พรุ่งนี้!! น้ำมันปรับราคาลง กลุ่มเบนซิน+พรีเมียมดีเซล/กลุ่มดีเซล เท่าเดิมครับ

Darkart

ผู้ไม่มีแผลเป็น คือ ผู้ไม่มีประสบการณ์



๑ ๒ ๓

ขึ้น 60 ลง 50 ตามเคย

ตอนน้ำมันขึ้น ขึ้นไม่ถึง 2 เหรียญ  ตอนน้ำมันลง ลง 3 เหรียญ 

สูตรไหน คิดไง ประชาชนก็ได้เปรียบ (ตรงไหน)
รับซื้อ ขาย ซ่อม แลกเปลี่ยนคอมพิวเตอร์,โน้ตบุ๊ค และอุปกรณ์



I-PULSE

ขึ้น 60 ลง 50 ตามเคย

ตอนน้ำมันขึ้น ขึ้นไม่ถึง 2 เหรียญ  ตอนน้ำมันลง ลง 3 เหรียญ 

สูตรไหน คิดไง ประชาชนก็ได้เปรียบ (ตรงไหน)

ผมว่าเราเข้าใจผิดกันมานานมากที่ว่าขึ้น 60 สตางค์ แต่ทำไมลงที 40 สตางค์ตลอด
ตรงนี้มันไม่ใช่ประเด็นเลยครับ ประเด็นคือ เราต้องไปดูค่าการตลาดและค่ากากลั่นที่บริษัทขายปลีกและโรงกลั่นน้ำมันได้รับ
หากเขาขึ้น 60 สตางค์ และลง 40 ด้วยการขยับของราคาน้ำมันสุกที่สิงกโปรที่เท่าๆเดิม ตัวเลขมันจะไปบวมตรงส่วนของค่าการตลาดและค่าการกลั่นในท้ายที่สุดครับ ซึ่งค่าตัวเลขตรงนี้มีระบุในลิ้งด้านล่างนี้
http://www.eppo.go.th/index.php/th/petroleum/price/structure-oil-price?orders[publishUp]=publishUp&issearch=1

ส่วนตอนตลาดโลกขึ้นเราขึ้นเร็ว ตอนลงเรานี้ดึงลงช้าจัง อันนี้ก็ไปหาคำตอบกันเองตามความเชื่อได้เลย

แต่ขึ้น 60 ลง 40 นี่ ตัวเลขมันชัดเจนครับ ปีนี้ค่าการตลาดสูงน่าเกลียดมาก ค่าการกลั่นก็สูงจนกำไรบานเบอะ ซึ่งปีนี้ดูโกยจนเกินไปจริงๆ
แต่ปีก่อนๆผมว่าก็ปกตินะครับ ตัวเลขตรงนี้มีเก็บสถิติทุกวันเลย อย่าไปมองและตัดสินโดยข้อมูลยังไม่ครบถ้วนเลยครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 17, 2022, 19:18:30 โดย I-PULSE »



MyName

ก็ยังได้ไป 10 สต. ล่ะ

เอาที่สบายใจ
2022 - Nissan Almera 1.0 Turbo VL
2016 - Mazda 2 1.5XD High Plus L
2008 - Mitsubishi Space Wagon 2.4 GLS Ltd. !User'Review Click here!
1997 - Daihatsu Mira Mint 850cc AT



SM.




mamaman

ขึ้น 60 ลง 50 ตามเคย

ตอนน้ำมันขึ้น ขึ้นไม่ถึง 2 เหรียญ  ตอนน้ำมันลง ลง 3 เหรียญ 

สูตรไหน คิดไง ประชาชนก็ได้เปรียบ (ตรงไหน)

ผมว่าเราเข้าใจผิดกันมานานมากที่ว่าขึ้น 60 สตางค์ แต่ทำไมลงที 40 สตางค์ตลอด
ตรงนี้มันไม่ใช่ประเด็นเลยครับ ประเด็นคือ เราต้องไปดูค่าการตลาดและค่ากากลั่นที่บริษัทขายปลีกและโรงกลั่นน้ำมันได้รับ
หากเขาขึ้น 60 สตางค์ และลง 40 ด้วยการขยับของราคาน้ำมันสุกที่สิงกโปรที่เท่าๆเดิม ตัวเลขมันจะไปบวมตรงส่วนของค่าการตลาดและค่าการกลั่นในท้ายที่สุดครับ ซึ่งค่าตัวเลขตรงนี้มีระบุในลิ้งด้านล่างนี้
http://www.eppo.go.th/index.php/th/petroleum/price/structure-oil-price?orders[publishUp]=publishUp&issearch=1

ส่วนตอนตลาดโลกขึ้นเราขึ้นเร็ว ตอนลงเรานี้ดึงลงช้าจัง อันนี้ก็ไปหาคำตอบกันเองตามความเชื่อได้เลย

แต่ขึ้น 60 ลง 40 นี่ ตัวเลขมันชัดเจนครับ ปีนี้ค่าการตลาดสูงน่าเกลียดมาก ค่าการกลั่นก็สูงจนกำไรบานเบอะ ซึ่งปีนี้ดูโกยจนเกินไปจริงๆ
แต่ปีก่อนๆผมว่าก็ปกตินะครับ ตัวเลขตรงนี้มีเก็บสถิติทุกวันเลย อย่าไปมองและตัดสินโดยข้อมูลยังไม่ครบถ้วนเลยครับ

จริงๆ ค่าการตลาดและค่าการกลั่น ต่อลิตรมันควรเป็น FIX COST ไปเลย
รวมถึงกองทุนน่้ำมันอีก
สูตรบ้านเรา มันทั่งมั่ว และไม่มีเหตุผล
ตามใจ รัฐ ล้วนๆ เลย



alpha14

ขึ้น 60 ลง 50 ตามเคย

ตอนน้ำมันขึ้น ขึ้นไม่ถึง 2 เหรียญ  ตอนน้ำมันลง ลง 3 เหรียญ 

สูตรไหน คิดไง ประชาชนก็ได้เปรียบ (ตรงไหน)

ผมว่าเราเข้าใจผิดกันมานานมากที่ว่าขึ้น 60 สตางค์ แต่ทำไมลงที 40 สตางค์ตลอด
ตรงนี้มันไม่ใช่ประเด็นเลยครับ ประเด็นคือ เราต้องไปดูค่าการตลาดและค่ากากลั่นที่บริษัทขายปลีกและโรงกลั่นน้ำมันได้รับ
หากเขาขึ้น 60 สตางค์ และลง 40 ด้วยการขยับของราคาน้ำมันสุกที่สิงกโปรที่เท่าๆเดิม ตัวเลขมันจะไปบวมตรงส่วนของค่าการตลาดและค่าการกลั่นในท้ายที่สุดครับ ซึ่งค่าตัวเลขตรงนี้มีระบุในลิ้งด้านล่างนี้
http://www.eppo.go.th/index.php/th/petroleum/price/structure-oil-price?orders[publishUp]=publishUp&issearch=1

ส่วนตอนตลาดโลกขึ้นเราขึ้นเร็ว ตอนลงเรานี้ดึงลงช้าจัง อันนี้ก็ไปหาคำตอบกันเองตามความเชื่อได้เลย

แต่ขึ้น 60 ลง 40 นี่ ตัวเลขมันชัดเจนครับ ปีนี้ค่าการตลาดสูงน่าเกลียดมาก ค่าการกลั่นก็สูงจนกำไรบานเบอะ ซึ่งปีนี้ดูโกยจนเกินไปจริงๆ
แต่ปีก่อนๆผมว่าก็ปกตินะครับ ตัวเลขตรงนี้มีเก็บสถิติทุกวันเลย อย่าไปมองและตัดสินโดยข้อมูลยังไม่ครบถ้วนเลยครับ

จริงๆ ค่าการตลาดและค่าการกลั่น ต่อลิตรมันควรเป็น FIX COST ไปเลย
รวมถึงกองทุนน่้ำมันอีก
สูตรบ้านเรา มันทั่งมั่ว และไม่มีเหตุผล
ตามใจ รัฐ ล้วนๆ เลย
. จริงครับ ตายตัวไปเลย จะทำให้คิดยากๆวุ่นวายปั่นหัวปชชไปทำไมก็ไม่รู้



I-PULSE

ขึ้น 60 ลง 50 ตามเคย

ตอนน้ำมันขึ้น ขึ้นไม่ถึง 2 เหรียญ  ตอนน้ำมันลง ลง 3 เหรียญ 

สูตรไหน คิดไง ประชาชนก็ได้เปรียบ (ตรงไหน)

ผมว่าเราเข้าใจผิดกันมานานมากที่ว่าขึ้น 60 สตางค์ แต่ทำไมลงที 40 สตางค์ตลอด
ตรงนี้มันไม่ใช่ประเด็นเลยครับ ประเด็นคือ เราต้องไปดูค่าการตลาดและค่ากากลั่นที่บริษัทขายปลีกและโรงกลั่นน้ำมันได้รับ
หากเขาขึ้น 60 สตางค์ และลง 40 ด้วยการขยับของราคาน้ำมันสุกที่สิงกโปรที่เท่าๆเดิม ตัวเลขมันจะไปบวมตรงส่วนของค่าการตลาดและค่าการกลั่นในท้ายที่สุดครับ ซึ่งค่าตัวเลขตรงนี้มีระบุในลิ้งด้านล่างนี้
http://www.eppo.go.th/index.php/th/petroleum/price/structure-oil-price?orders[publishUp]=publishUp&issearch=1

ส่วนตอนตลาดโลกขึ้นเราขึ้นเร็ว ตอนลงเรานี้ดึงลงช้าจัง อันนี้ก็ไปหาคำตอบกันเองตามความเชื่อได้เลย

แต่ขึ้น 60 ลง 40 นี่ ตัวเลขมันชัดเจนครับ ปีนี้ค่าการตลาดสูงน่าเกลียดมาก ค่าการกลั่นก็สูงจนกำไรบานเบอะ ซึ่งปีนี้ดูโกยจนเกินไปจริงๆ
แต่ปีก่อนๆผมว่าก็ปกตินะครับ ตัวเลขตรงนี้มีเก็บสถิติทุกวันเลย อย่าไปมองและตัดสินโดยข้อมูลยังไม่ครบถ้วนเลยครับ

จริงๆ ค่าการตลาดและค่าการกลั่น ต่อลิตรมันควรเป็น FIX COST ไปเลย
รวมถึงกองทุนน่้ำมันอีก
สูตรบ้านเรา มันทั่งมั่ว และไม่มีเหตุผล
ตามใจ รัฐ ล้วนๆ เลย

เพราะมีอยู่หลายกลุ่มเข้ามาดึงตรงนี้ไปใส่ตรงนั้นทำให้ดูมั่วๆจนเรางงเพื่อถ่ายผลประโยชน์เข้ากลุ่มตัวเองครับ
แถมยังมีเอกชนที่เป็นตาอยู่ที่กินเนียนมาตลอดโดยไม่เป็นจำเลยของสังคมด้วย
สรุปเข้าใจตรงกันนะครับ ว่าขึ้น 80 ลง 60 หรือ ลง 40 ไม่ใช่ประเด็นเลยเพราะตัวเลขนั้นชัดเจนถ้าเขาจะกินตรงนี้ก็ตอดเล็กๆน้อยๆได้ช่วงสั้นๆเท่านั้นซึ่งเป็นปกติของเอกชนครับเพราะราคาน้ำมันมีความผันผวนเขาก็ต้องเซฟตัวเองตรงนี้นิดหน่อยเพื่อให้แน่ใจว่าเขาจะไม่เข้าเนื้อครับ