โพลล์

รถทุกรุ่นในตลาดควรต้องมี
4 (3.8%)
ถ้ามีก็ได้แต้มต่อ
22 (21.2%)
ไม่จำเป็น
78 (75%)

จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 103

ท่านสมาชิกว่า Wireless Charger มีผลกับการเลือกรถรุ่นนั้นๆมั้ยครับ

nutvas

ไม่จำเป็นครับ รถผมมี ก็ปิดตลอดตั้งแต่วันที่รับรถออกมาจากโชว์รูม

ถ้าจะให้ดี ขอ USB-C Fast Charge ดีกว่าครับ ทุกวันนี้รถผมมี Wireless Apple CarPlay แต่เวลาชาร์จก็เสียบสายเอาครับ ซึ่งตอนนี้ที่ใช้ก็คือไปหาที่ชาร์จ USB-C แบบ PD มาเสียบช่อง Power Outlet เอา เพราะตัวรถมีแค่ USB-A ที่จ่ายไฟแค่ 2.1 A เองครับ



axister

ซื้อมาไม่ได้ใช้ซักคันเลยครับ

เครื่องร้อน map เอ๋อ ชาร์จช้า สุดท้ายเสียบสายเหมือนเดิม

ถ้าเลือกได้ว่าไม่เอาแล้วลดราคาก็จะเลือกครับ



zumo

ผมว่าไม่จำเป็นครับ  ปกติจะเดินทางต้องชาร์ตโทรศัพท์ให้เต็มอยู่แล้ว ปกติก็ชาร์ตกลางคืน
ถ้าเดินทางมีตัวสำรองไฟไปก็สะดวกดี   แต่มี Wireless Charger ก็ดีกว่าไม่มี
ส่วนตัวไม่มีผลต่อการตัดสินใจครับ ผมสนใจเรื่องตัวช่วยความปลอดภัยมากกว่า



Tien.W

มือถือ ตอนนี้ ยังไม่รองรับ wireless charge  ก็เลยไม่สนใจ

อีกอย่าง ปัจจุบัน อย่างน้อยๆ ผมเสียบเครื่องมือสื่อสาร 3 เครื่อง

- Ipad
- มือถือส่วนตัว
- มือถือดู GPS

ดังนั้น ยังไง ก็ต้องใช้สายอยู่ละ ยิ่งเครื่องดู GPS วิ่งทางไกล ยาวๆ ใช้ wireless ไม่ได้อยู่แล้ว



Tatt0021

wireless ทำเครื่องร้อนเร็วมากสรุปคือไม่มีผล



TeslaX

ถ้าใช้ไอโฟน xiaomi wireless charger ดีมาก มากถึงมากที่สุด



Aleister TJ

ไร้มากๆครับ
My Car History ~

Honda City ZX
Toyota Yaris 1.2E
Mazda3 Skyactive 2.0S
Mazda 2 SkyActiv 1.5 High Plus L
Mitsubishi Pajero Sport 2.4 Elite



manonmoon

ชอบปลั๊กไฟ 220 โวลต์แบบในรถ everest มากกว่าครับ ใช้ xiaomi 11T เอาอแดปเตอร์บ้านที่มาในกล่องขนาด 67w มาชาร์จแป๊บเดียวแบตเต็ม 100%



Ty ESC

มี ไม่เคยใช้เลย ไม่จำเป็น
ช้าไม่มีประโยชน์ ไม่รู้มันไม่ลงร่องหรือชารจเข้าแต่ได้น้อย มีแต่ความร้อน


ขอช่องusbC Pd มายังจะดีซะกว่า ขอแรงๆ เสียบห้านาทีขึ้นมาเป็นบั้งๆ แบบfast charge




The Mechanics of Emotions

ใช้ประจำในบ้านครับ ชอบเพราะก่อนนอนขี้เกียจเสียบสาย แค่วางเลย ข้อเสียหลักๆ เลยคือชาร์จช้ามาก แล้วเครื่องร้อนมาก (ต้องชาร์จในห้องแอร์ แบตถึงจะขึ้น) แล้วชาร์จทีต้องวางก่อนนอน ตื่นมาเต็มพอดี แต่ถ้าในรถผมไม่สนใจครับ ไม่ได้ขับรถนานพอที่แบตจะขึ้นแบบพอใช้งานได้ เสียบสายเอาง่ายกว่า เร็ว ไม่ร้อน

สำหรับผมมีก็ดี ไม่มีก็ไม่มีปัญหาครับ ไม่มายด์เลยสำหรับ Wireless Charger ในรถ
2010 BMW 325i M Sport
2016 Mazda CX-5 2.0S



yodmanoot

มีก็ดี ขอแบบมีฟังก์ชั่นเปิด-ปิดด้วย
2013 - 2021 : Toyota Collora EE101 ปี 1993 1,300cc AT
2020 - Present  : Chevrolet Colorado 4wd ปี 2005 3,000 MT
2021 - Present  : Toyota Sienta V mc ปี 2019 1,500 CVT



spn

เมื่อก่อนไม่เคยสนใจ พอเปลี่ยนมาใช้ iphone ก็คือใช้บ่อยมากกกกกกก เพราะไม่ต้องเสียบสาย ไม่เกะกะ สายชาร์จบางทีลืมหยิบมา คนที่บ้านดึงไปใช้ บางทีสายขาด บางยี่ห้อซื้อมาชาร์จช้า หรือ ไม่ทน ต้องซื้อใหม่อยู่เรื่อย

ผมคงเป็นส่วนน้อยใช่มั๊ยนะ 555 เพราะผมขับรถวันนึง 2-3 ชม อย่างน้อย แบตก็ชาร์จไวพอรับได้สำหรับ wireless charger

ทั้งนี้ไม่ค่อยมีผลต่อการเลือกรถนะครับ ฟิลแบบมีก็ดีนะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 20, 2022, 22:17:39 โดย spn »
Revo 2.8 J B-cab 4x4
Kia Jumbo K2700 1JZ GE + LPG
Camry 2.5 HV Premium
E220d w213



Fly to dream

แอนดรอยออโต้ ไม่ก็ แอปเปิ้ลคาร์เพลย์ สำคัญกว่าเยอะครับอันนี้ที่ต้องมีมากกว่า
ขยะของโลกออนไลน์​ในปัจจุบั​นคือเชื่อคนโง่ที่มีคำพูดสวยหรู​ หาข้อมูล​ไม่จริงมาโกหกคำโตๆ​ อีกอย่างคือพูดความจริงไม่หมด กับพวก​ Avatar ที่ทำเป็น​เก่ง​แต่เก่งน้อยในโลกความจริง​ซึ่งจะหาได้ง่าย



Kanarath

ผมเอาไว้ชาร์จกุญแจรถอย่างเดียว โทรศัพท์เสียบสายเอาครับ ทั้งช้าทั้งร้อนทั้งลำบากตอนหยิบจากช่อง

อย่าว่าแต่ชาร์จโทรศัพท์เลยครับ ขนาดวางกุญแจรถให้มันชาร์จ หลายๆครั้งยังชาร์จไม่เข้าเลยครับ



w_th

ตัวผมตอนยังไม่เคยใช้ มีผลครับ
แต่พอใช้เแล้ว กลับมองว่าไม่มีผล

ผมว่าน่าจะติดหนึ่งในสิบ ออฟชั่นที่ใช้แล้วเฟล

เพราะชาร์จช้า ร้อน หลุดบ่อย กลัวมือถือพัง
คงต้องรอที่ชาร์จเจนใหม่ๆ



Niti

ไม่มีผลเลยครับ

จริงๆ ผมชอบนะ แต่เทคปัจจุบันยังช้าเกิน ไม่สัมพันธ์กับขนาดแบตที่เราใช้ๆ กันครับ
-------------------------------------------------------------
In: 350Z DE / New Fortuner TRD / Harrier XU60*2 / Alphard AH30
Out: Miata NC RHT / 86 / IS250
-------------------------------------------------------------



mongolias

ส่วนตัวมือถือยังไม่รองรับชาร์จไร้สาย เลยเฉยๆ
แต่ถึงรองรับ ผมก็คงใช้สายเสียบนี่แหละ นรถขนาดใช้สายกว่าจะขึ้น 1% ยังนานเลย
และผมจะชาร์จในรถส่วนมากก็ทริปยาวๆเท่านั้น ปกติชาร์จไฟบ้านนี่แหละไวสุดละ 555



Nui

รถผมมีไม่ได้ใช้เลยครับ แถมช่องมันก็เล็ก โทรศัพท์ยาวๆ นี่วางแล้วล้นชาร์ตไม่ได้แน่นอน
ออปชั่นนี้ตอนแรกผมไม่ต้องการเลย ตอนจองรถ E300 Coupe มันมีให้เลือกออปชั่นนี้ ซึ่งก็ต้องเสียเงินเพิ่ม ผมไม่ได้เลือก
แต่ตอนรถมาเซลแจ้งว่ามันมีติดมาด้วย ถ้าไม่เอาก็ต้องรอรถไปอีก ผมไม่อยากรอรถแล้วเลยต้องเอา ออปชั่นนี้ราคา 15,000 บาท
E12 520, E21 320, Peugeot 504, 505
Citroen CX Prestige
E30 316i, E36 318i
Mazda Lantis V6 2.0, Rover 623 GSi
Mitsubishi Pajero V6 3.5 1998, E46 323i
Mitsubishi Pajero Sport 2011
Volvo V40 T5
F30 Active Hybrid 3
C250 Coupe C205, E300 Coupe C238
G32 630d GT



pratuang

ทำมาให้แค่ 5 W เก่งจริงทำมาให้อย่างต่ำ 25 w นั้นแหละจะคุ้มค่า จุดขายคือ ต้องชาร์ตเร็ว และเครื่องไม่ร้อน แต่ก็ยังไม่มีค่ายไหนทำ



AgentMolder

ก่อนได้รถที่มีระบบนี้ คอดว่า "ของมันต้องมี"

พอซื้อมาใช้แล้ว "ไม่มีก็ได้"

แทบไม่เคยใช้ครับ มันช้ามาก แบบมากๆๆๆ ชาร์จปกติ 1.30 ชม. วางในรถ 4 ชม. แล้วเลื่อนไปมาหลุดตลอด เลิกครับ ตอนนี้เอาไว้วางลูกอม

แต่ถ้าอนาคตมันสามารถ Fast Charge ได้ ก็น่าสนครับ
2005 Toyota Vios 1st Gen
2012 Honda Civic FD
2018 Toyota Camry ACV70
2023 Toyota Yaris Cross
2024 Porsche 718 Cayman Style Edition
2025 MB E-Class E220d W214



horizen

เรื่องเล็กน้อยมาก เสียบสายชาร์จเอาก็ได้ ปกติหยิบมือถือมาดูช่วงรถติดบ่อยๆ ก็ไม่เหมาะกับ wireless charge อยู่แล้ว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 21, 2022, 12:09:31 โดย horizen »



nuntapon.s

ยิ่งมียิ่งไม่อยากได้



namea

ไม่มีผล เพราะชาร์จช้า ปกติเอามาติดที่แท่นดู google map
และไม่ชอบใช้ apple carplay ไปออกจอ
ส่นจอกลางเก็บไว้ฟังเพลงดูหนังยามรถติดแทนครับ