ผู้เขียน หัวข้อ: ซ่อมรถเชิงป้องกัน กับ ซ่อมตามอาการ  (อ่าน 2912 ครั้ง)

ออฟไลน์ klakla

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 45
ซ่อมรถเชิงป้องกัน กับ ซ่อมตามอาการ
« เมื่อ: มิถุนายน 14, 2022, 15:16:11 »
ชวนเพื่อนสมาชิกพูดคุยว่าซ่อมแบบไหนดีกว่ากันครับ ญี่ปุ่น/ยุโรปต่างกันมั้ย แบบไหนคุ้มกว่า สำหรับคนใช้รถยาวๆ10 ปี++ ครับ

ซ่อมเชิงป้องกันความหมายคือระยะรถถึงก็จับเปลี่ยนอะไหล่เลย เช่น รถถึง 120,000 กิโลแล้ว เลยจับเปลี่ยนพัดลมไฟฟ้าเลย ไม่ต้องรอพังความร้อนขึ้นก่อนค่อยเปลี่ยน

ซ่อมตามอาการคือ รอรถอาการออกแล้วค่อยเปลี่ยนครับ เช่นขับไปเรื่อยๆไม่สนไมล์ พอแอร์ร้อน ก็รู้แล้วว่าระบบระบายความร้อนเสียค่อยซ่อม

เพื่อนๆคิดเห็นอย่างไรกันบ้างครับ มาแชร์ประสบการณ์กัน

ส่วนตัวผมเดี๊ยวนี้มาทางเปลี่ยนก่อนมีอาการแล้วครับ แต่ยังไม่รู้ว่าจะคุ้มมั้ยนะครับ  :-X

ออฟไลน์ zumo

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 139
    • อีเมล์
Re: ซ่อมรถเชิงป้องกัน กับ ซ่อมตามอาการ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: มิถุนายน 14, 2022, 15:33:20 »
ผมเปลี่ยนตามระยะศูนย์บริการกำหนดครับ  ใบเสนอแจ้งสึกหรอพร้อมคำชี้แจงได้ ถ้าต้องเปลี่ยนก็เปลี่ยนครับ
คราวก่อนแจ้งหม้อน้ำเริ่มรั่วซึม ผมใช้มาอีกหมื่นโล ถึงเปลี่ยน ก็คือต้องดูรถเองได้ด้วยประมาณนึ่ง
ส่วนพวกระบบไฟฟ้า ยากเหมือนกันครับ พวกนี้ตามอายุหรือตามเวลา จะไล่เปลี่ยนก็เสียเงินเปล่า
ถ้าจะอาชัวร์แบบนั้น  ตัดใจเปลี่ยนรถใหม่ดีกว่า ผมว่าศูนย์เคาก็เช็คระยะรถ เชิงป้องกันอยู่นะครับ


ออฟไลน์ sukhontha

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,479
Re: ซ่อมรถเชิงป้องกัน กับ ซ่อมตามอาการ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: มิถุนายน 14, 2022, 15:35:04 »
ผมตามอาการครับ   

ออฟไลน์ The Mechanics of Emotions

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,683
Re: ซ่อมรถเชิงป้องกัน กับ ซ่อมตามอาการ
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: มิถุนายน 14, 2022, 15:37:24 »
ผมเอาเข้าอู่ บางทีก็ตามอาการครับหรือเชิงป้องกันเป็นบางที แต่จะเช็ครถเองอยู่ตลอดทั้งระดับน้ำมันเครื่อง น้ำหล่อเย็น สายพาน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาหนักๆ ถ้าเช็คระยะก็รอให้ช่างดูให้ ช่างว่ามีอะไรไม่ดีเสนอก็เปลี่ยนเลยครับ

แต่ถ้าเป็นศูนย์ต้องถอยมาตั้งหลักก่อน เพราะบางทีเสนอมาเราพึ่งเปลี่ยนไป บอกว่าไม่ดีแล้วเสื่อมแล้ว ก็ต้องระวังครับ
2010 BMW 325i M Sport
2016 Mazda CX-5 2.0S

ออฟไลน์ เนื้อน่องไม่หนัง

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,738
Re: ซ่อมรถเชิงป้องกัน กับ ซ่อมตามอาการ
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: มิถุนายน 14, 2022, 15:39:18 »
สำหรับผมแล้วแต่การใช้งานครับ และPart ครับ
ถ้าเป็นส่วนที่ ไม่ได้ทำให้รถตายกลางทาง หรือลามไปส่วนอื่นได้ เช่นแบตเตอรี่ โช๊คสปริง และวิ่งใช้งานใกล้ๆ 5-10 km ทางเดิมๆ รถไม่ติด อาจรอให้มีอาการก่อน แล้วค่อยเปลี่ยน แต่พอมีเตือนปุ๊ป ต้องเปลี่ยนเลยนะ
แต่ถ้าวิ่งทางไกล เป็น Part สำคัญๆ พวกที่เสียแล้ว รถต้องหยุดกลางถนน พับพัดลมระบายความร้อน ปั้มติ๊กอะไรพวกนั้น ถ้าถึงระยะเปลี่ยน ผมจะเปลี่ยนเลย ไม่ลุ้น

ออฟไลน์ Weetting

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,970
  • ช่วงล่าง+เครื่องยนต์
Re: ซ่อมรถเชิงป้องกัน กับ ซ่อมตามอาการ
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: มิถุนายน 14, 2022, 16:07:02 »
แยกกันครับ

พวกระบบหล่อเย็น 4 ปียกเซทครับ  หม้อน้ำ ปั๊มน้ำ วาล์วน้ำ
ระบบขับเคลื่อน  เช็คทุก2ปี   ถ้าเสียก็เปลี่ยน 

ที่เหลือก็ตามอาการครับ
THE Manual Gearbox Preservation Society
Drive diesel until last day

ออฟไลน์ samaklen

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,922
Re: ซ่อมรถเชิงป้องกัน กับ ซ่อมตามอาการ
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: มิถุนายน 14, 2022, 16:08:26 »
แล้วแต่ละคนให้ความสำคัญในเรื่องอะไรครับ
ถ้าเป็นเรื่องความปลอดภัย ควรทำเชิงป้องกัน
ถ้าไม่เกี่ยวกับการใช้งานโดยตรง รอได้ ก็ให้ออกอาการก่อนก็ยังไหว

ออฟไลน์ Newhang

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,338
Re: ซ่อมรถเชิงป้องกัน กับ ซ่อมตามอาการ
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: มิถุนายน 14, 2022, 16:23:56 »
ผมรอเสียครับ รถจะขายวันไหนก็ไม่รู้ อีกอย่างถ้าเราเปลี่ยนแบบก่อนอาการ เราต้องเปลี่ยนเยอะมากนะครับ มันก็ดูเว่อร์ไป

อย่างเดียวที่จะเปลี่ยนก่อนอาการคือ ไหนๆรื้อมาแล้ว ของอยู่ใกล้ๆกัน สภาพไปเยอะพอสมควร แบบนี้ผมอาจจะเปลี่ยนเลยครับ

ออฟไลน์ DiKiBoyZ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,226
    • อีเมล์
Re: ซ่อมรถเชิงป้องกัน กับ ซ่อมตามอาการ
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: มิถุนายน 14, 2022, 16:33:45 »
ถ้ามีเงิน ก็ ทำใหม่ ทุกชิ้น ในแต่ละส่วน เช่น ช่วงล่าง ก็ยกบูช หรือ ชิ้นส่วนที่มันจะเสีย เบิกใหม่หมด ทุกชิ้น ปึกนก คันชัก ลูกหมาก แร็ค และ อื่นๆ เป็นต้น อันนี้ตัวอย่างเพียงส่วนเดียวนะ

ยังไม่รวม คอมแแอร์ พัดลมไฟฟ้า โซ่ราวลิ้น เฟืองแอดแวน โซลินอย เซ็นเซอร์ และ อื่นๆ อื่นะ

รับรอง เหมือนรถใหม่ วิ่งได้ปลายปี กว่าจะเกิดอาการ ตามที่อายุมันจะเสื่อมสภาพ อีกรอบ

แต่ในความเป็นจริง ซื้อรถมือสองมา อย่างรถยุโรป

ผมยกเตัวอย่าง F10 ในราคาไม่ถึง 1 ล้านแล้ว มานั่งเบิกใหม่ทุกชิ้น (ของเทียบผมว่าสู้แท้ไม่ได้ แทบจะ 80% ขี่นเลย)

งบที่เสียไป เบิกใหม่ มันไม่ใช่น้อยๆ นะครับ ถ้ามากเกินไป มันไม่คุ้มทำหรอกครับ

สุดท้าย ผมว่า ก็ซ่อมตามอาการดีกว่า ถ้ามันเสีย ก็ซ่อม บางทีไม่เสีย หรือ พอใช้ได้ ก็ใช้ไป

เพราะสุดท้าย พอซ่อมชุดใหญ่จริงๆ งบจมเป็นแสนๆ ผมเห็นขายรถทิ้ง มาก็เยอะ ครับ

ออฟไลน์ Niti

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,033
  • Live is short. Live it!
Re: ซ่อมรถเชิงป้องกัน กับ ซ่อมตามอาการ
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: มิถุนายน 14, 2022, 16:37:46 »
ผมเปลี่ยนแบบป้องกันครับ

ซ่อมเองไม่เป็น โดนฟันบ้าง แต่ก็คิดว่าดีกว่าไปโดนฟันตอนรถเราพัง :P
-------------------------------------------------------------
In: 350Z DE / New Fortuner TRD / Harrier XU60*2 / Alphard AH30
Out: Miata NC RHT / 86 / IS250
-------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ apinui

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,953
    • อีเมล์
Re: ซ่อมรถเชิงป้องกัน กับ ซ่อมตามอาการ
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: มิถุนายน 14, 2022, 17:04:06 »
เอาตามตรงนะ ถ้ามีเงินมากพอ จะเปลี่ยนตามอายุก่อนที่มันจะพัง

แต่ถ้าเรายังไม่พร้อมจะจ่าย คือไม่มีเงิน ก็จะรอมันพังก่อนค่อยเปลี่ยน

น่าจะประมาณนี้แหละ

ออฟไลน์ Firzen

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 887
Re: ซ่อมรถเชิงป้องกัน กับ ซ่อมตามอาการ
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: มิถุนายน 14, 2022, 18:20:50 »
อะไหล่ชิ้นไหน ถ้าคู่มือมีบอกให้เปลี่ยน ผมก็เปลี่ยนตามอายุที่ระบุในคู่มือครับ แต่ถ้าไม่มีบอกไว้ ก็เปลี่ยน/ซ่อมตามอาการครับ

ออฟไลน์ Tien.W

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,232
    • อีเมล์
Re: ซ่อมรถเชิงป้องกัน กับ ซ่อมตามอาการ
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: มิถุนายน 14, 2022, 19:48:47 »
ปัจจัยมันเยอะครับ

ยกตัวอย่าง ถ้าระบบหล่อเย็น
CR-V G3 .. ครบ 10 ปี ต้องเปลี่ยนน้ำหล่อเย็น อันนี้ ผมเปลี่ยนท่อทางเดินน้ำทุกเส้น วาล์วน้ำ ฝาหม้อน้ำ ใหม่หมดเลยครับ กันไว้ก่อน เพราะถ้ามันพัง งานช้าง

Pulsar DIG .. ออกรถมาปุ๊บ รู้อยู่แล้วว่า พัดลมติดรถอายุมันไม่ยืน ก็สั่งเปลี่ยนเลย ไม่ต้องรอ ขนาดนั้น ยังวิ่งได้แค่ 5 หมื่นกม. ยังพังรอบสองเลย

นอกนั้น ก็จะเป็นพวก น้ำมันเกียร์ กรองเกียร์ พวกนี้ เปลี่ยนก่อนหมดอายุ ก่อนสเปคที่ศูนย์กำหนดครับ

ที่เหลือ ก็ว่ากันตามอาการ พอดี เป็นพวกจับอาการรถได้ไว มีนิด มีหน่อย ผมจะรู้ และ หาทางแก้ทันที ไม่ทิ้งจนออกอาการเยอะครับ

ออฟไลน์ I'm Ti

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 567
  • Honda Civic FD
    • รับทำภาพ 3D Perspective
Re: ซ่อมรถเชิงป้องกัน กับ ซ่อมตามอาการ
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: มิถุนายน 14, 2022, 19:56:27 »
ผมว่าส่วนใหญ่ คือ ซ่อมตามอาการ แต่แบ่งเป็น อาการน้อย กับ อาการเยอะ มากกว่า
รถมันไม่ได้อยู่ๆตายถ้าไม่สาหัสจริงๆ ส่วนใหญ่มันก็จะมีอาการบอกมากหรือน้อยก็ให้รีบเปลี่ยน
แล้วมันก็มีอีกอย่างซ่อมแบบขะหฺย่อน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 14, 2022, 19:59:26 โดย I'm Ti »

ออฟไลน์ MyName

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 8,145
  • I'm............................
Re: ซ่อมรถเชิงป้องกัน กับ ซ่อมตามอาการ
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: มิถุนายน 14, 2022, 20:59:32 »
ซ่อมตามอาการยังไม่ค่อยจะหายขาดเลยรถที่ผมใช้มาแต่ละคัน

กลัวซ่อมป้องกันไปอาจจะไปเร่งให้พังไวขึ้นก็เป็นได้นะครับ
Cars
2022 - Nissan Almera 1.0 Turbo VL
2016 - Mazda 2 1.5XD High Plus L
2008 - Mitsubishi Space Wagon 2.4 GLS Ltd. !User'Review Click here!
1997 - Daihatsu Mira

Motorcycles
2023 - Vespa Sprint S 150 i
2012 - Yamaha Mio 125 GTX

ออฟไลน์ CookiE

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 875
Re: ซ่อมรถเชิงป้องกัน กับ ซ่อมตามอาการ
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: มิถุนายน 14, 2022, 22:15:39 »
สมัยก่อนเคยใช้ series 5 e60 สองคัน

พอหมดประกัน ก็ไล่เปลี่ยนอะไหล่ไป บางครั้งมีเสียก็ซ่อมเพิ่ม

สุดท้ายเจอบอลค่าซ่อมไป 2 คันรวม 1.4 ล้านภายใน 3 แี

เข็ดเลยครับ

ตอนนี้ใช้วิธีเสียค่อยซ่อม ยกเว้นพวกท่อเชื้อเพลิง ท่อน้ำมันเบรคครับ

ออฟไลน์ InBkk

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,115
Re: ซ่อมรถเชิงป้องกัน กับ ซ่อมตามอาการ
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: มิถุนายน 14, 2022, 23:50:47 »
ซ่อมตามอาการ สำหรับสิ่งที่ไม่ซีเรียสมาก และยังไม่ได้ทำให้การขับขี่ ณ ปัจจุบัน แย่ลง

ซ่อมเชิงป้องกัน กับสิ่งที่สุ่มเสี่ยงต่อการสร้างความเสียหายแบบลุกลาม เช่น ทุกอย่างที่เกี่ยวกับระบบความร้อน สายพานต่างๆ เป็นต้น

PKS8

  • บุคคลทั่วไป
Re: ซ่อมรถเชิงป้องกัน กับ ซ่อมตามอาการ
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: มิถุนายน 15, 2022, 07:17:15 »
สมัยก่อนเคยใช้ series 5 e60 สองคัน

พอหมดประกัน ก็ไล่เปลี่ยนอะไหล่ไป บางครั้งมีเสียก็ซ่อมเพิ่ม

สุดท้ายเจอบอลค่าซ่อมไป 2 คันรวม 1.4 ล้านภายใน 3 แี

เข็ดเลยครับ

ตอนนี้ใช้วิธีเสียค่อยซ่อม ยกเว้นพวกท่อเชื้อเพลิง ท่อน้ำมันเบรคครับ

ผมใช้รถเยอะ ตอนนั้นใช้ 525iSE ปีนึงประมาณ 6-7หมื่นโลได้ ค่าซ่อมปีนึงของผมปีล่ะ 140,000 นี่คือเสียแล้วค่อยเปลี่ยน และซ่อมอู่นอกด้วย อะไหล่มาแต่ล่ะดอกนี่มันไม่ได้แพงมาก แต่มันยุบยับมากเลยครับ

ออฟไลน์ thdeann

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 277
Re: ซ่อมรถเชิงป้องกัน กับ ซ่อมตามอาการ
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: มิถุนายน 15, 2022, 08:11:39 »
แล้วแต่ระบบเลยครับ
อย่างระบบระบายความร้อน เช่นหม้อน้ำกับพัดลม
พอครบสองแสนผมจับเปลี่ยนทุกคันครับ
แต่ระบบอื่นๆ หากมันพังก็ยังพอวิ่งได้ก็รอซ่อมตามอาการครับ

ออฟไลน์ Aleister TJ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,005
  • มีเงินเป็นล้านก็ซื้อเมื่อวานไม่ได้ แต่ถ้าร้อยล้านก็ช่างเมื่อวานมันเถอะ
    • อีเมล์
Re: ซ่อมรถเชิงป้องกัน กับ ซ่อมตามอาการ
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: มิถุนายน 15, 2022, 08:15:32 »
ถ้าช่วงไหนเงินเหลือผมทยอยเปลี่ยนตามอายุตลอดครับ​ ซ่อมตามอาการคือสุดวิสัยหรือการเงินช่วงนั้นช็อตจริงๆ​ 555
My Car History ~

Honda City ZX
Toyota Yaris 1.2E
Mazda3 Skyactive 2.0S
Mazda 2 SkyActiv 1.5 High Plus L
Mitsubishi Pajero Sport 2.4 Elite

ออฟไลน์ chaithawat

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,538
Re: ซ่อมรถเชิงป้องกัน กับ ซ่อมตามอาการ
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: มิถุนายน 15, 2022, 10:01:27 »
อยู่ที่อายุรถด้วย รถไม่ถึงสิบปีซ่อมแบบป้องกันเปลี่ยนก่อนก็ตายละครับ ตัวอย่างระบบน้ำ ปั๊ม ท่อ ทาง วาลว์ กระปุก หม้อน้ำ กี่หมื่นหละครับ
ถ้าเกินสิบปีอะไหล่ราคาถูกลงอะไหล่เทียบออกมาเยอะแยะ ผมก็ยอมเปลี่ยนละครับเพราะเริ่มทะยอยหมดอายุ ซ่อมแบบนี้มันจบไม่ต้องพะวง เสียค่าแรงหนเดียว ประหยัดกว่ามาตอดเล็กตอดน้อย


ออฟไลน์ CHANOM

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,091
Re: ซ่อมรถเชิงป้องกัน กับ ซ่อมตามอาการ
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: มิถุนายน 15, 2022, 10:07:10 »
ส่วนตัวจะ maintain ตามคำแนะนำในคู่มือนะคะ คือทำตามระยะไปเลย

ส่วนพวกอะไหล่นอกเครื่องมือ อาจจะต้องรอมีอาการก่อนถึงค่อยเปลี่ยน เพราะไม่มีความรู้ว่า อายุการใช้งานเขาเท่าไหร่ ชิ้นไหนต้องเปลี่ยนบ้าง

ส่วนคุณพ่อคุณแม่ ถ้าไม่เสีย ไม่ต้องเสนอเปลี่ยนค่ะ รออาการออกอย่างเดียว ^^”
In My Garage
2007 MB A180 CDI W169
2007 MB C220 CDI W203
2021 Mazda CX3 Comfort
2023 Honda Civic E-Hev RS

Sold
2016 Mazda 2 Skyactiv-D High Connect
2019 Honda HRV EL
2021 Subaru Forester IS-Eyesight

ออฟไลน์ SM.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 27,431
Re: ซ่อมรถเชิงป้องกัน กับ ซ่อมตามอาการ
« ตอบกลับ #22 เมื่อ: มิถุนายน 15, 2022, 10:36:42 »
จริงๆ ก็ตอบยากนะครับ อาจจะอยู่ที่เรื่องอะไรมากกว่า

แต่ผมว่าที่สำคัญก็คือ ซ่อมยังไงมากกว่า บางคนก็ซ่อมด้วยของที่อาจจะไม่ได้คุณภาพมากนัก ใช้ไปไม่นาน เสียอีกแล้ว แถมอาจจะทำให้ส่วนอื่นเสียตามไปด้วย

ผมเลยคิดว่า จะซ่อมแบบไหนก็ตาม ซ่อมให้ถึงดีกว่า ใช้ part ดีหน่อย ยอมจ่ายไปดีกว่าครับ

ออฟไลน์ mamaman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,423
    • อีเมล์
Re: ซ่อมรถเชิงป้องกัน กับ ซ่อมตามอาการ
« ตอบกลับ #23 เมื่อ: มิถุนายน 15, 2022, 10:51:35 »
ระบบ​ ซ่อมเชิงป้องกัน
ถูกใช้ในระบบ​ บำรุงรักษารถยนต์ครับ
ที่เห้นดีๆก้มี​ BMW.​และ​ Toyota
คือถึงระยะ​จับเปลี่ยนให้หมด​ ไม่ต้องรอมันพัง
จริงๆรถมันก้ไม่ได้ทนกว่าชาวบ้าน
แต่เค้่าชิง​ เปลี่ยนก่อนเกืดปัญหา

บางค่าย​ นี่ผมถาม​ศูนยื์ พัดลมไฟฟ้า​ ต้องเปลี่ยนตอนไหน​  ปั้มน้ำต้องเปลี่ยตอนไหน
ปั้มติ่กต้องเปลี่บนตอนไหน
คำตอบ​ คือ​ ตามอาการ​ห้าๆๆๆๆ
งี้​ รอกินข้าวแกงลิงได้เลย
แล้วผมกินจริงเพราะใช้จนมันพัง
ตั้งแต่​ 150000​  โล​ ก้พังตามๆกันมา​ จนไม่ซ่อมละขายทิ้วตอน​ 3300000 โล
พวกเตนซ์ไปกรอไมล์เหลือ​ 190000  โล

ออฟไลน์ youngbear

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,333
Re: ซ่อมรถเชิงป้องกัน กับ ซ่อมตามอาการ
« ตอบกลับ #24 เมื่อ: มิถุนายน 15, 2022, 11:36:36 »
 8) 8) 8).... ย้อนลงไป 6 ปีก่อน ทำงานบริการ service & maintenance ให้องค์กรและบริษัทข้ามชาติ  ซึ่ง คันใดพ้น 1 แสนกิโลฯ หมดวาแรนตีแล้ว  ที่ทุกๆ 150,000  km. เปลี่ยนทั้งเบรคและช่วงล่างรวมโช๊คฯ (ไม่รวม ถ่าย/เปลี่ยนของเหลวฯ ซึ่งเซอร์วิสปกติตามตารางคู่รุ่นรถ) รถขององค์กรนานาชาติใช้ เกิน 5 แสนโล/ 5 ปี ส่วนบริษัทข้ามชาติ จะใช้น้อยแค่ 2-3 แสนโล/ 5ปี   ซึ่งทั้งองค์กรกับ บ.ข้ามชาติ จะจำหน่ายรถที่ครบอายุใช้งาน 5 ปีออก และเปลี่ยนรถรุ่นใหม่เข้าทดแทน

สังเกตุว่า ตัดปัญหาหลัก กับ ปัญหารองฯ เครื่อง/เกียร์/ช่วงล่าง ไม่เป็นอุปสรรคระหว่างใช้งานตลอดทั้ง 5 ปี เกือบทุกรุ่นรถ จะมีที่ไม่ตรงรอบเซอร์วิสอยู่เรื่องเดียวคือ ระบบเบรค ซึ่งบางรุ่นบางคัน ต้องเข้าเซอร์วิสเบรคก่อนกำหนด ก็พอมีบ้าง ซึ่งทั้งองค์กรนานาชาติกับบริษัทข้ามชาติต่างๆ ให้ความสำคัญเป็นเคสฉุกเฉินที่ไม่ต้องรออนุมัติ   เชื่อว่า FC Headli. Mag. เอาไปปรับใช้กับรถเราเองได้เช่นกันครับ ได้ผลเกิน 90 % ครับ :-X
 

ออฟไลน์ D Water Law

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 292
Re: ซ่อมรถเชิงป้องกัน กับ ซ่อมตามอาการ
« ตอบกลับ #25 เมื่อ: มิถุนายน 15, 2022, 13:37:49 »
ผมใช้หลักการเดียวกับการซ่อมบำรุงเครื่องจักรนะ  ซ่อมรถเชิงป้องกัน กับ ซ่อมตามอาการ   คือไม่ได้เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่ต้องใช้ทั้ง 2 อย่างไปพร้อมๆ กัน โดยพิจารณาแยกกันในแต่ละส่วน

ในรถจะมีทั้งส่วนที่ ซ่อมบำรุงเชิงป้องกัน  เช่น เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ น้ำมันเบรค น้ำมันเฟืองท้าย ตามรอบระยะเวลาที่เหมาะสม

และส่วนที่ซ่อมตามอาการ หรือ ตามสภาพ เช่น โชคอัพ ผ้าเบรค จานเบรค   ยางรถยนต์


ทั้งนี้ จุดพิจารณาของผมจะไม่ได้ขึ้นกับว่าจะเลือกเป็นซ่อมรถเชิงป้องกัน กับ ซ่อมตามอาการ  แต่จะพิจารณาจาก ค่าใช้จ่ายในการซ่อม เปรียบเทียบกับความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น ความเสี่ยงที่ว่าคือ ความเสียหายโดยตรงที่อาจเกิดขึ้นเมื่อเราไม่ซ่อมวันนี้  และ ต้องคำนึงถึงความเสียหายทางอ้อมด้วย เช่น ค่าเสียเวลาในการนำรถเข้าซ่อมอีกครั้ง ค่าความเสี่ยงจากที่ Breakdown เกิดขึ้นในเวลาที่ไม่เหมาะสม  ค่าเสียโอกาสจากการใช้รถ



ออฟไลน์ #อินเดียหน้าโจร

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,404
    • Need for slow - ดังแต่ท่อ ล้อไม่หมุน
    • อีเมล์
Re: ซ่อมรถเชิงป้องกัน กับ ซ่อมตามอาการ
« ตอบกลับ #26 เมื่อ: มิถุนายน 15, 2022, 14:08:09 »
การซ่อมแบบป้องกัน หรือ ถึงระยะแล้วเปลี่ยนเลน
- ข้อดี = ลดโอกาสรถเสียหรือผิดปกติระหว่างทาง หรือเสียในวันหรือสถานที่ๆไม่สะดวกที่จะเข้าซ่อม ลดโอกาสที่จะมีอันตรายตามมา เช่น ต้องจอดดึกๆข้างทาง หรือตาม ตจว
- ข้อเสีย = ใช้งบสูงกว่า

การซ่อมตามอาการ
- ข้อดี = ประหยัดได้มาก เช่น หัวเทียน แทนที่จะเปลี่ยนที่แสนโลเป๊ะ ก็เปลี่ยนเมื่อหัวเริ่มกุด อาจจะแสนสอง แสนห้า
- ข้อเสีย = ต้องมีทักษะสังเกตุด้วยตัวเองส่วนนึง มีความเสี่ยงที่รถจะเสียระหว่างทาง หรือที่ๆไม่พร้อม และ อาจเสียเวลาในการเข้าอู่บ่อยกว่า เดือน 1 แท่นเครื่องพัง เดือน 3 โช๊ครั่ว เดือน 4 ถ่ายน้ำมันเครื่อง เดือนหก หัวเทียนกุด เดือน 7 คอยล์ตัวแรกเสีย เดือน 9 คอยล์ตัวที่ 3 เสีย
Altis 1.6 AT 2004 (Swap 2zz-ge 6MT)
Mazda 1.3 Sky

ออฟไลน์ U9WS

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,180
  • slower is better
Re: ซ่อมรถเชิงป้องกัน กับ ซ่อมตามอาการ
« ตอบกลับ #27 เมื่อ: มิถุนายน 15, 2022, 15:02:17 »
เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ต่ำหมื่น
เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ 2หมื่น
เปลี่ยนหัวเทียน iridium 5หมื่น

ทำมาตลอดหลายสิบปีแล้วครับ แต่ทุกอย่างมีต้นทุนที่ต้องจ่าย

ออฟไลน์ renew

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 745
Re: ซ่อมรถเชิงป้องกัน กับ ซ่อมตามอาการ
« ตอบกลับ #28 เมื่อ: มิถุนายน 15, 2022, 15:52:57 »
ขึ้นกับประสบการณ์ล้วนๆ ส่วนตัวเน้นระวัง หรือทำก่อน พวกที่จะเสียเงินมากๆ
พัดลมหม้อน้ำ รถวิ่งเกินสองแสน ปิดแอร์สังเกตุ ยังมีการตัดต่อเมื่อเครื่องยนต์ร้อน และทำงานปกติ ไม่อู้
เกียร์ออโต สำหรับรถฮอนด้า น้ำมันเกียร์ถูก เปลี่ยนมันทุกสองหมื่นโล
สายพานหน้าเครื่อง รวมเปลี่ยน ไม่เกินพันสาม มันดังก็จับเปลี่ยนเลย แม้สภาพยังดีอยู่
ชุดท่อยางน้ำหล่อเย็น สิบปีคงถึงเวลา เปลี่ยน อย่ารอแจ๊คพอต

ออฟไลน์ โบตั๋น

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 489
Re: ซ่อมรถเชิงป้องกัน กับ ซ่อมตามอาการ
« ตอบกลับ #29 เมื่อ: มิถุนายน 15, 2022, 21:46:40 »
ส่วนตัวจะซ่อมทั้ง 2 แบบครับ

ซ่อมรถเชิงป้องกัน
-ส่วนตัวจะซ่อมพวกระบบ ระบายความร้อน เป็นหลักเพราะมีผลกับเครื่องยนต์โดยตรง ทำให้รถขับไม่ได้ แถมฝาโก่งอีก
  มอเตอร์พัดลมหม้อน้ำ วาล์วน้ำ ฝาหม้อน้ำ หม้อน้ำ ท่อหม้อน้ำบนล่าง ถ้าใช้มานานก็เปลี่ยนก่อนเลย เน้นเฉพาะของแท้ด้วย
-น้ำมันเกียร์ กรองเกียร์
-น้ำมันเครื่อง กรองเครื่อง
-สายพานไทมิ่ง/โซ่
 
ซ่อมตามอาการ
-พวกรั่วซึมอย่าง ยางหุ้มเพลา ซีลยางต่างๆ