มเงินอีหน่อยมาขายได้ไหม ตั้งแต่ซื้อมาใช้อยากพาครอบครัวไปเดินทางไกลๆ หรือขึ้นเขาลงห้วยบ้างก็ไม่กล้า กลัวความปลอดภัยมากหากมีการชน

ที่เจ็บใจคือปีนี้ Toyota ปล่อย Veloz ออกมาถุงลม 6 ใบ ยังไม่รวมความปลอดภัยอื่นๆ เล่นเอานั่งงงไปพักใหญ๋ ไหนบอกว่ารถขนาดนี้ ทำราคากับ option ไม่ได้ ตกลงคืออะไร หันกลับมาที่ Xpander แล้วจะเอายังไง ถามความเห็นท่านๆ ครับ

1. ขาย Xpander แล้วไปถอย Velox จริงๆ ก็ไม่ชอบหน้าตามันเท่าไร และ Xpander ขายไม่คุ้มราคาด้วยตอนนี้
2. ขาย Xpander แล้วไปถอย Pajero sport, Fortuner จะได้รถใหญ่ขึ้นและความปลอดภัยครบไปเลย แต่จริงๆ ก็มองว่ามันคุ้มขนาดนั้นรึ ต้องเสียอีกเป็นเท่าตัว
3. ใช้ Xpander ต่อไป ขับให้ระวัง และอย่าพยายามเดินทางไกล ซึ่งคิดแล้วก็เศร้าซื้อรถทั้งทีขับได้แค่แถวบ้าน (อ้าว แถวบ้านจริงๆ นะตอนนี้ ขณะที่เมื่อเดือนก่อนจะพาครอบครัวไปเกาะพะงันยังล้มเลิกเลย)

*เอาจริงๆ Xpander มันเหมาะที่จะเดินทางไกล 101 7 ย่านน้ำไหม เห็นคนขับรถเร็วมากกันสมัยนี้แล้วกลัวจะโดนลูกหลง

ขอบคุณทุกความคิดเห็นล่วงหน้าครับ

ออฟไลน์ Weetting

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,985
  • ช่วงล่าง+เครื่องยนต์
ดีใจนะครับที่เห็นความสำคัญของความปลอดภัย  ซึ่งน้อยมากที่คนจะเห็น
ถ้าไม่ขัดสนมากไป  ผมก็ว่าเปลี่ยนไปเอา veloz ก็ดูคุ้มค่าดีครับ    แต่ถ้าเปลี่ยนแล้วขัดสนก็ไม่ต้องเปลี่ยน
 
กลับมาย้อนเรื่องความปลอดภัย   สำหรับผม ถุงลม2 ใบ abs ebd  เพียงพอสำหรับลิมิตถนนเมืองไทย  และสติคนขับเพียงพอ แต่สำคัญคนนั่งหลัง ต้องคาดเข็มขัดนิรภัย​นะ

 ถ้าผมมีเงินพอ  แล้วต้องเลือกระหว่าง   
Mini mpv   ความปลอดภัยจัดเต็ม  กับ.PPV ถุงลม+ABS.
ผมเลือก PPV  เคยเจอเคส Alphard ปะทะหน้าตรงกับ คุ้กกี้  ปรากฏว่าคุ้กกี้เจ็บน้อยกว่าเยอะ  หรือ sientaโดน เทรลเบรเซอร์  ชนท้ายไม่ต้องบรรยาย   ก็น่าจะพอเห็นภาพครับ
THE Manual Gearbox Preservation Society
Drive diesel until last day

ออฟไลน์ Tien.W

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,244
    • อีเมล์
ถุงลม แค่ช่วยลดการบาดเจ็บ นะครับ

รถผม ปี 11 ถุงลมแค่คู่หน้า ก็ขึ้นเหนือ ล่องใต้ เป็นปกติ

สำหรับผม สำคัญกว่าถุงลม ก็คือ คนขับ ทักษะในการบังคับควบคุมรถในยามสถานการณ์ฉุกเฉิน มีเปิดสอนกันหลายเจ้า ลองไปเรียน แล้วจะรู้ว่า ที่เราเคยคิดว่า เราแน่ จริงๆมันอ่อนมากๆเลย

รวมถึง สิ่งอื่นๆของตัวรถ เช่น ยาง, ศูนย์ล้อ, ช่วงล่าง, เบรค พวกนี้ มันจะพาให้คุณรอดจากอุบัติเหตุได้ครับ

สุดท้าย หลายคนเรียกร้องถุงลม ระบบต่างๆมากมาย แต่เอาเข้าจริง ขึ้นรถแล้ว เบาะหลังไม่เคยคาดเข็มขัดนิรภัย ถุงลม 10 ใบก็เอาไม่อยู่หรอกครับ

..............

เล่าให้ฟัง

รถ pulsar DIG มี VDC มาด้วย ถุงลม 6 ใบ

ออกมาใหม่ๆ เปลี่ยนยางก่อนเลย ML PS4 .. ขับมาเพลินๆ 110 สุนัขตัดหน้า ผมกระทืบเบรค หักหลบออกซ้าย (วิ่งเลนขวา) สุนัขตามมาเลนกลาง ผมดึงหลบขวาอีกที (หักหลบ 2 จังหวะ) รถส่าย เลื้อยเป็นงู ยางร้องลั่น จนเล็งเกาะกลางไว้แล้ว โชคดี ที่เอาอยู่


หลังจากนั้น พอยางชุดนี้หมดสภาพ ผมใส่ S007a

ขับไปชุมพร เช้าตรู่ อดนอนขับรถทั้งคืน วิ่งมาใกล้เคียงกัน ถนน 2 เลนสวน มีไหล่ทาง สะดุ้งตอนเห็นท่อนไม้ ขวางไปแล้ว ครึ่งเลนที่ผมวิ่ง ผมหักหลบ เอาซ้ายลงไหล่ทางที่เป็นลูกรัง แล้วดึงรถกลับ

รถนิ่งสนิท ไม่ร้องสักแอะ จนคนข้างๆตกใจว่า ทำไมมันนิ่งจัง

ผมบอก .. "หลวงพ่อช่วยเอาไว้" .. หลวงพ่อ Bridgestone Potenza S007a เส้นละ 6.2 พัน ที่ตอนเปลี่ยนมีแต่คนด่าว่า "บ้า" รถคันแค่นี้ ทำไมต้องใส่ยางราคาขนาดนี้ .. นี่แหละ หลวงพ่อท่านทำงานทีเดียว คุ้มเกินค่าตัวมันละ

นี่ S007a หมดอายุ ยางเหลือ 2 มม ในระยะทาง 1.8 หมื่นกม. เปลี่ยนใหม่ ผมก็ยอมจ่าย ใส่ Potenza Sport นะ พอดีหายางปี 21 ได้ ราคาเลยสบายกระเป๋าหน่อย

ออฟไลน์ CMaN20

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 681
ดีใจนะครับที่เห็นความสำคัญของความปลอดภัย  ซึ่งน้อยมากที่คนจะเห็น
ถ้าไม่ขัดสนมากไป  ผมก็ว่าเปลี่ยนไปเอา veloz ก็ดูคุ้มค่าดีครับ    แต่ถ้าเปลี่ยนแล้วขัดสนก็ไม่ต้องเปลี่ยน
 
กลับมาย้อนเรื่องความปลอดภัย   สำหรับผม ถุงลม2 ใบ abs ebd  เพียงพอสำหรับลิมิตถนนเมืองไทย  และสติคนขับเพียงพอ แต่สำคัญคนนั่งหลัง ต้องคาดเข็มขัดนิรภัย​นะ

 ถ้าผมมีเงินพอ  แล้วต้องเลือกระหว่าง   
Mini mpv   ความปลอดภัยจัดเต็ม  กับ.PPV ถุงลม+ABS.
ผมเลือก PPV  เคยเจอเคส Alphard ปะทะหน้าตรงกับ คุ้กกี้  ปรากฏว่าคุ้กกี้เจ็บน้อยกว่าเยอะ  หรือ sientaโดน เทรลเบรเซอร์  ชนท้ายไม่ต้องบรรยาย   ก็น่าจะพอเห็นภาพครับ

เห็นด้วยครับ ถ้าไหวให้ไป PPV ดีกว่าครับ. เพราะคุณต้องดูว่าถ้ามีอะไรขึ้นมา รถPPVมันมีโครงสร้างที่แข็งแรงกว่า Mini MPV ที่ขายอยู่ในบ้านเรา เพราะโครงสร้างมันวางบน Chassis. ถุงลมนิรภัย ค่อยเป็นตัวช่วยตัวต่อไป เพราะถ้าโครงสร้างรถมันอ่อนแอ ต่อให้มีถุงลม10ใบ มันก็ไม่ช่วยอะไรครับ.
# BMW    520d E60   
# BENZ   E250CDI W212
# BMW    520d G30
# VOLVO  XC90 D5 Y2020

ออฟไลน์ jkdragon

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 178
-ถ้าเน้นความปลอดภัยขนาดที่ว่ารถมีถุงลม 2 ใบ ไม่กล้าขับทางไกล ก็เปลี่ยนรถเถอะครับ แต่จะซื้อ Velox หรือ PPV ก็แล้วแต่งบเลย
-แต่ถ้าเป็นผม ไม่เปลี่ยนครับ มี 2 ใบ ก็ช่างมันเพราะซื้อมาแล้ว ขอแค่ขับรถอย่างมีสติ ขับแบบมีมารยาท คาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้ง รวมทั้งปฎิบัติตามกฎจราจร ผมว่าปลอดภัยกว่ามีถุงลมรอบคันอีกครับ ที่พูดได้เพราะผมทำอยู่ ปัจจุบันผมขับรถ ppv ถุงลมแค่ 2 ใบ ก่อนหน้านั้น ขับรถไม่มีถุงลมสักใบ ไปเหนือ ล่องใต้ ตลอด 20 กว่าปี ไม่เคยเกิดอุบัติเหตุเลยสักครั้งเดียว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 08, 2022, 14:37:52 โดย jkdragon »

ออฟไลน์ Mp4_007

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 786
ถ้าไหว เป็นผมผมเปลี่ยนนะ คงเอา veloz ไม่เอา ppv เป็นราคาแพงกว่า2เท่า แต่ออฟชั่น ความปลอดภัยไม่ได้เยอะกว่า เสมอไปนะ Pajero คุณต้องไปตัวท๋อปเลยนะ ถึงจะได้ถุงลม7ใบ Fortuner ได้ถุงลม7ใบแต่ตัวเริ่มต้นจริง แต่ไม่ได้ safety sense เลย 
ถุงลม2ใบ ตอนนี้ถือว่าน้อยเกินไปแล้ว ถึงเราขับระมัดระวังแต่ไหน  แต่ถ้าคันอื่นประมาท มันก็เกิดเหตุได้  ถุงลมมันจะเปลี่ยนจากหนักเป็นเบาได้ระดับนึงเลยละ ดีกว่าไม่มีแน่ๆ  เป็นออฟชั่นที่ควรมีแต่คงไม่มีใครอยากใช้  และหลายๆคนชอบมองข้ามคิดแค่ว่าขับรถดีๆก็คงไม่จำเป็น
 แต่ลืมไปว่า มันยังมีรถบนถนนเดียวกับเราอีกเยอะ ซึ่งเราไม่สามารถคาดหวังหรือควมคุมอะไรได้เลย  ไม่รู้เลยคันข้างๆเราจะดีหรือไม่ดี เมาหรือไม่เมา

ออฟไลน์ Sakutaro

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 421
 :) ตระหนักได้ แต่อย่าระแวงจนเกินไปจะไร้ความสุขครับ
ผมมองแบบหยาบๆ 90% อยู่ที่คนขับ 10% อยู่ที่รถ สกิลต่างๆเช่นการขับขี่ เตรียมรถ รู้จุดบอดของถนน การคาดเดาใจของอีกฝั่ง
การระมัดระวังเวลาเข้าทางร่วมทางแยก ไฟแดง การมองกระจกหลัง มองข้าง การให้ทาง ไม่ขับเร็ว เป็นต้นสิ่งเหล่านี้ก็แทบจะทำให้ไม่ได้ใช้ระบบการป้องกันของรถ
แต่หากได้ใช้ มีย่อมดีกว่าขาดไป ส่วนรถ เป็นศิลปะในการเลือกและขึ้นอยู่กับเงินในกระเป๋า PPV โครงสร้างแข็งแรงแต่จุดศูนย์ถ่วงสูงแนวโน้มที่จะเสียการทรงตัวก็มากกว่าเก๋งในพิกัดเดียวกัน มันไม่มีอันใดที่ดี 100% เลือกให้เหมาะกับตัวเอง การขับขี่ รู้ลิมิตก็ขับแบบมีความสุขแล้วครับ 8)

ออฟไลน์ MyName

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 8,148
  • I'm............................
จากที่ลอง Veloz มา

ผมว่า Xpander ยังขับดีกว่านิดนึงอยู่นะ ยิ่งตัว mc CVT ไม่ค่อยรู้สึกอืดแล้ว
แต่ Veloz ก็ยังรู้สึกคุ้มค่าเงินที่จ่ายกว่ามากอยู่ดี

ถ้าจะเปลี่ยนเพราะความปลอดภัย เปลี่ยนไป PPV ยังดูจะคุ้มกว่าครับ
ถุงลมมีย่อมดีกว่าไม่มี แต่ไม่ใช่ทุกเคสจะมีแล้วดีครับ
Cars
2022 - Nissan Almera 1.0 Turbo VL
2016 - Mazda 2 1.5XD High Plus L
2008 - Mitsubishi Space Wagon 2.4 GLS Ltd. !User'Review Click here!
1997 - Daihatsu Mira

Motorcycles
2023 - Vespa Sprint S 150 i
2012 - Yamaha Mio 125 GTX

ออฟไลน์ Symphonic

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,707
พี่ว่าตัวพี่คิดมากไปมั้ย  พี่กล้าโดยสารเครื่องบินมั้ย  พี่ใช้ลิฟท์โดยสารหรือเดินขึ้นลงบันได
แล้วบันไดเลื่อนล่ะ พี่คิดยังไงกับมัน  แล้วจักรยานล่ะ พี่ขี่มั้ย แล้วตอนเดินถนนพี่ทำยังไง

นี่ไม่ได้กวนนะ แต่อยากให้พี่กลับไปลองคิดดูว่าพี่กังวลมากเกินไปหรือเปล่า
จริงอยู่ว่าอุบัติเหตุมันเกิดขึ้นได้เสมอ ถึงแม้เราไม่ได้ไปชนใครก็อาจถูกชนได้
แต่เราลองเจาะลึกลงมาดูสักนิดว่า จำนวนการเดินทางในแต่ละวันมีรถยนต์
วิ่งไปมากี่คัน มีการจราจรรวมๆ กันกี่หมื่น กี่พัน กม. เมื่อเทียบกับอุบัติเหตุ
ที่จะเกิดมันเป็นสัดส่วนที่น้อยแค่ไหน  เอาล่ะ นั่นคือคิดกันเป็นเปอร์เซ็นต์
เป็นความน่าจะเป็น หรือโอกาสที่เราจะเจอกับโชคร้าย

แต่ถ้าในแง่ของความระมัดระวัง จริงๆ แล้วการมีพื้นฐานความกลัวอุบัติเหตุ
นั่นเป็นเรื่องดี เราเอาความกลัวนี้มาเปลี่ยนเป็นความระมัดระวังในการขับขี่ดีมั้ย
หัดเป็นคนที่ขัดรถแบบ defensive driving คือไม่ขับรถแบบเสี่ยง พยายาม
คาดการณ์พฤติกรรมของรถคันอื่นบนถนนแล้วเลือกตัดสินใจไปในทางที่ปลอดภัย
ไม่เสี่ยง เท่านี้ผมคิดว่ามันเพียงพอแล้วนะ  เจ้า Expander นี้ ถึงแม้ว่าจะมีถุงลม
แค่ 2 ใบ แต่มันเป็นรถในยุคนี้ก็ต้องถือว่ามีความปลอดภัยใช้ได้แล้ว

ระหว่างความคาดหวังที่จะพึ่งพาความปลอดภัยจากตัวรถ กับความปลอดภัย
จากการขับขี่ของตัวเราเอง ถ้าไม่สามารถมีทั้ง 2 อย่างพร้อมกันได้ เรามีอย่างหลัง
ถือเป็นเรื่องที่สำคัญกว่ามากๆ ครับ


ปล. ผมใช้รถที่มีถุงลมรอบคัน มีระบบช่วยเหลือทุกอย่างที่มี  แต่ตลอดการใช้งาน
จนกระทั่งขายไป ระบบต่างๆ เหล่านี้ไม่เคยได้ทำงานเลยแม้แต่ครั้งเดียว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 08, 2022, 15:07:18 โดย Symphonic »

ออฟไลน์ pladaek

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,025
  • FF1.5SMG
ถ้าใส่ใจเรื่องความปลอดภัยในเรื่องถุงลมขนาดนี้
ผมเลือกข้อ 2 ครับ ไปถอย Pajero Fortuner
จากประสบการณ์ที่เห็นบ่อยๆ รถที่มีความสูงชนกับรถที่เตี้ยกว่า
ห้องโดยสารของรถสูงกว่า ส่วนมากเสียหายน้อยกว่า 
และถุงลม 6-7 ใบก็จะได้ใช้งานแบบที่คุณค่อนข้างกังวลกับจำนวนถุงลมขนาดนี้ครับ

ถ้าเจาะลึกไปอีก ขอเลือก Pajero Sport 4wd ที่เป็น 4wd Fulltime ครับ
มันปลอดภัยกว่าเยอะ ขนาด Fortuner ปี12 ที่หลายๆคนว่าช่วงล่างมันห่วย แต่เป็น 4wd Fulltime
วิ่งตอนฝนตกนิ่งกว่า PPV รุ่นใหม่ๆที่ไม่ใช่ขับสี่ครับ
ไม่ได้ขับรถเพื่อทำเวลาที่ดีที่สุด.. แต่ขับรถเพื่อเจอช่วงเวลาที่ดีที่สุด..

ออฟไลน์ D Water Law

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 292
ผมขออนุญาติเพิ่มตัวเลือกอีก 1 ข้อครับ

4. ใช้ Xpander ต่อไป ขับให้ระวังมากขึ้น  และ อย่าฝากความหวังไว้กับถุงลมนิรภัยมากจนเกินไป


ถุงลมนิรภัยมีดีกว่าไม่มีก็จริง แต่มันไม่ใช่อุปกรณ์วิเศษที่จะช่วยปกป้องเราจากอุบัติเหตุได้มากมายอย่างที่คิดนะครับ ถ้าซีเรียสกับเรื่องถุงลมจริงๆ คุณต้องไปวิเคราะห์เจาะลึกไปถึงเทคโนโลยีของถุงลมนิรภัยเลยครับ อย่าดูแค่จำนวนถุงลม  ลองหาบทวิจัยที่วิเคราะห์เป็นตัวเลขจะเห็นภาพมากขึ้น เช่น

- ถุงลมที่มีผลต่อการช่วยลดอาการบาดเจ็บมากที่สุดคือ ถุงลมคู่หน้า  ดังนั้นเราจึงได้เห็นเคสที่โดนชนจากด้านข้างแล้ว มีเพียงม่านถุงลมด้านข้างที่ทำงาน และมันไม่สามารถช่วยชีวิตผู้โดยสารได้

- การเพิ่มถุงลมนิรภัยหัวเข่าช่วยลดอาการบาดเจ็บลงได้จาก 7.9% เหลือ 7.4% เท่านั้นซึ่งแทบไม่แตกต่างกันในทางสถิติ

- ในการออกแบบถุงลมนิรภัย ส่วนใหญ่จะทดสอบการชนที่ใช้ความเร็วไม่เกิน 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง   ในขณะที่ ถ้าคุณชนด้วยความเร็วระดับ 100/120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มันจะมีพลังงานจลน์มากกว่า ที่ความเร็ว  65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ถึง 2.37/3.41 เท่า

- ถุงลมนิภัยที่ดี ต้องออกแบบมาให้ทำงานในสภาวะที่เหมาะสมด้วย เพราะมีเคสที่ถุงลมทำงานในสภาวะที่ไม่เหมาะสมแล้วทำให้ผู้โดยสารบาดเจ็บหนักกว่าเดิม

- ถุงลมนิรภัยที่ออกมามาดีจริงๆ จะมีติดตั้งเซ็นเซอร์เอาไว้ที่เบาะ ถ้าไม่มีผู้โดยสารนั่งอยู่ถุงลมนิรภัยก็ไม่จำเป็นต้องพองออกมา สำหรับบางรุ่นที่พัฒนาเซ็นเซอร์ไปอีก จะสามารถระบุได้ว่าน้ำหนักที่กดทับเบาะนั้นหนักกี่กิโลกรัม ซึ่งจะใช้ในการคาดคะเนขนาดตัวของผู้โดยสารเพื่อเลือกระดับความแรงในการพองของถุงลม


จริงๆ จำนวนถุงลมนิรภัยก็ถือเป็นการตลาดของรถยนต์อย่างหนึ่ง  เพราะผู้บริโภคมักจะให้ความสำคัญกับแค่จำนวน แต่แทบจะไม่มีใครให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีของมันเลย  คล้ายๆ กับยุคหนึ่งที่กล้องดิจิตอลแข่งกันทำเซนเซอร์ขนาด  20-24 ล้านพิกเซล เพื่อแสดงให้ผู้บริโภคเห็นว่าเซนเซอร์ของตนเองดีกว่าโดยวัดจากจำนวนพิกเซล

ออฟไลน์ Newhang

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,333
ใช้ต่อไปเถอะครับ อย่าไปคิดอะไรเยอะ
แต่ตอนที่ควรคิดเยอะคือตอนก่อนจะซื้อครับ
ตั้งหลักใหม่รอซื้อเฉพาะรถที่คุ้มค่าในอนาคตดีกว่าครับ

ออฟไลน์ I_AM_M

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 331
    • อีเมล์
ผมว่าตามสเปคเกินไป วิตกไปครับ

ออฟไลน์ NINENOI

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,723
  • Nine & Knight
ใช้คันเดิมไปก่อน อยากไปเที่ยวไหนไกลๆก็เช่ารถเอา
ถ้าเราซื้อของที่ไม่จำเป็น สุดท้ายเราต้องขายของที่จำเป็น

ออฟไลน์ PC CK

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,001
คิดมากไปครัง
เวลาเดินทางไกล เช่าขับคุ้มกว่าครับ ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนใหม่แต่อบ่างใด ยกเว้นกรณีสนองกิเลสล้วนๆ อันนี้มีเหตุผลให้้ปลี่ยนครับ
อาจมองว่าความผมบ้า แต่มันคือความจริง กิเลสย่อมระงับด้วยการซื้อครับ
แต่ถ้าแค่ห่วงเวลาพาครอลครัวไปเที่ยว
 ขึ้นเครื่องแล้วไปเช่ารถที่นั่นจะสบายกว่าครับ หรือเที่ยวใหล้ๆก็เช่าจากใกล้บ้านครับ เปลี่ยนเรื่อยๆจนกว่าจะพอใจได้ด้วยครับ

ออฟไลน์ Devil13

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,010
เอาคุ้มใช้คันเดิมแหละครับ
ส่วนความปลอดภัยขับระวัง เว้นระยะห่าง อ่านเกมส์ให้ดี ไม่เอาตัวไปเสี่ยง ไงก็ก็รอดครับ
รถครอบครัว ควรขับแนวครอบครัว ไม่อยากให้บู๊เยอะ ทำประกันชั้น 1 อย่าให้ขาดพอครับ ไม่ตกวิตกมาก

รถขับรถผมออก ตจว. ทุกวัน ถุงลม 7ใบ ไม่เคยได้ใช้
ตัวถัง แชสซีที่ว่าแข็งก็ยังไม่เคยได้ใช้

เอาจริงๆผมว่าซื้อรถเล็ก 7-8 แสนก็ประหยัดดี ขับสบายใจ ส่งไม่เหนื่อย
ขายเงินก็หายไม่เยอะ คุ้มค่าสุดแล้ว

ถ้าเครียดเรื่องสเปคขนาดนี้
สมมุติว่าออกเอเวอร์เรสมา ผ่านไป 3 ปีเค้าปรับโฉมเพิ่มออฟชั่นใหม่ๆอีก คุณไม่ขายอีกเหรอกครับ ?
คุณจะตามแบบนี้ตลอดไป จริงๆเหรอครับ ?

ออฟไลน์ เนื้อน่องไม่หนัง

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,779
Xpander คันเดิมผมว่ายังไหวครับ ส่วนตัวไม่ได้มองว่าถุงลมรอบคันเป็ยประเด็นขนาดนั้น
คือถ้ากำลังจะเปลี่ยนรถ จะเลือกที่มีถุงลมรอบคัน แต่คงไม่ได้เปลี่ยนเร็วขึ้นเพราะจะเอาถุงลมรอบคัน
คิดว่าถ้าซวยจริงๆ โดนรถพุ่งข้ามเกาะกลางมาชน /อัดกลางคัน จุดนั้น ถุงลมที่เพิ่มมาอาจช่วยได้ไม่ไเท่าที่หวัง

ส่วนตัวคงไปคันเดิมก่อน เน้นดูแลดีๆ ยางดีๆ ขับแบบรู้ลิมิต กำชับให้รัดเข็มขัดทุกที่นั้ง
ถ้างบถึง อยากได้ปลอดภัยหน่อย ก็พวก PPV ได้แรงบิดด้วยบรรทุกเยอะไม่ค่อยเหนื่อย หรือจะไป หาพวก H-1 (อันนี้ไม่รู้มีถุงลมเยอะไหม) จะเป็นรถที่เหมือนกับการเดินทางหน่อย วิ่งทางไกล 100-120 ไม่เหนื่อยมาก ช่วงล่างยังไหวถ้าไม่ซิ่ง



ออฟไลน์ -Brian

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,079
ใช้คันเดิมต่อไปครับ สำหรับผมถ้่่ามันยังไม่ได้เก่าถึงขนาดซ่อมทุกเดือน ยังไงก็ใช้ขับขึ้นเหนือล่องใต้ได้ครับ เว้นแต่ถ้าไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงิน + กิเลสอยากเปบี่ยนรถใหม่ อันนี้ก็ไม่ว่ากัน

ส่วนตามโจทย์นี้ ผมไป PPV ครับ รถใหญ่ถึงจะถุงลมน้อยกว่า แต่ยังไงก็ได้เปรียบเวลาชน แต่ถ้าจะเอา PPV ก็ต้องขับแบบระวังมากขึ้น ด้วยเครื่องดีเซลแรงบิดเยอะ + รถสูงขึ้นเสียการควบคุมง่ายกว่าเก๋ง

ออฟไลน์ panupong508

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 688
    • อีเมล์
ผมว่ายังใช้งานได้ดีนะครับ บำรุงรักษาให้ดีๆ กฎความปลอดภัยคือการไม่ประมาท

ออฟไลน์ Paul sa

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 174
ขอบคุณครับ comment เยอะมาก มีหลายมุมมองให้เปิดกะโหลกกะลา และมีแบบเคาะหัวเตือนสติด้วย

ยอมรับว่านอยด์มากจริงๆ ครับเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะเห็นอุบัติเหตุคันอื่นมาชนเราด้านข้างบ้าง หลังบ้าง ข้ามเกาะกลางจากอีกฝั่งมาชนบ้าง เลยกลัวเผื่อไปถึงคนโดยสารของเราด้วย แล้วจริงๆ ก็สนใจระบบป้องกันก่อนและหลังการชนทั้งนั้นแหล่ะ
ทุกวันใช้เส้นกาญจนา บางนา-บางปะอิน เห็นขับกันน่ากลัวมาก เร็วแบบไม่คิดชีวิตเห็นทุกวันโดยเฉพาะปิกอัพ (อย่าว่ากันนะครับสำหรับคันที่ขับดีๆ) กลัวและเสียวแทนจริงๆ

สรุปตอนนี้ได้ว่า ใช้ Xpander ไปก่อนเพราะรถมันมีดีของมันเยอะอยู่ ขับให้ระวัง ใช้ยางดีๆ เดินทางไกลใกล้ๆ ได้ แต่หากเดินทางไกลก็เช่ารถใหญ่ที่มีความปลอดภัยมากกว่าเอา
และหากเปลี่ยนคันหน้าก็ต้องลงทุนซื้อคันใหญ่ความปลอดภัยพร้อมครับ คงไม่ขี้เหนียวเงินแล้ว

ออฟไลน์ chatcharwarn

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 489
  • เหยียบคลัช ยัดเกียร์ โว้วววววววว.......
ไปเรียนพวก Driving Skillครับ เรียนรู้การแก้อาการ การหักหลบ ทักษะพวกนี้ช่วยได้เยอะครับ
แล้วก็ตามเม้นบนๆว่าเบรค เบรคกับยางอย่าเขียม

ออฟไลน์ XMSL

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 839
ถ้าผมขับเองจะให้ความสนใจกับ active safety มากกว่า พวกยาง/ลมยาง ผ้าเบรค กันสะเทือน ไฟรอบคัน ล้างกระจก/ปัดน้ำฝน แตรรถ ป้ายจอดฉุกเฉิน อาจจะเพราะส่วนหนึ่งก็ผ่านร้อนผ่านหนาวมาพอสมควร คิดว่าถ้าไม่หลับในหรือซวยจริงๆก็คงไม่เจอแจ็คพอตขนาดประสานงานต้องใช้ถุงลมช่วยขนาดนั้น ยิ่งมีครอบครัวไปด้วยผมนี้ขับช้า-ทิ้งห่าง-มองไกลตลอดเวลาครับ แต่พูดถึงการปกป้องหลังชนระดับรถอีโคคาร์โครงสร้างรถเก๋งยังงัยก็เสียเปรียบพวกคู่กรณีแสบๆบนถนนหลายรุ่นครับ

ออฟไลน์ Mr. Coffee

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 39
Xpander นั่ง 7 คน วิ่งทางไกล ผมห่วงอัตราเร่งแซงมากเลยครับ
แนะนำเลือกถนนใหญ่ ทางเกิน 2 เลนสวนกันไว้ก่อน
แต่ผมเชื่อว่า จขกท น่าจะใจเย็นและขับรถไม่ประมาทอยู่แล้ว