ยาวนิดนีง แต่เป็นประสบการณ์ที่ผมว่ามีประโยชน์ กับผู้บริโภค เลยอยากแชร์ให้คนที่สนใจในการซื้อรถมือสองให้ระวัง และรู้ทันผู้ขาย ไม่ได้บอกว่าเต๊นท์รถหรูทุกเต๊นท์ไม่ดีนะครับ ที่ผมเจอมาก็ดีๆ ไม่มีปัญหา จริงใจ ตรงไปตรงมากับลูกค้าก็เยอะ
เรื่องมีอยู่ว่าผมไปจองรถคันนึงซึ่งโพสขายใน FB ในช่วงปลายเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา เป็นรถยนต์ Mercedez-AMG SLC43 ผมได้ติดต่อนายหน้าไปมีการนัดดูรถในช่วงเย็นวันนั้นที่เต๊นท์ที่ครอบครองรถตัวจริง (พวกนี้จะมี Freelance/นายหน้า โพสขายตามที่ต่างๆ ทำงานให้) โดยหลังจากผมดูรถ โดยรวมรถอยู่ในสภาพดี ผู้ขายให้ดูสำเนาจดทะเบียนในหน้าเจ้าของรถ(ไฟแนนซ์) หลังต่อรองราคาคุยเรื่องนัดตรวจรถกันผมได้วางมัดจำในทันที 50,000 บาท โดยผมมีระบุในสัญญาซื้อขายว่าผมขอตรวจสอบรถที่อู่ Benz ใกล้ๆด้วยค่าใช้จ่ายผมเอง หากตรวจแล้วไม่มี Major defect อะไร ก็นัดโอนและจ่ายเงินตามขั้นตอนซื้อรถทั่วไป
รถคันนี้เป็นทะเบียนต่างจังหวัด วันที่ผมจองไปทางผู้ขายแจ้งว่าปิดไฟแนนซ์แล้ว กำลังทำเรื่องย้ายเข้ากรุงเทพ โดยทางผมเองมั่นใจว่าการซื้อขายจากเต๊นท์รถหรูดูดี น่าจะไม่มีอะไรที่น่าห่วงหรือเสี่ยง หลังจากศูนย์ Benz ตรวจแล้วทุกอย่างโอเค ตอนนี้ก็รอขั้นตอนนัดโอนจ่ายเงินที่ขนส่ง
ช่วงต้นเเดือน มิ.ย. ทางผมก็ได้รับการติดต่อจากเต๊นท์เสนอให้จ่ายเงินก่อน รับรถออกไปขับเลย ระหว่างรอเอกสารจากไฟแนนซ์ที่อาจใช้เวลามากหน่อย พอได้มาแล้วทำเรื่องโอนเสร็จค่อยจ่ายส่วนที่เหลือซัก 50,000 บาทก่อนก็ได้ ซึ่งหลังจากที่ผมปรึกษากับหลายๆคนแล้ว ทุกคนเตือนมาว่า อย่า
หลังจากคุยเจรจากันทางผู้ขายกลัวผมทิ้งจอง แล้วเขาจะเสียโอกาส ซึ่งสุดท้ายผมเลยเสนอเพิ่มมัดจำให้อีก 150,000 บาท เพื่อให้เขาสบายใจ และมีบันทึกร่วมกันชัดเจนขึ้นในหลายประเด็น เช่น ค่าภาษีผู้ขายจ่าย ค่าโอนผู้ซื้อจ่าย , กุญแจ 2 ดอก, สมุดทะเบียนต้องเป็นเล่มจริง ไม่มีระบุชำรุดหรือเสียหายในหน้า 18, ส่งเช็คธนาคารตรวจ 1 วันก่อนนัดโอนขนส่งจตุจักร
วันนัดโอนสิ่งที่เกิดขึ้นคือ
1.รถยังไม่ได้ทำเรื่องย้ายเข้ากรุงเทพ
2.กุญแจเอามาดอกเดียว
อ้าวเฮ้ย
ไม่เหมือนคุยกันไว้นี่หว่า
เช็คธนาคารก็ทำแล้ว ตรวจแล้ว
.นัดมาโอน
แต่โอนไม่ได้ต้องย้ายก่อน
วันตรวจเช็คธนาคารไม่มีบอกประเด็นนี้
คงหวังว่าพอวันตรวจรถค่อยเจรจาตรงนั้นเลย
สุดท้ายผมก็ยอมลดมานิด เพื่อไม่ให้เสียเวลาทั้งสองฝ่าย ยอมส่งมอบเช็ค รับตัวรถพร้อมกุญแจดอกเดียวไปก่อน โดยให้ตรวจสภาพรถที่ช่องตรวจเลย เอาทะเบียนเล่มจริงเอกสารทั้งหมดเก็บไว้กับตัวผมเพื่อดำเนินการเอง หลังตรวจรถจ่ายเช็ค ทางผมมาทำเรื่องเองต่อ โดยขั้นตอนแรกคือย้ายเข้ากรุงเทพฯ ใช้เวลา 3 วันทำการ
วันมารับทะเบียนทางผมโดนให้จ่ายส่วนต่างเพิ่มหมื่นกว่าบาท จากการจ่ายภาษีไม่ครบ โดยสองปีสุดท้ายทางเต๊นท์เพิ่งไปจ่ายมาก่อนให้ผมมาโอน จ่ายเป็นบุคคลธรรมดา และทางขนส่งให้ดูเอกสารว่า รถคันนี้แม้ว่าจะสิ้นสุดสัญญากับไฟแนนซ์แล้ว รถยังถือว่าต้องจ่ายเป็นนิติบุคคล จนกว่ารถจะโอนเข้าชื่อบุคคลธรรมดา พอเห็นเอกสารทั้งหมด เทียบ Timeline ต่างๆเลยรู้ความจริง
ที่ Peak คือ
รถคันนี้ค้างจ่ายไฟแนนซ์มาปีกว่า ถูกบอกเลิกสัญญาตั้งแต่ต้นปี 2564
ที่ Peak กว่า คือ
.วันที่โพสขายๆกัน วันที่ผมมัดจำซื้อรถ ทางเต๊นท์ยังไม่ชำระหนี้ครบถ้วน = ผมจองรถหนีไฟแนนซ์ !!!!
ผมนึกไม่ออกเลยว่าถ้าไม่ใช่ผมเป็นคนที่เจอรถในวันที่ผมจอง จ่ายเงินเต็ม รับรถออกมาเลย แล้วให้เอกสารส่งตามมา
เรียกได้เลยว่าคนนั้นก็จะเป็นคนครอบครองรถหนีไฟแนนซ์มา
ถ้าถูกยึดหรือถูกอายัติรถจะเป็นอย่างไร
แม้ว่าปัจจุบันรถคันนี้สถานะถูกปิดสัญญากับไฟแนนซ์ (ไม่ใช่รถหนีไฟแนนซ์แล้ว) โอนถูกต้องเข้าชื่อผมเรียบร้อยแล้ว รับรถมากว่าสัปดาห์แล้วแต่ผมเองก็ยังไม่ได้กุญแจรถดอกที่ 2 (ผู้ขายอ้างว่ารถมีหลายคันไม่รู้ดอกไหน ให้ช่วยถ่ายดอกกุญแจมาให้ดู ) ซึ่งผมไม่ยอม
ให้กำหนดเวลา ถ้าไม่ได้ผมจะต้องแจ้งความ เข้าไปทำที่ศูนย์ Benz หมื่นกว่าบาท และ inactivate กุญแจที่หายไป (เอาจริงๆ ผมไม่ไว้ใจว่ากุญแจอีกดอกไปอยู่ที่ใคร ที่ไหน) และเรื่องภาษีส่วนต่างที่ทางเต๊นท์ยังไม่ยอมโอนคืน โดนบอกว่าจะให้ผมนำสำเนาเข้าไปเบิกกับฝ่ายบัญชีเต๊นท์ ??
ถ้าไม่ได้มาทำเรื่องเองวันนั้นคงไม่ได้เห็นอะไรทั้งหมดแบบนี้ เคสนี้คงต้องรอดูกันต่อไปว่าจะจบกันอย่างไร ผมจะได้กุญแจ กับเงินค่าส่วนต่างภาษีไหม หรือต้องจบลงกันที่คดีความ
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
.ซื้อรถมือสองควรตรวจเอกสารให้ละเอียด
หลีกเลี่ยงรับรถแล้วก่อนแล้วโอนภายหลัง
.อย่าเชื้อแค่ในสัญญาซื้อขายว่าโอนไม่ได้ คืนเงินเต็มจำนวน เพราะบางครั้งใส้ในที่ไม่ถูกต้อง อาจทำเราลำบากได้